ใบไม้ทะเล
|
|
« เมื่อ: 03-07-2007, 12:36 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
|
|
|
|
|
ใบไม้ทะเล
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 03-07-2007, 12:57 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
|
|
|
********Q********
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 03-07-2007, 13:06 » |
|
มีบทความที่นิธิเขียนไว้ถึงครอบครัว ที่เด็กอยู่กับพ่อหรือแม่คนเดียว มีจำนวนมากขึ้นในสังคมไทย..
ผมเชื่อว่าเป็นเหตุผลความจำเป็นทางเศณษฐกิจหนึ่ง และอีกเหตผลหนึ่งคือ สังคมยุคใหม่มีการแข่งขันสูง
ดังนั้นทุกคนต้องแข่งขันและมีประสบการณ์เพื่อความอยู่รอดมากขึ้น..
อย่างไรก็ตามจากข้อมูลที่พบบ่อยๆคือ คนสมัยนี้ต้องการเป็นผู้กระทำมากกว่าถูกระทำ แล้วก็ตัดสินใจเร็วโดยขาดการไตร่ตรองหรือหลักที่ดีในชีวิต
ความสัมพันธ์และกิจกรรมทางเพศไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิตคู่ หรือชีวิตครอบครัว แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่รักษาความสมดุลทางอารมณ์จนนำไปสู่สุขภาพของจิตใจและร่างกายได้
และเซ็กเธอราฟีก็มีจริงเสียด้วยในทัศนะของผม โดยเฉพาะสำหรับคนที่เคยมีประสบการณ์จริงมาแล้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ใบไม้ทะเล
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 03-07-2007, 13:13 » |
|
อ่านความหมายของกิ๊ก ในเวอชั่นนี้ชักหนาว เพราะวันก่อนน้องๆๆเพิ่งมาแซวว่า ในเวบส่วนตัวของเรา มีกิ๊กมาให้กำลังใจเยอะแยะเลย ที่ไหนได้บางคนเรายังไม่รู้จักเลย ส่วนมากแทบจะไม่รุจักด้วยซ้ำ หุหุ
กิ๊กที่ส่งผลต่อพฤกติกรรมหนุ่มสาวในเมืองกรุง
เขาบอกมาแบบนี้ค่ะ
ตอนนี้สังคมที่เปลี่ยนไป การมีกิ๊กกลายเป็นเรื่องปกติธรรมชาติของผู้ที่คิดจะแต่งเติมสีสันให้ชีวิตให้เพิ่มมากขึ้น กิ๊กกลายเป็นเครื่องชีวิตความมีคุณค่าไปเสียแล้ว เพราะมีคนจำนวนไม่น้อยที่มีกิ๊กด้วยเหตุผลว่า การมีกิ๊ก มีคนมารัก มีคนมาชอบ ทำให้เป็นคนที่มีคุณค่า เป็นที่ต้องการของคนอื่น ซึ่งกระแสนิยมกิ๊กนั้น ได้ส่งผลไปถึงพฤติกรรมทางเพศของชายหญิงเมืองกรุง ทำให้ชายหญิงในเมืองกรุงมีกิจกรรมทางเพศบ่อยขึ้น ซึ่งสถิติตัวเลขระบุว่าชายหญิงที่อายุระหว่าง 18-24 ปี ที่อยู่ในสถานภาพสมรสแล้ว มีกิจกรรมทางเพศมากกว่า 1 ครั้งต่อสัปดาห์
แอบงงนิดหน่อยกับประโยคนี้คือ "ชายหญิงที่อยู่ในสถานภาพสมรสแล้วมีกิจกรรมทางเพศมากกว่า 1 ครั้งต่อสัปดาห์" คือ ที่ว่าบ่อยอ่ะค่ะ มีกับภรรยาตัวเอง หรือคนอื่นค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
|
|
|
********Q********
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 03-07-2007, 13:14 » |
|
อยากจะย้ำ กำชับเรื่องการเลี้ยงดูเด็กครับ วิธีการเลี้ยงดูจากคนที่เข้าใจเท่านั้น จึงจะได้ผลดี
ไม่ว่าเด็กจะอยู่กับใคร แต่แน่นอนการที่เด็กไม่รู้สึกขาดแคลนหรือไม่มั่นคง ตลอดจนการปลูกฝังความเชื่อที่ถูกต้องจะเป็นสิ่งที่
ทำให้เด็กเจริญก้าวหน้าในทุกด้าน และทำตัวเป็นประโยชน์และเป็นที่รักต่อคนรอบข้างได้มากที่สุด
จึงไม่สนับสนุนให้เด็กขาดพ่อครับ แม้จะไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน แต่ส่วนใหญ่ตอนต้นของชีวิตแม่มักจะดูแลเด็กได้ดีกว่าพ่อโดยเกณฑ์เฉลี่ยทั่วไป แต่ก็ม่ใช่ข้อสรุปในแต่ละราย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นทร์
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 03-07-2007, 13:15 » |
|
หนังเรื่องนี้ เชียร์ให้คนเป็นโสดเหรอเนี่ย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
|
|
|
ใบไม้ทะเล
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 03-07-2007, 13:21 » |
|
หนังเรื่องนี้ เชียร์ให้คนเป็นโสดเหรอเนี่ย
พี่นทร์ไม่โฉดเหรอค่ะ เด๋วอนามาตอบคุณ Q นะค่ะ ทำงานแป๊บค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
|
|
|
********Q********
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 03-07-2007, 13:22 » |
|
เข้ามาเรื่องกิ๊กนี่ ผมว่าส่งเสริมให้สมดุลของความสัมพันธ์หนุ่มสาวบนความยุ่งเหยิงของสังคม อ่อนไหวมากยิ่งขึ้นครับ
ก็เหมาะกับโลกแห่งควมเร่งรีบ แต่ก็อยู่ทีคนฉลาดเลือกและมีประสบการณ์ในการคบคน..และการสืบสานความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันต่อไป
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
irq5
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 03-07-2007, 13:25 » |
|
ไม่ว่าสังคมไทยหรือฝรั่ง ในอุดมคติแล้วคือ อยู่รวมกันมีความสุขพ่อแม่ลูก ปู่ย่าตายาย ครับ ส่วนอื่นๆ เป็นการตัดทิ้งด้วยเหตุจำเป็น และสร้างความสุขทดแทน แค่นั้นเอง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
.:MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMddMMMs.. .:MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMssMMMMs.. .:Mddddddddddddddddddddddddddo+ddddNs.. .:M................................................hs.. .:M.............//:................//:.............hs.. .:M...........:MMs.............NMd............hs.. .:M................................................hs.. .:M................................................hs.. .:M.............yNNNNNNNNNN................hs.. .:M.................................................hs.. .:dyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyho..
....W..W::W:...AAA...NN...N...TTTTT..EEEEE...DDD.......... .....Ww.wW...AAAA..N..N..N......T.....EEE......D....D....... .....-W...W...A......A N....NN......T.....EEEEE...DDD.......... . . . . . . . . . . . . thaksin shinawatra
|
|
|
ใบไม้ทะเล
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 03-07-2007, 13:29 » |
|
มีบทความที่นิธิเขียนไว้ถึงครอบครัว ที่เด็กอยู่กับพ่อหรือแม่คนเดียว มีจำนวนมากขึ้นในสังคมไทย..
ผมเชื่อว่าเป็นเหตุผลความจำเป็นทางเศณษฐกิจหนึ่ง และอีกเหตผลหนึ่งคือ สังคมยุคใหม่มีการแข่งขันสูง
ดังนั้นทุกคนต้องแข่งขันและมีประสบการณ์เพื่อความอยู่รอดมากขึ้น..
อย่างไรก็ตามจากข้อมูลที่พบบ่อยๆคือ คนสมัยนี้ต้องการเป็นผู้กระทำมากกว่าถูกระทำ แล้วก็ตัดสินใจเร็วโดยขาดการไตร่ตรองหรือหลักที่ดีในชีวิต
ความสัมพันธ์และกิจกรรมทางเพศไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิตคู่ หรือชีวิตครอบครัว แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่รักษาความสมดุลทางอารมณ์จนนำไปสู่สุขภาพของจิตใจและร่างกายได้
และเซ็กเธอราฟีก็มีจริงเสียด้วยในทัศนะของผม โดยเฉพาะสำหรับคนที่เคยมีประสบการณ์จริงมาแล้ว
ด้วยเหตุนี้มันจะกลายเป็นสังคมที่ตัวใครตัวมันมากขึ้นไงค่ะ วัฒนธรรมที่ดีงามในอดีต อย่างเช่น ความเอื้อเฟิ้อเผื่อแผ่จางหายไป กลายเป็นสังคมที่มีความแข่งขันกันสูงขึ้น อย่างที่คุณคิวว่า แล้วในไม่ช้าก็จะเข้าสุ่สังคมคนชนบท.........
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
|
|
|
|
ใบไม้ทะเล
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 03-07-2007, 13:32 » |
|
อยากจะย้ำ กำชับเรื่องการเลี้ยงดูเด็กครับ วิธีการเลี้ยงดูจากคนที่เข้าใจเท่านั้น จึงจะได้ผลดี
ไม่ว่าเด็กจะอยู่กับใคร แต่แน่นอนการที่เด็กไม่รู้สึกขาดแคลนหรือไม่มั่นคง ตลอดจนการปลูกฝังความเชื่อที่ถูกต้องจะเป็นสิ่งที่
ทำให้เด็กเจริญก้าวหน้าในทุกด้าน และทำตัวเป็นประโยชน์และเป็นที่รักต่อคนรอบข้างได้มากที่สุด
จึงไม่สนับสนุนให้เด็กขาดพ่อครับ แม้จะไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน แต่ส่วนใหญ่ตอนต้นของชีวิตแม่มักจะดูแลเด็กได้ดีกว่าพ่อโดยเกณฑ์เฉลี่ยทั่วไป แต่ก็ม่ใช่ข้อสรุปในแต่ละราย
โหยย ดักอนาเต็มๆๆเลยค่ะ คุณ Q ถามต่อนะค่ะ พ่อจำสำคัญยังไงกับชีวิตเด็กในมุมมองของคุณ Q นะค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
|
|
|
********Q********
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: 03-07-2007, 13:40 » |
|
โหยย ดักอนาเต็มๆๆเลยค่ะ คุณ Q ถามต่อนะค่ะ พ่อจำสำคัญยังไงกับชีวิตเด็กในมุมมองของคุณ Q นะค่ะ พ่อมักแสดงศักยภาพใน เรื่องการตัดสินใจ การจัดสรร การบริหารจัดการในขอบเขตกว้างๆได้ดีกว่าแม่ครับ..
พ่อมักทำให้เด็กมีแรงบันดาลใจในการทำสิ่งยากๆ งานชิ้นใหญ่ๆได้ดีกว่าแม่ ทำให้เด็กสามารถมีความคิดหรืออารมณ์ที่มั่นคง มีระเบียบวินัยในชีวิตได้ดี
แต่ก็ต้องเป็นตัวอย่างของพ่อที่ไม่ได้ล้มเหลวจนเป็นแบบอย่างไม่ได้ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
********Q********
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: 03-07-2007, 13:57 » |
|
ส่วนกิ๊กก็ใช่จะไม่มีผลกระทบต่อเพศหญิงนะครับ กิ๊กทำให้จิตใจของเพศหญิงแข็งกระด้าง
และขาดลักษณะของการเป็นแม่ที่ดีได้ครับ ดังนั้นการคบกิ๊กสำหรับเพศหญิงแล้ว จึงขอแนะนำว่า ต้องไม่มีเพศสัมพันธ์ครับ
จนกว่จะตกลงปลงใจใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อนคนนั้นเพราะเห็นว่าเหมาะสมกันมากพอสมควร
หากเกิดความต้องการก็ควรช่วยตัวเองเล็กๆน้อยๆจะดีกว่า..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
********Q********
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: 03-07-2007, 14:06 » |
|
ปัญหาที่สำคัญของชีวิตคู่คือ การแสวงหาโอกาสที่จะใช้เวลาที่มีคุณภาพร่วมกัน
และความชัดเจนในความสัมพันธ์ต่อกันของทั้งสองฝ่าย หมายความว่าไม่มีความคิดที่จะทอดทิ้งซึ่งกันและกันครับ..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
irq5
|
|
« ตอบ #17 เมื่อ: 03-07-2007, 14:12 » |
|
ส่วนกิ๊กก็ใช่จะไม่มีผลกระทบต่อเพศหญิงนะครับ กิ๊กทำให้จิตใจของเพศหญิงแข็งกระด้าง
และขาดลักษณะของการเป็นแม่ที่ดีได้ครับ ดังนั้นการคบกิ๊กสำหรับเพศหญิงแล้ว จึงขอแนะนำว่า ต้องไม่มีเพศสัมพันธ์ครับ
จนกว่จะตกลงปลงใจใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อนคนนั้นเพราะเห็นว่าเหมาะสมกันมากพอสมควร
หากเกิดความต้องการก็ควรช่วยตัวเองเล็กๆน้อยๆจะดีกว่า..
ว่าแต่จะช่วย ใหญ่ๆ มากๆไม่ได้เหรอครับ - -! ส่วนเรื่องพ่อแม่ ในความคิดผมคือ เด็กจะได้อยู่กับสังคมพื้นฐานที่เชื่อใจได้ (ครอบครัว) ที่มีขนาดไม่เล็กเกินไป สิ่งที่ได้รับเพิ่มขึ้นคือ 1 การสังเกตุและเรียนรู้พฤติกรรมของเพศต่างๆ จาก ญาติๆ 2 การเห็นความขัดแย้งที่แสดงออกแต่ละบุคคล 3 พฤติกรรมการตัดสินใจ ในกรณีอยู่กันเป็นกลุ่ม การประณีประนอม และอื่นๆ แล้วจะต่อเพิ่มนะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
.:MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMddMMMs.. .:MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMssMMMMs.. .:Mddddddddddddddddddddddddddo+ddddNs.. .:M................................................hs.. .:M.............//:................//:.............hs.. .:M...........:MMs.............NMd............hs.. .:M................................................hs.. .:M................................................hs.. .:M.............yNNNNNNNNNN................hs.. .:M.................................................hs.. .:dyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyho..
....W..W::W:...AAA...NN...N...TTTTT..EEEEE...DDD.......... .....Ww.wW...AAAA..N..N..N......T.....EEE......D....D....... .....-W...W...A......A N....NN......T.....EEEEE...DDD.......... . . . . . . . . . . . . thaksin shinawatra
|
|
|
Bohemianism
น้องใหม่
ออฟไลน์
กระทู้: 4
|
|
« ตอบ #18 เมื่อ: 03-07-2007, 16:52 » |
|
ทำไมคนเราจึงจึงควรแต่งงานกัน?
ที่จั่วหัวเอาไว้อย่างนี้ เพราะอ่านกระทู้นี้แล้วเกิดครั่นเนื้อครั่นตัวมาตะหงิดๆ เลยต้องเข้ามาตอบซะหน่อย
เริ่มจาก ทำไมหญิงไทยจึงแต่งงานช้าหรือไม่อยากแต่งงาน?
ปัจจุบัน หญิงไทยโดยเฉลี่ยมีอายุแรกสมรส (อายุแรกสมรสคือ อายุที่ได้แต่งงานครั้งแรก) อยู่ที่ 24 ปี ซึ่งเพิ่มจาก 22 ปี ในปี 2523
และมีแน้วโน้มจะแต่งงานช้าลงเรื่อยๆ ซึ่งความเป็นไปแบบนี้ จะเกิดกับประชากรที่อยู่ในเขตเมืองใหญ่ ตามวิถีของ ความเป็นเมือง (Urbanism)
ปัจจัยที่ทำให้คนแต่งงานช้าลงหรือไม่แต่ง เกิดจากภาวะเศรษฐกิจเป็นสำคัญ ซึ่งเป็นไปทั้งจากการเกิดภาวะกดดัน และภาวะฟุ้งเฟ้อ
การแต่งงานช้าหรือไม่แต่งที่เกิดจากภาวะกดดันคือ การที่คนขาดความพร้อมในการสร้างครอบครัว ทั้งฐานะ และความรู้ รวมทั้งการขาดความมั่นคงในชีวิต
ในอดีตเราเชื่อว่าการขาดความมั่นคงในชีวิตนั้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนต้องแต่งงานกัน ชายและหญิงต้องการลดความเสี่ยงในการดำรงชีวิตจึงแต่งงาน
หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องการความมั่นคง จึงแสวงหาบุคคลที่จะให้ความมั่นคงนั้นได้ ซึ่งในสมัยก่อน ฝ่ายชายนั้นเป็นฝ่ายหทำมาหากิน ในขณะที่ฝ่ายหญิงจะอยู่ดูแลบ้าน
ซึ่งในสถานการณ์ดังกล่าว ชายและหญิงต่างมีฐานะเป็นทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภคในระบบครัวเรือน กล่าวคือ ชายเป็นฝ่ายนำเอาทรัพยากรจากภายนอกบ้านเข้าสู่บ้านเพื่อบริโภค
ในขณะที่ฝ่ายหญิงจะแปรรูปทรัพยากรนั้นเพื่อใช้ในการบริโภค ในหลักเศณษฐศาสตร์ครอบครัว จึงกล่าวได้ว่า ชาย และ หญิง เท่าเทียมกันในการผลิตเพื่อครัวเรือน ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ผลิตผลที่เกิดจากการผลิตของฝ่ายหญิงในครัวเรือน บางครั้งมูลค่าเกือบเท่ากับสิ่งที่ฝ่ายชายหามาได้จากภายนอกครัวเรือน (กรณีนี้เป็นมุมมองในสังคมเกษตรกรรม)
เมื่อสังคมเข้าสู่ความเป็นเมือง เข้าสู่ระบบอุตสาหกรรม แนวคิดที่มาพร้อมกับการเติบโตของสังคม นั่นคือ เรื่องของ Gender Equity, Wemen Empowwerism, Feminism เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะ ในสังคมเมืองหรือสังคมอุตสาหกรรม แรงงานชายและหญิงมีคุณค่าเท่ากัน ทำงานได้เหมือนกัน ยิ่งเป็นสังคมยุคใหม่ที่ การใช้แรงงานถูกลดบทบาทลง การทำงานที่ใช้ทักษะและสมองมีสูงขึ้น ชายและหญิงจึงมีความสำคัญเท่าเทียมกัน
นั่นจึงเป็นที่มาของปัจจัยที่ทำให้คนแต่งงานช้าหรือไม่แต่งงาน นั่นคือความฟุ้งเฟ้อของสังคม ซึ่งสังคมที่มีทรัพยากรล้นเหลือ อย่างสังคมเสรีทุนนิยม ที่ทุกคนอยากินก็ได้กิน อยากทำก็ได้ทำ มันจึงทำให้คนรู้สึกถึงความเชื่อมั่นในชีวิต มีความมั่นคงในชีวิตกว่าสังคมแร้นแค้นในชนบท ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงไม่แสวงหา คนอีกคนมาร่วมชีวิตให้วุ่นวาย แต่ในความเป็นจริงแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนไม่มีความมั่นคง
คำว่า มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ยังคงใช้ได้ทุกยุคทุกสมัย และยังคงใช้ได้ถึงหน่วยที่เล็กที่สุดของสังคม นั่นคือ ครอบคัว ในทางเศรษฐศาสตร์ ครอบครัวคือ หน่วยผลิตที่เล็กที่สุดของระบบเศรษฐกิจ ครอบครัวจึงเป็นสิ่งที่สำคัญของสังคม ถ้าครอบครัวดี สังคมก็ย่อมดี แต่หากว่า คนทุกคนในสังคม ไม่อยากจะมีครอบครัวแล้ว อะไรจะเกิดขึ้นกับสังคมเราบ้าง ผมจะสาธยายให้ฟังเป็นข้อๆดังนี้
1. ครอบครัวเป็นหน่วยผลิตแรงงานให้กับสังคม นั่นคือ พ่อแม่ย่อมต้องมีลูก หากพ่อแม่ทุกคนในสังคมไทยไม่มีลูกแล้ว สังคมไทยจะเอาแรงงานจากไหน จาพม่า ลาว เขมร หรือไงกัน ทุกท่านอย่าคิดว่า สังคมไทยมีแรงงานเพียงพอแล้ว ในความเป็นจริงคือ ภาวะเจริญพันธุ์ของสังคมไทยอยู่ในภาวะที่เรียกว่า อัตราการเกิดทดแทนต่ำ (Below Replacement Rate) ซึ่งหมายความว่า ประชากรเพศหญิงรุ่นใหม่ เกิดไม่ทันประชากรหญิงที่พ้นวัยเจริญพันธุ์และสิ้นอายุขัย นั่นคือ จะทำให้ในอนาคตประเทศไทยจะเกิดภาวะการขาดแคลนแรงงาน ซึ่งภาวะการณืดังกล่าวเคยเกิดใน สิงคโปร์ และกลุ่มประเทศยุโรปหลายประเทศ ซึ่งต้องทำให้ประเทศเหล่านี้ต้อง นำเข้าแรงงานจากต่างประเทศ หรือขยายเวลาการเกษียณอายุของคนในประเทศ ทุกท่านลองคิดดูว่า คนรุ่นเก่าก็แก่ลงทุกวัน แล้วทุกวันนี้ก็ตายยากตายเย็นกันทั้งนั้น ไอ้คนรุ่นใหม่มันก็ไม่ยอมเกิดซะที อะไรจะเกิดขึ้นกับประเทศ ถ้าทั้งประเทศมีแต่คนชรา ไม่มีประชากรวัยทำงาน ประเทศเราไม่ใช่ประเทศที่มีสวัสดิการสำหรับคนชราเหลือเฟือ ถ้าแรงงานรุ่นใหม่เข้าทดแทนในตลาดแรงงานไม่ทัน เราจะเอาเงินจากไหนมาเลี้ยงดูคนชราครึ่งค่อนประเทศ
2. การบริโภคของครอบครัวนั้นเป็นการบริโภคของคนหลายคน พ่อ แม่ ลูก ซึ่งทุกคนมีทรัพยากร สินค้า และบริการที่ทั้งเหมือนกัน และแตกต่างกัน ซึ่งก้จะทำให้เกิดการระดมทรัพยากรที่หลากหลายเพื่อการผลิตให้ทุกคนอย่างเหมาะสม ทรัพยากรจึงถูกใช้อย่างคุ้มค่าและทั่วถึง เราลองมาคิดกันดูว่า ถ้าทุกคนไม่อยากมีครอบครัว อยากอยู่คนเดียว ทุกคนก็จะบริโภคในสิ่งที่ตนเองต้องการ ทั้งๆที่สินค้าและบริการเหล่านั้น สามารถใช้ร่วมกันได้หลายคน พวกคุณคงไม่อยากไปใช้ร่วมกับคนอื่นที่ไม่ใช่ครอบครัวของตนเอง แต่ช่วยไม่ได้ พวกคุณอยากอยู่คนเดียว คุณจึงต้องครอบครองไว้คนเดียว ยกตัวอย่าง่ายๆ บ้านขนาด 50 ตารางวา ที่คนอยู่ได้กันสามถึงสี่คน พ่อ แม่ ลูกสองคน แต่สาวโสดหนุ่มโสดบางท่านอยากอยู่คนเดียว จึงยอมเสียเงินสามสี่ล้านเพื่อซื้อมาอยู่อาศัย ที่ดินขนาดห้าสิบตารางวาพร้อมบ้านและเฟอร์นิเจอร์ที่สร้างมาจาก ปูนซีเมนต์ที่ต้องระเบิดเขาเป็นลูกๆ เหล็กเส้นที่ต้องนำเข้าเพื่อเอามารีดในโรงเหล็ก ไม่จากสวนยางพาราหรือไม่ก็นำเข้าจากพม่า ทรายจากแม่น้ำของคนทั้งชาติ รวมทั้งไฟฟ้าและน้ำประปาที่ต้องต่อเข้าบ้านคุณเพื่อให้คุณใช้คนเดียว มันคุ้มค่ากับสิ่งที่สังคมต้องเสียไปหรือไม่ เพื่อให้คุณอยู่ในบ้านแสนหรู คนเดียว
3. สาวโสด หนุ่มโสด ที่รักความโสดทุกท่าน ผมอยากให้คุณๆลองนั่งนึกถึงวันหลังเกษียณ วันแรกที่คุณต้องออกจากสังคมคนทำงานไปอยู่บ้านคนเดียว คุณจะรู้สึกยังไง หลังจากนั้นให้คุณนึกถึงตอนอายุเจ็ดสิบปี(ถ้าคุณยังอยู่ถึง) วันที่คุณต้องเดินขโยกเขยกในบ้านแสนหรูของคุณคนเดียว คุณจะรู้สึกยังไง จากนั้นให้คุณนึกถึงตัวคุณในวัยแปดสิบปี(ถ้าคุณรอดตายจากอายุ 79 ปีได้) วันที่คุณแทบจะต้องตะบันน้ำกิน คุณจะรู้สึกยังไง หลังจากนั้นให้คุณนึกถึงตอนกำลังจะสิ้นลมหายใจ ผมไม่อยากให้คุณนึกอะไรไปมากกว่า ณ เวลานั้น มีคนสักกี่คนที่ยืนล้อมร่างคุณยามใกล้สิ้นลม ในเหตุผลข้อนี้ ผมคงไม่สาธยายความคิดของผมให้คุณฟัง แต่ผมอยากให้คุณหลับตานึกภาพเอาเอง
การแต่งงานของคนสองคน เป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นครอบครัว และการแต่งงานยังเป็นมากกว่าการใช้ชีวิตร่วมกัน แต่เป็นการสร้างสังคมเล็กๆของคนที่ได้ชื่อว่ามนุษย์ และครอบครัวเป็นมากกว่ากลุ่มคนที่อาศัยและพึ่งพากัน ถ้าคนในสังคมตั้งแง่ว่ารังเกียจการแต่งงานแล้ว สังคมมนุษย์ก็ย่อมล่มสลาย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
อังศนา
|
|
« ตอบ #22 เมื่อ: 03-07-2007, 21:11 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
แม้ผืนฟ้า มืดดับ เดือนลับละลาย ดาวยังพราย ศรัทธา เย้ยฟ้าดิน (จิตร ภูมิศักดิ์)
|
|
|
ใบไม้ทะเล
|
|
« ตอบ #23 เมื่อ: 03-07-2007, 21:16 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
|
|
|
cameronDZ
|
|
« ตอบ #24 เมื่อ: 03-07-2007, 21:18 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย ...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ... แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก ...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...
|
|
|
ใบไม้ทะเล
|
|
« ตอบ #25 เมื่อ: 03-07-2007, 21:20 » |
|
ตอบคำถามค่ะ ห้ามผ่านเลยนะ อิอิ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
|
|
|
Bohemianism
น้องใหม่
ออฟไลน์
กระทู้: 4
|
|
« ตอบ #26 เมื่อ: 03-07-2007, 21:33 » |
|
..อ่านที่คุณ Bohemianism เขียนมาแล้ว ครั่นเนื้อครั่นตัวเล็กๆ เหมียนกัน อยากถามคำถามเดียวพอ 'แม้นแผ่นดินสิ้นชายที่พึงเชย' จะให้หญิงฝืนใจแต่งงานฤๅ (คำถามนี้ขอถามผู้ชายด้วยเช่นกัน.. อยากรู้!)
อ้อ.. คนโสดไม่จำเป็นต้องตายอย่างโดดเดี่ยวเสมอไปนี่คะ ญาติพี่น้อง ลูก(ญาติ)หลานก็คงจะมีกันมั่งแหละน่ะ
แม้นแผ่นดินสิ้นสตรีที่มีหมด เราคงอดหมดด้วยสเน่หา ชั่วชีวีท่องไปไพรพนา ทั้งชีวาเป็นข้าพระพุทธองค์ยังไงซะ ผมถือว่า การสร้างครอบครัวคือภาระกิจของมนุษยชาติ เป็นหน้าที่ต่อวงศ์ตระกูลและสังคม ก็ไม่ได้บังคับใครให้มาแต่งงาน ขนาดปวงชนชาวไทย มีหน้าที่ต้องไปเลือกตั้ง หลายท่านยังละเว้นกันได้ แปลว่ามันไม่ใช่การบังคับ แต่ท่านก็จะเสียสิทธิอันพึงมีพึงได้ในรัฐธรรมนูญบางอย่าง ดังนั้นสุภาพสตรีท่านใด ละเว้นการแต่งงาน นั่นก็ทำได้ เพราะมันไม่ใช่การบังคับ แต่ท่านก็เสียโอกาสอะไรบางอย่าง ที่ผมเขียนมา ก็ไม่ใช่ว่าต้องการบังคับอะไรใคร ก็เป็นความเห็นจากผู้ชายคนหนึ่งเท่านั้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ใบไม้ทะเล
|
|
« ตอบ #27 เมื่อ: 04-07-2007, 08:27 » |
|
เสียโอกาส อะไรค่ะท่าน ตอบให้กระจ่าง หรือให้เราได้รับทราบด้วยเถิด บางทีคำตอบของท่านอาจจะเปลี่ยนทุกสิ่งบนโลกใบนี้ให้เป็นสีชมพู
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
|
|
|
|
|
|
ใบไม้ทะเล
|
|
« ตอบ #31 เมื่อ: 04-07-2007, 11:20 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
|
|
|
|
ใบไม้ทะเล
|
|
« ตอบ #33 เมื่อ: 04-07-2007, 11:38 » |
|
คนโสดก็ต้องพร้อมจะเป็นโสด คนไม่โสดก็ต้องพร้อมที่จะไม่โสดครับ ตรงตัวเลย.. ทำไมมันสวนทางกับคำนี้อ่ะค่ะ คนคำนวณ ใยจะเท่ากับฟ้าลิขิตได้..
ลุงบอกว่า ฟ้าลิขิต เหอๆๆ แต่ลุงกลับมาพูดว่า จะโสดก็พร้อมจะโสด ....... ไม่โสดก็ต้องพร้อมที่จะไม่โสดครับ เรื่องของฟ้าดินกำหนด ฟ้าลิขิต ??????????????
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-07-2007, 11:39 โดย ใบไม้ทะเล »
|
บันทึกการเข้า
|
立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
|
|
|
|
ใบไม้ทะเล
|
|
« ตอบ #35 เมื่อ: 04-07-2007, 12:03 » |
|
หนูก็ไมได้บอกว่าหนูหนีการมีคู่ครองนะค่ะ หนูไม่ได้แอนตี้เมื่อมีคนมาจีบ แต่ว่าอนาคตใครจะไปรู้อ่ะค่ะ เราก็เตรียมตัวเตรียมใจไว้อย่างลุงว่าแค่นั้นเอง แค่คาดเดาจากสังคมรอบกายหรือความเปลี่ยนไปของสังคม รวมถึงพฤติกรรมของคนเราที่เปลี่ยนไปตามกระแสสังคมวัฒนธรรมนะค่ะ สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป้นเหตุให้เรามีมุมมองที่เปลี่ยนแปลงไปค่ะ ไม่ใช่อยู่จะลุกขึ้นมาแอนตี้สิ่งไดสิ่งหนึ่ง มันเป้นเรื่องละเอียดอ่อนของผู้หญิงนะค่ะ ลุงคิวไม่เข้าใจหรอก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
|
|
|
|
|
ใบไม้ทะเล
|
|
« ตอบ #38 เมื่อ: 04-07-2007, 15:29 » |
|
มีไรมาพนันค่ะ ถ้าสามปีหลังจากนั้น อนายังเป็นสาวสวย รวยเสน่พร้อมครองโสดแบบอมตะ
ชิ้วๆๆๆ ลุงคิวมั่ว.......เหตุผลอนาออกจะหนักแน่น ..........
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-07-2007, 15:32 โดย ใบไม้ทะเล »
|
บันทึกการเข้า
|
立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
|
|
|
|
|
|