คำสัมภาษณ์ webmaster ประชาไท (เกี่ยวกับรัฐมนตรี ICT และ Pantip)

เนื่องมาจากเว็บบอร์ด ยักษ์ตาเดียวสะกิดประชาไท(อีกครั้ง)
- ณรรธราวุธ เมืองสุข

*ในสังคมเสรีประชาธิปไตย นี่ไม่ใช่สิ่งที่จะทำกันและไม่ใช่ธรรมชาติของเวบบอร์ดที่ดี* จีรนุช เปรมชัยพร ผู้จัดการเว็บไซน์ประชาไทบอกไอซีที หลังถูกขอปิดบอร์ดชั่วคราวเพื่อเคลียร์ความเห็น

อันเนื่องมาจากกรณีที่ นายสิทธิชัย โภไคยอุดม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เพิ่งโทรสายตรง มายังโทรศัพท์ส่วนตัวของนางสาวจีรนุช เปรมชัยพร ผู้จัดการเว็บไซต์ประชาไท 2 ครั้งในวันเดียวกัน (1 มิ.ย. 50) พร้อมกับ พร้อมกับ บอกว่า มีผู้ร้องเรียนไปยังไอซีทีว่าเว็บบอร์ดของประชาไทกำลังแสดงข้อความที่มีปัญหา แต่ไม่ได้ชี้แจงว่าเว็บบอร์ดใดที่มีปัญหา ซึ่งภายหลังก็มีการส่งลิงค์มาให้ แต่พบว่าเป็นเว็บบอร์ดที่ประชาไทได้ปิดความคิดเห็นไปก่อนหน้านั้นแล้ว

ในห้วงเวลานี้ เกิดอะไรขึ้นกับท่าทีของกระทรวงไอซีทีคงไม่ใช่คำถามสำคัญนัก ต่อไปนี้คือคำบอกเล่าและความเห็นจากคำให้สัมภาษณ์ของนางสาวจีรนุช เปรมชัยพร ผู้จัดการเว็บไซต์ประชาไท เธอบอกว่า *เขาเตือนมาในเรื่องข้อความในเวบบอร์ด บอกว่ามีข้อความหมิ่นเบื้องสูง โดยครั้งนี้มีการระบุว่าข้อความว่าตรงๆไม่ค่อยมี แต่เป็นลักษระเสียดสี อยากให้เข้มงวดในการแสดงความเห็น แสดงว่าไม่ได้เกี่ยวกับเนื้อหาที่ประชาไทเสนอ แต่เกี่ยวกับข้อความที่ผู้อ่านแสดงความเห็น*

วันนี้ในบอร์ดประชาไทคนที่เป็นสมาชิกมีการรณรงค์ด้วยการเปลี่ยนโลโก้ประจำตัวขึ้นเป็นข้อความตัวหนังสือสีขาวในพื้นดำขึ้นข้อความ *ไว้อาลัยแด่ความยุติธรรม*

จีรนุชบอกว่าเรื่องการขอปิดเว็บนั้นขณะที่ รมต.โทรมานั้นไม่ได้กล่าวถึง แต่มีพูดว่า *อย่างทางพันธ์ทิพเขาก็ตัดสินใจปิดเว็บบอร์ดสองสามวัน*

แต่ทางเจ้าหน้าที่ของไอซีทีโทรมาภายหลัง มีการเสนอตรงๆ เลยว่า *เป็นไปได้มั้ยที่ประชาไทจะปิดบอร์ดชัวคราวเพื่อเคลียร์ความเห็น* ตนเองก็ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธอะไร แต่ขอให้เขาส่งลิงค์กระทู้ข้อความที่มีปัญหามาให้ ซึ่งหลังจากหายไปเกือบชั่วโมงเขาก็ส่งเมลมามีหนึ่งลิงค์ ซึ่งพอคลิกดูก็เป็นข้อความที่ประชาไทปิดไปแล้ว

*รมต.เคยพูดตอนโทรเมื่อครั้งก่อนว่าเป็นไปได้มั้ยที่เราจะกรองก่อนให้ข้อความโชว์ ซึ่งพี่ได้บอกว่าเท่าที่ทราบ ในสังคมเสรีประชาธิปไตย นี่ไม่ใช่สิ่งที่จะทำกันและไม่ใช่ธรรมชาติของเวบบอร์ดที่ดี* เธอกล่าว

เรื่องกฏเกณฑ์ที่ทางประชาไทวางไว้ในการดูแลความเห็นในเว็บบอร์ด จีรนุชบอกว่า หลักๆก็ดูในสิ่งที่ไม่ละเมิดกฎหมาย และพยายามสร้างบรรยากาศแลกเปลี่ยนเชิงสร้างสรรค์ มีอารมณ์ได้บ้าง แต่เน้นว่าไม่หมิ่นแคลนกัน ที่สำคัญคือไม่ละเมิดส่วนบุคคลที่ไม่เกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะ

*พี่ว่ามันมีปฏิสัมพันธ์ของคนที่แลกเปลี่ยนความเห็น คนเลยอาจจะมีความรู้สึกผูกพัน กับเพื่อนในเวบบอร์ดนี่พี่ไม่แน่ใจว่าเป็นกลุ่มไหน แต่เป็นคนที่ตามข่าวสารบ้านเมืองพอสมควรแล้วก็หลังรัฐประหาร กลุ่มที่เชียร์ทักษิณก็มาที่นี่เยอะเพราะที่อื่นถูกปิดความเห็น หลังรัฐประหารการแสดงความเห็นในเว็บบอร์ดมากกว่าก่อนรัฐประหารนับสิบเท่า ประชาไทเองก็เปิดพื้นที่ให้กับทุกกลุ่ม ส่วนจำนวนคนอ่านนั้นก่อนวันตัดสินยุบพรรคมี page view (การคลิกเปิดหน้าข้อความเพื่ออ่าน)ประมาณ 80,000-100,000 แต่หลังวันตัดสินสองวันมานี้สถิติขึ้นมามากกว่าสองแสน คนอึดอัดขนาดว่าเว็บไซน์เรามีปัญหาเรื่อง server ก็ยังอดทนคลิกเข้ามาดู*

จีรนุชบอกอีกว่า เธอไม่รู้ว่าเหตุใดทางกระทรวงไอซีทีจึงยังไม่กล้าปิดเว็บไซน์ประชาไท ทั้งทีมีการส่งสัญาณมาหลายครั้ง

*มองแง่ดีก็คงเพราะเห็นว่าเราไม่ได้เป็นกลุ่มการเมืองไหน ไม่ได้เป็นกลุ่มเชียร์ทักษิณแบบคนวันเสาร์ หรือประกาศตัวเคลื่อนไหวต้านรัฐประหาร แบบ 19 กันยา แต่ทำหน้าที่สื่อมวลชนจริงๆ ที่ไม่ได้มีเจตนาซ่อนเร้นใดๆ เราต้องการสร้างสรรค์บรรยากาศประชาธิปไตยจริงๆ*

เธอบอกว่า จริงๆที่ผ่านมามีการประสานงานกับ จนท.เฝ้าระวังไอซีที ทำให้เข้าใจว่าในระดับปฏิบัติการทางไอซีทีเองก็หนัก ต้องมีหน่วยเฝ้าระวังคอยตรวจสอบข้อความตามเว็บไซน์ต่างๆ ฝ่ายตนเองก็คอยแจ้งข้อความที่เขาอาจเห็นว่าหมิ่น แต่ต้องพิจารณาตามดุลยพินิจของตนอีกชั้นหนึ่ง

*แต่ตามหลักการของเสรีภาพ พี่คิดว่าจริงๆการเปิดให้คนได้พูด ได้ถกกัน น่าจะเป็นประโยชน์กว่าในแง่ที่คนจะเรียนรู้และเท่าทัน มากกว่าจะต้องมีใครมาตั้งตัวเองเป็นผู้เปิดหรือปิดความเห็นใคร คือทุกวันนี้เวลาที่ต้องมานั่งตรวจสอบข้อความก็รู้สึกเป็นทุกข์นะ ทั้งที่จริงถ้าเราเปิดกว้างไว้ เราจะเห็นว่าคนสามารถมาแสดงความเห็นโต้แย้งกันได้ แล้วคนที่ยังไม่มีความเห็นเรื่องนั้นก็อาจจะอ่านและได้ความคิดที่กว้างขวางขึ้น ใช้วิจารณญาณในการเชื่อหรือคิดต่อไปได้*

จีรนุชก็บอกว่าเธอเองก็เจอกับการถูกโจมตีจากผู้เข้ามาแสดงความเห็นในเว็บบอร์ดอยู่เสมอ เมื่อเธอได้ดำเนินการลบข้อความที่เข้าข่ายมีปัญหา แต่ทั้งหมดเธอบอกว่า บางทีวิจารณญาณเธอเองก็อาจจะผิดพลาดได้ เธอจึงไม่เชื่อเรื่องให้อำนาจกับใครกลุ่มใดมาตัดสินความผิดถูก ควร/ไม่ควร เหมาะสม/ไม่เหมาะสมต่อสิ่งหนึ่งสิ่งใด

แนวทางต่อไปของเว็บไซน์ประชาไทหลังจากเจอท่าทีของไอซีที จีรนุชบอกว่าก็ยังคงเข้มงวดเหมือนที่เป็นมา แต่ในอนาคตก็ต้องการทำให้เป็นชุมชนประชาธิปไตย ที่สมาชิกเป็นผู้กำหนดกติกามีผู้แทนกลุ่มความคิดในการจัดการบอร์ด มีคนเคยเสนอว่าน่าจะร่าง Web constitution (ธรรมนูญของเว็บไซน์) ซึ่งตนมองว่าน่าสนใจ แต่เป็นเรื่องที่ต้องค่อยเป็นค่อยไป หาความเป็นไปได้ในทางเทคโนโลยี แต่ในเบื้องต้นสร้างปฏิสัมพันธ์กับคนให้เกิดความเป็นชุมชนเสียก่อน แต่คงอีกพักใหญ่ๆ จึงจะดำเนินการได้ทั้งหมด

และนี่คือสถานการณ์ล่าสุดของเว็บไซน์ประชาไท ที่ใครหลายๆ คนต่างบอกว่าล่อแหลมเหลือเกิน!!