ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
25-04-2024, 22:14
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  จะเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน จากบทความนี้ช่วยแสดงความคิดเห็นหน่อยค่ะ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
จะเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน จากบทความนี้ช่วยแสดงความคิดเห็นหน่อยค่ะ  (อ่าน 883 ครั้ง)
รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« เมื่อ: 29-05-2007, 19:20 »

ยุบ..ไม่ยุบ...สุดท้ายวงจรเดิม



ลุ้นระทึกกับหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย...ยุบ ไม่ยุบ ยุบแบบไหน..หลายทางเลือกที่"ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ"จะผ่า"ทางตัน"ตามตัวบทกฎหมาย
 ซึ่งต้องมีทั้ง"ถูกใจ" และ "บาดใจ" กลุ่ม บุคคลใดบุคคลหนึ่งแน่นอน

ทางออกแบบที่๑.คือสั่งยุบพรรค ( พ.ร.บ.พรรคการเมือง มาตรา ๖๖ )เดียว ไม่ว่าจะเป็น"ประชาธิปัตย์" หรือ"ไทยรักไทย" ซึ่งหลายฝ่ายคาดการณ์ว่า
ถ้าหวยออกแบบนี้ พินาศแน่ เพราะจะกลายเป็นว่าฝ่ายที่ถูกยุบจะต้องออกมาโวยวาย และจะบานปลายไปสู่การแตกแยกได้

แบบที่๒.สั่งยุบทั้ง ๒พรรค ทั้ง ปชป.และทรท. ซึ่งมีโอกาสความเป็นได้สูง เพราะตามที่นักกฎหมายทและอัยการบางท่านก็ออกมาให้ข้อมูลสอดคล้อง
กันไปในทำนองว่าตามหลักฐานทำให้เชื่อว่าน่าจะมีความผิดทั้ง๒พรรค

และถ้าออกแบบนี้ต้องมาลุ้นอีกรอบกับ"ตัวเลข"ว่าจะออกมา ๖-๓ ยุบทรท.และ ๕-๔ ยุบปชป. เหมือนกับที่เด็กทรท.เคยปูดออกมาหรือไม?

แบบที่๓ ไม่ยุบทั้ง๒พรรค ซึ่งน่าจะมีโอกาศเป็นได้ต่ำ นักวิชาการิสระคนหนึ่งเคยระบุว่าถ้าใช้หลัก"รัฐศาสตร์"เข้ามาจับแบบเข้มข้นในคดีนี้
ก็อาจจะะออกมา
ในนลักษณะไม่ยุบทั้ง ๒พรรค

แบบที่๔ ยุบพรรค-ยุบคน..หมายถึงเมือสั่งยุบพรรคแล้ว "กรรมการบริหารพรรค" ที่ถูกยุบทุกคน ต้องได้รับโทษตาม พ.ร.บ .พรรคการเมือง
มาตรา ๖๙ ที่ต้อง"เว้นวรรค"การเมือง๕ ปี

แบบที่๕ยุบพรรค-ยุบบางคน..ซึ่งทางตุลาการศาลรัฐธรมนูญอาจจะอ้างอิงหลักกฎหมายอาญา ที่ระบุว่า บุคคลใดจะต้องรับโทษตามกฎหมาย
บุคคลนั้นจะต้องกระทำหรือร่วมรู้เห็นในการกระทำที่เป็นความผิดนั้น จึงลงโทษกก.บริหารพรรคเป็นบางคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ต้องลุ้นว่าตุลาการฯ จะกระทำผิดตาม พ.ร.บ.พรรคการเมือง พร้อมกับวินิจฉัยด้วยว่า กรรมการบริหารพรรคต้องโทษตามประกาศคณะปฏิรูปฯฉบับที่
 ๒๗ ด้วยหรือไม่ (มีผลย้อนหลัง) ซึ่งหากตุลาการฯ วินิจฉัยว่าประกาศคณะปฏิรูปฯฉบับที่ ๒๗ ใช้บังคับย้อนหลังได้ กรรมการบริหารพรรค นอกจากต้อง
โทษตาม พ.ร.บ.พรรคการเมือง แล้ว ยังต้องโทษตามประกาศคณะปฏิรูปฯฉบับที่ ๒๗ ด้วย

เกจิหลายสำนักคาดกาาณ์ว่าน่าจะออกมาในแบบ ยุบทั้ง๒พรรคและตัดสิทธิ์เป็นบางคน ซึ่งส่งผลให้ดาวดังอย่างหัวหน้าพรรคปชป."อภิสิทธิ์ เวฃฃาวีวะ"
หันหน้าพรรคทรท."จาตุรนต์ ฉายแสง" ต้องพักรบทางการเมืองไป

นั้นเท่ากับเปิดโอกาสให้ ดาวเก๋านอกสารบบ อย่าง นายหัวชวน บิ๊กจิ๋ว มังกรเติ๋ง เสธหนั่น ป๋าเหนาะ กลับมาโลดเล่นบนกระดานการเมืองอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้
มังกรเมืองเหล่านี้ก็เตรียมพร้อมกำลังไพล่พล กระสุนดินดำ ไว้ต่อสู้ ทำศึกสงครามกันแล้ว

แต่ถ้าการเมืองออกมาในรูปนี้ ก็เท่ากลับ บ้านเมืองเรากลับไปสู่"วงจร"เดิมๆ มีผู้เล่นหน้าเดิมๆ กรอบความคิดเดิมๆ ตัดสินปัญหกาแบบเดิมๆ บริหารประเทศ
แบบเดิมๆ แล้วบ้านเมืองก็กลับมา"บอบซ้ำ"แบบเดิมๆ ซึ่งไม่ต่างอะไรไปกับ"วังน้ำวน"เดิมๆ!!


 ทางออก ความน่าจะเป็น ผลตามมา อนาคต
1. ยุบพรรคเดียว เป็นไปได้ อีกฝ่ายได้เปรียบทันที แตกแยก-ปะทะ
2. ยุบ ๒ พรรค เป็นไปได้สูง อาจเกิดปลุดระดม ชวน-จิ๋วผงาด
3. ไม่ยุบทั้ง๒พรรค เป็นไปได้ เฮทั้ง๒พรรค จาตุรนต์-อภสิทธิ์ยัง
4. ยุบพรรค-ยุบคน เป็นไปได้สูง เว้นวรรค๕ปีทุกคน ชวน-จิ๋วมีสิทธิ์
5. ยุบพรรค-ยุบบางคน เป็นไปได้สูง เฉพาะคนที่เกี่ยวข้องรับโทษ สมคิดมีหวัง

คมช.-รัฐธรรมนูญ-ยุบพรรค...เงือนไขสำคัญ

ช่วงรอยต่อแห่งการลุ้นระทึกสิ้นเดือนพ.ค.นี้ จะเป็น"จุดเปลี่ยน"สำคัญของประเทศ "ความชัดเจน"หลายอย่งจะเริ่มเด่นชัดขึ้น การแยกขั้ว
 แบ่งข้างจะเห็นกันจะจะมากขึ้น ความเคลื่อนไหวต่างๆดังคำขู่ก็จะแจ่มชัดขึ้นว่าจริงหรือไม่

นอกจากประเด็นแหลมสุดๆอย่างเรื่อง"ยุบพรรค."แล้ว ยังมี"เงื่อนไข"สำคัญอีกอย่างในสถานการณ์ตอนนี้คือ "คณะมนตรีความมั้นคง(คมช.)
ที่มี" บิ๊กบัง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน "ผบ.ทบ.เป็นหัวหน้า

เพราะถ้าทุกอย่างเป็นไปตามความคาดหมาย จะเหลือตัวเลือกนายกฯแค่ "ชวน"กับ" บิ๊กจิ๋ว" (ถ้าไม่นับพล.อ.สนธิจะเป็นนายกฯเอง) และถ้า
กางช้อยแค่นี้ให้ บิ๊กบัง เลือก ความเป็นไปได้คือ บิ๊กบัง คงต้องเลือก "ชวน" มากกว่าเลือก"บิ๊กจิ๋ว"

ด้วยเหตุที่ว่า๔ปัจจัยที่โค่นทักษิณ ยังไปไม่ถึงไหน และคมช.ก็อยากจะจัดการกับทักษิณ ให้เด็ดขาด ซึ่งขั้ว บิ๊กจิ๋ว" นั้น ทาทาบไปด้วยเงาของเด็ก
"ทักษิณ"มากมาย ดังนั้นถ้าเลือกข้าง " บิ๊กจิ๋ว" คนข้างสนามโห่ไล่ตาย

อีกทั้งเป็นที่รู้กันว่าถ้าคมช.จะ "สืบทอดอำนาจ" ทางเลือกหนึ่งที่ดีที่สุดคือหา"นอมินี" ซึ่งนั้นก็คือการหนุนพรรคการเมือง หรือขั้วการเมือง ดังนั้น
บิ๊กบัง ก็คงต้องเลือกข้าง"ชวน" เพื่อใช้เป็น"เครื่องมือ"ในการป้องกันไม่ให้ทักษิณกลับมา เพราะถ้าทักษิณกลับมาได้อีกไม่ว่าจะเป็นโดนตรง
หรือทางอ้อม กลุ่มที่ตกที่นั่งลำบากสุดเห็นจะเป็นพวกคมช.

อีกทั้ง บิ๊กบัง ยังมองว่า" อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ "หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คนปัจจุบัน ยังไม่เก๋าพอ แต่ถ้าเป็น" ชวน "แล้ว ภาพพจน์ของความซื่อสัตย์
 สุจริต และจัดเจนในเรื่องการเมือง นั้นน่าจะฟัดกับทักษิณได้ ถ้ามีโอกาศคัมแบ๊ค

ไม่เท่านั้น"ชวน" กับ" ป๋าเปรม พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์" ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ก็ความสัมพันธุแน่นปึก หรือจะเป็น"บุญคุณ"ที่มีต่อ" บิ๊กแอ้ด
 พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์" นายกรัฐมนตรี ในเรื่องตำแหน่ง ผบ.ทบ.

รวมถึง "พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร" ผช.ผบ.ทบ. และผช.เลขาธิการ คมช. ก็เคยทำงานหน้าห้อง "ชวน" เมื่อครั้งเป็น รมว.กลาโหม และเคยได้รับ
การเลื่อนยศจาก "ชวน "อีกด้วย

ดังนั้นจึงมีข่าวว่าถ้า"บิ๊กบัง" ไม่สามารถเดินเกมอำนาจทางการเมืองได้ ด้วยตนเอง จึงอาจต้องเรียกใช้บริการ "ชวน-ประชาธิปัตย์" ซึ่งแม้จะไม่ใช่
ทางเลือกที่ดีนัก แต่ย่อมดีกว่าเรียกใช้บริาการจาก"บิ๊กจิ๋ว"แน่นอน

ทั้งนี้ นอกจากเงื่อนไขอย่างเรื่องยุบพรรคและคมช.แล้ว ยังมีเรื่องของรัฐธรรมนูญใหม่ด้วย ที่ยังไม่ลงตัวในหลายๆเรื่อง เช่นเรื่องการ"บุคคล"เ
ข้ามาทำหน้าที่ สส.ลักษณะไหน "จำนวน"ของบรรดาสส.จะเป็นเท่าไรแน่ แล้วจะมีกี่แบบ สส.เขต สส.ปารตี้ลิส์ ฯลฯ

เหล่านี้ถือเป็น"เงือนไข"ที่ทั้ง๒ฝ่าย "ชวน-จิ๋ว" กำลังจับตามองอย่างใกล้ชิด เพราะย่อมมีส่วนได้-ส่วนเสียโดยตรงกับทั้ง๒ฝ่าย!

"รัฐบาลแห่งชาติ"...ฝันหวานของบิ๊กจิ๋ว

"รัฐบาลแห่งชาติ" ...คำๆนี้เคยโด่งดังสมัยที่ "ทักษิณ ชินวัตร"หลุดวลีทองออกมาในช่วงที่สถานการณ์บ้านเมืองคับขันในห้วงที่เขาบริหารบ้านเมืองอยู่
ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าแนวคิดแบบนี้มาจากมันสมองระดับขงเบ้งคนข้างกายทักษิณในขณะนั้น นั้นก็คือ "พล.อ.ชวลิต ยังใจยุทธ"นั้นเอง เพราะ บิ๊กจิ๋วเองเคยคิด
จะตั้งมาแล้วหนหนึ่งสมัยที่เป็นนายกฯ แต่จุดไม่ติด ต้องล้มไป

และคำว่า"รัฐบาลแห่งชาติ"ก็กลับมาฮือฮาอีกครั้งในเอนเม.ย.๕๐ เมื่อคราว "เทพพนม ศิริวิทยารักษ์" ประธานเครือข่ายภาคประชาชนภาคอีสานพิทักษ์ธรรมนูญ
และอดีตแกนนำคนรักทักษิณ ได้ยื่นข้อเรียกร้องต่อ "พล.อ. สนธิ บุญรัตกลิน "ผู้บัญชาการทหารบก พื่อเสนอแนวทางแก้วิกฤตชาติ ด้วยการตั้ง "รัฐบาลแห่งชาติ"
โดย คมช.ร่วมกับนายกรัฐมนตรี และตัวแทนพรรคการเมือง ๔ พรรค คือ พรรคไทยรักไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทย พรรคมหาชน พร้อมกับให้"พล.อ.ชวลิต "
 เป็นนายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ช่วงที่มีความจัดแย้งระหว่างคมช.กับบิ๊กจิ๋ว" ก็มีข่าวปล่อยมาในทำนองว่า แกนนำไทยรักไทยได้หารือถึงทางออกทางการเมืองโดยจะมีการจัดตั้งพรรคใหม่
ในลักษณะเป็น "พรรคอัมโน" แบบมาเลเซียขึ้น โดยมีข้อตกลงกันว่ากลุ่มใหน แข็งแรงสุด กลุ่มนั้นอาจจะเสนอคนมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้ หรืออาจได้ตำแหน่งรัฐมนตรี
สำคัญไปครอง โดยไปร้องขอให้ "พล.อ.ชวลิต" เป็นประธานพรรค รับหน้าที่เป็นคนกลางใน การเจรจาตกลงผลประโยชน์กัน

ซึ่งสอดคล้องกับข่าวลือบางสายว่ารูปแบการเล่นการเมืองแบบพรรค "อัมโน" หรือ"พรรคสามัคคีธรรม"นั้น เป็นสุดยอดในดวงใจของพรรคการเมืองในฝันของ"พล.อ.ชวลิต"
เลยที่เดียว

และถ้าหวยยุบพรรคออกแบบกินรวบ"มังกรเฒ่า"กลับมาผงาดคาดว่าแนวคิด"รัฐบาลแห่งชาติ" ของ"บิ๊กจิ๋ว"อาจจะล่องลอยกลับมาอีกคำรบหนึ่งก็เป็นได้!?

เส้นทาง"บิ๊กจิ๋ว-ชวน-ทักษิณ"

เมื่อ ปี ๒๕๓๕ (พฤษภาทมิฬ) บิ๊กจิ๋วเข้าร่วมเป็นรัฐบาลที่มี "ชวน หลีกภัย" เป็นนายกรัฐมนตรี ในตำแหน่ง"รมว.มหาดไทย"หลังจากที่นาวาชวนล่ม และมีรัฐบาลบรรหาร
ขึ้นมาแทนในปี ๒๕๓๘ บิ๊กจิ๋วก็ได้ร่วมครม.อีกในตำแหน่งรมว.กลาโหม จนรัฐบาลบรรหารล่ม และมีการเลือกตั้งวันที่ ๑๗ พ.ย. ๒๕๓๙ พรรคบิ๊กจิ๋วชนะและก็เป็นนายกรัฐมนตรี
 ต่อมาเมื่อบิ๊กจิ๋วลาออกโดย"ชวน" มาบริหารประเทศต่อ" บิ๊กจิ๋ว"ก็มาเป็นผู้นำฝ่ายค้าน จนกระทั่งมีการยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ในวันที่ ๖ ม.ค. ๒๕๔๔ "บิ๊กจิ๋ว"ได้มาร่วมรัฐบาล
ทักษิณในตำแหน่ง รมว.กลาโหมอีกครั้ง
 
 
http://www.innnews.co.th/innexct/may50_v43/p4.php
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2007, 19:28 โดย รวงข้าวล้อลม » บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
ล้างโคตรทักษิณ
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 903



« ตอบ #1 เมื่อ: 29-05-2007, 19:40 »

ก็เป็นไปได้ครับ

ถ้าให้เทียบขั้วการเมือง ชวน-ปชป. ยังไม่เป็นศัตรูคมช.จะแจ้ง อย่างพรรคทุยหลงแม้ว แต่ชวนมา ผมว่าสไตล์การทำงานเขาก็ไม่ต่างจาก พล อ. สุรยุทธ์เท่าไหร่นะครับ
บันทึกการเข้า
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #2 เมื่อ: 29-05-2007, 19:47 »

