ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
23-04-2024, 18:47
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  เห็นเรื่องนี้ในไทยรัฐแล้วขำก๊ากให้กับความมั่วเลย 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: 1 ... 8 9 10 11 12 13 14 [15] 16
เห็นเรื่องนี้ในไทยรัฐแล้วขำก๊ากให้กับความมั่วเลย  (อ่าน 69465 ครั้ง)
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #700 เมื่อ: 21-08-2007, 12:51 »


 

ข่าวสำคัญขอยกมาหน้าใหมครับ..


ข่าวใหม่ล่าสุดดีกว่าครับ

นักวิทยาศาสตร์สาย "wet artificial life" อ้างว่าจะสามารถสร้าง Cell สังเคราะห์ได้ภายในสามถึงสิบปีจากสารเคมีที่ประกอบกันขึ้นมาเป็น DNA

http://news.yahoo.com/s/ap/20070820/ap_on_sc/artificial_life

One of our readers thought that Szostak’s entry deserved to be called “Stupid Evolution Quote of the Century.”  But then, there are already too many entries in that category.  Tryouts are opening for the millennium class.
    Reality check: they are not creating life from scratch; they are copying existing technology.  To really make life from scratch, they would have to start by inventing the universe.  Copying the packaging, coding, and metabolism of existing life is a huge, huge head start.  These guys think they are dumber than Darwinism, and they are right.  Are they the ones you would trust to tell us that synthetic biology will be safe?

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-08-2007, 12:52 โดย ********Q******** » บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #701 เมื่อ: 22-08-2007, 03:20 »



อย่างที่เรียนว่า ในแง่วิทยาศาสตร์ ก็ไม่ต่างอะไรจากวงการเมืองและศาสนา หรือแม้แต่ธุรกิจ

มันแปดเปื้อนแนวคิดจากที่คนเป็นพาหะครับ การติดตามข่าวสารก็ถือว่าจำเป็น

เพื่อให้สิ่งที่เราเชื่อนั้นถูกต้อง ประกอบด้วยวิสัยทัศน์ที่ถูกต้องได้ด้วย


ขอบคุณครับสำหรับข่าวคราว

ยังไม่ได้คำตอบเกี่ยวกับการเอาปลาน้ำจืดผสมปลาทะเลเลยครับ..??


บันทึกการเข้า

Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #702 เมื่อ: 22-08-2007, 06:38 »


อย่างที่เรียนว่า ในแง่วิทยาศาสตร์ ก็ไม่ต่างอะไรจากวงการเมืองและศาสนา หรือแม้แต่ธุรกิจ

มันแปดเปื้อนแนวคิดจากที่คนเป็นพาหะครับ การติดตามข่าวสารก็ถือว่าจำเป็น

เพื่อให้สิ่งที่เราเชื่อนั้นถูกต้อง ประกอบด้วยวิสัยทัศน์ที่ถูกต้องได้ด้วย


ขอบคุณครับสำหรับข่าวคราว

ยังไม่ได้คำตอบเกี่ยวกับการเอาปลาน้ำจืดผสมปลาทะเลเลยครับ..??



แล้วตอบเรื่องการเกิดสปีซีส์ได้รึยังล่ะครับ มันเกี่ยวกับเรื่องการผสมปลาน้ำจืดผสมปลาทะเลด้วยนะ อย่างปลาแซลมอนนี่จะเรียกว่าปลาน้ำจืดหรือปลาทะเลดีล่ะ แล้วตกลงหาได้ยังล่ะครับข้อมูลรายงานการวิจัยที่เป็นแหล่งปฐมภูมิและอยู่ในฐานข้อมูล ISI
บันทึกการเข้า
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #703 เมื่อ: 22-08-2007, 07:24 »

แล้วตอบเรื่องการเกิดสปีซีส์ได้รึยังล่ะครับ มันเกี่ยวกับเรื่องการผสมปลาน้ำจืดผสมปลาทะเลด้วยนะ อย่างปลาแซลมอนนี่จะเรียกว่าปลาน้ำจืดหรือปลาทะเลดีล่ะ แล้วตกลงหาได้ยังล่ะครับข้อมูลรายงานการวิจัยที่เป็นแหล่งปฐมภูมิและอยู่ในฐานข้อมูล ISI


มีพันธุ์ที่เลี้ยงในบ่อน้ำจืดได้เปล่าครับ..

ที่เอามาแปะก็อ่านดูก่อนครับ พวกเชื่อตามๆกันมายังทำใจไม่ได้มีเยอะครับ

ส่วนพวกประกาศเป็นข่าว นี่ก็หาทางสร้างข่าว ลำบากเพราะชาวบ้านเชื่อง่ายๆมองข้ามจุดสำคัญไปหมด

                                                                                                                                     
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #704 เมื่อ: 22-08-2007, 07:33 »


องค์กรระดับโลก เช่นหน่วยงานทำนาย ภัยพิบัติต่างๆตรงนี้น่าจับตามอง

ตรงนั้นต้องอาศํยคนรู้จริง จึงจะทำงานได้ผล งานวิจัยในฐานข้อมูลก็เป็นเพียงส่วนหนึ่ง

ขึ้นอยู่กับประโยชน์ที่สังคมนำไปใช้ได้ ที่โต้แย้งเรื่องโลกล้านปี ค่อนข้างใหม่อย่างที่เห็น

อีกสักพักก็จะมีงานของนักศึกษาและอาจารย์มหาวิทยาลัยออกมาเอง

ไซเบอร์มาแรงกว่าครับ ฐานใหญ่กว่า เว็บไซท์ที่เชื่อถือได้ ก็ดูจากข้อมูลและอิทธิพลต่อความถูกต้องในการทำนายผล
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-08-2007, 07:34 โดย ********Q******** » บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #705 เมื่อ: 22-08-2007, 07:41 »



ปลาแซลมอน เลี้ยงบ้านเราได้หรือเปล่า สภาพแวดล้อมต้องเป็นอย่างไร?



บันทึกการเข้า

Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #706 เมื่อ: 22-08-2007, 20:25 »

ดูท่าจะไม่รู้เรื่องฐานข้อมูล ISI เลยนะเนี่ย ซึ่งน่าแปลกเพราะถ้าทางสายวิทยาศาสตร์ในระดับตั้งแต่ปริญญาตรีขึ้นไปน่าจะรู้เรื่องนี้
บันทึกการเข้า
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #707 เมื่อ: 22-08-2007, 20:51 »

ถ้าเว็บไซต์อย่างของ IUCN หรือ sciencedirect นั้นพออนุโลมให้ใช้อ้างอิงได้ครับ แต่ถ้าเอาจริง ๆ เขาเอาข้อมูลที่ได้รับการตีพิมพ์และอยู่ในฐานข้อมูล ISI รู้หรือไม่ว่าปัจจุบันหลายมหาวิทยาลัยพยายามยกระดับมาตรฐานตัวเอง นักศึกษาระดับปริญญาโทหรือเอกจะจบได้ต้องมีผลงานตีพิมพ์ในวารสารระดับนานาชาติ
บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #708 เมื่อ: 22-08-2007, 20:58 »

ดูท่าจะไม่รู้เรื่องฐานข้อมูล ISI เลยนะเนี่ย ซึ่งน่าแปลกเพราะถ้าทางสายวิทยาศาสตร์ในระดับตั้งแต่ปริญญาตรีขึ้นไปน่าจะรู้เรื่องนี้

คุณ Q กำลังพยายามบอกว่า ไซเบอร์มาแรงกว่า ฐานข้อมูลใหญ่กว่า น่ะครับ 

อยากคุยต่อนะครับ แต่รู้สึกอึดอัดใจที่มาคุยเรื่องนี้ในหน้าการเมือง เราย้ายไปคุยต่อที่ชายคาพักใจดีไหม?
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #709 เมื่อ: 22-08-2007, 21:10 »

คุณ Q กำลังพยายามบอกว่า ไซเบอร์มาแรงกว่า ฐานข้อมูลใหญ่กว่า น่ะครับ 

อยากคุยต่อนะครับ แต่รู้สึกอึดอัดใจที่มาคุยเรื่องนี้ในหน้าการเมือง เราย้ายไปคุยต่อที่ชายคาพักใจดีไหม?
ก็น่าสนดีนะครับ ย้ายห้องก็ดี แต่เรื่องไซเบอร์มาแรงกว่า ฐานข้อมูลใหญ่กว่าก็น่าแปลกตรงที่พวกวิทยานิพนธ์ไม่เห็นมันจะใช้แหล่งอ้างอิงพวกนี้เท่าไหร่ แถมยังเป็นแค่ให้อนุโลมอีก และยิ่งพวกอาจารย์นะยิ่งแข่งกันเอาผลงานลงตีพิมพ์วารสารนานาชาติที่อยู่ในฐานข้อมูล ISI เพื่อเก็บแต้มในการใช้ขอตำแหน่ง 
บันทึกการเข้า
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #710 เมื่อ: 23-08-2007, 02:05 »

ก็น่าสนดีนะครับ ย้ายห้องก็ดี แต่เรื่องไซเบอร์มาแรงกว่า ฐานข้อมูลใหญ่กว่าก็น่าแปลกตรงที่พวกวิทยานิพนธ์ไม่เห็นมันจะใช้แหล่งอ้างอิงพวกนี้เท่าไหร่ แถมยังเป็นแค่ให้อนุโลมอีก และยิ่งพวกอาจารย์นะยิ่งแข่งกันเอาผลงานลงตีพิมพ์วารสารนานาชาติที่อยู่ในฐานข้อมูล ISI เพื่อเก็บแต้มในการใช้ขอตำแหน่ง 

พวกที่ผมเอาผลงานเขามาแปะนะครับ เขาผ่านขั้นตอนนั้นไปนานแล้วครับ

ลองอ่านโพรไฟล์เขาดูสิครับ..
บันทึกการเข้า

Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #711 เมื่อ: 23-08-2007, 06:57 »

พวกที่ผมเอาผลงานเขามาแปะนะครับ เขาผ่านขั้นตอนนั้นไปนานแล้วครับ

ลองอ่านโพรไฟล์เขาดูสิครับ..

ผลงานอันไหนบ้างล่ะครับ ถ้าผ่านขั้นตอนนั้นจริงแสดงว่าต้องมีรายงานวิจัยที่เป็นข้อมูลปฐมภูมิและอยู่ในฐานข้อมูล ISI ฉะนั้นคุณควรยกตัวอย่างได้นะครับ
บันทึกการเข้า
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #712 เมื่อ: 23-08-2007, 07:06 »

Does the DNA similarity between chimps and humans prove a common ancestry?

http://www.christiananswers.net/q-aig/aig-c018.html

Don Batten, Ph.D. ทำงานทางด้านพืชแต่เขียนวิจารณ์เรื่องสัตว์ ตรงสายงานดีมากครับ
บันทึกการเข้า
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #713 เมื่อ: 23-08-2007, 07:15 »

Answers magazine ไม่ได้อยู่ในฐานข้อมูล ISI นะครับ แต่ยกชอบยกมาบ่อยเหลือเกิน
บันทึกการเข้า
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #714 เมื่อ: 23-08-2007, 13:53 »

Does the DNA similarity between chimps and humans prove a common ancestry?

http://www.christiananswers.net/q-aig/aig-c018.html

Don Batten, Ph.D. ทำงานทางด้านพืชแต่เขียนวิจารณ์เรื่องสัตว์ ตรงสายงานดีมากครับ

แสดงว่าเขาไม่เชื่อจริงๆนะสิ

แล้วลองหาผลงานของคนจบชิมแพนซีมาดูหน่อย เผื่อจะมีคนสนใจเรียน



Answers magazine ไม่ได้อยู่ในฐานข้อมูล ISI นะครับ แต่ยกชอบยกมาบ่อยเหลือเกิน

อันนี้ตอบไปแล้ว มันไม่ต่างอะไรกับสื่อที่มีแต่ผลงานเก่าๆ ส่วนของใหม่ไปต่อไม่ได้ ได้แต่ออกข่าวโหมโรง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-08-2007, 14:01 โดย ********Q******** » บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #715 เมื่อ: 23-08-2007, 14:13 »



Crows Use Tools on Tools   08/21/2007     
Crows can use one tool on another to get food.  A report in Science Daily http://www.sciencedaily.com/releases/2007/08/070816121111.htm says they appear to use analogical reasoning, not just trial and error, to figure out how to manipulate objects.  They used a short stick to get a longer stick out of a toolbox in order to reach a snack too far for the short tool.  In this, “The birds’ tool-use skills rival those seen among great apes, according to the researchers” at University of Auckland.
    Analogical reasoning was thought to be at the core of human innovation.  One said, “It was surprising to find that these ‘bird-brained’ creatures performed at the same levels as the best performances by great apes on such a difficult problem.”

Let’s be good empirical Darwinists and take the evidence where it leads.  Chimps evolved into birds, which evolved into humans.  Mustn’t let species bias cloud our reasoning, now.  Darwinists have made a big deal over intelligence as evidence of our evolutionary kinship to apes.  Now, having to eat crow at this finding, they must be feeling in the mood for some Old Crow at the Crow Bar.
Next headline on:  Birds • Amazing Facts
บันทึกการเข้า

Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #716 เมื่อ: 23-08-2007, 14:40 »

สรุปว่าไม่สามารถหางานวิจัยที่เป็นปฐมภูมิและอยู่ในฐานข้อมูล ISI ได้สิเนี่ย แถมยังไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับการอ้างอิงทางวิชาการอีก
บันทึกการเข้า
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #717 เมื่อ: 23-08-2007, 15:00 »

สรุปว่าไม่สามารถหางานวิจัยที่เป็นปฐมภูมิและอยู่ในฐานข้อมูล ISI ได้สิเนี่ย แถมยังไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับการอ้างอิงทางวิชาการอีก

อ้างไปเถอะ ถ้ามันค้านกับความจริงก็ไร้ประโยชน์ เสียเวลาเปล่าๆ
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #718 เมื่อ: 23-08-2007, 15:10 »




A "Living Fossil"  http://www.icr.org/article/2707/

So where did these few, isolated Wollemi pines come from? The fossil record contains no Wollemi pines. The closest match yet found is between Wollemi pollen and the fossilized pollen Dilwynites, the last known occurrence of which is in sediment layers "dated" at two million years old. From then on, the record is silent. It was thus assumed the genus to which this pollen belonged had become extinct. However, the discovery of the living, apparently related Wollemi pines makes them a living fossil.






Figure 2. A living Wollemi pine (Wollemia nobilis).

The foliage of the Wollemi pine is virtually identical to that of one of its supposed fossil ancestors, the late Jurassic (150 million year old) Agathis jurassica (figure 3). This obvious relationship explains the designation of the Wollemi pine as a "tree from the Dinosaur Age," a "living fossil" that has been "missing for 150 million years." To evolutionary botanists the origin of the Wollemi pine remains an evolutionary enigma. How could this tree go missing for 150 million years when its relative sits fossilized less than 100 kilometers (62 miles) away from the living survivors?

บันทึกการเข้า

Priateľ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 395



« ตอบ #719 เมื่อ: 23-08-2007, 15:34 »

คุณ Q กำลังพยายามบอกว่า ไซเบอร์มาแรงกว่า ฐานข้อมูลใหญ่กว่า น่ะครับ 

อยากคุยต่อนะครับ แต่รู้สึกอึดอัดใจที่มาคุยเรื่องนี้ในหน้าการเมือง เราย้ายไปคุยต่อที่ชายคาพักใจดีไหม?

คงไม่เป็นไรมั้งครับ เพราะอีกห้าหกหน้าก็คงน่าจะสรุปกระทู้ได้แล้วครับว่าไทยรัฐวิวัฒนาการจากลิง
บันทึกการเข้า

If you ever want something badly, let it go. If it comes back to you, then it's yours forever. If it doesn't, then it was never yours to begin with.

ก๊อปมาจากหนัง Indecent proposal
Priateľ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 395



« ตอบ #720 เมื่อ: 23-08-2007, 19:50 »



สงสัยไม่มีใครขำ แหะ แหะ ไม่มีใครโพสต์ต่อหรือคับ ยังอ่านอยู่นะคับ
บันทึกการเข้า

If you ever want something badly, let it go. If it comes back to you, then it's yours forever. If it doesn't, then it was never yours to begin with.

ก๊อปมาจากหนัง Indecent proposal
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #721 เมื่อ: 24-08-2007, 09:15 »

 




สงสัยไม่มีใครขำ แหะ แหะ ไม่มีใครโพสต์ต่อหรือคับ ยังอ่านอยู่นะคับ

นักข่าวไทยรัฐควรควรศึกษาให้มากกว่านี้ และระมัดระวังการเขียนข่าวให้ดี

รายงานแต่ข้อเท็จจริง

คอลัมนิสต์ ก็ต้องมีความคิดการให้เหตุผลที่สมเหตุสมผล

การตั้งประเด็น ต้องชัดเจนว่าต้องการจะสื่ออะไร โดยมีเหตุผลประกอบอย่างไร?

ไม่อย่างนั้นก็เหมือนการมอมเมาประชาชนด้วยแนวความคิดบิดเบือนที่ไม่สมเหตุสมผล เป็นเพียง อีกาคาบข่าวมั่วๆ เท่านั้นเอง
บันทึกการเข้า

eAT
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,066



« ตอบ #722 เมื่อ: 25-08-2007, 20:57 »

An Index to Creationist Claims
edited by Mark Isaak

http://www.talkorigins.org/indexcc/

http://www.talkorigins.org/indexcc/list.html#CC400
CD0: Geochronology
(see also CD241: Varves can form quickly.)
CD000: Radiometric dating makes false assumptions
CD001. Radiometric dating falsely assumes rocks are closed systems.
CD002. Radiometric dating falsely assumes initial conditions are known.
CD004. Cosmic rays and free neutrinos affect U and Ar decay rates.
(see also CF200: Radiometric dating)
CD010. Radiometric dating gives unreliable results.
CD011. Carbon dating gives inaccurate results.
CD011.1. Variable C-14/C-12 ratio invalidates C-14 dating.
CD011.2. Vollosovitch and Dima mammoths yielded inconsistent C-14 dates.
CD011.3. Living snails were C-14 dated at 2,300 and 27,000 years old.
CD011.4. A freshly killed seal was C-14 dated at 1,300 years old.
CD011.5. Triassic wood from Australia was dated at 33,000 years old.
CD011.6. Ancient coal and oil are C-14 dated as only 50,000 years old.
CD012. U-Th dating gives inaccurate results for modern volcanic rocks.
CD013. K-Ar dating gives inaccurate results for modern volcanic rocks.
CD013.1. K-Ar dates of 1986 dacite from Mount St. Helens are very old.
CD014. Isochron dating gives unreliable results.
CD014.1. Isochron date of young Grand Canyon lava is excessively old.
CD015. Zircons retain too much helium for an old earth.
CD016. The U-Th-Pb method, properly corrected for neutron capture, gives recent dates.
CD020. Consistency of radiometric dating comes from selective reporting.
CD031. KBS Tuff shows the flaws of radiometric dating.

เจอ ลิงค์ ที่เขาแก้เรื่องการหาอายุของ C14 และนะครับ จะพยายามอ่านทำความเข้าใจ
บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #723 เมื่อ: 26-08-2007, 06:31 »

เอาข่าวล่าสุดมาฝากบ้างแล้วกันนะครับ เขาเพิ่งเจอเพชรในผลึก zircon ที่ Australia
วัดอายุได้ถึง 4 พันล้านปี เป็นเพชรเก่าที่สุดที่เคยเจอในโลกครับ

http://www.msnbc.msn.com/id/20394852/

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Diamond find could shed light on early Earth
Gems found in Western Australia are more than 4 billion years old



By Jeanna Bryner

Updated: 3:07 p.m. ET Aug. 22, 2007
Diamonds are indeed forever, or at least nearly as old as the Earth, a new study shows.

Scientists have unearthed diamonds more than 4 billion years old and trapped inside crystals of zircon in the Jack Hills region in Western Australia. Nearly as old as Earth itself and considered the oldest terrestrial diamonds ever discovered, the gems could give insights into the early evolution of our planet's crust.

"Jack Hills is the only place on Earth that can give us this kind of information about the formation of the Earth," said study team member Alexander Nemchin, a geochemist at Curtin University of Technology, Western Australia. "We're dealing with the oldest material on the planet."
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #724 เมื่อ: 26-08-2007, 06:49 »

อันนี้ข่าวแบบละเอียดๆ หน่อยนะครับ เพชรที่พบในครั้งนี้อยู่ในผลึก Zircon ที่พบกระจายอยู่ในหินอายุ 3 พันล้านปี
และอาจบ่งชี้ว่าเปลือกโลกเย็นตัวเร็วกว่าที่เคยคิดกันไว้ก็เป็นได้

http://www.sciam.com/article.cfm?articleId=8F37399C-E7F2-99DF-30361B86A598909B&chanId=sa013&modsrc=most_popular
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Nothing Says "Early Earth Was Cool" Like World's Oldest Diamonds : Scientific American
The zircon in imitation diamonds proves the best way to preserve more than four-billion-year-old versions of the real thing
By David Biello

August 22, 2007

Earth is roughly 4.5 billion years old, but her early eons were tempestuous. Not even rock survives from the first 500 million years of her life—an eon known as the Hadean—because geologists speculate the planet's surface boiled and bubbled with molten lava under a steady bombardment of comets and meteorites. But tiny diamonds discovered in antediluvian zircon crystals sprinkled in three-billion-year old rocks from Australia hint that the planet's surface fire might have ceased much earlier than previously believed.

Mineralogy graduate student Martina Menneken of the Westfälische Wilhelms–University of Münster in Germany and her colleagues probed 1,000 of these ancient zircon crystals for inclusions—tiny outcroppings of other minerals hidden in the unusually stable lattice. They discovered diamonds of different shapes and sizes in 45 of the old crystals by using a laser technique called Raman spectroscopy.
 

"The biggest [diamond] we found was about 60 microns [(roughly 0.002 inches, or 35 times smaller than the head of a pin)] but some only were about seven microns," Menneken says. But their sizes or shapes notwithstanding, all of the diamonds are unique, she adds, because they come from zircon grains that can be dated (via the decay of uranium impurities into lead) to as long ago as 4.25 billion years, a scant 250 million years after Earth formed.

Zircon crystals can form in a number of ways—on the moon, for example, the mineral crystallizes in the wake of a meteorite impact. But some geologists suspect, based on minerals and oxygen isotope levels in the current grains, that they crystallized in an ancient crust that formed from cooling granite magmas. Yet diamonds only form when high pressure squeezes graphite into exquisite clarity—more than 45,000 bars of pressure only found at depths of 100 kilometers (62 miles) or more below the surface.


---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Image: THORSTEN GEISLER AND ALEXANDER A. NEMCHIN   
MICROSCOPIC BLING:  The largest of the world's oldest diamonds, bigger than the few micrometers version
pictured here nestled inside its zircon case, is still 35 times smaller than the head of a pin. 
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

Options are shock, bolide [meteorite] impact or burial" for how the diamonds formed, says geologist Ian Williams of The Australian National University in Canberra. "The key question is whether the zircon grew around the diamonds or the diamonds grew in the zircons."

Because zircon crystals can survive even the dissolution of their host rock by weathering, it is possible that the grains formed in the surface rock, which then disappeared below newer surface rock before resurfacing as their latter hosts' outer layers wore away. The researchers are searching for other signs of the history of these grains, such as coesite, a dense form of silicon dioxide created under similar pressure. "We might have had coesite that is totally transformed to quartz now," which is relatively common in the grains, Menneken says. Because coesite is "not stable at surface conditions."

"According to our findings, probably the early Earth might have been a quiet, cool, habitable place," Menneken says. But more research is needed to say for sure, she notes, such as studies of the carbon isotopes and nitrogen content of the diamonds to determine how long the little gems experienced extreme pressures and temperatures.

"A likely explanation is that the diamonds were formed from graphite inclusions in the zircons during an event when the zircons were buried. If that was so, then the burial must have postdated the youngest zircon in which a diamond was found, about 3.1 [billion years ago]," Williams says. But "if the zircons grew around diamonds as early as 4.2 billion years ago, this implies that there was a very thick crust on the Earth by that time." And that means the early Earth may have cooled sufficiently for a host of other adornments, including life.

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-08-2007, 06:55 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #725 เมื่อ: 26-08-2007, 07:29 »




เรื่องของเวลา เป็นสิ่งที่ต้องมีเหตุการณ์จริงต่อเนื่อง หรืออย่างน้อยสองเหตุการณ์เปรียบเทียบ

น้ำเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด..ทุกรุ่นที่เรารู้จักในโลกด้วยครับ


ส่วนอายุโลก เป็นเรื่องที่จะทราบได้อย่างไร ?ในเมื่อโลกกิดมาอย่างไรก็ยังไม่มีใครยืนยันพิสูจน์ได้โดยวิทยาศาสตร์ ก็ได้แต่จินตนาการ

หรือว่าธาตุต่างๆจะเกิดจากธาตุตั้งต้นเพียงตัวเดียว..?คือไฮโดรเจน..?
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #726 เมื่อ: 27-08-2007, 16:00 »

 


ก่อนจะมีธาตุ คงจะมีเพียงอนุภาคไฟฟ้าขนาดเล็ก

และก่อนจะมีอนุภาคไฟฟ้าขนาดเล็กมากๆ คงมีแต่เพียงความว่างเปล่า..


ส่วนในความว่างเปล่ามีอะไร? ถ้าอยากจะคิดเอง ก็คงแล้วแต่จะจินตนาการครับ..
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-08-2007, 16:42 โดย ********Q******** » บันทึกการเข้า

Priateľ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 395



« ตอบ #727 เมื่อ: 27-08-2007, 16:30 »

สมัยผมยังเป็นวัยรุ่น จำได้ว่ามีการพูดถึงสิ่งที่ถือเป็นอนุภาคมูลฐานที่เรียกว่าคว้ากซ์ ซึ่งก็คาดว่าเป็นองค์ประกอบของธาตุระดับเริ่มต้นอย่างไฮโดเจน ผ่านมาหลายปีไม่รู้ว่ามีเป็นอย่างไร จำได้ว่าล่าสุดเคยคุยกับเพื่อนเมื่อหลายปีก่อน มันบอกว่ามีสถานะที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าศูนย์องศาเคลวิน(จากการคำนวน) ผมเลยเลิกคุยไป

สมัยผมที่ยังอ่านวารสารอย่าง "มิติที่ 4" ก็มีความเชื่อว่า โลกเป็นผลิตผลของฟิวชั่นของไฮโดรเจนร้อนๆอย่างดวงอาทิตย์ ดวงอาทิตย์ก็เป็นผลิตผลจากจากซูเปอร์โนวา บางทีก็ถือบิ๊กแบงโน่น
บันทึกการเข้า

If you ever want something badly, let it go. If it comes back to you, then it's yours forever. If it doesn't, then it was never yours to begin with.

ก๊อปมาจากหนัง Indecent proposal
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #728 เมื่อ: 27-08-2007, 16:45 »


สมัยผมยังเป็นวัยรุ่น จำได้ว่ามีการพูดถึงสิ่งที่ถือเป็นอนุภาคมูลฐานที่เรียกว่าคว้ากซ์ ซึ่งก็คาดว่าเป็นองค์ประกอบของธาตุระดับเริ่มต้นอย่างไฮโดเจน ผ่านมาหลายปีไม่รู้ว่ามีเป็นอย่างไร จำได้ว่าล่าสุดเคยคุยกับเพื่อนเมื่อหลายปีก่อน มันบอกว่ามีสถานะที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าศูนย์องศาเคลวิน(จากการคำนวน) ผมเลยเลิกคุยไป

สมัยผมที่ยังอ่านวารสารอย่าง "มิติที่ 4" ก็มีความเชื่อว่า โลกเป็นผลิตผลของฟิวชั่นของไฮโดรเจนร้อนๆอย่างดวงอาทิตย์ ดวงอาทิตย์ก็เป็นผลิตผลจากจากซูเปอร์โนวา บางทีก็ถือบิ๊กแบงโน่น

ในที่สุดมันคงถึงที่สุดของความคิดกันได้ครับ..แต่ก็ถือว่ามีความคืบหน้าในรายละเอียด

อย่างเวลาก็คิดกันเป็นรูปร่าง รูปทรงต่าง อืมม ลับสมองได้เหมือนกัน
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #729 เมื่อ: 27-08-2007, 17:22 »



ถ้าหากทุกอย่างเกิดโดยบังเอิญ ไม่มีกฎควบคุม

การรักษาไว้ และ พัฒนาเป็นกฎต่อๆไป จะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

อย่างน้อยต้องมีกฎเกิดขึ้นหนึ่งข้อ ซึ่งควบคุมสิ่งต่างๆเอาไว้ในกฎนั้น..
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #730 เมื่อ: 27-08-2007, 17:32 »



ถ้าหากทุกอย่างเกิดโดยบังเอิญ ไม่มีกฎควบคุม

การรักษาไว้ และ พัฒนาเป็นกฎต่อๆไป จะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

อย่างน้อยต้องมีกฎเกิดขึ้นหนึ่งข้อ ซึ่งควบคุมสิ่งต่างๆเอาไว้ในกฎนั้น..



กฏข้อแรกต้องมีอำนาจเหนือกาลเวลา จึงจะควบคุมเวลาและความว่างเปล่าไว้ได้

บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #731 เมื่อ: 27-08-2007, 17:39 »


กฏข้อแรกต้องมีอำนาจเหนือกาลเวลา จึงจะควบคุมเวลาและความว่างเปล่าไว้ได้




กฎดั้งเดิมมีอำนาจเหนือกาลเวลาและมนุษย์

ที่มนุษย์สับสนเพราะไม่เข้าใจกฏและไม่ยอมรับกฏที่ต้องยอมรับ


?? 
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #732 เมื่อ: 27-08-2007, 17:59 »



ความบังเอิญ อยู่ภายใต้กฏของเวลา และเป็นเพียงส่วนหนึ่ง

น่าจะเรียก กฏแห่งความไม่ได้ตั้งใจ มากกว่าครับ เพราะมันต้องมีสาเหตุหรือเหตุการณ์ก่อนหน้า

ในเมื่อมันอยู่ภายใต้กฏของกาลเวลา



ใครสร้างกฏแห่งความบังเอิญ และมันมีอยู่จริงหรือไม่??
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #733 เมื่อ: 27-08-2007, 18:09 »



ถ้าหากเข้าใจความจริงต่างระดับ เราก็จะเข้าใจความบังเอิญได้..


สรุปแล้วพระเจ้าไม่ได้ทอดลูกเต๋าแน่นอน..คนพูดต่างหากที่ทอดลูกเต๋า


พักก่อนครับ..

                                     
บันทึกการเข้า

Priateľ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 395



« ตอบ #734 เมื่อ: 27-08-2007, 18:16 »

เวลาใครสักคนถูกล็อตเตอรี่ ไทยรัฐก็จะลงว่า "โอว เขาคนนั้นช่างบังเอิญโชคดีเสียจริง"

จริงๆแล้ว ไทยรัฐมั่ว เพราะไทยรัฐไม่ได้ลงว่า "ใครสักคนก็ต้องถูกล็อตเตอรี่อยู่แล้ว เพราะมีใครอีกหลายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆคนไม่ได้ถูกล็อตเตอรี่"

ถ้าหากไม่มีใครถูกล็อตเตอรี่นี่สิแปลก

บางคนอาจถูกเลขท้ายสองตัว(คนถูกเยอะ) เลขท้ายสามตัว(คนถูกเยอะ) รางวัลที่ห้า สี่ สาม ซึ่งมีคนถูกน้อยลงตามลำดับ

คณิตศาสตร์ความน่าจะเป็นมันใช้ไม่ได้กับประชากรกลุ่มน้อย

เผอิญจักรวาลมันเป็นประชากรกลุ่มใหญ่

สิ่งมีชีวิตตระกูลไฮโดรคาร์บอนมันเป็นไปได้อยู่แล้วนะผมว่า

นั่นคือ  ไทยรัฐพยายามขายข่าวเรื่องล็อตเตอรี่นั่นแหละครับ
บันทึกการเข้า

If you ever want something badly, let it go. If it comes back to you, then it's yours forever. If it doesn't, then it was never yours to begin with.

ก๊อปมาจากหนัง Indecent proposal
Priateľ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 395



« ตอบ #735 เมื่อ: 27-08-2007, 18:21 »

โอว หากคุณพี่จะถกกันเรื่องพระเจ้านี่ ผมเผ่นนะครับ

ผมไม่ลบหลู่ความเชื่อศาสนาใดน่ะครับ
บันทึกการเข้า

If you ever want something badly, let it go. If it comes back to you, then it's yours forever. If it doesn't, then it was never yours to begin with.

ก๊อปมาจากหนัง Indecent proposal
อธิฏฐาน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,912


รักษาประเทศชาติ เป็นหน้าที่ของชาวไทยทุกคน


« ตอบ #736 เมื่อ: 27-08-2007, 18:42 »


ไอน์สไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น



อธิฏฐานม่ายรู้เรื่องว่าเขาถกเรื่องอะไรกัน
บันทึกการเข้า

หยุด...สัมปทานอุทยานแห่งชาติ
http://www.oknation.net/blog/sandstone
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #737 เมื่อ: 27-08-2007, 20:12 »


เรื่องศาสนา หรือความเชื่อต่างเหตุผลคงต้องยกไว้ก่อนครับ

เพราะคุยให้บรรจบได้อย่างไรก็เหนื่อยแย่เหมือนเดินท่องจักรวาลแห่งจินตนาการด้วยเท้าเปล่า??

ขาดเครื่องทุ่นแรงก็ไม่ใช่มนุษย์ กลายเป็นลิงเล่นคอมฯไป ชะเอิงเงย
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #738 เมื่อ: 27-08-2007, 20:17 »



คุยมาถึง จุดกำเนิดของเสปซแอนด์ไทม์ครับ คือข้ามบิกแบงค์มาแล้ว

ในเสปซ มีไทม์ ในไทม์มีเสปซ

บีบอัดเข้า ด้วยกฏข้อแรกที่ไม่บังเอิญ อาจจะมีลักษณะเรียกว่า

บิกแบงค์แห่งเสปซแอนด์ไทม์  ประมาณนี้แหละครับ
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #739 เมื่อ: 27-08-2007, 20:22 »


คุยมาถึง จุดกำเนิดของเสปซแอนด์ไทม์ครับ คือข้ามบิกแบงค์มาแล้ว

ในเสปซ มีไทม์ ในไทม์มีเสปซ

บีบอัดเข้า ด้วยกฏข้อแรกที่ไม่บังเอิญ อาจจะมีลักษณะเรียกว่า

บิกแบงค์แห่งเสปซแอนด์ไทม์  ประมาณนี้แหละครับ


อะไรก่อให้เกิดกฏข้อแรกและบิกแบงค์ ที่ไร้อนุภาค ไร้สิ่งต่างๆที่เราสัมผัสหรือเข้าใจได้ตามปกติมนุษย์??

ผมเรียกว่า ดวงจิตหรือเจตน์จำนงค์ก็แล้วกัน ตามกฎแห่งความไม่บังเอิญไม่สูญหายไป..
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #740 เมื่อ: 27-08-2007, 20:32 »


อะไรก่อให้เกิดกฏข้อแรกและบิกแบงค์ ที่ไร้อนุภาค ไร้สิ่งต่างๆที่เราสัมผัสหรือเข้าใจได้ตามปกติมนุษย์??

ผมเรียกว่า ดวงจิตหรือเจตน์จำนงค์ก็แล้วกัน ตามกฎแห่งความไม่บังเอิญไม่สูญหายไป..


ลักษณะของดวงจิตที่ว่า ควรจะเป็นอย่างไร?

มันจะต้องอยู่เหนือกฏข้อแรก นั่นคือ อยู่เหนือเหตุและผลครับ

ปกคลุมอยู่เหนือกาลเวลาและพื้นที่ว่าง ไม่ใช่การบังเอิญคือมีระบบระเบียบในตัวเอง

และมีอำนาจเหนือกฏข้อที่หนึ่ง ซึ่งน่าจะเรียกว่ากฏแห่งการเกิดขึ้นของสิ่งใดๆทั้งที่มนุษย์รู้จักและไม่รู้จัก
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #741 เมื่อ: 27-08-2007, 20:40 »

ลักษณะของดวงจิตที่ว่า ควรจะเป็นอย่างไร?

มันจะต้องอยู่เหนือกฏข้อแรก นั่นคือ อยู่เหนือเหตุและผลครับ

ปกคลุมอยู่เหนือกาลเวลาและพื้นที่ว่าง ไม่ใช่การบังเอิญคือมีระบบระเบียบในตัวเอง

และมีอำนาจเหนือกฏข้อที่หนึ่ง ซึ่งน่าจะเรียกว่ากฏแห่งการเกิดขึ้นของสิ่งใดๆทั้งที่มนุษย์รู้จักและไม่รู้จัก


ปัญหาต่อมาตามแนวความคิดนี้ก็คือ มนุษย์จะรับรู้ถึงการมีอยู่ของดวงจิตได้หรือไม่ถ้ามันมีอยู่จริง

หากรับรู้ได้จะเข้าใจอะไรได้บ้าง? นั่นเป็นขั้นตอนในการประเมินเงื่อนไขและศักยภาพของมนุษย์ตามแนวคิดนี้
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #742 เมื่อ: 27-08-2007, 20:53 »

 


ปัญหาต่อมาตามแนวความคิดนี้ก็คือ มนุษย์จะรับรู้ถึงการมีอยู่ของดวงจิตได้หรือไม่ถ้ามันมีอยู่จริง

หากรับรู้ได้จะเข้าใจอะไรได้บ้าง? นั่นเป็นขั้นตอนในการประเมินเงื่อนไขและศักยภาพของมนุษย์ตามแนวคิดนี้


มนุษย์จะรับรู้ได้ มันต้องมีลักษณะบางอย่างที่เหมือนหรือสัมผัสกันได้กับดวงจิตนั้น

กล่าวคือมนุษย์ต้องประกอบไปด้วยจิตที่มีลักษณะคล้ายหรือเหมือนกับดวงจิตนั้นอยู่บ้าง..

บางคนเชื่อว่าความคิดเกิดจากคลื่นไฟฟ้าในสมอง ไม่มีดวงจิตมีแต่เพียงความคิด

ท่านละเชื่อว่ามนุษย์มีแต่สมองหรือมีจิตวิญญาณด้วย..

ที่สำคัญเรารู้ได้อย่างไรว่าไทยรัฐเสนอข่าวผิดพลาด ไปจนถึงตั้งใจขายข่าวโดยไม่สนใจความจริง..

ความคิดหรือดวงจิต..??


พักก่อนครับ..
บันทึกการเข้า

Priateľ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 395



« ตอบ #743 เมื่อ: 27-08-2007, 21:24 »

ผมก็เชื่อว่ามันต้องมีความเกี่ยวเชื่อมโยงกันบ้างครับ เพียงแต่ผมเชื่ออีกอย่างว่า

หากปลาหมึกยักษ์(ฉลาดสุดในทะเล)จินตนาการถึงมนุษย์บนบก มันต้องจินตนาการว่ามนุษย์นั้นมีแปดขาและพ่นหมึกได้เวลาที่ตกใจครับ

ปลาหมึกยักษ์อย่างผม จึงต้องยั้งๆในความคิดบางเรื่องเอาไว้ เวลาจินตนาการถึงมนุษย์
บันทึกการเข้า

If you ever want something badly, let it go. If it comes back to you, then it's yours forever. If it doesn't, then it was never yours to begin with.

ก๊อปมาจากหนัง Indecent proposal
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #744 เมื่อ: 27-08-2007, 21:36 »

ผมก็เชื่อว่ามันต้องมีความเกี่ยวเชื่อมโยงกันบ้างครับ เพียงแต่ผมเชื่ออีกอย่างว่า

หากปลาหมึกยักษ์(ฉลาดสุดในทะเล)จินตนาการถึงมนุษย์บนบก มันต้องจินตนาการว่ามนุษย์นั้นมีแปดขาและพ่นหมึกได้เวลาที่ตกใจครับ

ปลาหมึกยักษ์อย่างผม จึงต้องยั้งๆในความคิดบางเรื่องเอาไว้ เวลาจินตนาการถึงมนุษย์

 
บันทึกการเข้า

jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #745 เมื่อ: 27-08-2007, 22:26 »

ถ้าคุยกันต่อไปตามแนวคุณ Q ไม่จบที่ "พระเจ้า" ก็ต้องไปจบแถวๆ "เต๋า" หรือไม่ก็ "พรหมัน"
แต่ถ้าเป็นจักรวาลวิทยาในทางพุทธ เวลาไม่มีต้นและไม่มีปลาย จักรวาลกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต

แม้กระนั้นจักรวาลก็เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาผ่านไปนานๆ ก็จะประลัยแล้วก็เกิดขึ้นใหม่ไปเรื่อยๆ
เกิดใหม่ทีนึงก็เรียกว่า 1 กัปป์ (จะเทียบว่าคือ Big Bang ได้หรือเปล่าก็ไม่รู้นะครับ)
หน่วยนับที่ใช้นับจำนวนกัปป์ ก็นับกันเป็นอสงไขย (1 คูณ 10 ยกกำลัง 140 !!!) 

และพระพุทธองค์ท่านว่า เรื่องพวกนี้มันเป็นเรื่องอจินไตย คิดแล้วไม่เป็นไปเพื่อการพ้นทุกข็
องค์ตถาคตจึงไม่ทรงพยากรณ์เอาไว้..
แต่นักวิทยาศาสตร์ปล่อยวางไม่ได้ก็ทนทุกข์กันต่อไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-08-2007, 22:29 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #746 เมื่อ: 27-08-2007, 22:31 »

กลับมาที่เรื่องต้นกระทู้นี้กันดีกว่า .. เลยเถิดกันไปไกลจนจะถึงกำเนิดจักรวาลแล้ว 

จากลิงค์หน้าข่าวไทยรัฐที่ต้นกระทู้นะครับ

http://www.thairath.co.th/news.php?section=agriculture&content=56572
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
นายนราเมศวร์ ธีระรังสิกุล นักธรณีวิทยา ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์สิรินธร เผยถึงเรื่องนี้ว่า
เมื่อ พ.ศ.2537-2538 กรมทรัพยากรธรณีได้ขุดค้นพบกระดูกไดโนเสาร์ในสภาพ เกือบสมบูรณ์
ที่บริเวณภูกุ้มข้าว อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ และบริเวณนี้ ยังพบสัตว์จำพวกสโตมาโตไลด์
เชื่อว่าเป็นสิ่งมีชีวิตกลุ่มแรกของโลก ใช้ชีวิตอยู่ในน้ำยุคก่อนปลาซีลาคานธ์



----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-08-2007, 22:54 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #747 เมื่อ: 27-08-2007, 23:02 »

กลับมาที่เรื่องต้นกระทู้นี้กันดีกว่า .. เลยเถิดกันไปไกลจนจะถึงกำเนิดจักรวาลแล้ว 

จากลิงค์หน้าข่าวไทยรัฐที่ต้นกระทู้นะครับ

http://www.thairath.co.th/news.php?section=agriculture&content=56572
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
นายนราเมศวร์ ธีระรังสิกุล นักธรณีวิทยา ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์สิรินธร เผยถึงเรื่องนี้ว่า
เมื่อ พ.ศ.2537-2538 กรมทรัพยากรธรณีได้ขุดค้นพบกระดูกไดโนเสาร์ในสภาพ เกือบสมบูรณ์
ที่บริเวณภูกุ้มข้าว อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ และบริเวณนี้ ยังพบสัตว์จำพวกสโตมาโตไลด์
เชื่อว่าเป็นสิ่งมีชีวิตกลุ่มแรกของโลก ใช้ชีวิตอยู่ในน้ำยุคก่อนปลาซีลาคานธ์



----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



ไทยรัฐได้แก้ไขข่าวให้ถูกต้องแล้วนับว่าดีครับ ผิดแล้วรู้จักแก้ไข  
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #748 เมื่อ: 27-08-2007, 23:08 »

ถ้าคุยกันต่อไปตามแนวคุณ Q ไม่จบที่ "พระเจ้า" ก็ต้องไปจบแถวๆ "เต๋า" หรือไม่ก็ "พรหมัน"
แต่ถ้าเป็นจักรวาลวิทยาในทางพุทธ เวลาไม่มีต้นและไม่มีปลาย จักรวาลกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต

แม้กระนั้นจักรวาลก็เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาผ่านไปนานๆ ก็จะประลัยแล้วก็เกิดขึ้นใหม่ไปเรื่อยๆ
เกิดใหม่ทีนึงก็เรียกว่า 1 กัปป์ (จะเทียบว่าคือ Big Bang ได้หรือเปล่าก็ไม่รู้นะครับ)
หน่วยนับที่ใช้นับจำนวนกัปป์ ก็นับกันเป็นอสงไขย (1 คูณ 10 ยกกำลัง 140 !!!) 

และพระพุทธองค์ท่านว่า เรื่องพวกนี้มันเป็นเรื่องอจินไตย คิดแล้วไม่เป็นไปเพื่อการพ้นทุกข็
องค์ตถาคตจึงไม่ทรงพยากรณ์เอาไว้..
แต่นักวิทยาศาสตร์ปล่อยวางไม่ได้ก็ทนทุกข์กันต่อไป

ตามกฎข้อที่หนึ่ง กฎแห่งการเกิดขึ้น ซึ่งก็ต้องนับรวมวัฏจักรต่างๆไว้ด้วย ไม่ว่าเวลาจะมีรูปทรงอย่างไร จักรวาลจะไร้ขอบเขตอย่างไร

ล้วนหนีไม่พ้นกฎข้อนี้ไปได้ครับ เรามาถึงการกำเนิดกฎข้อที่หนึ่งที่มีสภาพเป็นจิตหรือเจตน์จำนงค์แล้วครับ

จะพรหมมัน หรือปรมาตมัน เต๋า อะไร ก็หนีไม่พ้นกฎข้อที่หนึ่งไปได้ครับ ยกเว้นเพียงสิ่งที่อยู่เหนือกฎข้อที่หนึ่งเท่านั้น

สภาพอันหนึ่งตามแนวคิดนี้คือจิตครับ..
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-08-2007, 23:42 โดย ********Q******** » บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #749 เมื่อ: 27-08-2007, 23:11 »



หากทุกสิ่งเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ย่อมไม่มีข้อยกเว้นสำหรับ เวลา และจักรวาล ตลอดจนวัฏจักรใดๆด้วยครับ..
บันทึกการเข้า

หน้า: 1 ... 8 9 10 11 12 13 14 [15] 16
    กระโดดไป: