ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
29-03-2024, 14:37
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  ห้องสาธารณะ  |  เมื่อ สสร.ไม่เอาพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ ชาวพุทธจะทำอย่างไร? 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
เมื่อ สสร.ไม่เอาพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ ชาวพุทธจะทำอย่างไร?  (อ่าน 4950 ครั้ง)
สรพงษ์
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: 08-06-2007, 01:49 »

กราบเรียนมายังชาวพุทธทุก ๆ ท่าน

ถ้า สสร. ไม่บัญญัติพระพุทธศาสนาให้เป็นศาสนาประจำชาติรัฐธรรมนูญนี้อันตรายมาก ทางออกที่ดีมีความปลอดภัยสำหรับชาวพุทธเพื่อให้ดำรงไว้ซึ่งชาติ,ศาสนา,พระมหากษัตริย์ ให้พวกเราพร้อมเพรียงกันคว่ำรัฐธรรมนูญทั้งหมด ลงมติไม่ยอมรับร่างฯ
   เพราะรัฐธรรมนูญทั้งหมดที่ร่างออกมา เป็นการวางแผนของเผด็จการที่นับถือศาสนาอิสลามที่จะยึดครองประเทศไทย เพื่อจะเปลี่ยนแปลงจากพุทธให้เป็นอิสลามทั้งประเทศ เขาจึงพยายามทำทุกวิถีทางโดยอาศัยอำนาจทางการเมืองเพื่อไม่ให้พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ ถ้าเรายอมรับร่างฯ เท่ากับเราทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์โดยตรง ท่านรู้ไหมว่าสิ่งที่    น่ากลัวที่สุดในโลกขณะนี้คือ “กลุ่มอิสลามหัวรุนแรงที่คลั่งไคร้ในศาสนา” คนพวกนี้***มโหดผิดมนุษย์ ขณะนี้เขาได้วางแผนกระจายคนอิสลามให้ไปตั้งครอบครัวอยู่ทุกๆ จังหวัดทั่วประเทศแล้ว เพื่อหวังเปลี่ยนแปลงประเทศไทย จากพุทธให้กลายเป็นอิสลาม อำนาจการเมืองสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงได้ ดูตัวอย่างประเทศเวียดนามเมื่อก่อนนับถือศาสนาพุทธ 90% เดี๋ยวนี้ผู้มีอำนาจทางการเมืองบังคับให้นับถือศาสนาคริสต์
รัฐธรรมนูญที่ไม่มีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ เป็นรัฐธรรมนูญที่อันตราย ให้ชาวพุทธเผยแผ่เอกสารฉบับนี้ให้ทั่วถึงกัน ถือว่าเป็นเรื่องอันตรายมากที่สุด สำคัญมาก ๆ เป็นอันตรายเพราะภัยพิบัติต้องเกิดแก่กุลบุตรลูกหลานของเราในอนาคตแน่นอน 
หมายเหตุ ขอให้ท่านช่วยเผยแผ่ไปยังเพื่อนของท่านที่รู้จัก
บันทึกการเข้า
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #1 เมื่อ: 08-06-2007, 06:30 »

- รัฐธรรมนูญทั้งหมดที่ร่างออกมา เป็นการวางแผนของเผด็จการที่นับถือศาสนาอิสลามที่จะยึดครองประเทศไทย

แค่นี้ก็เลื่อนเปื้อนแล้ว พี่เอกสรพงษ์
อย่าเอาพุทธศาสนามาบังหน้าดีกว่า





อ้างถึง

เมื่อเราไม่รู้ไม่เข้าใจและไม่ได้ศึกษาระบบของเขา
เราก็อ่านไม่ถูก (และมองเขาไม่ทะลุด้วย)


เราไปเห็นชื่อประธานาธิบดีศรีลังกาคนก่อน ที่เขาเขียนว่า Jayawardene เราก็อ่านว่า "ชายาวาร์เดเน" ชายาวาร์เดเนอะไรที่ไหนกัน ที่จริงก็คือนายชยวรรธนะ หรือ ชัยวัฒน (ชัยวัฒน์) นั่นเอง แต่เขียนตามสำเนียงของเขา เมื่อเป็นภาษาอังกฤษจะเป็นอย่างนั้น

อาตมาก็ลองฟังดูว่าที่คนไทยออกเสียง ชายาวาร์เดเน นี้ วิทยุฝรั่ง เช่น V.O.A. และ B.B.C. เขาจะออกเสียงอย่างไร ไปฟังฝรั่งยังออกเสียงใกล้จริงกว่า ฝรั่งออกเสียงว่า ชะยะวาดะนะ ก็ยังใกล้เข้ามา ทำไมฝรั่งออกเสียงได้ดีกว่าคนไทย ก็เพราะคนไทยเราไม่ได้ศึกษาสืบค้นหาความรู้

ทั้งๆ ที่ว่า ศรีลังกานี้ใกล้เมืองไทยมากกว่าฝรั่ง เราอยู่ในสายวัฒนธรรมเดียวกัน คนศรีลังกานั้นชื่อของเขาส่วนมากก็มาจากพุทธศาสนา นายชัยวัฒนนี้ชื่อก็มาจากภาษาบาลีนี้แหละ

อีกตัวอย่างหนึ่ง นายกรัฐมนตรีศรีลังกาคนที่แล้ว ที่ถูกสังหารไป เขาเขียนเป็นภาษาอังกฤษว่า Premadasa คนไทยเอามาอ่านออกเสียงทางวิทยุ โฆษกบางคนก็ออกว่า "เประมาดาซ่า" ลองดูว่าอะไรหนอ เประมาดาซ่า อ้อ นายเปรมทาสนี่เอง อย่างนี้เป็นต้น

ที่ว่ามานี้ เป็นเรื่องของการที่คนไทยเราตื่นความเจริญ แต่ตามความเจริญไม่ถึง ต้องขอพูดอย่างนั้น เพราะฉะนั้นเราจึงได้แต่รูปแบบและเปลือกนอกมา

แม้แต่ในเรื่องที่เราควรจะเหนือและนำเขา เราก็ยังรู้ไม่เท่าไม่ถึงไม่ถูกไม่ทัน ได้แต่งุ่มง่ามงมงำ ถ้าอย่างนี้เราก็จะต้องเป็นผู้ตามเขาแบบเถลไถลไถถาอยู่เรื่อยไป ไม่มีทางจะไปนำเขาได้


พูดเรื่องเดียวกัน แต่เถียงกันคนละเรื่อง

เมื่อถึงวาระที่มีการร่างรัฐธรรมนูญอย่างที่ตั้งกำหนดกันไว้ ก็ปรากฏว่า ได้มีการถกเถียงกันว่า จะให้มีบทบัญญัติว่าพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติหรือไม่ ในที่สุด ฝ่ายที่ไม่ให้มีบัญญัติก็ชนะคะแนนไป อย่างที่ทราบกันอยู่แล้ว

ใครชนะคะแนน ใครชนะใจ เป็นอย่างไร ในที่นี้ไม่ขอวิจารณ์ แต่น่าสังเกตว่า ทั้งสองฝ่ายที่เถียงกันนั้น ดูท่าว่าได้มีความเข้าใจความหมายของคำว่า "ศาสนาประจำชาติ" ไม่เหมือนกัน ไม่ตรงกัน และไม่ได้ตกลงกันให้คำจำกัดความเสียด้วยว่า คำว่า "ศาสนาประจำชาติ" มีความหมายว่าอย่างไร

เมื่อเป็นอย่างนี้ จะถือว่าเป็นเรื่องน่าขำ หรือจะว่าน่าห่วงใยก็ได้ เพราะมันกลายเป็นว่า คนที่มาประชุมกันนั้น พูดเรื่องเดียวกันแต่เถียงกันคนละเรื่อง แล้วจะไปได้เรื่อง ได้อย่างไร

ทั้งสองฝ่ายที่เถียงกันนั้น นอกจากเข้าใจความหมายของคำว่า "ศาสนาประจำชาติ" ไม่เหมือนกันแล้ว ความหมายที่แต่ละฝ่ายเข้าใจก็คลุมๆ เครือๆ ไม่ชัดเจนด้วย

ฝ่ายชาวพุทธผู้เห็นควรให้มีบัญญัติว่า พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ ก็มองความหมายไปตามความคิดความเข้าใจของตน ตามแนวทางของวัฒนธรรมประเพณี

บ้างก็มองแค่ว่า ไหนๆ พระพุทธศาสนาเท่าที่ตนมองเห็นก็เป็นศาสนาประจำชาติไทยโดยพฤตินัยอยู่แล้ว ก็ขอให้มีชื่อปรากฏในกฎหมายโดยนิตินัยด้วย

บ้างก็มองว่า ให้มีการบัญญัติอย่างนั้น เพื่อว่ารัฐและสังคมจะได้เอาจริงเอาจังในการอุปถัมภ์บำรุง เป็นต้น



อ้างถึง

จะมองแค่ไหนและอย่างไรก็ตาม ชาวพุทธเหล่านั้นก็มองไปแค่ในขอบเขตของวัฒนธรรมและหลักพระพุทธศาสนาที่สืบ ทอดกันมา ที่ว่าทางฝ่ายพระศาสนาโดยเฉพาะพระสงฆ์ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกิจการบ้าน เมือง อาณาจักรก็มีหน้าที่อุปถัมภ์บำรุงพระพุทธศาสนา และพุทธจักรก็มีหน้าที่สั่งสอนประชาชนตั้งแต่ผู้ปกครองรัฐลงมา

ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งที่คัดค้าน ซึ่งโดยมากเป็นคนที่เรียกว่าสมัยใหม่ จบการศึกษามาจากเมืองฝรั่ง ก็มองความหมายของ "ศาสนาประจำชาติ" ในเชิงที่ว่าทางฝ่ายศาสนาจะมีอำนาจหรือมีอิทธิพลต่อกิจการของรัฐอย่างใด อย่างหนึ่ง แต่ก็ไม่ชัดไม่เจนว่าจะมีอำนาจหรืออิทธิพลแค่ไหนอย่างไร เพราะตนเองก็ไม่รู้ชัดอีกเหมือนกันในเรื่องของฝรั่งนั้น ตลอดจนในเรื่องของศาสนาอื่นและสังคมอื่น

เรื่องนี้ควรจะถือเป็นบทเรียนสำหรับการปฏิบัติต่อไปภายภาคหน้า เพราะมีเค้าว่าจะมีการถกเถียงกันในเรื่องนี้อีก ซึ่งไม่ควรจะวกวนกันอยู่อย่างเก่า แต่ควรจะพูดกันให้ชัดเสียที ตั้งแต่จำกัดความหมายให้เข้าใจตรงกัน แล้วจึงเถียงกันว่าจะเอาหรือไม่เอา

อย่างที่บอกแล้วว่า คำว่า "ศาสนาประจำชาติ" ในความหมายของคนไทยชาวบ้านหรือชาวพุทธ มองแค่เป็นความยอมรับสนับสนุนและสัมพันธ์กันเชิงสั่งสอนแนะนำและอุปถัมภ์ บำรุง อย่างที่เรารู้สึกกันในเมืองไทย จนจำติดใจกันสืบมาว่าพระสงฆ์เป็นผู้สละบ้านเรือนไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับ กิจการบ้านเมือง

กิจการศาสนาในความหมายแบบของเราจะเกี่ยวข้องกับชาวบ้านและกิจการบ้านเมืองก็เพียงในการสั่งสอนแสดงหลักการในการบริหารการปกครอง

แต่หันไปดูทางด้านตะวันตกเลยจากเราไป และในสังคมแบบอื่น เขาไม่ได้มองอย่างนี้เลย

ในความหมายของสังคมแบบอื่น กิจการศาสนาของเขารวมไปหมด ทั้งการจัดกิจการบ้านเมือง การปกครอง การทหาร ตลอดจนการจัดการเศรษฐกิจ เป็นต้น ถือเป็นเรื่องของศาสนาโดยตรง

อย่างที่บอกแล้วว่า คำว่า "ศาสนาประจำชาติ" ในความหมายของคนไทยชาวบ้านหรือชาวพุทธ มองแค่เป็นความยอมรับสนับสนุนและสัมพันธ์กันเชิงสั่งสอนแนะนำและอุปถัมภ์ บำรุง อย่างที่เรารู้สึกกันในเมืองไทย จนจำติดใจกันสืบมาว่าพระสงฆ์เป็นผู้สละบ้านเรือนไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับ กิจการบ้านเมือง

กิจการศาสนาในความหมายแบบของเรา จะเกี่ยวข้องกับชาวบ้านและกิจการบ้านเมืองก็เพียงในการสั่งสอนแสดงหลักการในการบริหารการปกครอง

แต่หันไปดูทางด้านตะวันตกเลยจากเราไป และในสังคมแบบอื่น เขาไม่ได้มองอย่างนี้เลย

ในความหมายของสังคมแบบอื่น กิจการศาสนาของเขารวมไปหมด ทั้งการจัดกิจการบ้านเมือง การปกครอง การทหาร ตลอดจนการจัดการเศรษฐกิจ เป็นต้น ถือเป็นเรื่องของศาสนาโดยตรง

ฝรั่งมีคำแสดงความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับศาสนาในหลักการที่เรียกว่า Church and State หรือศาสนจักรกับอาณาจักร เพื่อรวบรัด ลองดูความหมายที่เขียนไว้ในสารานุกรมของฝรั่งฉบับหนึ่ง (Compton"s Interactive Encyclopedia, 2000) ขอยกคำของเขามาให้ดูเลยว่า (เพียงยกมาเป็นตัวอย่าง ข้อมูลในเรื่องนี้ยังมีที่น่ารู้อีกมาก)

The name given to the issue--church and state--is misleading, however: Church implies Christianity in one or more of its many denominations.

The issue is really between religion and politics. Which shall be the controlling force in a state?

อย่างไรก็ดี ชื่อที่ใช้เรียกประเด็นนี้ว่า "ศาสนจักร กับ อาณาจักร" นั้น ชวนให้เข้าใจผิด คือ ศาสนจักรเล็งไปที่ศาสนาคริสต์ อันหลากหลายนิกาย นิกายหนึ่งหรือหลายนิกาย

แท้จริงนั้น ประเด็นของเรื่องอยู่ที่ว่า ระหว่างฝ่ายศาสนากับฝ่ายการเมือง ฝ่ายไหนจะเป็นตัวกุมอำนาจบงการในรัฐ

ที่เขาเขียนอย่างนี้ก็เห็นได้ชัดตามประวัติศาสตร์ของอารยธรรมตะวันตก ที่ฝ่ายศาสนจักรกับอาณาจักร ต่างก็มีอำนาจในการบริหารปกครองกิจการบ้านเมือง จนกระทั่งมีการแก่งแย่งช่วงชิงแข่งอำนาจกัน (ให้ไปศึกษาประวัติศาสตร์ของสังคมตะวันตกเอาเอง)

ยิ่งกว่านั้น เมื่อศาสนจักร หรือศาสนาใดศาสนาหนึ่ง หรือแม้แต่นิกายใดนิกายหนึ่ง ขึ้นมาเป็นศาสนาแห่งรัฐ หรือเป็นศาสนาประจำชาติแล้ว ศาสนาอื่นๆ หรือนิกายอื่นๆ ก็จะถูกกีดกันออกไป หรือแม้แต่ถูกบังคับกดขี่ข่มเหง

ขอยกอีกตัวอย่างหนึ่งให้เข้าใจง่ายๆ

คำว่า "ศาสนาประจำชาติ" แบบพุทธ มีความหมายไปได้แค่ว่า รัฐอาจจะตรากฎหมายที่มีบทบัญญัติส่งเสริมให้ประชาชนประพฤติปฏิบัติตามข้อ บัญญัติทางศาสนา (เช่น ส่งเสริมให้ประชาชนประพฤติตามหลักศีล 5)

แต่ "ศาสนาประจำชาติ" แบบตะวันตก/แบบสังคมอื่น หมายความว่า รัฐต้องยกเอาข้อบัญญัติของศาสนา หรือศาสนบัญญัติ ขึ้นมาใช้เป็นกฎหมายบังคับแก่ประชาชน

หรือให้องค์กรศาสนามีอำนาจตรากฎหมายของบ้านเมือง



อ้างถึง

ด้วยเหตุที่ความ สัมพันธ์ระหว่างรัฐกับศาสนา แบบพุทธ กับแบบสังคมอื่น แตกต่างกันไกลอย่างนี้ เมื่อสองระบบที่ต่างกันนั้นเข้ามาปะทะหรือครอบงำกัน จึงทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงแปลกๆ ใหม่ๆ ขึ้น

ขอยกตัวอย่าง เช่น ในประเทศศรีลังกา แต่เดิมมา ความสัมพันธ์ระหว่างพุทธจักรกับอาณาจักร ก็เหมือนกับที่ชาวพุทธในเมืองไทยเข้าใจกันสืบๆ มา

ดังที่เมื่อหลายร้อยปีก่อน ในศรีลังกานั้น มีพระสงฆ์ส่วนหนึ่งไปให้ความเอื้อเฟื้อช่วยเหลือแก่กษัตริย์ตกยาก แล้วต่อมาพระสงฆ์ส่วนนั้นได้รับการอุปถัมภ์นับถือจากกษัตริย์ที่ได้อำนาจ กลับคืนมา ก็ถูกรังเกียจจากพระสงฆ์อื่นๆ จนเป็นเหตุให้พระสงฆ์แตกแยกกัน

(เหมือนอย่างคนไทยในปัจจุบันยังมีความรู้สึกไม่ค่อยดี เมื่อพบเห็นหรือได้ยินข่าวพระสงฆ์ไปชุมนุมต่อต้านหรือสนับสนุนเหตุการณ์ ต่างๆ ทางบ้านเมือง แม้แต่ที่เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับพระศาสนาเอง)

แต่เมื่อศรีลังกาตกเป็นอาณานิคมและฝรั่งเข้ามาปกครอง พร้อมทั้งนำระบบที่ศาสนจักรในศาสนาคริสต์มีอำนาจในกิจการของรัฐเข้ามาด้วย ทำให้พระสงฆ์และวัดวาอารามถูกบีบคั้นเบียดเบียนข่มเหงต่างๆ

จากการถูกกดดันนั้น ความเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้น ทำให้ชาวพุทธและพระสงฆ์ต้องดิ้นรนต่อสู้กับอำนาจของรัฐเป็นต้น ตลอดจนท่าทีของประชาชนก็เปลี่ยนแปลงไป จนกลายเป็นอย่างที่เราเห็นกันในปัจจุบันว่า พระสงฆ์ในศรีลังกาชุมนุมประท้วงต่างๆ บ้าง หาเสียงช่วยนักการเมืองบ้าง ตลอดจนเป็นส.ส.เองก็มี

(ในประเทศเมียนมาร์ ซึ่งเคยเป็นอาณานิคมของอังกฤษ ก็มีความเปลี่ยนแปลงที่คล้ายกันนี้)

เรื่องอย่างนี้ ควรศึกษากันให้เข้าใจชัดเจน แต่ในที่นี้ขอปิดท้ายสั้นๆ ว่า

ถ้าพูดว่า "พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ" สำหรับชาวพุทธไทย ที่เข้าใจกันมาแบบเดิม ก็จะหมายถึงการที่บ้านเมืองยอมรับเป็นทางการและเอาจริงเอาจังในการส่งเสริม สนับสนุนให้พระสงฆ์ปฏิบัติศาสนกิจแบบบรรพชิตของท่าน โดยไม่ต้องมาวุ่นวายกับกิจการบ้านเมือง

รัฐจัดการอุปถัมภ์บำรุงส่งเสริมให้พระสงฆ์มีโอกาสเล่าเรียนศึกษาปฏิบัติและ เผยแผ่สั่งสอนธรรมอย่างเต็มที่ เพื่อประโยชน์สุขแก่ประชาชน สังคม ประเทศชาติ ไปตามหลักพระธรรมวินัย ตลอดจนวัฒนธรรมประเพณีที่สืบๆ กันมา

ทำให้สังคมมีสภาพเอื้อต่อการอยู่ร่วมกันและปฏิบัติกิจของศาสนิกชนทุกศาสนาโดยสงบสุข

แต่ถ้ารัฐหรือสังคมไทยหลงลืมเพี้ยนไปไม่เข้าใจความหมายอย่างนี้ ก็จะเกิดการกีดกั้น บีบคั้น ซึ่งจะทำให้พระสงฆ์ โดยความสนับสนุนของชาวพุทธเองนั่นแหละ จำนวนมากขึ้นๆ หันมาดิ้นรนเพื่อรักษาสถาบัน กิจการและหลักการของตนในรูปแบบต่างๆ อย่างที่ได้เริ่มปรากฏให้เห็นขึ้นมาบ้างแล้ว ในช่วง ๓-๔ ปีนี้

มองดูให้ดีจะเห็นว่า เรื่องนี้เหมือนจะกลับทางกับความเข้าใจของคนสมัยนี้ คือ ถ้าพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ ชาวพุทธก็ได้โอกาสที่จะปฏิบัติศาสนธรรมของตนไปโดยไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับ กิจการบ้านเมือง แต่ถ้าพุทธศาสนาถูกกั้นออกไปจากความเป็นศาสนาประจำชาติ พระสงฆ์และชาวพุทธก็จะถูกบีบคั้นให้มีบทบาทในทางดิ้นรนต่อสู้เพื่อต่อรอง กับอำนาจรัฐมากยิ่งขึ้น

ทั้งหมดนี้ จะเป็นจริงอย่างที่ว่าหรือหาไม่ ก็ลองไปศึกษาดูบนฐานแห่งข้อมูลความรู้ของจริง ซึ่งคิดว่ามีให้เห็นแล้วอย่างเพียงพอ

ในด้านชาวพุทธเอง เมื่อรู้เข้าใจเรื่องศาสนาไปตามหลักการแห่งพระศาสนาของตน และตามวัฒนธรรมไทยที่สอดคล้องกับหลักการนั้น จึงมองเรื่องศาสนาเหมือนกับแยกต่างหากออกไปจากสังคมและกิจการบ้านเมือง

แต่ขณะเดียวกันนั้น พวกชนชาติที่ต่อสู้กันมาในสังคมอื่น ที่ถือศาสนาแบบอื่น เขามองกิจการบ้านเมือง การปกครอง การทหาร เศรษฐกิจ เป็นต้น โดยรวมอยู่ในกิจการของศาสนาด้วย

เมื่อเกิดมีเหตุการณ์ทางศาสนาแบบอื่น ที่นอกวัฒนธรรมและนอกสังคมของตน ชาวพุทธไม่เคยรู้ไม่เคยเข้าใจ จึงมักมองสถานการณ์ไม่ออก และวางท่าทีไม่ถูก กลายเป็นคนไม่ทันเขา ทั้งรักษาตัวเองก็ไม่ได้ และไม่รู้ว่าจะสัมพันธ์กับคนอื่นอย่างไร

อย่างน้อยชาวพุทธก็แตกแยกกระจัดกระจายกันเอง ชาวพุทธแบบชาวบ้านก็ไม่ไหวทันตระหนักไว้ ว่าท่านผู้สมัยใหม่มิได้มองความหมายและมิได้คิดเข้าใจอะไรๆ อย่างตน



อ้างถึง

หาความรู้กันก่อนให้ชัดเจน
อย่าเพิ่งใส่ความคิดเห็นเข้าไป


ในการที่จะคิดเห็นพิจารณาเรื่องต่างๆ ให้ได้ผลดีนั้น ขั้นตอนหนึ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง คือการหาข้อมูลความรู้ ให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจนและเพียงพอ

ในขั้นตอนที่ว่านี้ จุดเน้นที่สำคัญยิ่งตอนหนึ่งก็คือ การรวบรวมและแสดงข้อมูลความรู้ให้ดูตามที่มันเป็น โดยไม่ใส่ความคิดเห็นหรือข้อวิจารณ์ใดๆ

เมื่อเกิดเหตุการณ์สำคัญขึ้นในบ้านเมือง หน้าที่อย่างหนึ่งของรัฐ ตลอดจนสื่อทั้งหลาย ก็คือ การเผยแพร่ข้อมูลความรู้ตามที่มันเป็น อันไม่เจือปนความคิดเห็นอย่างที่ว่านี้

เรื่องศาสนาประจำ ชาตินี้ก็เช่นกัน มีขั้นตอนสำคัญขั้นหนึ่ง คือ การแสวง และแสดงข้อมูลความรู้ ให้ผู้คนจะแจ้งถ่องแท้ชัดเจนตามที่มันเป็น เท่าที่จะเป็นไปได้ เมื่อประชาชนรู้แล้ว เขาจะคิดเห็นอย่างไร ก็ให้โอกาส และจะได้เป็นการเคารพต่อสติปัญญาของเขา

ในที่นี้ จะพูดถึงข้อมูลความรู้เกี่ยวกับเรื่องศาสนาประจำชาติ ไว้เป็นฐาน และเป็นทุน ที่จะใช้ในการคิดเห็นพิจารณาต่อไป

คำว่า "ศาสนาประจำชาติ" เราต้องเข้าใจตามที่สังคมภายนอกเขารู้และเข้าใจด้วย แล้วจะเทียบดูกับความรู้ความเข้าใจของตัวเราเองอย่างไร ก็พิจารณาเอา

พอพูดว่า "ศาสนาประจำชาติ" คนปัจจุบันก็มักนึกไปตามความหมายของฝรั่ง แต่มักนึกไปตามที่คิดเอาเอง โดยไม่รู้ว่าที่จริงนั้นฝรั่งหมายเอาความอย่างไร

ฝรั่งเรียกศาสนาประจำชาติโดยใช้คำว่า state relegion บ้าง official religion บ้าง

นอกจากนั้นยังมีคำที่มีความหมายใกล้เคียงอีก ได้แก่คำว่า national religion บ้าง national church บ้าง established church บ้าง

ประเทศที่มีศาสนาประจำชาตินั้นมีมากมาย ทั้งคริสต์ และอิสลาม ตลอดมาถึงพุทธศาสนา และศาสนาฮินดู

แต่ที่เหนือกว่าการเป็นศาสนาประจำชาติก็คือ เป็นประเทศของศาสนานั้นโดยตรง

ประเทศที่สถาปนาขึ้นเป็นดินแดนแห่งศาสนาโดยตรง เท่าที่พบ ก็มี

๑. รัฐอิสลามอัฟกานิสถาน (ประชากรมุสลิม ๙๙% = สุหนี่ ๘๔% ชีอะฮ์ ๑๕%)
[Islamic State of Afghanistan]

๒. สาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน (มุสลิม ๙๒% = สุหนี่ ๗๗% ชีอะฮ์ ๒๐%)
[Islamic Republic of Pakistan]

๓. สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน (มุสลิม ๙๙% = สุหนี่ ๖% ชีอะฮ์ ๙๓%)
[Islamic Republic of Iran]

๔. สาธารณรัฐอิสลามมอริเตเนีย (มุสลิม = สุหนี่ ๙๙%)
[Islamic Republic of Mauritania]

๕. สหพันธ์สาธารณรัฐอิสลามคอโมโรส (มุสลิม = สุหนี่ ๙๘%)
[Federal Islamic Republic of the Comoros]


ถัดลงมาคือประเทศที่มีศาสนาประจำชาติ ซึ่งก็เป็นประเทศมุสลิมมากที่สุด ได้แก่

๑. ซาอุดีอาระเบีย/Saudi Arabia (มุสลิม ๑๐๐% = สุหนี่ ๘๕% ชีอะฮ์ ๑๕%)
๒. โซมาเลีย/Somalia (มุสลิม ๙๙% แทบทั้งหมด = สุหนี่)
๓. ตูนิเซีย/Tunisia (มุสลิม ๙๙% ส่วนมาก = สุหนี่)
๔. โมร็อกโก/Morocco (มุสลิม ๙๘%)
๕. แอลจีเรีย/Algeria (มุสลิม ๙๖%)
๖. ลิเบีย/Libya (มุสลิม ๙๖% = สุหนี่)
๗. อียิปต์/Egypt (มุสลิม ๙๔% ส่วนมาก = สุหนี่)
๘. จอร์แดน/Jordan (มุสลิม ๙๓% แทบทั้งหมด = สุหนี่)
๙. คูเวต/Kuwait (มุสลิม ๘๕% = สุหนี่ ๔๕% ชีอะฮ์ ๔๐%)
๑๐. บาห์เรน/Bahrain (มุสลิม ๘๕% = สุหนี่ ๒๕% ชีอะฮ์ ๖๐%)
๑๑. มัลดีฟส์/Maldives (มุสลิม ๙๙% ส่วนมาก = สุหนี่)
๑๒. บังกลาเทศ/Bangladesh (มุสลิม ๘๖% ฮินดู ๔๖%)
๑๓. บรูไน/Brunei (มุสลิม ๖๔-๖๗% พุทธ ๙-๑๔% คริสต์ ๘-๑๐% อื่นๆ ๙-๑๙%)
๑๔. มาเลเซีย/Malaysia (มุสลิม ๔๘% คริสต์ ๘% พุทธ ๗% ฮินดู ๗% อื่น ๓๐%)


สำหรับประเทศซาอุดีอาระเบีย มีข้อที่ควรทำความเข้าใจพิเศษว่า แม้จะจัดเข้าในกลุ่มประเทศที่มีศาสนาอิสลามเป็นศาสนาประจำชาติ แม้ว่าจะไม่ได้เรียกชื่อประเทศว่าเป็นรัฐอิสลาม หรือสาธารณรัฐอิสลาม (ชื่อทางการเรียกว่า ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย/Kingdom of Saudi Arabia) แต่รัฐประกาศิตได้ตราไว้ว่า ซาอุดีอาระเบีย เป็น Islamic State คือเป็นรัฐอิสลาม และบัญญัติให้พระคัมภีร์อัลกุรอ่าน พร้อมทั้งซุนนะฮ์ (Sunnah) เป็นรัฐธรรมนูญ โดยให้ประเทศใช้กฎหมายอิสลาม

ชาวซาอุดีอาระเบียส่วนใหญ่ถือปฏิบัติตามหลักศาสนาอิสลามนิกายสุหนี่อัน เคร่งครัด ที่เรียกว่าลัทธิวาฮ์หะบี (Wahhabism) มีตำรวจศาสนาที่เรียกว่า "มุตอวีน" (mutawwiin) คอยตรวจตรากำกับให้ประชาชนปฏิบัติตามข้อบัญญัติ เช่นให้ร้านค้าปิดในเวลาละหมาด เป็นต้น ประชากรที่มีสัญชาติซาอุดีอาระเบียเป็นมุสลิมทั้งหมดทั้งสิ้น คนที่มิใช่เป็นมุสลิมเป็นคนต่างชาติเท่านั้น

มีขบวนการมุสลิมที่เคร่งครัดในหลายประเทศต่อสู้เพื่อให้ประเทศของตนเป็นรัฐ อิสลาม และใช้กฎหมายอิสลาม ตัวอย่างในระยะใกล้ๆ นี้ ก็เช่น อียิปต์ แอลจีเรีย และอินโดนีเซีย

(โดยเปรียบเทียบ กล่าวกันว่า ในอินโดนีเซีย ที่มีประชากรมุสลิม ๘๕% ชาวมุสลิมที่นั่นมีความเคร่งครัดหย่อนกว่าในที่อื่นๆ และมีขบวนการที่เรียกว่ากบฏ ในรัฐอาเจะฮ์/Acheh/Aceh ซึ่งได้ต่อสู้กับรัฐบาลมาหลายสิบปีแล้ว เพื่อให้อินโดนีเซียเป็นรัฐอิสลาม หรือไม่ก็แบ่งแยกตัวออกไป)

กฎหมายอิสลาม คือชาริอะ (Sharia) มีบทบัญญัติที่เคร่งครัด เช่น ในทางอาญา ใช้การลงโทษแบบที่เรียกว่าตาต่อตา ฟันต่อฟัน มีโทษที่กำหนดแน่ว่า ถ้าลักของเขา ให้ตัดมือเสีย ถ้าปล้นตามหนทาง ให้ประหารชีวิต ถ้าละทิ้งศาสนา ให้ประหารชีวิต ถ้าสตรีมีชู้ ให้มัดไว้กลางที่ชุมชน และให้คนที่ผ่านไปมา เอาก้อนหินขว้างปาจนกว่าจะตาย ถ้าถูกกล่าวหาว่าล่วงละเมิดทางเพศ ก็ดี ดื่มสุรายาเมา ก็ดี ให้เฆี่ยน ๘๐ ที (รายละเอียดและการใช้ถ้อยคำที่ชัดเจน ต้องขอตรวจสอบกับเอกสารของวงการศาสนาอิสลามอีกที)

ประเทศที่มีศาสนาคริสต์เป็นศาสนาประจำชาติก็มีไม่น้อย แต่มักจะระบุชื่อนิกายใดนิกายหนึ่ง เป็นศาสนาประจำชาติ
มากกว่าจะออกชื่อศาสนาคริสต์


ขอยกมาให้ดู

สหราชอาณาจักร/United Kingdom (แองกลิแคนคือนิกายอังกฤษ ๔๕% โรมันคาทอลิก ๑๐% โปรเตสแตนต์อื่น ๙%)
ศาสนาประจำชาติเป็นนิกายโปรเตสแตนต์ แห่งนิกายย่อย ๒ ศาสนจักร คือ ศาสนจักรนิกายอังกฤษ (Church of England) และศาสนจักรนิกายสกอตแลนด์ (Church of Scotland) แต่กษัตริย์อังกฤษต้องนับถือนิกายอังกฤษ และเป็นประมุขของนิกายอังกฤษนั้น

มอลตา/Malta (โรมันคาทอลิก ๙๕%)
มีศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก เป็นศาสนาประจำชาติ

โมนาโก/Monaco (โรมันคาทอลิก ๙๐%)
มีศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก เป็นศาสนาประจำชาติ

แอนดอร์รา/Andorra (โรมันคาทอลิก ๘๙%)
มีศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก เป็นศาสนาประจำชาติ

นอร์เวย์/Norway (โปรเตสแตนต์ ๘๘% โรมันคาทอลิก ๑%)
มีศาสนาคริสต์นิกายลูเธอแรน เป็นศาสนาประจำชาติ

สวีเดน/Sweden (โปรเตสแตนต์ ๖๘-๙๔% โรมันคาทอลิก ๑.๕-๒%)
มีศาสนาคริสต์นิกายลูเธอแรน เป็นศาสนาประจำชาติ (แต่ได้ยกเลิกไปแล้วเมื่อ ค.ศ.2000/พ.ศ.๒๕๔๓)

ฟินแลนด์/Finland (โปรเตสแตนต์ ๘๖-๘๘% ออร์โธดอกซ์ ๑.๑% โรมันคาทอลิก ๐.๑%)
มีศาสนาคริสต์นิกายลูเธอแรนและออร์โธดอกซ์ เป็นศาสนาประจำชาติ

เดนมาร์ก/Denmark (โปรเตสแตนต์ ๘๘% โรมันคาทอลิก ๑%)
มีศาสนาคริสต์นิกายลูเธอแรน เป็นศาสนาประจำชาติ

กรีนแลนด์/Greenland
มีศาสนาคริสต์นิกายลูเธอแรน เป็นศาสนาประจำชาติ

กรีซ/Greece (กรีกออร์โธดอกซ์ ๙๔%)
มีศาสนาคริสต์นิกายกรีกออร์โธดอกซ์ เป็นศาสนาประจำชาติ

เอธิโอเปีย/Ethiopia (เอธิโอเปียนออร์โธดอกซ์ ๓๖% โปรเตสแตนต์ ๑๔% มุสลิม ๓๐%)
มีศาสนาคริสต์นิกายเอธิโอเปียนออร์โธดอกซ์ เป็นศาสนาประจำชาติ

ยังมีประเทศอื่นๆ ที่เคยมีศาสนาคริสต์เป็นศาสนาประจำชาติ แต่ประสบความเปลี่ยนแปลงในประวัติศาสตร์แล้วพ้นภาวะนั้นไป เช่น อาร์เมเนีย/Armenia (เป็นชนชาติที่ถือว่าตนนับถือศาสนาคริสต์เป็นศาสนาประจำชาติก่อนใครอื่น ตั้งแต่ต้น ค.ศต.4 ปัจจุบันมีชาวคริสต์ ๘๓%) และ ยูเครน/Ukraine (นับถือศาสนาคริสต์เป็นศาสนาประจำชาติตั้งแต่ ค.ศ.988 ปัจจุบันมีชาวคริสต์ ๖๕%) ซึ่งได้เข้ารวมในสหภาพโซเวียต (เป็นคอมมูนิสต์) อยู่นาน จนเพิ่งพ้นออกมาเมื่อสหภาพโซเวียตนั้นสลายในปี 1991/๒๕๓๔)

ฮังการี/Hungary (โรมันคาทอลิก ๖๓% แคลวินิสต์และลูเธอแรน ๒๕%) ก็มีศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก เป็นศาสนาประจำชาติตั้งแต่ ค.ศ.1000 แต่ต่อมาได้ถูกต่างชาติปกครอง และระหกระเหินมาจนกลายเป็นประเทศคอมมูนิสต์บริวารของสหภาพโซเวียต แล้วมาเข้าสู่ระบบประชาธิปไตยอีกในปี 1990/๒๕๓๓

ประเทศอิสราเอล/Israel (ยิว ๗๗% มุสลิม ๑๒%) รู้กันว่าเป็นประเทศเดียวที่มีศาสนายิว (Judaism) เป็นศาสนาประจำชนชาติ


ต่อไป ประเทศที่มีศาสนาฮินดูประจำชาติ
ได้แก่


ประเทศเนปาล (ฮินดู ๘๖% พุทธ ๘% มุสลิม ๔%)

ส่วนประเทศที่มีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ ได้แก่

๏ ภูฏาน/ภูฐาน/Bhutan (พุทธ ๗๔% ฮินดู ๒๑%)

๏ กัมพูชา/Cambodia (พุทธ ๘๕% มุสลิม ๒%)

๏ ลาว/Laos (พุทธ ๖๐% อื่นๆ ๔๐%)


สิกขิม/Sikkim เคยเป็นประเทศเอกราชและมีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ แต่ปัจจุบันสิกขิมได้เข้ารวมเป็นรัฐที่ ๒๒ ของอินเดียแล้ว

ที่ว่ามานี้เป็นข้อมูลข้อเท็จจริงที่จำเป็นต้องรู้ ยกมาให้อ่านให้ดูกันเพียงเป็นตัวอย่าง เรื่องที่ควรรู้ยังมีอีกมาก ถ้าต้องการพูดและปฏิบัติต่อสถานการณ์ให้ถูกต้องจะต้องหาความรู้กันให้จริงจัง จึงขอให้ท่านผู้หวังดีต่อส่วนรวมค้นหามาบอกกัน ไม่ใช่แค่พูดกันไปเรื่อยๆ เปื่อยๆ ว่า สังคมยุคไอทีเป็นสังคมแห่งความรู้

ถ้ามีข้อมูลเป็นฐานไว้พรั่งพร้อมดีแล้ว ต่อไปจะคิดเห็นจะพูดจะทำการใดๆ ก็จะศักดิ์สิทธิ์สัมฤทธิผลจริง ปาฏิหาริย์จึงจะเกิดขึ้นได้




http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=10062


เมื่อประชาธิปไตยที่ไม่ประสีประสา มาเจอปัญหาศาสนาประจำชาติ
http://www.dhammathai.org/sounds/pa_payutto/policybud.php

พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)
วัดญาณเวศกวัน อ.สามพราน จ.นครปฐม
บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
ScaRECroW
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,000


สุสูสัง ลภเต ปัญญัง - ผู้ฟังดี ย่อมเกิดปัญญา


เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 08-06-2007, 09:26 »

ถ้าบรรจะศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติไว้ในรัฐธรรมนูญ ก็จะต้องบรรจุสิ่งเหล่านี้ไว้ในรัฐธรรมนูญด้วย

1 ไคโยตี้ เป็นการเต้นของสาววัยรุ่นประจำชาติ
2 อาบอบนวด เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของผู้ชายประจำชาติ
3 ตะขบเป็นผลไม้พื้นเมืองประจำชาติ
4 ปลาร้าเป็นอาหารพื้นเมืองประจำชาติของคนภาคอิสาน
5 ขี้ เป็นอาวุธปาหน้าคนปากเสีย ประจำชาติ
6 ตั๊กแตน เป็นอาหารทอดยอดนิยมประจำชาติ

ยังมีอีกแต่นึกยังไม่ออก
บันทึกการเข้า

Politic is nothing but the continuation of [the sin of] 7 by other means.

ท่านคิดว่า นรม. ควรทำอย่างไรเมื่อพบว่ากฏหมายบางฉบับมีช่องโหว่?
ก.ใช้อำนาจ นรม.ที่ได้รับมาจากประชาชนแก้กฏหมายเพื่อปิดช่องโหว่เหล่านั้น เพราะเป็นประโยชน์ของแผ่นดิน
ข.ฉวยโอกาสใช้ช่องโหว่เหล่านั้นเพื่อประโยชน์ของตนเองและคนรอบข้าง แล้วก็อ้างว่าคนอื่นเขาก็ทำกัน
THE THIRD WAY
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,821


Love looks not with eyes, but with the mind.


« ตอบ #3 เมื่อ: 08-06-2007, 09:49 »

ตั้งแต่สุโขทัย
อยุธยา
ลพบุรี
มาธนบุรี
ยุคสมัยนี้เป็นกทม.

กี่ร้อยกี่พันปี
เราไม่เคยมีปัญหานี้
พยามมมมมมมมมมมเหลือเกินที่จะให้เป็นปัญหา


ถามว่าคนที่เป็นพุทธน่ะ พุทธแค่ไหน
พุทธแค่ในทะเบียนบ้านใช่หรือเปล่า?
พุทธต้องวัตรปฏิบัติเพื่อบรรเทา
เหตุมัวเมาให้หายไป นั่นแหละพุทธ

 
บันทึกการเข้า

ความรักนั้นหวาน ไม่ว่าจะรับหรือให้
************************
การขับไล่ทรราช เป็นภารกิจของเจ้าของประเทศ
irq5
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,149



« ตอบ #4 เมื่อ: 08-06-2007, 11:02 »

 

ทีตอนให้เลิกจำหน่ายเหล้าหละ ไม่ยุ่งกัน


ถ้าหากว่าบัญญัติศาสนาพุทธ  ต้องดังนี้ด้วยครับ
   ฆ่าสัตว์ผิดกฎหมาย ยกเว้นผู้ได้รับอนุญาติ ในโรงฆ่าสัตว์
   ห้ามจำหน่ายของมึนเมาทุกชนิดในราชอาณาจักร  หรือ ใครเมาจนขาดสติอยู่บ้านก็ติดคุก
   
บันทึกการเข้า

.:MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMddMMMs..
.:MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMssMMMMs..
.:Mddddddddddddddddddddddddddo+ddddNs..
.:M................................................hs..
.:M.............//:................//:.............hs..
.:M...........:MMs.............NMd............hs..
.:M................................................hs..
.:M................................................hs..
.:M.............yNNNNNNNNNN................hs..
.:M.................................................hs..
.:dyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyho..

....W..W::W:...AAA...NN...N...TTTTT..EEEEE...DDD..........
.....Ww.wW...AAAA..N..N..N......T.....EEE......D....D.......
.....-W...W...A......A N....NN......T.....EEEEE...DDD..........
. . . . . . . . . . . . thaksin shinawatra
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 08-06-2007, 11:14 »

เอาศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติเพื่ออะไร 

คนไทยอยู่กันมาโดยไม่มีการระบุเรื่องนี้มาเป็นร้อยปี ก็อยู่ได้ แล้วมาวันนี้ บอกว่า ถ้าไม่ระบุ จะเสียโน่น เสียนี่ ผมว่ามันไร้สาระนะ

เอางี้ ถ้าอยากระบุนัก งั้นก็ออกกฎหมายลูกออกมาด้วยว่า เงินบริจาคเข้าวัดทั้งหมด วัดจะต้องส่งเข้าคลัง แล้วให้คลังเป็นผู้จัดสรรค์เงินบำรุงวัดเหล่านั้น ให้ทุกวัดได้รับอย่างเสมอภาคกัน โอเค้ (หลายๆวัดจะได้ออกมาดิ้นพราดๆ เป็นใส้เดือนถูกน้ำร้อนลวก โดยเฉพาะไอ้วัดจานบินนั่น  )

กฎหมายลูกอันที่ 2 ประชาชนชาวไทย จะต้องนับถือศีล 5 อย่างเคร่งครัด ห้ามละเมิดศีลทั้ง 5 ข้อนี้ ร้านเหล้า ผับ บาร์ ทั้งหมดต้องปิด ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทุกชนิด ใครโกหก มีโทษจำคุก หรือ ปรับ ใครละเมิดศีล 5 ผิดกฎหมาย ติดคุก 
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
T
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #6 เมื่อ: 08-06-2007, 11:15 »

จขกท.รับจ้างสำนักจานบินหรือสำนักแม้วมาให้ร้ายศาสนาอื่นรึเปล่าเนี่ย Evil or Very Mad

ถ้าใช่ดูสำนักตัวเองก่อนละกัน กำลังบ่อนทำลายศาสนาพุทธเต็มที่(ตัวจริง)  Mr. Green Mr. Green Mr. Green

ผมกลัว ธรรมกาย จะกลายเป็นศาสนาประจำชาติมากกว่านะ
บันทึกการเข้า
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 08-06-2007, 16:50 »

จขกท.รับจ้างสำนักจานบินหรือสำนักแม้วมาให้ร้ายศาสนาอื่นรึเปล่าเนี่ย Evil or Very Mad

ถ้าใช่ดูสำนักตัวเองก่อนละกัน กำลังบ่อนทำลายศาสนาพุทธเต็มที่(ตัวจริง)  Mr. Green Mr. Green Mr. Green

ผมกลัว ธรรมกาย จะกลายเป็นศาสนาประจำชาติมากกว่านะ

เห็นด้วย เดี๋ยวได้ไปแก้พระไตรปิฎกให้พระนิพพานเปลี่ยนจากอนัตตา เป็นอัตตา ซะงั้น
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: 08-06-2007, 17:05 »



เพิ่มโทษและเอาจริง คนที่ทำผิดกฎหมาย จริยธรรมก็สูงขึ้นเอง ศาสนาเปิดกว้างปลอดภัยกับสังคมมากกว่า

หากไม่ทำให้คนคลั่งจนยอมทำผิดกฎหมายทั่วไปนะครับ

เพราะไม่มีตัวอย่างเลวให้เห็นตำตาตั้งแต่เด็กและอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี
บันทึกการเข้า

morning star
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,119


don't let them make up your mind


« ตอบ #9 เมื่อ: 08-06-2007, 17:10 »


ชาวพุทธที่ดีควรปล่อยวางนะครับ
บันทึกการเข้า

อย่าเดินตามใคร เพราะเรามีจุดมุ่งหมายของเราเอง
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 08-06-2007, 17:10 »


อ้ออีกนิดนึง อย่าไปยอมแก้กฎหมายจนหลักศีลธรรมบิดเบี้ยว..

เช่น ต้องไม่ยอมให้มีโสเภณีถูกกฎหมาย ควรมีกฎหมายคุ้มครองหญิงที่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากแมงดามากกว่า

จะต้องมีกฎหมายคุ้มครองด้านข้อมูลของผู้ที่ถูกบังคับให้ค้าประเวณี

ส่วนที่สมัครใจค้า ต้องลงโทษด้วยวิธีคุมประพฤติครับ..

                                                                                 
บันทึกการเข้า

ทองเปลว(ไม่ล็อกอิน)
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #11 เมื่อ: 09-06-2007, 10:11 »

เมื่อ สสร.ไม่เอาพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ ชาวพุทธจะทำอย่างไร?[/size]

ควรจะเข้าวัดที่ดีเพื่อฟังธรรมขัดเกลาจิตใจให้สะอาด
บันทึกการเข้า
abhichartt
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 79


ความคิดเห็นส่วนบุคคล*


« ตอบ #12 เมื่อ: 09-06-2007, 16:25 »

ถ้ารัฐธรรมนูญนี้ไม่ดี
แสดงว่าฉบับ 40 ก็เลวร้ายเลยหล่ะครับ

เพราะฉบับนี้แก้ไขจากปี40 หนิ
บันทึกการเข้า

● politics is all around ●
Anthony
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 296



« ตอบ #13 เมื่อ: 10-06-2007, 13:18 »

เลวไม่มีที่ติเลย จขกท.

เห็นแก่เศษเงินเล็กน้อย ปั้นข่าวลวงบ่อนทำลายชาติ อย่ามาเป็นคนไทยให้เสียชาติเกิดเลย ไปอยู่กับไอ้แม้วไป๊
บันทึกการเข้า

ขอต่อต้านสื่อชั่วอย่าง ไทยรัฐ โลกวันนี้ และประชาทรรศน์

คนไทยจะฉลาดขึ้นต้องเลิกบริโภคสื่อในเครือเหล่านี้ทั้งหมด
pig
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #14 เมื่อ: 12-06-2007, 01:01 »

ศาสนาพุทธนั้นเป็นศาสนาที่มีเหตุมีผลและเป็นศาสนาแห่งปัญญาครับ


เป็นศาสนาที่มีคุณค่าและให้ผลกับผู้ปฏิบัติธรรมโดยตรง ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีกฎหมายหรือระเบียบบังคับให้เชื่อถือแต่อย่างใด


ผมคิดว่าเราอยากให้ประเทศไทยปกครองด้วยระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย มากกว่าอยากให้ประเทศเราโน้มเอียงไปทางระบอบศาสนจักร


ชาวพุทธที่ดีควรมีความเข้าใจในเรื่องนี้อย่างชัดเจนครับ


ไม่ใช่ว่าจะต้องให้รัฐธรรมนูญระบุว่าประเทศไทยต้องมีศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติตามที่ตนเองต้องการ


มิเช่นนั้นจะเกิดการนองเลือด-จะสละชีพ


อันนี้ไม่น่าจะเป็นแนวความคิดแบบศาสนาพุทธแล้ว


ผมเชื่อว่าชาวพุทธตัวจริงมีความเข้าใจศาสนาอย่างลึกซึ้งเพียงพอที่จะไม่สร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้นด้วยเงื่อนไขเพียงไม่กี่คำในรัฐธรรมนูญ


ผมเองปราวนาตนเองว่าไม่ว่าชาติภพใดจะขอนับถือองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าสูงสุดและได้เกิดมานับถือพุทธศาสนาทุกชาติไป


แต่ผมก็ไม่ได้อยากให้มีตัวอักษรบนรัฐธรรมนูญสักบรรทัดเดียวที่ระบุว่าศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติของประเทศไทยเพียงศาสนาเดียว


ผมคิดว่าเป็นการจำกัดสิทธิและสุดโต่งครับ


ถ้ารักศาสนาพุทธจริง  ผมว่าร่วมมือร่วมใจกันออกมาเบรคกระแสจตุคามฟีเวอร์  ดึงชาวพุทธแต่เปลือกให้กลับมาเข้าใจศาสนาอย่างที่ถูกที่ควรจะดีกว่า


รักศาสนากันแบบไหนถึงยอมให้พระสงฆ์องค์เจ้า ( สมมุติสงฆ์ทั้งนั้นแหละ ) เซ็งลี้หากินกันกับการปลุกเสกองค์จตุคามจำหน่ายกันครึกโครม


เป็นพุทธแท้กันแน่หรือครับ ?
บันทึกการเข้า
monology
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4


« ตอบ #15 เมื่อ: 14-06-2007, 11:52 »

แนวความคิดแบบนี้ผมเห็นมาหลายครั้งแล้ว น่าเบื่อมาก
ส่วนใหญ่ก็เนื้อหาเดิมๆ โจมตีประธาน คมช. โดยใช้ประเด็นศาสนา

ไม่ต้องกลัวหรอกครับว่า อิสลามจะมาแทนพุทธ
และถ้าเกิดว่า มีการบังคับให้อิสลามมาเป็นศาสนาประจำชาติ คุณก็ไม่ต้องกลัวว่าคนไทยพุทธจะนิ่งเฉยหรอกครับ

ถ้าอยากให้ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ
คุณต้องเล่นให้ถูกจุดครับ

เสนอมาเลยว่าถ้ากำหนดแล้ว จะจัดการพระสงฆ์ที่ออกนอกลู่นอกทางอย่างไร มีนโยบายอะไรที่ทำให้ประชาชนไม่งมงายในไสยศาสตร์ โชคลางของขลัง

ส่วนตัวผมไม่คิดว่า อิสลามจะมาแทนที่พุทธได้หรอกครับ
แต่พราหมณ์นี่ไม่แน่

และถ้าเอาจตุคามมาเป็นเครื่องมือระดับชาตินี่ บ่อนทำลายพระพุทธศาสนาตัวจริงเลย
บันทึกการเข้า
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #16 เมื่อ: 15-06-2007, 12:00 »

"เพราะรัฐธรรมนูญทั้งหมดที่ร่างออกมา เป็นการวางแผนของเผด็จการที่นับถือศาสนาอิสลามที่จะยึดครองประเทศไทย เพื่อจะเปลี่ยนแปลงจากพุทธให้เป็นอิสลามทั้งประเทศ เขาจึงพยายามทำทุกวิถีทางโดยอาศัยอำนาจทางการเมืองเพื่อไม่ให้พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ "

คิดด้วยสติปัญญาแบบไหน ครับพี่เอก


จะบรรจุศาสนาพุทธไว้ในรัฐธรรมนูญหรือไม่ ผมไม่เห็นจะเดือดร้อน อะไร .......ผมงงจริง ๆ ที่เอาเรื่องนี้มาเป็นประเด็น.......

พี่เอกอยู่มาได้ไงจนป่านนี้ครับ........ตั้งแต่เกิดมา จนถึงเดี๋ยวนี้ ไม่เห็นรัฐธรรมนูญฉบับไหน ทำอย่างที่ว่าซักที........
บันทึกการเข้า
CARLOS
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 46


« ตอบ #17 เมื่อ: 18-06-2007, 01:08 »

ป๋ม  ว่าจะเอา ศาสนา อิสลาม เป็นศาสนาประจำชาติ นะ  จะได้ช่วยลดความขัดแย้ง   ใน3จังหวัดชายแดนภาคใต้

เผื่อ  ความสมาฉันท์ ของบ้านเมืองนู๋  ยอม   เดี่ยวไป  กระซิป  เปรม  ดีกว่า <น่าจะกระซิปได้นะ เพราะไม่มีเชื้อเจ้า>

กบฎ สนธิ  บุญรัตกริน   ประธาน คมช   ผบ ทบ.
อารีย์  วงอารยะ            รมต  มหาดไทย
อภิรักษ์  โกษะโยธิน      ผู้ว่า กทม
อัคราทร  จุรารัตน์         ประธานศาลฎีกา
อิสลามล้วนๆ  วะฮ่าๆๆๆ

อาราหังสัมมา  สัมพุธโธ  ภัควา 
บันทึกการเข้า
morning star
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,119


don't let them make up your mind


« ตอบ #18 เมื่อ: 18-06-2007, 05:17 »

ป๋ม  ว่าจะเอา ศาสนา อิสลาม เป็นศาสนาประจำชาติ นะ  จะได้ช่วยลดความขัดแย้ง   ใน3จังหวัดชายแดนภาคใต้

เผื่อ  ความสมาฉันท์ ของบ้านเมืองนู๋  ยอม   เดี่ยวไป  กระซิป  เปรม  ดีกว่า <น่าจะกระซิปได้นะ เพราะไม่มีเชื้อเจ้า>

กบฎ สนธิ  บุญรัตกริน   ประธาน คมช   ผบ ทบ.
อารีย์  วงอารยะ            รมต  มหาดไทย
อภิรักษ์  โกษะโยธิน      ผู้ว่า กทม
อัคราทร  จุรารัตน์         ประธานศาลฎีกา
อิสลามล้วนๆ  วะฮ่าๆๆๆ

อาราหังสัมมา  สัมพุธโธ  ภัควา 

เป็นคนไทย แล้วจะนับถือพระเจ้าไม่ได้หรือไง? ...
บันทึกการเข้า

อย่าเดินตามใคร เพราะเรามีจุดมุ่งหมายของเราเอง
irq5
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,149



« ตอบ #19 เมื่อ: 18-06-2007, 08:10 »

 

สองศาสนาที่เกี่ยวข้องกับการเมือง คือ อิสลาม และ คริตส์ ครับ

เพราะสองศาสนานี้ มีบัญญัติการปกครองครับ

อย่างเช่นมาเลเซีย เมื่อก่อน ใช้ศาสนาอิสลามเป็นแกน  ห้ามคนอิสลามกินเหล้าเด็ดขาด

คนศาสนาอื่น กินได้แต่ห้ามให้ตำรวจเห็น (กินในบ้านได้ ไม่มีการบุกจับ แต่เดินเมาโดนแน่)



ส่วนของพุทธ  จะทำไงดี คนพุทธถ้าผิดศีล ต่างๆ โดนจับหรือไม่

อิอิ ถ้าได้จริงและมีผลย้อนหลัง ทักษิณคงโดนไปเยอะครับ โดยเฉพาะข้อมุสา มีหลักฐานพยายานเต็มเลย
บันทึกการเข้า

.:MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMddMMMs..
.:MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMssMMMMs..
.:Mddddddddddddddddddddddddddo+ddddNs..
.:M................................................hs..
.:M.............//:................//:.............hs..
.:M...........:MMs.............NMd............hs..
.:M................................................hs..
.:M................................................hs..
.:M.............yNNNNNNNNNN................hs..
.:M.................................................hs..
.:dyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyho..

....W..W::W:...AAA...NN...N...TTTTT..EEEEE...DDD..........
.....Ww.wW...AAAA..N..N..N......T.....EEE......D....D.......
.....-W...W...A......A N....NN......T.....EEEEE...DDD..........
. . . . . . . . . . . . thaksin shinawatra
ลูกหินฮะ๛
Moderator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,099


เสียเข็มขัด อย่าเสียกุงเกง


« ตอบ #20 เมื่อ: 18-06-2007, 08:56 »

ม่ายทราบ.. ไม่ได้ติดตามข่าวนี้
เพราะลูกหิน เป็น เจได ..หน่ะฮะ


บันทึกการเข้า

  ... ... ... 
T
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #21 เมื่อ: 18-06-2007, 09:48 »

คนพวกนี้ก็ยังดีกว่า พ่อ CARLOS ที่เป็น มหาโจรโกงชาติ แล้วกัน คิดล้ามสถาบันเบื้องสูง

บันทึกการเข้า
CARLOS
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 46


« ตอบ #22 เมื่อ: 18-06-2007, 13:12 »

เป็นคนไทย แล้วจะนับถือพระเจ้าไม่ได้หรือไง? ...
ไม่มีใครไป ว่า นิ 
บันทึกการเข้า
CARLOS
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 46


« ตอบ #23 เมื่อ: 18-06-2007, 13:15 »

คนพวกนี้ก็ยังดีกว่า พ่อ CARLOS ที่เป็น มหาโจรโกงชาติ แล้วกัน คิดล้ามสถาบันเบื้องสูง


นี้คือ1ตัวอย่างที่  อิง  เบื้องสูง  หุหุ
บันทึกการเข้า
taecu
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 63



« ตอบ #24 เมื่อ: 18-06-2007, 13:42 »

มีแต่ไอ้พวกอยู่แต่เปลือกศาสนา

แก่นของศาสนาคืออะไร

หันปล่อยวางซะบ้าง

ชีวิตคงจะมีความสุขกว่านี้เยอะ

ทำไง ก็พวกนั้นรับเงินมาแล้ว นิ

อิ อิ บางคนกลัวไม่ได้ขึ้นสวรรค์ ตลกชะมัด เนี้ยเหรอจะมาเรียกร้อง - -
บันทึกการเข้า

เราต้องการความจริงจากท่าน
ไม่ใช่ต้องการคำโกหกจากท่าน
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #25 เมื่อ: 18-06-2007, 13:47 »

ทำตัวเองให้เป็นพุทธศาสนิกชนที่ดี
ปฏิบัติตามคำสั่งสอนขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้นก็พอแล้ว
บันทึกการเข้า
T
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #26 เมื่อ: 18-06-2007, 16:13 »

นี้คือ1ตัวอย่างที่  อิง  เบื้องสูง  หุหุ

อ๋อ ลองไปดูตัวอย่างเว็บ prachatai , nocoup ได้เลยสิ จะได้รู้ว่าที่ผมบอกนะจริง
ถ้าไม่ยอมรับว่าจริง ก็ต้องบอกได้เลยว่ามีพฤติกรรมเช่นนั้นจริง
ว่าแต่ carlos ยอมรับได้มั้ยละ
บันทึกการเข้า
morning star
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,119


don't let them make up your mind


« ตอบ #27 เมื่อ: 18-06-2007, 21:36 »

อ้างถึง
ป๋ม  ว่าจะเอา ศาสนา อิสลาม เป็นศาสนาประจำชาติ นะ  จะได้ช่วยลดความขัดแย้ง   ใน3จังหวัดชายแดนภาคใต้

เผื่อ  ความสมาฉันท์ ของบ้านเมืองนู๋  ยอม   เดี่ยวไป  กระซิป  เปรม  ดีกว่า <น่าจะกระซิปได้นะ เพราะไม่มีเชื้อเจ้า>

กบฎ สนธิ  บุญรัตกริน   ประธาน คมช   ผบ ทบ.
อารีย์  วงอารยะ            รมต  มหาดไทย
อภิรักษ์  โกษะโยธิน      ผู้ว่า กทม
อัคราทร  จุรารัตน์         ประธานศาลฎีกา
อิสลามล้วนๆ  วะฮ่าๆๆๆ

อ้างถึง
อ้างถึง
อ้างจาก: morning star ที่ วันนี้ เวลา 05:17
เป็นคนไทย แล้วจะนับถือพระเจ้าไม่ได้หรือไง? ...
ไม่มีใครไป ว่า นิ 


พูดจากแดกดันตั้งแต่แรก ..แล้วบอกว่าไม่ได้ว่าอะไร ...มีคนนิสัยยังงี้ประเทศไทยถึงไม่เจริญ
บันทึกการเข้า

อย่าเดินตามใคร เพราะเรามีจุดมุ่งหมายของเราเอง
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #28 เมื่อ: 20-06-2007, 15:29 »

ป๋ม  ว่าจะเอา ศาสนา อิสลาม เป็นศาสนาประจำชาติ นะ  จะได้ช่วยลดความขัดแย้ง   ใน3จังหวัดชายแดนภาคใต้

เผื่อ  ความสมาฉันท์ ของบ้านเมืองนู๋  ยอม   เดี่ยวไป  กระซิป  เปรม  ดีกว่า <น่าจะกระซิปได้นะ เพราะไม่มีเชื้อเจ้า>

กบฎ สนธิ  บุญรัตกริน   ประธาน คมช   ผบ ทบ.
อารีย์  วงอารยะ            รมต  มหาดไทย
อภิรักษ์  โกษะโยธิน      ผู้ว่า กทม
อัคราทร  จุรารัตน์         ประธานศาลฎีกา
อิสลามล้วนๆ  วะฮ่าๆๆๆ

อาราหังสัมมา  สัมพุธโธ  ภัควา 

ไปเอาข้อมูลทมาจากไหนที่ ผู้ว่าฯ อภิรักษ์ เป็นอิสลาม
เขาแก้ข่าวกันไปตั้งแต่ตอนลงสมัครรับเลือกตั้งแล้ว

กลับไปทบทวนข้อมูลมาใหม่ครับ 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
samepong(ยุ่งแฮะ)
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,402



« ตอบ #29 เมื่อ: 20-06-2007, 20:17 »

สงสัย จขกท. ไม่ได้นับถือศาสนาพุทธ

ผมเรียนมาตั้งแต่เด็ก รู้มาตั้งแต่เด้ก ว่า ศาสนาเราสนอให้ปล่อยวาง ทุกอย่าง ไม่ใช่ของเรา ตัวเรา เป้นอนัตตา แล้วเราอยากได้อะไรในความไม่เที่ยงหละ ถ้าไม่บรรจุก็ปลง แล้วก้ปล่อยวาง

คุณอยากให้รัฐธรรมนูยบัญญัติว่า ศาสนาพุทธเป็นศาสนาปรจำชาติ หรือคุณจะปฎิบัติตนให้ศาสนาพุทธเป้นศาสนาประจำใจ คุณก็เลือกเอาแล้วกัน

ปล.ในใจอยากให้บรรจุเหมือนกันแต่ถ้าไม่บรรจุก็ไม่เดือดร้อน เราก็ยังปฎิบัติธรรมอยู่ได้เช่นเดิมเค้าไม่ห้ามเรานี่
บันทึกการเข้า

เวลาจะพิสูจน์ความเชื่อ สักวัน ไม่ว่าความเชื่อนั้นจะถูกหรือผิด ผมขอรับไว้ด้วยตัวเอง คิเสียว่าทำแล้วเสียใจดีกว่าเสียใจที่ไม่ได้ทำ
สันติ
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #30 เมื่อ: 14-08-2007, 01:14 »

ก็บัญญัติ ให้อิสลาม เป็นศาสนาประจำชาติไทย ซิครับ
ประเทศไทย จะได้สงบสุข
บันทึกการเข้า
::วิญญาณห้อง2::
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 656



เว็บไซต์
« ตอบ #31 เมื่อ: 14-08-2007, 08:13 »

คนตั้งกระทู้นี้ เป็นหนึ่งในกระบวนการ ของพวกฟักแม้ว
บันทึกการเข้า

--------this is the world-------
see - u
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,370


.......... I'm not Supergirl


« ตอบ #32 เมื่อ: 14-08-2007, 11:33 »

ก็บัญญัติ ให้อิสลาม เป็นศาสนาประจำชาติไทย ซิครับ
ประเทศไทย จะได้สงบสุข

น่ารำคาญ .... ไอ้พวกดีแต่ประชดประชัน  ไปวัน ๆ

    บอกตรง ๆ ว่า ....  โ ค ต ร เกลียด ...  เลยไอ้พวกชอบประชดแบบโง่ ๆ อย่างคุณคนที่เรา  quote มาเนี่ยยย

    ที่ผ่านมาตั้งนาน ๆๆๆๆๆๆๆ  ก่อนหน้านี้ก็ไม่เห็นจะป็นจะตายอะไรกันนี่นากะเรื่องนี้

    ทำไมตอนนี้ .. มันถึงกลายเป็นว่า  ต้องเป็น ศาสนา โน้น นี่  บรรจุลงไปนะ

    ศาสนาพุทธยังคงอยู่  แต่ที่เสื่อมลงไป เพราะ ส่วนหนึ่งมาจากการปฏิบัติตนของ พระ  บางรูป ( หลาย ๆ รูป ด้วย )  มิใช่หรือ ??

    แล้วถ้าไม่บรรจุแล้วมันจะล่มจมมั๊ย  ??  คือ  อย่าให้วิจารณ์มากเลยค่ะ  ด่า มาเยอะแล้วเรื่องนี้ !!

    จริง ๆ แล้วไม่เห็นต้องโยงเอาเรื่อง ศาสนา อะไรมาเกี่ยวกะความสงบสุขหรอก

    อย่าจับประเด็นทางการเมืองมาเอี่ยวกะทุกเรื่องสิ ....

    ถามคุณคนที่บอกว่า ... " ให้อิสลาม เป็นศาสนาประจำชาติไทย ซิครับ "  ว่า

    ถ้าคุณแวะมาอ่าน ทู้ นี้อีกรอบ ... ช่วยแสดงภูมิปัญญาอ้างอิงไอ้ที่เขียนเพิ่มเติมมาหน่อยสิ 


บันทึกการเข้า

    " I  will  unforgive  you  to  do  the  bad  thing  like  this. "   

                           

                        The  fox  changes  his  skin  but  not  his  habits.   *

                 Superman ( It's Not Easy )   >>  http://www.ijigg.com/songs/V2B7G4GPD
    
    
   "  กฏหมายต้องเดินหน้าเอาผิดต่อคนไม่ดี  ........  ไม่ใช่ปล่อยให้คนไม่ดีมากล่าวเอาโทษกฏหมาย  "

                                     
                                          
Tuba ✿゚✎..✿.。.:。ღ
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 660


ทักษิณที่ดี คือทักษิณที่.......ตายแล้ว


« ตอบ #33 เมื่อ: 14-08-2007, 12:41 »


พี่ พี่ ในรัฐธรรมนูญ ไม่เห็นบอกเลยว่าพ่อผมชื่อติ๊ด แล้วติ๊ด ไหน

ทำไมผมยังไหว้พ่อผมถูกเลยหละพี่???

ผมถามหน่อยเถอะ ถ้าบรรจุแล้ว พี่คิดว่าจะแก้ปัญหา พระขายยาบ้า ปิดกุฏิดูหนังโป๊ จนกระทั่งถึงพระเวียนเที่ยนบิณฑบาต ยังไงได้บ้าง?

รัฐธรรมนูญ อเมฯ มีอยู่ยี่สิบบรรทัด ไม่มีบอกสักนิดว่าต้องให้ คริสต์โปแตสแตนซ์ เป็นนิกายประจำชาติ ไม่ทันแม้แต่จะบอกด้วยซ้ำว่าต้องให้ศาสนาคริสต์ เป็นศาสนาประจำชาติ ผมก็ไม่เห็นเขามีปัญหาอะไรเลย

นอกจากพวกพะอันทวง ทั้งหลายแหละแล้ว ผมว่าศาสนาพุทธจะเป็นอันตรายก็เพราะพวกสมองตีบอย่างพี่นี่แหละครับ

ผมถามพี่หน่อยเถอะ ศีลห้าพี่ปฏิบัติครบทุกวันหรือเปล่าครับ?

ถ้า สสร. ไม่บรรจุพุทธศาสนาในรัฐธรรมนูญ แล้วพี่ปัญญาตีบทำตัวไม่ถูก พี่ก็ทำตัวแบบคุณ login not found ก็ได้ครับ

"ทำตัวเองให้เป็นพุทธศาสนิกชนที่ดี ปฏิบัติตามคำสั่งสอนขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้นก็พอแล้ว"
บันทึกการเข้า

ทหาร เป็นอะไรก็ไม่ได้ดี นอกจากเป็นทหาร

ตำรวจ เป็นอะไรก็ดีไม่ได้ แม้กระทั่งเป็นตำรวจ
สมปอง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,128



« ตอบ #34 เมื่อ: 14-08-2007, 12:46 »

อ่านมาไม่กี่บรรทัดก็ทะแม่งๆ แล้ว เกี่ยวอะไรกับอยากให้ประเทศเป็นอิสลาม ถ้าพุทธคนชอบกันก็นับถือพุทธวันยังค่ำ เปลี่ยนเป็นอิสลามไม่ได้หรอก กลับไปบอกคนที่จ้างมาโพสต์นะว่าให้คิดมุกใหม่ได้แล้ว มุกนี้ไม่workเลย
บันทึกการเข้า



ไม่มีดินผืนใดให้ไออุ่น เท่ากับดินที่คุณถือกำเนิด
ไม่มีดินผืนใดดูมั่นคง เท่ากับดินที่ลงสำมะโนครัว
ไม่มีดินผืนใดให้คุณเดิน เท่ากับดินที่คุณเดินตอนตั้งไข่
ไม่มีดินผืนใดมีความหมาย เท่าแผ่นดินสุดท้ายของเผ่าพันธุ์

ไม่มีเงินไม่มีทองยังไม่หมองเศร้า
มีแผ่นดินปลูกข้าวเราอยู่ได้
ไม่มีเงินไม่มีทองค่อยหาใหม่ บนแผ่นดินสุดท้ายของไทยทุกคน
หน้า: [1]
    กระโดดไป: