ปธ.คมช. วอน ปชช.ลุกขึ้นปกป้องสถาบันกษัตริย์ ลั่นมีขบวนการทำลายผ่านทางเว็บไซต์ ยันร่าง พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ไม่ได้รวบอำนาจเบ็ดเสร็จไว้ที่ทหาร ชี้หาก ผอ.รมน.ลุแก่อำนาจ ให้สิทธินายกรัฐมนตรีสั่งปลดได้ ลั่นไม่กระทบต่อสิทธิเสรีภาพ ปชช.ต่อการดำเนินชีวิตอย่างปกติสุข วันนี้ (15 ก.ค.) พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวในระหว่างการพบประชาชนเขตดอนเมือง ตามโครงการรู้รักสามัคคี ทำความดีเพื่อแผ่นดิน พื้นที่ชุมชนดอนเมืองถวายแด่องค์ราชันว่า พื้นที่เขตดอนเมืองเปรียบเสมือนบ้านของตนเอง ซึ่งเป็นที่ทราบดีว่ามีความวุ่นวายเกิดขึ้นในบ้านเมือง จนถึงขณะนี้ถือว่าถึงเวลาแล้วที่ทุกคนจะลุกขึ้นเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาและขจัดบุคคลที่พยายามทำลายชาติบ้านเมือง โดยเชื่อว่าประชาชนคงทราบดีอยู่แล้วว่ามีบางกลุ่มพยายามทำลายสถาบันอันเป็นที่รักยิ่งของชาวไทยผ่านทางเว็บไซต์ แต่กระบวนการกฎหมายไม่สามารถจัดการกับกลุ่มบุคคลนั้นได้ อย่างไรก็ตาม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมิได้นิ่งนอนใจ เชื่อว่ากำลังติดตามอย่างใกล้ชิด จึงต้องเพิ่งพลังจากชาวไทยทุกคนที่จะร่วมมือกันสร้างความสงบ เกิดความสามัคคีในบ้านเมือง
พล.อ.สนธิ ยังกล่าวถึงร่าง พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ซึ่งยังอยู่ในขั้นตอนการแก้ไขของคณะกรรมการกฤษฎีกา แม้ร่างดังกล่าวจะมอบอำนาจสูงสุดให้ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน หรือ ผอ.รมน. แต่หาก ผอ.รมน.ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ใช้อำนาจเกินกว่าเหตุ นายกรัฐมนตรีสามารถสั่งปลดได้ โดย ผอ.รมน.ถือเป็นผู้ปฏิบัติตามนโยบาย ทั้งนี้ยังคงย้ำด้วยว่าร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ไม่ได้เป็นการรวบอำนาจเบ็ดเสร็จไว้ที่ทหาร แต่จะเป็นการกำหนดกรอบให้ประชาชนเดินไปตามครรลองโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ
ประธาน คมช.ย้ำอีกว่า หากเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนรู้สิทธิหน้าที่ของตนเอง พ.ร.บ.ดังกล่าวนี้จะไม่ส่งผลกระทบกับใคร อย่างไรก็ตาม หากเจ้าหน้าที่รัฐใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบจะมีโทษหนักกว่าประชาชน
ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวด้วยว่า ภัยจากยาเสพติด คนต่างด้าว ความยากจน ภัยพิบัติธรรมชาติ การก่อการร้าย และความแตกแยกทางความคิด ความไม่สามัคคีในสังคม เป็นภัยที่ทางกองทัพกำลังเฝ้าระวังอยู่อย่างใกล้ชิด
--------------
งานจบ .. เมื่อไหร่ ...?!
ไว้ค่อย..จะกลับมาตีหัวบัง.อีกที...ก็ยังม่ายสายฮะ ..หุหุ ..
