ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
29-03-2024, 23:03
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ภัยแล้งเยือนสนามหลวง! ท่อน้ำเลี้ยงแห้งในพริบตา 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ภัยแล้งเยือนสนามหลวง! ท่อน้ำเลี้ยงแห้งในพริบตา  (อ่าน 1331 ครั้ง)
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« เมื่อ: 13-06-2007, 10:53 »


ภัยแล้งเยือนสนามหลวง! ท่อน้ำเลี้ยงแห้งในพริบตา
 
โดย ผู้จัดกวน 13 มิถุนายน 2550 08:09 น.
 
 
 
 
 
       กรุงเทพฯ - พระเจ้าช่วยกล้วยแขกทอด! ลมมรสุมความร้อนระอุจาก คตส.พัดกระหน่ำจากประเทศไทยโหมเข้าใส่กรุงลอนดอน ก่อนจะวกวับกลับมายังจรัญสนิทวงศ์ 69 จากนั้นจึงกระหน่ำลงตรงใจกลางสนามหลวง ส่งผลให้เกิดความแห้งแล้งโดยปัจจุบันทันด่วน จนเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้บะหมี่สำเร็จรูประดมยื้อชีวิตฝูงผู้ชุมนุม
       
       เกิดเหตุการณ์ประหลาดไม่คาดฝัน เพราะอยู่ดีๆ ดั๊นมวลอากาศที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ซึ่งมีการประชุมของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เกิดปรวนแปรอย่างหนักจนชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างครางฮือกันถ้วนทั่วทั้งประเทศ
       
       เหตุการณ์อันพิสดารนี้มีรายงานว่า หลังจากที่ คตส.ใช้เวลาประชุมเครียดกว่า 6 ชั่วโมง จากนั้นได้มีการแถลงข่าวถึงผลของการประชุมโดยนายแก้วสรรเป็นตัวแทนแจ้งแก่สื่อมวลชนว่าผลออกมาเช่นไร ในทันใดบริเวณนั้นได้เกิดพายุหมุนคว้างขึ้นอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย แม้แต่นักข่าวและช่างภาพที่แห่กันไปทำข่าวยังปากอ้าตาค้างต่อสภาพอากาศปรวนแปรที่บังเกิดขึ้น
       
       นายบักแหลม บรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์ผู้จัดกวน ที่ไปทำข่าวรายงานปากสั่นละล่ำละลักมายังสำนักงานว่า ตอนแรกที่ตนเดินทางไปถึงอากาศเริ่มอบอ้าวและมืดครึ้มขึ้นทุกขณะ จนกระทั่งนายแก้วสรรออกมาแถลงข่าวผลการประชุม เมฆดำที่ลอยมืดเป็นกลุ่มได้พัดหมุนติ้วๆ ปลิวหายไปในห้วงอวกาศ ตนจึงสอบถามไปยังกรมอุตุนิยมวิทยาว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่าสภาพอากาศที่เกิดขึ้น ณ บริเวณสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเมื่อวานที่ผ่านมา เรียกว่า "ลมล่มวังจันทร์ส่องหล้า" มีอัตราความเร็วสูงสุด 1,000 ไมล์ต่อชั่วโมง จุดศูนย์กลางอยู่ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน และพัดกระหน่ำเข้าใส่กรุงลอนดอนของประเทศอังกฤษ ภายในพริบบตาเดียว คาดว่าอาจจะมีคนไทยที่ไร้จริยธรรมทางการเมืองซึ่งเร่ร่อนไปนอนอยู่แถวนั้นกระอักเลือดตายภายในเวลาไม่ช้าไม่นานนี้
       
       "ที่สำคัญกรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่า หลังจากพัดโหมกระหน่ำใส่กรุงลอนดอนแล้ว "ลมล่มวังจันทร์ส่องหล้า" ยังมีกระแสที่รุนแรงมากจนถึงกับจะพัดวกกลับมายังประเทศไทย คาดว่าจุดที่น่าจะเสียหายหนักระดับถอนรากถอนโคนบ้านของคนได้คือตรงบริเวณซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 บักแหลมรายงานเป็นการด่วน
       
       นอกจากนี้ นายสมิต อดีตอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ตอนนี้พื้นที่ที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดสำหรับประเทศไทย คือ บริเวณสนามหลวง เพราะจุดสุดท้ายที่พลังอันร้ายกาจของลมสายนี้จะทำให้สถานที่ตรงนั้นประสบภัยพิบัติแห้งแล้งอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในเมืองไทย จึงขอให้ผู้คนที่อยู่แถวนั้นประคองชีวิตตัวเองให้รอดพ้นจากการอดตาย หรือไม่ก็อย่าให้เป็นโรคขาดเงินเป็นพิษได้เป็นอันขาด
       
       กระทั่งเมื่อเวลาห้าทุ่มครึ่งของวันเดียวกัน นายบักแหลมที่ดอดไปสังเกตการณ์ต่อที่ท้องสนามหลวงแล้วรายงานข่าวเข้ามาว่า ขณะนี้ที่สนามหลวงโดยเฉพาะตรงจุดที่ม็อบพีทีวีตั้งเต็นท์อยู่ ถูกภัยแล้งแห้งขอดกระหน่ำใส่จนโงหัวไม่ขึ้น แต่ละคนโอดโอยเพราะความโหยหิว เพราะก่อนหน้านี้มีท่อน้ำเลี้ยงต่อมาปรนเปรอไม่ขาดสาย พอเกิดภัยแล้งแห้งขอดกะทันหันจึงทำให้ทุกคนตกอยู่ในอาการบักโกรก สภาพร่างกายไม่ต่างอะไรจากเปรตอษิณรกาย
       
       "โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกผู้นำม็อบ อาทิ ไข่แม้วดำ จักรลึงค์ จตุพล่าม หมอหว่าง(ขา) และณัฐวอน(ซะร้าววว์) จากเมื่อก่อนที่เคยพุงปลิ้น ตอนนี้ไม่ได้กินอะไรจนกลายเป็นผอม กะหร่อง หายใจพะงาบๆ เพราะท่อน้ำเลี้ยงหมดเกลี้ยงก๊อก ขนาดหน่วยกู้ภัยต้องใช้บะหมี่สำเร็จรูปต้มน้ำยังไม่ทันเดือดดีรีบเอาไปป้อนหย่อน ใส่ปาก เพราะเกรงว่าจะ ทนหิวไม่ไหว ชักแหง็กๆ ตายไปเสียก่อน แหม ลมอะไรก็ไม่รู้ แรงสะท้านประเทศจริงๆ" นายบักแหลม...รายงาน
 
--------------------------------------------------------------------------
http://www.manager.co.th/Pjkkuan/ViewNews.aspx?NewsID=9500000068335
--------------------------------------------------------------------------

จากผู้จัดกวน ฮาดีครับทั่น 
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #1 เมื่อ: 13-06-2007, 14:52 »

 
บันทึกการเข้า
cameronDZ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,827


my memory


« ตอบ #2 เมื่อ: 13-06-2007, 18:25 »

ตั้งแต่ ป๋าบัญ ไม่ได้คุมผู้จัดกวน เนี่ย

ชั้นเชิง การกวน ตกไปเยอะแฮะ

สงกะสัย บักกวีน้อยเมืองร้อยเอ็ด มาดู แทนหรือเปล่า

พล็อต และ มุข ที่คิดขึ้นมา OK ใช้ได้

แต่ สำนวน อ่านแล้วฝืดอ๊ะ ไม่ตลกเลย

นี่พูดกันตรง ๆ อย่าโกรธนะน้อง.........
บันทึกการเข้า

ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา
จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย
...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ...
แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก
...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...
A-NOY
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 546


« ตอบ #3 เมื่อ: 13-06-2007, 21:20 »

คนที่ไปสนามหลวงน่ะหวังกินฟรีเพราะดีกว่าอยู่เปล่าๆ เดี๋ยวถ้าไม่มีข้าวเลี้ยงก็คงหมดคนเองแหละ
บันทึกการเข้า

A-NOY
เอกราช
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 826


กับคนที่ไร้ซึ่งจริยธรรม ยังจะสามารถสมาคมด้วยหรือ


« ตอบ #4 เมื่อ: 13-06-2007, 22:03 »

หลังท่อน้ำเลี้ยงแห้งในพริบตาแบบเข็มขัดสั้น(คาดไม่ถึง)
ล่าสุดเตรียมระเบิดเขื่อน
เพื่อส่งน้ำหล่อเลี้ยงแบบแตกหัก
พื้นที่เสี่ยงต่อภาวะน้ำท่วมฉับพลันและโคลนถล่ม
น่าจะเป็นแถบทุ่งสนามหลวง
กรมอุตุเตือนให้ประชาชนอพยพจากทุ่งสนามหลวงด่วน
ก่อนได้รับอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลัน

 
บันทึกการเข้า

สภาพดินฟ้าอากาศที่ได้เปรียบมิสู้มีชัยภูมิที่มั่นคง
ชัยภูมิที่เป็นเลิศมิอาจเทียบได้กับความมีน้ำหนึ่งใจเดียวของผู้คน
天时不如地利,地利不如人和
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 13-06-2007, 22:26 »

ตลอดปลายสัปดาห์ มาถึงกลางสัปดาห์

ผมมีโอกาสตะลอนทัวร์สายอีสาน

ทางโน้นเงียบ ๆ นะครับ ไม่มีข่าวคราวว่า ชาวรากหญ้าจะตื่นตัวมาสนามหลวง

เพราะพอดีเข้าหน้านาซะด้วย ถ้าท่อน้ำเลี้ยงไม่ดี ดึงหนีจากนาไม่ได้หรอกครับ

สงสัย ภัยแล้งจะมาเยือนสนามหลวงค่อนข้างแน่ครับ


ยิ่งโดนยึดทรัพย์แบบนี้ คงหมดกำลังใจไปเยอะ...

เขี้ยวที่สุดคือนักการเมืองไทยนี่แหละครับ คงต้องประเมินสถานการณ์กันใหม่
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
    กระโดดไป: