เมื่อ "เห่าไฟ" คอลัมนิสต์ใหญ่ "ไทยรัฐ"ประกาศจะต่อสู้เพื่อ "ทักษิณ" โดย พังพอนน้ำ 3 มิถุนายน 2550 21:27 น.
อ่านคอลัมน์ "บุคคลในข่าว" หน้า 4 ของหนังสือพิมพ์หัวเขียวยักษ์ใหญ่อันทรงอิทธิพลแล้วอดจะข้องใจไม่ได้ถึงความเห็นของคอลัมนิสต์ใหญ่ฉบับนี้
คอลัมนิสต์ที่ชื่อ "เห่าไฟ" ร่ายเรียงย่อหน้าแรกตามสไตล์ว่า หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ท่ามกลางความจริงสองด้านที่ขัดแย้งกัน ฉบับนี้ประจำวันอาทิตย์ที่ 3 มิถุนายน 2550
จากนั้นก็ออกลีลาดุดันวิพากษ์วิจารณ์การวินิจฉัยประวัติศาสตร์คดียุบพรรคในท่วงทำนอง "ไม่เห็นด้วย"กับคำตัดสิน "ยุบพรรค"ไทยรักไทย และพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คือความถูกต้องชอบธรรม แล้ว "เห่าไฟ"ก็ประกาศตัวว่า เขาจะเป็นผู้ออกมาเรียกร้องความชอบธรรมให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ จนกว่า อดีตนายกฯทักษิณ จะได้รับความเป็นธรรม
ความเห็นของ"เห่าไฟ"มีดังนี้
(เห่าไฟ) พรรคไทยรักไทย เป็นพรรคอันดับ 1 ของประเทศ ถือเป็นวิวัฒนาการทาง ประชาธิปไตย ขั้นสูงสุด ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์ การเมืองไทย ที่จะมีพรรคการเมืองใดได้รับคะแนนเสียงจากมหาชนส่วนใหญ่ ให้เข้ามาจัดตั้งรัฐบาลเพียงพรรคเดียว แต่พรรคไทยรักไทยเป็นพรรคแรกและพรรคเดียวที่พิชิตสถิติการเมืองนี้ได้อย่างงดงามและ ถูกต้องชอบธรรม!!!
(เห่าไฟ) นอกจากนี้ ยังมีความจริงที่ต้องบันทึกเอาไว้ด้วยว่า พรรคไทยรักไทย และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต้องพ้นจากอำนาจที่ได้รับจากประชาชน เพราะโดนทหารยึดอำนาจ รวมทั้งถูกคณะตุลาการรัฐธรรมนูญในยุคที่บ้านเมืองไม่เป็นประชาธิปไตยสั่งให้ยุบพรรค และตัดสิทธิการเมือง พรรคไทยรักไทย และ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้พ้นจากอำนาจเพราะ แพ้เลือกตั้ง ตามครรลองของระบอบประชาธิปไตยแต่อย่างใด!!!
"เห่าไฟ"ครับ สิ่งที่คุณยกมาอ้างนี้เป็นความจริงครับไม่มีใครปฏิเสธ พรรคไทยรักไทยได้รับเลือกตั้งมาอันดับ 1 แล้วทำไมเหรอครับ ผมคิดว่า เรื่องแบบนี้ แค่สามัญสำนึกของเด็กประถมที่เรียนรู้ "บทเรียนประชาธิปไตย"บทแรก ก็เข้าใจได้ไม่ยากว่า การได้รับเลือกตั้งเข้ามาอันดับ 1 นั้น ก็ใช่ว่า จะใช้อำนาจตามอำเภอใจได้
พฤติกรรมต่างๆของพรรคไทยรักไทย หาก "เห่าไฟ"ซึ่งเป็นสื่อมวลชนได้ติดตามก็จะรู้ว่า พรรคไทยรักไทยและพ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้ใช้อำนาจที่ได้มาอย่างถูกต้องและชอบธรรม การวินิจฉัยครั้งนี้มีได้กระทำตามอำเภอใจของ "ตุลาการรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คน " แต่มีเหตุและผลบันทึกเอาไว้ในคำวินิจฉัยอย่างชัดเจน
และคำถามข้อนี้ของ "เห่าไฟ"ก็มีคำตอบอยู่ในคำวินิจฉัยของตุลาการรัฐธรรมนูญ ตอนหนึ่งว่า
"พรรคไทยรักไทยมิได้ให้ความสำคัญหรือเห็นคุณค่าของสิทธิเลือกตั้งของประชาชน อันเป็นรากฐานสำคัญของการปกครองระบอบประชาธิปไตยนอกจากนี้ยังแสดงถึงการไม่เคารพยำเกรงต่อกฎหมายบ้านเมือง ทั้งที่พรรคไทยรักไทยเป็นพรรคการเมืองที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนสูงสุดในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอันเป็นการเลือกตั้งทั่วไปก่อนหน้านี้ 2 ครั้ง ควรต้องสร้างความยั่งยืนให้แก่การปกครองระบอบประชาธิปไตย โดยมั่นคงกับหลักการที่ว่า กฎหมายต้องอยู่เหนือสิ่งอื่นใด ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นข้อบ่งชี้ด้วยว่า พรรคไทยรักไทย มิได้มีอุดมการณ์ทางการเมืองที่มุ่งพัฒนาประเทศชาติเพื่อให้คนในชาติมีความสุขทั่วหน้าดังที่ได้รณรงค์หาเสียงไว้ต่อประชาชนอย่างแท้จริง หากแต่มุ่งประสงค์เพียงดำเนินการในทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ นอกเหนือจากครรลองที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศตลอดจนบทกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องที่หาอุดมการณ์อันแท้จริงของพรรคให้เกิดความมั่นใจแก่ประชาชนโดยรวมว่า เมื่อเป็นรัฐบาลมีอำนาจบริหารราชการแผ่นดินแล้ว จะดำเนินการปกครองโดยสุจริต ไม่ประพฤติมิชอบหรือบริหารราชการแผ่นดินโดยแอบแฝงไว้ซึ่งผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง "
ซึ่งผมคงไม่ต้องอธิบายคุณ "เห่าไฟ"ต่อว่า พฤติกรรมของการมุ่งประสงค์เพียงดำเนินการในทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ ของพรรคไทยรักไทยคืออะไร
และผมคงไม่ต้องอธิบายคุณ "เห่าไฟ"ต่อไปว่า ที่พรรคไทยรักไทยและพ.ต.ท.ทักษิณ ถูกกล่าวหาว่า ประพฤติมิชอบหรือบริหารราชการแผ่นดินโดยแอบแฝงไว้ซึ่งผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องนั้น คืออะไรบ้าง
พรรคไทยรักไทย และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต้องพ้นจากอำนาจที่ได้รับจากประชาชน เพราะโดนทหารยึดอำนาจ จริงครับ
แต่คุณ "เห่าไฟ"ถูกม่านสีม่วงสีเทาบังตาอยู่หรืออย่างไร ถึงไม่รู้เลยว่า การดำเนินการทางการเมืองและการบริหารประเทศของพ.ต.ท.ทักษิณนั้น ยึดตัวตนและยึดแนวคิดของตัวเองเป็นหลัก ขาดความเคารพเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะหลักการขององค์กรตรวจสอบและถ่วงดุลโดยองค์กรอิสระและประชาชน แต่เข้าไปแทรกแซงองค์กรอิสระ สื่อมวลชน องค์กรของรัฐแทบทุกองค์กร ไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติอย่างแท้จริง แต่ทำเพื่อประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง ทำลายระบบคุณธรรม สร้างความแตกแยกของคนในชาติอย่างไม่เคยพบมาก่อน และมีการทุจริตอย่างมโหฬาร
พฤติกรรมแบบนี้ แม้ว่าจะมาจากวิถีทางประชาธิปไตยมันจะแตกต่างกับเผด็จการตรงไหน
คำวินิจฉัยครั้งนี้ก็มีหลักฐานมาแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วไม่ใช่หรือว่า พรรคไทยรักไทยไม่ใช่พรรคที่สนใจความคิดเห็นของกรรมการบริหาร แต่เป็นพรรคของคุณทักษิณ และภรรยาคุณทักษิณเท่านั้น
พ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคไทยรักไทยพ้นจากอำนาจ เพราะถูกคณะตุลาการรัฐธรรมนูญในยุคที่บ้านเมืองไม่เป็นประชาธิปไตยสั่งให้ยุบพรรค และตัดสิทธิการเมืองไม่ได้พ้นจากอำนาจเพราะแพ้เลือกตั้ง ตามครรลองของระบอบประชาธิปไตยจริงๆอย่างที่คุณ "เห่าไฟ"ว่าครับ
แต่ถาม คุณ "เห่าไฟ"ว่า พฤติกรรมที่ถูกยกมาอ้างเป็นเหตุผลในการยุบพรรคของตุลาการรัฐธรรมนูญนั้น จากเหตุผลและคำวินิจฉัยของตุลาการรัฐธรรมนูญ 9 คนมีเรื่องไหนที่ไม่จริงบ้าง และถ้าพ.ต.ท.ทักษิณและพรรคไทยรักไทยใช้อำนาจที่ได้รับจากประชาชนอย่างถูกต้องชอบธรรม ทหารจะลากปืนขับรถถังมาล้มรัฐบาลทักษิณได้หรือไม่ และตุลาการรัฐธรรมนูญจะเอาเหตุผลใดมาในการวินิจฉัยคดีเพื่อยุบพรรคในครั้งนี้
แล้วคุณ "เห่าไฟ"คิดว่า พรรคไทยรักไทยถูกตัดสินยุบพรรค เพราะ "ตุลาการรัฐธรรมนูญในยุคที่บ้านเมืองไม่เป็นประชาธิปไตยสั่งให้ยุบพรรค"อย่างที่คุณอ้าง หรือเพราะพรรคไทยรักไทยประพฤติมิชอบกันแน่
(เห่าไฟ) สิ่งเหล่านี้คือ ความจริงสองด้าน ที่ขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิง แม้ทุกฝ่ายจำต้องยอมรับคำตัดสินของ คณะตุลาการรัฐธรรมนูญ แต่หากถามถึงความรู้สึกของคนส่วนใหญ่ เชื่อว่า พวกเขาต่างก็ ข้องใจ ในมาตรฐานที่แตกต่างกันของคำตัดสินเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะต้นเหตุของปัญหาที่ทำให้เกิดคดียุบพรรค ไม่ได้มาจากพรรคไทยรักไทย แต่มาจากพรรคที่ บอยคอต การเลือกตั้งต่างหาก!!!
อ่านความเห็นท่อนนี้ของคุณ "เห่าไฟ"ก็รู้สึกงงๆนะครับ คุณ "เห่าไฟ"จะบอกว่า พรรคไทยรักไทยไม่ผิด แต่ผิดเพราะพรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทย และพรรคมหาชน ไม่ลงเลือกตั้งใช่ไหมครับ ดังนั้นจึงเป็นต้นเหตุให้พรรคไทยรักไทยต้องไปจ้างพรรคเล็ก เพื่อหนีกฎ 20 %
ยิ่งคิดก็ยิ่งขำนะครับ คล้ายกับว่า คนๆหนึ่งหิวโซไปขอข้าวชาวบ้านเขากิน แต่เขาไม่ให้ คนหิวโซคนนั้นก็ไปลักขโมยเขากิน สุดท้ายโดนตำรวจจับได้ คุณ "เห่าไฟ"ก็บอกว่า ความผิดไม่ใช่เกิดจากคนหิวโซที่ไปลักขโมยของชาวบ้านเขา แต่เป็นเพราะคนที่ไม่ยอมให้ข้าวกิน
(เห่าไฟ) ข้อสำคัญ หากจะเชื่อกันว่า พรรคใดพรรคหนึ่ง กระทำการจ้างพรรคเล็กเพื่อให้ ตัวเองได้กลับคืนสู่อำนาจ ก็ต้องใช้เหตุผลเดียวกันเชื่อว่า พรรคอีกพรรค ก็สามารถจ้างพรรคเล็กเพื่อ ขัดขวาง การกลับคืนสู่อำนาจของพรรคคู่แข่งได้เช่นกัน เพราะการที่บางพรรคบอยคอตการเลือกตั้ง ก็เพื่อ ขัดขวาง การกลับคืนสู่อำนาจของพรรคคู่แข่ง ฉะนั้น ทำไมจะไม่มีแรงจูงใจในการจ้างพรรคเล็กให้ขัดขวางการ กลับสู่อำนาจของคู่แข่งเล่า ข้อข้องใจเหล่านี้ นักกฎหมายในบ้านเมือง ช่วยตอบให้กระจ่างทีเถอะ!!!
จากความเห็นข้อนี้ ตกลงคุณ "เห่าไฟ"ยอมรับแล้วใช่ไหมครับว่า พรรคไทยรักไทยผิด (จากตรรกะที่คุณ "เห่าไฟ"ตั้งขึ้นเอง นี่คุณ "เห่าไฟ"ก็คงหายสงสัยว่า ทำไม ไทยรักไทยถึงถูกยุบพรรค555)แต่คุณ "เห่าไฟ"ต้องการจะบอกเพียงว่า "ถ้าไทยรักไทยผิดพรรคประชาธิปัตย์ต้องผิดด้วย"
ผมจะบอกคุณ "เห่าไฟ"ให้เข้าใจอย่างไรดี เพราะขนาดเรื่องที่เด็กประถมเข้าใจ คุณ "เห่าไฟ"ยังไม่เข้าใจเลย สิ่งที่คุณอ้างมาไม่ผิดหรอกครับ พรรคจ้างพรรคเล็กเพื่อให้ ตัวเองได้กลับคืนสู่อำนาจได้ พรรคอีกพรรค ก็สามารถจ้างพรรคเล็กเพื่อ ขัดขวาง การกลับคืนสู่อำนาจของพรรคคู่แข่งได้เช่นกัน
แต่ทั้งหลายทั้งปวงมันต้องอยู่ที่พฤติกรรมและหลักฐานครับ
ไม่ใช่อยู่ดีๆก็บอกว่า นายแดงไปขโมยรถชาวบ้านเมื่อตำรวจสอบสวนนายแดงก็อ้างว่า ตัวเองเดือดร้อนเพราะไม่มีรถใช้ ดังนั้นเมื่อนำตรรกะของคุณ "เห่าไฟ"มาใช้ก็พูดต่อได้ว่า "ใครที่ไม่มีรถก็ต้องไปขโมยรถชาวบ้านได้" แล้วบอกให้ตำรวจเที่ยวไปไล่จับใครต่อใครทุกคนที่ไม่มีรถใช้อย่างนั้นหรือครับ
ส่วนที่คุณ "เห่าไฟ"บอกว่า ไม่เชื่อที่มีหลายคนรีบฟันธงล่วงหน้า นายกฯคนต่อไป คือ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็เป็นสิทธิ์ของคุณ "เห่าไฟ"นะครับ
ขณะเดียวกันผมก็มีสิทธิ์ไม่เชื่ออย่างที่คุณ "เห่าไฟ"ทำนายว่า พรรคไทยรักไทย ที่กำลังปรับตัวครั้งใหญ่ และจะชนะเลือกตั้ง ได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกรอบด้วย!!!
แต่ประโยคต่อมานี่สิครับที่ผมรับไม่ได้ แม้ว่า คุณเห่าไฟ จะออกตัวว่า "เคยวิพากษ์วิจารณ์ อดีตนายกฯทักษิณ หนักหน่วงรุนแรงมาโดยตลอด แต่นั่นเป็นเพราะว่า อดีตนายกฯทักษิณ เป็นบุคคลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน และมีฐานเสียงที่แข็งแกร่ง การได้วิพากษ์วิจารณ์ บุคคลเช่นนี้ ถือเป็น หน้าที่ที่มีเกียรติและสมศักดิ์ศรี"
ผมไม่ทราบนะครับ "การได้วิพากษ์วิจารณ์ บุคคลเช่นนี้ ถือเป็น หน้าที่ที่มีเกียรติและสมศักดิ์ศรี"นี่หมายถึงอะไร
"บุคคลเช่นนี้"ในความหมายของคุณ "เห่าไฟ"นั้นหมายถึง พ.ต.ท.ทักษิณแน่นอน แต่ ผมไม่เข้าใจนะครับว่า "บุคคลเช่นนี้"มีพฤติกรรมอย่างไร ถ้าเขาเป็น "คนดี"อย่างที่คุณ "เห่าไฟ"ทำให้เข้าใจเช่นนั้น การไปวิพากษ์วิจารณ์เขาอย่างหนักหน่วงรุนแรงจะถือเป็น หน้าที่ที่มีเกียรติและสมศักดิ์ศรีได้อย่างไร
ถ้าคุณ "เห่าไฟ"คิดว่า การวิพากษ์วิจารณ์คนผู้นั้นอย่างรุนแรง เป็นการทำหน้าที่ที่มีเกียรติและสมศักดิ์ศรี ก็ต้องแสดงว่า "บุคคลเช่นนี้"ต้องเป็น "คนไม่ดี"สิครับ เพราะถ้าคุณ "เห่าไฟ"คิดว่าตัวเองมีปากกาแล้วไปวิพากษ์วิจารณ์ "คนดี"อย่างหนักหน่วงรุนแรง สำหรับวิชาชีพสื่อมวลชนก็ต้องเรียกว่า คุณ "เห่าไฟ"เป็นคนใช้ไม่ได้ ไม่ใช่บอกว่าตัวเอง "ทำหน้าที่อย่างมีเกียรติและสมศักดิ์ศรี"ใช่ไหมครับ
แต่ช่างเถอะครับเอาเป็นว่า คุณ "เห่าไฟ"ออกตัวไว้แล้ว แม้จะรู้สึกว่าการออกตัวแบบนี้มีพิรุธหรือมีนัยประหวัดอย่างไร(เรื่องพิรุธที่ว่านี้ เมื่อมีหลักฐานไม่เพียงพอ ต้องยกประโยชน์ให้จำเลย555) ไปอ่านประโยคถัดไปของคุณ "เห่าไฟ"ดีกว่า
(เห่าไฟ) แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เห็นว่า บุคคลของประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรม เห่าไฟ ก็พร้อมจะหยุดวิพากษ์วิจารณ์ชั่วคราว แล้วหันไปเรียกร้องความเป็นธรรมให้เขา จนกว่า อดีตนายกฯทักษิณ จะได้รับความเป็นธรรมตามที่ควรจะเป็น และสามารถกลับเข้าสู่ ครรลองประชาธิปไตย ได้ตามสิทธิ ถึงวันนั้นค่อยมาวิจารณ์กันแรงๆอีกครั้ง!!!
ก็ดีครับ คุณ "เห่าไฟ"ประกาศเลือกข้างชัดเจนครับ ว่า ต่อไปนี้ "เห่าไฟ"จะเป็นปากเสียงเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ คุณ "เห่าไฟ"กล้าหาญดีทื่ประกาศตัวออกมาชัดแจ้ง แต่หวังว่า คุณ "เห่าไฟ"คงไม่ถึงกับต้องไปขึ้นเวทีพีทีวีที่สนามหลวงนะครับ
อย่างไรก็ตามผมมีอุทาหรณ์มาฝากคุณ "เห่าไฟ" พรรคไทยรักไทยแม้ว่าจะได้รับการเลือกตั้งเข้ามาเป็นอันดับ 1 แต่กลับใช้อำนาจอย่างไม่ชอบธรรมก็ต้องถึงกาลอวสานในที่สุด
คุณ "เห่าไฟ"คิดว่า หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ที่มียอดขายอันดับ 1 ถ้าคนในองค์กรนี้ไม่ตั้งมั่นอยู่ในความถูกต้องและชอบธรรมต่อหน้าที่ ต่อสังคม และต่อประเทศชาติ วันหนึ่งหนังสือพิมพ์ไทยรัฐจะถึงกาลล่มสลายแบบพรรคไทยรักไทยได้หรือไม่ คำถามสุดท้ายผมไม่มีรางวัลให้ คุณ "เห่าไฟ"คิดเอาเองได้ใช่ไหมครับ
http://manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9500000064102