ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
20-04-2024, 19:31
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ==ดีเอสไอแถลงคดี'เอสซีแอสเซท'พรุ่งนี้ (19มิย50) เปิดเส้นทางเงิน2หมื่นล.== 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
==ดีเอสไอแถลงคดี'เอสซีแอสเซท'พรุ่งนี้ (19มิย50) เปิดเส้นทางเงิน2หมื่นล.==  (อ่าน 1174 ครั้ง)
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« เมื่อ: 18-06-2007, 19:22 »

รอฟังข่าวพรุ่งนี้อีกครับ ว่าจะมีอีกคดีหรือเปล่าเอ่ย?

http://www.bangkokbiznews.com/2007/06/18/WW10_WW10_news.php?newsid=79518
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
ดีเอสไอแถลงคดี'เอสซีแอสเซท'พรุ่งนี้ เปิดเส้นทางเงิน2หมื่นล.
 
18 มิถุนายน พ.ศ. 2550 14:53:00
 
ดีเอสไอนัดแถลงสำนวนคดี"เอสซี แอสเซท"พรุ่งนี้ 13.30 น. พร้อมเปิดเส้นทางเงิน 2 หมื่นล้านบาท ขายหุ้นชินคอร์ป "ล่องหน"
ยันการสั่งคดีไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ไม่หวั่นกระทบใจผู้ชุมนุมสนามหลวง

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : นายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงการสรุปสำนวนคดีบริษัทเอสซี
แอสเซท คอปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SC) ในข้อหาปกปิดข้อมูลโครงสร้างการถือหุ้นบริษัท ในการยื่นจดทะเบียนในตลาด
หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า รายละเอียดทั้งหมดจะแถลงข่าวในวันที่ 19 มิ.ย. เวลา 13.30 น. ส่วนข้อมูลที่ปรากฏบนหน้า
หนังสือพิมพ์วันนี้ ไม่ใช่สำนวนการสอบสวน แต่เป็นข้อมูลสาธารณะ ที่ปรากฎอยู่ในเวปไซด์ธุรกิจเกี่ยวกับบริษัทดังกล่าว แนวทาง
การแถลงข่าวจะระบุข้อเท็จจริงทั้งหมด ตั้งแต่รับเป็นคดีพิเศษ การสืบสวน สอบสวน และสรุปสำนวน ว่าบุคคลใดมีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง

นอกจากนี้ จะมีการเปิดเผยว่า เงิน 20,000 ล้านบาท ที่ได้มาจากการขายหุ้นกลุ่มชินคอร์ปที่หายไป ได้มีการนำไปลงทุนในบริษัทใดบ้าง

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากผลการสั่งคดีออกมาเป็นลบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะทำให้ผู้ชุมนุมที่ท้องสนามหลวง เบนเป้ามาที่ดีเอสไอ
หรือไม่ นายสุนัย กล่าวอีกว่า การสรุปสำนวนคดีเอสซี แอสเซท ในช่วงนี้ ไม่เกี่ยวกับการเมือง แต่เป็นการเปิดเผยผลงานคดีพิเศษ
ที่ดีเอสไอรับไว้ดำเนินการ ซึ่งมีทั้งคดีทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทร ทุจริตปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทย และคดีการเสียชีวิตของ
พระสุพจน์ สุวโจ ทั้งนี้การทำคดีผลถูกผิดว่าไปตามพยานหลักฐาน ไม่ว่าผลคดีจะออกมาอย่างไร ก็คงไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม
เพราะเวทีที่สนามหลวง เป็นการเรียกร้องประชาธิปไตย ไม่เกี่ยวกับสำนวนคดี ส่วนกลุ่มรักทักษิณ ก็คงไม่สนใจการสรุปสำนวนคดี
ของดีเอสไอ เพราะคดียังไม่ถึงที่สุด ยังมีขั้นตอนตามกระบวนการยุติธรรมอีกมาก

นายสุนัย กล่าวอีกว่า เพื่อให้การสอบสวนคดีพิเศษในทุกคดี เป็นไปอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ ตนจึงได้ปรับนโยบายใหม่ โดยอธิบดี
ไม่ควรเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน เพื่อเปิดช่องให้ผู้ต้องหาหรือผู้ถูกกล่าวหา ที่คิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ได้มีโอกาสร้องเรียน
ขอความเป็นธรรมโดยตรงจากอธิบดี เพื่อไม่ให้มองว่าเป็นพวกเดียวกันหมดทั้งกรม โดยอธิบดีจะทำหน้าตรวจสอบ กลั่นกรองความ
ถูกต้อง และรัดกุมของทุกสำนวนคดี ซึ่งก่อนสั่งคดีจะต้องผ่านความคิดเห็นของอธิบดี ดังนั้นตนจึงได้ลาออกจากการเป็นหัวหน้า
พนักงานสอบสวนคดีเอสซี เเอสเซท โดยยืนยันว่า ไม่ได้มีสาเหตุมาจากความหวั่นเกรงผลกระทบทางการเมืองจากกลุ่มอำนาจเก่า

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากสรุปสำนวนว่าบริษัทเอสซี แอสเซท จงใจปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้น จะเป็นผลให้มีการรื้อฟื้นคดีซุกหุ้นภาค 1
ไว้กับคนใช้และคนขับรถหรือไม่ นายสุนัย กล่าวว่า คดีใหม่เป็นข้อเท็จจริง ไม่มีผลเปลี่ยนแปลงคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ว่า
บกพร่องโดยสุจริต แต่คดีมีหลักคิดว่า การบกพร่องโดยสุจริตอ้างได้เพียงครั้งเดียว หากมีการกระทำผิดเกิดขึ้นอีก จะยกอ้างความ
สุจริตมาต่อสู้ไม่ได้ เพราะรู้อยู่แล้วว่าเป็นการกระทำที่ไม่ชอบ

รายงานข่าวเปิดเผยว่า การประชุมตรวจสอบสำนวนคดีเอสซี แอสเซทของดีเอสไอ เป็นการประชุมลับโดยมีบุคคลที่รู้รายละเอียด
เพียงไม่กี่คน อาทิ นายสุนัย นายพรชัย อัศวพรชัย รองอธิบดีดีเอสไอ นายเข็มชัย ชุติวงศ์ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีล้มละลาย และ
พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ ผบ.สำนักคดีการเงิน การธนาคาร เนื่องจากผู้อยู่ในข่ายที่อาจจะถูกออกหมายเรียกเป็นบุคคลสำคัญ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-06-2007, 19:33 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #1 เมื่อ: 18-06-2007, 19:28 »

โปรดสังเกตว่าถ้าถูกดำเนินคดีจะอ้างมุกเดิม "บกพร่องโดยสุจริต" ไม่ได้แล้วนะครับ 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
drop
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 737



« ตอบ #2 เมื่อ: 18-06-2007, 20:31 »

แล้วเกี่ยวกับ ผู้ตรวจสอบบัญชี  ที่ตายปริศนา หรือเปล่า  คนเดียวกัน  เรื่องเดียวกันหรือเปล่านี่

 
บันทึกการเข้า

A  Few  Good  Men

Downey: What did we do wrong? We did nothing wrong.

Dawson: Yeah, we did. We were supposed to fight for the people who couldn't fight for themselves. We were supposed to fight for Will.

************************
I  only  want  to  fight  for  my  country as  long as  I ' m alive. I  do nothing  wrong  .  The tyrant  is  still  the  tyrant, I  have  to  expel  them  in  every  step  of  life. When the  time  come,  the  tyrant   will  absolutely  extinguish. That  ‘ s  the   dharma  truth.
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #3 เมื่อ: 18-06-2007, 21:50 »

ต่อกรณีเรื่องการยักย้ายถ่ายเทเงินจำนวน 20,000 กว่าล้านที่หายไปจากบัญชีนั้น นายกรณ์อยากเรียกร้องให้ธปท. เร่งรัดในการติดตามทิศทางเส้นทางของจำนวนเงินดังกล่าวที่หายไปจากบัญชีของ พ.ต.ท.ทักษิณ และภรรยา และการที่ธปท.ออกมายืนยันว่าจำนวนเงินดังกล่าวน่าจะยังอยู่ในประเทศไทยนั้น นายกรณ์แสดงความเห็นว่า คิดเพียงเท่านั้นยังไม่พอ เพราะว่าธปท. คงต้องทราบดีว่ามีวิธีมากมายในการนำเงินออกนอกประเทศ โดยไม่ต้องขออนุญาตธปท. กล่าวคือจากการที่ได้พูดคุยกับธนาคารพาณิชย์ต้นสังกัดพบว่า ลูกค้าที่มีเงินฝากสามารถถอนเงินออกไปได้ไม่เกินครั้งละ 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยไม่ต้องขออนุญาต ธปท. เลย ดังนั้นตนจึงไม่แน่ใจว่า ธปท. มีข้อมูลอะไรในการยืนยันว่าเงินทั้งหมดยังอยู่ในประเทศ

นายกรณ์ขยายความเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า การที่เจ้าของบัญชีจะถอนและโอนเงินไปบัญชีต่างประเทศได้นั้น  ทุก ๆ 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จะต้องขออนุมัติจากทางธปท. แต่มีช่องให้ทางลูกค้าสามารถโอนเงินไปต่างประเทศได้ไม่เกิน 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่ว่าต้องมีหลักฐานในแง่ของธุรกรรมมารองรับ โดยที่ไม่ต้องแจ้งธปท.และเท่าที่ทราบมามีการโอนในลักษณะนี้แล้วอย่างน้อย 1 ครั้งอีกด้วย

สำหรับข้อกล่าวอ้างของ นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของพ.ต.ท.ทักษิณ ว่าเงินอีกประมาณ 20,000 ล้านบาทนั้นเอาไปลงทุนในบรษัทต่าง ๆ ดังรายละเอียดที่ได้เปิดเผยไปก่อนหน้านี้ นายกรณ์กล่าวว่า ตนไม่เชื่อว่าทั้งหมดเป็นการลงทุนจริง หุ้นทั้งหมดที่คุณนพดลพูดถึง ที่บอกว่า น.ส.พินทองทา นายพานทองแท้ และนายบรรณพจน์ได้ถอนเงิน 20,000 กว่าล้านไปซื้อหุ้นเหล่านั้น เป็นหุ้นของครอบครัวชินวัตรอยู่แล้ว ดังนั้นการที่อยู่ดี ๆ จะนำเงินไปซื้อหุ้นจากตัวเองเป็นสิ่งที่ไม่สมเหตุสมผล นอกจากนั้นบริษัทเหล่านั้นมีทุนจดทะเบียนเพียงน้อยนิด บางบริษัทมีทุนจดทะเบียนเพียง 160 ล้าน แต่บอกว่านายพานทองแท้ซื้อหุ้นเพิ่มเป็น 1,000 ล้านบาท ซึ่งไม่สมเหตุสมผล นอกจากนั้นบริษัททั้งหมดได้เคยแจ้งกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ไว้แล้วว่าจะอาสาที่จะแช่แข็งธุรกิจตัวเองเพื่อไม่ให้มีผลประโยชน์ทับซ้อน กับบริษัทครอบครัวที่ชื่อ เอสซีแอสเซท ที่ได้ขอจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ไปแล้ว ดังนั้นข้ออ้างดังกล่าว ควรจะได้มีการขอเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม โดยตนเชื่อว่าเป็นเพียงแค่การหลบหลีกเพื่อไม่ให้เงิน 20,000 ล้านนั้นถูกอายัดไปด้วย และคิดว่าคตส. คงต้องมีการดำเนินการตามไปอายัดเงินที่อยู่ในบริษัทเหล่านี้หากมีการไปซื้อ หุ้นจริง เพราะถือว่าเป็นการยักย้ายถ่ายเถในลักษณะที่ไม่สมเหตุสมผล และส่อพิรุธต่อความพยายามหนีการอายัดเงินที่เหลืออยู่นั่นเอง

กล่าวคือ หุ้นที่มีการนำเงิน20 ,000 ล้านไปลงทุนนั้น นายกรณ์ขยายความว่า ก็คือหุ้นที่พ.ต.ท.ทักษิณ เคยขายให้กับบริษัทวินมาร์ค และบริษัทวินมาร์ค ขายกลับมาให้ น.ส.พิณทองทา บริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทที่ไม่ได้ดำเนินธุรกิจ ตามกฎของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อปี 2546 ในขณะที่จะนำบริษัทเอสซีแอสเซทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทเหล่านี้ต้องให้คำมั่นกับตลาดหลักทรัพย์ว่าจะไม่ทำธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์หรือทำธุรกิจที่คล้ายคลึงกับธุรกิจของบริษัทเอสซี แอสเซท เพื่อให้นักลงทุนสามารถที่จะมั่นใจได้ว่าไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนระหว่าง บริษัทที่นักลงทุนถืออยู่กับบริษัทที่เอาเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ดังนั้นการเพิ่มทุนให้กับ 4 – 5 บริษัทเหล่านี้จึงไม่มีเหตุผล และไม่เชื่อว่ามีการเพิ่มทุนจริง นอกจากนี้หากเป็นการซื้อหุ้นเดิมก็ไม่เป็นการสมเหตุสมผลเพราะครอบครัวชิน วัตรเป็นเจ้าของหุ้นอยู่แล้ว

17/6/2550

http://www.democrat.or.th/viewnews.asp?id_head=8361&id_main=60&p=0&ca=62&mt=175.92.185.153.216.238.33.205&st=172.102.168.190.167.250.47.206
บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #4 เมื่อ: 18-06-2007, 21:54 »

แล้วเกี่ยวกับ ผู้ตรวจสอบบัญชี  ที่ตายปริศนา หรือเปล่า  คนเดียวกัน  เรื่องเดียวกันหรือเปล่านี่

 

คดีเดียวกับที่ นายวิทยา ภาณุมาภรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายตรวจสอบภายใน บมจ. เอสซีแอสเซท
ตายปริศนานั่นแหละครับ ..

ตายปริศนาจริงๆ เพราะตอนนั้น (ต้นเดือนพฤษภา 50) ก็บอกว่าต้องรอผลชันสูตร 2-3 สัปดาห์
ทำไปทำมาข่าวเงียบหายไปเฉยๆ จนป่านนี้แล้วครับ

นายวิทยา ภาณุมาภรณ์ เป็นหลานชายของนายผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ คนสนิทอดีตนายกฯ ทักษิณ
และนายผดุงเองเคยเป็นรองกรรมการผู้จัดการ บมจ.เอสซีแอสเซท มาก่อน

ส่วนท่านที่สงสัยว่านายผดุง ที่ว่ากันว่าเป็นคนสนิททักษิณ จริงๆ แล้วมีความสัมพันธ์กันอย่างไร
เรื่องที่ไม่ค่อยมีคนพูดกันคือนายผดุงเป็นศิษย์เก่ากรุงเทพคริสเตียนรุ่น 116 คือเป็นเพื่อนนักเรียน
ของ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ และนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ ซึ่งเป็นพี่ชายและพี่บุญธรรม
ของ คญ.พจมาน ภริยาอดีตนายกฯ ทักษิณ นั่นเองครับ
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
หน้า: [1]
    กระโดดไป: