ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
29-03-2024, 07:35
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ยอยศภาคประชาชน:ชีวายอมพลีให้มวลชนผู้ทุกข์ทน ขอยอมตนไม่ว่าจะตายกี่ครั้ง 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ยอยศภาคประชาชน:ชีวายอมพลีให้มวลชนผู้ทุกข์ทน ขอยอมตนไม่ว่าจะตายกี่ครั้ง  (อ่าน 4533 ครั้ง)
ป๋าเจ้าเก่า
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 272


ถึงไม่เห็นด้วยสักนิด แต่ผมจะแลกชีวิตให้คุณได้พูด


« เมื่อ: 11-07-2007, 21:33 »

เพื่ออรรถรส โปรดอ่านกระทู้คู่แฝด
-  ยอยศประชาธิปัตย์ พรรคอันสง่างามและมีเกียรติแห่งสยามประเทศ  http://forum.serithai.net/index.php?topic=15061.0
- ยอยศไทยรักไทยเชิดชูทักษิณ หมื่นปีจะมีคนอย่างนี้มาเกิด http://forum.serithai.net/index.php?topic=15092.0
-ยอยศชายชาติทหาร รัฐประหารทุกหยาดเป็นชาติพลี เถลิงประเทศชาติไทยทวีมีชัยไชโย  http://forum.serithai.net/index.php?topic=15096.0
-ยอยศฐานันดร4 วิวัฒนาการจากวานรสู่เทวดา บางสายพันธุ์วัฒนาการจากไดโนเสาร์เป็นเห้ http://forum.serithai.net/index.php?topic=15104.0
..........................................................................................................................................................................

องค์ที่1:สายธารของภาคประชาชน:ต้นธารปฏิรูปVSต้นธารการปฏิวัติ

   (หมายเหตุ:ขอออกตัวว่าผมเขียนจากความทรงจำล้วนๆ และบันทึกต่างๆที่เคยศึกษามา ไม่ได้เปิดตำราเขียน อาจคลาดเคลื่อนวันเดือนปี ชื่อแซ่รายละเอียดปลีกย่อยได้)

   หากเทียบกับสายน้ำใหญ่แล้ว ประเทศไทยย่อมเคลื่อนไหวในกระแสธารหลัก(Main stream)อันมั่งคั่งเด่นอุดมด้วยสภาพแห่งความเป็นอนุรักษ์นิยม+จารีตนิยม+อำนาจนิยม+บริโภคนิยม

ทว่าก็มีอีกสายที่ประดุจดั่ง”น้ำแยกสาย” เราเรียกมันว่า”สายธารทางเลือกของประชาชน” หรือที่เรียกขานกันทั่วไปว่า”ภาคประชาชน”

   ในบทความนี้ผมจะไม่กล่าวถึงสายธารหลักของสังคมไทย เนื่องจากกล่าวไว้ในบทความอื่นของบทความชุดนี้ไปแล้ว แต่จะเจาะจงลงไปที่สายธารของภาคประชาชน หรือจะเรียกสายธารกระแสทวน หรือสายธารทางเลือกก็ตามใจ และตามที่เป็นจริง(ดังจะกล่าวต่อไป)

    หลังการปฏิวัติ2475ของคณะราษฎร์แล้ว ปรีดี พนมยงค์ ผู้นำทางสติปัญญาของคณะฯต้องล้มเหลวในการปฏิวัติประชาชาติด้านเศรษฐกิจโดยสิ้นเชิง เมื่อต้องเผชิญแรงปฏิกิริยาต่อต้านการปฏิวัติจากพลังจารีตนิยมและอนุรักษ์นิยม+อำนาจนิยม เขาจำต้องกลายเป็นนักปฏิรูปสังคมด้วยข้อจำกัดดังกล่าวในระยะต่อมา
ภายหลังการถึงแก่การอสัญกรรมของนายพันเอกพระยาทรงสุรเดชอย่างอนาถาในอินโดจีน ก็นับเป็นการขจัดเสี้ยนหนามสำคัญทางทหารของจอมพลป.ผู้เผด็จการ เหลือหอกข้างแคร่ก็เพียงผู้นำสายพลเรือนคือปรีดี พนมยงค์ ซึ่งต้องเผชิญข้อหาร้ายแรงที่สุดในคราวสวรรคต9มิถุนายน2489


   หลังรัฐประหาร8พ.ย.2490ซึ่งพลิกผันชะตาจอมพลป.จากอาชญากรสงครามกลับสู่บัลลังก์นายกรัฐมนตรีนั้น... ความพยายามการรื้อฟื้นตำนานคณะราษฎร์ของปรีดีต้องประสบความล้มเหลวลงหลายครั้งหลายคราว ทั้งกรณีกบฏวังหลวง พ.ศ.2492 ทั้งกรณีกบฏเสนาธิการในระยะถัดมา และกรณีกบฏแมนฮัตตันในปี2494 เป็นการปิดฉากของปรีดี พนมยงค์อย่างเบ็ดเสร็จ และเปิดศักราชใหม่ของเผด็จการเต็มคราบ

   การกวาดล้างใหญ่ของฝ่ายเผด็จการหลายครั้งหลายระลอกเต็มไปด้วยบาดแผลและเลือดเนื้อของสานุศิษย์ปรีดี ทั้งกรณี4รัฐมนตรีอีสาน เตียง  ศิริขันธ์ -จำลอง ดาวเรือง-ทองอินทร์ ภูริพัฒน์-ถวิล อุดล และกรณีนักหนังสือพิมพ์อารีย์ ลีวีระ ทั้งกรณีของการเหวี่ยงแหจับกบฏสันติภาพนำโดยกุหลาบ สายประดิษฐ์-ท่านผู้หญิงพูนศุข พนมยงค์ และบุตรชาย

   การกวาดล้างดำเนินต่อไปอีกหลายระลอก กระทั่งการกวาดจับนักหนังสือพิมพ์ และปัญญาชนอย่างจิตร ภูมิศักดิ์ ,ทองใบ ทองปาวด์ ,รพีพร ,อุธรณ์ พลกุล เป็นอาทิ

   หลังการอสัญกรรมของผู้เผด็จการสฤษดิ์ในปี2506 ความคลี่คลายขยายตัวของ”ภาคประชาชน”เหล่านี้ก็แยกสายธารอย่างเด่นชัดเป็นแม่น้ำ2สาย คือสายการปฏิวัติ อันเป็นสายกระธารกระแสทวนกับสายธารกระแสหลัก กับสายธารทางเลือก หรือเน้นการปฏิรูป

   ทว่าทั้งสองสายล้วนมีต้นธารมาจากแหล่งเดียว ต้นน้ำนั้นชื่อปรีดี พนมยงค์...


   องก์ที่2.ว่าด้วยสายธารกระแสทวน-สาธารการปฏิวัติของภาคประชาชนยุคเมื่อแรก

   ครูครอง จินดาวงศ์ แห่งสกลนคร ผู้สืบสายธารของเตียง ศิริขันธ์ (ขุนพลภูพานตำนานเสรีไทยสายอีสาน และMissionลับสหพันธรัฐอินโดจีน หรือหน้าตาคล้ายๆสหภาพยุโรปเวลานี้ สานุศิษย์ปรีดี)ถูกสฤษดิ์ยิงเป้าในพ.ศ.2506 ย่อมยังผลสะเทือนต่อไขแสง สุกใส นักการเมืองหนุ่มน้อยนครพนม ผู้ชมชื่นทั้งเตียงและครอง สะเทือนไปถึงเปลื้อง วรรณศรี แห่งสุรินทร์,แคล้ว นรปติ-ทองปักษ์ เพียงเกษ แห่งขอนแก่น

   การสังหารโหดทั้งนอกกฎหมายและในนามมาตรา17 นอกจากผลักดันให้นักการเมืองหนุ่มภาคอีสานหันมาสมาทานลัทธิสังคมนิยม(อันเป็นสถานการณ์สากลเวลานั้นที่มีให้เลือกคือประชาธิปไตยในนามเผด็จการที่อเมริกาชี้ชัก กับผลสะเทือนของการปฏิวัติอินโดจีนของโฮจิมินห์ และขบวนประเทดลาว กับขบวนการรักชาติในกัมพูชา) ก็เป็นแรงผลักดันให้ปัญญาชนอย่างจิตร ภูมิศักดิ์-อัศนี พลจันทร(นายผี),อุดม ศรีสุวรรณ-(พ.เมืองชมพู) และพันโทโพยม จุลานนท์(ส.คำตัน) เดินทางสู่เขตป่าเขาร่วมทัพการต่อสู้กับพรรคการเมืองนอกกฎหมายอย่างพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย(พคท.)

   อีกบางส่วนเดินทางลี้ภัยในประเทศสังคมนิยมอย่างกุหลาบ สายประดิษฐ์(ศรีบูรพา) แม้กระทั่งปรีดีและครอบครัว

   ต้นสายปลายธารของภาคประชาชนสายการปฏิวัติดำเนินสืบเนื่องมาสู่เจเนชั่นที่ 2 เมื่อไขแสง สุกใส เข้าไปมีการนำต่อผู้นำนักศึกษายุคก่อน14ตุลาฯอย่างธีรยุทธ์ บุญมี-เสกสรร ประเสริฐกุล-ธัญญา ชุณชฎาธาร-สมคาด สืบตระกูล-ประสาร มฤคพิทักษ์-พิรุณ ฉัตรวนิชกุล แม้กระทั่งไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ-ๆไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม และฯลฯ

   และหลัง14ตุลา2516ก็ผลิตซ้ำอุดมการณ์ผ่านไปยังเกรียงกมล เลาหไพโรจน์-คำนูณ สิทธิสมาน-พิเชียร อำนาจวรประเสริฐ-หมอมิ้งพรหมินทร์,ภูมิธรรม เวชยชัย,สุธรรม แสงปุม,นักศึกษาแพทย์จาตุรนต์ ฉายแสง-จิ้นกรรมาชน-หงาคาราวาน-พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ-เสถียร จันทิมาธร และขบวนการนักศึกษาขนาดใหญ่พอสมควร กระทั่งขบวนการนักศึกษานั้นหันมาสมาทานในลัทธิสังคมนิยมอย่างลึกซึ้ง

   จึงไม่น่าแปลกใจที่ว่าพอเกิดกรณี6ตุลาคม 2519แล้ว นักศึกษากว่า3,000คนได้เข้าร่วมกับพคท.จับอาวุธขึ้นสู้ในเขตป่าเขา ยกเว้นแต่สายที่นิยมการลุกฮือในเมือง อย่างสายของผิน บัวอ่อน(อันมีคำนูณเป็นแก่นแกนสายนี้)

   การปฏิวัติในเขตป่าเขาปิดฉากลงด้วยความขมขื่นพ่ายแพ้ของ”ภาคประชาชน”สายนี้ เมื่อเจเนเรชั่นนี้ต้องไปเกิดCultural cap.กับเจเนเรชั่นแรกอย่างพ.เมืองชมพู,นายผี หรือใครต่อใครประการหนึ่ง

               อีกประการหนึ่งสถานการณ์ในทางสากลพลิกผันอย่างรวดเร็ว จีนแตกคอกับโซเวียต และจีนเปิดฉากรุกรานเวียดนามในนามของสงครามสั่งสอน ลาวที่ให้ที่พักพิงกับพคท.ตัดสัมพันธ์กับพรรคไทย เพราะต้องเดินตามเวียดนาม ขณะที่พรรคไทยเดินตามจีน...วิทยุสปท. หรือ”วิทยุปักกิ่ง”(ทางการไทยเรียกยังงั้น)โดนปิดตัวลง และนั่นก็เป็นการสิ้นสุดตำนานภาคประชาชนในสายธารการปฏิวัติ


   องก์ที่3.ว่าด้วยสายธารทางเลือก-สายธารการปฏิรูปของภาคประชาชนเมื่อแรก

   ขณะที่การคลี่คลายขยายตัวของภาคประชาชนสายปฏิวัติดำเนินไปดังกล่าวข้างต้น อีกสายก็เริ่มแตกหน่ออ่อนเป็นภาคประชาชนที่เน้นการปฏิรูปสังคม น่าพิจารณาก็คือล้วนมีต้นสายจากปรีดี พนมยงค์

   ผู้นำการปฏิรูปย่อมเป็นนายเข้ม เย็นยิ่ง-ป๋วย อึ๊งภากรณ์ อดีตเสรีไทยสายอังกฤษ มิตรร่วมรบสหายศึกของ”รูธ”ปรีดีเมื่อครั้งสงครามโลก และกลายมาเป็นผู้ว่าการธนาคารชาติ

   ป๋วยนั้นไม่คิดจะถอนรากถอนโคนสังคมแบบรุนแรงดังสายปฏิวัติ ด้านหนึ่งเขาส่งนักเรียนทุนแบงก์ชาติไปเรียนยุโรปหรืออเมริกา แล้วกลับมามีหน้าตาแบบไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม-วิจิตร+เอกกมล แห่งแบงก์ชาติ

   อีกสายหนึ่งป๋วยได้เปิดมูลนิธิบูรณะชนบทอันเป็นองค์การพัฒนาเอกชน(NGO)แห่งแรกๆของไทย และมีพื้นที่ปฏิบัติงานในเขตชัยนาทในปี2512 อันมีพิภพ ธงชัย,บำรุง บุญปัญญา(เปี๊ยก),บุญเรือง(จำนามสกุลไม่ได้) ,พิศิษฐ์ ชาญเสนาะ แห่งสมาคมหยาดฝน จังหวัดตรัง หรือครูแดง-เตือนใจ ดีเทศน์ เป็นอาทิ

    ขณะที่ครูประทีป อึ๊งทรงธรรม ก็เริ่มมูลนิธิดวงประทีป ในสลัมคลองเตย ในอีกหลายปีต่อมา

   ด้านหนึ่งนักเรียนเก่าอังกฤษคือสุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือส.ศิวรักษ์ ผู้ศรัทธาในปรีดีและป๋วย ก็สร้างตำนานผ้าม่วง หวนโหยหาภูมิปัญญาไทยในอดีตมาปฏิรูปสังคมไทยในยุคนั้น มีลูกศิษย์ลูกหามากหลาย และเข้าไปซึมแทรกเป็นนักกิจกรรมนักศึกษาสายปฏิรูป หรือสายพุทธอยู่หลายคน อาทิสุชาติ สวัสดิ์ศรี,(ต่อมาเป็น)พระไพศาล วิสาโล,ประชา หุตานุวัตร,สันติสุข โสภณศิริ,เทพศิริ สุขโสภา,วีระ สมบูรณ์,รสนา โตสิตระกูล เป็นอาทิ

   ขณะที่ในเขตป่าเขา พคท.ได้รับการต้อนรับอันอบอุ่นและขนานใหญ่จากนักศึกษาฝ่ายซ้าย สายธารภาคประชาชนสายการปฏิวัติหลังเหตุการณ์6ตุลาฯ ในพื้นที่ชนบทอันซ้อนทับกันนั้นคนอย่างพิภพ ธงชัย-เตือนใจ ดีเทศน์-พิศิษฏ์ ชาญเสนาะ และโกมล คีมทอง แห่งสายธารการปฏิรูปก็กำลังเข้าสู่ชนบทในนามของการ”พัฒนา” ทว่าโชคร้ายที่โกมล คีมทอง ไม่ได้กลับมาจากพื้นที่สุราษฎร์ ว่ากันว่าเขาโดนภาคประชาชนสายการปฏิวัติสังหาร เพราะสงสัยเป็นจารชนของรัฐบาล...

   หลังเหตุการณ์6ตุลาฯ ขณะที่ภาคประชาชนสายการปฏิวัติขึ้นสู่กระแสสูง แต่กลับเป็นกระแสต่ำของภาคประชาชนสายการปฏิรูป เนื่องเพราะว่าป๋วยผู้นำการปฏิรูปต้องถูกให้ร้ายจากฝ่ายขวาว่าเขาเป็นผู้นำสายการปฏิวัติ และโดนเนรเทศในกรณี6ตุลาฯ ขณะที่บทบาทของส.ศิวรักษ์ก็เป็นไปในแวดวงจำกัดพอสมควร

   สายการปฏิรูปกลับสู่กระแสสูงอีกครั้งหลังเหตุการณ์”ป่าแตก”ในราวปี2524-2525 และถือเป็นการขึ้นสู่กระแสสูงอย่างต่อเนื่องของสายนี้ จนมาเป็นภาคประชาชนที่เราเห็นและรู้จักกันในทุกวันนี้

   องก์ที่4.การคลี่คลายขยายตัวของสายธารกระแสทวน กับสายธารทางเลือก
   
4.1สายการปฏิวัติที่วิวัฒนาการเข้าสู่ทำเนียบไทยคู่ฟ้า

   หลัง”ป่าแตก”ในปี2525อย่างเด็ดขาด ภาคประชาชนสายกระแสทวนกลับสู่นาครด้วยสภาพของ”ชิ่งชำรุดทางประวัติศาสตร์”แบบเสกสรรค์ บ้างก็ในสภาพของ”กรวดเม็ดร้าว-ใบไม้ที่หายไป”แบบจิระนันท์ พิตรปรีชา บ้างก็”ตำนานนกสีเหลือง”อย่างวัฒน์ วรรลยางกูล หรือ”แผ่นดินของเขา”แบบพรีพร(สุวัฒน์ วรดิลก)

   ทุกคนกลับสู่สายธารกระแสหลักที่พวกเขาเคยเห็นเป็น”สังคมเก่า-สังคมทราม”ที่ต้องโค่นล้มเปลี่ยนแปลง ต้องมาเข้าห้องเรียน กลายเป็นดร.เสกสรรค์ กลายเป็นอาจารย์ธีรยุทธ กลายเป็นคนหนังสือพิมพ์แบบเสถียร จันทิมาธร มาออกเทปขายแบบหงาคาราวาน หรือ”ชีวิตฉันมีแต่หมานำ”แบบพงษ์เทพ กระโดนชำนาญ

   อีกส่วนหนึ่งก็กลับกลายเป็นนักการเมืองอย่างอดิศร เพียงเกษ,จาตุรนต์ ฉายแสง,จตุรนต์ คชสีห์,พินิจ จารุสมบัติ,การุณ ใสงาม และหมอพรหมมินทร์ในเวลาหลายปีต่อมา รวมทั้งภูมิธรรม เวชยชัย หรือเกรียงกมล ที่เป็นแมนบีไฮด์เดอะซีน เมื่อการปฏิวัติในเขตป่าเขาล้มเหลว หนทางการยึดทำเนียบจึงเป็นคูหาเลือกตั้งแทน

   ส่วนเจเนเรชั่นที่3ของสายธารกระแสทวนเป็นไปอย่างกระปลกกระเปลี้ย กว่าจะรื้อฟื้นศูนย์นิสิตกลับมาใหม่ในนามของสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย(สนนท.)ก็ล่วงถึงปี2524 โดยนักศึกษาแพทย์มหิดลนามภูษิต ประคองสาย ส่งไม้ต่อให้อภิชาติ ขำเดช ล่วงมาถึงอนุสรณ์ ธรรมใจ,นักศึกษาแพทย์หญิงวิลาสินี หมอกเจริญพงศ์ กว่าจะมาเป็นปริญญา เทวานฤมิตรกุล+กรุณา บัวคำศรี ในยุคพฤษภาทมิฬ2535 และกลายมาเป็นสุริยะใส กตศิลา ในยุคหลังปี2540 ตามติดด้วยอุชเชนทร์ เสียงแสน แห่งยุคต้านโรงไฟฟ้าหินกรูด หรือท่อก๊าซไทย-มาเลย์ และยุคปัจจุบันร่วมสมัยเป็น กชวรรณ ชัยบุตร นิสิตจุฬาฯ กระทั่งตอนนี้เวลานี้ซึ่งยังหาหัวของสนนท.ไม่ได้

   ส่วนหนึ่งก็กระจัดกระจายไปทำงานสื่ออย่างเสถียร จันทิมาธร,คำนูณ สิทธิสมาน,พิรุณ ฉัตรวนิชกุล หรือกระทั่งชัชรินทร์ ไชยวัฒน์(ที่มาพลอยฟ้าพลอยฝนโดนจับคดีคอมมิวนิสต์ร่วมกับพิรุณในปี2527) หรือ สำราญ รอดเพชร  ไพศาล พืชมงคล เป็นอาทิ

   4.2สายธารการปฏิรูปคลี่คลายไปเป็นNGO

   ขณะที่สายธารการปฏิรูปค่อยคลี่คลายเป็นองค์การพัฒนาภาคเอกชนอย่างเป็นทางการในหลังยุค6ตุลาฯ เริ่มต้นจากงานมนุษยธรรมด้วยการช่วยเหลือเขมรอพยพในช่วงปี2521ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ และเมื่อหมดยุคเขมรอพยพ ค่อยเข้าสู่การำงานพัฒนาชุมชนในเขตชนบท อันเป็นรูปธรรมเช่น

   -ญัค-อภิชาต ทองอยู่ (ซึ่งต่อมาจะเป็นเลขาธิการและโฆษกพรรคมหาชนของเสธ.หนั่น)ไปฝังตัวในพื้นที่ขอนแก่น
   -บำรุง บุญปัญญา ซึ่งไปเป็น”กูรู”ในวงการพัฒนาภาคเอกชนแถบอีสานใต้ และต่อมาอีสานเหนือ
   -สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ซึ่งเคลื่อนไหวขบวนการครูในพื้นที่โคราชและบุรีรัมย์ สมทบด้วยสุชน ชาลีเครือ ในพื้นที่เขตชัยภูมิ
   -พิภพ ธงชัย ซึ่งปักหลักสร้างซัมเมอร์ฮิลล์ขึ้นในพื้นที่ป่าเมืองกาญจน์ ก่อตำนาน”หมู่บ้านเด็ก”
   -ครูแดง-เตือนใจ ดีเทศน์ เข้าไปใน”หมู่บ้านด้วยหัวใจอันเบิกบาน”ในพื้นที่สูงจังหวัดเชียงราย
   -ครูประทีป อึ๊งทรงธรรม บุกเบิกพัฒนาสลัมคลองเตย จนคว้ารางวัลแม็กไซไซ
   -บำรุง คะโยธา กรรมกรดีกรีเยอรมัน ซึ่งบุกเบิกงานพัฒนาชุมชนในเขตสายนาวัง กาฬสินธิ์
   -สมภพ บุนนาค เชื้อสายขุนนางเก่าไปเปิดงานพัฒนาชุมชนในชื่อองค์การแพลนในย่านขอนแก่น-มหาสารคาม ร่วมกับ”ปู่”เดช พุ่มคชา
   -พิษศิษฏ์ ชาญเสนาะ ไปบุกเบิกงานพัฒนาในเขตเกาะแหลมสนแหลมมะขาม อ.สิเกา จังหวัดตรัง
   -บรรจง นะแส ซึ่งพกดีกรีปริญญากลับบ้านด้วยวัวตัวหนึ่ง เพื่อเปิดพื้นที่งานพัฒนาในเขตนครศรีธรรมราช
   -สุลักษ์ ศิวรักษ์กับสานุศิษย์ ที่เปิดพื้นที่อาศรมวงศ์สนิทนครนายกฯ
   -จอน อึ๊งภากรณ์ เปิดพื้นที่เมืองรณรงค์ในโครงการเข้าถึงเอดส์
   -เสน่ห์ จามริก ที่เปิดมูลนิธิท้องถิ่นไทย เชื่อมโยงสายใยไปหาศาสตราจารย์นายแพทย์ประเวศ วะสี ในตอนเป็นประธานNGO เชื่อมสายโยงยาวมาเป็น สสส.ในเวลาต่อมา
   -รสนา โตสิตระกูล แห่งมูลนิธิโกมลคีมทอง ที่ต่อมารณรงค์เรื่องทุจริตยา
   -กวิน ชุติมา และดร.อุบลรัตน์ ศิริยุวศักดิ์ แห่งคณะกรรมการรณรงค์เผยแพร่งานพัฒนา
   -พิศิษฏ์ ณ พัทลุง และศรีสุวรรณ ควรขจร ในนามมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชฯ
   -แม้กระทั่ง บก.ลายจุด หรือสมบัติ บุญงามอนงค์ แห่งมูลนิธิกระจกเงาในยุคหลังๆ
   -บรรจบบรรสานกับนักวิชาการ+ข้าราชการสายปฏิรูปอย่างร.ต.อ.มรว.ศ.ดร.อคิน รพีพัฒน์ แห่งRDI มหาวิทยาลัยขอนแก่น,ศ.ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์ และคณะแห่งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่,ศ.ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง แห่งรายการเวทีชาวบ้าน,ศ.ดร.ชัยอนันต์ สมุทวนิช แห่งสำนักจุฬาฯ และสืบ นาคะเสถียร หัวหน้าเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าหวยขาแข้ง และยืนยง โอภากุล ผู้รณรงค์”ไทยนิยม”ผ่านงานเพลง เป็นอาทิ

   ผมนั้นได้เข้าไปสัมผัสในฐานะเป็นNGOตัวเล็กๆกระจอกงอกง่อยรายหนึ่งในขบวนNGOขนาดใหญ่ในราวก่อนสิ้นทศวรรษ2520ต่อต้นทศวรรษ2530 สิ่งที่ผมพบเจอในขบวนการภาคประชาชนที่ชื่อ NGO โดยรวมๆก็คือ

   -พวกเขาล้วนแต่แน่วแน่ในอุดมคติที่จะเสียสละเพื่อผู้อื่น แต่เนื่องจากไม่ได้รับทุนจากภาครัฐ ส่วนใหญ่ก็ต้องขอทุนสนับสนุนจากต่างประเทศ ส่วนใหญ่เป็นองค์การสาธารณกุศล หรือองค์การด้านศานา(โบสถ์คริสเตียน) หรือองค์กรด้านแรงงาน ดังนั้นข้อเรียกร้องต้องการต่อคนในขบวนจึงเคร่งครัดไม่ต่างกันนักคือ คนในขบวนต้องมักน้อย ได้เงินเดือนพอยังชีพ ทว่าต้องอุทิศตัวเสียสละอย่างสูง จะหวังความสะดวกสบายหาไม่ได้เลย แล้วยิ่งหวังว่าจะตั้งตัวได้ก็อย่าหวัง ก็เลยกลายเป็นว่าเอาไปเอาก็จะคัดกรองเหลือเฉพาะคนที่มีฐานะทางบ้านดี หรือไม่เป็นภาระจะอยู่ในขบวนการได้ยืดเยื้อหน่อย

