ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
25-04-2024, 12:42
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  คนไทยไม่มีความเป็นชาตินิยม ปัญหาที่รอการแก้ไข 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
คนไทยไม่มีความเป็นชาตินิยม ปัญหาที่รอการแก้ไข  (อ่าน 4946 ครั้ง)
ริวเซย์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,637


Worrior in The Blue Armor


เว็บไซต์
« เมื่อ: 08-06-2007, 20:35 »

ผมพูดได้เต็มปากเลยว่า "ประเทศไทยเป็นเป็นประเทศที่ประชาชนไม่มีความภูมิใจในชาติกำเนิดของตนเอง"

อย่างผมไปจีบสาว ถ้าบอกสาวๆว่าน่ารักแบบไทยๆ ดูเหมือนสาวเจ้าจะไม่พอใจสักเท่าไร บางคนก็ดูเฉยๆไม่ดีใจกับคำชมเลย ต้องบอกว่าน่ารักแบบญี่ปุ่น แบบหมวยๆ หรือแบบเกาหลี สาวๆจะพอใจมากทันทีเลย

แถมสาวๆเหล่านี้ส่วนใหญ่จะนิยมชอบใช้ของนอก แพงๆไม่ว่า แต่ขอให้ได้ให้มี อย่างหลุยวิตต๊อง พลาด้า กุ๊ดจี่ ชาแนล ฯลฯ ใบนึงหลายพันถึงหลายหมื่นก็ไปเคี่ยวเข็นให้พ่อแม่ซื้อให้จนได้ ทั้งที่ยังหาเงินเองไม่เป็น

ไม่แค่กระเป๋าเท่านั้น นอกจากกระเป๋าแล้วยังใช้น้ำหอมกลิ่นนอกทั้งนั้น มีบ้างไหมที่เราจะหันมาสนใจน้ำหอมของไทยอย่างน้ำอบ ก็หอมชื่นใจดี ทั้งนี้ยังรวมถึงเสื้อผ้า ลิปสติก ของใช้จิปาถะ ถ้าเป็นของนอกจะโก้หรูมาก

และที่สาวๆสมัยนี้นิยมอีกอย่างก็คือการมีสามีฝรั่ง ดูเหมือนจะเป็นที่ภูมิใจกันมาก และที่สำคัญคนไทยไม่น้อยที่นิยมชมชอบดาราลูกครึ่ง เพราะหน้าตาหล่อเหลาสะสวยถูกใจ บางคนไปชอบหมวยๆแบบจีน หรือชอบญี่ปุ่นก็เยอะแยะถ้าให้ชอบหนุ่มหรือสาวไทยก็งั้นๆไม่หวือหวาไม่น่าประทับใจนัก

หันมาดูผู้ชายกันบ้าง เครื่องใช้ไฟฟ้า รถ ที่ซื้อไม่ของยุโรปก็ญี่ปุ่นทั้งนั้น โตโยต้า ซัมซุง ฮอนด้า โซนี่ ฯลฯ ไม่มีใครสนใจอยากใช้โทรทัศน์ยี่ห้อธานินอีกแล้ว ยางรถยนต์ก็ของบริดสโตน กู๊ดเยียร์ มิชลิน ไม่มีใครเอายางสยามเลย

แม้แต่การเชียร์กีฬา ก็เชียร์แมนยู มิลาน ลิเวอร์พูล ลีกส์ใหญ่ๆ ไม่มีใครสนใจเชียร์ทหารอากาศ ธนาคารกสิกร ฯ ถ้าไปบอกว่าเชียร์ทีมพวกนี้ก็คงจะถูกหาว่าเชย เต่าล้านปี ไม่งั้นก็หาว่าเป็นพวกคนละคอไปนู่น เผลอๆอาจหาว่าเราไม่ค่อยเต็มเต็ง 

ลองหันไปดูเพื่อนบ้านกันบ้างนะครับ

อย่างญี่ปุ่นหรือเกาหลี ประเทศเหล่านี้จะชาตินิยมมากๆ จนเป็นที่รู้กัน เขาจะมีความภูมิใจในชาติกำเนิดและประเทศชาติสูงมาก ผู้หญิงเกาหลีและญี่ปุ่นจะแต่งงานกับชายต่างชาติน้อยมาก เขาเลือกที่แต่จะรักและแต่งงานกับชาวญี่ปุ่นด้วยกันเท่านั้น สินค้าและรถพวกเขาก็เลือกที่จะใช้ของในประเทศตัวเอง แม้แต่กีฬา เขาก็รณรงค์มีลีคของตัวเอง แล้วประชาชนก็ให้ความนิยมด้วยสิ นี่แสดงให้เห็นว่าประเทศของเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าประเทศหรือชนชาติไหนๆในโลก

กลับมาที่ไทยอีกครั้ง

คนไทยสมัยนี้มักซึมซับเอาวัฒนธรรมต่างชาติมามากมายจนขาดจิตยั้งคิด จนไม่เหลือความภูมิใจในความเป็นไทยของตัวเอง ของที่คนไทยผลิตกันเองจะไม่ได้รับความนิยมเท่าของนอกทั้งที่คนไทยเรามีภูมิปัญญาเหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่าไม่ได้รับการสนับสนุนจากคนในชาติเท่าใดนัก

หากใครติดตามเรื่องเศรษฐกิจอาจทราบว่าประเทศไทยนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยมากขนาดไหน ตัวเลขไม่บอก แต่ขอให้ดูตามห้างเอาเองก็แล้วกันว่าสินค้าเหล่านั้นเกร่อที่สุด และคนไทยส่วนหนึ่งก็ใฝ่ฝันอยากได้ อยากมี ท้ายสุดก็เกิดปัญหาสังคมตามมา

เคยมีบ้างไหมที่ผู้หญิงจะใช้กระเป๋าจักสานของคนไทยไปออกงานสังคมประชันกับพวกเพื่อนของตัวเอง ไม่มีแน่นอนอายทันทีเลยล่ะ

มาร่วมกันเสนอหน่อยนะครับว่า ประเทศไทยจะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไร ความภาคภูมิใจในฐานะคนไทยดูเหมือนมันจะน้อยลงๆทุกวันในสังคมปัจจุบันนี้

 

 







บันทึกการเข้า

ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^


ริวเซย์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,637


Worrior in The Blue Armor


เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 08-06-2007, 20:51 »

ไม่ทราบว่าผมบ้าไปหรือยัง แต่เพื่อนๆช่วยวิเคราะห์

-ผมจะใช้แต่ของไทย(เท่าที่ทำได้) โลตัส คาร์ฟูร์ผมจะเข้าไปตากแอร์เล่น แต่ไม่ซื้ออะไรทั้งนั้น ผมมาซื้อของร้านชำที่มีเจ้าของคนไทย

-ทุกวันนี้ผมอยู่ต่างจังหวัด ไปทำงานก็ใช้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ช่วยลดมลพิษ+โลกร้อนในตัว ถ้ามีของไทยผมก็อยากใช้ของไทยเหมือนกันแหละ แต่ที่สำคัญคือมันไม่มี อีกหน่อยผมอาจจะปั่นจักรยานที่ไทยผลิตไปทำงานก็ได้ 

-Mk โดนัท แม็ค ร้านฟาสฟุบ อย่าหวังเสียล่ะที่จะได้เงินจากผม

-โค๊ก แปบซี่ ชาเขียวผมก็ไม่ดื่มครับ

-เสื้อผ้าไม่เคยใช้ของแพงอย่างแอร์โรว์เลย ผมใช้เสื้อตัว159บ้าง 199บ้าง แน่นอนผลิตในไทย สูทผมก็ให้ร้านคนไทยตัดให้

-ผมไม่เคยมองว่าสาวญี่ปุ่น เกาหลี ฝรั่ง สวยเลย เธอเหล่านั้นมีข้อจำกัดมากมายที่ไม่ถูกใจผม

อย่างฝรั่ง ถ้าอายุเกิน25ส่วนใหญ่75%จะอ้วนเป็นช้างน้ำทันที เพราะอาหารหลักก็เป็นประเภทเนย เนื้อ นม ไข่ แถมผิวตกกระง่ายดูแล้วเหมือนโรยงา

ส่วนญี่ปุ่น ผิวสวยจริง แต่ผู้หญิงญี่ปุ่นตัวเล็กมาก ขาใหญ่(ส่วนมากนะครับ) แล้วก็หน้าตาไม่สวย ที่น่ารักๆที่เห็นในMvขอยืนยันว่าคัดมาอย่างดีแล้วทั้งนั้น แต่เอาอกเอาใจเก่งนะครับ

เกาหลี ผู้หญิงสวยเยอะมากครับ แต่ต้องสร้างความสัมพันธ์นานเหมือนคนไทยนี่แหละกว่าจะลงตัว ที่สำคัญส่วนใหญ่เจ้าหล่อนมักจะกินหมา นะครับ เพราะเกาหลีเป็นประเทศในเขตหนาวเย็น การกินหมาดำคือการโป๊วของเขาคับ

คนจีน พวกนี้หามารยาทไม่ค่อยได้นะครับ นั่นเพราะมารยาทเขาต่างจากเรา เวลาเขาเรียกเราบางครั้งจะเอาตีนมาสะกิด และสาวฮ่องกงจะมั่นมาก ไฮเปอร์น่าดู และมีความหยิ่งทะนงสูง

ดังนั้นหาคนที่มีพื้นฐานใกล้เคียงอย่างสาวไทยดีที่สุดครับ ชาวไทยเชื้อสายจีนก็ได้ ก็ถือว่าไทยเหมือนกันครับ 

การ์ตูนต้องของไทย อย่างมีดที่13 พระอภัยมณีซาก้า ขายหัวเราะ 

ถึงไม่ได้ทั้งหมด แต่พยายามอยู่นะครับ ก็มีบางอย่างที่ทำไม่ได้อย่างคอมพิวเตอร์ โปรแกรมคอมต่างๆ แต่จะพยายามอุดหนุนของไทย ใช้ของไทยให้มากที่สุดครับ

ผมชอบคำนึงเหลือเกินสมัยที่เป็นเด็กได้ยินบ่อย คือคำว่า "ไทยทำ ไทยใช้ ไทยเจริญ" ชอบคำนี้จริงๆครับ ตอนนี้พวกเพื่อนๆเริ่มภูมิใจในความเป็นไทยของเราบ้างหรือยัง 
บันทึกการเข้า

ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^


ดอกฟ้ากับหมาวัด
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,042



« ตอบ #2 เมื่อ: 08-06-2007, 20:52 »

ปัญหาเรื่องนี้สะสมมาช้านานมากแล้วค่ะ ถามว่าควรแก้ไขอย่างไร

คงตอบได้แค่ตามทฤษฏี
ส่วนภาคปฏิบัติจะทำได้มากน้อยแค่ไหน

คงต้องมามองย้อนที่ตัวเราเองก่อน ว่าเราเริ่มต้นเมื่อไหร่ที่จะเลิกเห่อของจากต่างประเทศ

และของที่ผลิตในประเทศเรา คุณภาพ ราคา สู้สินค้าจากต่างประเทศได้หรือไม่

หากแก้ปัญหาไม่ตรงจุด มันก็คงดำเนินต่อไปแบบนี้เรื่อยๆ เพราะขาดการสนับสนุนจากภาครัฐฯ
บันทึกการเข้า

***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ

      น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
An.mkII
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,984


Out of kontrol....!!!!!


เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 08-06-2007, 21:19 »

ผมขอเถียงคอเป็นเอ็นเลยครับ...

ถ้าใครบอกว่าคนไทยไม่มีความเป็นชาตินิยม..

ผมว่าคนไทยนี้แหละ...เป็นคนเป็นชนชาติหนึ่งที่มีความชาตินิยมอย่างมาก..

แต่บางครั้ง..มันดันนิยมแบบผิดที่ผิดทาง..


เพราะคนไทยเป็นพวกมีนิสัยพวกซาดิตส์..

ซาดิตส์ชนิดที่ว่าต้องมีเเรงกระตุ้นจากอะไรซักอย่าง..

และถ้ากระตุ้นโดนจุดเมื่อไร..นี้ถ้าไม่เอาน้ำสาดก็ยังชาตินิยมไม่มีวันเลิก..เพราะคนไทยเป็นพวกบ้ากระเเส..


เพราะนิสัยคนไทยมันก็เป็นพวกกระต่ายตื่นตูมดีๆนี้เอง..


ฉะนั้นผมขอสรุปว่า..

คนไทยเป็นพวกชาตินิยม..แต่มักจะนิยมแบบผิดที่ผิดทาง..และต้องมีการกระตุ้นถึงจะนิยม..


และบางอย่างของคนไทย..ผมก็ว่ามันไม่น่าจะนิยมจริงๆจนกว่าจะได้รับการพัฒนา...
 
ปล.

ไอ้พวกอาหารขยะ..ก็ไม่เคยได้กะตังจากผมเหมือนกันครับ..  สู้กินขนมแบบไทยๆดีกว่า...อร่อยกว่ามีประโยชน์กว่า...

และอย่างว่าไอ้พวกห้างใหญ่ๆ่ต้องเอาไว้ตากแอร์..และเวลานั้นก็หันมาซื้อโชว์ห่วย...


ฉะนั้นเเน่ใจได้เลยครับ..ว่าถ้าคุณบ้า..ผมก็ต้องบ้าตามคุณด้วยแน่ๆ..555
บันทึกการเข้า
ดอกฟ้ากับหมาวัด
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,042



« ตอบ #4 เมื่อ: 08-06-2007, 21:49 »

เรื่องนี้ถ้าหากจะริเริ่มทำ คงต้องเริ่ิมจากสิ่งที่ใกล้ๆตัวก่อน

เช่นการดำเนินในชีวิตประจำวัน ตัวอย่างเช่น ดอกฟ้าฯ ชอบทำอาหาร

เครื่องปรุงหลายชนิด ที่คนไทยทำได้ หากเอามาทดแทนได้ไม่รีรอที่จะใช้

แม้กระทั่งชีสแทบทุกชนิดที่ใช้ทำอาหาร คนไทยก็ทำได้

ส่วนอาหารประเภท กินด่วน ก็ไม่เคยบริโภค ทานไก่ทอดหาดใหญ่ป้าเขียวปากซอยอร่อยกว่าเยอะเลย

(แต่ต้องดูน้ำมันที่ทอดด้วยนะคะ) โชยุของญี่ปุ่น เดี๋ยวนี้ของไทยก็มีมากมายให้เลือกหลายยี่ห้อ

ค่อยๆเปลี่ยนแปลงตัวเอง และคนใกล้ตัว เป็นอันดับแรก และขยายเป็นวงกว้างในลำดับต่อไป
บันทึกการเข้า

***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ

      น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
ริวเซย์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,637


Worrior in The Blue Armor


เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 08-06-2007, 21:55 »

ขอบคุณความเห็นคุณAn.mkII และคุณดอกฟ้ามากครับ

ยังไงผมก็เห็นว่ากินต้มยำกุ้ง ปลีทอด แกงเขียวหวานก็ยังอร่อยกว่ากินพิซซ่า แฮมเบอร์เกอร์เยอะครับ 

บันทึกการเข้า

ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^


********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 08-06-2007, 21:59 »



เข้ามาให้กำลังใจครับ...

หลายอย่างไม่ลองจะไม่รู้คุณค่า เต้าหู้ของไทย อร่อยครับ..555
บันทึกการเข้า

An.mkII
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,984


Out of kontrol....!!!!!


เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 08-06-2007, 22:07 »


เข้ามาให้กำลังใจครับ...

หลายอย่างไม่ลองจะไม่รู้คุณค่า เต้าหู้ของไทย อร่อยครับ..555



 เต้าหูสดน่ะครับ..แบบก้อนสี่เหลี่ยมใส่ทั้งก้อนไปเลย..

ต้มจืดใส่หมูสับ..ใส่ถั่วงอก..เเละก็มีผักชีต้นหอมโรยหน้าเป็นกระสัย..

และพริกไทยป่นเยาะลงไปอีกนิด..

ซดเช้าๆกินกะข้าว..มันสุดยอดดด....   
บันทึกการเข้า
ล้างโคตรทักษิณ
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 903



« ตอบ #8 เมื่อ: 08-06-2007, 22:34 »

เอาง่ายๆ  เดี๋ยวนี้แค่เด็กอ่านการ์ตูนญี่ปุ่น  โดนบังคับให้อ่านผิดแบบจากปกติของเรา  มันก็อุตส่าห์ภูมิใจว่าต้องอ่านแบบญี่ปุ่น( กลับด้าน ขวา => ซ้าย ) ถึงจะได้อรรถรส และ ความมันส์แบบญี่ปุ่นอย่างเต็มที่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-06-2007, 22:36 โดย ล้างโคตรทักษิณ » บันทึกการเข้า
ดอกฟ้ากับหมาวัด
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,042



« ตอบ #9 เมื่อ: 08-06-2007, 22:47 »

ขอบคุณความเห็นคุณAn.mkII และคุณดอกฟ้ามากครับ

ยังไงผมก็เห็นว่ากินต้มยำกุ้ง ปลีทอด แกงเขียวหวานก็ยังอร่อยกว่ากินพิซซ่า แฮมเบอร์เกอร์เยอะครับ 




ขอบคุณ คุณริวเซย์เช่นกันค่ะ ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา

นับว่ามีประโยชน์มาก ที่สมาชิกจะได้มาแบ่งปันความเห็นกันได้หลากหลาย

อันที่จริงตอนนี้ สินค้าของไทยเติบโตและสามารถส่งออกไปได้มากมายกว่าในอดีตนะคะ

เพียงแต่เราไม่ทราบ และสามารถลดการนำเข้าจากต่างประเทศ

ยกเว้นพวกที่คลั่งสินค้าต่างประเทศแบบไม่ลืมหูลืมตา มีสินค้าแบรนด์เนม หลายบริษัท

เอาประเทศไทยเป็นแหล่งผลิต ส่งออก และนำกลับเข้ามาขายในประเทศไทย

เพื่อสนองความต้องการของพวกเห่อของนอก แต่คงเอ่ยในที่นี้ไม่ได้ ได้แต่แค่ปลง
บันทึกการเข้า

***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ

      น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
นกกระสากวนน้ำ
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 140


"ผมจะทำให้คนไทยรวยแต่เขือ"


« ตอบ #10 เมื่อ: 08-06-2007, 23:05 »

     การที่บริษัทผู้นำ Comics ญี่ปุ่นมาเผยแพร่ในประเทศ ในระยะเวลาปัจจุบันนี้ต้องพิมพ์หนังสือแบบกลับซ้ายเป็นขวา  ตามแบบต้นฉบับ  ก็เพราะเดิมทีแล้วเรา "พิมพ์กลับข้าง" ให้หนังสือนั้นย้อนทาง  ภาพจึงเรียงจาก ซ้าย > ขวา ( และ บน > ล่าง )
     แต่แล้วก็พบปัญหาดังนี้
1.เพราะซ้ายเป็นขวา  ทิศทางในภาพจึงกลับตาลปัตรไปหมด
เช่น  การจับปากกา - ดินสอ ของตัวละคร  จะกลายเป็นจับด้วยมือซ้ายทั้งหมด   จนเมื่อ Comic เรื่่่องนั้นมีตัวละคร "ถนัดซ้าย" ก็กลับกลายเป็นว่าดันใช้มือขวา ( พิจารณาจากภาพในหนังสือ ) แทน
     เรื่องนี้มีมาตั้งแต่สมัย Comics เรื่อง Cobra แล้ว  คือตัวพระเอกในเืรื่อง  จะต้องมีมือซ้ายและแขนซ้ายเป็นปืนพลังจิต ( Psyco Gun )   แต่คนอ่านก็ต้องทนฝืนทำใจ - ทำความเข้าใจเอาเองว่าเป็นมือซ้าย  ทั้ง ๆ ที่ในภาพเป็นมือขวามาโดยตลอดตั้งแต่เล่มแรก
     หรือตัวอักษร - ตัวหนังสือ ก็มักจะ "เรียงกลับ" ไปหมด  เช่น  ป้ายโฆษณา  ชื่อร้าน - ชื่อคน บนเสื้อของตัวละคร
2.เพราะบางครั้ง  โดยเฉพาะบรรดา Action Comics   มักจะมีหน้าใดหน้าหนึ่ง ( อันที่จริงน่าจะเรียกว่า 2 หน้าต่อ ) เป็นภาพ Wide Screen หรือภาพเต็มจอเลิศหรูอลังการ   
   ซึ่งถ้ากลับซ้ายเป็นขวา ( ไล่เรียงไปแต่ละหน้า ) แล้ว  จะปรากฎว่าเป็นภาพไม่ต่อเนื่องกัน   หรือถ้าจับมันพิมพ์ตามเดิม  ทิศทางของหนังสือใน 2 หน้านั้นก็จะไม่สอดคล้องกับหน้าก่อนและหน้าหลัง  เช่น  ตัวละครเดินเข้ามาทางซ้ายของรถ  แต่พอมาถึงหน้าที่ไม่กลับทิศทาง  นี้กลับกลายเป็นว่ามาอยู่ทางขวาของรถ



    ส่วนในกรณีที่เด็กบางคนอ้างว่าไม่ได้อรรถรสตามที่คุณล้างโคตรทักษิณกล่าวถึง  อาจเป็นไปได้ 2 กรณีคือ
1.เด็กใช้คำพูดผิด   หากใช้คำว่า "อ่านหนังสือที่พิมพ์จากขวาไปซ้ายแล้วถูกต้องตามความเป็นจริงมากกว่า"   เช่นนี้จึงน่าจะเหมาะสม
2.เด็กคนนั้นดัดจริต  ไม่ว่าจะพูดตามเพื่อน ซึ่งก็อาจจะฟัง ๆ เขามาอีกต่อหนึ่ง โดยไม่รู้ต้นสายปลายเหตุที่แท้จริง   รวมไปถึงตัวตนของเด็กคนนั้นอยากโม้อยากโชว์ความเป็นอินเตอร์ ฯ อย่างโง่ ๆ ( แสดงออกโง่ ๆ ด้วยนิสัยดัดจริต )
บันทึกการเข้า

ประชาธิปไตยภายใต้ระบบทุนนิยม
คือ  การปกครองที่ผู้คนจำนวนน้อยซึ่งมีสติและความรับผิดชอบ จำต้องอดทนและรับผลกรรมจากกระทำของผู้คนจำนวนมากกว่าซึ่งไม่เคยรู้สึกรู้สาและจมปลักอยู่กับตัณหาทิฐิ
irq5
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,149



« ตอบ #11 เมื่อ: 08-06-2007, 23:17 »

 

ของไทยมีให้ใช้สอยน้อยครับ

 

เลยซื้อมือสองซะเลย อย่างน้อยคนขายก็คนไทย เหอๆ

เน้นไม่แพงครับ


บันทึกการเข้า

.:MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMddMMMs..
.:MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMssMMMMs..
.:Mddddddddddddddddddddddddddo+ddddNs..
.:M................................................hs..
.:M.............//:................//:.............hs..
.:M...........:MMs.............NMd............hs..
.:M................................................hs..
.:M................................................hs..
.:M.............yNNNNNNNNNN................hs..
.:M.................................................hs..
.:dyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyho..

....W..W::W:...AAA...NN...N...TTTTT..EEEEE...DDD..........
.....Ww.wW...AAAA..N..N..N......T.....EEE......D....D.......
.....-W...W...A......A N....NN......T.....EEEEE...DDD..........
. . . . . . . . . . . . thaksin shinawatra
(ลุง)ถึก สไลเดอร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,026



« ตอบ #12 เมื่อ: 08-06-2007, 23:31 »

ข้อที่พึงระวังของ ชาตินิยม กับ คลั่งชาติ
มันมีเส้นขีดคั่นกันแค่ยาแดงผ่าแปดแค่นั้นเอง....เอิ้กกก

 
บันทึกการเข้า

(ลุง)ถึก สไลเดอร์
ริวเซย์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,637


Worrior in The Blue Armor


เว็บไซต์
« ตอบ #13 เมื่อ: 09-06-2007, 00:32 »

ผมไม่ปฎิเสธว่าทักษิณเลว โกงกินบ้านเมือง

แต่ก็ยอมรับอยู่อย่างนึงว่า สินค้าOTOPก็เป็นอะไรที่น่าสนับสนุนครับ

ชุมชนก็มีรายได้ ขนมบางอย่างก็อร่อยกว่าดังกิ้นโดนัทอีกนะ ความจริงเรื่องนี้น่าสนับสนุนให้ทำต่อไปครับ

กินของไทย ใช้ของไทย สุขสบายใจครับ 
บันทึกการเข้า

ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^


นกกระสากวนน้ำ
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 140


"ผมจะทำให้คนไทยรวยแต่เขือ"


« ตอบ #14 เมื่อ: 09-06-2007, 00:39 »

ขออนุญาตกลับมาสู่สารัตถะของกระทู้

      โดยความเข้าใจของผมแล้ว  ผมเห็นว่า "อุดมการณ์ชาิติ ( ไทย ) นิยม" จำเป็นต้องมีการปลูกฝังให้เกิดขึ้นหรือมีอยู่ในจิตใจของผู้คนในประเทศ 
........ซึ่งไม่ใช่ว่าจะต้องเกิดขึ้นหรือมีอยู่กับเฉพาะคนไทยหรือผู้ที่เกิดในราชอาณาจักร ฯ
........หากจำเป็นจะต้องเกิดขึ้นหรือมีอยู่ในตัวตนของ "ผู้อาศัย" บนผืนแผ่นดิน ( ไทย ) ทุกคน
   
     ในความหมายก็คือ "อุดมการณ์ชาตินิยม" เป็นหลักหรือธรรมนูญของปัจเจกชน  ที่อาศัยอยู่บนแผ่นดินของแต่ละชาติ ( สังเกตว่าผมใช้คำว่า "ชาติ" )   เป็นอารมณ์ - ความรู้สึกที่ผูกพันระหว่างปัจเจกชนและสังคมนั้น ๆ   ซึ่งถือเป็น "การแสดงถึงความมีอารยธรรมและความศิวิไลซ์" อันกอปรขึ้นด้วย 1."เกียรติ - ศักดิ์ศรี" ของปัจเจกชน เข้ากับ 2."วัฒนธรรม - ภูมิวิสัย" ของสังคม - ผู้คนในแผ่นดินชาตินั้น ๆ
     เทียบได้กับ  บุคคล - แม้ว่าจะมาจากถิ่นฐานอื่น   แต่เมื่อต้องมาอยู่ร่วมกันในสถานที่หนึ่ง  เช่น  หอพัก - อพาร์ทเมนท์   หรือทำงานร่วมกันในองค์กรหนึ่ง   หรือเข้าไปเป็นเขย - สะใภ้ในครอบครัวอื่น   บุคคลนั้นก็สมควรที่จะต้องมีความรู้สึก "องค์กรนิยม" และดำเนินชีวิต "เพื่อ" องค์กรนั้น ๆ แม้ว่าเป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ
     ทั้งนี้เพราะคน - มนุษย์ เกิดมาอย่างมีศักดิ์ศรี   ที่เขาหรือเธอจำเป็นต้องประกาศตัวอย่างมีศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์  ที่สามารถรับทราบได้เพียงเพื่อนมนุษย์ในสังคม - องค์กรที่มีความศิวิไลซ์เท่านั้น   และการประกาศตัว ก็ไม่สามารถกระทำได้บนพื้นฐานหรือภววิสัยอันเป็นปัจเจกภาพอย่างสมบูรณ์   ด้วยคนเราจำเป็นต้องสำแดงตัวให้ 1.สังคมนั้นยอมรับ   2.สังคมนั้นยินดี  และ 3.สังคมนั้นได้รับคุณค่า ( จากเรา ) 
........ญี่ปุ่น  เรียกว่า "ไคเซ็น"
........ฝรั่ง  เรียกว่า Attitude

เช่น
1.เป็นลูกสะใภ้บ้านเขา  ก็ต้องเคารพพ่อผัว - แม่ผัว   ต้องอ่อนน้อมถ่อมตนกับญาติผู้ใหญ่ในบ้านสามี   ต้องเอ็นดู - ปราณีญาติผู้น้อย   ในบ้านเขามีเรื่องทุกข์ร้อนใดก็ต้องร่วมทุกข์ร้อนด้วย   ช่วยเป็นภาระหยิบจับหุงหาเท่าที่จำเป็น    ประหยัดมัธยัสถ์ - เอาตาดูเอาหูฟังในเรื่องราวต่าง ๆ ที่มีผลกระทบต่อครอบครัวเขา
........แม้ว่ามิได้อยู่ร่วมบ้านกันเสียด้วยซ้ำ - แม้ว่ามิได้เปลี่ยนนามสกุลหรือจดทะเบียนสมรสตาม กม. !!
2.เป็นชาวต่างชาติ  ที่เข้าไปเรียนหนังสือหรือทำงาน ( อาศัยอยู่เป็นระยะเวลายาวนานพอสมควร )  ก็ต้องมีความรู้สึก "ร่วม" ไปกับเจ้าของแผ่นดิน   หากผู้คนในแผ่นดินนั้นรักธรรมชาติก็ต้องรักไปกับเขา   หากผู้คนในแผ่นดินนั้นไม่ชอบอาหารมีกลิ่นแรงก็ต้องระงับละเว้น ( ส่วนจะแอบ ๆ หาโอกาสบ้าง  อันนั้นไม่ว่ากัน )  หาก "ชาติ" ของเขาถูกกระทำย่ำยีบีฑาจากภายนอกก็ต้องร่วมแสดงความโกรธหรือเห็นใจ   ซื้อของที่ผลิตในบ้านเมืองของเขากิน - ใช้    ศึกษาและแสวงหาความงดงามในวัฒนธรรม - ประเพณีของเขา แม้จะรู้สึกแปลกแปร่งในครั้งแรก ๆ   ...สุดท้าย ก็คือไม่ร่วมวิพากย์วิจารณ์ประเทศชาติเขาในทางเสียหาย  แม้ว่าเขากำลังวิพากย์วิจารณ์ในทางเสียหายให้เรารับทราบ - รับฟัง
       แสดงตัวว่า "เพราะฉัน ( มีอุดมการณ์ชาติ - ) นิยม ( ของ ) เธอ......ฉันจึงอยู่บนแผ่นดินเธอด้วยความเต็มใจ  และฉันก็มีความสุข"
.........หากนึกไม่ออกว่าเป็นอย่างไร  ให้นึกถึง อ.บรูซ  แกสตัน, คุณเอ็นดู  บิ็กก์,  คุณทอดด์  ทองดี, โจนาส & คริสตี้  ฯลฯ   ว่า "คนไทยอย่างเราสุขใจแค่ไหนที่แผ่นดินไทย - ชาิติไทยมีพวกเขาและเธอ"


      บ้านใคร - ใครก็รัก   แผ่นดินใคร - ใครก็หวง   ไม่ว่าจะเปลี่ยนกี่นาย ( ก ) - ใช้กี่ระบอบ - ผ่านมาแล้วกี่รัฐธรรมนูญ  หรือแม้แต่เคยตกอยู่ภายใต้การปกครองของชนชาติอื่นกี่ครั้งกี่หน 
.........ชาติ ก็จะต้องคงอยู่
.........เพราะที่นี่คือ "สถานที่บนโลก ซึ่งสามารถใช้ประกาศศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์ฺ"

ไม่ใช่
.......ที่อยู่ของสัตว์เดรัจฉาน ( อันดำรงอยู่ด้วยการแก่งแย่งแข่งขัน  กินให้มาก ๆ เพื่อจะได้ตัวใหญ่ ๆ จนมีเรี่ยวแรงเพียงพอสำหรับสมสู่สืบพันธุ์วงศ์วานของตน  หรืออย่างน้อยก็มีอาณาเขตของตน  // หาเงินให้เยอะ ๆ เพื่อความมั่งคั่งร่ำรวย  จนได้รับการนับหน้าถือตาไปจนถึงสนองทิฐิตัณหาในด้านอื่น ๆ  หรืออย่างน้อยก็เพียงพอสำหรับแสวงหาความสุขความพอใจส่วนตัวอย่างสะดวกดายในบั้นปลายชีวิต )   
........หรือที่สิงสู่ของผีสางนางไม้ ( อันมีแต่ความหดหู่ซึมเศร้า  เงียบเหงา  รอคอย )

แต่......
ที่นี่เป็นแผ่นดินอันศิวิไลซ์ของมนุษย์ผู้มีศักดิ์ศรี ที่จะต้องปรากฎอยู่ในมโนทัศน์ของผู้คนทั่วไปว่า "มีอารยธรรม"

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-06-2007, 03:21 โดย นกกระสากวนน้ำ » บันทึกการเข้า

ประชาธิปไตยภายใต้ระบบทุนนิยม
คือ  การปกครองที่ผู้คนจำนวนน้อยซึ่งมีสติและความรับผิดชอบ จำต้องอดทนและรับผลกรรมจากกระทำของผู้คนจำนวนมากกว่าซึ่งไม่เคยรู้สึกรู้สาและจมปลักอยู่กับตัณหาทิฐิ
Body&Soul
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 370



« ตอบ #15 เมื่อ: 09-06-2007, 00:54 »

ประเทศเราคงคล้ายกับถูกสาป นโยบายที่ดีน่าสนับสนุน

กลับโดนนักการเมืองเอามาเป็นจุดขายทางการตลาด โดยปราศจากความจริงใจ

ที่จะทำให้เป็นรูปธรรมและต่อเนื่องยาวนาน เพียงอาศัยจุดอ่อนที่เรามี

แล้วกลับไม่ทำให้เป็นจริงได้ แค่เคาะกะลา หาเสียง ไปวันๆหรือจวบจนหมดสิ้นอำนาจเท่านั้น

เป็นสิ่งที่น่าเสียใจอย่างยิ่งครับ
บันทึกการเข้า
นกกระสากวนน้ำ
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 140


"ผมจะทำให้คนไทยรวยแต่เขือ"


« ตอบ #16 เมื่อ: 09-06-2007, 01:12 »

ในอีกทางหนึ่ง "ลัทธิชาตินิยม"
กรณีนี้ผม ไม่เห็นด้วย 

        เนื่องจาก ความเป็น "ลัทธิ" มักจะนำไปสู่พฤติกรรมโมหจริต  รักจนหลง - เกลียดอย่างเข้ากระดูกดำ   
เช่น  ลัทธิชาตินิยมแบบเขมร  ที่ "สร้างแต่ความเกลียดชังชนชาติอื่น" ไว้ในจิตใจของชาวเขมร
        เกลียดญวน ( เวียดนาม ) - เกลียดไทย ( เสี่ยม )  ถึงขนาดตั้งเป้าว่าจะต้อง "เอาคืน" ซึ่งส่วนของแผ่นดินที่เรียกว่า "ขะแมร์กรอม" จากเวียดนาม   หรือเรียกจังหวัดต่าง ๆ ในประเทศไทยด้วยภาษาเขมร  เช่น ขะแมร์สุริน ( สุรินทร์ ) ในขณะที่คนไทยกลับยินดีเรียกจังหวัดของเขมร  ที่เคยมีชื่อในภาษาไทยอยู่แล้วกลับไปเป็นภาษาเขมร  เช่น เสียมเรียบ ( แปลเป็นไทยว่าสยามแพ้ - ที่นี่ชนชาติไทยมาพ่ายแพ้ไว้ ) จากเดิมว่าเสียมราฐ 

        แล้วไอ้ความเกลียด ( ลัทธิชาตินิยมมักไมได้สอนให้ "รักชาติของตน" มากไปกว่า "เกลียดชังชาติอื่น" ) นี้ก็ไม่เคยสร้างสรรอะไรได้อย่างจีรังยั่งยืน   มันอาจจะเป็นแรงขับ ( Aggressive ) ที่ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพทุกครั้ง ( แบบคนอิสานมักได้รับการสั่งสอนมาให้ "เกลียดญวน" ซึ่งน่าจะเป็นอิทธิพลมาจากเขมร  ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มีข้อขัดแย้งอะไรกันหนักหนา  แค่พอถูกเพื่อนเรียกว่า "ไอ้แกว - ญวน" ขึ้นมาเท่านั้นก็มีอันเป็นขุ่นข้องหมองใจ )  แต่เมื่อถึง "จุดหนึ่ง" แล้ว....มันก็ไปต่อไม้่ได้
       เช่น  เกาหลีใต้  เป็นชนชาติที่ "เจริญขึ้นได้ด้วยความเกลียดชัง"  โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ  เกลียดญี่ปุ่น ( ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น - เกาหลี เป็นประวัติศาสตร์ที่มีแต่ความเลวร้าย )   เกลียดจีนแดง ( เพราะสนับสนุนเกาหลีเหนือ - แต่ก็เป็นความเกลียดแบบมี "ความเกรงใจ" จนไม่แสดงออกนอกหน้า )   กระทั่งบัดนี้  เมื่อคนเกาหลีไปที่ไหน  สิ่งแรกที่พวกเขาหรือเธอจะทำก็คือ "แสดงความเป็นเกาหลีเพื่อมิให้ถูกเข้าใจว่าเป็นญี่ปุ่น"  ซึ่งเมื่อเทียบกับคนไทย  เวลาไปที่ไหนแล้วถูกทักว่าเป็นฟิลิปปินส์  หรือจีน ( คนกรุงเทพ - ที่มีเชื้อจีน ) กลับไม่โกรธ
( เพิ่มเติม : เขมร - ลาว ถูกทักว่าเป้นคนไทย จะเคืองนิด ๆ ไม่ถึงกับโกรธ,  พม่าถูกทักว่าเป็นไทย  มักจะหัวเราะชอบใจแล้วบอกว่า "จริงเหรอ ?" )
        ไปต่อไม่ได้  เพราะคนรุ่นลูกหลานไม่มีพิ้นฐานความเข้าใจ  จนเกิดสภาวะ "ฟองอากาศ ( ในท่อน้ำมัน )" ที่ทำให้เครื่องยนต์ที่กำลังวิ่ง ๆ อยู่สะดุดหรือน็อค ( การแข่งขันที่มาถึงจุดหนึ่งแล้วก็ชะงักงัน )"  จนรัฐต้องสร้างแรงขับใหม่   ที่อาจจะใช้ไม่ได้เอาซะเลยหรือไ่ม่ก็บ้าบอคอแตกไปเลย ( เช่น  เหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองในพนมเปญ  ที่ "คนเมือง" พนมเปญแท้ ๆ กลับก่อการจลาจลด้วยการทำลายทรัพย์สินของผู้ลงทุนชาวต่างขาติ   หรือพฤติกรรมกองเชียร์กีฬาพฤติกรรมถ่***ในเวียดนาม - ต่อนักกีฬาไทย )

     ซึ่งผมคงจะขอแสดงความคิดเห็นไว้เพียงแค่นี้   ไม่อยากขยายขี้เท่อไปอีกให้กลายเป็นประเด็นย่อย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-06-2007, 01:22 โดย นกกระสากวนน้ำ » บันทึกการเข้า

ประชาธิปไตยภายใต้ระบบทุนนิยม
คือ  การปกครองที่ผู้คนจำนวนน้อยซึ่งมีสติและความรับผิดชอบ จำต้องอดทนและรับผลกรรมจากกระทำของผู้คนจำนวนมากกว่าซึ่งไม่เคยรู้สึกรู้สาและจมปลักอยู่กับตัณหาทิฐิ
Body&Soul
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 370



« ตอบ #17 เมื่อ: 09-06-2007, 01:24 »

แมลงของคุณนกกระสากวนน้ำ ผมขออนุยาดใช้ไบกอนฉีดได้มั๊ยครับ

แหะๆ ล้อเล่นนะ
บันทึกการเข้า
ริวเซย์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,637


Worrior in The Blue Armor


เว็บไซต์
« ตอบ #18 เมื่อ: 09-06-2007, 01:34 »

ชาตินิยมต้องคู่คุณธรรมนะ ผมว่า

เรานิยมไทย ใช้ของไทย แต่ไม่ไปดูถูกดูแคลนต่างชาติ

เราแค่มีความสามัคคี เห็นอกเห็นใจกันและกัน ไม่ใช่ไปต่อว่าเพื่อนบ้าน

เหมือนกับกรณีที่เราไม่ซื้อของจากเพื่อนบ้านละแวกที่ติดกัน แต่ก็ยังให้เกียรติไม่ไปดูถูกดูแคลน แบบนี้ก็ยังไปกันได้นะครับ

เราภูมิใจในชาติของเรา แต่ไม่ไปดูถูก เหยียดใคร เรื่องนี้ถ้าปลูกฝังตัวเราเอง แล้วถ่ายทอดให้คนรอบข้างต่อไป ผมว่าดีกว่าปล่อยให้สังคมไทยเป็นไปอยู่อย่างนี้
บันทึกการเข้า

ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^


********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #19 เมื่อ: 09-06-2007, 01:48 »



ผมเชื่อว่าวัฒนธรรมพื้นฐานเรามีปัญหาหลายอย่างเหมือนกัน

แต่เป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่จะพูดถึงตรงๆในที่สาธารณะครับ

                                                                                       
บันทึกการเข้า

นกกระสากวนน้ำ
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 140


"ผมจะทำให้คนไทยรวยแต่เขือ"


« ตอบ #20 เมื่อ: 09-06-2007, 02:33 »

ถ้า Monitor Screen คุณ gem-stone เป็น LCD
จะใช้มือตบหรือใช้นิ้วดีดแรง ๆ ก็ได้ครับ
ทำแล้วมันจะนิ่งสนิท
บันทึกการเข้า

ประชาธิปไตยภายใต้ระบบทุนนิยม
คือ  การปกครองที่ผู้คนจำนวนน้อยซึ่งมีสติและความรับผิดชอบ จำต้องอดทนและรับผลกรรมจากกระทำของผู้คนจำนวนมากกว่าซึ่งไม่เคยรู้สึกรู้สาและจมปลักอยู่กับตัณหาทิฐิ
ดอกฟ้ากับหมาวัด
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,042



« ตอบ #21 เมื่อ: 09-06-2007, 02:57 »

ลองทำดูตามที่แนะนำแล้ว มันยังวิ่งไปมาอยู่ค่ะ
บันทึกการเข้า

***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ

      น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
นกกระสากวนน้ำ
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 140


"ผมจะทำให้คนไทยรวยแต่เขือ"


« ตอบ #22 เมื่อ: 09-06-2007, 03:08 »

Kiding ครับ
ผมหมายถึงทำให้จอพัง  แล้วทุกอย่างจะหยุดนิ่งหมด

หมายเหตุ :
วิธีการหนึ่งที่ทำให้ Gif animage หยุดเคลื่อนไหว เช่น เพื่อตัดรำคาญ  คือ  กดปุ่ม esc
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-06-2007, 03:13 โดย นกกระสากวนน้ำ » บันทึกการเข้า

ประชาธิปไตยภายใต้ระบบทุนนิยม
คือ  การปกครองที่ผู้คนจำนวนน้อยซึ่งมีสติและความรับผิดชอบ จำต้องอดทนและรับผลกรรมจากกระทำของผู้คนจำนวนมากกว่าซึ่งไม่เคยรู้สึกรู้สาและจมปลักอยู่กับตัณหาทิฐิ
ดอกฟ้ากับหมาวัด
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,042



« ตอบ #23 เมื่อ: 09-06-2007, 03:12 »

งั้นขอเปลี่ยนใจค่ะ  ขำๆเหมือนกัน

ทำจอพัง ต้องขายข้าวกี่เกวียนไปแลกจอ ไม่เอาหรอกค่ะ
บันทึกการเข้า

***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ

      น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #24 เมื่อ: 09-06-2007, 09:20 »

ซื้อของไทย ใช้ของไทย เที่ยวเมืองไทย เป็นเรื่องหยุมหยิม กะจุ๊กกะจิ๊ก ขี้เล็บสุดๆ   แล้วก็ชอบไปพูดถึงสิ่งที่มันเป็นสัญลักษณ์ เช่น Coke, McDonald's, KFC, LV, Hermes, Toyota, Mercedes....

"เมื่อหัวไม่ส่ายหางก็ไม่กระดิก" จำไว้ให้ขึ้นใจเลย

ในเมื่อของที่คุณใช้อยู่ทุกวันที่คุณนึกว่าเป็นของไทย สินค้าไทย เคยถามไหมล่ะว่า local content มันกี่ % อย่างผลไม้ไทยที่คุณมานั่งภูมิใจ แต่ปลูกกันจนคนปลูกแถบจะตายห่ากันเนี่ย ถ้าพูดถึงต้นทุนค่าปุ๋ยบำรุง เครื่องทุ่นแรง ต่างๆ ไอ้คนปลูกตาย ที่รวยคือฝรั่ง ญี่ปุ่นครับ หรือที่ว่า "อุตสาหกรรมรถยนต์ไทย" "อุตสาหกรรมอัญมณีไทย" หรือพวกเครื่องครัว เครื่องใช้ในบ้าน ของขบเคี้ยว ที่มันมีมูลค่าเพิ่ม  หรือแม้แต่ของกินต่างๆที่วางขายกันอยู่มีแบรนด์ไทย ที่อ้างว่าเป็นของไทย ไปเปิดดูบัญชีผู้ถือหุ้นของบริษัทใน supply chain สิครับ ใครคือเจ้าของตัวจริง?? ไต้หวัน สิงคโปร์ ฮ่องกง เกาหลี ญี่ปุ่น ยุโรป กันทั้งนั้น  สินค้าทุน สินค้าต้นน้ำ ปัจจัยการผลิต ก็หนีไม่พ้นอยู่ดี

คุณส่งเสริม เที่ยวเมืองไทย ใช่ปะ?? "เที่ยวเมืองไทย ไม่ไป ไม่รู้" ผมฟังแล้วแปลกๆ มีใครหน้าไหนทำสถิติหรือเปล่าว่า การเที่ยวต่อหนึ่งครั้ง ต้องมีการเดินทาง คุณต้องซดพลังงานที่ต้องนำเข้าไปเท่าไร (เนื่องจากเมืองไทยมีแต่ถนน กับเครื่องบิน ซึ่งเป็นการเดินทางที่แพง) อ้อ นี่ยังไม่นับ โรงแรม รีสอร์ต ชั้นนำต่างๆ ต่างชาติทั้งนั้นครับที่เป็นเจ้าของ มันต้องรั่วออกไปเท่าไร?? ไม่มีใครคิดว่าจะต้องสร้างโครงสร้าง หรือกฎเกณฑ์อะไรให้มันประหยัดทรัพยากรของชาติ สร้างประสิทธิภาพขึ้นมา  พอจะมีใครจุดพลุเรื่องนี้ขึ้นมาก็จะโดนเตะสะกัดดาวรุ่งครับ เช่น "วัวลืมตีน" "เห็นช้างขี้ขี้ตามช้าง" "ทำไมไม่พอเพียง" "บริษัท TPI มันเจ๊งไปแล้ว" ฯลฯ

สรุปว่าคุณพึ่งตัวเองแทบไม่ได้เลย เมื่อคุณพึ่งตัวเองไม่ได้ ยิ่งส่งเสริมให้ชาตินิยมเท่าไร คนได้ประโยชน์กลายเป็นต่างชาติ

ขึ้นชื่อว่าปุถุชนคนธรรมดา ไม่มีประเทศไหนเป็นชาตินิยมจริงหรอก ทุกอย่างอยู่ที่ "กลไก" หรือ "แรงจูงใจ" ที่ผู้ปกครองประเทศจะสร้างขึ้นมาทั้งนั้นว่าจะให้มันเป็นอย่างไร

ปัจจุบันประเทศไทยได้แค่ชาตินิยมด้วยปากครับ คือ นายก รัฐมนตรี ผู้นำตรงโน้นตรงนี้ โฆษณาทีวี บอกให้เสียสละ รักชาติ กินของไทย ใช้ของไทย ให้ประชาชนสร้างความภูมิใจในชาติขึ้นมาแบบตามมีตามเกิด แต่ไม่เกิดผลอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน  โถ บรรดานายพล นักการเมือง บุคคลที่คุณเชื่อว่าเป็นคนดีที่คุณเชียร์กันอยู่เนี่ย ยังส่งลูกไปเรียนนอกเลย เงินก็ฝากเมืองนอก มันไม่สนคุณหรอก มันไม่ได้สนว่าจะทำยังไงให้ประเทศนี้พึ่งตัวเองได้ อะไรคือผลประโยชน์ของชาติ  ตรงนี้ครับคือ "ชาตินิยมของแท้"  ก็เพราะมันมีแต่ชาตินิยมแต่ปากประเทศมันเลยเละตุ้มเป๊ะแบบทุกวันนี้ไง  ประชาชนก็ถูกสนตะพายให้ท่อง "รักเมืองไทย ชาตินิยมไทย" กันแบบไฟไหม้ฟางแบบนี้ไปเรื่อยๆ    จำไว้ หัวไม่ส่าย หางไม่กระดิก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-06-2007, 09:45 โดย Trudeau's Disciple » บันทึกการเข้า

Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #25 เมื่อ: 09-06-2007, 09:43 »

เอาง่ายๆ  เดี๋ยวนี้แค่เด็กอ่านการ์ตูนญี่ปุ่น  โดนบังคับให้อ่านผิดแบบจากปกติของเรา  มันก็อุตส่าห์ภูมิใจว่าต้องอ่านแบบญี่ปุ่น( กลับด้าน ขวา => ซ้าย ) ถึงจะได้อรรถรส และ ความมันส์แบบญี่ปุ่นอย่างเต็มที่

ไอ้การอ่านการ์ตูนแบบนี้น่ะ โครตเมื่อยเลยอ่ะ

เวลาเอาเข้าตู้เรียงแล้ว ก็ดูแปลกๆอ่ะ 
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #26 เมื่อ: 09-06-2007, 09:54 »

ชาตินิยม ชาติไม่นิยม คลั่งชาติ คงเป็นคำที่เอามาวิจารณ์กันได้ไม่รู้จบ

มีหลายชาติในโลกนี้ ที่มีความเป็นชาตินิยมสูง อย่างเช่นญี่ปุ่น แต่นั่นหมายถึงการมองจากภายนอกเท่านั้น เพราะภายในเอง ญี่ปุ่นเองก็นิยมอะไรๆของชาติอื่น มีการรับวัฒนธรรมของชาติอื่นเข้าไป มีการรับสินค้าของชาติอื่นเข้าไป รับค่านิยม รับแบรนด์เนม รับอะไรๆอีกหลายอย่าง  

แต่ค่านิยมของประชาชนนั้น ถึงจะเป็นคนส่วนใหญ่ ก้เป็นเพียงปลายสายธารเท่านั้น หากจะมองในประเทศไทย แล้วลองตั้งปัญหาถามว่า ทำไมคนไทยนิยมใช้สินค้าแบรนด์เนมจากต่างประเทศ และสินค้าแบรนด์เนมนั้น เกี่ยวพันกับค่านิยมหรือไม่ คงจะได้คำตอมที่แตกต่างกัน  

เด็กไทยใส่เสื้อผ้าติดตราต่างประเทศ เสื้อผ้านั้นส่วนใหญ่ก็ผลิตในประเทศ หรือประเทศอื่นที่ไม่ใช่เจ้าของตรานั้น จำนวนมากก็เป็นของปลอม แล้วก็มานั่งจับผิดกันว่า ใครแท้ใครปลอม และในที่สุดเมื่อปลอมเหมือนๆกันแล้ว ก็มานั่งจับผิดกันต่อไปว่า ใครปลอมได้เหมือนกว่ากัน  

สินค้าที่คนในประเทศนิยมใช้ อาจนำมาวัดชาตินิยมของคนในชาติได้บ้างแต่ไม่ทั้งหมด

เพราะสินค้า ในปัจจุบัญนี้ อันที่จริงแทบไม่มีสัญชาติแล้ว ชื่อเป็นฝรั่งเจ้าของเป็นญี่ปุ่น ชื่อเป้นญี่ปุ่นเจ้าของเป็นจีน นั่งเย็บกันหั่วปั่นอยู่แถมดาวคะนองใส่ชื่อยี่ห้ออิตาลี

ชาตินิยมที่แท้จริงคงไม่ใช่ การยึดมั่นถือมั่นกับวัฒนธรรมเดิมๆ ภาษาเดิมๆ อาหารเดิมๆ ตราสินค้าเดิมๆ

แต่ชาตินิยมจริงๆก็คือความรักชาติ รักความเป็นชาติ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าในปัจจุบัญนี้มันบกพร่องไปมาก เนื่องจากสภาพสังคมและระบบทุนนิยม ทำให้คนส่วนใหญ่รักตัวเอง เห็นแก่ตัว ตักตวง กอบโกย ขายได้แม้ชาติ และเมื่อชาติประสบปัญหา ก็พร้อมจะทิ้งชาติ ไปหาความร่ำรวยที่อื่น

การรวมกันเป็นชาตินั้น มีอะไรมากกว่า เชื้อชาติ สัญชาติ ผิวพรรณ รูปร่าง หน้าตา สิ่งที่มักจะใช้อ้างอิงเพื่อดึงดูดคนให้รู้สึกว่าร่วมชาติกัน ก็มักจะเป็นผืนแผ่นดิน เราจึงสอนกันให้ รักแผ่นดินเกิด รักมาตุภูมิ ปกป้องแผ่นดิน

เพราะมนุษย์มาแล้วก็ไป แต่แผ่นดินนั้นจะอยู่ได้ถาวรและยาวนานกว่า ถึงจะอยู่ได้ไม่ตลอดไป แต่เมื่อเทียบกับชีวิตมนุษย์แล้ว สอนให้รักษาแผ่นดิน จะดีกว่าสอนให้รักษาผู้นำ

หากจะมองเล่นๆ การแก้ไขปัญหาชาตินิยม คือการแก้ไขปัญหาไม่นิยมชาติตนไปนิยมชาติอื่น แก้ได้หลายวิธี เช่นกำจัดชาติอื่นไม่ให้เหลือไว้เป็นที่นิยม การกำจัดนั้นไม่จำเป็นต้องไปรบราฆ่าฟัน ปิดกั้นไม่ให้เขามามีอิทธิพลก็คงได้แล้ว หรือจะแก้ไขด้วยการกำจัดคนที่ไม่นิยมชาติตนเอง หรือคาดว่าไม่นิยมชาติตนเอง หรือแตกต่างเผ่าพันธ์ วิธีนี้ก็เคยใช้กันมานานแล้ว ได้ผลมั่ง ไม่ได้มั่ง

ประเทศไทยเราก็พยายามสร้างนิสัยพลเมืองให้มีชาตินิยมมานานแล้ว ก็ไม่ค่อยสำเร็จเท่าไหร่ ในระบบทุนนิยมนั้น เมื่อนิยมทุนแล้วก็ย่อมไม่นิยมชาติ หากต้องการชาตินิยมกลับมา ไล่ทุนนิยมออกไปก่อนค่ะ แล้วจะสำเร็จ  
บันทึกการเข้า
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #27 เมื่อ: 09-06-2007, 09:56 »

ประเทศไทยเราก็พยายามสร้างนิสัยพลเมืองให้มีชาตินิยมมานานแล้ว ก็ไม่ค่อยสำเร็จเท่าไหร่ ในระบบทุนนิยมนั้น เมื่อนิยมทุนแล้วก็ย่อมไม่นิยมชาติ หากต้องการชาตินิยมกลับมา ไล่ทุนนิยมออกไปก่อนค่ะ แล้วจะสำเร็จ 

ตรรกะนี้เห็นด้วยครับ คุณพี่พรรณฯ กรุณาเลิกใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่คุณใช้ก่อนอื่น เพราะมันเป็นผลิตผลจากทุนนิยมครับ
บันทึกการเข้า

พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #28 เมื่อ: 09-06-2007, 10:06 »

ตรรกะนี้เห็นด้วยครับ คุณพี่พรรณฯ กรุณาเลิกใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่คุณใช้ก่อนอื่น เพราะมันเป็นผลิตผลจากทุนนิยมครับ

ดีใจค่ะที่คุณเห็นด้วย  แล้วหนูจะต้องแก้ผ้าเลยไหมคะ เพราะเสื้อผ้าที่สวมอยู่ก็มาจากโรงงานของทุนนิยม บ้านที่อยู่ก็มีส่นมาจากระบบทุนเยอะค่ะ ต้องไปนอนในถ้ำไหมคะ พอมีถ้ำเหลือไหม 

ตรรกะของคุณนั้น ซื้อบื้อค่ะ

ความจำเป็นคือมารดาของการประดิษฐ

คุณคงไม่เข้าใจค่ะ  อีกนานมากค่ะกว่าคุณจะละเอียดอ่อนพอจะเข้าใจปรัชญา

ตอนนี้ก็หยาบอยู่กับทุนนิยมสามานย์ไปก่อนนะคะ

จะได้พ้นตมไหมเนี่ยชาติเนี้ย ทำบุญมากๆด้วยนะคะ เผื่กุศลส่งไปชาติหน้า ชาตินี้ท่าทางจะไม่ทันแร้ววว 
บันทึกการเข้า
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #29 เมื่อ: 09-06-2007, 10:08 »

อ้าง ลืมแก้โง่ไปอีกข้อ

คอมพิวเตอร์ ถ้าจะหาแรงผลักดันในการก่อกำเนิด

มันเกิดจากสงครามโลกครั้งที่สองค่ะ

ไม่ได้เกิดจากทุนนิยม

โปรดทราบไว้ด้วย 
บันทึกการเข้า
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #30 เมื่อ: 09-06-2007, 10:13 »

ดีใจค่ะที่คุณเห็นด้วย  แล้วหนูจะต้องแก้ผ้าเลยไหมคะ

ส่งรูปมาให้ดูหลังไมค์ดีครับ อยากดู อยากดู 


อ้าง ลืมแก้โง่ไปอีกข้อ
คอมพิวเตอร์ ถ้าจะหาแรงผลักดันในการก่อกำเนิด
มันเกิดจากสงครามโลกครั้งที่สองค่ะ
ไม่ได้เกิดจากทุนนิยม
โปรดทราบไว้ด้วย 

มันก็คือทุนนิยมอยู่ดีครับ เพราะสงครามก็คือการขัดแย้งกันทางผลประโยชน์ แล้วคอมพิวเตอร์ที่เขาพัฒนามาเรื่อยๆจนเล่นเน็ตได้ จนคุณใช้แสดงความเห็นในกระดานข่าว ก็มีทุนนิยมเป็นแรงผลักดันอยู่  เกลียดตัวแล้วอย่าไปกินไข่ครับ 
บันทึกการเข้า

aiwen^mei
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,732



« ตอบ #31 เมื่อ: 09-06-2007, 10:30 »

ส่วนตัวแล้ว เป็นคนไม่ชาตินิยมค่ะ คิดว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องบางทีก็เหมือนหลงตัวเอง อย่างที่ญาติผู้ใหญ่หลายคนก็นิยมความเป็นจีนซะเหลือเกิน ในขณะที่มีหนังสือแปลที่ได้อ่านเล่มหนึ่งคือ "จีนอัปลักษณ์" อ่านแล้วก็ไม่ใช่แค่จีนอัปลักษณ์ แต่ดู ๆ มันก็อัปลักษณ์กันไปทั่วโลก ไม่ต่างกันเท่าไหร่  Shocked

อีกประการหนึ่ง ผลของความเป็นชาตินิยมมักจะออกมาในแนวคลั่งชาติมากกว่า ไม่ต่างจากพวกคลั่งสถาบัน คลั่งศาสนา เลยไม่สนใจมากนัก บางทีส่งเสริมความเป็นชาตินิยมแบบแปลก ๆ ดูแล้วตลก ไร้สาระด้วยซ้ำ

ประเด็นของการเลือกใช้สินค้านั้น ราคาและคุณภาพของตัวสินค้าเอง กับ กำลังซื้อของผู้บริโภค เป็นปัจจัยหลักมากกว่า ส่วนความเห่อ หรือกระแสฟีเวอร์เช่นพวกแบรนด์เนม หรือ พวกสินค้าตามแฟชั่นนั้น เป็นปัจจัยรอง ๆ ลงไปที่เหมือนกระแสลม พัดหวือมาแล้วก็หวือไป  Mr. Green Very Happy Mr. Green

ความจริง พวกห้างใหญ่ๆ เมกะสโตร์ทั้งหลาย ก็มีข้อดีอยู่มากเช่นกัน แต่มันจะแปลงร่างเป็นปีศาจร้ายก็เมื่อปล่อยให้มันขยายตัวมากเกินไปหากรัฐไม่เข้าไปควบคุม หรือจัดการให้ดี

สินค้าแบรนด์เนมที่แพงจับใจ จนนักศึกษาสาวๆ หลายคนหลงคิดไปว่า ได้ใช้แล้วจะเพิ่มคุณค่าของตัวเองในขณะที่ยังไม่มีรายได้ บางคนยอมเช่าเพื่อเอามาซื้อมาใส่ก็มีนั้น ก็เป็นเรื่องของพวกเด็กไม่รู้จักโต คิดไม่เป็น แต่สำหรับคนที่มีกำลังซื้อแล้ว พวกเขายอมจ่ายเพื่อให้ได้ใช้ของดี หรือบางทีก็อาจจะไม่ หรือในสังคมไฮโซจะเอาไว้อวดร่ำอวดรวย อวดรสนิยม ก็เอาเหอะ พอรับได้ เพราะคนมันรวยช่วยไม่ได้ ซึ่งพวกนี้เป็นชนกลุ่มน้อยในสังคม  Mr. Green Very Happy Mr. Green

ในขณะที่สินค้าราคาถูกจากจีนที่ตีตลาดอยู่ทั่วโลกตอนนี้ ก็ส่งผลทั้งดีและเสีย  อย่างในอเมริกาเอง คนยากคนจนในสหรัฐฯ ก็ได้มีโอกาสใช้สินค้าเหล่านี้มาตั้งแต่สมัยสี่เสือเอเชียกำลังสร้างเนื้อสร้างตัว ไม่เหมือนเมื่อหลายสิบปีก่อนที่สินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้ายังมีราคาแพง มีไม่กี่บ้านที่สามารถจะหาซื้อมาใช้ได้ ทำให้โอกาสจำกัดอยู่แค่คนส่วนหนึ่งเท่านั้น และทำให้สินค้าที่ถือว่าดี ราคาแพง ต้องมีการปรับตัว ถ้าขืนไม่ปรับตัวล่ะก็ เจ๊งแน่ ๆ

ปัญหาอยู่ที่ ความพอเหมาะพอดีพอควรพอประมาณว่าจะทำอย่างไร เพราะทุกวันนี้ มันมากเกินไป จนก่อให้เกิดขยะที่จะล้นโลกอยู่แล้ว รวมถึงภาวะโลกร้อนที่เผชิญอยู่ และจะรุนแรงยิ่งขึ้น ถ้ายังไม่ตระหนัก หรือร่วมมือทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-06-2007, 10:35 โดย aiwen^mei » บันทึกการเข้า

有缘千里来相会,无缘对面不相逢。
An.mkII
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,984


Out of kontrol....!!!!!


เว็บไซต์
« ตอบ #32 เมื่อ: 09-06-2007, 10:49 »

เอาง่ายๆ  เดี๋ยวนี้แค่เด็กอ่านการ์ตูนญี่ปุ่น  โดนบังคับให้อ่านผิดแบบจากปกติของเรา  มันก็อุตส่าห์ภูมิใจว่าต้องอ่านแบบญี่ปุ่น( กลับด้าน ขวา => ซ้าย ) ถึงจะได้อรรถรส และ ความมันส์แบบญี่ปุ่นอย่างเต็มที่


โอยยย..

มันโดนใจพะยะค่ะ...


เพราะผมก็เป็นคนหนึ่ง...ที่ต่่อต้านไปเเนวคิดแบบนี้.... และพอตั้งกระทู้ว่า...ก็ดันมีคนมาบอกว่าสงสัยผมคงจะอ่านไม่ถนัด...ก็เลยไม่ให้อยากอ่านแบบญี่ปุ่น...


ซึ่งประเด็นผมว่ามันไม่ใช้ประเด็น...


ประเด็นคือว่า..เหตุไรเราต้องยอมให้ญี่ปุ่นมันด้วยล่ะ...ยอมให้มันยัดเยียดวัฒธรรมการอ่านของมันมาให้กะเด็กเรา..

ซึ่งนี้คือประเด็นที่ผมต้านตะหาก...


และเมื่อมันเริ่มที่จะยัดเยียดไอ้วัฒธรรมการอ่านแบบนี้มาให้เราได้...

ต่อไปมันก็จะกลายเป็นการปลูกฝังวัฒธรรมญี่ปุ่นในตัวเด็กๆไทยที่ล่ะนิดๆจนในไม่ใช้มันก็จะเข้าครอบงำทางวัฒธรรมของเด็กวัยรุ่นไทยไปในที่สุด..


เพราะดูได้จากไอ้การ์ตูนไทยยคุใหมๆ่นี้สิ..ชื่อน่ะมันเป็นไทย..แต่ลายเส้นและตัวละครการดำเนินเรื่องนี้มันญี่ปุ่นชัดๆ

ซึ่งผมคิดว่า..การุกรานทางด้านวัฒธรรม... นั้นมันน่ากลัวว่าการรุกรานทางด้านใดๆยิ่งนัก...


และผมก็ไม่ได้บอกว่าจะต้านอะไรแบบไม่เอาทั้งหมด...แบบนั้นมันเกินไป..  และมันจะเป็นการปิดกันการสื่อสารเเละเเลกเปลี่ยนทางด้านวัฒธรรม..


แต่ผมคิดว่าตอนนี้เด็กไทยมันไร้สติ..ในการรับวัฒธรรมของต่างชาติมากจนเกินไป..ยกตัวอย่างในกรณีี๊ล่าสุดกะการบ้าไอ้พวกของเกาหลี..


ผมจึงคิดว่ามันถึงเวลาแล้วที่ต้องมีการออกมาตักเตือนอะไรกันมั่ง....มิใช้รอวันล่มสลายของวัฒธรรม...


เพราะผมคิดว่า..ต่อให้มีชน มีคน และมีประเทศชาติ...

แต่ชนและชาตินั้น..ไร้ซึ่งวัฒธรรม..อัตลักษณ์ืที่เป็นของตนเอง..ผมว่าการที่มีชาติอยู่ไปมันก็เสียเปล่า...

 
บันทึกการเข้า
cameronDZ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,827


my memory


« ตอบ #33 เมื่อ: 09-06-2007, 12:46 »

จริง ๆ แล้ว ประเทศที่มีทัศนะทางการปกครองแบบรวมศูนย์ (ศูนย์ - ที่แปลว่า ว่างเปล่า ฮา)
แบบ ประเทศไทย
ไม่ควรสนับสนุนให้เกิดความคิดแบบ ชาตินิยม เลย

เพราะ ชาติ = รัฐ
ซึ่งก็ไม่มีอะไรมากไปกว่า ชาติ = รัฐ ของคนกรุงเทพฯ
คนไทยระดับ "ชาติ" คือ คนพูดภาษากลาง ไม่เหน่อ ไม่เสี่ยว ไม่แขก ฯลฯ เท่านั้นเอง

ผมไม่ใช่คนภาคกลาง ไม่ใช่คนกรุงเทพฯ
ผมจึงไม่รู้เลยว่า ชาตินิยม ของผมมันเป็นยังไง อยู่ที่ไหน
อยู่ที่ โขน ละครชาตรี และตำราประวัติศาสตร์ว่าด้วยการสร้างกรุงรัตนโกสินทร์ อย่างนั้นหรือ
บันทึกการเข้า

ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา
จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย
...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ...
แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก
...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #34 เมื่อ: 09-06-2007, 13:21 »


โอยยย..

มันโดนใจพะยะค่ะ...


เพราะผมก็เป็นคนหนึ่ง...ที่ต่่อต้านไปเเนวคิดแบบนี้.... และพอตั้งกระทู้ว่า...ก็ดันมีคนมาบอกว่าสงสัยผมคงจะอ่านไม่ถนัด...ก็เลยไม่ให้อยากอ่านแบบญี่ปุ่น...


ซึ่งประเด็นผมว่ามันไม่ใช้ประเด็น...


ประเด็นคือว่า..เหตุไรเราต้องยอมให้ญี่ปุ่นมันด้วยล่ะ...ยอมให้มันยัดเยียดวัฒธรรมการอ่านของมันมาให้กะเด็กเรา..

ซึ่งนี้คือประเด็นที่ผมต้านตะหาก...


และเมื่อมันเริ่มที่จะยัดเยียดไอ้วัฒธรรมการอ่านแบบนี้มาให้เราได้...

ต่อไปมันก็จะกลายเป็นการปลูกฝังวัฒธรรมญี่ปุ่นในตัวเด็กๆไทยที่ล่ะนิดๆจนในไม่ใช้มันก็จะเข้าครอบงำทางวัฒธรรมของเด็กวัยรุ่นไทยไปในที่สุด..


เพราะดูได้จากไอ้การ์ตูนไทยยคุใหมๆ่นี้สิ..ชื่อน่ะมันเป็นไทย..แต่ลายเส้นและตัวละครการดำเนินเรื่องนี้มันญี่ปุ่นชัดๆ

ซึ่งผมคิดว่า..การุกรานทางด้านวัฒธรรม... นั้นมันน่ากลัวว่าการรุกรานทางด้านใดๆยิ่งนัก...


และผมก็ไม่ได้บอกว่าจะต้านอะไรแบบไม่เอาทั้งหมด...แบบนั้นมันเกินไป..  และมันจะเป็นการปิดกันการสื่อสารเเละเเลกเปลี่ยนทางด้านวัฒธรรม..


แต่ผมคิดว่าตอนนี้เด็กไทยมันไร้สติ..ในการรับวัฒธรรมของต่างชาติมากจนเกินไป..ยกตัวอย่างในกรณีี๊ล่าสุดกะการบ้าไอ้พวกของเกาหลี..


ผมจึงคิดว่ามันถึงเวลาแล้วที่ต้องมีการออกมาตักเตือนอะไรกันมั่ง....มิใช้รอวันล่มสลายของวัฒธรรม...


เพราะผมคิดว่า..ต่อให้มีชน มีคน และมีประเทศชาติ...

แต่ชนและชาตินั้น..ไร้ซึ่งวัฒธรรม..อัตลักษณ์ืที่เป็นของตนเอง..ผมว่าการที่มีชาติอยู่ไปมันก็เสียเปล่า...

 

การ์ตูนญี่ปุ่นตอนที่เขาผลิตออกมา คงไม่ได้คำนึงถึงตลาดนอกประเทศเป็นสำคัญ เขามองตลาดของเขาซึ่งมันใหญ่พอแล้ว และวิธีการเขียนการอ่านภาษาของเขาก็เป็นแบบนั้น คือกลับด้ายกับของเรา

ยุคแรกที่การ์ตูนญี่ปุ่นเข้ามาอาละวาดในเมืองไทยในรูปแบบหนังสือการ์ตูนแปลนั้น เท่าที่ทราบก็คงประมาณยุคโดราเอม่อง ก่อนหน้านั้นมีหีรือเปล่าก็ไม่ทราบชัดใครทราบก็บอกทีนะคะ การ์ตูนเก่าโดราเอม่องยังพอเห็นอยู่ และจะเห็นได้ว่าเขาใช้วิธีถ่ายกลับซ้ายเป็นขวามา เพื่อให้เด็กไทยยุคนั้นอ่านได้สะดวก โดยอ่านจากหน้ามาหลังตามปกติ แต่ภาพนั้นจะกลับด้านกันไปหมด ทำให้ดูแปลกๆไป

ต่อมาคงจะเกิดค่านิยมในการอ่านแบบใหม่ ตามวัฒนธรรมญี่ปุ่น ก็เลยก็อปมาแบบไม่กลับด้สน และพิมพ์มันแบบญี่ปุ่นซะเลย เด็กๆก็รู้สึกแปลกหูแปลกตาดี และยอมรับวัฒนธรรมการอ่านแบบนั้นเข้าไปอย่างง่ายดาย

คำถามของคุณ An.mkII ที่ว่า
อ้างถึง
ประเด็นคือว่า..เหตุไรเราต้องยอมให้ญี่ปุ่นมันด้วยล่ะ...ยอมให้มันยัดเยียดวัฒธรรมการอ่านของมันมาให้กะเด็กเรา

อันนี้ขอแก้ไขนะคะ ญี่ปุ่นไม่ได้ยัดเยียดวัฒนธรรมการอ่านของเขามาให้เด็กของเราค่ะ คนที่ยัดเยียดให้เด็กของเรานั้น คือนายทุนสามานย์ ที่เห็นแก่ได้ เห็นแก่เงินเป็นสำคัญ ตามเป้าหมายของการลงทุนในระบบทุนนิยมค่ะ จะชั่วช้าสามานย์อย่างไรก็จะทำ ให้ได้เงินเป็นพอ ถ้าไปห้ามไอ้พวกนี้นะคะ มันก็ด่ารัฐบาลค่ะ หาว่าขัดขวางการลงทุน การค้า ไม่ส่งเสริมการค้า ถ้ามันพิมพ์การ์ตูนพวกนี้มาแล้วขายไม่ออก มันก็ด่าว่ารัฐบาลงี่เง่าไม่รู้จักดูแลเศรษฐกิจ

วัฒนธรรมต่างชาติ นำเข้ามาในเมืองไทย เพื่อมอมเมาเยาวชนไทย โดยนายทุนชั่วสามนย์ของไทยนี่เองค่ะ อย่าไปโทษต่างชาติเลย ไทยด้วยกันเองนี่แหละค่ะ

เมื่อไหร่ไอ้พวกนี้จะย้ายกลับไปบ้านเกิดให้หมดซะทีนะ แผ่นดินจะได้เบาๆหน่อย 
บันทึกการเข้า
ชัย คุรุ เทวา โอม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,846


สมัครรักแมว แต่ผมรัก Cat


« ตอบ #35 เมื่อ: 09-06-2007, 17:18 »

ผมคิดว่า คนไทยชาตินิยมผิดวิธีไปเยอะนะ

และไอ้พวกล่องลอยก็เยอะเหลือเกินในสังคม
ผมไม่รู้เลยว่าอนาคตที่มีแต่คนล่องลอยเนี่ย ไทยจะเป็นอย่างไร

การที่เราจะทำให้ความเป็นชาติมากขึ้นนั้น
ผมว่าเราควรสกัดกั้น วัฒนธรรมตะวันตกที่ไม่ดี
ที่มีอยู่สูงมากในสังคมไทย
ผมว่าควรเปลี่ยนได้แล้วครับ

แต่ททางที่จะทำได้นั้นก็คือการเดินสายกลาง
และไม่พึ่งคำว่าทุนนิยมให้มากนัก
ความเป็นชาติจะกลับมาเองครับ

เปลี่ยนจากเดินห้างมา ส่องนก อ่านหนังสือ หรือเดินป่าดีกว่าครับ
บันทึกการเข้า

"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..."

คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน

(How the Steel Was Tempered)

นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933


*******************************

เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ
http://www.oknation.net/blog/amalit1990
cameronDZ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,827


my memory


« ตอบ #36 เมื่อ: 09-06-2007, 17:54 »

ขอกล่าวถึง "ปราชญ์" ไทย คนหนึ่งแล้วกัน

ส.ศิวรักษ์

ถึงแม้ โดยส่วนตัว ผมจะให้ความเคารพ "แนวคิด" หลาย ๆ อย่างของท่าน
แต่เรื่องหนึ่งที่ผมไม่ชอบเลย / รับไม่ได้
คือ ส.ศิวรักษ์ มักจะ "ด่า" วัฒนธรรมตะวันตก ว่าเลวทรามต่ำช้า (เพื่อจะด่าคนที่ไปหลงชื่นชมตะวันตก อีกต่อหนึ่ง)

นี่คือลักษณะของการเปรียบเทียบ เพื่อ "เหยียด"
ซึ่งก็เป็นลักษณะหนึ่งของอาการ "ชาตินิยม" หรือ "คลั่งชาติ"

วัฒนธรรมประเทศไหน ชาติไหน
ผมว่า ไม่ได้ดี-เลว สูง-ต่ำ ไปมากกว่ากันเลย
เพียงแต่ว่าจะเหมาะสมกับ ชนชาติอื่น หรือไม่ เท่านั้น

ซึ่งก็มาเกี่ยวโยงกับคำตอบของหลาย ๆ ท่าน ในกระทู้นี้

คือ ผมไม่อยากให้เกิดอาการ "เหยียด" วัฒนธรรมชนชาติอื่น
ว่า เป็นวัฒนธรรมที่เลว มาทำให้วัฒนธรรมไทย (ที่ดีเลิศสูงส่ง) ต้องแปดเปื้อน

ถ้าวัฒนธรรมตะวันตก หรือ ญี่ปุ่น เกาหลี ที่เราตั้งแง่รังเกียจ
ว่า เลวทราม ต่ำช้า เข้ามารุกราน วัฒนธรรมอันดีงามของไทย ให้เสื่อมสูญ
ผมว่า ประเทศเหล่านั้น คงล่มสลาย ชิบหาย หายนะ ไปหมดแล้ว

เขาก็อยู่ของเขาได้
ไม่เห็น ล่มสลายไปไหน
แต่ที่ผมแปลกใจอยู่อย่าง
ก็คือ เมื่อเรารับวัฒนธรรมต่างชาติ (อันเป็นวัฒนธรรมปกติในชาติเขา) เข้ามา
ทำไม มันกลายเป็นของเลวไปได้

อย่างนี้ จะโทษต่างชาติ หรือ ตัวเราเอง
บันทึกการเข้า

ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา
จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย
...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ...
แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก
...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...
หน้า: [1]
    กระโดดไป: