ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
25-04-2024, 10:35
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  'ชาญชัย'เย้ย'มานิตย์'แค่อดีตผู้พิพากษาออกไปอยู่ทรท....... 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
'ชาญชัย'เย้ย'มานิตย์'แค่อดีตผู้พิพากษาออกไปอยู่ทรท.......  (อ่าน 2508 ครั้ง)
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« เมื่อ: 11-06-2007, 18:43 »

'ชาญชัย'เย้ย'มานิตย์'แค่อดีตผู้พิพากษาออกไปอยู่ทรท.
 
11 มิถุนายน พ.ศ. 2550 12:38:00
 
รมว.ยุติธรรม ระบุ"มานิตย์" ประธานแกนนำแนวร่วมต้านคมช. แค่ผู้พิพากษาลาออกไปช่วยงานพรรคไทยรักไทย สั่งพิมพ์คำวินิจฉัยฉบับย่อแจกประชาชน

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ :  นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีนายมานิตย์ จิตจันทร์กลับ อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา ที่ขึ้นเวทีปราศรัยของแนวร่วมประชาธิปไตย ขับไล่เผด็จการ (นปก.) โจมตีคำวินิจฉัยของตุลาการรัฐธรรมนูญ ว่า  นายมานิตย์เคยเป็นผู้พิพากษา แต่ลาออกไปหลายปีแล้ว โดยไปอยู่กับพรรคไทยรักไทย จึงเป็นธรรมดาที่นายมานิตย์จะพูด และมีความคิดอย่างนั้น ซึ่งตนคงไปวิจารณ์ไม่ได้ เพราะนายมานิตย์ไม่ใช่ผู้พิพากษาอีกแล้ว แต่อยากให้ประชาชนเข้าใจว่า ผู้พิพากษาทุกคนมีแนวทางเดียวกับตุลาการรัฐธรรมนูญ ที่วินิจฉัยคดียุบพรรค เพราะเป็นหลักกฎหมายที่ใช้กันอยู่

นายชาญชัย กล่าวว่า ตนได้สั่งการให้นายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม เร่งจัดพิมพ์หนังสือสรุปคำพิพากษาโดยย่อย ให้ประชาชนทั่วไปอ่านแล้วเข้าใจง่าย ไม่ต้องอ่านเป็น 100 หน้า แต่สามารถเข้าใจคดียุบพรรคหลังอ่านคำพิพากษาฉบับย่อประมาณ 20 หน้า โดยเป้าหมายคือประชาชนทั่วไป รวมถึงประชาชนกลุ่มที่ยังสับสนและไม่เข้าใจคำตัดสินของตุลาการรัฐธรรมนูญ
 

http://www.bangkokbiznews.com/2007/06/11/WW03_0301_news.php?newsid=78224


อยากจะขาย"ผู้พิพากษา"............ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #1 เมื่อ: 11-06-2007, 22:10 »

โดนแบบนี้ไม่มีอะไรเหลือแล้วครับเลิกเรียกว่าอดีตผู้พิพากษามาเรียกตำแหน่งปัจจุบันกันดีกว่า 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
soco
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,842



« ตอบ #2 เมื่อ: 11-06-2007, 22:16 »

เกษียณ แล้วไปเป็น ผู้พิพากษาอาวุโส

และลาออก จากผู้พิพากษาอาวุโส เมื่อ มีนาคม 2549

ไปขอใบอนุญาติประกอบอาชีพ

ทนายความ เมื่อเดือน เมษายน 2549
บันทึกการเข้า
^Tee^^
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 52


« ตอบ #3 เมื่อ: 11-06-2007, 22:27 »

น้องออฟเขาแฉหมดเปลือก

ล่อนจ้อนแล้ว

 
 
http://www.oknation.net/blog/kittinunn/2007/06/11/entry-1
บันทึกการเข้า
สาธุ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 244



« ตอบ #4 เมื่อ: 11-06-2007, 22:56 »

พวกเด็กหน้าห้องนาย

รอบนี้หวังฟลุค อีกไม่กี่เดือนคงเดินเอาปีปคลุมหัว

ลองเสียงหน่อย  ทักษิน.....................ออกไป[/size]   
บันทึกการเข้า
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #5 เมื่อ: 11-06-2007, 23:23 »

คนสำคัญที่ไม่พูดไม่ได้ในเวลานี้นั่นก็คือ “มานิต จิตต์จันทร์กลับ” อดีตหัวหน้าศาลฎีกา ข้อมูลคร่าวๆ จากการเรียบเรียงโดยสรุป “มานิตย์” หนึ่งในแนวร่วมคนสำคัญคนนี้ เป็นอดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา และอดีตอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ที่ถูกไล่ออกในกรณีวิกฤตตุลาการเมื่อปี พ.ศ.2535 พร้อมกับ “ประมาณ ชันซื่อ” ซึ่งมานิตย์รับเป็นมือขวา “สุวรรณ วลัยเสถียร” “พงศ์เทพ เทพกาญจนา“ “ไพฑูรย์ เนติโพธิ์” ฯลฯ

ต่อมาได้รับการอภัยโทษและกลับเข้ารับราชการ หลังจากเกษียณอายุแล้ว ยังดำรงตำแหน่งเป็นผู้พิพากษาพิเศษ ซึ่งช่วงเวลานั้นถูกทาบทามจาก “พรรคไทยรักไทย” ให้มาเป็นที่ปรึกษากฎหมาย โดยทำงานเรียกค่าตอบแทน ควบคู่กับการเป็นผู้พิพากษาพิเศษเช่นเดิม

เป็นที่น่าสังเกตว่า บุคคลที่ถูกไล่ออกในกรณีวิกฤตตุลาการเฉกเช่นมานิตย์ ล้วนอาศัยนั่งร้าน “ไทยรักไทย” อย่างเช่น “พงศ์เทพ เทพกาญจนา” ผู้พิพากษาวัยละอ่อนที่ครองตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค หรือจะเป็น “สุวรรณ วลัยเสถียร” ที่ปรึกษากฎหมายตระกูลชินวัตร ที่มีความเชี่ยวชาญในการเลี่ยงภาษีด้วยวรรคทองเด่นจากคำว่า “ผมไม่ได้มีหน้าที่มาพูดเรื่องจริยธรรม”

ช่วงเวลานั้นเมื่อ พ.ค.2549 ขณะที่กำลังดำเนินดคีกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชุด พล.อ.วาสนา เพิ่มลาภ มานิตย์ได้วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของศาล โดยเฉพาะการยกพระราชดำรัสมากล่าวอ้างถึงเพื่อโจมตีและดิสเครดิต โดยอ้างความเป็นอดีตผู้พิพากษาเช่นเดียวกับผู้พิพากษาคนอื่นๆ ทั้งที่ความจริงตำแหน่งที่ปรึกษากฎหมายของพรรคไทยรักไทย งถูกเปิดโปงไปตั้งแต่ปีก่อน

ในการตัดสินคดียุบพรรคไทยรักไทย นายมานิตย์ได้วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของตุลาการรัฐธรรมนูญ ลงสื่อสิ่งพิมพ์ในกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคไทยรักไทย พยายามแนะนำให้ตุลาการรัฐธรรมนูญทั้ง 9 ถอนตัวจากการตัดสินคดียุบพรรค เพื่อทบทวนบทบาทในการร่วมสังฆกรรมกับคณะรัฐประหาร

ภายหลังจากตุลาการรัฐธรรมนูญพิพากษายุบพรรคไทยรักไทย นายมานิตย์ตัดสินใจโดดร่วมวงเป็นแกนนำต่อต้านรัฐประหาร ร่วมกับอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เพียงแต่งานนี้ไม่ได้รับหน้าที่เป็นที่ “ปรึกษากฎหมาย” อย่างเช่นที่เขาเคยทำในชีวิตประจำวัน

ด้วยวัยวุฒิที่อาวุโส มานิตย์มักจะกล่าวอ้างถึงตำแหน่ง “อดีตผู้พิพากษา” อีกครั้งจนถึงทุกวันนี้ แต่ถึงกระนั้น นายมานิตย์ไม่เคยบอกถึง“อดีตที่ปรึกษากฎหมาย” ซึ่งน้อยคนนักที่จะรู้ว่าเขาคือหนึ่งใน “ลูกจ้าง” ของทักษิณ ชินวัตร

และความที่ทักษิณมักจะเรียกใช้บรรดานักกฎหมายเพื่อหาช่องทางหลีกเลี่ยงในเรื่องต่างๆ ตามประสาที่เรียกว่า “เนติบริกร” เพราะฉะนั้นการเป็นที่ปรึกษากฎหมาย ก็ไม่ต่างอะไรกับการทำหน้าที่ “ทนาย” คอยแก้ต่างให้กับผู้อื่น

จะเรียกว่า “ทนายหน้าพรรค” เมือนกับที่เรียกอดีตนักเรียนทุนอานันทมหิดลอย่าง “นพดล ปัทมะ” ที่ปรึกษากฎหมายของตระกูลชินวัตรว่า “ทนายหน้าหอ” ก็คงจะไม่แตกต่างกันมากนัก !!!

http://www.oknation.net/blog/kittinunn/2007/06/11/entry-1


ผมนำมาถ่ายทอดต่อ จะกระทำผิดกฎหมายร่วมกับ"น้องออฟ" หรือป่าววววว.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
คนไทยคนหนึ่ง
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 744


« ตอบ #6 เมื่อ: 12-06-2007, 14:04 »

เห็นด้วยครับ ควรจะใช้ตำแหน่งปัจจุบัน "ที่ปรึกษากฎหมาย ตระกูลชินวัตร" มากกว่า เพราะคนส่วนใหญ่ในสังคมไม่ทราบตำแหน่งปัจจุบัน ซึ่งจะไม่ทราบว่าความคิดเห็นนั้น ไม่เป็นกลาง และจะทำให้วงการตุลาการเสื่อมเสียได้
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: