ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
18-04-2024, 12:19
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ...คนไทย ฆ่าครูไทย ไม่มีใครเห็นหรือ ..... 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
...คนไทย ฆ่าครูไทย ไม่มีใครเห็นหรือ .....  (อ่าน 936 ครั้ง)
รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« เมื่อ: 12-06-2007, 08:10 »

อ่านข่าวแล้วเศร้าใจ  ไม่รู้จะอธิบายว่ายังไง  หรือพรรณาว่ายังไง


สุดทนจริงๆ .....คนคิดคนทำ คนฆ่าครูคือเยาวชนกะเปี๊ยกนี่เองอายุ

เพิ่งอยู่ช่วงสิบเก้า  ยี่สิบ  เค้าไม่รู้ร้อนรูหนาว  ใครจะตายใครจะอยู่

เค้าไม่รู้เรื่องหรอก  เพราะเค้าถูกฝึกมาให้ฆ่าคน ถูกฝังเข้าไปในเลือด

ว่า  ให้ฆ่า  ๆๆๆๆ 


แต่  คนที่เห็น  พ่อแม่ผู้ปกครอง  คนรอบข้าง  ชาวบ้าน.....ล่ะคะ

คุณมิใช่คนไทย  คุณไม่ทุกข์ไม่ร้อน  ไม่รู้สึกอะไรเลยหรือคะ

จะปล่อยให้ลูกให้หลานของท่านออกมาฆ่า  ออกมาแกงคนอื่น

อย่างนี้  แล้วไม่นึกบ้างหรือคะว่า   วันหนึ่ง .....ความตายก็จะมาเยือน

บ้านท่าน  ครอบครัวท่านได้เหมือนกัน


  ช่วยกันเป็นหูเป็นตา  ช่วยกันรักษาชีวิตจิตวิญญาณ ด้วยกันมิดีกว่าหรือ

ในเมื่อ  กินข้าหม้อเดียวกันนี่คะ  หม้อไทย  หม้อประเทศไทยไงคะท่าน
....................................................................................................................


โจรใต้บุกร.ร.ยิงครูตาย2คาห้องสมุดจับผู้ต้องสงสัย1
12 มิถุนายน 2550 01:56 น.
คนร้ายบุกโรงเรียนบ้านซากอยิงหัว 2 ครูสาวดับคาห้องสมุด ต่อหน้าเด็กนักเรียนจำนวนมาก อีกรายครูหนุ่มที่ระแงะถูกยิงตายขณะสำรวจเด็กเข้าเกณฑ์เรียน จนท.รวบผู้ต้องสงสัยได้ 1 คน รับอยู่ในเหตุการณ์แต่ไม่ได้เป็นมือยิง ตั้ง กก.สอบ ชรบ.-ผู้เกี่ยวข้อง บกพร่องปล่อยคนร้ายเข้าถึงโรงเรียนได้

ครูในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบอีกครั้ง ครั้งนี้คนร้ายบุกเข้าไปยิงอย่างโหด***มถึงในโรงเรียน เมื่อเวลา 12.10 น. วันที่ 11 มิถุนายน ร.ต.ท.วัชริน ตันเจริญรัตน์ ร้อยเวร สภ.อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุคนร้ายบุกยิงครูโรงเรียนบ้านซากอ ตั้งอยู่หมู่ 1 ต.ซากอ อ.ศรีสาคร เสียชีวิต 2 คน ภายในห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา จึงระดมกำลังตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบศพครูผู้หญิง 2 คน นอนจมกองเลือดก่ายกันอยู่ข้างโต๊ะคอมพิวเตอร์ ทราบชื่อคือ นางทิพย์ภาภรณ์ ทรรศโนภาส อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37 หมู่ 1 ต.ศรีสาคร อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส เป็นครู คศ.2 สอนนักเรียนชั้น ป.1 มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้นขนาด.357 ที่บริเวณศีรษะ 2 นัด หน้าท้องซ้าย 1 นัด ขาขวา 2 นัด รวม 5 นัด

 ส่วนศพที่สองคือ น.ส.ยุพา เซ่งวัส อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 หมู่ 2 ต.กาหลง อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส เป็นครูผู้ช่วยสอนหนังสือชั้นอนุบาล 1 มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้นขนาด 11 มม.ที่บริเวณหน้าท้องซ้าย 4 นัด หลัง 1 นัด และศีรษะอีก 1 นัด รวม 6 นัด ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม. 6 ปลอก และหัวกระสุนปืนพกสั้นขนาด.357 ตกอยู่ที่พื้นกลางห้องสมุด 2 หัว จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำศพส่งให้แพทย์โรงพยาบาลศรีสาครชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง และมอบศพให้ญาติรับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี

 จากการสอบสวนพยานบุคคลในที่เกิดเหตุทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีคนร้าย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดหน้าร้านค้า ตรงข้ามประตูทางเข้าโรงเรียน และเดินปะปนกับผู้ปกครองของเด็กนักเรียนในช่วงพักกลางวัน โดยมุ่งหน้าไปยังห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา พบนางทิพย์ภาภรณ์ กับ น.ส.ยุพา กำลังนั่งพิมพ์งานร่วมกันหน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ จากนั้นคนร้ายเดินเข้าไปในห้องชักอาวุธปืนพกสั้นขนาด 11 มม.และขนาด.357 คนละกระบอก ยิงใส่ครูทั้งสองคนละ 5-6 นัด ท่ามกลางสายตานักเรียนนับร้อยคนที่วิ่งเล่นอยู่หน้าห้องสมุด เมื่อมั่นใจว่าครูทั้งสองเสียชีวิตคนร้ายจึงวิ่งออกจากห้องสมุดไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่หน้าร้านค้าตรงข้ามประตูโรงเรียนขี่หลบหนีไป

 ต่อมาเวลา 13.15 น.พ.ต.ท.เฉลิม ยิ่งคง สารวัตรเวร สภ.อ.ระแงะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุมีครูถูกยิงเสียชีวิตในร้านขายของชำไม่มีเลขที่ ริมถนนสายดุซงญอ-ตันหยงมัส บริเวณบ้านเจ๊ะเก หมู่ 2 ต.บาโงสะโต อ.ระแงะ ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบศพนายสมหมาย เหล่าเจริญสุข อายุ 55 ปี ครู คศ.2 โรงเรียนบ้านเจ๊ะเก นอนจมกองเลือดอยู่ในร้าน มือขวาถือปากกา มือซ้ายมีกระดาษรายชื่อเด็กที่เกิด พ.ศ.2543 ที่ยังไม่ได้ไปเข้าโรงเรียน สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนอาก้าที่บริเวณศีรษะ ลำตัว และสะโพก รวม 6 นัด

 จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์ออกจากโรงเรียนช่วงพักเที่ยงตามลำพัง เพื่อไปรับประทานอาหารที่บ้านพักในเขตเทศบาลตำบลตันหยงมัส เมื่อรับประทานอาหารเสร็จได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปร้านขายของชำจุดเกิดเหตุ เพื่อสำรวจเด็กที่อายุเข้าเกณฑ์เรียนหนังสือแต่ผู้ปกครองไม่ส่งเข้าโรงเรียน เพื่อจะทำเรื่องรายงานให้ผู้บังคับบัญชาหาทางช่วยเหลือเด็กกลุ่มนี้ แต่ระหว่างสอบถามผู้ปกครอง มีคนร้าย 6 คน ขี่รถจักรยานยนต์ 3 คัน มาจอดที่หน้าร้านขายของชำ โดยคนร้าย 2 คน ยืนคุมเชิงอยู่หน้าร้าน อีก 1 คน ถืออาวุธปืนอาก้าเข้าไปในร้านแล้วกระหน่ำยิงใส่ผู้ตาย 6 นัดซ้อน เมื่อมั่นใจว่าเสียชีวิตคนร้ายทั้งหมดจึงพากันหลบหนี

 หลังเกิดเหตุคนร้ายยิงครูเสียชีวิต 3 คนในเวลาไล่เลี่ยกัน ส่งผลให้โรงเรียนใน 3 อำเภอ คือ ศรีสาคร รือเสาะ และระแงะ เกือบ 100 โรง ปิดการเรียนการสอนทันที โดยครูส่วนหนึ่งเดินทางไปโรงพยาบาลศรีสาครและโรงพยาบาลระแงะ เพื่อแสดงความเสียใจต่อญาติของผู้เสียชีวิต ท่ามกลางบรรยากาศที่เศร้าสลด

 นายไพรัช แสงทอง ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานราธิวาส เขต 1 กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้บริหารโรงเรียน โดยเฉพาะพื้นที่สีแดงแจ้งขอปิดการเรียนการสอนชั่วคราว เริ่มตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน เป็นต้นไป เนื่องจากไม่มั่นใจในความปลอดภัย เพราะคนร้ายก่อเหตุอุกอาจจนเกินจะรับได้ สร้างความไม่พอใจให้ครูหลายรายที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้ามาดูแลความปลอดภัยได้

ผอ.โรงเรียนช็อกคนร้ายก่อเหตุอุกอาจ

 นายสมเกียรติ เสาวคนธ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านซากอ กล่าวว่า เหตุการณ์สุดสะเทือนขวัญครั้งนี้เกิดขึ้นต่อหน้านักเรียนและเพื่อนครูจำนวนมาก ขณะกำลังพานักเรียนออกจากห้องเพื่อมุ่งหน้าไปโรงอาหารช่วงพักเที่ยง โดยคนร้าย 2 คนนุ่งโสร่ง แต่งกายในลักษณะชาวบ้านทั่วไป เดินเข้ามายิงนางทิพย์ภาภรณ์ และ น.ส.ยุพา อย่างอุกอาจ ท่ามกลางความตกตะลึงและโกลาหลของนักเรียนในขณะนั้น

 ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านซากอ กล่าวต่อว่า คนร้ายเลือกสร้างสถานการณ์ในขณะที่โรงเรียนกำลังวุ่นวาย เพราะนักเรียนส่วนใหญ่มุ่งหน้าไปโรงอาหาร ขณะที่ครูก็ไม่ได้ระมัดระวังตัว เพราะต้องคอยจัดเรียงลำดับแจกจ่ายอาหารกลางวัน อีกทั้งไม่คาดคิดว่าคนร้ายจะสามารถเล็ดลอดหลบสายตาชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) เข้ามาก่อเหตุภายในโรงเรียนได้

 "ยอมรับว่าช็อกมาก เพราะขณะนั้นผมอยู่บนอาคารชั้น 2 ซึ่งเปิดเป็นห้องสมุด ขณะที่ครูทั้งคู่อยู่ด้านล่าง กำลังเคลียร์เอกสาร ก่อนจะไปยังโรงอาหารเพื่อดูแลนักเรียน แต่คนร้ายบุกเข้ามาลั่นกระสุนก่อนหลบหนีไปอย่างอุกอาจ" นายสมเกียรติ กล่าวและว่า เนื่องจากพื้นที่โรงเรียนมีกว่า 70 ไร่ ส่งผลให้การปิดกั้นไม่ให้ผู้ไม่หวังดีลักลอบเข้ามาภายในอาณาเขตโรงเรียนทำได้ยาก อย่างไรก็ตาม โรงเรียนได้ขอ ชรบ.มาทำหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยระหว่างทำการเรียนการสอนแล้ว

 นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า ผลพวงจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้ขวัญกำลังใจครูและบุคลากรของโรงเรียนจำนวน 30 คน อยู่ในสภาพไม่พร้อมทำหน้าที่ ขณะเดียวกัน นักเรียนกว่า 570 คน ต่างอยู่ในภาวะขวัญหนีดีฝ่อ จึงของดการเรียนการสอนชั่วคราว เพื่อหารือกับผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษานราธิวาสเขต 1 รวมทั้งฝ่ายกองกำลังในการป้องกันเหตุและเรียกความมั่นใจกลับคืน ส่วนตนก่อนหน้านี้ได้ขอย้ายไปช่วยราชการที่สำนักงานผู้ตรวจราชการเขต 12 ยะลา แต่ได้รับการร้องขอจากผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานราธิวาส เขต 1 จึงเดินทางกลับมาดูแลโรงเรียนอีกครั้ง

 "ก่อนหน้านี้คนร้ายได้ลอบวางเพลิงอาคารโรงอาหารของโรงเรียนมาแล้ว ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้เชื่อว่าคนร้ายต้องการบีบให้ครูตกอยู่ในอาการหวาดกลัวสุดขีด จากนี้ไปคงต้องหวังพึ่งกำลังตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่รัฐในการช่วยกันปกป้องชีวิตพ่อพิมพ์และแม่พิมพ์ในพื้นที่เพื่อให้กลับมาพร้อมทำงานอีกครั้ง" นายสมเกียรติ กล่าว

รวบผู้ต้องสงสัยมือยิง2ครูสาว

 ด้าน นายเจษฎา จิตรัตน์ นายอำเภอศรีสาคร จ.นราธิวาส กล่าวว่า ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว เนื่องจากพบพิรุธบางอย่าง โดยเฉพาะประตูโรงเรียนซึ่งปกติจะปิด ห้ามบุคคลภายนอกเข้ามาในบริเวณโรงเรียน แม้กระทั่งรถผู้ปกครอง แต่จากการสอบถามผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้ง ชรบ.พบว่ามีคนสั่งให้เปิดประตูเพื่อให้ผู้ปกครองเข้ามาส่งบุตรหลานในโรงเรียน ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบว่าใครผู้ออกคำสั่งดังกล่าว

 นายอำเภอศรีสาคร กล่าวต่อว่า ก่อนเกิดเหตุนักเรียนทั้งหมดเข้าไปอยู่ในโรงอาหาร พร้อมกับครูคนอื่น เหลือเพียงนางทิพย์ภาภรณ์ และ น.ส.ยุพา ที่ยังทำงานอยู่ในห้องสมุด กระทั่งคนร้ายเดินเข้ามายิงจนเสียชีวิต ก่อนจะหลบหนีไป ทั้งนี้ ยืนยันว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีนักเรียนเห็นภาพโหด***ม เนื่องจากทั้งหมดเข้าไปอยู่ในโรงอาหารหมดแล้ว

 นายเจษฎา กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้แล้ว 1 คน พร้อมหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ทั้งซองปืน คู่มือซึ่งเป็นภาษายาวี คาดว่าเป็นหนังสือเกี่ยวกับการซุมเปาะ หรือสาบานตัว นอกจากนี้ยังได้ลูกประคำ รถจักรยานยนต์ เบื้องต้นผู้ต้องสงสัยให้การว่าอยู่ในเหตุการณ์ แต่ไม่ใช่คนลงมือยิงครูทั้งสองคน

 นายณัฐพลฒ์ วิเชียรเพริศ รองผู้ว่าฯ นราธิวาส กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่าตกใจที่คนร้ายบุกเข้าไปยิงครูเสียชีวิตถึง 2 คนภายในโรงเรียน ซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้นเพราะเป็นพฤติกรรมที่โหด***มเกินจะรับได้ว่าเป็นมนุษย์ และทันทีที่ทราบเหตุได้เข้าพื้นที่เพื่อสอบสวนและติดตามคดีด้วยตัวเอง เนื่องจากสงสัยว่าทำไมถึงปล่อยให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น ทั้งที่มีการแจ้งเตือนให้ระมัดระวังความปลอดภัยอย่างเข้มงวดกวดขัน แต่กลับปล่อยให้เกิดเหตุขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าต้องมีข้อบกพร่องในการจัดวางระบบอย่างแน่นอน และต้องได้รับการแก้ไขข้อบกพร่องดังกล่าวอย่างเร่งด่วน ล่าสุดได้รับแจ้งว่าเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้แล้ว 1 คน เป็นผู้ชาย โดยอยู่ระหว่างการสอบสวนหาข้อเท็จจริง ทั้งนี้ ขอให้ทุกคนร่วมกันประณามคนร้ายที่ก่อเหตุด้วย

 มีรายงานว่า ผู้ต้องสงสัยที่ถูกควบคุมตัวไว้คือ นายอารีเซ็ง เจ๊ะและ อายุ 19 ปี โดยเจ้าหน้าที่นำตัวไปสอบสวนเครียดที่ สภ.อ.ศรีสาคร เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นเพียงคนขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่บริเวณหน้าโรงเรียนเท่านั้น จากนั้นได้เดินเข้าไปภายในโรงเรียนพร้อมเพื่อนอีก 1 คน อาศัยช่วงที่มีผู้ปกครองเด็กนักเรียนจำนวนมากเดินปะปนเข้าไป และไม่ได้เป็นผู้ลงมือยิง แต่เป็นฝีมือเพื่อนที่เป็นคนยิงครูทั้งสองคนเสียชีวิต ซึ่งขณะนี้กำลังหลบหนี อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังกว่า 100 ราย เฝ้าติดตามคนร้ายที่หลบหนีอย่างใกล้ชิดแล้ว คาดว่ายังคงกบดานอยู่ในพื้นที่ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส

สั่งสอบจนท.บกพร่องปล่อยคนร้ายบุกยิงครู

 พ.อ.พีรพล วิรยะกุล ผบ.ฉก.3 นราธิวาส กล่าวเช่นกันว่า เหตุการณ์คนร้ายบุกยิงครูถึงในโรงเรียนนับว่าอุกอาจมาก เพราะก่อเหตุกลางวันแสกๆ และยังเป็นช่วงโรงเรียนเปิด มีเด็กนักเรียนและครูจำนวนมากที่อยู่ในช่วงเกิดเหตุ คาดว่าคนร้ายแอบแฝงตัวเป็นชาวบ้าน ทำทีเข้ามาในโรงเรียนโดยที่ไม่มีใครทันสังเกต หลังเกิดเหตุได้สั่งเจ้าหน้าที่ไล่ล่าติดตามคนร้ายอย่างเร่งด่วน พร้อมประสานกองกำลังที่อยู่ใกล้เคียงให้ร่วมสังเกตการณ์ และเข้าค้นพื้นที่เป้าหมายอย่างกระชั้นชิด ขณะเดียวกัน ได้สั่งการให้เร่งตรวจสอบความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบความปลอดภัยโรงเรียนด้วย ที่ปล่อยให้เกิดเหตุสะเทือนขวัญขึ้น โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่เฝ้าประจำโรงเรียน ทั้งในส่วนของ ชรบ. อส. และเจ้าหน้าที่ทหาร ซึ่งปกติจะต้องตรวจสอบบุคคลผ่านเข้าออกโรงเรียนอยู่ตลอด

 "ทันทีที่เกิดเหตุได้สั่งการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบทุกพื้นที่ ตรึงกำลังตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย และให้เจ้าหน้าที่เข้าปฏิบัติหน้าที่เฝ้าดูแลความปลอดภัยโรงเรียนทุกแห่ง โดยเฉพาะในพื้นที่สีแดง เนื่องจากเป็นห่วงว่าคนร้ายจะตระเวนก่อเหตุยิงครูตามพื้นที่ต่างๆ เพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรงขึ้นอีก" พ.อ.พีรพล กล่าว

แกนนำครูเครียดเรียกถกปรับแผน

 นายสงวน อินทรักษ์ ประธานสมาพันธ์ครูจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า หลังเกิดเหตุสมาพันธ์ครูได้ทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เพื่อเชิญผู้บริหารสถานศึกษาทั้ง 13 อำเภอ มาร่วมถกแนวทางแก้ไขปัญหา พร้อมกับกองกำลังฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่โดยด่วน  ทั้งนี้ ที่ผ่านมามาตรการดูแลครูของฝ่ายกองกำลังทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ฝ่ายตรงข้ามหันไปใช้วิธีการเผาโรงเรียนเพื่อกดดันครูให้หยุดสอนชั่วคราว แต่ก็ยังมีช่องโหว่บางจุดที่คนร้ายสามารถเข้ามาก่อเหตุได้อย่างอุกอาจและโหด***มต่อหน้านักเรียนในช่วงกลางวันแสกๆ ชนิดคาดไม่ถึง

 แกนนำครูรายนี้กล่าวเพิ่มเติมว่า จากนี้ไปถึงเวลาที่ฝ่ายความมั่นคงจะต้องพิจารณาข้อเสนอแบ่งโซนโรงเรียนตามอัตราความเสี่ยง ซึ่งก่อนหน้านี้สมาพันธ์ครูจังหวัดนราธิวาสเคยเสนอด้วยการแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ส่วน คือ โรงเรียนซึ่งมีอัตราความเสี่ยงต่อการเกิดเหตุน้อย พื้นที่มีอัตราความเสี่ยงปานกลาง และพื้นที่มีอัตราเสี่ยงสูง เพื่อให้มีการวางระบบและอัตรากำลังในการรักษาความปลอดภัยครู นักเรียน และสถานศึกษาเข้มข้นตามระดับอัตราความเสี่ยง

เหยื่อรถนร.ถูกยิงยังนอน รพ.5 คน   ความคืบหน้าเหตุการณ์คนร้ายใช้ปืนอาก้ากราดยิงรถบัสรับส่งนักเรียนโรงเรียนพัฒนาวิทยา จ.ยะลา ขณะจอดส่งเด็กนักเรียน บนถนนสายบ้านเนียง-ยะหา หมู่ 3 ต.บาโงยซิแน อ.ยะหา จ.ยะลา เหตุเกิดเมื่อเวลา 16.40 น. วันที่ 10 มิถุนายน ล่าสุดวันที่ 11 มิถุนายน ศูนย์ประสานงานเหตุฉุกเฉินแห่งชาติจังหวัดยะลา รายงานจำนวนผู้บาดเจ็บว่า มีทั้งหมด 13 คน รักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา 4 คน คือ 1.นายอิสมาแอ ดามู อายุ 41 ปี คนขับรถ ถูกยิงเข้าที่ใบหน้าและลำตัว อาการสาหัส ขณะนี้อยู่ในห้องไอซียู 2.น.ส.ลีน่า มะซอ อายุ 15 ปี มีแผลทะลุที่หูขวา 3.ด.ญ.ฟามีล่า วิชา อายุ 13 ปี มีอาการแน่นหน้าอก และมีรูที่หน้าอก 1 รู และ 4.น.ส.อาปาธิทา สา อายุ 18 ปี มีแผลที่ใต้ตาขวา แผลที่เปลือกตาและจมูก นอกจากนี้ มีผู้บาดเจ็บรักษาตัวที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชยะหา 1 คน คือ ด.ญ.นาดียา ปูแล อายุ 13 ปี ส่วนผู้บาดเจ็บที่เหลือแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ 


ไทย-อินโดฯ ถกป้องกันเหตุรุนแรง3จว.ใต้

 นายฮัสซัน วิรายูดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซีย กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย-อินโดนีเซีย ครั้งที่ 6 ถึงรายงานที่ระบุว่ามีแนวร่วมชาวอินโดนีเซียลักลอบเข้ามาเคลื่อนไหวก่อเหตุในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า รัฐบาลอินโดนีเซียยินดีจะแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านความมั่นคงกับรัฐบาลไทยบนพื้นฐานของความเป็นมิตรประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาความรุนแรงในภาคใต้ของไทย

 ส่วนที่มีรายงานว่า มีชาวกัมพูชามุสลิมเดินทางเข้าไทยอย่างถูกต้องเกือบ 2 หมื่นคน แต่พบว่าเดินทางกลับประเทศเพียงร้อยละ 10 โดยส่วนใหญ่เดินทางลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น นายนิตย์ พิบูลสงคราม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ได้ออกมาตรการคุมเข้ม โดยให้สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ตรวจสอบข้อมูลโดยละเอียดว่าบุคคลนั้นมีประวัติในบัญชีดำหรือไม่ ก่อนที่จะออกวีซ่าให้ โดยมั่นใจว่าวีซ่าที่ออกโดยสถานทูตได้ดำเนินการถูกต้องตามกระบวนการทุกอย่าง

เขมรเรียกทูตไทยแจงเรื่องพัวพันกลุ่มเจไอ  สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเมื่อวันที่ 11 มิถุนายนว่า นายฮอร์ นัม ฮง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ได้เรียกนักการทูตไทยเข้าพบเพื่อปฏิเสธรายงานข่าวที่ว่า กลุ่มชาวมุสลิมในกัมพูชาพัวพันกับกลุ่มเจมาห์ อิสลามิยาห์ (เจไอ) โดยรัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาจัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังการพูดคุยกันสิ้นสุดลงว่า รัฐบาลกัมพูชาไม่อาจยอมรับข้อกล่าวหาในเรื่องนี้ได้ พร้อมยืนยันว่าไม่มีกลุ่มเจไอในกัมพูชาแต่อย่างใด นอกจากนี้ นายฮอร์ นัม ฮง ยังกล่าวว่า ได้ขอให้ไทยหาหลักฐานสนับสนุนข้อกล่าวหาดังกล่าวแล้ว


 รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ไม่พอใจเป็นอย่างมากต่อข้อกล่าวหาของ พล.อ.วัธนชัย  ฉายเหมือนวงศ์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงที่ว่ากลุ่มชาวมุสลิมในกัมพูชาเป็นสมาชิกเจไอ และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อความไม่สงบทางภาคใต้ของไทย ทั้งยังกล่าวหารัฐบาลไทยด้วยว่าพยายามโทษประเทศอื่นในเรื่องที่เป็นปัญหาของตัวเอง

 สมเด็จฮุน เซน กล่าวระหว่างเข้าร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์สะพานข้ามทะเลสาบในกรุงพนมเปญว่า ถ้อยแถลงของ พล.อ.วัธนชัย  แสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอของไทยในการจัดการกับปัญหาภายในประเทศ และว่าเป็นเรื่องน่าเศร้าที่ตอนนี้ชาวมุสลิมในกัมพูชาตกเป็นผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายไปแล้ว และว่ากัมพูชาไม่ใช่แหล่งพักพิงของผู้ที่โจมตีประเทศไทย

 ด้าน พล.อ.วัธนชัย ยังคงยืนกรานความเห็นของตนเอง และให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวของเอพีว่า รัฐบาลกัมพูชาไม่อาจปฏิเสธได้ว่ามีเครือข่ายเจไออยู่ในประเทศ เพราะเมื่อเร็วๆ นี้ ทางการกัมพูชาเพิ่งจับกุมสมาชิกเจไอได้ที่เมืองพระตะบอง และว่าไม่เคยพูดว่าชาวมุสลิมกัมพูชามีความเกี่ยวข้องกับเจไอในไทย แต่พูดว่ามีชาวกัมพูชามากถึง 7,000-8,000 คน เดินทางออกนอกประเทศไปทำงานที่มาเลเซีย แต่พวกเขาเหล่านั้นกลับหายตัวไปทางภาคใต้ของไทย และไม่เคยกลับบ้านเลย ซึ่งเพียงแต่สงสัยว่าชาวกัมพูชาเหล่านี้อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเจไอ

ข่าวจาก  คมชัดลึก

http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2007/06/12/entry-1
 
 
 

บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
::วิญญาณห้อง2::
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 656



เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 12-06-2007, 08:25 »

ผมไม่แน่ใจว่า หัวหน้าแก๊งค์ก่อความไม่สงบ อาจจะไม่ใช่คนไทย
บันทึกการเข้า

--------this is the world-------
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #2 เมื่อ: 12-06-2007, 10:33 »

ผมไม่แน่ใจว่า หัวหน้าแก๊งค์ก่อความไม่สงบ อาจจะไม่ใช่คนไทย

หัวหน้าแก๊งค์ น่าจะเป็นคนที่เกิดบนผืนแผ่นดินไทยค่ะ แต่เขาจะคิดว่าตนเป็นคนไทยหรือไม่ ไม่ทราบ   เพราะเชื้อแถวในเลือดของเขาอาจจะเป็นชาติอื่น และไม่สำนึกรักแผ่นดินเกิด ชาติที่เกิด คนแบบนี้มีเยอะค่ะ

แต่ตัวใหญ่ๆในแก๊งค์ คนไทยแน่ๆค่ะ เพราะถ้าไม่ใช่ไทย เข้าร่วมรัฐบาลมาแล้วไม่ได้หรอกค่ะ 
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: