ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
20-04-2024, 14:38
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  "ระบอบทักษิณ"ลอยแพ กกต. "วาสนา"เตรียมเผ่นจันทร์นี้ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
"ระบอบทักษิณ"ลอยแพ กกต. "วาสนา"เตรียมเผ่นจันทร์นี้  (อ่าน 884 ครั้ง)
บุรุษไร้นาม
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 633


Trust NO ONE !!!


« เมื่อ: 06-05-2006, 10:40 »

โดย ผู้จัดการรายวัน 6 พฤษภาคม 2549 07:58 น.  
 
              "วาสนา"ยันไม่มีเอี่ยวเรื่องยักยอกเงิน 30 ล้าน โบ้ยไปถามผอ.สำนักงานสลากกินแบ่ง ส่วนเรื่องเตรียมยื่นใบลาออกจากประธานกกต.วันจันทร์นี้ "ขอไม่ตอบ ถึงเวลารู้เอง" ด้าน"สุริยะใส"ชี้ปรากฏการณ์สติแตก บ่งบอกว่าระบอบทักษิณได้ลอยแพกกต.เรียบร้อยแล้ว แนะกู้ศรัทธาด้วยการชี้ขาดคดีจ้างพรรคเล็กและคดี"แม้ว"ทำผิดกม.เลือกตั้ง "โคทม"เผยหากศาลสั่งเลือกตั้งโมฆะ วอนช่วยชี้ถึงสถานภาพส.ส.ด้วย ขณะที่ปชป.เตือนให้สงบสติอารมณ์ แล้วทบทวนใครทำชาติพัง ยันกกต.ลาออกหมดก็ไม่เป็นปัญหาต่อการเลือกตั้งใหม่ ด้าน"ชิดชัย"และพลพรรคทรท.ยังหลับหูหลับตาบอกว่าที่ผ่านมาไม่เห็นกกต.ทำอะไรผิด
       
       เมื่อวานนี้ (5พ.ค.)พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนค์ คลื่น 98.0 เมกกะเฮิร์ต ถึงกระแสข่าวเตรียมร่างจดหมายลาออกจากตำแหน่งประธาน กกต.ในวันจันทร์ที่ 8 พ.ค.นี้ ว่า ขอไม่ตอบเมื่อถึงเวลาก็รู้เอง เมื่อถามว่าที่ไม่ตอบ อยู่ในระหว่างตัดสินใจหรือไม่ พล.ต.อ.วาสนา กล่าวว่า ขออนุญาตไม่ตอบ
       
       ส่วนกรณีที่ นายเกรียง วิศิษฐ์สรอรรถ กรรมการและเหรัญญิกสมาคมรัฐธรรมนูญเพื่อประชาธิปไตย ยื่นฟ้อง ประธานกกต.กรรมการกกต.และเลขาธิการกกต.ว่ายักยอกเงินการทำกิจกรรมที่ได้จากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลไปใช้จ่าย 30 ล้านบาท โดยเฉพาะมีการนำไปศึกษาดูงาน พล.ต.อ.วาสนา กล่าวว่า เรื่องนี้ตนเพิ่งมาทราบเมื่อไม่กี่วันนี้เอง เรื่องจริงๆ ขอให้ลองไปถามพล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลว่า ตนเข้าไปเกี่ยวข้องอะไร ตรงไหนบ้างหรือไม่ ตนมาทราบภายหลังประมาณ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาว่า มีนายกสมาคมรัฐธรรมนูญเพื่อประชาชนที่เป็นอดีตนายทหารคนหนึ่ง
       
       เมื่อถามว่าใช่ พล.อ.ปัญญา สิงห์ศักดา หรือไม่พล.ต.อ.วาสนา กล่าวว่า จำไม่ได้ เพราะไม่ได้สนใจและไม่ได้เกี่ยวข้อง ไปขอเงินสนับสนุนมาจากสำนักงานสลากกินแบ่งฯ แล้วเข้ามาขอทำโครงการร่วมกับกกต.เช่นเดียวกับองค์กรอื่นๆ อีกมากมายที่มาทำงานร่วมกัน เช่น เรื่องการให้ความรู้กับประชาชนเป็นต้น ซึ่งกลุ่มนี้เขาก็ทำกันไป ดังนั้นเขาจะใช้จ่ายกันอย่างไร ตนไม่รู้เรื่อง เพราะไม่เคยเห็นเงิน หรือไม่เคยไปยุ่งเรื่องเงินด้วย
       
       "คุณเกรียงก็เข้ามาหาผม มาเล่าเรื่องให้ฟัง ผมก็ชี้แจงไปว่าผมไม่รู้เรื่องนี้ แม้แต่เรื่องเงินผมก็ไม่รู้ว่ามาจากไหน ผมก็มารู้วันที่คุณเกรียงมาหาผม ก็ไม่เป็นไรหรอกครับ เดี๋ยวก็เจอกันที่ศาล ไปถามคุณสุรสิทธิ์ สิครับว่าผมเคยไปกองสลากฯ เคยเจรจาอะไรกับเขาไหม" ประธานกกต.กล่าว
       
       พล.ต.อ.วาสนา กล่าวว่า ไม่ได้แค่ทำงานกันมาแค่ 2 สัปดาห์ เพราะในเรื่องการทำงานกับสมาคม โดยสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเสนอเรื่องขึ้นมา และได้ดูโครงการต่างๆ แต่ไม่ได้ไปรับเงินรับทองใคร ซึ่งกกต.ก็ทำงานร่วมมากับหลายองค์กร เช่น มูลนิธิคอนราด อเดนาว หรือ กระทรวงทบวงกรมต่างๆ ก็มีจำนวนมาก ที่ทำร่วมกัน เพื่อให้ความรู้ประชาชน กกต.ก็พิจารณาเพื่ออนุมัติโครงการไป และสมาคมเขาก็ไปดำเนินการกัน ดังนั้นเขาจะทำกันอย่างไรต่อไปตนไม่ทราบ เพราะก็เพิ่งมารู้ว่ามีการทุจริตกันเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา และเรื่องนี้ก็มีการเสนอมายังคณะกรรมการ กกต.เป็นเวลานานกว่า 1 ปีแล้ว
       
       เมื่อถามว่ากรณีนี้องค์กรอาจนำชื่อ กกต.ไปขอเงินจากกองสลากฯ พล.ต.อ.วาสนา กล่าวว่า ไม่ขอวิจารณ์ เพราะว่าทุกองค์กรที่เข้ามาร่วมทำงานกับกกต.ไม่เคยมีปัญหาเช่นนี้ ไม่เคยมีปัญหาทุจริตอะไรเลย ใครจะทุจริตกัน ตนไม่ทราบจริงๆ เมื่อถามว่า แต่ในคำบรรยายฟ้องมีการพาดพิงคนในกกต.ด้วยพล.ต.อ.วาสนา กล่าวว่า ไม่ทราบจริงๆว่าใครจะเข้าไปเกี่ยวข้อง (อ่านรายละเอียด "เบื้องลึกกกต.ซิกแซกเงินกองสลาก30ล้าน"หน้า 11)
       
       **ชี้กกต.ถูกลอยแพจากระบอบทักษิณ
       
       นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการ ครป.และผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงกรณีที่พล.ต.อ.วาสนา ออกมาด่ากราดถึงฝ่ายต่างๆไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมือง นักวิชาการ รวมทั้งสื่อมวลชน ว่าเป็นต้นตอที่ก่อให้เกิดวิฤติการเมือง ว่า ประธานกกต.จะต้องทบทวนบทบาทของตนเองอย่างตรงไปตรงมามากกว่าจะไปกล่าวโทษผู้อื่น เพราะหาก กกต.ทำงานอย่างอิสระจริงๆ ปัญหาจะไม่บานปลายมาขนาดนี้ และหากจำกันได้ ในในตอนที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ประกาศยุบสภา และกำหนดวันเลือกตั้ง 2 เม.ย.นั้น ประธาน กกต.ขานรับทันทีว่าพร้อม ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่า กกต.ไม่มีความพร้อม และควรโต้แย้ง หรือเสนอความเห็นเรื่องกำหนดวันเลือกตั้งให้ไกลออกไป แต่กลับทำงานเหมือนสนองรัฐบาลจนเกินไป จนทำให้ทุกอย่างสายเกินแก้
       
       นอกจากนี้ ที่ผ่านมา กกต.มีทางเลือกและทางออกอื่นๆ หลายทางเพื่อคลี่คลายวิกฤติการณ์ แต่ กกต.ก็ไม่ได้เลือก แม้จะมองเห็นทางออกเหล่านั้นก็ตาม ได้แต่ก้มหน้าก้มตาเดินหน้าจัดการเลือกตั้งที่ตลกที่สุดในโลก จึงสะท้อนให้เห็นถึงการขาดความเป็นอิสระ และสูญเสียซึ่งศักดิ์ศรีขององค์กร จนสังคมเสื่อมศรัทธาอย่างรุนแรง
       
       "ผมคิดว่าอาการของประธาน กกต.เป็นอาการเดียวกับนายโสภณ เพชรสว่าง และทีม ส.ส.ไทยรักไทย ที่หมิ่นเหม่ต่อการไม่รับสนองกระแสพระราชดำรัส และเป็นอาการข้างเคียงจากอำนาจอันล้นระบบ ของระบอบทักษิณ เพราะ 5 ปี ของรัฐบาลทักษิณ สะสมอำนาจด้วยการแทรกแซงองค์กรอิสระไว้ในกำมือจนหมด เมื่อระบอบทักษิณถูกท้าทายอำนาจ องค์กรที่เป็นเมืองขึ้นก็จะถูกปล่อยให้โดดเดี่ยว พึ่งตัวเอง หรือตัวใครตัวมัน และอำนาจขาลงแบบนี้จะมีลักษณะอันธพาลสูงขึ้น และเชื่อว่าครั้งนี้จะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย แต่เราจะเห็นอาการดิ้นหนีความตายขององค์อำนาจอื่นตามมาเรื่อยๆ"นายสุริยะใส กล่าว และว่าอันที่จริงแล้ว กกต.ยังมีโอกาสที่จะเรียกศรัทธากลับคืนมา ด้วยการวินิจฉัยคดีพรรคใหญ่จ้างพรรคเล็กลงเลือกตั้ง และคดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีพฤติการณ์ผิดกฎหมายเลือกตั้ง ทั้ง 2 คดี ถือว่ามีมูล และสังคมก็เฝ้าดูคำวินิจฉัยของกกต.อยู่ แต่ถ้ากกต.ตัดสินออกมาเป็นที่กังขาของสังคม ก็ถือว่าสายป่านศรัทธาขาดหมดทุกเส้น และกกต.ก็จะไม่เหลือโอกาสใดๆอีกแน่
       
       **"แก้วสรร"ชี้กกต.สมควรถูกด่า
       
       นายแก้วสรร อติโพธิ รักษาการ ส.ว.กทม.กล่าวว่า ที่ผ่านมากกต.ทำไม่ถูกในหลายเรื่อง ส่วนจะถือว่าเป็นการรับใช้พรรคการเมืองใหญ่หรือไม่ ตนพูดไม่ได้ แต่การที่จะมายืนยันว่าตัวเองทำตามกฎหมายทุกอย่างนั้น ไม่ถูกต้อง หรือจะมาอ้างว่าเป็นแพะบูชายัญไม่ได้ เพราะไม่เกี่ยวกัน เป็นคนละเรื่อง ประเด็นคือ กกต.ไม่ได้ทำหน้าที่ตามบทบาทอย่างเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
       
       "กกต.ทำไม่ถูกตั้งแต่การกำหนดวันเลือกตั้ง ทั้งที่มีอำนาจที่จะบอกรัฐบาลว่าควรจัดเลือกตั้งวันไหนเพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่ก็ไม่รับผิดชอบ ตรงกันข้ามกลับทำตามรัฐบาลทุกอย่าง ผมยืนยันว่า กกต.มีอำนาจที่จะโต้แย้งกลับไป รวมทั้งการเปิดโอกาสให้มีการรับสมัครใหม่ในการเลือกตั้งรอบสอง ซึ่งเรื่องนี้กกต.ก็อธิบายไม่ได้ เพราะขัดแย้งกับแนวปฏิบัติมาโดยตลอด การเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมา เปิดให้รับสมัครเพียงครั้งเดียว เป็นเพราะ กกต.ยึดติดว่า กกต.มีหน้าที่หาส.ส.ให้ครบ 500 คน ทั้งๆ ที่ไม่ใช่หน้าที่ เรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์จะลงสมัครหรือไม่ ก็เป็นสิทธิ์ของเขา กกต.ไม่สิทธิ์แอนตี้ ไม่ใช่หน้าที่ อย่าไปโทษว่าเขาเป็นต้นเหตุ"นายแก้วสรร กล่าว
       
       นอกจากนี้ การให้พรรคตุ๊กตาผี หรือพรรคนอมินีของพรรคการเมืองใหญ่ลงสมัคร โดยที่ไม่มีการตรวจสอบอย่างจริงจัง ก็ไม่เห็นว่ากกต.จะทุ่มเทการสอบสวนเรื่องนี้อย่างจริงจัง มิหนำซ้ำยังไปรับรองผลการเลือกตั้งให้ด้วย แต่ทีการให้ผู้สมัครไปเวียนเทียน กลับปล่อยให้ทำอย่างโจ๋งครึ่ม แต่พอศาลฎีกามีมติห้าม กกต.ก็รีบประกาศผลเพื่อให้คนที่ไม่ได้ ไปสมัครที่ใหม่
       
       "ผมคิดว่ากกต.ทำผิดในหลายเรื่อง โดยมีการตีความว่าตัวเองมีอำนาจเต็มในการเลือกตั้ง คิดอยากทำอะไรก็ทำได้หมด มิหนำซ้ำยังถือตัวว่า แม้แต่ศาลปกครองก็มาทบทวนคำสั่งของตัวเองไม่ได้ ซึ่งไม่ใช่ ถ้าผิดก็ต้องตรวจสอบได้ ไม่เกี่ยวกับเรื่องเป็นแพะรับบาป กกต.ไม่ควรออกมาคร่ำครวญต่อสาธารณะ ควรย้อนกลับไปดูการกระทำของตัวเองว่าทำอะไรที่ไม่ถูกต้องไว้บ้าง" นายแก้วสรร กล่าว
       
       **จวกลุอำนาจทำอะไรไม่คิดถึงสังคม
       
       ด้านนายเสรี สุวรรณภานนท์ รักษาการ ส.ว.กทม.กล่าวว่า กกต.ชุดนี้ทำอะไรไม่ระมัดระวัง ไม่คำนึงถึงความคิดของสังคม และผลการตัดสินใจของตนเองจะเป็นอย่างไร หลายเรื่องจึงหาเหตุผลมาอธิบายกับประชาชนไม่ได้ ทำให้สังคมมองว่าไม่มีความเป็นกลาง เช่น การหันคูหาให้คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง เรื่องนี้ กกต.ตอบสังคมไม่ได้เลย แม้จะอ้างงานวิจัยของต่างประเทศก็ตาม เพราะต้องดูวัฒนธรรมการเมืองของสังคมไทยเป็นหลัก ว่าประเทศเรามีการใช้สิทธิ์ ขายเสียงอย่างรุนแรง รวมทั้งมีการใช้อิทธิพลข่มขู่ให้คนลงคะแนน แต่ต่างประเทศไม่มีสิ่งเหล่านี้ จึงใช้วิธีการเดียวกันไม่ได้ หรือกรณีที่ข้อกล่าวว่าพรรคใหญ่จ้างพรรคเล็กลงรับสมัคร เรื่องนี้กกต.ก็ทำให้สับสนไปหมด ไม่กล้าคลี่คลายให้เกิดความชัดเจน โดยเฉพาะประธาน กกต.ไปฟังพยานคนหนึ่งแล้วออกมาบอกกับสังคมว่า มีพรรคใหญ่เก่าแก่พรรคหนึ่งเป็นฝ่ายจ้างให้ลงเลือกตั้ง การพูดเช่นนี้ยิ่งทำให้สังคมมีข้อกังขาว่า กกต.มีความเป็นกลางหรือไม่
       
       "สถานการณ์ขณะนี้ กกต.ต้องยอมรับว่า ความเชื่อถือจากประชาชนลดลงมาก ขาดความน่าเชื่อถืออย่างรุนแรง ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่งในการทำงานในอนาคต เพราะ กกต.เป็นองค์กรตัดสินปัญหา ถ้าตัดสินแล้วเขาไม่เชื่อจะทำอย่างไร ทางที่ดีกกต.ควรกลับไปทบทวนบทบาทของตัวเองมากกว่าจะออกมาขอความเห็นใจ โดยเฉพาะ พล.ต.อ.วาสนา น่าจะเข้าใจได้ดีว่า ถ้าทำถูกต้องก็จะไม่มีคนวิจารณ์มากขนาดนี้ และฟังเสียงที่วิจารณ์ก็ไม่ได้มาจากซีกพรรคการเมืองที่เป็นฝ่ายเสียประโยชน์ แต่เสียงวิพากษ์วิจารณ์เกิดขึ้นจากประชาชนโดยวงกว้าง วันนี้เข้าขั้นวิกฤตศรัทธาของกกต. อยากให้กรรมการกกต.ทุกคนกลับไปถามตัวเองจนถึงวันนี้ยังสามารถยืนหยัดในความเป็นกลางได้หรือไม่ ถ้าทำไม่ได้ก็ไม่ควรอยู่ในตำแหน่งต่อไป"นายเสรี กล่าว
       
       **ศาลควรมีคำอธิบายสมาชิกภาพ ส.ส. ด้วย
       
       นายโคทม อารียา ประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และอดีต กกต.กล่าวว่า การที่ประชาชนออกมาวิพากษ์วิจารณ์และไม่เชื่อมั่นกกต.นั้น ส่วนหนึ่งมาจากเหตุปัจจัยทางการเมืองที่มีความขัดแย้งสูง สังคมจึงมองว่ากกต.เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งด้วย
       
       "ในฐาะที่ผมเคยเป็นกกต.อยากให้คนรุ่นหลังที่เข้ามาเป็น รักษาองค์กรไว้ได้ แต่ขณะนี้ยอมรับว่าความสัมพันธ์ระหว่างกกต.กับสื่อมวลชน มีความตึงเครียดอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งมองได้ว่าสื่อไม่ค่อยยอมรับกกต.จึงทำให้กกต.ทำงานลำบากมากขึ้น ทั้งที่องค์กรนี้มีลักษณะพิเศษ จำเป็นต้องสื่อสารกับสังคมให้เกิดความเข้าใจ แต่เมื่อมีปัญหาความน่าเชื่อถือ กกต.จึงถูกตัดสินไปว่าสื่อสารกับสังคมไม่เป็น และถูกกล่าวหาว่าทำงานไม่รอบคอบ ซึ่งถือเป็นสิทธิของประชาชนที่จะวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของกกต."
       
       นายโคทม ยังกล่าวถึงกรณีที่ศาลอาจมีคำสั่งให้การเลือกตั้งไม่ชอบด้วยกฎหมายว่า หากเป็นเช่นนั้นจริง ศาลควรมีคำอธิบายเรื่องสมาชิกภาพของ ส.ส.ว่าได้สิ้นสุดลงไปด้วยหรือไม่ จะพ้นตำแหน่งไปโดยอัตโนมัติภายหลังศาลวินิจฉัยว่าการเลือกตั้งเป็นไปไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพราะมีความสับสนอยู่เป็นอันมาก ถ้าสมาชิกภาพของส.ส.ยังอยู่ จะทำอย่างไร เนื่องจากสมาชิกภาพของ ส.ส.นั้นได้เริ่มขึ้นตั้งแต่วันเลือกตั้ง คือวันที่ 2 เม.ย.ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 117 รวมทั้งควรวินิจฉัยด้วยว่า การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นนั้นควรใช้พระราชกฤษฎีกา(พ.ร.ฎ.) การเลือกตั้งหรือพ.ร.ฎ.ใหม่
       
       **แนะ กกต. ดูตัวเองก่อนวิจารณ์คนอื่น
       
       นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงตอบโต้กรณี พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธานกกต.ออกมระบายความในใจ โดยมีหลายประเด็นที่พุ่งเป้ามาที่พรรคประชาธิปัตย์ว่า พล.ต.อ.วาสนา และกกต.ทั้ง 4 ท่าน ก็ต้องยอมรับความจริงว่า ที่ผ่านมาการทำหน้าที่ของท่านก่อให้เกิดความเคลือบแคลงสวสงสัย ก่อให้เกิดความไม่มั่นใจ ไม่เชื่อถือและศรัทธาในการทำหน้าที่ของกกต.เพราะหลายฝ่ายพบว่ามีการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ หรือผิดกฎหมายเลือกตั้ง จึงอยากให้กกต.ย้อนกลับไปดูตัวเอง และตั้งคำถามกลับว่า ทำไมคนทั่วไปที่มีความรู้มากมายหลายระดับ ตลอดจนนักการเมือง จึงออกมาวิพากษ์วิจารณ์ กกต.อย่างหนัก
       
       "อยากเรียกร้องให้กกต.ทุกคนใจเย็นๆ สงบสติอารมณ์ ในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมือง มีหน้าที่กลั่นกรองนักการเมืองเข้าไปสู่อำนาจ เป็นหน้าที่ที่จะต้องทำให้คนเชื่อถือศรัทธา ต้องแสดงความเป็นกลางในการทำหน้าที่ตลอดเวลา และต้องมีความสุจริตเที่ยงธรรมซึ่งถือเป็นพื้นฐานในการทำงานด้วย ซึ่งหากทบทวนการทำงานที่ผ่านมา กกต.ก็จะพบความจริงว่า ได้ทำสิ่งที่ขัดรัฐธรรมนูญ และทำให้คนไม่เชื่อถือในหลายประเด็น"
       
       การที่พล.ต.อ.วาสนา พูดถึงการยุบสภา ว่าเป็นอำนาจของรัฐบาลนั้น ยอมรับว่ากฎหมายให้อำนาจนายกรัฐมนตรีในการยุบสภา แต่การประกาศยุบสภาก็ต้องดำเนินการโดยชอบด้วย ซึ่งครั้งนี้เห็นได้ชัดว่าไม่ชอบธรรม เพราะยังอยู่ในช่วงที่สภาปิดสมัยประชุมอยู่ และไม่มีความขัดแย้งกันภายในของสภา หรือกับฝ่ายบริหาร แต่เป็นการยุบสภาเพื่อฟอกตัว ไม่ให้คนไปสนใจเรื่องการซื้อขายหุ้นชินคอร์ปมากกว่า โดยหวังว่าเมื่อยุบสภาแล้วคนจะลืมเรื่องนี้ และหันมาสนใจเรื่องการเลือกตั้ง การตั้งรัฐบาลใหม่ แต่พรรคมองเห็นประเด็นนี้ดี จึงเป็นสาเหตุที่พรรคไม่ส่งคนลงเลือกตั้ง ดังนั้นการที่พรรคฝ่ายค้านไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งไม่ใช่สาเหตุของปัญหา แต่สาเหตุของปัญหาที่แท้จริงก็คือ การยุบสภาที่ไม่ถูกต้องชอบธรรมมากกว่า
       
       ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ.วาสนา ระบุว่ามีพรรคการเมืองใหญ่เก่าแก่ จ้างพรรคการเมืองเล็กให้ล้มการเลือกตั้งนั้น พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยไปว่าจ้างพรรคใดทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นพรรคเล็ก หรือพรรคใหญ่ให้ล้มการเลือกตั้ง ไม่เคยให้อามิสสินจ้างใดๆ กับบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดเพื่อล้มการเลือกตั้ง เพราะพรรคการเมืองเล็กมีตั้งหลายพรรค หากจะจ้างจริงๆ ทำไมต้องจ้างเฉพาะพรรคนี้เท่านั้น พรรคเล็กอื่นก็มีที่พร้อมจะลงเลือกตั้ง ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้เลย นอกจากนี้ หากดูสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ร้องเรียนไป ให้ตรวจสอบการจ้างพรรคเล็กลงสมัคร จะเห็นว่าเรื่องนี้ทางอนุกรรมการกกต.ได้มีการตัดสินแล้วว่ามีความผิดจริง และกกต.ก็ลงโทษยุบพรรคการเมืองเหล่านั้นไปแล้วด้วย ตรงนี้น่าจะเห็นได้ชัดเจนว่า สิ่งที่พล.ต.อ.วาสนาพูดนั้น เป็นการขัดกับสิ่งที่อนุ กกต.ตัดสินไปแล้วอย่างชัดเจน และจะเชื่อถือสิ่งที่พรรคเล็กที่ถูกกกต.ยังยุบพรรคไปแล้วได้อย่างไร
       
       สิ่งที่ พล.ต.อ.วาสนา และกกต.พยายามจะบอกในหลายเรื่อง ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และยังไปโทษสื่อมวลชนว่าจิตวิปริต ที่พยายามจะส่องกล้องดูว่าประชาชนคงละแนนให้ใคร ซึ่งไม่ควรจะพูดเช่นนั้น เพราะสื่อทำหน้าที่แทนประชาชน และนำไปเผยแพร่ ให้ทราบ เพราะหาก กกต.จัดการเลือกตั้งเป็นตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดก็จะไม่เกิดปัญหา ดังนั้นก่อนโทษสื่อ ก็ควรจะโทษตัวเองมากกว่า นอกจากนี้การที่พรรคยื่นเรื่องต่อศาลปกครองก็ถือเป็นการทำตามสิทธิที่พึงมีของประชาชนทั่วไป ไม่ใช่การไปกดดัน หรือไปชี้นำศาลแต่อย่างใด
       
       **กกต.ลาออกไม่เป็นปัญหาต่อการเลือกตั้ง
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข่าวว่าพล.ต.อ.วาสนา ได้ร่างใบลาออกไว้แล้ว และการพูดครั้งนี้ก็เหมือนกับเป็นการเปิดใจก่อนจาก นายองอาจ กล่าวว่า ความจริงจะออกหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจ เพราะเราก็ไม่ได้ไปกดดันอะไร แล้วแต่ท่านจะพิจารณาตัดสินใจเอง ส่วนการกล่าวพาดพิงพรรคประชาธิปัตย์ของ พล.ต.อ.วาสนา จะมีการฟ้องร้องหรือไม่นั้น คงต้องไปดูในข้อกฎหมายว่าเข้าข่ายหรือไม่ ถ้าเข้าข่ายเราก็ต้องปกป้องชื่อเสียง และสิทธิของเราตามกฎหมาย
       
       อย่างไรก็ตาม หากมีการเลือกตั้งใหม่ และกกต.ลาออกหมด ก็ยังมีหลายช่องทางที่จะทำให้การเลือกตั้งดำเนินต่อไปได้ เพียงแต่เวลาอาจยืดออกไปอีกหน่อย ยืนยันว่าไม่เป็นปัญหาเลย เช่น อาจยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย หรือ หากกกต.ลาออก และกระบวนการสรรหายังไม่ครบถ้วน ก็อาจจะให้ศาลฎีกาเป็นผู้เสนอชื่อไปให้สมาชิกวุฒิสภาพิจารณาเลือก กกต.ใหม่
       
       นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวว่าหมดเวลาที่จะโทษใครว่าใครถูกใครผิดแล้ว เนื่องจากเวลานี้ทุกคนต้องร่วมกันเยียวยาแก้ไข ฝ่าวิกฤตทางการเมืองที่เกิดขึ้น โดยสร้างความสมานฉันท์ในสังคมไทยให้กลับมาเหมือนเดิม
       
       ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าปัญหาเกิดจากกลไกระบบการตรวจสอบในระบอบประชาธิปไตยที่ไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ และถ้าองค์กรอิสระไม่ถูกแทรกแซง กระบวนการตรวจสอบการทำงานของฝ่ายบริหารโดยผ่านทั้งระบบรัฐสภา และองค์กรอิสระก็จะดำเนินไปได้ และปัญหาก็ไม่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นจึงอย่าไปโทษใคร เพราะการยิ่งมากล่าวโทษแต่ละฝ่ายจะยิ่งเป็นการสร้างบาดแผลให้แต่ละฝ่ายเพิ่มมาก และจะเยียวยาปัญหาได้ยากยิ่งขึ้น
       
       ส่วนกรณีการยุบสภาในสมัยที่นายบรรหาร ศิลปอาชา ที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น ก็ไม่ได้เป็นการยุบสภาอันเนื่องมาจากการถูกอภิปรายเรื่องสัญชาติ และเรื่องส่วนตัวตามที่มีการเข้าใจกัน แต่เป็นเพราะนายบรรหาร ถูกหักหลังจากพรรคร่วมรัฐบาลในขณะนั้น ที่จะไม่สนับสนุนต่อไป อีกทั้งคนที่ได้เอาข้อมูลมาอภิปรายในเรื่องส่วนตัว ซึ่งเป็นข้อมูลเท็จ ก็ถูกสังคมลงโทษไปแล้ว คือความล้มละลายทางความเชื่อถือไปแล้ว เรื่องนี้สื่อที่ติดตามการเมืองจะรู้ดีว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรจึงขอให้ทุกฝ่ายเข้าใจตามนี้ด้วย
       
       **หลับหูหลับตาบอก กกต. ไม่เคยทำอะไรผิด
       
       พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ยุติธรรม กล่าวว่า รู้สึกเห็นใจและเข้าใจประธานกกต.ในฐานะที่เป็นคนทำงาน และว่าหากกลับไปดูประวัติการทำงานของพล.ต.อ.วาสนา จะเห็นว่าไม่มีอะไรที่ไปตำหนิได้
       
       "ท่านพูดความจริง เป็นความในใจ พูดออกมาจากความรู้สึกตรงๆ เรื่องนี้คอมเมนต์ไม่ได้ ผมฟังแล้วผมเข้าใจ ส่วนกระแสก็คือกระแสเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่เชื่อว่าที่สุดแล้วประชาชนรู้ทุกอย่าง โดยเรื่องนี้ต้องพิจารณาตามกฎหมายและเหตุผลเป็นเรื่องๆไปจะเข้าใจ เพราะถ้าสังคมเราใช้คำพูดไม่สมานฉันท์ ไม่ปรองดองกัน สุดท้ายก็แตกแยกกันเพราะคำพูด"พล.ต.อ.ชิดชัย กล่าว
       
       ต่อคำถามถึงการออกมาสะท้อนปัญหาว่า ต้นตอเกิดจากความต้องการเอาชนะกันทางการเมือง พล.ต.อ.ชิดชัย กล่าวว่า เรื่องนี้ก็เป็นปัญหาที่ต้องดูตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งถ้าลำดับเหตุการณ์แล้วจะเข้าใจภาพทั้งหมด ไม่ขอแสดงความคิดเห็น พร้อมย้ำว่าเรื่องนี้ต้องคำนึงถึงกฎหมาย และหลักของเหตุผล ส่วนกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยกรณีปัญหาการเลือกตั้งในวันจันทร์ที่ 8 พ.ค.นี้ พล.ต.อ.ชิดชัย กล่าวว่า เราต้องรอฟังศาล ซึ่งจะพิจารณาโดยดูจากเหตุผลและกฎหมาย
       
       "ผมไม่กังวลอะไร เพราะเป็นเรื่องที่ดี ที่ปัญหาจะได้ข้อยุติ และเป็นโอกาสดีที่ประชาชนจะได้รับฟังความคิดเห็นของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งแต่ละท่านมีเกียรติประวัติการทำงาน จะได้แสดงความเห็นในประเด็นนี้ต่อประชาชน"พล.ต.อ.ชิดชัย กล่าว
       
       นายสุทิน คลังแสง รองโฆษกพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ตนเห็นใจกกต.มากที่สุด สิ่งที่ พล.ต.อ.วาสนาพูดนั้นถูกต้องทุกประการ ขอวิงวอนให้ทุกคนในสังคมเปิดใจกว้างแล้วจะเห็นว่า กกต.เป็นแพะจริงๆ เนื่องจากที่ผ่านมา ยังไม่เห็นว่ากกต.ทำอะไรผิด หรือทำในสิ่งที่ชั่วช้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเลือกตั้งภายใน 37วัน หรือการหันคูหากาบัตรออกด้านนอก ซึ่งเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก เพราะถ้าพิจารณาโดยหลักจริงๆ ก็ไม่มีอะไรผิด
       
       "สิ่งที่ผมเป็นห่วงมากที่สุดก็คือ อยากให้ศาลได้อธิบายเหตุผลประกอบการตัดสินให้ดี เพราะจะกระทบกับหลักยุติธรรมของประเทศ ผมเชื่อว่าคนที่มีสติปัญญาที่ดีอย่างผู้พิพากษา จะสามารถหาทางออกได้เป็นอย่างดี" รองโฆษกพรรคไทยรักไทย กล่าว
       
       นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคไทยรักไทย กล่าวว่า การออกมาพูดของ พล.ต.อ.วาสนาครั้งนี้ ทำให้รู้สึกเฉลียวใจว่า พล.อ.วาสนา จะลาออกจากตำแหน่งประธาน กกต.ซึ่งจะส่งผลให้หนทางแก้ปัญหาตามระบอบประชาธิปไตยน้อยลง และไปเข้าทางหนทางอื่น ซึ่งตนในฐานะนักการเมืองคนหนึ่งที่ต้องต่อสู้กับคู่แข่งทางการเมือง หากไม่มีกรรมการ ก็จะไม่มีเวที ซึ่งมันจะยุ่งวุ่นวายมาก ก็หวังว่า พล.ต.อ.วาสนา จะไม่ตัดสินใจลาออกตอนนี้
       
       **คาดเลือกตั้ง 2 เม.ย.มิชอบ
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการประชุมของตุลาศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 3-4 พ.ค ที่ผ่านมา ในการพิจารณาคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา ที่ยื่นให้วินิจฉัยว่า การเลือกตั้ง 2 เม.ย.ที่ผ่านมา ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และนัดลงมติคำวินิจฉัยกลางในวันจันทร์ที่ 8 พ.ค.นี้นั้น "แหล่งข่าว"ระบุว่า คำวินิจฉัยกลางในเรื่องนี้ มติจะไม่เอกฉันท์ โดยจะมีคะแนนเสียงก้ำกึ่งกัน อาจจะเป็น 8 ต่อ 6 หรือ 9 ต่อ 5 เสียง เนื่องจากการประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา มีความเห็นแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย โดยมีตุลาการฯทั้งฝ่ายที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วยกับเนื้อหาในคำร้อง ที่ระบุว่าการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 2 เม.ย.มิชอบ ขัดต่อรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะเรื่อง กกต.จัดคูหาเลือกตั้งไม่ถูกต้อง ทำให้คนสังเกตเห็นว่า ผู้เลือกตั้งกาบัตรลงคะแนนให้กับผู้สมัครรับเลือกตั้งรายใด
       
       รายงานข่าวแจ้งว่า แนวโน้มคดีนี้ น่าจะออกมาว่า การเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา มิชอบด้วยรัฐธรรมนูญ และสั่งเพิกถอนการเลือกตั้งที่ผ่านมา
       
       "หากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า การเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 2 เม.ย.มิชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ศาลปกครอง ก็คงต้องจำหน่ายคดีที่มีการฟ้องให้การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาเป็นโมฆะ เพราะ มาตรา 268 ของรัฐธรรมนูญ บัญญัติว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเป็นเด็ดขาด มีผลผูกพันศาลอื่นด้วย" แหล่งข่าวกล่าว
 
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9490000059620

ออกได้ก็ดี แผ่นดินจะได้สูงขึ้น 
บันทึกการเข้า

เงินยิ่งใช้ ยิ่งหมด บุญ ยิ่งทำ ยิ่งได้

.......กูจะสู้แม้รู้ว่าพวกกูน้อย              สู้ไม่ถอยแม้รู้ว่าจะดับสลาย
แผ่นดินนี้พ่อกูอยู่ปู่กูตาย                   กูสุดอายหากเสียทีไพรีครอง
       ใครบ้างเหวยจะร่วมสู้กับกูบ้าง     ใครบ้างเหวยจะอยู่ข้างไทยใจหาญ
ใครบ้างเหวยจะละสุขสนุกสำราญ       ใครบ้างเหวยยอมวายปราณเพื่อไทยคง
cha_srt
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 276



« ตอบ #1 เมื่อ: 06-05-2006, 16:09 »

แต่ละคน มี "ยศ" นำหน้าทั้งนั้นเลยเนอะ
บันทึกการเข้า
ka-rab
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 59


รักการ์ตูนแค่ไหน ก็ไม่ทิ้งเรื่องการเมือง


« ตอบ #2 เมื่อ: 06-05-2006, 16:50 »

ขอให้โดนจับกันให้หมดถ้วนหน้า หวังว่าคดีนี้คงไม่เป็นมวยล้มต้มคนดูนะครับ
บันทึกการเข้า

สมาชิกเสรีไทย#232 เด็กใหม่ผู้ฝักใฝ่ความจริง

รักการ์ตูนมากแค่ไหน ก็ไม่ทิ้งเรื่องการเมือง
หลี่ถัง
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 23


« ตอบ #3 เมื่อ: 06-05-2006, 19:41 »

หึหึหึ นี่คือตัวอย่างของพวกทำลายชาติ
พอกกต.ไม่ร่วมมือทำลายชาติด้วย มันก็กะจะเล่นกกต.ให้พังกันไปข้าง
สงสัยถ้ากกต.ยุบพรรคทรท.ซะ มันคงต้องไปกราบทีนกกต. บอกว่าเป็นคนดีมากสส์แน่ๆจ๊ะ
บันทึกการเข้า
ผู้ทำลาย
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,496


lynnicky


เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 06-05-2006, 19:42 »

หึหึหึ นี่คือตัวอย่างของพวกทำลายชาติ
พอกกต.ไม่ร่วมมือทำลายชาติด้วย มันก็กะจะเล่นกกต.ให้พังกันไปข้าง
สงสัยถ้ากกต.ยุบพรรคทรท.ซะ มันคงต้องไปกราบทีนกกต. บอกว่าเป็นคนดีมากสส์แน่ๆจ๊ะ

คิดว่า กกต ร่วมมือกับพวก ขายชาติ ซะมากว่าล่ะมั้ง??
บันทึกการเข้า

แสนยานุภาพผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดิน
ปีกซ้ายตัวจี๊ด(ล่ำจัง)
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 140



« ตอบ #5 เมื่อ: 06-05-2006, 19:44 »

หึหึหึ นี่คือตัวอย่างของพวกทำลายชาติ
พอกกต.ไม่ร่วมมือทำลายชาติด้วย มันก็กะจะเล่นกกต.ให้พังกันไปข้าง
สงสัยถ้ากกต.ยุบพรรคทรท.ซะ มันคงต้องไปกราบทีนกกต. บอกว่าเป็นคนดีมากสส์แน่ๆจ๊ะ

นี่คือตัวอย่างของการโพส ไร้สมอง ไม่มีการมองสองด้าน  หลับหูหลับตาเลีย ทรท อย่างเดียว

ลักษณะนี้หาได้ทั่วไป ใน ราชดำเนิน   

ปล.ถ้า กกต สั่งยับ ปชป  หลี่ถังจะไปเลียตีน กกต มั้ยจ๊ะ
บันทึกการเข้า
บุรุษไร้นาม
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 633


Trust NO ONE !!!


« ตอบ #6 เมื่อ: 06-05-2006, 21:06 »

ก็เหมือนที่ กกต ออกมาว่า ปชป จ้างพรรคเล็กล่งแข่งนั่นแหละครับ ไม่รู้เอาสมองส่วนไหนคิด

พวกเลียนี่ สงสัย สมองอยู่ที่ลิ้น  Laughing
บันทึกการเข้า

เงินยิ่งใช้ ยิ่งหมด บุญ ยิ่งทำ ยิ่งได้

.......กูจะสู้แม้รู้ว่าพวกกูน้อย              สู้ไม่ถอยแม้รู้ว่าจะดับสลาย
แผ่นดินนี้พ่อกูอยู่ปู่กูตาย                   กูสุดอายหากเสียทีไพรีครอง
       ใครบ้างเหวยจะร่วมสู้กับกูบ้าง     ใครบ้างเหวยจะอยู่ข้างไทยใจหาญ
ใครบ้างเหวยจะละสุขสนุกสำราญ       ใครบ้างเหวยยอมวายปราณเพื่อไทยคง
MrBomb
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5



« ตอบ #7 เมื่อ: 06-05-2006, 21:12 »

การโยนบาปกำลังเกิดขึ้น และที่จะตามมาคือ ปรากฎการณ์สาวใส้
บันทึกการเข้า
บุรุษไร้นาม
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 633


Trust NO ONE !!!


« ตอบ #8 เมื่อ: 06-05-2006, 21:25 »

ต่อไปก็ ตัวใคร ตัวมัน
บันทึกการเข้า

เงินยิ่งใช้ ยิ่งหมด บุญ ยิ่งทำ ยิ่งได้

.......กูจะสู้แม้รู้ว่าพวกกูน้อย              สู้ไม่ถอยแม้รู้ว่าจะดับสลาย
แผ่นดินนี้พ่อกูอยู่ปู่กูตาย                   กูสุดอายหากเสียทีไพรีครอง
       ใครบ้างเหวยจะร่วมสู้กับกูบ้าง     ใครบ้างเหวยจะอยู่ข้างไทยใจหาญ
ใครบ้างเหวยจะละสุขสนุกสำราญ       ใครบ้างเหวยยอมวายปราณเพื่อไทยคง
หน้า: [1]
    กระโดดไป: