การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ปัจจุบัน โลกของอินเตอร์เนต โลกของคอมพิวเตอร์ เป็นโลกที่กว้างใหญ่ และเชื่อมถึงกันโดยเกือบจะไม่มีข้อจำกัดใดๆ
นี่คือ "ดาบสองคม" !
เพราะในขณะที่ข้อมูลข่าวสารในโลกอินเตอร์เนต สามารถลื่นไหล เชื่อมต่อ และส่งต่อถึงกันได้อย่างรวดเร็ว ในมุมกลับกัน หากข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลเท็จ หรือข้อมูลที่ก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงแก่ส่วนรวมหรือบุคคล ก็ย่อมจะเกิดผลร้ายอย่างใหญ่หลวงเช่นกัน
การส่งต่อภาพโป๊ คลิปแอบถ่าย หรือภาพลามก หรือข้อความใส่ร้ายป้ายสีใครต่อใคร เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั่วไปในโลกอินเตอร์เนต ยิ่งกว่านั้น อาชญากรรมในโลกอินเตอร์เนต ก็นับวันจะมีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น การฉ้อโกง การหลอกลวง ฯลฯ
ข่าวดี... ขณะนี้ เรามีกฎหมายใหม่ออกมาใช้บังคับ เพื่อควบคุมเกี่ยวกับอินเตอร์เนตและคอมพิวเตอร์ คือ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษามาตั้งแต่วันที่ 18 มิ.ย. 2550 แต่จะเริ่มบังคับใช้จริงๆ ในวันที่ 18 ก.ค. 2550 ที่จะถึงนี้
ข่าวร้าย... ขณะนี้ ท่านผู้ใช้อินเตอร์เนตหรือใช้คอมพิวเตอร์ ทราบหรือยังว่า การกระทำใด ถือเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมายฉบับนี้บ้าง ?
ใครบ้าง ที่อยู่ในฐานะเสี่ยงว่าจะทำผิดกฎหมายฉบับนี้ ซึ่งมีโทษอาญา จำคุกสูงสุดถึงสิบปี !
ในระดับผู้ให้บริการเว็บไซต์ต่างๆ นั้น ต้องเข้าข่ายที่จะต้องรับผิดชอบมากขึ้นแน่ๆ แต่ในระดับผู้ใช้บริการธรรมดาอย่างเราๆ ก็น่าคิดว่ามีอะไรที่ต้องระมัดระวังบ้าง
ลองศึกษากฎหมายฉบับดังกล่าว พบว่า การกระทำของผู้ใช้บริการคอมพิวเตอร์อินเตอร์เนตที่ถือว่าเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ได้แก่ การปลอมแปลงข้อมูลคอมพิวเตอร์ การนำข้อมูลเท็จเข้าไปไว้ในระบบอินเตอร์เนต การเผยแพร่เนื้อหาอันไม่เหมาะสม อาทิ การเผยแพร่ภาพและข้อมูลลามกอนาจาร หรือข้อมูลเป็นเท็จหรือปลอมที่เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ข้อมูลก่อการร้ายหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน
ไม่ใช่แค่ผู้นำข้อมูลเหล่านี้เข้าไปไว้ในระบบอินเตอร์เนต ส่งเข้าอี-เมล์ หรือเว็บไซต์ต่างๆ เท่านั้นที่มีความผิด แต่ผู้ที่เผยแพร่หรือส่งต่อข้อมูลเหล่านี้ ยังถือว่ามีความผิดด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ การเผยแพร่ภาพตัดต่อ ภาพดัดแปลงด้วยวิธีการใดๆ ของบุคคลอื่น ซึ่งน่าจะทำให้ผู้นั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย ก็ถือเป็นความผิด ต้องโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี
ใครที่ถูกนำภาพไปตัดต่อในลักษณะดังกล่าวสามารถดำเนินการร้องทุกข์ได้ หรือถ้าผู้เสียหายตายไปเสียก่อน พ่อแม่ สามีภรรยา หรือลูก ยังมีสิทธิร้องทุกข์ในฐานะผู้เสียหายได้
ต่อไปนี้ ใครที่ชอบเอาภาพดารา ภาพคนดัง หรือภาพตัดต่อ ดัดแปลงของใครต่อใครเข้าไปเผยแพร่ในอินเตอร์เนต ก็จะต้องระวังตัว
นอกจากนี้ บรรดาแฮกเกอร์ที่ชอบเจาะเข้าระบบคอมพิวเตอร์ที่เขาหวงห้ามก็จะมีความผิด และพวกที่ดักรับข้อมูลของผู้อื่นก็จะต้องถูกลงโทษตามกฎหมายนี้ด้วย
โดยเฉพาะใครเข้าไปทำให้ข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นได้รับความเสียหาย ทำลาย แก้ไข หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ก็จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี การฟอร์เวิร์ดเมล์ที่ปกปิดหรือปลอมแปลงแหล่งที่มา หรือส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ไปรบกวนการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่น ก็ถือว่ามีความผิด ต้องโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท
การการเผยแพร่เนื้อหาที่มีลักษณะข้างต้นนี้ ไม่ว่าจะเผยแพร่จากคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือ ผ่านอินเตอร์เนต ก็ล้วนแต่มีความผิดเช่นกัน ดังนั้น ต่อไปนี้ผู้นิยมการฟอร์เวิร์ดเมล์หรือคลิปวีดีโอต่างๆ จะต้องระมัดระวังมากขึ้น เพราะอาจกลายเป็นผู้เผยแพร่เนื้อหาที่มีความผิดตามกฎหมายได้ อย่างพวกคลิปหลุด คลิปโป๊ ภาพตัดต่อ ล้วนแต่เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.นี้
อีกทั้ง กฎหมายฉบับนี้ ยังได้ให้อำนาจศาลยุติธรรมสั่งระงับหรือบล็อกเว็บไซต์ ที่มีถ้อยคำเนื้อหาที่กระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของประเทศ ความสงบเรียบร้อย และศีลธรรมอันดีของประชาชน โดยพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรี อาจยื่นคำร้องพร้อมแสดงพยานหลักฐาน เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งระงับได้
เรียกว่า ต่อไปนี้ การจะบล็อกเว็บไซต์เหล่านี้ จะต้องดำเนินการผ่านทางศาล
ยิ่งกว่านั้น กฎหมายฉบับนี้ ยังสามารถเอาผิดกับผู้ดำเนินการกระทำความผิดนอกราชอาณาจักรไทยได้ด้วย
อย่างกรณีที่ใครจะไปเปิดเว็บไซต์ในต่างประเทศ ดำเนินการออกข้อมูลโจมตีประเทศไทย ทำลายความมั่นคงของประเทศ ทำลาย ดูหมิ่น หรือละเมิดกระบวนการยุติธรรมของประเทศ ดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย ให้ข้อมูลเท็จบิดเบือนแก่ประชาชน หรือนำเสนอข้อมูลอันเป็นเท็จที่ก่อให้เกิดความเสียแก่ผู้อื่นหรือสร้างความตื่นตระหนกแก่ประชาชนคนไทย ก็จะต้องถือเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมายฉบับนี้
จะต้องรับโทษภายในราชอาณาจักร !
[13]
