ข้อคิด คำคม

[เสลา]

ความคิดเสรีเป็นสิ่งที่ดี แต่ความคิดที่ถูกต้องย่อมประเสริฐสุด
มาจาก (ลุง)ถึก สไลเดอร์

การเอาชนะฝ่ายตรงข้ามได้เป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ
แต่การดึงเอาศัตรูมาเป็นพวกเดียวกับเราได้เป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่กว่า - : ป้าเสลาส่งมา

[(-O-)Koka]

ในที่สุดผู้สมควรมาก็มาแล้ว
ผู้ไม่คิดจะมาก็ยังมิอาจที่จะไม่มา ณ สโมสรริมน้ำแห่งนี้- : ป้าเสลา

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

"คำพูดที่มีค่า ต้องออกมาจากจิตใจ"


:ดอกฟ้าฯ

[หาเพื่อนหยิงคุยแก้เหงาครับ]

การ ชนะทุกครั้ง ไม่ได้ เป็นสิ่งที่วัดว่าคุณเก่งที่สุดเสมอไป     

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

"คนที่ตกอยู่ในความโกรธ มักจะโทษผู้อื่น"

:ดอกฟ้าฯ

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

ป้าเหลาขา ขออนุญาตมาแจมกระทู้ป้านะคะ

เหล่กระทู้นี้มานานแล้วค่ะ

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

คนที่พูดโกหก...จะต้้องพกความจำที่ดีมาก

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

ความยุติธรรมประกอบด้วยความเมตตากรุณา

เช่นเดียวกับความเมตตากรุณาก็ต้องประกอบด้วยความยุติธรรมเช่นกัน


: มหาตมะ คานธี

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

มีเรื่องของคนตัวเล็กที่มีหัวใจรักที่ยิ่งใหญ่มาฝากทุกคนค่ะ .....

ที่หน้าโบสถ์แห่งหนึ่ง ในเมืองฟิลาเดเฟีย เด็กผู้หญิงคนหนึ่งกำลังยืนร้องไห้อยู่

เธอถูกยามห้ามไม่ให้เข้าไปในโรงเรียนของโบสถ์เพราะว่ามีคนแน่นแล้ว ไม่มีที่นั่งเหลือสำหรับเธอ
 
"ฉันเข้าไปเรียนข้างในไม่ได้" เธอเดินสะอื้นมาใกล้ๆ

บาทหลวงองค์หนึ่ง บาทหลวงองค์นั้นเห็นเธอเนื้อตัวมอมแมม ผมเผ้าไม่ได้สระ ก็พอจะเดาออกว่า
 
"เธอร้องไห้เพราะอะไร"
 
จึงพาเด็กผู้หญิงเข้าไปข้างใน หาที่ให้นั่ง เพื่อให้เธอได้เรียน

คืนวันนั้น เธอกลับไปยังห้องเช่าของครอบครัวของเธอพลางพูดกับตัวเองว่า
 
"วันนี้ เป็นวันที่ฉันมีความสุขมากที่สุดในชีวิต" ก่อนเข้านอนเธอก็ยังนึกถึงเด็กคนอื่นๆ ที่ไม่มีโอกาสได้เรียน…

หลังจากนั้นประมาณสองปี เธอได้เสียชีวิตลง บาทหลวงคนที่เคยช่วยเหลือเธอก็มาช่วยจัดงานศพให้ที่ห้องเช่า

ในขณะที่เคลื่อนศพก็พบกระเป๋าสตางค์เก่าๆ ใบหนึ่งตกอยู่ ข้างในนั้นมีเงินอยู่ 57 เซนต์

แล้วก็มีเศษกระดาษอยู่ชิ้นหนึ่งเขียนด้วยลายมือแบบเด็กๆ ว่า

"เงินสำหรับช่วยสร้างโรงเรียนให้ใหญ่ขึ้น เพื่อให้เด็กคนอื่น มีโอกาสเรียนด้วย"

เป็นเวลาสองปีเต็มๆ ที่เด็กผู้หญิงพยายามเก็บสะสมเงินที่เธอหามาได้ เพื่อให้เด็กคนอื่นๆ ได้มีที่เรียนเหมือนเธอ

เมื่อบาทหลวงได้อ่านกระดาษแผ่นนั้น ก็รู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอันมาก และรู้ทันทีว่าจะต้องทำอะไรต่อไป

เขาได้นำเรื่องราว การเสียสละ และความไม่เห็นแก่ตัวของเธอไปเทศน์ในโบสถ์

และพยายามที่จะรวบรวมเงินบริจาคให้มากพอที่จะสร้างตึกให้ใหญ่ขึ้นได้

แต่เรื่องไม่ได้จบแค่นั้น หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งได้ตีพิมพ์เรื่องนี้ แล้วก็มีเศรษฐีที่ดินคนหนึ่งเสนอที่จะแบ่งขายที่ดินให้

 แต่พอรู้ว่าทางโบสถ์ไม่มีเงินพอที่จะซื้อได้ เศรษฐีจึงบอกบาทหลวงว่า

"ผมอยากขายที่ดินให้ในราคา 57 เซนต์" จากนั้นก็มีผู้คนมากมายมาร่วมบริจาค

ในระยะเวลา 5 ปี จากความตั้งใจของเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ เงินเพียง 57 เซนต์


 เพิ่มขึ้นเป็น 250,000 เหรียญ ความเสียสละอันยิ่งใหญ่ของเธอผลิดอก ออกผลมากมาย

เมื่อคุณเข้าไปในเมืองฟิลาเดเฟีย คุณจะได้เห็นโบสถ์ มหาวิทยาลัย

และ โรงพยาบาลที่คิดค่ารักษาพยาบาลในราคาถูก และโรงเรียนสำหรับเด็กยากจนตั้งแต่นั้นมา

เด็กทุกคนก็มีโอกาสเล่าเรียนตามใจปรารถนา

ทุกคนที่ได้มีโอกาสมาเยี่ยมโรงเรียนแห่งนี้จะเห็นรูปของเด็กผู้หญิงซึ่งเป็นเจ้าของเงิน 57 เซ็นต

์ อันเป็นแบบอย่างแห่งการเสียสละที่ทำให้เกิดเรื่องราวอันน่าทึ่งนี้
 
ใกล้ๆ กันนั้น ก็มีรูปของบาทหลวงผู้ใจดี ดอกเตอร์ รัสเซล เอช. คอนเวล

ผู้แต่งหนังสือเรื่อง "Acres of Diamonds"

เรื่องแบบนี้ ถึงจะเคยอ่านแล้วได้อ่านอีกครั้งก็คงไม่เป็นไรเนอะ...



...........................................................................


Fw.mail จากเพื่อนที่แสนประทับใจ..................


เรื่องนี้...สอนให้เรารู้ว่า ความเป็นมนุษย์ที่รู้จัการให้......อาจต่อยอดให้คนหันมาตระหนักและ

เอื้อเฟื้อซึ่งกันและกันไม่มากก็น้อย ยังดีกว่าไม่ยอมทำอะไรแม้แต่จะคิด

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

เมื่อใดที่การปกครองเกิดความชั่วร้ายขึ้นจนถึงกับทนไม่ไหว

เมื่อนั้นมนุษย์ก็ต้องยอม เสียสละแม้แต่เสรีภาพส่วนตัว

เข้าต่อสู้ด้วยวิธีการด้วยวิธีของ...อหิงสา



มหาตมะ คานธี

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

ก้านบัว....บอกความลึกตื้นของน้ำ

ถ้อยคำที่เอ่ยมา.....บอกถึงสติปัญญาของผู้พูด

[(ลุง)ถึก สไลเดอร์]

การพูดความจริง เหมือนการจุดเทียนให้มันสว่าง
คนพูดย่อมเจ็บปวด เหมือนเปลวไฟที่เผาไหม้ไส้เทียน ฉันใดก็ฉันนั้น

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

มนุษย์ที่เกิดมาด้วยทรัพย์สินเงินทองอันมากมาย

แต่ขาดซึ่งปัญญา..... อันทำให้ไม่อาจรักษาทรัพย์นั้นได้

ผิดกับผู้อุดมด้วยปัญญา..... จะโดนปล้นไปกี่ครั้งก็สามารถใช้ปัญญาเพิ่มพูนทรัพย์มาได้เสมอ

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

คบคนให้ดูหน้า...ซื้อผ้าให้ดูเนื้อ


สุภาษิตโบราณ...



