ผมคิดว่า ทักษิณ คงพยายามหาทางกลับบ้านอยู่ครับ........เรื่องทรัพยากรน้ำ อย่าได้บังอาจ มา เทียบ ของจริง อย่าง พระองค์ท่าน ........ทักษิณ เรื่องอำนาจ อยู่ 5-6 ปี ไม่เคยคิดจะทำวิจัย ไม่เคยคิดจะทำอะไรให้ดีขึ้น ทั้งที่รู้อยู่ว่า ประเทศไทย มีปัญหาเรื่องการจัดการเรื่องน้ำ ...........ความหลงในอำนาจ บังตาให้ ไม่ได้คิดถึง.....หากมีใคร คนใดคนหนึ่ง สามารถ จัดการเรื่องน้ำได้มีประสิทธิภาพ ได้เท่าพระองค์ ก็เอาไปเลย 60 ล้านเสียง .......เรื่องนี้นักการเมือง ที่หลงในอำนาจอยู่ในปัจจุบัน และ อดีต ไม่เคย ได้รู้ จริง ๆ....ไม่น่าเชื่อ น่าจะเป็นอย่างนั้นครับ และเป็นการหาอะไรทำเพื่อเอามาเป็นวัตถุดิบในการสร้างข่าวสร้างกระแสต่อ
จนกว่าจะมีโอกาสได้กลับมาสู่วงการเมืองอีกครั้งหลัง คมช. พ้นอำนาจไปเดาว่าการวิจัยเกี่ยวกับน้ำตามข่าว น่าจะเป็นเรื่องปัญหาทรัพยากรน้ำ ที่ต่อไปจะทวีความรุนแรงขึ้น
เพราะแม่น้ำโขงก็มีน้ำลดลงเรื่อยๆ จากการสร้างเขื่อนยักษ์ของจีน และแม้แต่แม่น้ำสาละวินก็น่าจะ
มีปริมาณน้ำลดลงด้วย จากการลดลงของหิมะในเทือกเขาหิมาลัยที่เป็นต้นน้ำสาละวิน เนื่องจาก
ภาวะโลกร้อนที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ในขณะที่ปริมาณน้ำฝนที่ตกในประเทศไทยก็ก่อปัญหาน้ำท่วม สลับฝนแล้งต่อเนื่องมาหลายปี
ล่าสุดเมื่อเดือนพฤษภาคม ปีนี้ เพิ่งมีรูปแบบประหลาดที่พายุฝนวิ่งจากอ่าวไทยผ่านทะลุภาคใต้
ไปฝั่งอันดามันแล้ว วกกลับขึ้นเหนือผ่านพม่ามาเข้าภาคเหนือของไทยอีก ซึ่งรูปแบบนี้ไม่เป็น
ปกติของพายุฝนในบริเวณบ้านเรา และถ้าโดนแบบนี้ซ้ำๆ ในช่วงฝนชุกเราจะต้องพบกับน้ำท่วม
หนักหนาที่สุดอย่างไม่เคยเจอมาก่อน
---
ปัญหาน้ำของประเทศไทยเราจริงๆ บอกไปอาจมีคนตกใจเพราะพื้นที่การเกษตรของไทยเรา
ที่มีฐานะเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดในโลก กลับอยู่นอกเขตชลประทานถึงกว่า 70% !!!ในขณะที่ประเทศจีนพื้นที่ปลูกข้าวของเขากว่า 90% อยู่ในเขตชลประทาน และเพื่อนบ้าน
ที่เป็นคู่แข่งของเราอย่างเวียดนามพื้นที่ปลูกข้าวก็อยู่ในเขตชลประทานร่วม 70%
ข้าวของเราแทบทั้งหมดปลูกโดยพึ่งพาดินฟ้าอากาศล้วนๆ ครับ บอกไปใครในโลกจะเชื่อบ้าง?และตลอดเวลาที่ผ่านมาชาวนาของไทยเราก็ต้องทนกับสภาพน้ำท่วมสลับฝนแล้งมาโดยตลอด
โดยที่ภาคอีสานเลือกปลูกข้าวหอมมะลิที่ทนแล้งได้ดี ปลูกได้โดยใช้แค่น้ำฝนก็พอ ส่วนภาคกลาง
พื้นที่โดนน้ำท่วมบ่อยๆ ก็ไปปลูกข้าวที่ทนน้ำท่วมเอาแทน
ปัญหาน้ำท่วมฝนแล้งพวกนี้ถ้าทำเกษตรทฤษฎีใหม่กันอย่างกว้างขวางทั่วถึงจริงๆ สามารถลดปัญหา
ได้อย่างมีนัยสำคัญแน่นอน เพราะพื้นที่ส่วนหนึ่งจะกลายเป็นที่เก็บน้ำ ซึ่งจะสามารถบรรเทาการเกิด
ปัญหาน้ำท่วมในฤดูน้ำหลาก และยังสามารถเก็บน้ำไว้ใช้ในยามแล้ง โดยสามารถเลี้ยงปลาหรืออาจ
ปลูกพืชน้ำเพื่อทดแทนพื้นที่ปลูกข้าวเดิมที่เสียไปได้ด้วย ถ้าทุกหมู่บ้านมีแค่หมู่บ้านละ 1 แห่ง รวมกัน
ก็จะเป็นบ่อเก็บน้ำขนาด 3-5 ไร่ 7 หมื่นแห่ง แค่นี้ก็มีพื้นที่รับน้ำหลายแสนไร่แล้ว
ทั้งนี้โดยไม่ต้องสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ และระบบชลประทานระยะไกลๆ ที่จะเกิดการต่อต้านมากมาย
และต้องเวนคืนที่ดิน กินพื้นที่ป่ามหาศาลในขณะที่ปัญหาพื้นที่ป่าบนภูเขาที่เสื่อมโทรมก็ทรงศึกษาเรื่องฝายแม้ว ส่วนเรื่องการกัดเซาะหน้าดิน
ก็มีเรื่องหญ้าแฝก และยังทรงศึกษาทดลองต่อเนื่องไปถึงเรื่องปัญหาดิน เช่นการแก้ดินเปรี้ยว และ
ยังทรงศึกษาการแก้ปัญหาน้ำเค็มจนสามารถเพิ่มพื้นที่การเกษตรได้ด้วย ฯลฯ
---
ในหลวงท่านทรงค้นคว้าวิจัยเรื่องปัญหาน้ำจนตกผลึกเป็นรูปธรรมที่ใช้ได้จริงและทรงเผยแพร่มานับสิบปี
ทรงคำนวณเผื่อไว้แม้แต่ปริมาณน้ำที่จะระเหยออกไปในแต่ละพื้นที่ของประเทศ มากำหนดเป็นขนาดของ
ที่เก็บน้ำที่เหมาะสมด้วยซ้ำ เรามีองค์ความรู้จนพร้อมจะทำจริงมาตั้งนานแล้ว แต่รัฐบาลไหนๆ ก็ไม่เคย
ทุ่มเททำจริงสักทีครับ ล่าสุดทักษิณเองก็ไม่ได้ทำอะไร (นอกจากที่ทำฝายแม้วผิดวิธี)
ตอนนี้ทักษิณยังมีหน้าจะมาทำวิจัยเรื่องน้ำ ผมก็อยากรู้เหมือนกันครับว่าจะวิจัยแง่มุมไหน
และจะเอามาใช้ได้จริงบ้างหรือเปล่า (นอกจากที่ใช้โฆษณาตัวเองนะครับ)