ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
25-04-2024, 05:00
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สโมสรริมน้ำ  |  ทายาทไวกิ้ง 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ทายาทไวกิ้ง  (อ่าน 7030 ครั้ง)
(ลุง)ถึก สไลเดอร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,026



« เมื่อ: 05-05-2006, 17:02 »

   
ไวกิ้ง


บรรพบุรุษของชาวสแกนดิเนเวีย สืบเชื้อสายมาจาก สลัดไวกิ้ง
ผู้ยิ่งใหญ่แห่งทะเลเหนือ หรือที่เรียกกันว่า”คนเหนือ”

หน้านาช่วยกันทำไร่ไถนา หลังเก็บเกี่ยวเสร็จแล้ว
ก็รวบรวมพรรคพวกนำเรือออกทำการปล้นเรือสินค้าต่างๆ
ที่แล่นผ่านมาในแถบทะเลเหนือ และในน่านน้ำยุโรป   
สลัดไวกิ้งยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้เพราะมีเรือดี เป็นเรือมังกร ที่เคลื่อนไหวได้คล่องตัวและว่องไว
กินน้ำตื้น คอยซุ่มตัวรอเหยื่อตามเกาะแก่งทั่วๆไป
 พวกสลัดไวกิ้งจะมีร่างกายกำยำ สูงใหญ่ ผมสีทอง ไว้หนวดเครารุงรัง
สวมหมวกเขาควาย



เรือมังกร


เรือสินค้า หรือแม้แต่เรือรบของต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นของอังกฤษหรือ ฝรั่งเศส 
ตั้งฉายาให้เรือไวกิ้งว่า”เป็นเรือปิศาจ”
ที่สามารถซุ่มโจมตีข้าศึกได้อย่างรวดเร็วและเงียบเชียบที่สุด

ในสมัยแรกๆพวกไวกิ้งเป็นพวกที่โหด***มาก
ทารุณต่อเหยื่อที่พวกมันบุกเข้าไปปล้น
สลัดไวกิ้งจะฆ่าเหยื่อด้วยดาบ ฟันคอด้วยขวาน เจาะหัวเหยื่อด้วย อีเตอร์
แทงด้วยหอก และยิงเหยื่อด้วยธนู
             
พวกสลัดไวกิ้งจะสับเชลยที่จับมาได้เป็นชิ้นๆแล้วโยนให้เป็นอาหารของนกและปลา
จากจุดนี้เองที่ทำให้ชื่อเสียงในด้านความโหดของพวกสลัดไวกิ้ง
ที่ได้สร้างความอกสั่นขวัญแขวนให้ผู้คนทั้งหลายไปทั่วยุโรป

การรวมตัวของสลัดไวกิ้ง 3 ประเทศ สวีเดน เดนมาร์ค และนอร์เวย์ 
เป็นการรวมพลังครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของสลัดไวกิ้ง

จากนั้นนั้นไวกิ้งก็ได้ยกพลบุกไปปล้นสดมภ์ไปทั่วยุโรป
อังกฤษฝรั่งเศสราบเรียบเป็นหน้ากลอง
จนประเทศอังกฤษต้องยอมแพ้
และต้องยอมจ่ายส่วยให้กับสลัดไวกิ้งเป็นจำนวนมหาศาล
เพื่อแลกกับการถูกพวกสลัดไว้กิ้งเข้ายึดครองประเทศ

ไวกิ้งบุกไปปล้นถึงประเทศตุรกี แม้กระทั่งรัสเซีย ก็ไม่มีการยกเว้น
สลัดไวกิ้งเข้าไปจู่โจมถึงเมือง”เคี๊ยฟ”
ปัจจุบันนี้ยังมีเมืองหลายๆเมืองในรัสเซีย
ที่ยังมีชื่อที่มีความเกี่ยวพันกับพวกไวกิ้งในอดีต

หลังจากกลับมาจากการบุกยุโรปครั้งยิ่งใหญ่แล้ว
สลัดไวกิ้งจากสแกนฯ ได้ขนทรัพย์สมบัติเงินทอง
ตลอดจนเชลยทาสอีกเป็นจำนวนมากมายจากยุโรปกลับคืนถิ่น

พวกสลัดไวกิ้ง เมื่อกลับมาจากการปล้นทั้งทางทะเลและทางภาคพื้นดินแล้ว
พวกเขาจะเปลี่ยนสภาพเป็นชาวไร่ชาวนา เลี้ยงวัว เลี้ยงแกะ เลี้ยงหมูเลี้ยงไก่
ใช้แรงงานทาสให้ทำงานหนักๆแทน

ภาพเขียนด้วยหินสีต่างๆ กระทั่งภาษาที่ใช้ในสมัยไวกิ้งยังมีให้เห็นตามผนังถ้ำ
และที่จารึกบนแผ่นหิน คล้ายๆกับศิลาจารึกในประวัติศาสตร์ไทยสมัยสุโขทัย
เป็นเรื่องประหลาดมากที่มีรูปภาพชาวไวกิ้งมีความสัมพันธ์กับสัตว์เลี้ยงต่างๆอีกด้วย

ผู้หญิงในยุคไวกิ้ง ยังไม่มีสิทธิและเสรีภาพอย่างเช่นปัจจุบัน 
ต้องเอาอ่างที่แกะมาจากไม้ไปให้พวกระดับหัวหน้าล้างหน้าล้างตาบ้วนปากถึงที่นอน
ต้องทำอาหารเลี้ยงดู ปรนเปรอพวกผู้ชาย ต้องตัดเย็บเสื้อผ้าจากหนังแกะหนังวัว
ทำงานหนักไม่ต่างไปกว่าเชลยทาสเหมือนกัน

ในกรณีที่มีหัวหน้าไวกิ้งเสียชีวิต จะมีการนำศพหัวหน้าใส่เรือมังกร
แล้วจุดไฟเผาให้เรือจมสูญหายไปในทะเล
บางแห่งมีการขุดหลุมกว้างๆ ฝังศพหัวหน้า ต้องฝังเครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆรวมไปด้วย
แล้วก็จะใช้ดินถมจนเป็นเนินสูงๆเพื่อให้เป็นที่สังเกตได้ง่ายๆ
ยังมีให้เห็นทั่วๆไปในประเทศสวีเดนในปัจจุบัน

พวกไวกิ้ง นับถือพระเจ้า 3 องค์ คือพระเจ้า โอเดน พระเจ้าโทร์ และ เฟรย์
เป็นเทพเจ้าแห่งสงคราม  เป็ เทพเจ้าแห่งความสมบูรณ์พูนสุข
และ เป็นเทพเจ้าแห่งการเกษตรกรรมอีกด้วย

จากนั้นพวกไวกิ้งเริ่มแบ่งแยกกันไปตั้งก๊กต่างๆ
ใครมีอำนาจและบริวารมากพอ ก็สถาปนาตนเองขึ้นเป็นกษัตริย์ 
ในยุคนั้นจึง มีพวกไวกิ้งสถาปนาขึ้นเป็นกษัตริย์กันเป็นจำนวนมาก
จนมีตำนานเรียกกันว่าเป็นดินแดนของ “กษัตริย์ 108”
แล้วกษัตริย์ 108 เหล่านี้ ก็แย่งกันเป็นใหญ่ ยกทัพออกไปทำสงครามขยายอำนาจ
เกิดเป็นสงครามยืดเยื้ออันยาวนาน รบกันไปรบกันมาจนเหลือกษัตริย์แค่ 2 แคว้น
คือแคว้น สเวีย Sver กับ แคว้น เยิร์ตต้า Gota

แต่ในที่สุดก็สามารถเจรจาตกลงกันได้ และก็ผนึกสองแคว้นนี้ขึ้นมา
เป็นอาณาจักรSverige สแวรีเย่ หรือ สแวเรีย ตามที่สากลเรียกว่าประเทศ สวีเดนนั่นเอง

ประเทศสวีเดนเพิ่งมาเขียนประวัติศาตร์เป็นทางการเมื่อศตวรรษ์ที่ 16 
ยุคแรกๆยังมีการซื้อขายทาส ใช้แรงงานทาส พวกทาสจะไม่มีค่าแรง
มีแค่อาหารและเครื่องนุ่งห่มที่ได้รับจากนายทาสเท่านั้น

ประเทศสวีเดนหลังยุคไวกิ้ง ประชาชนอดอยากปากแห้ง
ทำการเกษตรไม่ค่อยจะได้ผลเพราะความหนาวเหน็บ
มีฤดูหนาวที่ยาวนานที่มีน้ำแข็งปกคลุมเกือบตลอดทั้งปี

ประชาชนชาวสวีเดนเกือบ 1 ล้านคน ต้องอพยพไปหาช่องทางทำมาหากิน
ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะที่รัฐ มินิโซตา ปัจจุบันนี้
ก็ยังมีคนที่สืบเชื้อสายมาจากสวีเดนรวมกลุ่มกันอยู่ที่นั่น
               
ประเทศสวีเดนเพิ่งมาร่ำรวยในช่วงสงครามโลกครั้งที่2นี่เอง
โดยการประกาศตัวเป็นกลาง แต่ ตั้งโรงงานผลิตอาวุธสงคราม
ถึงกับต้องจ้างแรงงานมาจากต่างประเทศ เช่นประเทศตุรี
ยูโกฯ เช็คโกฯ และหลายๆประเทศในยุโรป
               
ประเทศเพื่อนบ้าน อย่างเดนมาร์ค นอร์เวย์ และ ฟินแลนด์
มักจะพากันประณามประเทศสวีเดนอยู่เสมอๆว่า เป็นผู้ทรยศต่อเพื่อนบ้าน
อย่างเช่นกรณีที่ยอม ปล่อยให้กองทัพของรัสเซีย
เดินทัพผ่านประเทศสวีเดน ไปยึดประเทศฟินแลนด์ เป็นต้น

     “ใครใคร่รบก็รบกันไป ส่วนกรูจะผลิตอาวุธขายให้พวกมรึงได้รับกัน  พวกมรึงตาย แต่พวกกรูรวย”

                                                            อันนี้ผมพูดเองครับ อิ อิ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-05-2006, 19:10 โดย เสลา » บันทึกการเข้า

(ลุง)ถึก สไลเดอร์
สาวบางกอก
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 81



« ตอบ #1 เมื่อ: 05-05-2006, 18:32 »

ฟังลุงเล่าสนุกจังเลย เอ อยากรู้นิดว่า "ไวกิ้ง" แปลว่าอะไรคะ

ในสมัยแรกๆพวกไวกิ้งเป็นพวกที่โหด***มาก ทารุณต่อเหยื่อที่พวกมันบุกเข้าไปปล้น
สลัดไวกิ้งจะฆ่าเหยื่อด้วยดาบ ฟันคอด้วยขวาน เจาะหัวเหยื่อด้วย อีเตอร์
แทงด้วยหอก และยิงเหยื่อด้วยธนู

อีเตอร์ นี่ประมาณอีโต้บ้านเราหรือเปล่า  Laughing

หนูว่าเรือไวกิ้งเป็นเรือที่ออกแบบรูปทรงได้สวยดี ดูมีเอกลักษณ์
เวลามีพายุเรือคงโครงเครงน่าดู คนเลยเอาไปทำเป็นเครื่องเล่น
นั่งแล้วเสียวท้อง ต้องแหกปาก

บันทึกการเข้า
เก็ดถวา
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 2,753



« ตอบ #2 เมื่อ: 05-05-2006, 18:52 »




ตามมาอ่านเอาเรื่อง

และอ่านเอาสุทรียะ ด้วยค่ะ 
  Razz


บันทึกการเข้า

Avada Kedavra!!!!!!!
Prometheus, The Titan
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 406



« ตอบ #3 เมื่อ: 05-05-2006, 20:25 »

พวกไวกิ้ง ถึงจะได้รับการกล่าวขานว่าเป็นพวกเถื่อนบ้างหล่ะ โหดบ้างหล่ะ แต่ไม่มีใครหรอกครับที่จะปฏิเสธว่า พวกเขาไม่ใช่นักกวีที่มีอารมณ์สุนทรีย์กลุ่มหนึ่ง หลักฐานคืองานประพันธ์ของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางของเหล่าวีรบุรุษ หรือเทพนิยาย ที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กรีก และเทพเจ้าของพวกเค้าก็เยอะแยะซะจนผมว่าตาลายไปหมด ไม่ได้มีแค่สามองค์หรอกครับ (แต่นอกนั้นไม่ค่อยมีใครเค้าจำกัน) เอาไว้ว่างๆเดี๋ยวผมเอาภาพมาโพสดูให้ แต่ที่เด็ดไปกว่านั้นก็คือผมเคยเห็นงานประพันธ์เรื่องหนึ่งที่โดนใจผมมาก เป็นเรื่องราวที่แสดงความขัดแย้งระหว่างศาสนาในโลกเก่า กับศาสนาคริสต์ที่มาใหม่ เรื่องนี้ถ้าอ่านดีๆจะพบว่ากัดพวกคริสเตียนได้เจ็บดีจริงๆครับ ชื่อเรื่องคือ"การตายของนอนาเจสต์" อะไรประมาณนี้แหละครับ จะลองไปหาอ่านกันดูก็ได้ครับ เพราะพวกไวกิ้งนี่ก็ใช่ย่อยเลยครับ เทพนิยายของเค้าอ่านสนุกจริงๆ

ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลเพิ่มเติมของไวกิ้งครับ ขอขอบคุณลุงถึกด้วยครับ
บันทึกการเข้า

Only the brave enjoy noble and glorious death.

- Dyonysus

(ลุง)ถึก สไลเดอร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,026



« ตอบ #4 เมื่อ: 05-05-2006, 21:04 »

เรื่องของไวกิ้งเป็นตำนานเก่าแก่ที่ฟังกันไม่รู้จบ
ชื่อ Viking เป็นชื่อที่คนในยุโรปใช้เรียกคนเหนือกลุ่มหนึ่ง
ที่รู้จักกันดีในนามของโจรสลัด ที่มีความเชี่ยวชาญในการเดินเรือ
โดยการใช้ดาวเหนือเป็น Navigation ได้อย่างแม่นยำ
อีเตอร์ มีลักษณะคล้ายๆค้อนปลายแหลม ที่ใช้ทุบหรือเจาะหินครับ
คุณสาวบางกอก รูปไวกิ้งสาวที่คุณเอามาฝาก น่ารักมากกว่าน่ากลัวนะครับ

 ขอบคุณๆ Prometheus, The Titan ที่นำความรู้เรื่อง ไวกิ้งมาเสริม
ใช่ครับ พวกไวกิ้ง ยังมีประวัติและความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องเทพเจ้าอีกมากมาย
ผมยกมาเฉพาะเทพเจ้าที่สำคัญๆมาแค่ 3 องค์ ยังมีตำนานเก่าแก่ที่สืบทอด
กันมาจากกรีซสมัยโบราณด้วยครับ ยังมีเรื่องเกี่ยวกับเทพ Asa ที่ได้เสด็จ
ลงมาเดินเล่นบนโลกมนุษย์ และก็ได้สมสู่กับผู้หญิงสาวสวยคนหนึ่งที่
มีชื่อว่า Edda ที่กระท่อมริมชายหาดเป็นเวลาถึง3วัน3คืน จึงได้เกิดเป็นตำนาน
เรื่องนี้ขึ้นมา
   "A son was born to Edda,
    him sprinkled she with water,
    dark of hue,
    and named Tral.......
( Tral---träl ภาษาสีดิชอ่านว่า แทรล แปลว่าทาส ต้องขออภัยที่คอมฯแปลภาษาสวีดิชไม่ได้)

ดีใจครับ..... ที่เก็ดถวา บอกว่าอ่านแล้วได้สุนทรียะด้วย

บันทึกการเข้า

(ลุง)ถึก สไลเดอร์
(-O-)Koka
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 562



« ตอบ #5 เมื่อ: 06-05-2006, 15:54 »

สนุกดีครับ
อ่านแล้วนึกถึงเกมแร็คน่าร็อก ที่เนื้อหารู้สึกจะอิงตำนานของไวกิ้งเกี่ยวกับวันสิ้นโลกอะไรประมาณนี้

ปล. ลุงถึกครับ สาวไวกิ้งเนี่ย  Embarassed น่ารักแบบนี้ทุกคนป่าวครับ

ชอบจัง อิอิ

บันทึกการเข้า


อหิงสาคือความเข้มแข็ง ไม่ใช่ความขี้ขลาด
สาวบางกอก
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 81



« ตอบ #6 เมื่อ: 06-05-2006, 17:32 »

แร็กนาร็อก
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี




แร็กนาร็อก คือชื่อสงครามอวสานโลกใน ตำนานเทพเจ้าสแกนดิเนเวีย อันเนื่องจากการสู้รบระหว่างฝ่ายเทพเจ้า เรียกว่า แอซิร์ (Æsir) ซึ่งนำโดย โอดิน (Odin) กับฝ่ายอสูร เรียกว่า โยตุนส์ (Jotuns) ซึ่งนำโดย โลกิ (Loki)

สงครามครั้งนี้ไม่เพียงนำมาซึ่งการสิ้นชีพทั้งฝ่ายเทพเจ้าและฝ่ายปีศาจ แต่ยังเป็นสงครามครั้งสุดท้ายที่ทำลายล้างทุกสรรพสิ่งในจักรวาลจนสูญสิ้น หลงเหลือเพียง เทพเจ้า บางองค์ และมนุษย์ ที่จะร่วมกันสร้างโลกใหม่

ประเด็นที่น่าสนใจในตำนานแร็กนาร็อกคือเหล่าเทพเจ้าได้ล่วงรู้ถึงผลที่จะเกิดขึ้นจากสงครามก่อนแล้วผ่านคำทำนายว่าจะเกิดเหตุการณ์ อะไรขึ้นเมื่อไร ใครจะต่อสู้กับใคร และใครจะถูกใครสังหาร แม้กระนั้นฝ่ายเทพก็ไม่มีอำนาจเพียงพอจะป้องกันไม่ให้เกิดสงครามครั้งนี้ขึ้นได้ อย่างไรก็ตามฝ่ายเทพก็ได้ต่อสู้ เผชิญหน้าต่อชะตากรรมของตนอย่างกล้าหาญ

ในสังคมของนักรบชาวไวกิ้งการตายในสงครามเป็นวีรกรรมอันน่ายกย่องประการหนึ่ง โดยวิญญาณของนักรบผู้พลีชีพในการศึกจะถูกอัญเชิญไปยังหอแห่งความปีติหรือวัลฮัลลา Valhalla เพื่อพบกับเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ โอดิน ผู้ซึ่งแม้แต่ตัวพระองค์เองก็มิได้เป็นนิจนิรันดร์ จักต้องพ่ายแพ้ต่อสุนัขป่า Fenrir และม้วยมอดไปในการศึกแห่งแร็กนาร็อกในที่สุด

คำทำนายของ วอลวา Völva (คนทรงผู้หญิง) เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และชะตากรรมของทวยเทพนับตั้งแต่จุดเริ่มต้นของเวลาจนถึงยุคของแร็กนาร็อก ได้ถูกเล่าขานสืบทอดเป็นบทกวีตำนานมาตั้งแต่ช่วง 1000 ปี ก่อนคริสตกาล

คำว่า แร็กนาร็อก (Ragnarok) มาจากภาษา สแกนดิเนเวียนโบราณ จากคำว่า Ragnarök ซึ่งประกอบไปด้วยคำว่า แร็กนา (ragna) ซึ่งแปลว่า พระเจ้า หรือ พลังอำนาจในการควบคุม และ คำว่า ร็อก (rök) แปลว่า โชคชะตา


ข้อมูลจาก http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B9%87%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%87%E0%B8%AD%E0%B8%84

ดูรูปสวยๆของเทพเจ้าสแกนดิเนเวีย ได้ที่กระทู้...เอามาฝากครับ (ภาพจากเทพนิยายของไวกิ้ง) ของคุณ Prometheus, The Titan
http://forum.serithai.net/index.php?topic=1532.0
บันทึกการเข้า
narong
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 654



เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 06-05-2006, 18:15 »

แร็กนาร็อก เกี่ยวพันอะไรกับ ต.อาร์มาเก็ดดอน ในคัมภีร์หรือเปล่าครับ
ซึ่งเป็นที่รวมเหล่ากษัตริย์มาต่อสู้กับมารเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะสิ้นโลก

จะว่าไปแล้วเดือนหน้าเมืองไทยเปรียบเทียบเหมือน ต.อาร์มาเก็ดดอน เลย
เพราะประเทศที่ยังมีประมุขเป็นกษัตริย์อยู่มารวมตัวกันในเมืองไทย Shocked Cool
บันทึกการเข้า

ผู้ที่ไม่สามารถจะใช้คนดี
ก็ย่อมจะใช้คนไม่ดีหรือคนเลว
ถ้าไม่เชื่อผู้ซื่อสัตย์หวังดีต่อตน
ก็จะต้องไปเชื่อคนประจบสอพลอ
(ลุง)ถึก สไลเดอร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,026



« ตอบ #8 เมื่อ: 06-05-2006, 18:48 »

ขอบคุณสาวบางกอก และ คุณ narong ที่ได้นำตำนาน
ไวกิ้งมาเพิ่มสีสันด้วยครับ


     ขอกระซิบบอกคุณ (-O-)Kokaเป็นการส่วนตัวว่า
สาวสวีดิชผมทองสวยและน่ารักมากๆ ส่วนมากจะไม่สูงใหญ่มากนัก
    สมัยหนึ่งสาวไวกิ้งเคยชื่นชมหนุ่มๆจากเอเซียมากๆ โดยเฉพาะผู้ชาย
ชาวญี่ปุ่นครับ
    สาวไวกิ้งสมัยนี้รูปทรงองค์เอวเปลี่ยนไปมาก อายุเลย 25 ไปแล้วนี่
ดูไม่จืดเลยครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-05-2006, 18:53 โดย (ลุง)ถึก สไลเดอร์ » บันทึกการเข้า

(ลุง)ถึก สไลเดอร์
นายท้ายเรือ
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 760



« ตอบ #9 เมื่อ: 07-05-2006, 07:36 »

เข้ามาอ่านนะครับ  Very Happy Very Happy
ขอบคุณลุงถึก คุณสาวบางกอก และ คุณ narong ที่นำมาร่วมให้อ่าน
...
ผมขอพูดจากความรู้สึกส่วนตัวนะครับ
เรื่อง ไวกิ้ง ผมไม่มีความประทับใจ ในลักษณะของ "โจรสลัด "
และลักษณะของ การล่าอาณานิคม ..เพราะผมเกลียดสิ่งเหล่านี้ครับ
...
เออ...ผมไม่ได้ต่อว่าลุงนะครับ..อย่าเข้าใจผิด 
เพราะลุงนำข้อมูลมาเล่าสู่กันฟัง ..อิอิอิ ซึ่งผมก็ชอบอ่านไปหม๊ดดดดด
ยิ่งเห็นทายาทรุ่นใหม่แล้ว ...อิอิอิ น่ารักกก.....แล้วก็คิดว่า
ปัจจุบันนี้ โจรสลัด แถวนั้นคงไม่มี ( เหลืออยู่แถวอินโด) แล้ว..
ความรักอิสระเสรี เป็นสิ่งที่ผมปรารถนาครับ..
บันทึกการเข้า

ทุกคนเกิดมาก็ต้องตาย แต่จะเหลืออะไรไว้ให้แผ่นดิน
หน้า: [1]
    กระโดดไป: