ทักษิณ มี Logic เป็นเลิศ ...
ทักษิณ ย้ำอย่างมั่นใจว่า
กฎหมาย ป ปง.มีผลย้อนหลังได้ "ทักษิณ" ลืมตัวถึงขนาดโต้กลับพร้อมหยิบประเด็น "โกงแชร์" มาตีแสกหน้า "เอกยุทธ"
ซ้ำหลุดปากจะ "ยึดทรัพย์" เข้าหลวงให้หมด
พร้อมกับย้ำอย่างมั่นใจว่า
กฎหมาย ป ปง.มีผลย้อนหลังได้วันถัดมาบรรดา "ลิ่วล้อ" ที่เป็นทั้งนักกฎหมายและหน่วยงานอิสระต่างออกมารับลูกทันทีทันควัน
ถือเป็น "กรณีตัวอย่าง" ที่ทำให้สถาบันนักกฎหมายต้องกลับไปเปิดตำรากันจ้าละหวั่นแต่แล้วภายหลังหายจากอาการ "เมาหมัด" จึงเริ่มเก็บอาการอยู่
"ทักษิณ" ปิดปากได้สนิท เมื่อรู้ว่า "พลาดไปแล้ว" เหตุเพราะประเมินราคา "เอกยทุธ" ต่ำชั้นเกินไป
ข่าวจาก "คนวงใน" กระซิบดังๆ ออกมาว่า เหตุที่เกิดอาการ "เบรกแตก" เพราะมัวแต่คิดว่าเบื้องหลัง "เอกยุทธ" คือ "ขาประจำ" และ "คู่ปรับเก่า" ที่หันมาจับมือกันล้มรัฐบาล
ไม่ทันได้ดูตาม้าตาเรือ หรือส่องกล้องดูให้แน่ชัดว่า "มีอะไรในกอไผ่" อีกหรือไม่!
จนเมื่อคิดจะกลับหลังหัน กระแสที่พุ่งไปตามแรงพ่นจนเก็บอาการไม่อยู่ก็ "ตีกลับ" เข้าหาตัวอีกคำรบแล้ว
เป็นกระแสที่ท้าทายและมีเดิมพันอยู่ตรงคำว่า "ดับเบิลสแตนดาร์ด"
นั่นคือ...คำท้าจาก พิเชฐ พัฒนโชติ ส.ว.นครราชสีมา ให้ตรวจสอบ "อดีต ส.ส.กลุ่ม16" ที่พัวพันคดีบีบีซี และถูกกล่าวหาว่ามีส่วนทำให้ "ธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ" หายไปจากสารบบธนาคาร
"แชร์อื่นๆ ก็ต้องตรวจสอบด้วย ไม่ว่าจะเป็นแชร์แม่ชม้อย แชร์แม่นกแก้ว ทรัสต์ 50 กว่าทรัสต์ที่ล้มบนฟูก รวมถึง กลุ่ม 16 ที่ทำให้เกิดปัญหาธนาคารกรุงเทพฯ พณิชย์การ (บีบีซี) ที่ยังนั่งรวมอยู่ในรัฐบาลชุดนี้ ล่าสุดยังมีปัญหาในธนาคารกรุงไทย ซึ่งทั้งหมดมีบุคคลใน ครม. เกี่ยวข้องด้วย"
เป็นการเปิดประเด็นที่ทำให้ "คนในรัฐบาล" เต้นไม่เป็นกระบวนไปตามๆ กัน!!!
จริงอยู่ที่แม้ "พิเชฐ" จะใกล้ชิดสนิทสนมกับ มนูญกฤต รูปขจร ซึ่งมีสายสัมพันธ์อันดีกับ "เอกยุทธ" มายาวนาน
จนอาจหยิบมาตั้งข้อสังเกตได้ว่า "รับงาน" หรือ "เข้าข้างคนผิด"
แต่เมื่อดูจากหลักเหตุและผล นับว่าน่าสนใจไม่น้อย
เพราะถ้ายึดมาตรฐานที่ว่ากฎหมาย ปปง. "ย้อนหลัง" ได้ ก็สมควรต้องไล่เบี้ยย้อนหลังให้หมด
ประเด็นนี้จึงถือเป็นอีกประเด็นที่ "จุกอก" เอาการ
เพราะอดีต ส.ส.กลุ่ม 16 เมื่อวันวาน บัดนี้มากองรวมกันอยู่ในพรรคของ "ทักษิณ" เกือบทั้งหมด
ที่สำคัญ...ระดับ "คีย์แมน" กลุ่ม 16 ก็นั่งหน้าแฉล่มในตำแหน่งรัฐมนตรี "รัฐบาลทักษิณ" อยู่หลายคน
ไม่ว่าจะเป็น เนวิน ชิดชอบ รมช.เกษตรฯ วราเทพ รัตนากร รมช.การคลัง สรอรรถ กลิ่นประทุม รมว.การพัฒนาสังคมฯ สนธยา คุณปลื้ม รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา
ไม่นับพี่ใหญ่ของกลุ่มอย่าง สุชาติ ตันเจริญ ที่เป็นถึง "รองประธานสภาผู้แทนราษฎร"
หรือระดับ "ส.ส." อย่าง จำลอง ครุฑขุนทด อดีต ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ไพโรจน์ สุวรรณฉวี ส.ส.นครราชสีมา ธานี ยี่สาร ส.ส.เพชรบุรี ประวัฒน์ อุตตะโมต ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์
นี่ลำพังแค่ระดับ "ขาใหญ่" ของกลุ่ม 16 ในอดีตเท่านั้น จากจำนวนสมาชิกที่มีอยู่ 36 ชีวิต
ถ้า "ทักษิณ" หรือ "ปปง." รับคำท้าเชื่อได้ว่าคงอ่วมอรทัยไปตามๆ กัน
ที่สำคัญ...หาก ปปง.ปฏิเสธไม่สอบ ก็ดูจะไม่มีเหตุผล
เพราะอายุความยัง "ร่วมสมัย" กว่าคดีแชร์ชาร์เตอร์อยู่หลายขุม
นอกจากนั้นเหตุผลที่ "พิเชฐ" หยิบยกมาอ้างก็ฟังดูเข้าท่า...
"ส่วนแชร์ชาร์เตอร์นั้นผมมองว่า การหาเงินของแชร์วงนี้กับคดีบีบีซีไม่ต่างกัน เป็นวิธีเดียวกันคือ หาเงินมาต่อยอดและต่อดอกเบี้ย กลุ่ม 16 ไปซื้อที่ดินราคาถูกมาแปรเป็นเงิน"
ฉะนั้น...งานนี้ต่อให้เละทั้งสองสภาอย่างที่ "ไพโรจน์" ขู่เอาไว้ ยังไง "ปปง." ก็ต้องทำ
เพราะสังคมกำลังจับตาและจับผิด "ดับเบิลสแตนดาร์ด"
http://www.komchadluek.net/news/2004/09-13/p1--51758.html