คบคนที่เหลือเชื่อ...ห้ามดูเนื้อ ห้า่มเชื่อหน้า

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

อันชั่วดี ถี่ห่าง ยามย่างก้าว
เราควรเฝ้า ตรองจิต คิดไฉน
ทำดีแล้ว ได้ชั่ว อย่ากลัวไป
ทำดีไซร้ ย่อมดีแน่ อย่าแพ้ตน..

[เสลา]

สวัสดีค่ะคุณดอกฟ้าฯ
ผ่านมาเห็นกระทู้นี้
เลยต้องแจมหน่อย

"คบคนให้ดูชื่อ แซ่ (เทือกเถาเหล่ากอ)
ถ้าจะดูให้แน่..แน่ ต้องดูถึง statement"

อิ..อิ... ล้อเล่น สนุกๆนะ
สมัยนี้ statement รายการหมุนเวียนเงินในบัญชี ยังปลอมได้นะ
เอาอะไรแน่นอน ไม่ค่อยจะได้หรอก 

[see - u]

*  แจมด้วยคนนะคะป้าเหลา  ......

    ~   ถ้าอยากได้ใจของใคร  ....  ก็ควรใช้    " ใจซื้อใจ "   ซึ่งกันและกัน  ~
    ง่า ...  ถึงจะฟังลิเกหน่อย ๆ  แต่  เอ้  คิดเองนะเนี่ยยย     

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

สวัสดีค่ะคุณดอกฟ้าฯ
ผ่านมาเห็นกระทู้นี้
เลยต้องแจมหน่อย

"คบคนให้ดูชื่อ แซ่ (เทือกเถาเหล่ากอ)
ถ้าจะดูให้แน่..แน่ ต้องดูถึง statement"

อิ..อิ... ล้อเล่น สนุกๆนะ
สมัยนี้ statement รายการหมุนเวียนเงินในบัญชี ยังปลอมได้นะ
เอาอะไรแน่นอน ไม่ค่อยจะได้หรอก 

สวัสดีค่ะ...ดีใจมากๆที่เห็นเจ้าของกระทู้มาร่วมแจม

อิ อิ...แอบยึดกระทู้ป้ามาตั้งนาน

ที่ป้าว่ามา เรื่องคบคนให้ดูเทือกเถาเหล่ากอ ชื่อแซ่

ดอกฟ้าฯก็เคยค่ะ...ว่าดูดีๆแล้วเชียว ดันหลังหัก...เพิ่งถอดเผือกมาไม่นานนี้ค่ะ

บังเอิญไปเจอพวก "ไผ่ลอดกอ"

ปล. ตอนนั้นลืมเช็คเครดิตบุโรค่ะป้า อิ อิ

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

*  แจมด้วยคนนะคะป้าเหลา  ......

    ~   ถ้าอยากได้ใจของใคร  ....  ก็ควรใช้    " ใจซื้อใจ "   ซึ่งกันและกัน  ~
    ง่า ...  ถึงจะฟังลิเกหน่อย ๆ  แต่  เอ้  คิดเองนะเนี่ยยย     

"ใจซื้อใจ" คมที่เดียวค่ะน้องเอ้...

แต่คนบางคนเค้าไม่อยากได้ความจริงใจก็มีนะคะ

เพราะเค้าแสวงหาและต้องการอย่างอื่นมากกว่า

เราเลยต้องแทะแห้วไปพลางๆ พี่ดอกฟ้าฯเจอมาแล้ว 

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

ผู้ที่ไม่รู้จักความละอาย...ย่อมไม่ได้การตอบรับจากวิญญูชน

[เสลา]

...........

เราเลยต้องแทะแห้วไปพลางๆ พี่ดอกฟ้าฯเจอมาแล้ว 

เดี๋ยวนี้ "แห้ว" เปลี่ยนชื่อเรียกเป็น "สมหวัง" แล้ว 

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

อิ อิ สมหวัง

สมหวังไม่ได้เป็นอย่างที่คิด

ก็เลยผิดที่สมใจไม่สมหวัง

ผิดตรงนู้น..โน่น..นี่...มีมากจัง

เลยต้องนั่ง..แทะแห้วอีกแล้วเชียว....



คิดถึงป้าเสลา...

เดี๋ยวจะตามไปหลอกหลอนที่อรุณสวัสดิ์ค่ะ

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

....จงพูดให้ช้าลง  แต่คิดให้เร็วขึ้น....

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

แมวเลียขนคนเลียแข้งแสร้งเปรียบไว้
เผื่อคนได้คิดถึงความผึ่งผาย
เลิกเลียแข้งเลียขามันน่าอาย
เกียรติและกายแมว-คนสร้างมาต่างกัน


แมวเลียขน คนเลียแข้ง.....

ประทีป อินทร์เลิศ

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

ชุมนักผักคนช้อน            นอนแซง
บอนสุพรรณหั่นแกง         อร่อยแท้
บอนบางกอกดอกแสลง    เหลือแหล่ แม่เอย
บอนปากยากจักแก้         ไม่สิ้น ลิ้นบอน


นิราศสุพรรณ

สุนทรภู่......

[สมชายสายชม]

 

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

 

กาถูก ทุกข้อค่ะ...

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

สอนพวกสัตว์ขัดใจไร้ประโยชน์
สอนคนโฉดดื้อเห็นไม่เป็นผล
สอนบัณฑิตผิดหมายจะอายคน
สอนใจตนนั่นแหละเลิศประเสริฐเอย


ชาญ สิโรรส

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

คิดก่อนทำ


เห็นตอหลัก ปักขวาง หนทางอยู่
พิเคราะห์ดู ควรทิ้ง แล้วจึงถอน
เห็นเต็มตา แล้วอย่า ทำปากบอน
ตรองเสียก่อน จึงค่อยทำ กรรมทั้งมวล

...ภาษิตอิศรญาณ

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

คนที่กล้าหาญในวันนี้ คือคนที่ผ่านสมรภูมิแห่งความกลัว มาแล้วทั้งสิ้น

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

คนชั่วเหมือนกับหม้อดิน.... แตกสลายง่ายและซ่อมยาก

แต่คนดีเปรียบเหมือนหม้อทอง.... ยากที่จะแตกแต่ประสานง่าย



หิโตปเทศ....

[โต มิ โต โชว์ ดะ]

.........

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

"ความใดที่ขยายขอบเขตกว่าความเป็นจริง......


.........วิญญูชนพึงพิจารณา ในสารัตถะ"

[ปรมาจารย์เจได]

ไม่มีลิมิต ... ชีวิตเกินร้อย

[นาคราช]

♦  ♦  ♦


๛๛๛

นักรบผู้เชี่ยวชาญ ไม่โอ้อวดฝีมือ

แม่ทัพผู้ช่ำชอง ไม่แสดงอารมณ์

๛๛๛

[นาคราช]

♦  ♦  ♦




๛๛๛

รู้จักผู้อื่น เรียกว่าผู้รู้  *****  รู้จักตนเอง จึงเรียกว่า ผู้มีปัญญา 

พิชิตผู้อื่นได้ เรียกว่าผู้มีกำลัง ***** ชนะตนเองได้  จึงเรียกว่าผู้กล้า

รู้จักพอ ไม่กอบโกย ***** จึงเป็นผู้มั่งคั่ง 

วิถีของผู้กล้าย่อมมีอุดมการณ์ ***** แม้ชีพวายปราณแต่ชื่อยังคงสถิตยั่งยืน

๛๛๛

[ปรมาจารย์เจได]

ขอฝากนี่ไว้หน่อยละกัน รู้สึกชอบคำคมภาษิตนี้
เลยนิยามความหมายใหม่

สองคนยลตามช่อง คนหนึ่งมองเห็นโคลนตม อีกหนึ่งคนเห็นดวงดาวอยู่พราวพราย

เปรียบถึงการมือง... คนหนึ่งเห็นแบบหนึ่ง และอีกคนเห็นอีกแบบหนึ่ง(แถมอ้างว่าเห็นในสิ่งที่ดีกว่าซะด้วย)

คนแรกเนี่ยคือคนเห็นตม ซึ่งโดนคนที่ 2 บอกว่าพวกเนี๊ยเปรียบเสมือนพวกไม่สร้างสรรค์ บ้องตื้น โง่ สู้พวกข้าที่เห็นดวงดาวไม่ได้
คนที่มองเห็นโคลนตม อยากชมตม ยังวิ่งไปใส่ตมได้ รู้ได้ว่ามันคือตม มีดิน + น้ำ + เศษหินดินทรายนิโหน่ย ตามสภาพภูมิประเทศ

ส่วนอีกคน คือคนประเภทที่ 2 บอกว่าเห็นดวงดาวอยู่พราวพราย
มันก็เห็นแค่ตา  มันก็ทำได้แค่นั้นแหละ นั่งจินตนาการน้ำแตกไปว่าข้าเนี่ย สุดยอด เห็นดวงดาว ไม่เหมือนเอ็ง ที่เห็นซากโคลนตม
แต่ความเป็นจริงนั้น มันก็ได้แค่เห็น แค่ยืนมองดาวระยิบระยับ นั่งจินตนาการน้ำแตกไปว่าดาวเนี่ย สวยงามเหลือเกิน
และคนประเภทนี้อาจขาดความรู้เรื่อง สปช มาตั้งแต่เยาว์วัย เรื่องดวงดาว ดาวฤกษ์ ดาวเคราะห์ ผิวดาว และระบบสุริยจักรวาล

อย่าถามว่าคนประเถทที่ 2 ในภาษิตนี้เป็นคนยังไงเลยครับ อย่าถามว่ามันเห็นอะไร อย่าถามว่าบนดาวนั้นสวยจริงหรือไม่ ดีกว่าตมยังไง
เพราะปัญญาจะออกไปจากชั้นบรรยากาศสตาโทสเฟียร์ ยังมิทราบได้ว่าจะไปยังไง ก็คงได้แค่เหม่อมองดาว แล้วก็จินตนาการน้ำแตกว่ากรูเจ๋งต่อไปนั่นแหละครับ
แท้จริงแล้ว  ผิวดวงดาวก็ไม่ได้ต่างอะไรไปจากเศษหินดินทรายเลยครับ ความสวยงามของดวงดาวพราวพรายที่เห็นนั้นมันก็แค่สิ่งลวงตาครับ แสงระยิบระยับที่ส่องบนท้องฟ้าก็ยืมแสงจากคนอื่นมา หาใช่แสงจากตัวเอง

สุดท้ายแล้วก็บ้องตื้นติดกับภาพลวงตาแล้วก็นึกไปว่าดวงดาวที่ตัวเองเห็นนั้นสวยงามกว่าโคลนตม

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

ขอบคุณ...ทั้งสองท่านค่ะ

ที่นำข้อคิด...ดีๆมาฝาก

ขอบคุณและขอบคุณ.........

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

ขึ้นชื่อว่า ทุรชน... ไม่ควรใครจะผูกเป็นมิตรหรือแม้แต่ตีสนิทด้วย

ถ่านไฟเมื่อร้อน....ถูกมือก็ไหม้พอง

ดับเย็นแล้ว........ถูกมือก็เปื้อนดำ


หิโตปเทศ....

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

ฤาษีกินเหี้_ย


   ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้า ประทับอยู่วัดเชตวัน เมืองสาวัตถี

ทรงปรารภภิกษุผู้หลอกลวงรูปหนึ่ง ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธกว่า...


   กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีดาบสผู้มีตบะกล้าตนหนึ่ง เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้าน

จึงได้สร้างศาลาไว้ให้ที่ชายป่าแห่งหนึ่งใกล้บ้าน ครั้งนั้น พระโพธิสัตว์ได้เกิดเป็นเหี้_ยตัวหนึ่ง

อาศัยอยู่ที่จอมปลวกแห่งหนึ่ง ใกล้ที่จงกรมของดาบสนั้น มันจะไปหาดาบสวันละสามครั้งเป็นประจำทุกวัน

เพื่อฟังธรรม ไหว้ดาบสแล้ว จึงกลับไปอยู่ที่อยู่ของตน


   ต่อมาไม่นาน ดาบสนั้น ได้อำลาชาวบ้านไปที่อื่น ได้มีดาบสโกงตนหนึ่ง เข้ามาอาศัยในศาลานั้นแทน

***พระโพธิสัตว์ก็คิดว่า แม้ท่านผู้นี้ก็ทรงศีลเหมือนกัน จึงไปหาดาบสนั้นเช่นเดิม

   อยู่มาวันหนึ่ง ฝนได้ตกมาในฤดูแล้ง ฝูงแมลงเม่าได้พากันบินออกจากจอมปลวกเป็นจำนวนมาก

ฝูง***ก็ได้ออกมากินแมลงเม่าเหล่านั้น พวกชาวบ้านพากันออกมาจับ***แล้วปรุงเป็นอาหาร

รสอร่อยนำมาถวายดาบส ดาบสได้ฉันเนื้อนั้นแล้วติดใจในรส เมื่อทราบว่าเป็นเนื้อ*** จึงคิดได้ว่า


     " มี***ใหญ่ตัวหนึ่งมาหาเราเป็นประจำ เราจะฆ่ามันกินเนื้อ "

จึงให้ชาวบ้านเอาเครื่องปรุงมาไว้ให้ ได้นั่งถือค้อนห่มคลุมผ้าอยู่ที่ประตูศาลา

   เย็นวันนั้น ***โพธิสัตว์ ได้ไปหาดาบสตามปกติ ได้เห็นท่านั่งที่แปลกของดาบส คิดว่า

" วันนี้ดาบส นั่งท่าที่ไม่เหมือนวันก่อน นั่งชำเลืองเราเป็นประจำ "

จึงไปยืนดูอยู่ใต้ทิศทางลม ได้กลิ่นเนื้อ*** จึงทราบว่า

" ดาบสโกงนี้ คงฉันเนื้อ*** ติดใจในรสแล้ว คราวนี้ หวังจะตีเรา เอาเนื้อไปแกงเป็นอาหารแน่ๆ "

จึงไม่ยอมเข้าไปใกล้ ถอยกลับแล้ววิ่งหนีไป


   ฝ่ายดาบสโกงทราบว่า***รู้ตัวไม่ยอมมาแล้ว จึงลุกขึ้นขว้างค้อนตามหลังไป ค้อนได้ถูกเพียงหาง***เท่านั้น

***ได้หลบเข้าไปในจอมปลวกอย่างรวดเร็ว โผล่เพียงศีรษะออกมาเท่านั้น กล่าวติเตียนดาบสด้วยคาถานี้ว่า


  " นี่เจ้าผู้โง่เขลา จะมีประโยชน์อะไรแก่เจ้า ด้วยชฎาและการนุ่งห่มหนังเสือเหลือง

       ภายในของเจ้าแสนจะรกรุงรัง เจ้าดีแต่ขัดสีภายนอกเท่านั้น   "




   นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า....     
      
อำนาจของความอยาก ทำให้คนลืมตัว.....


http://www.dhammathai.org/chadoknt/chadoknt152.php

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

เป่าปี่ให้แรดฟัง....


เป่าปี่เสียงเสนาะให้     แรดฟัง
มันไม่รู้เพลงดัง           แปลกแท้
กล่าวธรรมที่ทุกขัง      พาลโหด หื่นนา
เหลือที่จะกล่าวแก้      โหดให้สว่างไสวฯ


จาก..หนังสือสุภาษิตโบราณ สอนใจ....

[โต มิ โต โชว์ ดะ]

ยาดีกินขมปากแต่เป็นประโยชน์แก่คนไข้ คนซื่อกล่าวคำไม่เพราะหูแต่เป็นประโยชน์แก่กาลภายหน้า







เจ้าพระยาพระคลัง (หน)

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

ความดื้อรั้นกับความยืนหยัดนั้น แตกต่างกันมาก...

ความพยายามบังคับให้ผู้อื่นเห็นด้วย..........คือความดื้อรั้น

การมีแนวคิดเป็นของตนเองและลงมือปฎิบัติจนผู้อื่นเห็นด้วย

และยอมรับโดยดุษณีภาพ............คือความยืนหยัด




มหาตมะ  คานธี

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

เมื่อเวลาเธอเลือกกินผลไม้ดีๆ

ก็เห็นเธอฉลาดที่เลือกกินแต่ลูกที่มันดี

แต่เห็นอยู่บ่อย เมื่อเวลาเธอพูดถึงใคร

ทำไมจึงไม่เลือกเอาส่วนที่ดีของเขา

มาคิดมาพูดบ้างเลย....





จากหนังสือ....ทุกข์ได้ ก็ทนได้

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

"มีศัตรูเป็นบัณฑิต ดีกว่ามีมิตรเป็นงูเห่า"


บัณฑิต คือผู้มีสติปัญญา และภูมิธรรมดีงามอยู่มาก เขามีเมตตาจิตรู้ให้อภัยศัตรูได้

คือบัณฑิตมีจิตใจสูงทำให้ศัตรูกลายเป็นมิตรได้ พลอยให้ตัวเราคลายจางจากความรู้สึกเป็นศัตรูกันไปได้แล้ว



แต่คนประเภทงูเห่า เสมือนคนที่ไม่มีคุณธรรมโดยเฉพาะธรรมะข้อ "กตัญญูกตเวทิตา"

จึงต้องถอยห่างๆ คนแบบนี้ไว้ปลอดภัยไว้ก่อนจะดีกว่า



จาก....หนังสือคมธรรม พุทธทาสภิกขุ

[(ลุง)ถึก สไลเดอร์]

"อุปมาเหมือนดังลิง นั่งอยู่บนตอไม้ยามวสันต์ฤดู"
นอกจากจะเป็นภาพที่ไม่น่าดูแล้ว ยังไม่สมควรที่จะเอาใจใส่
ต่อมันให้มากนัก
เปรียบได้กับ นายกฯจมูกบาน ที่ได้แต่เห่าไปว้นๆ..แค่นั้นเอง
วัวสันหลังหวะ ขนาดประชาชนที่ได้รับความเดือนร้อน
ลงทุนก้มกราบเพื่อขอความช่วยเหลือ มันยังเกรี้ยวกราดให้เลย
เพราะเกรงว่าสื่อฯจะนำภาพไปล้อเลียน......เอิ้กกกกกก[/color][/size]
 

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

"อุปมาเหมือนดังลิง นั่งอยู่บนตอไม้ยามวสันต์ฤดู"
นอกจากจะเป็นภาพที่ไม่น่าดูแล้ว ยังไม่สมควรที่จะเอาใจใส่
ต่อมันให้มากนัก
เปรียบได้กับ นายกฯจมูกบาน ที่ได้แต่เห่าไปว้นๆ..แค่นั้นเอง
วัวสันหลังหวะ ขนาดประชาชนที่ได้รับความเดือนร้อน
ลงทุนก้มกราบเพื่อขอความช่วยเหลือ มันยังเกรี้ยวกราดให้เลย
เพราะเกรงว่าสื่อฯจะนำภาพไปล้อเลียน......เอิ้กกกกกก[/color][/size]
 

"อุปมาเหมือนดังลิง นั่งอยู่บนตอไม้ยามวสันต์ฤดู"

แบบว่า....ยังไงคะ ไม่แน่ใจว่าจะแปลความหมายถูก...

โปรดเฉลยด้วยค่ะลุงถึก....อิ อิ ไม่รู้จริงๆค่ะ 

เอิ๊กกก..

(ขออนุญาตเลียนแบบ)

[(ลุง)ถึก สไลเดอร์]

ลิงที่นั่งเปียกฝน มะล่อกมะแล่ก มันเป็นภาพ
ที่น่าดูหรือเปล่าครับคุณดอกฟ้าฯ.....เอิ้กกกกกก
เปรียบได้กับนายกนอมินี ที่หน้าเหมือนตือโป้ยก่าย
เกรี้ยวกราดเอากับคนที่ก้มกราบนั่นแล ย่อมเป็นภาพที่ไม่น่าดูเช่นกัน....เอิ้กกกก
 

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

ลิงที่นั่งเปียกฝน มะล่อกมะแล่ก มันเป็นภาพ
ที่น่าดูหรือเปล่าครับคุณดอกฟ้าฯ.....เอิ้กกกกกก
เปรียบได้กับนายกนอมินี ที่หน้าเหมือนตือโป้ยก่าย
เกรี้ยวกราดเอากับคนที่ก้มกราบนั่นแล ย่อมเป็นภาพที่ไม่น่าดูเช่นกัน....เอิ้กกกก
 

ภาพลักษณ์ที่ดูอัปลักษณ์ ไม่อาจบ่งบอกถึงหัวใจคน

แต่...ใครที่มีภาพที่แสดงออกในกริยา..อัปมงคลทั้งปากและใจ...เทวดาและมนุษย์ย่อมไม่สรรเสริญค่ะ..ลุงถึก

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

+++เมาห้าระดับ+++

เวลาที่คุณดื่มเครื่องดื่มมึนเมา ด้วยสาเหตุใดก็ตามจนคุณรู้สึกว่าคุณเมาแล้ว มาดูกันว่าคุณจะเมาได้ถึงขนาดไหน

ซึ่งทางสถาบันดอกเตอร์มาร์ตินได้แบ่งระดับความเมาเหล้าของมนุษย์ไว้ 5 ระดับ ด้วยกัน คือ
 

ระดับที่ 1 : SMART (ฉลาด)

เมื่อคนดื่มเหล้าเข้าไปจนถึงระดับนี้ซึ่งเป็นระดับแรก จะรอบรู้ทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาล และถ้าเป็นผู้บรรยายบอลโลกก็จะรู้ว่าลูกที่เจอร์ราดเตะนั้น

 ครูดต้นหญ้าในสนามตายไปกี่ต้น และมักจะชอบเผื่อแผ่ความรู้ให้ทุกๆคนในบาร์ ความเป็นจริงทุกอย่างในจักรวาลจะถูกนำมาเปิดเผยหมด

ไม่ว่าใครจะพูดเรื่องอะไร คุณจะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านนั้นพอดิบพอดี และคุณจะรู้สึกว่าทุกๆ อย่างที่คนอื่นพูดมาจะเป็นเรื่องผิดไปหมด

ไม่ตรงกับข้อมูลที่คุณมี จึงจะมีการตั้งข้อโต้แย้งต่างๆ กัน
 


ระดับที่ 2 : GOOD LOOKING (ดูดี)

คุณจะเริ่มค้นพบว่า คุณมีรูปร่างหน้าตาดูดีที่สุดในวงเหล้า รวมถึงในละแวกนั้นด้วย และทุกๆ คนเริ่มที่จะหันมาสนใจคุณ

เพราะคุณดูดี แน่นอนคุณสามารถเดินไปคุยกับทุกๆ คนได้ทุกๆ เรื่องด้วย เพราะคุณทั้งดูดีและฉลาด



ระดับที่ 3 : RICH (รวย)

เมื่อมาถึงระดับนี้ คุณจะค้นพบว่าตัวเองนั้นมีเงินมหาศาล คุณสามารถที่จะเลี้ยงเหล้าทุกคนในบาร์ได้

เพราะคุณมีเงินมหาศาล และถ้าใครพูดอะไรผิดหูคุณสามารถท้าพนันได้ทุกเรื่อง เพราะนอกจากคุณรวยและยังฉลาดกว่า นอกจากนี้คุณยังดูดีมากๆ ด้วย



ระดับที่ 4 : BULLET PROOF (คงกระพัน)

เมื่อมาถึงระดับนี้ ตัวคุณจะมีวิชาแก่กล้ากว่าคนทั่วไป เห็นช้างตัวเท่ามด และพร้อมที่จะเข้าห้ำหั่นกับทุกๆ คนได้ เ

พราะไม่มีใครจะทำอันตรายคุณได้ คุณสามารถท้าพนันตีต่อยกับเพื่อนคุณก็ได้

และคุณก็ไม่กลัวแพ้ด้วย เพราะว่าคุณทั้งฉลาด ทั้งดูดี ทั้งรวยและต่อสู้เก่งระดับนักมวยอาชีพ แบบ เขาทราย แกแล็คซี่ เลยละ


ระดับที่ 5 : INVISIBLE (หายตัว)

ระดับความเมาสุดยอด คุณต้องดื่มมากจึงจะเมาถึงระดับนี้ได้ ด้วยความเมา ที่ระดับนี้ คุณสามารถทำอะไรก็ได้

เพราะไม่มีใครเห็นตัวตนที่แท้จริงของคุณ จะไปเต้นรำบนโต๊ะ ขับรถฝ่าไฟแดง แหกปากร้องเพลงบนถนน

 ยืนฉี่รถเสาไฟ ไล่ตีหัวคนอื่นก็ทำได้ เพราะไม่มีใครเห็นคุณ ความเป็นตัวคุณมันไม่เหลืออยู่เลย

แล้วคุณล่ะ...อยู่ในระดับที่เท่าไหร่..คุณเมาแบบไหน

********************************


 Nina The Cat ส่งมาให้

ด้วยความขอบคุณจริงๆนะ....