เป็นความเห็นที่อิงมาจากความเชื่อที่ว่า การตัดสินยุบพรรคหรือไม่ยุบพรรค ขึ้นอยู่กับการสั่งการของผู้มีอำนาจ ซึ่งน่าจะผิดไปแล้วค่ะ

มองตุลาการรัฐธรรมนูญทั้งหมดแล้ว และเมื่อเห็นที่มา (ที่มาไม่ได้หมายถึงใครเลือกนะคะ ที่มาคือตำแหน่งที่ท่านรับผิดชอบมา) ก็ทราบว่าการตัดสินนี้ จะเป็นไปตามหลักนิติศาสตร์ ตามกฎหมาย ใช้หลักการ ไม่มีหลักกู ดังนั้นการคาดการการเมืองล่วงหน้า โดยอิงผลการยุบพรรคว่า สามารถสั่งได้ จึงผิดแน่นอนค่ะ

การต่อท่ออำนาจ เป็นอีกมุมมองหนึ่งที่กำลังจับตากัน ข่าวการสืบทอดอำนาจนั้น มาจากสายนักการเมืองนั่นเอง ที่ช่วยตีปี๊บปล่อยข่าว เพราะกลัวจนแทบขาดใจว่า หากเขาต่อท่ออำนาจกัน ตนเองก็หมดหวังในการมีอำนาจ ยิ่งต่อได้เนียนเท่าไหร่ ยิ่งหมดโอกาศไปอีกหลายสิบปี โดยเฉพาะนักการเมืองที่จวนจะเข้าโลงอยู่แล้ว หลายคนทีเดียวที่การเลือกตั้งครั้งนี้ อาจเป็นครั้งสุดท้ายของชีวิต ครั้งต่อไปคงต้องหามลงสนาม หากกิเลสยังไม่หมด และถ้าเขาต่อท่ออำนาจได้สักสองสมัย ลงโลงได้เลยไม่ได้มีโอกาศกลับมาแล้ว ดังนั้น ต้อตีกันไว้ก่อน ตีปลาหน้าไซไว้ให้โครมคราม

แต่สิ่งที่ยังไม่เป็นข่าวมากนัก ก็คือมาตราหนึ่งของรัฐธรรมนูญใหม่ ซึ่งถ้ารัฐธรรมนูญนี้ไม่ผ่านประชามติ ก็จะถูกนำไปใส่ในรัฐธรรมนูญฉบับไหนก็ได้ที่ยกมาใช้ มาตราที่ว่าด้วยการทุจริตการเลือกตั้ง พูดง่ายๆก็คือซื้อเสียงนั่นแหละ แต่ก่อน ใครซื้อได้ใบแดง มาตราใหม่นี้ พรรคต้องรับผิดชอบลูกพรรคด้วย ลูกพรรคซื้อเสียง พรรคโดนใบแดงด้วย  

โอว์ พระเจ้าจอร์จ จอดแน่ๆ

หากมาตราพิเศษนี้ ถูกสอดแทรกเข้าไปในรัฐธรรมนูญสำเร็จ

มังกรสุพรรณ ก็กลายเป็นกิ้งกือ  พ่อใหญ่ ก็กลายเป็นพ่อเหี่ยว  ไม่ว่าจะมองไปพรรคไหน จะเห็นนั่งหอบแฮ่กๆๆๆ พูดไม่ออกบอกไม่ถูกกันทั้งนั้น
 
จะทำไงล่ะ ซื้อเสียง โดนใบแดงเข้าไปคนหนึ่ง พังทั้งพรรค  

จะล้มรัฐธรรมนูญนี้ ฉบับเก่าที่จะเอามาปัดฝุ่น ก็จะมีมาตรานี้ติดไปด้วย  

ไม่ต้องต่อท่อแร้ววววว พรรคตั้งใหม่ ก็อาจหาญสู้พรรคเก่าๆได้ เมื่อซื้อเสียงไม่ได้ โอกาศก็มีเท่าๆกัน จะให้ใครเป็นนายก ตั้งพรรคใหม่มาได้เลย รัฐบาลผสม ควบคุมได้ เลือกได้ ไม่ต้องต่อท่อแร้วววว  
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: