ถ้า 3 ศาลประสานสรุปให้การเลือกตั้ง 2 เมย. เป็น "โมฆะ"
กลุ่มรักทักษิณก็บอกอยู่แล้ว ต้องการให้ทักษิณลงสมัครรับเลือกตั้งและพร้อมประกาศเป็นนายกฯ ไม่ต้องเว้นวรรคการเมือง
กลุ่มคัดค้านทักษิณ กลับเห็นว่า ทักษิณต้อง "เว้นวรรค" ไปก่อน
เพื่อให้มีการปฏิรูปทางการเมืองจนแล้วเสร็จเสร็จเรียบร้อยไปก่อน หากกลับมาในช่วงนี้จะไม่มีประโยชน์ มีแต่สร้างความร้าวฉาน
และด้วยท่าทีของทักษิณในช่วงนี้ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า
1. ทักษิณคิดอะไรอยู่ ถึงได้ปล่อยลิ่วล้อออกมาส่งเสียงให้ข่าวว่า ตนเองพร้อมตระบัดสัตย์อยู่ทุกเมื่อ
2. จะเกิดอะไรขึ้นกับสังคมไทยและการเมืองไทย
มีความคิดเห็นจากหลายๆท่านในวงการการเมืองไทย
http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01pol05050549&day=2006/05/05รศ.สุขุม นวลสกุล อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ไม่เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับมาใช้ช่วงเวลาอันใกล้นี้ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณพูดว่าจะ "เว้นวรรค"
"หาก พ.ต.ท.ทักษิณประกาศเป็นนายกรัฐมนตรี ภาพก็จะกลายเป็นคนกลับไปกลับมา ความน่าเชื่อถือจะลดลงอาจเสียคะแนน โดยเฉพาะในพื้นที่ กทม. ทำให้เกิดความวิตกและความไม่แน่นอนทางการเมือง และก็จะมีแรงต่อต้าน อาจมีการพูดว่า พ.ต.ท.ทักษิณสร้างปัญหาซ้ำขึ้นมาอีก กลืนน้ำลายตัวเอง แต่แรงต่อต้านในครั้งนี้อาจจะไม่ได้รับแรงสนับสนุนเท่าครั้งก่อน ผู้มาร่วมชุมนุมอาจจะน้อยลงเพราะเหนื่อย และเมื่อฟังพระราชดำรัสซึ่งเป็นทางออก คนต้องการความสงบ"
เช่นเดียวกับ "ปรีดี หิรัญพฤกษ์" อดีต ส.ว.ปทุมธานี ยังเชื่อมั่นว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะไม่เปลี่ยนคำพูดที่เคยประกาศไว้ว่าจะ "เว้นวรรค" ทางการเมือง
"พ.ต.ท.ทักษิณคงคิดบวกลบคูณหารหลายรอบแล้วว่า การกลับมาเป็นนายกฯทันทีหากศาลสั่งให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ จะทำให้ขาดทุนเยอะ สถานการณ์ขณะนี้จึงไม่น่าจะเปลี่ยนใจกลับคำเรื่องเว้นวรรค เพราะเป็นประโยชน์กับตัวเอง และพรรคไทยรักไทยในระยะยาวมากกว่า แม้ว่าเรายังไม่เคยเห็น พ.ต.ท.ทักษิณออกมาระบุชัดในเรื่องนี้ แต่ก็ไม่สามารถอนุมานได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะคิดกลับมาทันที เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณคงระวังตัวอย่างมากในการขยับตัว
"ผมเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณคงตกลงใจไปแล้วพอสมควรในเรื่องที่จะดึงใครที่เหมาะสม และไว้วางใจที่สุดมาทำหน้าที่แทนตัวเอง เพราะเรื่องใหญ่อย่างนี้ พรรคไทยรักไทยคงต้องเตรียมตัวรับสถานการณ์พอสมควร เรื่องการเปลี่ยนผู้นำชั่วคราวไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ของพรรคการเมืองใหญ่ หากไม่เตรียมตัวก็จะกลายเป็นปัญหาระยะยาว ทั้งเรื่องการบริหารกลุ่มต่างๆ ภายในพรรค ดังนั้น การเว้นวรรคชั่วคราวเพื่อรอการปฏิรูปการเมืองรอบสองแล้วกลับมาลุยต่อน่าจะเป็นหนทางที่ดีที่สุด แต่ถ้าสุดท้าย พ.ต.ท.ทักษิณตัดสินใจกลับมาในทันที คงจะมีคนออกมาประท้วงกันบนท้องถนนเป็นอย่างมากอีกครั้งหนึ่ง"
ขณะที่ "สมบัติ ธำรงธัญวงศ์" คณบดีคณะรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เห็นว่า ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับมาอีกก็จะถูกต่อต้านอย่างไม่ต้องสงสัย
"จะมีคนที่ไม่ไว้วางใจ พ.ต.ท.ทักษิณออกมาขับเคลื่อนกดดัน พ.ต.ท.ทักษิณอยู่อีก และถ้า พ.ต.ท.ทักษิณคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นไม่ส่งผลกระทบต่อผู้นำประเทศ หรือไม่คิดว่าการกลับมาจะทำให้ผู้นำเสียหาย ก็เป็นสิทธิของ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ด้านหนึ่งเป็นสิทธิของประชาชนด้วยที่จะออกมาต่อต้าน และคัดค้าน ซึ่งความสงบสุขทางการเมืองของประเทศไทยคงไม่มี
"ที่สำคัญการประกาศเว้นวรรคไม่ควรแสดงเป็นแบบศรีธนญชัย ต้องเว้นวรรคในช่วงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ควรทำแบบศรีธนญชัยว่าเลือกตั้งใหม่เงื่อนไขเก่ายกเลิกไป เป็นเช่นนี้ทำให้ไม่มีความบริสุทธิ์ใจในการแก้ปัญหาบ้านเมือง ทางที่ดี พ.ต.ท.ทักษิณต้องคิดให้ได้ว่าไม่ควรเป็นแบบนี้ ถ้าหากเห็นแก่ประโยชน์ประเทศชาติในช่วงมีวิกฤต ควรเว้นวรรคเหมือนที่ประกาศไว้แล้ว ไม่ควรมาตะแบงหากทำแบบนั้นปัญหาของประเทศจะไม่ยุติ ยิ่งจะสะท้อนให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณยึดมั่นประโยชน์ส่วนตนมากกว่าความสงบของประเทศ"
จาก "ความคิดเห็น" ข้างต้นพบว่าการกลับมาของ พ.ต.ท.ทักษิณในช่วงระยะเวลาอันใกล้นี้จะมี "ผลเสีย" มากกว่า "ผลดี"
แต่นั่นก็เป็นเพียงเสียงสะท้อน..เพราะคนที่จะให้คำตอบที่ดีที่สุดมีเพียงคนเดียวคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร