เลขาฯ อ้อ ยืดอกรับ จัดแจงซื้อหุ้นชินฯ เอง โดย ผู้จัดการออนไลน์ 29 พฤษภาคม 2550 15:20 น.
กาญจนาภา แจงขายหุ้นชินคอร์ป รอบ 4 ยืดอกรับเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด ด้าน จารุวรรณ ร่อนหนังสือถึงทีโอที สอบข้อพิพาทอนุญาโตตุลาการ เหตุเสียค่าโง่บริษัท ทรู กว่า 9 พันล้านบาท
วันนี้ (29 พ.ค.) ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส) มีการประชุมคณะอนุกรรมการตรวจสอบการซื้อขายหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่ง นายวิโรจน์ เลาหะพันธุ์ กรรมการ คตส.เป็นประธานการประชุม โดยเชิญนางกาญจนาภา หงษ์เหิน เลขานุการส่วนตัวคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาชี้แจงข้องมูลเพิ่มเติม ซึ่งการมาชี้แจงครั้งนี้ถือเป็นรอบที่ 4 แล้ว
ทั้งนี้ นางกาญจนากล่าวก่อนเช้าชี้แจงว่า ยังไม่ทราบว่าอนุกรรมการจะสอบถามเรื่องใดบ้าง เพราะครั้งที่ผ่านมาอนุกรรมการได้สอบถามหลายเรื่องหลายประเด็นแต่ยังไม่เสร็จ เพราะมีการตั้งคำถามเยอะมาก อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าสามารถชี้แจงได้ทุกเรื่อง เพราะการซื้อขายหุ้นตนเป็นผู้รับผิดชอบและดำเนินการเอง ทั้งนี้ ที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยกับคุณหญิงพจมานบ้าง ส่วนคุณหญิงพจมานจะมาชี้แจงในวันที่ 6 มิ.ย.นี้หรือไม่ ยังไม่ทราบ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้ คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ได้ทำหนังสือถึงประธานกรรมการบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน)
กรณีข้อเสนอพิพาทตามสัญญาร่วมการงานและร่วมลงทุนขยายบริการโทรศัพท์ต่ออนุญาโตตุลาการของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เนื่องจากนายประสิทธิ์ โฆวิไลกูล ในฐานะประธานอนุญาโตตุลาการ มีส่วนได้เสียในการพิจารณาข้อพิพาทชี้ขาดให้บริษัท ทีโอที ชำระให้เงินให้กับบริษัท ทรู จำนวน 9,175.82 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ของจำนวนเงิน นับตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม 2549 ตามที่เรียกร้องค่าผลประโยชน์ตอบแทนการนำบริการพิเศษมาใช้ผ่านโครงข่ายของบริษัทผู้เรียกร้อง และขณะนี้เรื่องอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองกลาง
ในหนังสือระบุว่า นายประสิทธิ์มีส่วนได้เสียกับคู่กรณี จึงไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ.อนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2545 เนื่องจากนายประสิทธิ์เป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายของบริษัท อลิอันซ์ จำกัด (มหาชน) ของประเทศเยอรมนี ร่วมกับบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด หรือซีพี รวมทั้งเป็นกรรมการอิสระของบริษัทประกันวินาศภัย อลิอันซ์ ซีพี ซึ่งมีบุคคลในครอบครัว เจียรวนนท์ เป็นกรรมการบริษัท นอกจากนี้ยังพบว่า นายประสิทธิ์ยังเป็นกรรมการผู้มีอำนาจในบริษัท อลิอันซ์ ซีพี ประกันภัย จำกัด ซึ่งมีบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เช่นเดียวกับบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น ซึ่งมีผลกระทบต่อความเป็นกลางและเป็นอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ แต่ปรากฏว่า บริษัท ทีโอที กลับไม่ใช้สิทธ์คัดค้านและรักษาผลประโยชน์ของรัฐ ดังนั้น บริษัท ทีโอที ควรจะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีบุคคลใดบ้างที่ต้องรับผิดชอบ และให้แจ้งผลการตรวจสอบกลับมายัง สตง.ด้วย ทั้งนี้ ผู้ว่าการ สตง.ยังได้ทำสำเนาแจ้งให้นายกรัฐมนตรี และ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารทราบด้วย ด้าน นายอุดม เฟื่องฟุ้ง ในฐานประธานอนุกรรมการไต่สวนคดีการซื้อขายที่ดินย่านรัชดาฯ ของกองทุนเพื่อการพัฒนาและฟื้นฟูระบบสถาบันการเงิน กับคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ทนายผู้ถูกกล่าวหาร้องขอให้อัยการสูงสุด สอบพยานเพิ่มเติมจากอดีตกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า เรื่องนี้ถือเป็นสิทธิของผู้ถูกกล่าวหา แต่ที่ผ่านมาอนุกรรมการไต่สวนได้มีการตรวจสอบเอกสารในดคีดังกล่าวที่อยู่ในการพิจารณาของ ป.ป.ช.เรียบร้อยแล้ว และได้มีการสอบเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. พร้อมทั้งได้สรุปในสำนวนการส่งฟ้องแล้ว ส่วนอัยการสูงสุดจะรับสอบหรือเชิญอดีตป.ป.ช.มาชี้แจงหรือไม่ ขึ้นอยู่กับองค์คณะของอัยการสูงสุด อย่างไรก็ตาม ในเรื่องความเป็นกลางของอดีต ป.ป.ช.ชุดที่ผ่านมา ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน เพราะสังคมทราบดีว่ามีความเป็นกลางและเป็นธรรมอย่างไร
รายงานข่าวจากอดีต ป.ป.ช.กล่าวว่า คำร้องกรณีดังกล่าวเคยมีบุคคลและกลุ่มบุคคลมายื่นให้ ป.ป.ช.ดำเนินการตรวจสอบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้บรรจุคำร้องดังกล่าวเข้าสู่วาระการประชุม และเมื่อเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การประชุมก็ได้มีการพิจารณาถึงขอบเขตของกฎหมายซึ่งที่ประชุม ป.ป.ช.และเจ้าหน้าที่ก็แสดงความเห็นว่า กรณีดังกล่าวไม่สามารถรับเรื่องไว้พิจารณาได้เนื่องจากบุคคล และกลุ่มบุคคลที่มาร้องไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรงจึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ ป.ป.ช.สามารถตรวจสอบได้ ดังนั้น ที่ประชุมจึงมีหนังสือชี้แจงไปถึงผู้ร้อง
รวมทั้งได้แนะนำให้ผู้ร้องไปแจ้งความร้องทุกข์ เพื่อลงบันทึกประจำวันพร้อมทั้งให้ติดตามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร้อง แต่เรื่องดังกล่าวก็หายไป ส่วนเรื่องความเป็นกลางยืนยันว่าอดีต ป.ป.ช.ทั้ง 9 คนปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายไม่ได้เข้าข้างใคร
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9500000061902 ในหนังสือระบุว่า นายประสิทธิ์มีส่วนได้เสียกับคู่กรณี จึงไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ.อนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2545......นี่อาจจะเป็นสาเหตุทำให้โรคหัวใจของนายประสิทธิ์กำเริบ ต้องลาออกจากตำแหน่ง รมต.ของรัฐบาลนี้ ก็ได้........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า