ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
20-04-2024, 18:56
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ผ่าแผนพาคนไปตาย 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ผ่าแผนพาคนไปตาย  (อ่าน 975 ครั้ง)
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« เมื่อ: 13-06-2007, 20:45 »

http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9500000068569

พลเอกวัฒนชัย ฉายเหมือนวงศ์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคงให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน พาให้เกิดความฉงนว่าทุกอย่างจะสิ้นสุดลงในวันที่ 15 มิถุนายน 2550 นี้ โดยเปรียบเทียบว่าสถานการณ์เหมือนฝีที่เมื่อแตกแล้วทุกอย่างก็จะเป็นปกติสืบไป
       
       ครั้นผู้สื่อข่าวซักถามลงไปในรายละเอียดว่าจะเอาอะไรบ่งฝี ก็ตอบเฉไฉไปหาพวกหมอดูว่ามีคำทำนายทายทักเอาไว้แล้ว ซึ่งทำให้เกิดความสับสนยิ่งขึ้นไปใหญ่
       
       ความจริงข่าวคราวที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองขณะนี้ก็เห็นเด่นชัดแล้วว่าปัญหาความขัดแย้งที่ระบอบการปกครองหนึ่งจะโค่นล้มทำลายการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข กำลังมาถึงจุดแตกหักในไม่กี่วันข้างหน้านี้แล้ว
       
       การให้สัมภาษณ์ของพลเอกวัฒนชัย ฉายเหมือนวงศ์ แม้จะทำให้งุนงงสงสัยอยู่บ้าง แต่ก็คงเป็นลักษณะที่ต้องการเตือนคนไทยทั้งประเทศให้ร่วมใจกันระมัดระวังป้องกันเหตุร้ายอย่าให้เกิดขึ้นในบ้านเมืองของเรา
       
       แต่คงจะไม่ได้ผลเป็นแน่ และคงจะต้องเกิดเหตุจลาจลนองเลือดขึ้นเป็นแน่ เพราะเรื่องแบบนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับรัฐบาลและ คมช. แต่ฝ่ายเดียว หากขึ้นอยู่กับพวก ม็อบไข่แม้วด้วย
       
       ต่อให้รัฐบาลและ คมช. มุ่งมั่นสันติและใช้ความอดทนอดกลั้นสักเท่าใด แต่ในเมื่ออีกฝ่ายหนึ่งต้องการจะสร้างเหตุการณ์จลาจลเพื่อหวังผลทางการเมืองให้จงได้แล้ว ก็คงหลีกเลี่ยงเหตุร้ายไม่พ้น
       
       คงเหลือแต่ว่าจะเกิดเหตุในขณะที่เป็นเรื่องราวใหญ่โตหรือจะเกิดขึ้นในขณะที่สถานการณ์ยังอยู่ในภาวะที่ควบคุมได้ หรือตัดไฟเสียแต่ต้นลมเท่านั้น
       
       ไหน ๆ มันก็จะเกิดเรื่องเกิดราวโดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้แล้วเช่นนี้ เรามาดูกันว่าพวกม็อบไข่แม้วได้เตรียมการอย่างไรบ้าง จะได้เห็นสถานการณ์โดยกว้างทั้งนอกประเทศและในประเทศ
       
       ในด้านต่างประเทศนั้น ขณะนี้ก็มีความชัดเจนแล้วว่ามีการว่าจ้างบริษัทล็อบบี้ยิสต์ให้ทำลายภาพลักษณ์ประเทศไทยอย่างหนึ่ง และกำลังจ้างบริษัทล็อบบี้ยิสต์กฎหมายของสหรัฐอีกแห่งหนึ่งให้ประสานงานไปยังประเทศต่าง ๆ เพื่อให้คว่ำบาตรประเทศไทย พูดง่าย ๆ ก็คือเลิกติดต่อทำมาค้าขายกับประเทศไทย โดยไม่คำนึงว่าจะเกิดความเดือดร้อนเสียหายแก่นักธุรกิจและประชาชนคนไทยตลอดจนประเทศไทยอย่างไร
       
       นอกจากนี้ บริษัทล็อบบี้ยิสต์ยังพยายามติดต่อกงสุลบางประเทศเพื่อให้ล็อบบี้รัฐบาลของประเทศหมู่เกาะเล็ก ๆ ในมหาสมุทรแปซิฟิกให้ยอมรับระบอบทักษิณว่าเป็นรัฐบาลพลัดถิ่น เพื่อเป็นการวางศิลาฤกษ์ของการจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นต่อไป
       
       อย่าคิดว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะประเทศเกิดใหม่เล็กๆ เหล่านี้เคยทำอะไรที่ประหลาดพิกลในกิจการระหว่างประเทศให้เห็นมานักต่อนักแล้ว กระทรวงการต่างประเทศจึงต้องติดตามเอาใจใส่เรื่องนี้ให้จงดี
       
       ส่วนภายในประเทศนั้น อาจสรุปสถานการณ์ได้ดังนี้
       
       ข้อแรก จากการเตรียมการว่าจ้างโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าจำนวน 6 แห่ง ให้จัดทำเสื้อผ้าเพื่อการเดินขบวนหรือเพื่อการชุมนุมจำนวน 3 ล้านตัว ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 16-17 มิถุนายน ศกนี้ คือการสะท้อนให้เห็นว่ามีการเตรียมการที่จะใช้กำลังคนประมาณ 3 ล้านคนทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
       
       ข้อสอง สื่อมวลชนได้รายงานข่าวชัดเจนแล้วว่ามีการประสานงานให้อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทยบางพื้นที่โดยเฉพาะในภาคเหนือและในภาคอีสานระดมประชาชนเข้ามาในกรุงเทพฯ แต่ถ้าเข้ามาไม่ได้ก็ให้จัดชุมนุมในพื้นที่เพื่อให้เกิดสถานการณ์ชุมนุมทั่วประเทศ
       
       แผนเดิมเคยวางไว้ว่าแต่ละเขตเลือกตั้งจะระดมคนจำนวน 4,000 คน จาก 300 เขตเลือกตั้งในภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออกบางจังหวัด เข้ามาชุมนุมและต้อนรับนายใหญ่เข้าประเทศ แบบเดียวกับการปฏิวัติอิสลามโค่นล้มพระเจ้าซาห์ในอิหร่าน
       
       แต่ปรากฏว่าแผนดังกล่าวไม่อาจปฏิบัติได้เพราะอดีต ส.ส. จำนวนหนึ่งออกจากพรรคไปแล้ว และที่เหลืออยู่ก็มีแกนไม่กี่คน จึงใช้วิธีระดมอย่างจำกัด แต่ได้ทุ่มเทเงินจำนวนมากเพื่อหวังให้ได้จำนวนคน 3 ล้านคนก่อการชุมนุมทั้งในกรุงเทพฯ และในต่างจังหวัด
       
       ข้อสาม กดดันบุคคลสำคัญระดับสูงเพื่อให้ออกมาไกล่เกลี่ยให้พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน และพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ลาออก ให้สหประชาชาติเข้ามาจัดการเลือกตั้งเพื่อกลับคืนสู่อำนาจ
       
       ในประการนี้จะพยายามเคลื่อนม็อบไปตั้งหลักที่กองบัญชาการกองทัพบกก่อนเพื่อยั่วยุให้เกิดการปะทะ หรือไม่ก็จะบุกเข้าไปบ้านประธานองคมนตรี พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ เพื่อยั่วยุให้เกิดการปะทะเช่นเดียวกัน เมื่อเกิดการปะทะแล้วก็จะเคลื่อนย้ายมวลชนไปปิดล้อมพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
       
       ในขณะเดียวกันนั้น ก็จะเชื่อมโยงสื่อมวลชนต่างประเทศให้ทำการถ่ายทอดสดเพื่อกดดันบุคคลระดับสูง รัฐบาล และ คมช. ให้คืนอำนาจแก่อำนาจเก่า
       
       ข้อสี่ จัดเตรียมหน่วยจู่โจมทะลวงฟันเป็นกองหน้าเพิ่มขึ้นจากประมาณ 200 คนเป็น 600 คน เพื่อเป็นหน่วยปะทะและนำพาประชาชนเข้าสู่การจลาจล ในขณะที่พวกแกนนำจะใช้โอกาสนั้นปลีกตัวออกจากที่ชุมนุม โดยจะสร้างสถานการณ์ว่า คมช. จะมาอุ้มจึงต้องหลบหนีเพื่อความปลอดภัย ปล่อยให้มวลชนเสี่ยงตายกันเอาเอง
       
       ข้อห้า มีกลุ่มคนบางคณะไปอาสาว่าจะทำการปฏิวัติซ้อนโดยรับเงินจำนวนมากมาเป็นค่าใช้จ่าย แต่ปรากฏว่าเกิดปัญหาขึ้นเนื่องจากแกนนำบางคนรับเงินมาแล้วไม่ต่อท่อ กลับเก็บเอาไว้เอง บางคนที่นำเงินไปต่อท่อและมีคนรับเงิน แต่คนรับเงินกลับรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จึงทำให้แผนนี้ถูกเปิดโปงไปแล้ว
       
       ในด้านของรัฐบาลและ คมช. นั้น แรกเริ่มเดิมทีไม่ค่อยลงรอยกันเท่าใดนักเพราะพวกรัฐบาลเต่าเชื่อมั่นในนโยบายสมานฉันท์ และตีกรรเชียงเอาตัวรอดไว้เสมอ ปล่อยให้พวก คมช. เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกันเอาเอง
       
       แต่ต่อมาสถานการณ์บังคับให้จำเป็นต้องลงเรือลำเดียวกัน เพราะได้รับทราบรายงานข่าวชัดเจนว่าการจองเวรล้างโคตรนั้นไม่จำกัดอยู่เฉพาะพวก คมช. เท่านั้น แต่ยังคลุมถึงพวกรัฐบาลเต่าด้วย แม้กระทั่งบรรดารัฐมนตรีขี้เท่อที่ไม่ยอมทำอะไร โดยคิดว่าจะเอาตัวรอดได้ ก็กลับอยู่ในข่ายเหมือนกัน
       
       มิหนำซ้ำยังลุกลามไปถึงกรรมการใน ป.ป.ช., คตส. และอีกหลายองค์กรที่อยู่ในข่ายถูกจองเวรล้างโคตร
       
       ดังนั้นเมื่อหลังพิงกำแพงเข้า คนทั้งหลายเหล่านี้จึงต้องผนึกกำลังกันและตื่นขึ้นจากความเพ้อฝัน เห็นความจริงว่าสถานการณ์นั้นไม่อาจประนีประนอมกันได้เลย จะต้องแตกหักกันไปข้างหนึ่ง
       
       เพราะเหตุนี้ต่างฝ่ายต่างก็เข้าเกียร์ห้าเดินหน้าเต็มตัว นั่นคือพวกที่จะล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยก็เดินหน้าเต็มตัว พวกที่พิทักษ์ปกป้องการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขก็เดินหน้าเต็มตัว จึงก่อเกิดเป็นสถานการณ์ดังที่เป็นอยู่
       
       คำขู่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่าจะเดินทางกลับเข้าประเทศนั้นถูกเกทับบลัฟแหลกในทันทีว่าเชิญเข้ามาเลย โดยพร้อมจะเปิดประตูเมืองต้อนรับ ซึ่งเอเอสทีวีของเราได้ฟันธงไว้แล้วว่าไม่มีทางเข้ามาหรอก เพราะรู้ดีว่าอุบายเปิดประตูให้เข้าเมืองนั้นอันตรายมากมายสักเพียงไหน
       
       ทั้งรัฐบาลและ คมช. วันนี้ตระหนักดีว่าเรื่องราวไม่ใช่เล็กน้อย จึงเตรียมความพร้อมเต็มอัตราศึก แต่ดูเหมือนว่ายังอ่อนด้อยอยู่ในเชิงชั้นการประชาสัมพันธ์และสื่อมวลชน ซึ่งคาดว่าคงจะเตรียมการจัดวางขึ้นในวันสองวันนี้อย่างแน่นอน
       
       และเมื่อวันนั้นมาถึง ม็อบไข่แม้วก็จะเคลื่อนตัวมาตามถนนราชดำเนิน ผ่านสะพานผ่านฟ้า ตรงมาที่หน้ากองบัญชาการกองทัพบก ในขณะที่รัฐบาลและ คมช. ก็จะตั้งแนวรับไม่ยอมให้ม็อบไข่แม้วเคลื่อนไปยังบ้านสี่เสาของประธานองคมนตรี หรือที่จะเคลื่อนไปทางพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
       
       ณ จุดดังกล่าวจึงอาจเกิดการสร้างสถานการณ์ให้มีการปะทะกันแล้วเกิดเป็นจลาจล ในขณะนั้นบรรดาแกนนำระดับผู้ใหญ่ก็จะเดินทางไปต่างประเทศ อ้างว่าเพื่อกิจธุระ ในขณะที่ระดับรองลงมาก็จะหาทางปลีกตัวออกมาจากที่ชุมนุมโดยข้ออ้างว่าจะถูกอุ้ม
       
       แต่หน่วยจู่โจมทะลวงฟันก็จะก่อสถานการณ์และยั่วยุให้มีการปราบปราม โดยให้คลื่นมวลชนพยายามทะลุทะลวงไปยังด้านพระตำหนักจิตรลดารโหฐานให้จงได้
       
       ณ เวลานั้นหากไม่มีประกาศภาวะฉุกเฉินก็จะมีประกาศกฎอัยการศึก และจับกุมพวกกบฏอย่างเฉียบขาดฉับพลัน
       
       ดูไปแล้วมันจะเป็นรูปแบบเดียวกันกับเหตุการณ์ 6 ตุลา และไม่มีทางที่จะเป็นรูปแบบ 14 ตุลา หรือรูปแบบพฤษภาทมิฬอย่างแน่นอน
       
       สภาพที่จะเคลื่อนตัวพัฒนาไปคงจะไม่ไกลจากที่ได้พรรณนามานี้ ดังนั้นใครจะยอมให้เขาหลอกไปตายก็เชิญได้ตามใจชอบ แต่ใครที่มีญาติพี่น้องและห่วงหาอาทรกันอยู่ก็ต้องช่วยกันเตือน ช่วยกันบอกกล่าวอย่าให้ถูกหลอกไปตายเป็นอันขาด
       
       เจ๊ใหญ่ เจ๊กลาง เจ๊เล็ก และหมอหมาบางคนที่สร้างสถานการณ์ทำลายบ้านเมืองอยู่ในขณะนี้ ให้เตรียมทางหนีทีไล่ไว้ให้ดีก็แล้วกัน !
       
       เจ้าของทีวีช่อง 3 และเจ้าของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐทราบแล้วเปลี่ยน !
บันทึกการเข้า
ใบไม้ทะเล
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,321


In politics stupidity is not a handicap


« ตอบ #1 เมื่อ: 13-06-2007, 21:04 »

ไม่อยากให้มีการปะทะเลยค่ะ 
บันทึกการเข้า

立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 13-06-2007, 21:07 »



ฟังหูไว้หูครับ อย่าไปเชื่อสนธิลิ้ม มันวิเคราะห์แบบใสสีตีไข่เกินปกติตามถนัด

แต่พวกม็อบอ่านแล้วคงพอทราบว่ามีคนรู้ทัน..



การป้องกันไม่ให้ม็อบเคลื่อนตัว เคลื่อนขบวนโดยเด็ดขาด จึงเป็นสิ่งที่ต้องกระทำ

ส่วนพวกแกนนำ แล้วแต่พฤติกรรมของแต่ละคน 



ทั้งสองฝ่ายต้องระวังเรื่องความรุนแรง  ม็อบอย่าให้มีอาวุธ เป็นไปได้ควรยุติปกป้องคนผิด หยุดยั่วยุขัดขวางรัฐบาล เดินหน้สู่การเลือกตั้ง






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-06-2007, 21:09 โดย ********Q******** » บันทึกการเข้า

กาฬปักษ์
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 28


« ตอบ #3 เมื่อ: 14-06-2007, 00:32 »

ไม่รู้ครับใครวิเคราะห์ แต่ก็สังหรใจลึกๆ ว่าน่าจะเป็นเช่นนั้น เพื่อสร้างความชอบธรรมให้ประชาชนเห็นว่าทหารใช้กำลังรุนแรง

แต่ที่แน่ๆ คุณๆ ทายสิว่าพวกแกนนำทั้งหลายใครจะวิ่งก่อน เอิ๊อกๆๆๆ
บันทึกการเข้า
qazwsx
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


นักธุรกิจและตำรวจ ต้องออกไปจากการเมือง


« ตอบ #4 เมื่อ: 14-06-2007, 00:45 »

ไม่รู้ครับใครวิเคราะห์ แต่ก็สังหรใจลึกๆ ว่าน่าจะเป็นเช่นนั้น เพื่อสร้างความชอบธรรมให้ประชาชนเห็นว่าทหารใช้กำลังรุนแรง

แต่ที่แน่ๆ คุณๆ ทายสิว่าพวกแกนนำทั้งหลายใครจะวิ่งก่อน เอิ๊อกๆๆๆ

การประท้วงคราวนี้แตกต่างจากครั้งอื่น ๆ
เพราะหากเกิดอะไรขึ้น
"คนกรุงเทพ ฯ ส่วนใหญ่" ยินดีให้ความร่วมมือในการเก็บหลักฐาน - ภาพถ่าย - เสียง
หรือแม้แต่จับตัวผู้ก่อการไว้ 
เพื่อส่งให้ "ศาลทหาร" ดำเนินการ ตามกฎอัยการศึก

บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
    กระโดดไป: