Can ไทเมือง
|
|
« เมื่อ: 07-05-2006, 05:14 » |
|
ชีวิตในเงามืด ของ"ทักษิณ ชินวัตร"กับปริศนา"สมคิด"และ"เว้นวรรค"หลังจากนั่งเครื่องบินกลับจากฮ่องกง "ทักษิณ ชินวัตร" ก็เก็บตัวเงียบ
แม้จะไปทำงานที่พรรคไทยรักไทย แต่ก็ไม่ยอมให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน
ไม่มีใครรู้ว่า "ทักษิณ" คิดอะไรอยู่
ไม่มีใครรู้ว่าหลังจากมีกระแสพระราชดำรัสเมื่อวันที่ 25 เมษายน แล้ว "ทักษิณ" จะเดินเกมการเมืองอย่างไรต่อไป
จะยอมให้ผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เมษายน เป็นโมฆะเหมือนที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้หรือไม่
หรือจะแสดงพลังคัดค้านเพื่อจะได้ไม่ต้องเลือกตั้งใหม่
ไม่มีใครรู้
แม้ว่าพลพรรคไทยรักไทยบางส่วนจะออกมาแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินให้การเลือกตั้งโมฆะซึ่งเชื่อกันว่าจะเป็นผลในเวลาไม่นานนี้
แต่ดูเหมือนว่า "แกนนำ" พรรคไทยรักไทยจะเริ่มทำใจแล้วว่าต้องลงสนามเลือกตั้งครั้งใหม่อย่างแน่นอน
ที่น่าจับตามองก็คือ ส.ส.พรรคไทยรักไทยเกือบทุกคนเดินทางมารายงานตัวที่สภาผู้แทนราษฎรในฐานะ "ส.ส.ใหม่"
มีเพียง 2 คนที่ยังไม่ได้มารายงานตัว คือ "ทักษิณ ชินวัตร" และ "สมคิด จาตุศรีพิทักษ์"
การตัดสินใจดึงเกมไม่ยอมมารายงานตัวครั้งนี้ประเมินได้ 2 ประการ
ประการแรก เพื่อไม่ให้ ส.ส. ครบตามจำนวนที่ผ่านการเลือกตั้งทั้ง ส.ส.เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
เพราะถ้าครบเมื่อไรก็จะเกิดสถานการณ์บังคับให้รัฐบาลต้องยื่นเรื่องขอเปิดสภาผู้แทนราษฎร
ซึ่งจะเป็น "เดดล็อค" ที่พรรคไทยรักไทย "เสีย" มากกว่า "ได้"
ประการที่สอง การที่ "ทักษิณ" ยังไม่ไปรายงานตัวไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะเป็นหัวหน้าพรรคไทยรักไทยซึ่งมีผล "ได้-เสีย" โดยตรง
การอยู่ในสถานะ "สุญญากาศ" เป็น ส.ส. ที่ยังไม่รายงานตัวจะทำให้ก้าวรุกหรือถอยได้ง่ายหากสถานการณ์การเมืองแปรเปลี่ยนไป
แต่การที่พรรคไทยรักไทยไม่ให้ "สมคิด" ไปในขณะที่ "โภคิน พลกุล-พงษ์เทพ เทพกาญจนา-สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์" ล้วนแต่ไปรายงานตัว
เป็นสัญญานที่ชัดเจนว่าพรรคไทยรักไทยวางสถานะของ "สมคิด" ในระดับเดียวกับ "ทักษิณ"
คือ ว่าที่ "นายกรัฐมนตรี" คนใหม่
ต้องไม่แปดเปื้อนกับปัญหาทางการเมืองที่อาจตามมาในอนาคตหากการเมืองพลิกผัน
กระแสข่าวแรกเรื่อง "สมคิด" นั้นส่วนใหญ่ประเมินว่าเขาจะไม่ยอมรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
แต่ยิ่งนานวัน กระแสข่าวที่เข้ามากลับกลายเป็นว่า "สมคิด" พร้อมรับตำแหน่ง เพียงแต่มีเงื่อนไขเดียวคือ ขอฟัง "ทักษิณ" คนเดียว
ว่ากันว่าเสียงของ "สมคิด" ดังลอดเข้าไปในบ้านจันทร์ส่องหล้า
และกลายเป็น "ปม" ที่ทำให้ "สมคิด" ไม่เป็นที่ไว้วางใจ
เพราะรู้กันอยู่ว่า "อำนาจสูงสุด" ที่แท้จริงในพรรคไทยรักไทยนั้นคือใคร
แต่อีกกระแสข่าวหนึ่ง ยืนยันว่า "สมคิด" พร้อมรับตำแหน่งอย่างไม่มีเงื่อนไข พร้อมคำยืนยันว่าจะไม่หักหลังคนที่มีบุญคุณกับเขา
เพียงแต่ว่า "ทักษิณ" ไม่แน่ใจ เพราะในช่วงที่ผ่านมามีรัฐมนตรีคนเดียวที่ "สนธิ ลิ้มทองกุล" ไม่เคยปราศรัยโจมตีเลย
คือ "สมคิด จาตุศรีพิทักษ์"
ที่สำคัญก่อนหน้านี้คนที่ "สนธิ" เคยระบุว่าเป็นคนที่พา "ทักษิณ" ไปกินก๋วยเตี๋ยวกับเขาเพื่อคืนความสัมพันธ์กันก่อนการเลือกตั้งเมื่อปี 2544 คือ "สมคิด"
ในมุมของ "ทักษิณ" และแกนนำข้างกาย ไม่มั่นใจว่าหาก "สมคิด" ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี
กรณีของ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่แบงก์นครหลวงไทยจะถูกขุดคุ้ยขึ้นมาหรือไม่
และ "สมคิด" จะจัดวางความสัมพันธ์ของเขากับ "ทักษิณ" และ "สนธิ" อย่างไร
"สมคิด" นั้นนอกจากได้รับเสียงหนุนจาก "โพล" ที่สำรวจความคิดเห็นของประชาชนอย่างท่วมท้น เขายังมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับ "แกนนำ" กลุ่มต่างๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มวังน้ำยมของ "สมศักดิ์ เทพสุทิน"
อย่างไรก็ตาม ถึงวันนี้ไม่ว่าจะมีกระแสข่าวลือออกมาในรูปแบบใด แต่ปรากฏการณ์ที่ "สมคิด" ไม่ไปรายงานตัวพร้อมกับ "ทักษิณ"
เหมือนจะเป็นสัญญาณชัดว่า "คลื่นรบกวน" ต่างๆ เกี่ยวกับ "สมคิด" ไม่เป็นความจริง
หรือเป็น "ความจริง" ที่มีการเคลียร์กันแล้ว
ณ วันนี้ "สมคิด" เป็นมือวางอันดับสอง รองจาก "ทักษิณ" อย่างแท้จริง
วินาทีนี้แม้แต่ในพรรคไทยรักไทยก็ยอมรับกลายๆ ว่าการเลือกตั้งใหม่ต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
และการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เมษายน คงเป็นโมฆะ
การเลือกตั้งครั้งใหม่พรรคร่วมฝ่ายค้านก็คงจะต้องลงสมัครแข่งทั้งพรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยและพรรคมหาชน
แม้ประเมินจากความพร้อมในทุกด้าน พรรคไทยรักไทยจะได้เปรียบพรรคอื่นหลายขุมโดยเฉพาะเรื่อง "กระสุนดินดำ"
แต่ท่ามกลางกระแส "ท้าก...สิน ออกไป" ที่เพิ่งสงบเสียงลง
ถ้ายังยึดเงื่อนไขเดิมที่ "ทักษิณ ชินวัตร" ประกาศ "เว้นวรรค"
พรรคไทยรักไทยก็จะอยู่ในสภาพ "ยักตื้นตึดกึก ยักลึกติดกัก" ไม่ได้เปรียบพรรคอื่นอย่างถล่มทลายเหมือนในอดีต
แค่การหาเสียงเลือกตั้ง ก็เป็นปัญหาในเชิงการสื่อสารแล้วว่าจะชูใครในการหาเสียง
"ทักษิณ" หรือ "สมคิด"
ชู "ทักษิณ" ก็จะกลายเป็นว่า "สมคิด" คือนายกฯ "นอมินี"
ชู "สมคิด" ก็ไม่ศักดิ์สิทธิ์เท่า "ทักษิณ"
และเมื่อ "ทักษิณ" ยังเป็นหัวหน้าพรรค การชู "สมคิด" ก็คงจะไม่สามารถโหมประโคมได้อย่างเต็มที่
การจัดวางความสัมพันธ์ระหว่าง "ทักษิณ" กับ "สมคิด" ในการหาเสียงเลือกตั้งจึงเป็นปัญหาใหญ่ของพรรคไทยรักไทย
หาก... "ทักษิณ" ยอม "เว้นวรรค" เหมือนเดิม
แต่วันนี้ไม่มีใครรู้ว่า "ทักษิณ" คิดอย่างไร
จะยอมเว้นวรรคหรือไม่
การอยู่ในมุมมืด ไม่ยอมให้สัมภาษณ์ทำให้เดาใจความคิดของ "ทักษิณ" ยาก
เพราะวันนี้มีหลายกลุ่มในพรรคพยายามผลักดันให้ "ทักษิณ" เปลี่ยนใจด้วยเหตุผลว่าเมื่อการเลือกตั้งครั้งก่อนเป็นโมฆะ เงื่อนไขที่ประกาศไว้ก็ถือว่าหมดไปด้วย
ถ้า "ทักษิณ" ยอมตามกระแสหนุน แน่นอนว่าการเมืองภายในพรรคไทยรักไทยก็จะดีขึ้นและเป็นปึกแผ่นขึ้น
แต่กระแสการเมืองนอกพรรค รับรองได้ว่ากระแสค้านที่สงบนิ่งไปจากกระแสพระราชดำรัสจะกลับมาอีกครั้งหนึ่งอย่างแน่นอน
ด้วยสถานะความเป็น "สายล่อฟ้า" ที่มีประสิทธิภาพยิ่งของ "ทักษิณ"
วันนี้หาก "ทักษิณ" ฉลาดพอ และพร้อมเสียสละเพื่อให้บ้านเมืองสงบการเว้นวรรค น่าจะเป็นคำตอบสุดท้ายมติชนสุดสัปดาห์ http://www.matichon.co.th/weekly/weekly.php?srctag=0403050549
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Can ไทเมือง
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 07-05-2006, 05:20 » |
|
ประโยคเด็ด....
กระแสข่าวแรกเรื่อง "สมคิด" นั้นส่วนใหญ่ประเมินว่าเขาจะไม่ยอมรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
แต่ยิ่งนานวัน กระแสข่าวที่เข้ามากลับกลายเป็นว่า "สมคิด" พร้อมรับตำแหน่ง เพียงแต่มีเงื่อนไขเดียวคือ ขอฟัง "ทักษิณ" คนเดียว
ว่ากันว่าเสียงของ "สมคิด" ดังลอดเข้าไปในบ้านจันทร์ส่องหล้า
และกลายเป็น "ปม" ที่ทำให้ "สมคิด" ไม่เป็นที่ไว้วางใจ
เพราะรู้กันอยู่ว่า "อำนาจสูงสุด" ที่แท้จริงในพรรคไทยรักไทยนั้นคือใคร
พจนานุกรมฉบับมติชน
" เว้นวรรค "
เว้น ก. งด; แยกเอาออก; ทิ้งช่วงระยะว่างเอาไว้ เช่น เว้นวรรค. แล้วมีลูกคำว่า เว้นแต่ สัน. นอกจาก, ยกเว้น. เว้นระยะ ก. ทิ้งช่วงห่างกันตามสมควร.
เว้นวรรค ก. เว้นช่องว่างระหว่างข้อความ, โดยเปรียบเทียบบางทีใช้หมายถึง หยุดกระทำการใดการหนึ่งไปช่วงหนึ่ง.
พจนานุกรมฉบับมติชน ไม่ให้ตัวอย่าง เว้นวรรค เพราะช่วงทำพจนานุกรมไม่มีเหตุการณ์ต้อง "เว้นวรรค" ขณะนี้มีตัวอย่างแล้ว คือคนจำนวนมากขอให้ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เว้นวรรคทางการเมือง หรือเลิกไปเลยเพราะขาดจริยธรรม จนขาดความชอบธรรมทางการเมือง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Ziggy Stardust
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 07-05-2006, 05:29 » |
|
ประโยคเด็ด....
กระแสข่าวแรกเรื่อง "สมคิด" นั้นส่วนใหญ่ประเมินว่าเขาจะไม่ยอมรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
แต่ยิ่งนานวัน กระแสข่าวที่เข้ามากลับกลายเป็นว่า "สมคิด" พร้อมรับตำแหน่ง เพียงแต่มีเงื่อนไขเดียวคือ ขอฟัง "ทักษิณ" คนเดียว
ว่ากันว่าเสียงของ "สมคิด" ดังลอดเข้าไปในบ้านจันทร์ส่องหล้า
และกลายเป็น "ปม" ที่ทำให้ "สมคิด" ไม่เป็นที่ไว้วางใจ
เพราะรู้กันอยู่ว่า "อำนาจสูงสุด" ที่แท้จริงในพรรคไทยรักไทยนั้นคือใคร
ซูสีไทเฮาบริหารประเทศหลังม่านไม้ไผ่รึเปล่าครับ แหะๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
A tiger can smile A snake will say it loves you Lies make us evil
|
|
|
Can ไทเมือง
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 07-05-2006, 05:32 » |
|
อีกประเด็น...หากสมคิดขึ้น...ผมเข้าใจว่า....สนธิรอด...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นายท้ายเรือ
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 07-05-2006, 06:41 » |
|
เข้ามาขอภาวนา ถ้าไม่มีตัวเลือกอื่น ก็ขอเลือกสมคิด.. ภาวนาต่อ...เจ้าประคู้นนนน.... ขอให้สมคิด ทำเพื่อชาติบ้านเมือง นะครับ..... บุญคุณของแผ่นดิน เหนือกว่าสิ่งอื่นใด เหนือว่า บุญคุณของคนอื่น ... ลึกๆแล้ว ผมยังมองท่าน ดร.สมคิด เป็นคนดี จิตใจของท่านทั้งนิ่ง ทั้งกังวล เหมือนกับ อยากทำเพื่อบ้านเมือง ..สักครั้ง สักใหญ่ที่สุดและครั้งสุดท้าย..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทุกคนเกิดมาก็ต้องตาย แต่จะเหลืออะไรไว้ให้แผ่นดิน
|
|
|
Killer
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 07-05-2006, 11:58 » |
|
นสพ.ชั้นต่ำลำเอียง แบบนั้นไปอ่านมันทำไม เพราะมันวิจารณ์อยู่บนพื้นฐานแห่งอคติ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Haa
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 07-05-2006, 12:12 » |
|
มีบทความจากมติชนอันนึงที่น่าสนใจเช่นกันครับ ผมขอฝากโพสมาให้อ่านกันบ้างเช่นกัน
http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01pol01070549&day=2006/05/07
"ทักษิณ" เว้นวรรค "หญิงอ้อ" เว้นทรัพย์ "หัวหน้าวัง" กระอัก
รายงาน
เบื้องหลังอาการ "ดิ้นรน" ของ ส.ส.พรรคไทยรักไทย ที่นำโดยนายโสภณ เพชรสว่าง ส.ส.บุรีรัมย์ กลุ่มวังน้ำยม ที่ได้ออกมาแสดงท่าทีในลักษณะก้าวล่วงศาลปกครองว่า ไม่มีสิทธิที่จะวินิจฉัยให้คดีเลือกตั้งเป็นโมฆะ
ทั้งระบุว่า หากตัดสินให้โมฆะจะยื่นถอดถอนตุลาการศาลปกครอง และยังอ้างว่าตุลาการศาลปกครองบางคนมีความสนิทสนมกับฝ่ายค้าน
จนนำมาซึ่งการเชิญ ส.ส.พรรคไทยรักไทย 65 คน มาร่วมประชุมกันที่ห้องพิจารณางบประมาณ อาคารรัฐสภา 3 เพื่อหาวิธีแก้วิกฤตทางการเมือง เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ที่ผ่านมานั้น
หากพินิจพิเคราะห์ให้ดีย่อมเห็นว่า การออกมาเคลื่อนไหวของบรรดา ส.ส.ไทยรักไทย ในครั้งนี้ได้รับ "ไฟเขียว" จากแกนนำกลุ่มของตัวเอง โดยไล่เรียงรายชื่อดูแล้วมี ส.ส.ทุกกลุ่มของพรรคมาร่วมประชุม
เพียงแต่ทางพรรคกลัวว่า เรื่องราวจะบานปลายใหญ่โตไป จึงให้แต่ละกลุ่มส่งเฉพาะตัวแทน ส.ส.มาร่วม ไม่อย่างนั้นจำนวน ส.ส.ที่มาประชุมคงจะมากกว่านี้
เบื้องหลังการออกมาต้านคำตัดสินของศาลปกครอง ที่คาดเดาว่าจะตัดสินให้การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา และการเลือกตั้งอีก 2 ครั้งต่อมาเป็นโมฆะนั้น ไม่ใช่เพราะพรรคไทยรักไทยกลัวจะแพ้การเลือกตั้งที่จะจัดขึ้นใหม่
เพราะด้วยกระแสความนิยมของประชาชนในภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง ทางพรรคยังเชื่อว่าจะสามารถชนะการเลือกตั้งเป็นพรรคเสียงข้างมากได้อย่างแน่นอน
แต่สาเหตุแท้จริงที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ มาจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทยเอง ซึ่งทุกฝ่ายในพรรคได้ประเมินอย่างไม่โกหกตัวเองแล้วว่า ไม่มีทางเป็นไปได้ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับมาเป็นนายกฯอีกครั้งภายใน 1-2 ปีนี้
แม้ว่าพรรคจะชนะการเลือกตั้งก็ตาม!!!
นั่นก็เพราะกระแส "ไม่เอา" พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ว่าจะเป็นใน กทม. พื้นที่ภาคใต้ หรือในเขตตัวเมืองในจังหวัดต่างๆ ในตอนนี้ ไม่ได้น้อยลงจากตอนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ยุบสภาแต่อย่างใด
ดังนั้น หาก พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาเป็นนายกฯอีกครั้ง การชุมนุมประท้วงต่อต้านย่อมมีขึ้นทันที และอาจลุกลามใหญ่โตจนไม่อาจควบคุมได้อย่างครั้งที่ผ่านมา
ความจริงตรงนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา ตลอดจนคนใกล้ชิดเตรียมใจไว้แล้ว
ระยะหลัง พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมานจึงแทบไม่ได้เข้าไปทำกิจกรรมใดๆ ในพรรค
ซึ่งแกนนำกลุ่มต่างๆ ก็ทราบดีและไม่ได้เดือดร้อนกันเท่าไหร่ เพราะการที่ พ.ต.ท.ทักษิณไม่กลับมาเป็นนายกฯในช่วงนี้ แกนนำกลุ่มก็ไม่ได้เสียผลประโยชน์อะไร
ตรงกันข้ามกลับได้ผลประโยชน์ด้วยซ้ำ!!!
เพราะต้องไม่ลืมว่า การบุกเบิกและสร้างพรรคไทยรักไทย ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณต้องทุ่มเททรัพย์สินและสติปัญญาไปไม่ใช่น้อย ยามนี้เมื่อชื่อยี่ห้อของพรรคไทยรักไทยติดตลาดเป็นที่นิยมของประชาชนในภาคเหนือ อีสาน และภาคกลางแล้ว บรรดาแกนนำกลุ่มย่อมได้ประโยชน์จากการส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง ส.ส. เพราะถึงอย่างไรโอกาสที่คนของตัวเองจะได้เป็น ส.ส.ก็แทบจะเรียกได้ว่า 100 เปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้ที่ผ่านมา ยามที่ พ.ต.ท.ทักษิณนั่งเป็นนายกฯและหัวหน้าพรรค มีอำนาจเต็มที่ทุกอย่างนั้น บรรดาแกนนำกลุ่มต่างถูก "กด" จนแทบโงหัวไม่ขึ้น หาก พ.ต.ท.ทักษิณหลุดจากการเป็นนายกฯ แม้จะยังนั่งเป็นหัวหน้าพรรคอยู่ แต่อำนาจในมือย่อมไม่มีเหมือนเดิมอีกแล้ว
เกมการเมืองไม่ว่าในซีกของฝ่ายบริหารหรือฝ่ายสภา แกนนำกลุ่มการเมืองย่อมกุมอำนาจมากขึ้น
ยิ่งถ้าคนที่กลุ่มตัวเองสนับสนุนได้ขึ้นเป็นนายกฯ แกนนำกลุ่มนั้นๆ ก็แทบไม่ต่างอะไรกับเสือติดปีก...แถมที่ทำการพรรคก็มีให้ใช้ให้อยู่อย่างโอ่อ่า
แกนนำกลุ่มในพรรคไทยรักไทยหลายๆ คนจึงนั่งยิ้มนอนยิ้มรอเวลาให้การเลือกตั้งเสร็จสิ้นโดยเร็ว!!!
ดังนั้นคำว่า "โมฆะ" จึงเป็นที่แสลงหูของบรรดาแกนนำและ ส.ส.อย่างยิ่ง เพราะหมายความว่า ทุกคนต้องเหนื่อยกันอีกรอบ และกว่าจะเลือกตั้งเสร็จสิ้นยังต้องใช้เวลาอีกเกือบ 2 เดือน
ยิ่งในการเลือกตั้งครั้งหน้าทุกพรรคต่างแสดงความพร้อมในการส่งผู้สมัคร บรรดาแกนนำและ ส.ส.ของพรรคไทยรักไทยก็ต้องเหนื่อยกันหนักมากยิ่งขึ้น
แต่ทั้งหมดยังไม่หนักหนาเท่า "เงินทุน" ที่จะต้องใช้ในการเลือกตั้ง เพราะแว่วมาว่าคุณหญิงพจมานได้ยื่น "คำขาด" ออกมาแล้วว่า ให้แต่ละกลุ่มออกเงินเลือกตั้งกันเอง!!!
เนื่องจากในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เมษายนได้ช่วยออกไปแล้ว และในการเลือกตั้งครั้งหน้าก็ชัดเจนแล้วว่า พ.ต.ท.ทักษิณคงยังกลับมาเป็นนายกฯไม่ได้ ดังนั้นจึงขอ "เว้นวรรค" เงินสนับสนุนไปด้วย
นี่แหละคือสาเหตุที่ทำให้ทั้งแกนนำและ ส.ส.ในทุกกลุ่มของพรรคไทยรักไทย ต้องรีบกระโดดออกมาประท้วงคัดค้านคำตัดสินโมฆะทันที
ลองคิดตามข้อมูลคร่าวๆ ของการเลือกตั้งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2548 ที่ตอนนั้นทุกพรรคต่างแข่งขันกันอย่างเต็มที่ในการส่งผู้สมัคร ส.ส.ทั่วประเทศ ว่ากันว่าแต่ละเขตต้องใช้เงินหาเสียงและจัดกิจกรรมต่างๆให้ประชาชนออกมาเลือก ส.ส.ทั้งแบบเขตและแบบบัญชีรายชื่อ เขตหนึ่งๆ ต้องใช้เงิน 15-30 ล้านบาท ยิ่งถ้าเป็นเขตช้างชนช้าง เงินที่ใช้อาจพุ่งไปถึง 40-60 ล้านบาท
ถ้าเฉลี่ยแต่ละเขตต้องใช้เงิน 20 ล้านบาท ทั่วประเทศมี 400 เขต เบาะๆ ก็ปาเข้าไป 8,000 ล้านบาท!!!
โดยปกติทางพรรคจะออกให้ครึ่งหนึ่ง ทางแกนนำกลุ่มกับผู้สมัครออกเองครึ่งหนึ่ง ดังนั้นเสบียงที่ทางพรรคส่งให้ผู้สมัครคนหนึ่งอยู่ประมาณ 10-12 ล้านบาท
ซึ่งทางพรรคจะแบ่งออกเป็น 4 งวด ตามสูตรตัวเลข 3-3-2-2 หรือ 3-3-3-3 โดย 2 งวดแรกรับในวันประชุมพรรคก่อนวันเลือกตั้ง ส่วน 2 งวดหลังประธานแต่ละภาคจะนำไปให้ระหว่างหาเสียงในพื้นที่
ส่วนการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา เนื่องจากไม่มีคู่แข่ง ทางพรรคจึงลดจำนวนเงินจ่ายให้เพียงครึ่งเดียวคือ 6 ล้าน โดยแบ่งเป็น 2 งวด คือ 3-3 และรับในวันประชุมพรรค
เงินเหล่านี้ถือเป็นเงินส่วนกลางของพรรค ส่วนหนึ่งเป็นเงินของหัวหน้าและคุณหญิง อีกส่วนจะมาจากการลงขันของรัฐมนตรีโควต้ากลางซึ่งเป็นนายทุนของพรรค
ดังนั้นหากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เมษายน เป็นโมฆะ และทางพรรคไม่ส่ง "น้ำเลี้ยง" ให้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า
บรรดาแกนนำกลุ่มและ ส.ส.ก็ต้องออกกันเอง!!!
ส่วนพวกนายทุนที่อยากเป็นรัฐมนตรีในโควต้ากลางก็ต้องวิ่งเอา "เสบียง" ไปสนับสนุนให้แต่ละกลุ่มตามแต่สายที่ตัวเองสนิท
ใครมี ส.ส.ในกลุ่มมากก็ต้องควักมาก จึงต้องรีบส่ง ส.ส.ในกลุ่มออกมาเคลื่อนไหว
คราวที่แล้วยังไม่ได้ทุนคืน อยู่ๆ จะมาตัดสินให้ "โมฆะ" เลือกตั้งใหม่กันง่ายๆ อย่างนี้หัวหน้าวังต่างๆ ก็กระอักเลือดกันทั่วหน้าเท่านั้นเอง...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
All tyranny needs to gain a foothold is for people of good conscience to remain silent.
Thomas Jefferson
|
|
|
Can ไทเมือง
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 07-05-2006, 13:33 » |
|
สงสัยสหาย Killer ชอบฟัง สส.ชั้นสูง แบบนายโสภณ เพชรสว่าง...สส. ทรท
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ผู้ทำลาย
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 07-05-2006, 13:40 » |
|
แหม หากคุณ killer อยากอ่านอะไรที่ไม่สะเทือนอารมณ์ ก็ไปที่เวปบอร์ด คอห่านฟ้าได้นะครับ รู้สึกว่าเค้าจะเปิดบอร์ดให้เข้าไปถล่มแล้วอ่ะครับ
ส่วนคุณ สมคิด เท่าที่ติดตามมา ก็ไม่มีข่าวพันธมิตรโจมตีจริงๆ นั่นแหละ และผมก็งงว่า หากเป็นเช่นนั้น คุณสมคิด ก็ไม่น่าจะเป็นบุคคลที่ไว้วางใจได้ เพราะมองไม่ออกว่า คิดอะไรอยู่ = = ?
เอ๊ะ! หรือว่า ผมสับสนเอง = ="
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
แสนยานุภาพผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดิน
|
|
|
แม่นกฮูก
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 07-05-2006, 14:04 » |
|
ก็ถ้าคุณสมคิดได้เป็นจริงๆก็ขอให้เป็นอย่างทางมติชนว่าละกันเพราะสงสารทางแกนนำพันธมิตรโดยเฉพาะคุณสนธิมากเลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สาธุ
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 07-05-2006, 14:09 » |
|
คนผ่านฟ้าน่าจะเป็นสื่อที่ killer ว่าเป็นกลางและเป็นระดับ high class มากที่สุด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Killer
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 07-05-2006, 14:10 » |
|
คอลัมนิสท์ ตัวนั้น มันตรัสรู้ได้ยังไงว่า กระแสไม่เอาทักษิณ ไม่ได้ลดน้อยลงแต่อย่างใด อัปไปร จริง... พวกมันกำลังจะทำให้ ระบอบประชาธิปไตย สั่นคลอน โดยที่ไม่รู้ในกมลสันดานมันเลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Killer
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: 07-05-2006, 14:12 » |
|
เขาถึงออกแบบระบบเลือกตั้ง ขึ้นมาเพื่อ ทดสอบความนิยม ไงไอ้คอลัมนิสท์หน้าโง่เอ๋ย ไม่ใช่ความรู้สึกมัน ที่สุมหัวกินเหล้ากัน แล้วมาสรุปเป็นบทความห่วยๆ สวะๆ แบบนี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ผู้ทำลาย
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 07-05-2006, 14:19 » |
|
เขาถึงออกแบบระบบเลือกตั้ง ขึ้นมาเพื่อ ทดสอบความนิยม ไงไอ้คอลัมนิสท์หน้าโง่เอ๋ย ไม่ใช่ความรู้สึกมัน ที่สุมหัวกินเหล้ากัน แล้วมาสรุปเป็นบทความห่วยๆ สวะๆ แบบนี้
ทำไมถึงชอบว่าคนอื่นหน้าโง่ สวะ อะไรแบบนั้นอ่ะคุณ ไม่สุภาพเลย คิดในใจก็ได้นี่
ถึงผมจะคิดว่า วอร์รูมเป็นสวะ หน้าโง่ และคุณทักษิณก็เป็น สวะสังคม แต่ก็ไม่เคยออกมาประจาน ด่าใคร แบบคุณเลยนะ ... อิอิ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-05-2006, 15:31 โดย lynnicky »
|
บันทึกการเข้า
|
แสนยานุภาพผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดิน
|
|
|
Can ไทเมือง
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: 07-05-2006, 15:24 » |
|
สงสัยต้องรอบทความท่าน ศ.ดร. Killer เขียนบทความสูงส่ง โดยปราศจาก "อคติ"
แต่ดูการตอบของท่า ดอกเตอร์ Killerแล้ว กลับ "สวะ" กว่าคนเขียนบทความเยอะเลย
ทำไมไม่ชี้ว่าตรงใหนที่คอลัมนิสต์เขียนด้วยความเมาหรือไร้เหตุผล ไม่มีที่มาที่ไป...ไล่ประโยคต่อประโยคไปเลยสิ
ประเภททำปากเหม็นปากมอมแบบนี้ ดูลีลาแล้วเหมือนเจ้านายหน้าเหลี่ยมเข้าไปทุกทีนะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ปุถุชน
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: 07-05-2006, 21:43 » |
|
คอลัมนิสท์ ตัวนั้น มันตรัสรู้ได้ยังไงว่า กระแสไม่เอาทักษิณ ไม่ได้ลดน้อยลงแต่อย่างใด อัปไปร จริง... พวกมันกำลังจะทำให้ ระบอบประชาธิปไตย สั่นคลอน โดยที่ไม่รู้ในกมลสันดานมันเลย
กระแสไม่เอาทักษิณลดน้อยลง ทำให้ ระบอบประชาธิปไตย สั่นคลอน .....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
Killer
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: 07-05-2006, 21:48 » |
|
ถ้าคนได้รับคะแนนเสียงข้างมาก ไม่ได้เป็นนายกฯ เขาเรียกว่าระบอบอะไรดีล่ะ ?? หือ ?? ไปเปิดตำรารัฐศาตร์มาตอบหน่อยซิ
อย่าอ้าง สมัย คึกฤทธิ์ จัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยได้ เพราะเขาลงสมัครรับเลือกตั้ง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชัย คุรุ เทวา โอม
|
|
« ตอบ #17 เมื่อ: 07-05-2006, 22:44 » |
|
ก็ถ้า คนได้เสียงข้างมากจากการซื้อเสียงมาถามหน่อย เสียงมันสะอาดมั้ย หัดฟังคนอื่นบ้าง คุณเก่งแค่ไหนกัน killer มัวแต่งมงายอยู่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..." คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน (How the Steel Was Tempered) นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933 ******************************* เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ http://www.oknation.net/blog/amalit1990
|
|
|
Can ไทเมือง
|
|
« ตอบ #18 เมื่อ: 07-05-2006, 23:31 » |
|
เลือกตั้งพรรคเดียว มันประเทศคอมมูนิสต์นะ เท่าที่รู้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jrr.
|
|
« ตอบ #19 เมื่อ: 08-05-2006, 00:39 » |
|
ถ้าคนได้รับคะแนนเสียงข้างมาก ไม่ได้เป็นนายกฯ เขาเรียกว่าระบอบอะไรดีล่ะ ?? หือ ?? ไปเปิดตำรารัฐศาตร์มาตอบหน่อยซิ
..............................................................................................................
ใครไปห้ามล่ะท่าน ? ถึงจะมีคนไม่เห็นด้วย จะไปแคร์อะไรล่ะท่าน ? กลัวอะไรล่ะท่าน ? รีรออะไร ? รีบๆไปรายงานตัวให้มันจบๆไป แล้วตั้งรัฐบาลแล้วก็เป็นนายกฯซะให้มันสิ้นเรื่องสิ้นราวหายอยาก !!!
คนได้เสียงช้างมากแล้วไม่ได้เป็นนายกฯ จะว่าแปลกก็ใช่....แต่มันน่าอับอายมากกว่า !!!
ปั๊ดโธ่ ถ้ามันทำอะไรถูกต้องชอบธรรมมาซะตั้งแต่ต้น...ป่านนี้ มันโวยดังกว่านี้แล้วหล่ะ ไม่ต้องมานั่งทำอะไรแก้เก้อไปวันๆ ลูกสมุนลูกสมันก็ไม่ต้องอารมณ์เสียถึงชนาดต้องออกมาด่าใครๆว่า สารเลว ชาติชั่ว โง่เง่า เลวทราม...สารพัดหยาบ หรอก !!!
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-05-2006, 00:40 โดย jrr. »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ka-rab
|
|
« ตอบ #20 เมื่อ: 08-05-2006, 01:11 » |
|
อยากให้คุณคิลเลอร์ยกตัวอย่างสื่อที่คุณคิดว่าเจ๋งที่สุดมาสัก1อย่างครับ จะได้เปิดหูเปิดตากบในกะลาอย่างผมบ้าง เพราะผมโง่ไม่ได้รู้อะไรมากมายเลย ถ้าได้สื่อที่คุณคิลเลอร์ยกมา ผมอาจจะฉลาดขึ้นก็ได้ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
สมาชิกเสรีไทย#232 เด็กใหม่ผู้ฝักใฝ่ความจริง
รักการ์ตูนมากแค่ไหน ก็ไม่ทิ้งเรื่องการเมือง
|
|
|
แม่นกฮูก
|
|
« ตอบ #21 เมื่อ: 09-05-2006, 14:52 » |
|
เลือกตั้งพรรคเดียว มันประเทศคอมมูนิสต์นะ เท่าที่รู้
ปี๊ด ปิ๊ว... ให้ได้อย่างนี้ซิ สั้นๆแต่ได้ใจความ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Can ไทเมือง
|
|
« ตอบ #22 เมื่อ: 09-05-2006, 17:21 » |
|
เอ้า...แถมอีกดอก...หน้าเหลี่ยมเว้นวรรค...ไม่มีกฎหมายกำหนด
แต่หน้าเหลี่ยม มันกลัวตายเอง...กลัวทำบ้านเมืองไปไม่รอด ( กระมัง )
กฎหมายไม่ได้ห้าม...แต่พอหลังจากขึ้น ฮ. ไปหัวหิน
ไม่รู้ว่า..."โดนกระซิบ"....มาหรือเปล่า...นี่ยังเป็นความลับดำมืด
อย่าไปมองอะไรง่าย ๆ ตื้น ๆ....คำถามคือ เย็นวันที่ 4 เมษายน...อะไรดลใจให้หน้ามาร้องไห้หน้าทำเนียบ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
davil amature
|
|
« ตอบ #23 เมื่อ: 10-05-2006, 15:25 » |
|
เลือกตั้งพรรคเดียว มันประเทศคอมมูนิสต์นะ เท่าที่รู้
ปี๊ด ปิ๊ว... ให้ได้อย่างนี้ซิ สั้นๆแต่ได้ใจความ สงสัยต้องกล่าวถึงประเทศคอมมิวนิสหน่อยล่ะครับ สำหรับท่านที่ไม่เข้าใจ ประเทศคอมมิวนิสนั้น " มิได้เลือกตั้ง้พียงพรรคเดียว"แต่อย่างใด แต่มีพรรคอื่น ๆ ลงเลือกตั้งด้วยแต่พรรคเหล่านั้น จะถูกกดขี่บังคับมิให้ได้เป็นรัฐบาล เช่นรัฐบาลทหารพม่า จีน หรือรัฐบาลของโซเวียดสมัยก่อน แต่ประเทศไทยไม่ทราบว่า รัฐบาลเอาปืนไปจี้ฝ่ายค้านไว้มิใ้ห้ลงเลือกตั้งหรือไร ก็ปล่าว เขาตัดสินใจไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งกันเอง ฉะนั้นการอ้างถึงประเทศคอมมิวนิส จังเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องครับ แล้ว สังเกตุ ว่าในบทความจะมีคำว่า "ว่ากันว่า" หมายความว่า ข้อความนี้ไม่มีการยืนยันเป็นหลักฐานที่น่าเชื่อถืออะไร สำหรับผม ผมให้ความเชื่อถือซัก 30% ก็พอแล้วครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ความจริงมันก็แค่สิ่งที่เรารับรู้ และจิตใจเรายอมรับว่าจริง ทั้ง ๆ ที่ความจริงมันไม่ใช่เลยก้ได้
|
|
|
ปุถุชน
|
|
« ตอบ #24 เมื่อ: 10-05-2006, 16:34 » |
|
เลือกตั้งพรรคเดียว มันประเทศคอมมูนิสต์นะ เท่าที่รู้
ปี๊ด ปิ๊ว... ให้ได้อย่างนี้ซิ สั้นๆแต่ได้ใจความ สงสัยต้องกล่าวถึงประเทศคอมมิวนิสหน่อยล่ะครับ สำหรับท่านที่ไม่เข้าใจ ประเทศคอมมิวนิสนั้น " มิได้เลือกตั้ง้พียงพรรคเดียว"แต่อย่างใด แต่มีพรรคอื่น ๆ ลงเลือกตั้งด้วยแต่พรรคเหล่านั้น จะถูกกดขี่บังคับมิให้ได้เป็นรัฐบาล เช่นรัฐบาลทหารพม่า จีน หรือรัฐบาลของโซเวียดสมัยก่อน แต่ประเทศไทยไม่ทราบว่า รัฐบาลเอาปืนไปจี้ฝ่ายค้านไว้มิใ้ห้ลงเลือกตั้งหรือไร ก็ปล่าว เขาตัดสินใจไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งกันเอง ฉะนั้นการอ้างถึงประเทศคอมมิวนิส จังเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องครับแล้ว สังเกตุ ว่าในบทความจะมีคำว่า "ว่ากันว่า" หมายความว่า ข้อความนี้ไม่มีการยืนยันเป็นหลักฐานที่น่าเชื่อถืออะไร สำหรับผม ผมให้ความเชื่อถือซัก 30% ก็พอแล้วครับ ขอแนะนำให้ไปฟังพระราชดำรัสและข้อวินิจฉัยของ 3 ศาลประกอบเสียแล้ว......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
|