   -พวกเขามีวิธีคิดที่แข็งตัวไม่ค่อยยืดหยุ่น คือทำตัวเคร่งครัดยิ่งกว่าพระ อาจเป็นเพราะจะได้ทนทานต่อสภาพงานการ คิดภาพเป็นดำเป็นขาว ดังนั้นไม่แปลกนักหากในเวลาต่อมาเมื่อผมพ้นจากการเป็นNGOมาทำงานข่าว หรือกระทั่งกลายเป็นนักธุรกิจแล้วจะถูก”รุ่นใหญ่”บอกว่า”ไอ้นี่มันเปลี่ยนไปแล้ว”(กล่าวคือเปลี่ยนสีแปรธาตุในทัศนะของรุ่นใหญ่เหล่านั้น)

   -พวกเขาปฏิเสธและออกจะชิงชังสังคมบริโภคนิยม ทุนนิยม หรือต่อต้านโลกาภิวัตน์ ดังมีเรื่องว่าเมื่อผมไปหาสุลักษณ์ที่บ้านนั้น ที่นั่นไม่มีทีวีให้ดู ลูกเขาต้องไปดูทีวีที่ข้างบ้าน ,เมื่อผมไปเยี่ยมญัค-อภิชาตนั้น เขานอนอยู่ที่”ตูบต่อเล้า”หรือบ้านปั้นดินเหนียวติดฉางข้าว แล้วจุดไต้หรือตะเกียง แทนไฟฟ้า,หรือเมื่อผมไปหาเปี๊ยก-บำรุง บุญปัญญาเพื่อโน้มน้าวให้เขามาเป็นแม่ทัพหน้าในการขับเคี่ยวกับภาครัฐที่กำลังแย่งชิงทรัพยากร ไล่ที่ทำเขื่อนปากมูล ไล่ที่ปลูกป่ายูคา ไล่ที่ทำนาอุตสาหกรรมนาเกลือนั้น บำรุงกำลังรณรงค์เรื่อง”ภูมิปัญญาชาวบ้าน”อยู่อย่างเอาการเอางาน และเมื่อผมไปเยี่ยมพิภพ ธงชัย ที่หมู่บ้านเด็กนั้น ผมเห็นเด็กที่นั่นกำลังเป็น”สิ่งแปลกแยกกับโลกภายนอกที่มันเป็นจริง” หรือเมื่อผมไปหาโย-บำรุง คะโยธา ในหมู่บ้านที่กาฬสินธุ์นั้น เขากำลังหั่นมันสำปะหลังเลี้ยงหมูอยู่ เพราะเขาต่อต้านรำข้าวจากโรงสีไฟฟ้าฯลฯ

   -พวกเขาเน้นการรณรงค์ประชาชนใก้กลับไปใช้ภูมิปัญญาดั้งเดิม ต่อต้านกระแสทุนสมัยใหม่ที่กำลังเชี่ยวกราก ดังนั้นเขื่อนทุกเขื่อนจึงเป็นเรื่องที่ต้องต่อต้าน เพราะไฟฟ้าไปสู่เมืองและไปสู่โรงงานอุตสาหกรรมของกลุ่มทุน หรือบรรษัทข้ามชาติ ดังนั้นสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ก็จึงรณรงค์ตั้งสหกรณ์ครูและชาวนาให้เป็นเกียรติแก่ครูที่เสียสละในการต่อสู้กับกลุ่มทุนท้องถิ่น,ญัค-อภิชาตจึงเขียนหนังสือ”คำตอบอยู่ที่หมู่บ้าน”,บำรุง บุญปัญญา ก็จึงรณรงค์ชาวนาให้ทำเกษตรผสมผสาน และทำเกษตรแบบทำอยู่ทำกิน(ก่อนจะกลายเป็นเศรษฐกิจพอเพียงในวาระต่อมาอีก2ทศวรรษ),พิศิษฏ์ ชาญเสนาะ ก็พาชาวมุสลิมในสิเกา ฟื้นฟูป่าชายเลน,เตือนใจ ดีเทศน์ ฝังตัวในหมู่บ้านด้วยหัวใจอันเบิกบาน,ครูประทีปก็อยู่ในสลัมด้วยหัวใจอาสาสมัคร เช่นเดียวกับสุวิทย์ วัดหนู

   -พวกเขาไม่ได้ค่อยสนใจในสิ่งที่เรียกว่า”การต่อสู้ในเชิงโครงสร้างข้างบน”คือการขับเคี่ยวทางการเมืองนัก และออกจะปฏิเสธวิถีนั้น เพราะได้เห็นแล้วว่าพวกภาคประชาชนสายปฏิวัติก็ทำล้มเหลวมาแล้ว

   อย่างไรก็ตามโครงสร้างด้านบนบุกมาเยือนภาคประชาชนสายปฏิรูปอย่างไม่ตั้งตัว ไม่ว่าจะเป็นการที่รัฐจะสร้างเขื่อนน้ำโจน จนสืบต้องพลีชีพเพื่อปกป้องป่าผืนนั้น,ไม่ว่าจะเป็นกรณีเขื่อนปากมูลที่รัฐใช้ความรุนแรงกับช่าวนาเจ้าของพื้นที่อย่างไม่ไยดี,ไม่ว่าจะเป็นการที่รัฐและทุนเข้าไปทำลายพื้นที่นาข้าว3จังหวัดอีสานด้วยการหนุนกลุ่มทุนท้องถิ่นทำอุตสาหกรรมเกลือสินเธาว์,การไล่ชาวนาออกจากพื้นที่ให้ทหารไปปลูกไม้ยูคาลิปตัส,การรุกไล่ชาวบ้านในกรณีท่อก๊าซเมืองกาญจน์,การรุกไล่ชาวบ้านกรณีเหมืองแม่เมาะ,กรณีมลพิษนิคมอุตสาหกรรมลำพูน,กรณีโรงไฟฟ้าหินกรูด และท่อก๊าซไทย-มาเลย์

   เมื่อชาวนาอยู่ไม่สุข ใครเล่าจะมีแรงทำเกษตรผสมผสาน ทำเกษตรพออยู่พอกิน ฟอกย้อมหม่อนไหมด้วยสีธรรมชาติ รักษากันด้วยสมุนไพรยาป่า หรือจุดตะเกียงแข่งกับแสงนีออนกันต่อไป ก็จำเป็นอยู่เองที่NGOที่มีลักษณะต่อต้านการบริโภคนิยม ต่อต้านโลกภิวัตน์ จำต้องเข้าเป็นพลังหนุนชาวนา

   กระทั่งก่อรูปขบวนขึ้นเป็นสมัชชาเกษตรกรรายย่อยภาคอีสาน(สกยอ.)ใต้การนำของโย-บำรุง และอโศก ประสานสอน อดีตกรรมกรบ้าง,สมัชชาคนจนใต้ธงนำของNGOทั้งประเทศบ้าง มีสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์-บำรุง บุญปัญญาหนุนเนื่องบ้าง,กลุ่มต่อต้านเขื่อนปากมูลใต้การนำของวนิดา ตันติพิทักษ์บ้าง,ต่อต้านท่อก๊าซเมืองกาญจน์ใต้การนำของสุลักษณ์ และพ่วงเอาศิษย์สำนักในอดีตอย่างพิภพ ธงชัยออกมาบ้าง

   กระทั่งวันหนึ่งพวกเขาก็ได้ข้อสรุปที่จัดเจนว่าต้องมีคนของภาคประชาชนไปอยู่ในสภา นั่นเองครูประทีป,ครูแดง,อาจารย์จอน,อาจารย์เจิม,ครูสุชน,ครูหยุย,ครูยุ่น และใครต่อใครจึงพาเหรดเข้าสภาสูงในยุคทักษิณทรงอำนาจเหนือตึกไทยคู่ฟ้า


องก์ที่5.การบรรจบของ2สายธารในกรณีรัฐประหาร19กันยาฯ

   ส่วนภูมิธรรมที่เคยอยู่สายปฏิรูปด้วยการปลุกปั้นมูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม(มอส.)ที่จุฬาฯปลุกปั้นคนรุ่นใหม่ออกไปเป็นอาสาสมัครในชนบท เป็นNGOหน่อใหม่มาหลายสิบรุ่นนั้น ผันแปรมาผนึกกับมิตรเก่าสายปฏิวัติในอดีต โดยการไปเป็นกุนซือทางการเมืองให้นายทุนชาติที่ชื่อทักษิณ แล้วก็พ่วงพรรคพวกจากจุฬาฯอย่างสุธรรม แสงปทุม ดึงเอาเกรียงกมล-หมอมิ้ง-จาตุรนต์(ซึ่งทิ้งชีวิตนักศึกษาแพทย์ไว้ในป่า แล้วมาเอาดีด้านรัฐศาสตร์)-พินิจ จารุสมบัติ-สุธรรม แสงปทุม-อดิศร เพียงเกษ-ไอ้ก้านยาว ประพัฒน์ แซ่ฉั่ว(ปัญญาชาติรักษ์)-ผดุงศักดิ์ พื้นแสน หรือใครต่อใครในเวลาต่อมา

   กล่าวได้ว่าขณะที่ภาคประชาชนสายปฏิวัติในอดีตกลมกลืนไปได้ดีกับนายทุนชาติ และพยายามยิ่งยวดในการเปลี่ยนเจ้าพ่อธุรกิจสื่อสารให้”เท้าติดดิน”ด้วยการ”แปลงภูมิปัญญาNGOให้เป็นทุน”ทั้ง30บาททุกโรค,พักหนี้เกษตรกร,ธนาคารคนจน,OTOP

   ทว่าด้านหนึ่งฝ่ายประชาชนสายปฎิรูปยังเดินหน้าต่อต้านโลกาวัตน์อย่างแข็งขืน และยืนท้าทายกระแสบริโภคนิยมอย่างทระนง มีบ้างบางส่วนที่เข้ามาเป็นสว.ภาคประชาชน(ซึ่งก็ยืนตรงข้ามกับทักษิณทั้งนั้น)

   กระแสขับเคี่ยวโค่นล้มทักษิณมาถึงก็ต่อเมื่อพลังกระแสหลักของสังคมไทย คือพลังจารีตนิยม+อนุรักษ์นิยม+อำนาจนิยม ไฟเขียวเต็มที่ให้กับสนธิ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นนายทุนชาติด้านสื่อและอดีตพันธมิตรผู้แนบแน่นกับทักษิณ “หัก”ทักษิณด้วยข้อหา”ทุนสามานย์”และทรราชย์แห่ง”ระบอบทักษิณ”

   ไม่ว่าจะเพราะทักษิณเป็นหรือไม่เป็นทุนสามานย์ หรือสนธิลิ้มฯเป็นทุนบริสุทธิ์ผุดผ่อง ทว่าพลพรรคร่วมค่ายซ้ายเก่าอย่างคำนูณ-ไพศาล-สำราญก็ออกศึกรำดาบพุ่งทวนไปใส่ร่างทักษิณอย่างพร้อมเพียง พร้อมเพรียกหาพันธมิตรที่คุ้นเคยอย่างอาจารย์สมเกียรติ-พิภพ-ส.ศิวรักษ์-หงา คาราวาน-แอ๊ดคาราบาว-เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง-แก้วสรร อติโพธิ์ หนุนเนื่องด้วยประเวศ วะสี และฯลฯออกรบอย่างคับคั่ง

   ภาคประชาชนสายปฏิรูปทั้งมวลหรือเกือบทั้งหมดก็ว่าได้ต่างร่วมเป็นพันธมิตรทั้งจงใจ และไม่ตั้งใจในการขับเคี่ยวโค่นล้มทักษิณในบริบท และบาทก้าวที่แตกต่างกันไป...

อาจกล่าวได้ว่าภาคประชาชนสายปฏิรูปได้ลุกขึ้นมาโค่นล้มในสิ่งที่ฟากประชาชนสายการปฏิวัติกำลังฟูมฟักว่าเป็นชิ้นงานมาสเตอร์พีซของพวกเขา นั่นก็คือเศรษฐกิจประชาธิปไตยแบบ”ทักษิโนมิกส์”

   มาถึงตรงนี้คงพอเดากันออกแล้วว่า ทำไมภาคประชาชนสายปฏิรูปจึงก่อตัวขึ้นสู่กระแสสูงยิ่งในการต่อต้านทัดทานและโค่นล้มทักษิณ ชินวัตร ก็เนื่องเพราะรากฐานเป็นมานั้นพวกเขารังเกียจกระแสบริโภคนิยม-ทุนนิยม-ทุนข้ามชาติ กระทั่งเกิดนิยามศัพท์”ทุนสามานย์”ในเวลาต่อมา

   ความสบายอกสบายใจของภาคประชาชนสายปฏิรูปในการล้มล้างทักษิณก็คือ พวกเขาไม่ได้ล้มล้างระบอบประชาธิปไตยเลย เพราะประชาธิปไตยนั้นถูกล้มล้างไปโดยทักษิณก่อนหน้านั้นแล้ว...สิ่งที่พวกเขาโต่นล้มมันลงไปคือ”ระบอบทักษิณ”ต่างหาก

   ทว่าเนื่องจากประสบการณ์ของภาคประชาชนสายปฏิรูปในสายงานด้านการเมืองหรือโครงสร้างด้านบนนั้นมีข้อจำกัดมาก ทำให้พวกเขากำลังงุนงงสับสนกับตัวเองอยู่มากว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในการรัฐประหาร19กันยาฯนั้นคืออะไร? ผลพวงที่ตามมานั้นมันเป็นอะไรแน่? ตกลงมันเป็นเผด็จการ หรือแค่”ช่วงเปลี่ยนผ่านหลังยุคทักษิณ”(Post Thaksin)ไปสู่ประชาธิปไตยที่ชาวบ้านพลเมืองจะได้ถึงยุคฟ้าสีทองผ่องอำไพจริงๆจังๆ?

   คนที่คิดได้ก่อนอย่างนักวิชาการชั้นบนอย่างศ.ดร.นิธิ,อาจารย์จอน,จรัล ดิษฐาอภิชัย,หมอเหวง,ครูประทีป ก็ออกโรงกลับลำมาต่อต้านผู้ยึดอำนาจรัฐประหารอย่างเอาการเอางานบ้าง หรือผ่อนหนักผ่อนเบาบ้าง

   คนที่มีความหวังว่าหลังยุคทักษิณจะดีขึ้นอย่างหมอประเวศก็ให้ศีลให้พรคณะรัฐประหารไป เขาจะฟังไม่ฟังก็อีกอย่าง หรือกว่าจะหาที่ยูเทิร์นเจออย่างสุริยะใส ที่ออกมาค้านไม่ให้พลเอกสนธิสืบทอดอำนาจ พรรคพวกเพื่อนฝูงแวดวงก็กาหัวแล้วว่า”ต้องปล่อยเกาะโดดเดี่ยวมันแล้วไอ้ใส”

   คนที่หลงเข้าไปเต็มแท่งเต็มลำอย่างแก้วสรร,เจิมศักดิ์,สำราญ,คำนูณ,ไพศาล ก็ต้องเลือกข้างไปชัดๆด้วยการปลอบใจตัวเองว่า”เผด็จการทหารก็แค่ชั่วคราว เดี๋ยวก็เลือกตั้งแล้ว ยังไง้ยังไงก็ยังดีกว่าทุนสามานย์อย่างระบอบทักษิณ”

   องก์สุดท้าย:รูดม่านนาฏกรรมบนลานพระรูปฯ

   สำหรับผมแล้ว ภาพของชาวบ้านที่แห่แหนนำดอกไม้ไปให้กำลังใจคณะรัฐประหาร ร่วมกันถ่ายรูปกับรถถัง และไปทัวร์กันยังกับงานรื่นเริงประจำปีที่ลานพระรูปฯในเหตุการณ์รัฐประหาร19กันยาฯ สลับกับภาพที่ลุงแท็กซี่นวมทองต้องพลีชีพเพื่อปลุกสติสังคมนั้น...ว่าไปแล้วมันก็เป็นนาฏกรรมบนลานกว้างดีๆนั่นเอง

   ทว่าเป็นสุขนาฏกรรมของภาคประชาชนสายปฏิรูปที่ไร้เดียงสาทางการเมือง แต่เป็นโศกนาฏกรรมของภาคประชาชนสายปฏิวัติที่เคี่ยวกรำศึกงานการเมืองมาชั่วชีวิต

                 แต่ทั้งหมดมันก็คือนาฏกรรมที่มีพลเมืองของประเทศนี้ สอดบรรสานเป็นอุปรากรวงใหญ่

               
                 เพียงแต่สรรพสำเนียงแห่งเสียงเพลงบรรเลงของภาคประชาชนหนนี้  ฟังไม่เป็นสับปะรดขลุ่ยใดๆ และไร้รสนิยมอย่างน่าชัง...ท่ามกลางเสียงกลบเย้ยของพลังสายธารกระแสหลักอย่างหยามหยัน

   อีกคำรบหนึ่ง![/u]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-07-2007, 15:40 โดย ป๋าเจ้าเก่า » บันทึกการเข้า

ถึงข้าพเจ้าจะไม่เห็นด้วยกับท่านแม้แต่ซักนิด แต่ข้าพเจ้าจะยอมอุทิศชีวิตเพื่อให้ท่านได้พูด...วอลแตร์
see - u
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,370


.......... I'm not Supergirl


« ตอบ #1 เมื่อ: 11-07-2007, 21:40 »

* โห .................. ขยันจัง     อันเก่ายังอ่านไม่จบเลย

   ส่วน ........  ยอยศชายชาติทหาร  นี่ก็ยังไม่ได้อ่าน

   งานการไม่ทำรึ ?  ... ไรกันเนี่ยย 

   แล้วจะให้ไปคุย + ถาม  .........  ทู้ ไหนก่อนดีละเนี่ยยย  ลุ๊งงงงง  เอ๊ออออ
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-07-2007, 21:42 โดย see - u » บันทึกการเข้า

    " I  will  unforgive  you  to  do  the  bad  thing  like  this. "   

                           

                        The  fox  changes  his  skin  but  not  his  habits.   *

                 Superman ( It's Not Easy )   >>  http://www.ijigg.com/songs/V2B7G4GPD
    
    
   "  กฏหมายต้องเดินหน้าเอาผิดต่อคนไม่ดี  ........  ไม่ใช่ปล่อยให้คนไม่ดีมากล่าวเอาโทษกฏหมาย  "

                                     
                                          
ป๋าเจ้าเก่า
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 272


ถึงไม่เห็นด้วยสักนิด แต่ผมจะแลกชีวิตให้คุณได้พูด


« ตอบ #2 เมื่อ: 11-07-2007, 21:54 »

ครบชุดแล้วครับ

ความจริงตั้งใจเขียนแค่ยอยศปชป.
ต่อมาก็มีแฟนๆขอยอยศทรท.
ต่อมามีแฟหนๆขอยอยศทหาร
ต่อมามีขอยอยศภาคประชาชน
ส่วนยอยศสื่อนี่ผมให้เป็นของแถม ถ้าไม่เอาจะขอคืน...คริคริคริ
บันทึกการเข้า

ถึงข้าพเจ้าจะไม่เห็นด้วยกับท่านแม้แต่ซักนิด แต่ข้าพเจ้าจะยอมอุทิศชีวิตเพื่อให้ท่านได้พูด...วอลแตร์
see - u
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,370


.......... I'm not Supergirl


« ตอบ #3 เมื่อ: 11-07-2007, 22:24 »

* ดี ๆๆๆ .......... ไม่ต้องลบอันไหนออกไปหรอกค่ะ

   ขอเวลาอ่านที่เขียนแต่ละอันแป๊ป ......  จะได้คุยในสิ่งที่สงสัย

   ถ้าไม่อ่านก็ไม่รู้ว่าคิดอะไร ... ใช่ป่าว

   จายเย็น ๆ  ยังต้องคุยในเรื่องที่เขียนกันอีกนานนนน  เนาะ
 

   

บันทึกการเข้า

    " I  will  unforgive  you  to  do  the  bad  thing  like  this. "   

                           

                        The  fox  changes  his  skin  but  not  his  habits.   *

                 Superman ( It's Not Easy )   >>  http://www.ijigg.com/songs/V2B7G4GPD
    
    
   "  กฏหมายต้องเดินหน้าเอาผิดต่อคนไม่ดี  ........  ไม่ใช่ปล่อยให้คนไม่ดีมากล่าวเอาโทษกฏหมาย  "

                                     
                                          
พระพาย
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 679



« ตอบ #4 เมื่อ: 11-07-2007, 23:17 »

เข้ามาให้กำลังใจผู้เขียนมหากาพย์ชุดนี้ครับ

ชุดอื่นไม่ค่อยน่าสนใจเท่าชุดนี้ เพราะเรื่องพรรคประชาธิปัตย์ พรรคไทยรักไทย หรือประวัติศาสตร์ทหารไทย การเมืองไทยมีอยู่เต็มไปหมด... แต่ชุดนี้เป็นการสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ ร้อยเรียงตัวละครจำนวนมากได้อย่างน่าสนใจ (และสมจริง)... อ่านแล้วประเทืองปัญญามาก 

อย่างไรก็ตาม ผมเห็นต่างในการมองพื้นที่ภาคประชาชนออกเป็นสองสาย และให้สองสายนี้เป็นคู่ขัดแย้งกัน แล้วใช้คู่ขัดแย้งนี้อธิบายคู่ขัดแย้งทั้งหมดในเรื่องทักษิณ

โดยความรู้สึก... ผมคิดว่ามันน่าจะมากกว่านั้น และโยงใยกันมั่วไปหมด

ยกตัวอย่างเช่น... ในด้านศาสนาเองก็มีทั้งพุทธ คริสต์ และลัทธิมากมายที่มีกระบวนการ "จัดตั้ง" ภาคประชาชนเพื่อประชาชนในหลายรูปแบบ... และในบางกรณีน่าสงสัยเป็นอย่างยิ่งว่าเกี่ยวข้องกับ "การเมือง"

นอกจากนี้แล้วผมคิดว่าสายปฏิรูปส่วนใหญ่ที่กล่าวมานั้น ล้วนเป็นคนที่ค่อนข้างแข็งทั้งสิ้น ผมไม่คิดว่าคนเหล่านี้จะยอมอยู่สายไหนทั้งนั้น นอกจากความเป็นตัวของตัวเอง

เช่นเดียวกับปัจเจกชนคนธรรมดาอย่างเราๆ ท่านๆ... ที่ ณ กาลเวลาข้างหน้าอันใกล้นี้ เราจะต้องเข้าไปมีส่วนร่วมไม่ทางใดก็ทางหนึ่งในการลงประชามติ การเลือกตั้ง หรือต่อต้านรัฐธรรมนูญ... จะถูกผลักให้ถูกจำกัดทางเลือกเพียงสองสายคือ ปฏิวัติ - ปฏิรูป ไม่ลูกกระจ๊อกทักษิณ ก็ลูกกระจ๊อกสนธิ และเหล่าพลพรรคผู้กล้าหาญที่กล่าวมานี้... ภาคประชาชนคงมีความหมายที่แคบเกินไปครับ
บันทึกการเข้า

คลิป นปก บุกทำเนียบชนพันธมิตร
http://pirun.ku.ac.th/~g4685035/01mob.asf
กระทู้ขบวนการเสรีไทยในเวบบอร์ดร่วมคัดคัดกรณีปราสาทพระวิหาร นำโดยคุณ *bonny http://forum.serithai.net/index.php?topic=28065.0
และเอกสารยื่นคัดค้านกระทรวงต่างประเทศไทยและกัมพูชา  http://www.savefile.com/files/1629973
กระทู้สรุปประเด็นปราสาทพระวิหาร โดยคุณ Jerasak http://forum.serithai.net/index.php?topic=28392.0
ใบปลิวขนาด 2 หน้าสรุปประเด็นปราสาทพระวิหาร โดยคุณ Jerasak http://www.savefile.com/files/1626944

แม่น้ำร้อยสายล้วนต้นกำเนิดเดียวกัน... จากสายฝน จากภูเขา ที่ซึ่งคล้ายเจตนารมณ์แห่งฟ้า
เสรีไทยเวบบอร์ด http://forum.serithai.net/
We Open Mind http://www.weopenmind.com/board/index.php
อรุณสวัสดิ์ http://www.arunsawat.com/board/index.php
ที่ทำการเสี่ยวอีสาน[
ป๋าเจ้าเก่า
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 272


ถึงไม่เห็นด้วยสักนิด แต่ผมจะแลกชีวิตให้คุณได้พูด


« ตอบ #5 เมื่อ: 11-07-2007, 23:30 »

ก่อนลงมือเขียนเรื่องนี้ผมคิดเหมือนคุณพระพายเด๊ะเลยครับ

แต่เจตน์จำนงในการเขียนและthemeในการเขียนเรื่องนี้ ผมอยากให้มันออกมาแนวDramaหน่อยๆ

ประเภทว่าพี่น้องสองคน เกิดจากพ่อคนเดียวกัน คนหนึ่งโตขึ้นเป็นนักปฏิว้ติ อีกคนกลายเป็นนักปฏิรูป ขับเคี่ยวกันยืดเยื้อ โดยมีclimaxของเรื่องอยู่ที่ลานพระรูปในช่วง19กันยาฯ คนกำลังเฮๆๆๆๆให้ดอกไม้กับทหารบนรถถัง....จู่ๆTAXIนวมทองโผล่มาชนตู้ม

ไอ้พี่น้องคู่นี้ดันโดนลูกหลงตายแหงแก๋....ตอนจบตัวโกงตัวจริงแสยะยิ้มให้ อะไรทำนองนั้นครับ


แต่หากฉายภาพที่เป็นจริงให้ครบทุกมุม มันก็จะเป็นไปในทางที่คุณพระพายว่าแหละครับ ลองช่วยผมเขียนต่อดีไหมครับ...
บันทึกการเข้า

ถึงข้าพเจ้าจะไม่เห็นด้วยกับท่านแม้แต่ซักนิด แต่ข้าพเจ้าจะยอมอุทิศชีวิตเพื่อให้ท่านได้พูด...วอลแตร์
Priateľ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 395



« ตอบ #6 เมื่อ: 11-07-2007, 23:42 »

ผมมองว่าองค์แรกยังเป็นการมองภาคประชาชนในเฉพาะส่วนของ "ผู้กุมอำนาจและผู้ที่มีโอกาสกุมอำนาจ"

หากยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง คุณปรีดีคือหลวงประดิษฐ์มนูธรรมที่กำลังมีโอกาสมีอนาคตในหน้าที่การงาน เช่นเดียวหลวงพิบูลย์สงคราม เช่นเดียวกับพระยาพหลพลพยุหเสนา

คนเหล่านี้คือชนชั้นปกครองในระดับรองลงมาจากเหล่าสภาอภิมุขหรือเชื้อพระวงศ์ที่มีอำนาจปกครองประเทศในสมัยก่อนหน้านั้น ทั้งหมดนี้คือข้าราชการ

อิทธิพลในความคิดหรืออุดมการณ์ของคณะราษฎรมีผลต่อความคิดของประชาชนในยุคนั้นหรือเปล่านั้นผมยังสงสัย ว่ากันว่าชาวบ้านบางคนคิดว่ารัฐธรรมนูญคือลูกของพระยาพหลฯ ก็เป็นข่าวลือที่ไม่สามารถหาหลักฐานมายืนยันได้นะครับ แต่เมื่อพิจารณาถึงบทบาทของประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศมันเป็นคนละแนวกับที่เหล่าคณะราษฎรกระทำ ผมกลับมองว่าภาคประชาชนไม่ได้รับอิทธิพลมาจากคณะราษฎร นอกจากความหลักการว่าต่อไปนี้อำนาจเป็นของประชาชน โดยรัฐจะเป็นผู้ชี้แนวทางการใช้อำนาจ หรือบางครั้งรัฐจะเป็นผู้ใช้อำนาจดังกล่าวแทน

ผมมองภาคประชาชนในยุคเจ็ดสิบปีก่อนดังนี้ ในแถบ SEA นั้นภาคประชาชนถูกปกครองด้วยการแลกเปลี่ยนกับการคุ้มครองภัย การเอื้อประโยชน์ทางบริโภคอุปโภคจากเหล่าผู้ปกครอง เหล่านี้คือข้อตกลงเป็นที่เข้าใจกันทั้งสองฝ่ายตั้งแต่เกิดจนตาย ตราบใดที่ผู้ปกครองกับผู้ถูกปกครองยังได้รับผลประโยชน์ถึงระดับ (treshold) ระบบถือว่ามีความสมดุลย์

ระบบเหล่านี้ถือว่ายังพบเห็นกันได้โดยทั่วไปในปัจจุบันในระบอบของทุนนิยม ยกตัวอย่างคำพูดเช่น "ถึงเขาโกงแต่หากทำประโยชน์ให้กับเรา ก็จงเลือกเขามาเถอะ"

เมื่อใดก็ตามที่ระบบถูกรบกวน เมื่อผลประโยชน์ที่ได้รับต่ำกว่าระดับ treshold ระบบก็จะปรับสมดุลย์  ปฏิวัติ ปลดแอก ทลายชนชั้น ฯลฯ

ผมเห็นด้วยกับคุณป๋าว่าคุณปรีดีและคณะราษฎรมีส่วนในเรื่องการเมืองภาคประชาชน แต่ผมคิดว่าเขามีอิทธิพลกับประชาชนเหล่าผู้ที่กำลังจะมามีบทบาทในฐานะผู้แทนราษฎร รัฐมนตรี (ไม่นับนายกฯเพราะเป็นทหารเยอะ) สื่อมวลชน นักเขียน แต่ไม่ใช่กับราษฎรหรือประชาชนส่วนใหญ่ ผมมองว่าภาคประชาชนไทยที่แท้จริงนั้นมันเป็นการประชาธิปไตยแบบ reactive ขณะที่กลุ่มคณะราษฎรสายคุณปรีดีนั้นเป็นแบบ proactive โดยเป้าหมายหลักคือการทะลายความแตกต่างของชนชั้นระดับบน

อิทธิพลของความคิดใดที่มีผลกระทบต่อประชาชนจริงๆ ผมเชื่อว่าน่าจะเป็นช่วงของความนิยมแนวคิด communism เข้ามาแพร่หลายใน SEA

(ความเชื่อส่วนบุคคล ผู้ปกครองควรพิจาณาครับ  )
บันทึกการเข้า

If you ever want something badly, let it go. If it comes back to you, then it's yours forever. If it doesn't, then it was never yours to begin with.

ก๊อปมาจากหนัง Indecent proposal
Scorpio6
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,210


Man on Mission *เสี่ยวฯ>สันติภาพ*


« ตอบ #7 เมื่อ: 11-07-2007, 23:45 »

ผมขอชื่นชมงานชิ้นนี้ครับ..มองเห็นภาพสายธารชัดเจน
สะกิดหัวใจ..บื้อๆและสมองกลวงๆ ของผมได้ดีเชียว
โดยเฉพาะกลุ่มคนทำงานภาคประชาชนที่เป็นตัวของตัวเองมาก
เกินกว่าจะเหนี่ยวเข้ามาสู่ระบบได้..แต่ก็นั่นแหละครับ ทางเลือก
ของแต่ละท่านย่อมเป็นไปได้เสมอ..ผมเองก็คุ้นทางสายอีสาน
มากกว่าทั้ง กป.อพช.กลุ่มปราชญ์ชาวบ้านอีสานใต้
และกลุ่มอาสาสมัครัฐธรรมนูญอีสาน.ที่วาดฝันจะปฎิรูปการเมือง
ให้เป็นของประชาชน...ช่วงก่อนและหลังปฏิวัติ19กันยา..แม้
จะมีบางกลุ่มปฏิเสธทหารอยู่บ้างแต่ก็พอรับได้ โดยส่วนใหญ่
หวังจะเห็นแผ่นดินไทย เต็มไปด้วยสายใย..นักปฎิรูปภาคประชาชน
ทุกภาคของประเทศ..แผ่นดินสยามจักมั่นคง..
ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ตาม...ขอชื่นชมอีกครั้งครับ
บันทึกการเข้า



คิดจะล้มระบอบทักษิณ ต้องอ่านใจเนวินและเพื่อน
บล็อกเสี่ยวไทบ้าน*แวะเยี่ยมRepublican Collage ของคุณสุธา ชันแสง*
http://www.oknation.net/blog/thaibaan/2008/03/26/entry-1
"ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนและในฐานะอย่างไร จงตรองหาว่า จะมีทางใช้ชีวิต
ให้เป็นประโยชน์ในทางใดบ้าง เมื่อตั้งใจคิดถึงมันแล้วก็จะพบเสมอ
ไม่ว่าอยู่ที่ใด เมื่อพบทางแล้วจงลงมือทำสิ่งที่เป็นประโยชน์"
พระพาย
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 679



« ตอบ #8 เมื่อ: 11-07-2007, 23:51 »

ชะอุ๋ย... ข้าน้อยศิโรราบ

วางพล๊อตได้ขนาดนี้... เทพชัดๆ

อ้างถึง
ไอ้พี่น้องคู่นี้ดันโดนลูกหลงตายแหงแก๋....ตอนจบตัวโกงตัวจริงแสยะยิ้มให้ อะไรทำนองนั้นครับ

ตัวโกงตัวจริง.. ใช่ตัวนี้ที่เขียนหรือเปล่าครับ? เห็นเขียนไว้หลายที่
1
อ้างถึง
หลังการปฏิวัติ2475ของคณะราษฎร์แล้ว ปรีดี พนมยงค์ ผู้นำทางสติปัญญาของคณะฯต้องล้มเหลวในการปฏิวัติประชาชาติด้านเศรษฐกิจโดย สิ้นเชิง เมื่อต้องเผชิญแรงปฏิกิริยาต่อต้านการปฏิวัติจากพลังจารีตนิยมและอนุรักษ์ นิยม+อำนาจนิยม เขาจำต้องกลายเป็นนักปฏิรูปสังคมด้วยข้อจำกัดดังกล่าวในระยะต่อมา
ภาย หลังการถึงแก่การอสัญกรรมของนายพันเอกพระยาทรงสุรเดชอย่างอนาถาในอินโดจีน ก็นับเป็นการขจัดเสี้ยนหนามสำคัญทางทหารของจอมพลป.ผู้เผด็จการ เหลือหอกข้างแคร่ก็เพียงผู้นำสายพลเรือนคือปรีดี พนมยงค์ ซึ่งต้องเผชิญข้อหาร้ายแรงที่สุดในคราวสวรรคต9มิถุนายน2489

2
อ้างถึง
กระแสขับเคี่ยวโค่นล้มทักษิณมาถึงก็ต่อเมื่อพลังกระแสหลักของสังคมไทย คือพลังจารีตนิยม+อนุรักษ์นิยม+อำนาจนิยม ไฟเขียวเต็มที่ให้กับสนธิ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นนายทุนชาติด้านสื่อและอดีตพันธมิตรผู้แนบแน่นกับทักษิณ “หัก”ทักษิณด้วยข้อหา”ทุนสามานย์”และทรราชย์แห่ง”ระบอบทักษิณ”

3
อ้างถึง
  คนที่คิดได้ก่อนอย่างนักวิชาการชั้นบนอย่างศ.ดร.นิธิ,อาจารย์จอน,จรัล ดิษฐาอภิชัย,หมอเหวง,ครูประทีป ก็ออกโรงกลับลำมาต่อต้านผู้ยึดอำนาจรัฐประหารอย่างเอาการเอางานบ้าง หรือผ่อนหนักผ่อนเบาบ้าง

   คนที่มีความหวังว่าหลังยุคทักษิณจะดี ขึ้นอย่างหมอประเวศก็ให้ศีลให้พรคณะรัฐประหารไป เขาจะฟังไม่ฟังก็อีกอย่าง หรือกว่าจะหาที่ยูเทิร์นเจออย่างสุริยะใส ที่ออกมาค้านไม่ให้พลเอกสนธิสืบทอดอำนาจ พรรคพวกเพื่อนฝูงแวดวงก็กาหัวแล้วว่า”ต้องปล่อยเกาะโดดเดี่ยวมันแล้วไอ้ใส”
บันทึกการเข้า

คลิป นปก บุกทำเนียบชนพันธมิตร
http://pirun.ku.ac.th/~g4685035/01mob.asf
กระทู้ขบวนการเสรีไทยในเวบบอร์ดร่วมคัดคัดกรณีปราสาทพระวิหาร นำโดยคุณ *bonny http://forum.serithai.net/index.php?topic=28065.0
และเอกสารยื่นคัดค้านกระทรวงต่างประเทศไทยและกัมพูชา  http://www.savefile.com/files/1629973
กระทู้สรุปประเด็นปราสาทพระวิหาร โดยคุณ Jerasak http://forum.serithai.net/index.php?topic=28392.0
ใบปลิวขนาด 2 หน้าสรุปประเด็นปราสาทพระวิหาร โดยคุณ Jerasak http://www.savefile.com/files/1626944

แม่น้ำร้อยสายล้วนต้นกำเนิดเดียวกัน... จากสายฝน จากภูเขา ที่ซึ่งคล้ายเจตนารมณ์แห่งฟ้า
เสรีไทยเวบบอร์ด http://forum.serithai.net/
We Open Mind http://www.weopenmind.com/board/index.php
อรุณสวัสดิ์ http://www.arunsawat.com/board/index.php
ที่ทำการเสี่ยวอีสาน[
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 12-07-2007, 00:01 »

อ่านเพลิน และน่าจะเป็นบทที่ดีที่สุดของชุดนี้

สายปฏิวัติ - สายร้อน

สายปฏิรูป - สายเย็น

ในสายเย็นนี้ ยังเชื่อในแนวคิด "ปลาเป็นว่ายทวนน้ำ" สู่ต้นกระแสธารเพื่อวางไข่ เช่นเดียวกับ "ปลาแซลม่อน"

ก็ได้แต่หวังว่า เราจะมี "ลูกปลาแซลม่อน" ประดับโลกไว้โดยไม่โดนเขื่อนปิดกั้นการวางไข่ของปลาทั้งมวล

อย่างน้อยก็เพื่อให้พลโลกได้ใช้ทรัพยากรร่วมกันอย่างมั่นยืน


ความกล้าหาญมิใช่แค่กล้าออกไปเดินชนลูกกระสุนเท่านั้น

แต่ความกล้าหาญยังหมายถึงการกล้าป่าวประกาศสัจธรรม
บันทึกการเข้า

พระพาย
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 679



« ตอบ #10 เมื่อ: 12-07-2007, 00:08 »

เห็นด้วยกับ Checkmate Rook ครับ

ผมเห็นด้วยกับคุณป๋าว่าคุณปรีดีและคณะราษฎรมีส่วนในเรื่องการเมืองภาคประชาชน แต่ผมคิดว่าเขามีอิทธิพลกับประชาชนเหล่าผู้ที่กำลังจะมามีบทบาทในฐานะผู้แทนราษฎร รัฐมนตรี (ไม่นับนายกฯเพราะเป็นทหารเยอะ) สื่อมวลชน นักเขียน แต่ไม่ใช่กับราษฎรหรือประชาชนส่วนใหญ่ ผมมองว่าภาคประชาชนไทยที่แท้จริงนั้นมันเป็นการประชาธิปไตยแบบ reactive ขณะที่กลุ่มคณะราษฎรสายคุณปรีดีนั้นเป็นแบบ proactive โดยเป้าหมายหลักคือการทะลายความแตกต่างของชนชั้นระดับบน

อิทธิพลของความคิดใดที่มีผลกระทบต่อประชาชนจริงๆ ผมเชื่อว่าน่าจะเป็นช่วงของความนิยมแนวคิด communism เข้ามาแพร่หลายใน SEA

(ความเชื่อส่วนบุคคล ผู้ปกครองควรพิจาณาครับ  )

อ่า... คุณป๋าฯ คับ.. เปลี่ยนให้พี่น้องที่เป็นตัวเอกของเรื่องเป็นลูกของ "อีตาคอมมิวนิสต์" แทนการเป็นลูกของ "ท่านปรีดี-ระบอบประชาธิปไตย" จะทำให้เรื่องราวเสียอรรถรสหรือเปล่าคับ

ทหารสู้กับพี่น้องคอมมิวนิสต์ ประชาธิปไตยไม่เสียหาย... แล้วเราก็ไปเลือกตั้งกัน... เย้ แฮปปี้เอนดิ้ง (ว้า... วันนี้ทำไมเราป่วนจัง)
บันทึกการเข้า

คลิป นปก บุกทำเนียบชนพันธมิตร
http://pirun.ku.ac.th/~g4685035/01mob.asf
กระทู้ขบวนการเสรีไทยในเวบบอร์ดร่วมคัดคัดกรณีปราสาทพระวิหาร นำโดยคุณ *bonny http://forum.serithai.net/index.php?topic=28065.0
และเอกสารยื่นคัดค้านกระทรวงต่างประเทศไทยและกัมพูชา  http://www.savefile.com/files/1629973
กระทู้สรุปประเด็นปราสาทพระวิหาร โดยคุณ Jerasak http://forum.serithai.net/index.php?topic=28392.0
ใบปลิวขนาด 2 หน้าสรุปประเด็นปราสาทพระวิหาร โดยคุณ Jerasak http://www.savefile.com/files/1626944

แม่น้ำร้อยสายล้วนต้นกำเนิดเดียวกัน... จากสายฝน จากภูเขา ที่ซึ่งคล้ายเจตนารมณ์แห่งฟ้า
เสรีไทยเวบบอร์ด http://forum.serithai.net/
We Open Mind http://www.weopenmind.com/board/index.php
อรุณสวัสดิ์ http://www.arunsawat.com/board/index.php
ที่ทำการเสี่ยวอีสาน[
ป๋าเจ้าเก่า
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 272


ถึงไม่เห็นด้วยสักนิด แต่ผมจะแลกชีวิตให้คุณได้พูด


« ตอบ #11 เมื่อ: 12-07-2007, 07:46 »

เรียนคุณCheckmate ครับ ที่คุณกล่าวมานั้นชอบแล้ว และคุณปรีดีก็เคยสารภาพไว้หลายวาระหลายโอกาสในเรื่องที่ว่านั้น รวมๆคือคุณปรีดีเห็นว่าท่านติดต่อกับประชาชนพลเมืองน้อยไปในคราวหลังปฏิวัติสำเร็จ กับไปประนีประนอมกับระบอบเก่าเกินไป อันนี้หากยังไม่เคยฟังผมอยากให้ได้ฟังเสียงสัมภาษณ์ของคุณปรีดี 2 ปีก่อนท่านถึงแก่อสัญกรรม ได้พูดเรื่องที่คุณCheckmateให้ข้อสังเกตไว้อย่างละเอียด
http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms&ContentID=8625&SystemModuleKey=HilightNews&System_Session_Language=Thai

อย่างไรก็ดีผมเห็นว่าอิทธิพลของปรีดีต่อภาคประชาชนนั้น ก็มีมาอย่างสืบเนื่อง2สายดังกล่าวไปแล้ว คือสายปฏิวัติส่งผ่านเตียง ศิริขันธ์มาหาครอง จันดาวงศ์ มาสู่ไขแสง สุกใส มาสู่นักศึกษายุคเดือนตุลา ส่วนสายปฏิรูปนั้นส่งผ่านป๋วย+สุละกษณ์ แล้วสืบผ่านพิภพ+รสนามาถึงครูแดงอะไรประมาณนี้(ซึ่งแน่นอนว่าความหมายของภาคประชาชนในบทความนี้ย่อมไม่ได้หมายถึงชาวบ้านพลเมือง แต่เป็นปัญญาชน และทุกวันนี้เมื่อแม้สมเกรียรติ+พิภพ+สุริยะใส+รสนาเอ่ยคำว่าภาคประชาชนเมื่อใด คนก็ไม่ได้คิดว่าเป็นชาวบ้านแบบบ้านๆ แต่ย่อมหมายถึงปัญญาชนกระแสทวน ที่ไม่อยู่ในสังกัดรัฐ+ราชการ หรือภาคเอกชน)

..............................................................................
เรียนคุณscorpio6ครับ ฝากความระลึกถึงทุกท่านด้วยนะครับเวลาไปอีสาน หรือเหนือ หรือใต้ หรือทุกที่แหละ ผมยังคิดว่าผมเป็นหน่อเนื้อของขบวนการอยู่ แม้ฐานภาพเวลานี้ห่างไกลไปสุดขั้วในสถานภาพที่ผมเป็นอยู่ก็ตาม

.................................................................................

เรียนคุณพระพายครับ

ท่านเข้าใจได้ชัดแจ่มครับ มิเสียแรงที่ผมได้เปิดเผยเจตนานั้นไว้ตั้งหลายจุด

ส่วนพล็อตเรื่องการที่ฝ่ายกระแสหลักดันได้ลูกคอมมิวนิสต์มาอยู่ในถ้ำ แล้วต้องเปิดฉากสู้รบกับพ่อที่เป็นคอมฯนั้นนับเป็นนาฏกรรมที่สะเทือนใจครับ และเราท่านก็ได้อ่านผ่านตามามาก ล่าสุดบนแผงก็ทำท่าจะเป็นbest sellerเพราะลูกคอมมิวนิสต์อุตส่าห์มาเขียนคำนำนิยมให้คุณพ่อคอมมิวนิสต์ โดยประทับตราสร.1ในคำนิยมนั้นด้วย(ความจริงผมชื่นชมและเคารพน้ำใจเสียสละอาจหาญของลุงคำตันมากพอกับเคารพในความที่เป็น"คนสุดพิเศษ"ของพลเอกสุรยุทธ์นะครับ คนอะไรไม่รู้มีตาเป็นกบฎ มีพ่อเป็นคอมฯ แต่ไต่เต้ามาจนถึงส่วนTOPสุดแห่งปิรามิดอำนาจได้อย่างนี้ ยิ่งกว่านิยายที่นักเขียนใดในโลกนี้จะพล็อตเรื่องออกมาได้)

......................................................
เรียนลุงCanครับ

ผมนั้นเป็นเด็กที่ด่วนได้ใจร้อนมาก ตอนเข้าไปอยู่ในแวดวงNGOก็เลยไปทำให้ขบวนการนั้นผันผวนรวนเรไปมาก อย่างที่เล่าในบทความนี้ บางทีผมก็ข้ามฟากไปปั่นป่วนแถบอุบลฯยุให้พี่นิกร สสส.อุบลฯที่แกอยู่สงบๆ หรือนายตั้ง-อธิชัย บุญประสิทธิ์ นักเขียนขายหัวเราะ ออกมาเป็นพวกนักสู้สายร้อนมาแล้ว(แต่นายตั้งโชคดีมีของแถมเจอรักระหว่างรบกับนักศึกษาสาวงาม เลยแฮปปี้เอ็นดิ้งไป ไม่งั้นก็เจอตรีนของลูกน้องไชยศิริไปฟรีๆแบบไม่มีแต้ม)
บันทึกการเข้า

ถึงข้าพเจ้าจะไม่เห็นด้วยกับท่านแม้แต่ซักนิด แต่ข้าพเจ้าจะยอมอุทิศชีวิตเพื่อให้ท่านได้พูด...วอลแตร์
see - u
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,370


.......... I'm not Supergirl


« ตอบ #12 เมื่อ: 13-07-2007, 19:37 »

* เข้ามาคุยกะคุณป๋า ฯ ..... ค่ะ

   นั่งอ่านจากที่มาเขียนมาของ " ยอยศภาคประชาชน " ยอมรับว่าเป็นคนที่มีภูมิความรู้ที่ดีมากคนหนึ่งทีเดียว

   เพราะ ... เรียบเรียงเรื่องราวได้ค่อนข้างแม่นยำ และ เปรียบเทียบได้ดี

   จะว่าไปแล้วขอถามตรง  องก์ที่2. เรื่อง ...


   " การปฏิวัติในเขตป่าเขาปิดฉากลงด้วยความขมขื่นพ่ายแพ้ของ”ภาคประชาชน”สายนี้ ( ก็คือ นักศึกษายุค ตุลาคม 2519 )

    เมื่อเจเนเรชั่นนี้ต้องไปเกิดCultural cap.กับเจเนเรชั่นแรกอย่างพ.เมืองชมพู,นายผี หรือใครต่อใครประการหนึ่ง "


    คือการ Cultural cap. ระหว่าง 2 เจเนเรชั่น ......  เกิดขึ้นเพราะ  ?????

    อย่างนักศึกษายุคตุลา 19 เข้าป่า... เพราะ จำเป็นต้องเข้าไป

    เนื่องจากโดนล้อมยิง และ กดดัน จากรัฐบาลยุคนั้น ( ซึ่งไอ้คนสั่งยิงก็ไม่ได้ตายในคุกอยู่ดี )

    แม้นักศึกษายุคนั้นถึงจะมีแนวทางหรือซึมซับการเรียกหา ... ประชาธิปไตยในอีกรูปแบบหนึ่ง

    ( ไม่อยากเขียนว่า ... งานเขียนประเภทเรื่อง แม่ ของ แมกซิม กอร์กี้ หรือ โจนาธาน ลิฟวิงสตัน นางนวล

       ค่อนข้างมีอิทธิพลสำหรับคนที่ แสวงหา และ มีคำถาม คือ ...ที่เปรียบเทียบเป็นหนังสือเพราะไม่รู้จะใช้คำว่าอะไรดี อ่ะ

       แต่ ... คิดว่าคนยุคนั้นคงรู้จักหนังสือ 2 เล่มนี้ เป็นอย่างดีเนาะ  ... ( เดาเอาค่ะ )

    เอ้ ... อยากให้คุณ ป๋า ฯ ช่วยอธิบายให้ฟังหน่อยว่า

    ความแตกต่างของ เจเนเรชั่นแรก ยุค พ.เมืองชมพู,นายผี กะ ยุคที่  2  คืออะไรคะ

    ในเมื่อ นายผี..... ก็เป็นที่ชื่นชมของนักศึกษายุค ตุลา มิใช่หรือ ???

    แทงกิ้ววววววว .... ล่วงหน้าค่ะ
   

บันทึกการเข้า

    " I  will  unforgive  you  to  do  the  bad  thing  like  this. "   

                           

                        The  fox  changes  his  skin  but  not  his  habits.   *

                 Superman ( It's Not Easy )   >>  http://www.ijigg.com/songs/V2B7G4GPD
    
    
   "  กฏหมายต้องเดินหน้าเอาผิดต่อคนไม่ดี  ........  ไม่ใช่ปล่อยให้คนไม่ดีมากล่าวเอาโทษกฏหมาย  "

                                     
                                          
snowflake
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,207



« ตอบ #13 เมื่อ: 13-07-2007, 19:51 »

Cultural cap. คืออะไร?

cultural gap หรือเปล่า?


 
บันทึกการเข้า

Even the smallest person can change the course of the future.
cameronDZ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,827


my memory


« ตอบ #14 เมื่อ: 13-07-2007, 19:57 »

Cultural cap.

cap. = captain

ผู้นำทางวัฒนธรรม


 
บันทึกการเข้า

ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา
จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย
...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ...
แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก
...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...
ชัย คุรุ เทวา โอม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,846


สมัครรักแมว แต่ผมรัก Cat


« ตอบ #15 เมื่อ: 13-07-2007, 20:36 »

...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-07-2007, 12:02 โดย amalit1990 » บันทึกการเข้า

"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..."

คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน

(How the Steel Was Tempered)

นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933


*******************************

เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ
http://www.oknation.net/blog/amalit1990
qazwsx
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


นักธุรกิจและตำรวจ ต้องออกไปจากการเมือง


« ตอบ #16 เมื่อ: 13-07-2007, 20:41 »

ชอบครับ
เป็นกระทู้ที่ดี

จะติดหน่อยก็ตรงที่คุณป้าดันจับสมบัติ บุญงามอนงค์ + ประทีป  อึ้งทรงธรรมเข้าไปด้วย
...ประทีป "ขึ้นต้นเป็นมะลิซ้อน..." นะครับ
ส่วนสมบัติ เป็นพวกกฎุมพีหาเงาตัวเอง ( มานาน ) จน "ได้ที่" ตามเข้าใจแล้ว ก็ยึดแม่งถือมั่ง
แท้จริงไม่มีทั้ง "ราคา" และี "หลักการ" ใด ๆ
คนรุ่นเดียวกันไม่เอา  คนรุ่นเก่าเห็นแล้วส่ายหัว  คนรุ่นใหม่ก็รู้เช่นเห็นชั่ว
พลอยทำเสียหายแก่คำว่า "ภาคประชาชน" เปล่า ๆ



บันทึกการเข้า

ชัย คุรุ เทวา โอม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,846


สมัครรักแมว แต่ผมรัก Cat


« ตอบ #17 เมื่อ: 13-07-2007, 20:49 »

แล้วก็ แอ็ด ยืนยง
ไม่ได้อยู่พันธมิตรนะครับ
บันทึกการเข้า

"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..."

คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน

(How the Steel Was Tempered)

นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933


*******************************

เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ
http://www.oknation.net/blog/amalit1990
see - u
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,370


.......... I'm not Supergirl


« ตอบ #18 เมื่อ: 13-07-2007, 23:35 »

*  มาถามอีกหน่อยว่า .............

    จากนี้ นาฏกรรมบนลานกว้าง ... ที่คุณป๋ากล่าวถึง

    น่าจะเป็นอย่างไรต่อไปในวันข้างหน้า ... ??

    รอยยิ้ม  ดอกไม้  ก้อนอิฐ  ยินดี  ชิงชัง  หรือย้อนรอยเดิมแบบที่เคยเป็นมาเป็นวงกลมซ้ำ ๆ ซาก ๆ ค่ะ


บันทึกการเข้า

    " I  will  unforgive  you  to  do  the  bad  thing  like  this. "   

                           

                        The  fox  changes  his  skin  but  not  his  habits.   *

                 Superman ( It's Not Easy )   >>  http://www.ijigg.com/songs/V2B7G4GPD
    
    
   "  กฏหมายต้องเดินหน้าเอาผิดต่อคนไม่ดี  ........  ไม่ใช่ปล่อยให้คนไม่ดีมากล่าวเอาโทษกฏหมาย  "

                                     
                                          
ป๋าเจ้าเก่า
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 272


ถึงไม่เห็นด้วยสักนิด แต่ผมจะแลกชีวิตให้คุณได้พูด


« ตอบ #19 เมื่อ: 13-07-2007, 23:48 »

Cultural gap ของคุณsnowflakeเป็นคำที่ถูกครับ ส่วนที่ผมเขียนนั้นผิดชัวร์ กราบขอบพระคุณที่ให้ความสนใจแม้ถ้อยคำครับ ผมคงเผอเรอ(ไม่ใช่เผลอเรอ)ในตอนเขียนครับ

ขยายความครับคุณsee-u คนรุ่นแรกที่เข้าป่านั้นส่วนใหญ่มักจะต้องเดินทางไปศึกษาในจีน(หรือเป็นลูกไทยเชื้อสายจีนแล้วไปโตในจีน) กระทั่งไปอยู่ในจีนมากกว่าในไทย ทำให้ซึมซับรับอิทธิพลจีนเอาไว้มาก มีเรื่องว่ากันถึงขั้นว่าเวลาสหายนำประชุมกันนั้นใช้ภาษาจีน ขณะที่ยุคเจเนเรชั่น2นั้นแม้จำนวนที่เป็นลูกจีน แต่ก็ผูกพันกับประเทศไทยสังคมวัฒนธรรมไทยมากก็เลยเกิดช่องว่างตรงนี้ขึ้น คือคนรุ่นใหม่ก็หาว่ารุ่นก่อนนั้นตามก้นจีนไม่ลืมหูลืมตา ส่วนคนรุ่นก่อนก็ว่าคนรุ่นใหม่เป็นพวกท้องถิ่นนิยม ชาตินิยม ไม่มีจิตใจนักปฏิวัติสากล

ส่วนที่ผมยกตัวอย่างนายผี หรือพ.เมืองชมพู คงเพราะต้องการเอาให้ง่ายเข้าว่า ความจริงทั้งสองท่านนี้ โดยเฉพาะท่านแรกเป็นฉฮีโร่ของคนรุ่นใหม่อย่างที่คุณsee-uว่า แต่ผมไม่รู้จะหาใครมาเป็นต้วแทนคนรุ่นก่อนให้มารับกับที่ต้องการนำเสนอ(ในตอนลงมือเขียนว่าจะเขียนเป็นจางหย่วน-วิรัช อังคถาวร อาจชัดเจนกว่านายผี แต่ให้เผอิญว่าจางหย่วนก็ไม่ใช่ปัญญาชนยุคแรกที่เข้าป่าแบบนายผี หรือพ.เมืองชมพู ผมก็เลยไม่ได้ลากแกมายุ่ง )เอาว่าหากจะeditงานให้ดีกว่านี้ ผมอาจจะลากแกมาแทนนายผีครับ

ส่วนที่คุณqazwsxติงเรื่องครูประทีปกับบก.ลายจุดนั้นผมว่า ผมได้ตัดมิติเรื่องว่าใครอยู่ฟากไหนออกไปในบทความนี้แล้วครับ ผมจังนับว่าสุริยะใส-อาจารย์สมใกยรติ-พี่เปี๊ยกพิภพก็เป็นภาคประชาชน เช่นเดียวกับที่หมอเหวง-ครูประทีป-บก.ก็เป็นภาคประชาชนโดยนัยของบทความนี้เช่นกัน

ส่วนที่คุณamalit1990ว่าแอ๊ดบาวไม่ได้อยู่กับพันธมิตรนั้น ผมก็ไม่ได้ว่าเหมือนกันครับ แต่ผมนับแอ๊ดบาวเข้ามาเป็นภาคประชาชนในมิตินัยของบทความนี้ เหมือนกับน้าหงาหรือน้าหมูครับ
บันทึกการเข้า

ถึงข้าพเจ้าจะไม่เห็นด้วยกับท่านแม้แต่ซักนิด แต่ข้าพเจ้าจะยอมอุทิศชีวิตเพื่อให้ท่านได้พูด...วอลแตร์
ป๋าเจ้าเก่า
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 272


ถึงไม่เห็นด้วยสักนิด แต่ผมจะแลกชีวิตให้คุณได้พูด


« ตอบ #20 เมื่อ: 13-07-2007, 23:53 »

นอนดึกเหมือนกันนะครับคุณsee-u ผมเองก็เพิ่งกลับจากงานเลี้ยง เลยได้มาตอบพอดี
เผอิญผมเคยตอบเรื่องที่ถามมาอีกกรณีหนึ่งกับคุณ55555ในกระทู้นี้
http://forum.serithai.net/index.php?topic=15061.100
เลยขออนุญาตยกมาเกือบทั้งดุ้นเลยครับ...

คือผมว่าสังคมเราประหลาด ทำเป็นเด็กดูการ์ตูนวอลต์ดีสนีย์ไปได้
ประเภทว่าไม่ขาวก็ต้องดำ ไม่ฝ่ายธรรมะก็ต้องอธรรม
ในที่สุดผู้ร้ายตายตอนจบ พระเอกชูดาบแห่งสัจจะ คนดูปรบมือเกรียว

ฐานคติดังกล่าวทำให้เราดูเหตุบ้านการเมืองเหมือนดังว่า คือก็เลยมีแค่เอาทักษิณvsไม่เอาทักษิณ เอารธน.vsล้มรธน.
ในขณะที่สภาพบ้านเมืองที่เป็นจริงผมว่ามันเป็นพหุลักษณ์ มีความหลากหลาย มีตัวละครมากมาย

โดยเฉพาะประชาชนพลเมือง ที่ผ่านมาเพราะเราดูการเมืองเหมือนดูการ์ตูนวอลต์ดีสนีย์ เลยพลอยทำให้แทนที่ประชาชนคนดูจะมีบทบาทเป็นพระเอก(เยี่ยงนานานอารนะประเทศที่มีส่วนกำกุมชะตาอนาคตบ้านเมือง)เราเลยต้องไปฝากไว้กับพระเอกvsผู้ร้ายอะไรกันไป

หลายท่านผ่านหูผ่านตาไปเมืองนอกเมืองนาแถบยุโรป อเมริกาจะเห็นว่า ประชาชนพลเมืองของเขานั้นเข้มแข็งเพียงใด มีบทบาทกำกุมชะตาอนาคตบ้านเมืองเพียงไร ก็เพราะเขาเลิกเชื่อการ์ตูนหลอกเด็กแล้ว....
บันทึกการเข้า

ถึงข้าพเจ้าจะไม่เห็นด้วยกับท่านแม้แต่ซักนิด แต่ข้าพเจ้าจะยอมอุทิศชีวิตเพื่อให้ท่านได้พูด...วอลแตร์
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #21 เมื่อ: 13-07-2007, 23:56 »

ตอนทักษิณ ไปขอให้ผู้หลักผู้ใหญ่ ให้มาช่วยงาน

เหลี่ยมรับปากว่าจะจัดสรรเงินมาให้ฝ่าย NGO ทำงานภาคประชาชน

แต่เมื่อได้อำนาจแล้ว เหลี่ยม กลืนน้ำลายตัวเองครับ

งานภาคประชาชนจึงหายไปช่วงหนึ่ง

เราต้องไม่ลืมว่า การลงไปสร้างเครือข่ายเชื่อมร้อยในระดับจังหวัด

ต้องใช้งบประมาณสูงพอสมควร

รัฐบาลนี้ถึงปล่อยเงินให้ลงไปทำ ในนามกระทรวงพัฒนาสังคม นั่นแหละครับ
บันทึกการเข้า

ป๋าเจ้าเก่า
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 272


ถึงไม่เห็นด้วยสักนิด แต่ผมจะแลกชีวิตให้คุณได้พูด


« ตอบ #22 เมื่อ: 14-07-2007, 00:03 »

คงยกคุณงามความดีให้อาจารย์ไพบูลย์แหละครับลุงCan ผมคงไม่เผื่อแผ่คุณงามความดีให้บิ๊กบังด้วย เพราะผมว่าแกน่าจะเอ๋อๆอยู่ ไม่รู้ด้วยมั๊งว่ามีมิติด้านนี้ในประเทศเรา...
บันทึกการเข้า

ถึงข้าพเจ้าจะไม่เห็นด้วยกับท่านแม้แต่ซักนิด แต่ข้าพเจ้าจะยอมอุทิศชีวิตเพื่อให้ท่านได้พูด...วอลแตร์
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #23 เมื่อ: 14-07-2007, 00:27 »

ครับ อาจารย์ไพบูลย์ มีส่วนอย่างมาก

มาได้กำลังเสริมจากทีมหมอประเวศ เลยไปได้ดี

ถ้า NGO สายประชาสังคมมีอำนาจ บ้านเมืองจะร่มเย็นไม่รุ่มร้อน

ผิดกับยุคหน้าเหลี่ยม ที่ไปใช้ "สายบู๊" ซึ่งออกจะแข็งกระด้าง ไม่อ่อนตัว

ก็ได้แต่หวังว่า รัฐบาลต่อไปจะเสริมงบประมาณ และ ต่อยอดสายเย็นเหล่านี้

ได้ทำงานประชาสังคม เชื่อมร้อย ปราชญ์ชาวบ้าน และองค์กรภาคประชาชน

รวมทั้งทำให้ประชาชนฐานรากเข้มแข็ง-พอเพียง ถูกทิศถูกทางมากยิ่งขึ้น

ที่สำคัญหากกลุ่มที่ทำงาสายนี้เข้มแข็ง โอกาสสร้างฐานประชาชน

ทำสภาคู่ขนานแบบสภาที่ปรึกษาระดับตำบลระดับจังหวัด

โอกาสที่ประชาชนที่เก่ง ที่ดี คงมีโอกาสเป็นผู้นำทางสังคมตัวจริง

โอกาสที่ประชาชนคนดี คนเก่งจะได้เข้ามีอำนาจบริหาร ทั้งจากระดับล่างจนถึงระดับชาติ

การเมืองที่ใช้เงินเป็นใหญ่ ซื้อสิทธิ์ขายเสียงอาจได้ผลน้อยลงในที่สุด

เรื่องแบบนี้ ต้องลงไปเปลี่ยนทัศนคติชาวบ้านเรื่องการซื้อสิทธิ์ขายเสียงใหม่หมด

ต้องไปสร้าง "กลุ่มรู้ทันนักการเมือง" ให้เกิดขึ้นในระดับหมู่บ้าน-ตำบลให้ได้

คอยดูว่า "วิทยากรแม่ไก่" ของมหาดไทยจะทำงานได้ผลมากน้อยแค่ใหนด้วย

จะว่าไป ผมอยากได้รัฐบาลที่เห็นความสำคัญของชาวบ้านแบบนี้ แฮะ...

แต่หลังเลือกตั้งจะเป็นยังไงต่อไป..ก็ต้องสร้างแรงกดดันให้พรรคการเมือง มีนโยบายด้านรากหญ้าให้ชัดเจน

และต้องกดดันให้เป็นรูปธรรมให้ได้
บันทึกการเข้า

Scorpio6
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,210


Man on Mission *เสี่ยวฯ>สันติภาพ*


« ตอบ #24 เมื่อ: 14-07-2007, 00:50 »

เห็นด้วยกับลุงแคน และคุณป๋าเจ้าเก่าครับ...ช่วงทักษิณเข้ามาภาคประชาชนเป๋ไปและเงียบหาย..
ขาดตอนไป อยู่ช่วงหนึ่งโดยเฉพาะอีสานเฮา..
แต่ยังดีหน่อยที่ว่าสายประชาสังคมแถบอีสาน..ยังเห็นตัวตนกันอยู่บ้าง
ไม่ว่าทางตอนบนแถบสกลนครที่มี อาจารย์ราชภัฎเป็นแบคอัพจัดกิจกรรม ร้อนเย็น
เลยลงมาทาง สารคาม ร้อยเอ็ด ขอนแก่น ทั้งสายกป.อพช อีสาน ดอนแดง ยังมีแนวร่วมกับกลุ่มหมอจัดเวทีเสวนาอยู่เนืองๆ
มีจุดยืนชัดเจนกับภาคประชาชนแถบอีสานใต้ จากอุบล (เมืองปราชญ์) ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ โคราชถึงชัยภูมิ ก็มี ทนาย
นักวิชาการ ราชภัฎ กลุ่มปราชญ์ชาวบ้าน ครู ชาวบ้าน อาสาสมัคร หากอาจารย์ไพบูลย์และหมอพลเดชแม้จะขึ้นลมบนแล้ว
ยังสืบสานเจตนารมณ์ภาคประชาชน สานต่อให้ถูกทาง(เดิม) เริ่มทีภาคประชาชน..
แล้วค่อยหลอมรวมเข้ากับกลุ่มผู้ใหญ่บ้าน กำนันภายหลังอีสานก็น่าจะมีทางเลือก ภาคประชาชน..ต่อไป
ไม่ว่าจะมีกี่รัฐบาลก็ตาม
บันทึกการเข้า



คิดจะล้มระบอบทักษิณ ต้องอ่านใจเนวินและเพื่อน
บล็อกเสี่ยวไทบ้าน*แวะเยี่ยมRepublican Collage ของคุณสุธา ชันแสง*
http://www.oknation.net/blog/thaibaan/2008/03/26/entry-1
"ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนและในฐานะอย่างไร จงตรองหาว่า จะมีทางใช้ชีวิต
ให้เป็นประโยชน์ในทางใดบ้าง เมื่อตั้งใจคิดถึงมันแล้วก็จะพบเสมอ
ไม่ว่าอยู่ที่ใด เมื่อพบทางแล้วจงลงมือทำสิ่งที่เป็นประโยชน์"
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #25 เมื่อ: 14-07-2007, 01:06 »

ช่วง 47 ต่อ เลือกตั้ง 48

ภาคประชาชนพอมีเงินงบประมาณมาทำบ้างครับ เพราะเหลี่ยมไม่อยากมีศัตรูมากเกินไป

แต่พอใกล้ ๆ เลือกตั้ง ภาคประชาชนออกแคมเปญ "เลือกคนที่รัก เลือกพรรคไปคาน"

เหลี่ยมเลยตัดทิ้งทั้งหมด อิ อิ

คือนักการเมืองนี่มันก็แปลก ถ้าเป็นพวกเค้าเพิ่มงบทันที

แต่พอภาคประชาชนจะเดินในแนวทางถูกต้อง พวกนักการเมืองจะตัดงบประมาณทันที

พวกเราทำงานกันแบบเสียสละตัวเอง ทั้งเสียเงินเดินทางอีกต่างหาก

ที่ขอนแก่น RDI ยังเข้มแข็ง ควบคู่ กพช. อีสานอยู่กระมังครับ

ไม่ใช่อะไร คิดถึงหน้าหวาน ๆ ของ "หมอไก่" อิ อิ
บันทึกการเข้า

คนขี่มังกร
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 46


« ตอบ #26 เมื่อ: 14-07-2007, 06:38 »

ยอยศทุกภาค  นั้น    แสดงให้เห็นแล้ว    ว่า
ป๋าเจ้าเก่า  มี
ภูมิปัญญา ภูมิความคิด และ ภูมิหลัง   ทางการเมือง
เหนือกว่าทุก ๆ คน ในเสรีไทย

เสรีไทยผู้มืดบอด
ทำลายล้างประชาธิปไตย
สนับสนุนและเห็นดีเห็นงามกับเผด็จการทหาร


ฝากถามนายริดกุน  ว่า
ทำไมถึงลบยอยศทหาร ?
กลัวหรือต้องการประจบ ?
บันทึกการเข้า

ผมมีความเชื่อมั่นอย่างแน่นแฟ้นในระบอบประชาธิปไตย และในศักดิ์ศรีของมนุษย์ทุกคน ผมเชื่อในเสรีภาพ และสิทธิมนุษยชนตามที่บัญญัติไว้ในปฏิญญาสากลของสหประชาชาติ ผมเชื่อในสิทธิของชายและหญิงทุกคน ที่จะมีส่วนร่วมในการกำหนดชะตากรรมสังคมที่เขาอาศัยอยู่ การปฏิเสธไม่ให้สิทธินั้นแก่เขาเพราะเขายากจนหรือเขาขาดการศึกษา ผมถือว่าเป็นความร้ายกาจอย่างหนึ่ง ผมเกลียดชังเผด็จการไม่ว่าจะมีรูปแบบสีสันอย่างใดก็ตาม ผมมีความเชื่อว่าระบอบประชาธิปไตยควรจะได้มาโดยสันติวิธี เพราะผมต้องการหลีกเลี่ยงการใช้กำลังอาวุธในการรักษาอำนาจของรัฐบาล
****** ป๋วย  อึ๊งภากรณ์******
ScaRECroW
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,000


สุสูสัง ลภเต ปัญญัง - ผู้ฟังดี ย่อมเกิดปัญญา


เว็บไซต์
« ตอบ #27 เมื่อ: 14-07-2007, 11:31 »

ยอยศทุกภาค  นั้น    แสดงให้เห็นแล้ว    ว่า
ป๋าเจ้าเก่า  มี
ภูมิปัญญา ภูมิความคิด และ ภูมิหลัง   ทางการเมือง
เหนือกว่าทุก ๆ คน ในเสรีไทย

เสรีไทยผู้มืดบอด
ทำลายล้างประชาธิปไตย
สนับสนุนและเห็นดีเห็นงามกับเผด็จการทหาร


ฝากถามนายริดกุน  ว่า
ทำไมถึงลบยอยศทหาร ?
กลัวหรือต้องการประจบ ?


เป็นอะไรมากหรือป่าวครับเนี่ย เหมือนไม่ค่อยสบายนะครับ
บันทึกการเข้า

Politic is nothing but the continuation of [the sin of] 7 by other means.

ท่านคิดว่า นรม. ควรทำอย่างไรเมื่อพบว่ากฏหมายบางฉบับมีช่องโหว่?
ก.ใช้อำนาจ นรม.ที่ได้รับมาจากประชาชนแก้กฏหมายเพื่อปิดช่องโหว่เหล่านั้น เพราะเป็นประโยชน์ของแผ่นดิน
ข.ฉวยโอกาสใช้ช่องโหว่เหล่านั้นเพื่อประโยชน์ของตนเองและคนรอบข้าง แล้วก็อ้างว่าคนอื่นเขาก็ทำกัน
see - u
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,370


.......... I'm not Supergirl


« ตอบ #28 เมื่อ: 14-07-2007, 11:51 »

*  อือหึ .............  ขอบคุณค่ะ  คุณป๋า  ที่ขยายความเพิ่มให้ฟัง

    เอ้ .... อ่านที่คุณป๋า    ตอบ   พี่ 55555   แล้วค่ะ

    ก็เป็นมุมมองที่ดีนะ  .... แต่มันก็เป็นเหมือนการ   รำพึงรำพัน  ว่ามันเป็นเช่นนี้เอง

    ซึ่งก็ไม่ได้ฟันธง  หรือ  คาดการณ์ว่า ... ต่อไปจะเป็นเช่นไรหรือประเมินว่าควรทำอย่างไร  อ่ะ

    ส่วนเรื่องสหายยุคก่อนเคยอยู่ที่จีนเป็นหลัก ( ซึ่งเป็นประเทศคอมมิวนิสต์อยู่ตอนนั้น  )

    คิดว่าคงมีผล .... บางอย่างต่อกระบวนการคิด

    (  แรก ๆ เอ้  นึกว่าได้รับอิทธิพลมาจาก  รัสเซีย  เสียอีก  )

    เพราะ ....  มีการพูดถึงเรื่องชนชั้น  หรือ ความเหลื่อมล้ำในสังคม ค่อนข้างมาก

    งั้น  เอ้  ขอถามเพิ่มเติมว่า .....

    แล้วเรื่องของคำว่า   " นายทุน "   มีผลอย่างไรบ้างกะ ... ภาคประชาชน  ในยุคนี้

    เพราะ ....  ในสังคมที่ใช้เทคโนโลยีเป็นหลัก  ย่อมมีความแตกต่างจากยุคก่อน ๆ พอควร  ใช่ป่าววว  !!!

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-07-2007, 11:54 โดย see - u » บันทึกการเข้า

    " I  will  unforgive  you  to  do  the  bad  thing  like  this. "   

                           

                        The  fox  changes  his  skin  but  not  his  habits.   *

                 Superman ( It's Not Easy )   >>  http://www.ijigg.com/songs/V2B7G4GPD
    
    
   "  กฏหมายต้องเดินหน้าเอาผิดต่อคนไม่ดี  ........  ไม่ใช่ปล่อยให้คนไม่ดีมากล่าวเอาโทษกฏหมาย  "

                                     
                                          
ล้างโคตรทักษิณ
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 903



« ตอบ #29 เมื่อ: 14-07-2007, 11:54 »

ก้ต้องอัดอั้นสิ โคตรพ่อไอ้ขี้ข้าควายขี้มังกือ กำลังจะถูกล้างโคตร เลยออกมาชักดิ้นชักงอ กลัวไม่มีโคตรพ่อเหลี่ยมคอยป้อนหญ้า

แบบว่า มันหาหญ้ากินเองไม่เป็น
 
บันทึกการเข้า
ป๋าเจ้าเก่า
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 272


ถึงไม่เห็นด้วยสักนิด แต่ผมจะแลกชีวิตให้คุณได้พูด


« ตอบ #30 เมื่อ: 14-07-2007, 16:08 »

-เรียนคุณคนขี่มังกร  กระทู้ยอยศชายชาติทหารยังอยู่ครับ เพราะผมแปะลิ้งค์ผิดเองทำให้ท่านเข้าใจผิดไปด้วย ส่วนเรื่องว่าผมเหนือกว่าใครนั้น ผมขออนุญาตไม่รับไว้ครับ

-เรียนคุณเอ้ หรือคุณsee-u ภาพของนายทุนคงไม่ได้แบนๆนะครับ นายทุนน่ารักๆก็มาก(ผมตอนนี้ก็เป็นนายทุนกับเขาเหมือนกัน แต่เป็นนายทุนตัวจิ๊บๆ)ผมว่าจะยอยศนายทุนซักที หากไม่เบื่อที่จะอ่านช่วยยุผมที...

-เรียนคุณล้างโคตรทักษิณ ผมไม่รู้จะตอบยังไง เพราะผมเขียนกระทู้ชุดนี้ก็ไม่ได้เพราะอัดอั้น หรือชักดิ้นชักงอ เพราะนายแม้วก็ไม่ใช่พ่อผม คือมองด้านไหนแกก็ไม่ได้ละม้ายญาติผู้ใหญ่ของผมซักฝ่ายอ่ะ ก็เลยน้ะ...คนเรา
บันทึกการเข้า

ถึงข้าพเจ้าจะไม่เห็นด้วยกับท่านแม้แต่ซักนิด แต่ข้าพเจ้าจะยอมอุทิศชีวิตเพื่อให้ท่านได้พูด...วอลแตร์
see - u
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,370


.......... I'm not Supergirl


« ตอบ #31 เมื่อ: 14-07-2007, 16:41 »

*  ยอยศนายทุน... ยอยศนายทุน....ยอยศนายทุน... ยอยศนายทุน

    ยอยศนายทุน... ยอยศนายทุน....ยอยศนายทุน... ยอยศนายทุน

    ยอยศนายทุน... ยอยศนายทุน....ยอยศนายทุน... ยอยศนายทุน

    ยอยศนายทุน... ยอยศนายทุน....ยอยศนายทุน... ยอยศนายทุน

    ยอยศนายทุน... ยอยศนายทุน....ยอยศนายทุน... ยอยศนายทุน

    มายุยงส่งเสริมตามคำขอคะ  (  ขอให้เป็นวิจารณ์นายทุนแบบ แม้ว ให้ด้วยนะค่ะ )
   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-07-2007, 16:44 โดย see - u » บันทึกการเข้า

    " I  will  unforgive  you  to  do  the  bad  thing  like  this. "   

                           

                        The  fox  changes  his  skin  but  not  his  habits.   *

                 Superman ( It's Not Easy )   >>  http://www.ijigg.com/songs/V2B7G4GPD
    
    
   "  กฏหมายต้องเดินหน้าเอาผิดต่อคนไม่ดี  ........  ไม่ใช่ปล่อยให้คนไม่ดีมากล่าวเอาโทษกฏหมาย  "

                                     
                                          
ล้างโคตรทักษิณ
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 903



« ตอบ #32 เมื่อ: 14-07-2007, 20:22 »

-เรียนคุณล้างโคตรทักษิณ ผมไม่รู้จะตอบยังไง เพราะผมเขียนกระทู้ชุดนี้ก็ไม่ได้เพราะอัดอั้น หรือชักดิ้นชักงอ เพราะนายแม้วก็ไม่ใช่พ่อผม คือมองด้านไหนแกก็ไม่ได้ละม้ายญาติผู้ใหญ่ของผมซักฝ่ายอ่ะ ก็เลยน้ะ...คนเรา

ผมไม่ได้ยุ่งกับป๋าฯ แต่ยกบาทาลูบสั่ฃสอน ควายลูกทาสไอ้เหลี่ยมที่มันอ้างอวดขี่มังกือ
บันทึกการเข้า
ป๋าเจ้าเก่า
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 272


ถึงไม่เห็นด้วยสักนิด แต่ผมจะแลกชีวิตให้คุณได้พูด


« ตอบ #33 เมื่อ: 15-07-2007, 14:11 »

อ้อ แล้วไปครับ ขออภัยที่เข้าใจผิดอ่ะ
บันทึกการเข้า

ถึงข้าพเจ้าจะไม่เห็นด้วยกับท่านแม้แต่ซักนิด แต่ข้าพเจ้าจะยอมอุทิศชีวิตเพื่อให้ท่านได้พูด...วอลแตร์
หน้า: [1]
    กระโดดไป: