“นายกฯ” ป้องทีโอที ระบุ หากจะบริจาคให้กองทัพซื้อเครื่องดักฟังโทรศัพท์......

[********Q********]

“สุรยุทธ์” ชี้งบลับทีโอที แค่เงินบริจาค ไม่ใช่นโยบาย 
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 25 มิถุนายน 2550 19:05 น.
 
 
   
พล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี 
 
 
       “นายกฯ” ป้องทีโอที ระบุ หากจะบริจาคให้กองทัพซื้อเครื่องดักฟังโทรศัพท์ ถือเป็นเรื่องภายในของบอร์ด แต่เท่าที่ทราบแค่ขั้นตอนหารือไม่ใช่นโยบาย ครม.
       
       วันนี้ (25 มิ.ย.) พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวที่บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เตรียมบริจาคงบลับให้กับกระทรวงกลาโหมเพื่อซื้ออุปกรณ์ดักฟังโทรศัพท์ว่า ก็ได้มีการสอบถาม นายสิทธิชัย โภไคยอุดม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) แล้ว ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ได้มีการพูดกันแล้วในบอร์ดทีโอที ถือว่าเป็นลักษณะของการบริจาคเงิน เพื่อซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ให้กับกองทัพ ซึ่งก็ยังไม่ได้เป็นเรื่องที่มีการตกลงในรายละเอีอด และสิ่งที่ นายสิทธิชัย อธิบายให้ฟังก็เป็นเรื่องของการดำเนินการในเรื่องที่เรียกว่า คือ การรวมหน่วยงานต่างๆ เข้าด้วยกัน ซึ่งถือว่าไม่ได้เป็นตามนโยบายของ ครม.ซึ่งนั่นก็เป็นคำอธิบายที่ให้ นายวุฒิพงษ์ เพรียบจริยวัฒน์ ได้พ้นในฐานะผู้บริหารทีโอทีไปด้วย
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่า เงินบริจาคทำไมถึงทำเป็นงบลับ ทำไมไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจน ทำไมไม่ทำให้เกิดความโปร่งใส พล.อ.สุรยุทธ์ ตอบว่า รายละเอียดนายสิทธิชัย บอกว่า เป็นเรื่องที่หารือกันเท่านั้นเอง ยังไม่ได้เป็นเรื่องที่มีมติ หรือว่าการดำเนินการแต่อย่างใด
       
       เมื่อถามว่า ปกติมีวิธีการอย่างนี้อยู่ก่อนแล้วหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ตนไม่ทราบ เพราะเป็นเรื่องภายในของทีโอที แต่ถ้างบประมาณก็ต้องผ่านมาจากกลาโหม เมื่อถามว่า ได้มีการหารือกับ พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมหรือยัง พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ตนได้พูดกับ พล.อ.บุญรอด แล้ว แต่ก็ไม่มีเรื่องนี้เข้ามา
 

[********Q********]

 

พรบ.ความมั่นคง ดีกว่า พรก.ฉุกเฉิน ครับ...

[meriwa]

เรื่องนี้ไม่ค่อยมีรายละเอียด เลยไม่รู้จะเชื่อใคร

ความจริง พล.อ.สพรั่ง ฯ ก็ไม่น่าจะไปยุ่งกับเงินเค้า

ถ้ากองทัพมีความจำเป็นต้องใช้ และคิดว่ามันมีประโยชน์ ก็น่าจะเสนอ รัฐบาลโดยตรง

ของที่ว่าจะซื้อก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไร ใช้ทำอะไร  การอ้างว่าเป็นเรื่องของความมั่นคงอย่างเดียวก็คงไม่ได้



ส่วนคนที่โดนปลด ก็เห็นว่าเป็นพวก คนเก่ง  คิดเก่ง  ข้าแน่

แต่พูดไม่เป็นหรือไม่รู้จักพูด  ก็เลยทำงานกับคนอื่นไม่ค่อยได้

มารยาทในการพูด การให้เกียรติคนอื่น ไม่ค่อยมี

อันนี้ก็ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า  แต่ถ้าจริง ก็คิดว่าควรจะปรับปรุงตัว


ประเทศไทยพัฒนาช้าก็เพราะไม่รู้จักทำงานเป็นทีมนี่ละ

[********Q********]

การยึดถืออัตตา เป็นป็นปัญหาที่แก้ไขยาก

ทักษิณก็เป็นบุคคประเภทยึดถืออัตตา จึงต้องเห็นโลงศพ

[********Q********]

ถ้าจะให้กล่าวโทษตัวบุคคล

ผมก็คงตำหนิวุฒิพงษ์ มากกว่า สพรั่ง..


แต่หากมองจากความเห็นของบทบาทนายกฯ  สพรั่งก็ต้องทบทวนแนวทางการทำงานให้สอดคล้องกับนโยบาย..ตรงนี้ไม่ผ่านสพรั่งขึ้นสูงกว่านี้คงจะไม่ได้

[พรรณชมพู]

ถือเป็นเรื่องที่ไม่โปร่งใส ไม่ชัดเจนเรื่องหนึ่ง  แต่พอรับฟังได้ว่า เป็ฯเรื่องการปรึกษาหารือกัน และยังไม่มีมติอะไรออกมา หากจะมีการดำเนินการใดๆ ต้องอธิบายได้

ยังให้เครดิต ดร.สิทธิชัย ไว้หน่อยนึงค่ะ เชื่อความสะอาดของมือคนคนนี้

แต่คนอื่นไม่ทราบ อย่างพี่พรั่งของม๊อบสนามหลวงนั้น ต้องดูไปอีกนานๆค่ะ 

[********Q********]

เรื่องดักฟังโทรศัพท์ ผมไม่เห็นว่าต้องดักฟังครับ..ไม่มีประโยชน์และไม่มีความจำเป็น ผิดหลักการกฏหมายด้วย

เรื่องความมั่นคงคุมโซนคุมสื่อดีๆก็เรียบร้อยแล้ว ควรหันมาจัดระเบียบสังคมและวัฒนธรรมจะได้ผลมากกว่า..

[********Q********]

ผมอยากให้คุณสพรั่งรีบทำงาน  แสดงผลงานหน่อยครับ..

เรื่องสนามบินยังไม่เห็นมีอะไรคืบหน้า เรื่องเทเลคอมพูลตกลงทำได้เปล่าล่ะครับ??

จับงานกว้างไปหรือเปล่า?