******มุขสุดท้ายของพรรคการเมืองที่เป็นที่รู้กันว่าที่มีแนวโน้มจะถูกยุบพรรค******

[********Q********]

ขอเปิดเผยมุข/มุกเลยครับ..!!!



วิ่งเข้าสร้างความขัดแย้งให้กับสังคม โดยยื่นถวายฏีกาขอพระราชทานอภัยโทษ หรือจากนั้นผลักดันนิรโทษกรรม..


ขอเรียนให้ทราบว่า พระองค์ท่านทรงอยู่เหนือการเมือง ดังนั้นผู้ใดอย่าบังอาจจาบจ้วง ก้าวล่วงเป็นอันขาด เพราะฎีกานั้นไม่มีผู้ใดรับเพื่อนำไปถวายได้..


ส่วนด้านนิรโทษกรรมนั้น ศาลรัฐธรรมนูญ  จะเปิดช่องไว้หรือไม่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของคณะตุลาการ  และหน่วยงานที่จะนำเสนอกฎหมายครับ..


หวังว่าผู้ฝักใฝ่ในพรรคการเมือง เพียงหยิบมือที่ชอบสร้างปัญหาปลุกระดมป่วนเมือง จงเข้าใจไว้ตามนี้โดยทั่วกัน




หมายเหตุ กระทู้นี้เป็นกระทู้ฝังมุขครับ ฮาหน่อยสิครับ...

[qazwsx]

เอาไว้เมื่อ
มุกติดแค้ว
แล้วผมจะฮา

[อังศนา]

แหม.. รับมุกกันได้เด็ดขาดแท้! 

[********Q********]

เอาไว้เมื่อ
มุกติดแค้ว
แล้วผมจะฮา

แหม.. รับมุกกันได้เด็ดขาดแท้! 

เอาไว้เมื่อ
มุกติดแค้ว
แล้วผมจะฮา

ขอบคุณทักท่านที่มาร่วมเป็นสักขีพยาน ในกระทู้ฝังมุขครับ

เข้าใจว่าสดุ้งอีกไม่กี่เฮือก พวกเล่นมุขทำลายชาติคงขาดใจตายกันเป็นแถว หายไป5ปี หายไปเลยได้ เมืองไทยก็ไม่ล่มจมอีกแล้ว

[The Last Emperor]

ขอบคุณทักท่านที่มาร่วมเป็นสักขีพยาน ในกระทู้ฝังมุขครับ

เข้าใจว่าสดุ้งอีกไม่กี่เฮือก พวกเล่นมุขทำลายชาติคงขาดใจตายกันเป็นแถว หายไป5ปี หายไปเลยได้ เมืองไทยก็ไม่ล่มจมอีกแล้ว

ศก.ซบดันหนี้นอกระบบหวนพุ่งสูง 

แบงก์เข้มงวด-รายได้ไม่ทันค่าครองชีพ ว่างงานเพิ่ม-เด็กจบใหม่ได้งานต่ำวุฒิฯ



เผยผลสำรวจหนี้ภาคครัวเรือนอยู่ในระดับน่ากังวล รายได้ไม่พอใช้ชนเดือน หันนอกระบบขยายตัวเพิ่มกว่าปีก่อน เหตุแบงก์เข้มงวดปล่อยสินเชื่อ ด้าน สศค.ชี้ปี"50 คนเตะฝุ่นเพิ่มขึ้นแต่ยังไม่อยู่ในระดับน่าวิตก ห่วงเด็กจบใหม่ได้งานต่ำกว่าวุฒิฯ

เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงผลสำรวจสถานภาพหนี้ภาคครัวเรือน ระหว่างวันที่ 14-22 พฤษภาคม 2550 เปรียบเทียบกับการสำรวจ เมื่อวันที่ 19-24 สิงหาคม 2549 ว่า หนี้ครัวเรือนกำลังเป็นปัญหาที่น่ากังวลมากขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงสภาพเศรษฐกิจซบเซา ประชาชนมีรายได้ไม่สมดุลกับค่าครองชีพ หรือเรียกได้ว่ามีเงินใช้ไม่ชนเดือนจากปัญหาของราคาสินค้าและค่าครองชีพที่สูงขึ้น ประกอบกับนโยบายระมัดระวังการปล่อยกู้ของธนาคารทำให้เกิดการกู้เงินนอกระบบมากขึ้น และน่าวิตกคือคนไทยเลือกแก้ปัญหาจากการขายหรือจำนำสินทรัพย์มาเป็นการกู้ยืมเพิ่มขึ้น

เมื่อเปรียบเทียบภาวะหนี้ครัวเรือนของการทำสำรวจครั้งแรกของศูนย์พยากรณ์ฯเมื่อ 19-24 สิงหาคม 2549 กับการทำสำรวจครั้งล่าสุดนี้ พบว่า ภาระหนี้ครัวเรือนมีมากขึ้นจาก 75.7% เป็น 79.87% โดยในปี 2549 เฉลี่ยหนี้สินครัวเรือน 116,839.8 บาท แยกหนี้ในระบบ 73.9% หนี้นอกระบบ 26.1% แต่ในปี 2550 เพิ่มเป็น 134,190.13 บาท แยกเป็นหนี้ในระบบ 63.1% หนี้นอกระบบ 36.99% จุดประสงค์ของการกู้ยืมแม้ปี 2549 และ 2550 เพื่อใช้จ่ายประจำวันเป็นอันดับแรก แต่สัดส่วนเพิ่มจาก 35.6% เป็น 54.36%

ขณะที่ปี 2550 สัดส่วนกู้เพื่อที่อยู่อาศัย รักษาพยาบาล และการลงทุน ลดลงมาก จาก 16.8% 13.9% และ 7.7% เหลือ 8.03% 5.22% และ 3.77% ตามลำดับ นอกจากนี้ยังพบว่า ประชาชนมีปัญหาความสามารถในชำระหนี้เพิ่มขึ้น โดยวิธีการแก้ไขปัญหาหนี้สินปี 2549 เลือกขายหรือจำนำสินทรัพย์เป็นอันดับแรก ขณะที่ในปีนี้จะเลือกวิธีการกู้ยืมเป็นอันดับแรก

"หนี้ครัวเรือนถือว่าอยู่ในระดับน่ากังวล แต่ยังไม่ถึงขั้นวิกฤตเหมือนวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 แต่หากรัฐบาลไม่เร่งแก้ไขในปัญหาการหดตัวของเศรษฐกิจโดยรวม และออกมาตรการกระตุ้นความเชื่อมั่นของประชาชนและนักลงทุนให้กลับมาได้ภายในไตรมาส 3 ของปีนี้ โดยปล่อยให้เศรษฐกิจไทยต่ำกว่า 3.5% จะทำให้สถานการณ์หนี้ครัวเรือนแย่ลงอีกและเข้าขั้นวิกฤตได้ ซึ่งมาตรการต่างๆ ที่รัฐจะออกมาใช้ต้องเกิดผลภายใน 3-6 เดือน"

(อ่านรายละเอียด น.20)

ทางด้านสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้ทำการวิเคราะห์ผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัวต่อปัญหาการว่างงาน ว่า ในปี 2550 จะมีแรงงานจบใหม่ทั้งสิ้น 7.2 แสนคน ขณะที่มีแรงงานเกษียณอายุประมาณ 4 แสนคน คาดว่าจะมีแรงงานใหม่สุทธิเข้าตลาดแรงงานอีกประมาณ 3.1 แสนคน ทำให้กำลังแรงงานทั้งหมดในระบบในปี 2550 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 36.74 ล้านคน จาก 36.42 ล้านคนในปี 2549 สำหรับอัตราการว่างงานในปี 2550 หากเศรษฐกิจขยายตัว 3.5% จะมีผู้ว่างงาน 6.78 แสนคน หรือ 1.9% ของกำลังแรงงานทั้งหมด หากเศรษฐกิจขยายตัว ร้อยละ 4 จะมีผู้ว่างงาน 6.23 แสนคน หรือคิดเป็นอัตราการว่างงาน 1.7% และหากเศรษฐกิจขยายตัวร้อยละ 4.5% จะมีผู้ว่างงาน 5.53 แสนคน หรือมีอัตราการว่างงาน 1.5% เท่านั้น

นายแล ดิลกวิทยรัตน์ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ตัวเลขการว่างงานที่ระดับ 1.5-1.9% ตามทฤษฎีแล้วไม่ถือว่ารุนแรง อย่างไรก็ตาม การว่างงานที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อเวลาในการหางานของนักศึกษาจบใหม่ที่จะต้องเสียเวลามากขึ้น รวมถึงอาจได้งานที่มีระดับต่ำกว่าความรู้ที่เรียนมา หรือได้งานไม่ตรงกับความสามารถที่เรียนรู้มา จะทำให้ไม่ได้ประโยชน์จากแรงงานใหม่เหล่านี้เต็มที่ ซึ่งถือว่าที่ผ่านมาเป็นการลงทุนที่สูญเปล่าของภาครัฐ รัฐจึงควรหาทางออกหรือเตรียมการรับมือไว้ โดยต้องกระตุ้นให้มีการจ้างงานเพิ่มมากขึ้น และจะต้องหามาตรการรองรับการว่างงานที่จะเกิดขึ้น

[********Q********]

ไม่มีอะไร หากจีดีพี ขยายตัวอยู่ในเกรฑ์4-6% และไม่มีการใช้เงินอนาคตหรือนอกงบประมาณอย่างขาดวินัยการคลัง ขาดวินับงบประมาณภาครัฐก้ไม่มีปัญหา

เอกชนปรับตัวได้อยู่แล้ว ที่สำคัญอย่าเสียพลังงานไปในการดิ้นพาแมวหนีตาย ตั้งสติช่วยกันพัฒนาชาติบ้านเมืองต่อไป..
                                                                                                                                                                                   

[-3-]

ศก ปี 40 หนักกว่านี้ยังรอดมาได้ แค่นี้จะบ่นไปทำไมอ่ะพี่จ๊ะ... 

ปล ปูเสื่อรอดูว่าจะมาไม้ตายนี้จริงหรือไม่ 

[The Last Emperor]

อืมมมม....ถ้าคิดว่าเศรษฐกิจไทยเราไม่เห็นเป็นไร ขนาดปี2540ยังผ่านมาได้  งั้นก็ต้องไม่สนใจเรื่องการเลือกตั้งซิเพราะมีเผด็จการปกครองแล้วยังไม่เห็นเป็นไร  ราคาสินค้าจะขึ้นราคาก็ช่างเพราะมันก็เคยขึ้นมาแล้วบ่อยๆ   ยาบ้า/มาเฟียจะกลับมาครองเมืองก็ย่อมไม่มีปัญหาเพราะสมัยก่อนมันเยอะจนชิน   ฯลฯ


ถ้าคิดอย่างนั้นได้...OK เลยครับ!!

[aiwen^mei]

...

เพราะสมัยก่อนมันเยอะจนชิน   ฯลฯ
...

[ล้างโคตรทักษิณ]

เดี๋ยว พรรคโดนยุบ หัวปิ๊บโดนยึดทรัพย์  ไม่มีเงินจ้างมาเลีย มุขอะไรขี้ข้าแม้วก้ขำไม่ออก

[********Q********]

"จาตุรนต์" พร้อมรับคำวินิจฉัยคดียุบพรรค ยอมรับหารือ "ทักษิณ" แล้ว
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 25 พฤษภาคม 2550 13:10 น.
 
 
       นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าว รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีความห่วงใยต่อบ้านเมือง พร้อมน้อมรับกระแสพระราชดำรัส โดยพรรคไทยรักไทยจะกำชับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องระมัดระวังไม่ให้เกิดความวุ่นวายใดๆ โดยเฉพาะการตัดสินคดียุบพรรค ซึ่งเชื่อมั่นในหลักยุติธรรมของตุลาการรัฐธรรมนูญ เพราะไม่ว่าจะตัดสินออกมาในรูปแบบใดพรรคพร้อมยอมรับคำตัดสิน ซึ่งยืนยันว่า จะไม่มีการชุมนุมใดๆ ของอดีต ส.ส. พร้อมกันนี้ยอมรับว่า ได้มีการหารือกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย เกี่ยวกับคดี ซึ่งใน 1-2 วันนี้จะมีการพูดคุยกันอีกครั้ง
        นอกจากนั้น รักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ยังกล่าวอีกว่า วันชี้ขาดคดียุบพรรค 30 พฤษภาคม ทางพรรคได้จัดเตรียมสถานที่ ณ ที่ทำการพรรค เพื่อรองรับอดีต ส.ส. และประชาชนที่สนใจเข้าร่วมรับฟังคำตัดสินด้วย
 

ประชาชนที่สนใจ ดูทีวี9ช่องที่บ้านดีที่สุดครับ
 

[********Q********]

วันที่ 25 พฤษภาคม 2550 เวลา 11:40 น. | จำนวนผู้อ่าน 261 คน ผู้โหวต 0 คน
คะแนนข่าว       

ขนาดตัวอักษร ก ก ก


โพลล์เผย ปชช. เชื่อมั่นตุลาการ รธน.ตัดสินคดียุบพรรค


 ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์ ม.กรุงเทพ เผยผลวิจัย ในหัวข้อ "ประชาชนคิดอย่างไรกับคดียุบพรรคการเมือง" โดยทำการสำรวจจากประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในกทม. พบว่า ร้อยละ 57.7 เชื่อมั่นว่าตุลาการรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย ชี้ขาดคดียุบพรรคที่มีน้ำหนักชัดเจน เพียงพอ ไม่ทำให้เกิดข้อโต้แย้งตามมา ขณะที่ร้อยละ 73.6 ไม่เห็นด้วยกับการนัดชุมนุมเคลื่อนไหว เพราะอาจทำให้เหตุการณ์บานปลาย กดดันศาล จึงควรรอฟังคำตัดสินของศาลด้วยเหตุผลมากกว่าอารมณ์ ซึ่ง ร้อยละ 53.7 ไม่กังวลเรื่องเหตุรุนแรงหลังคำตัดสิน เพราะเชื่อมั่นว่ารัฐบาลและคมช.จะคุมสถานการณ์ให้อยู่ในความสงบได้ด้วยสันติวิธี

นอกจากนี้ ผลการสำรวจระบุว่า ประชาชนร้อยละ 76.1 ไม่เห็นด้วยกับการปฏิวัติซ้ำทุกกรณี ขณะที่ร้อยละ 60.2 ยังต้องการให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กลับไทย โดยร้อยละ 30.3 ต้องการให้กลับหลังเลือกตั้ง ร้อยละ 15.7 ต้องการให้กลับหลังตัดสินคดียุบพรรค และร้อยละ 14.2 ต้องการให้กลับในเดือนพ.ค.นี้ ส่วนอีกร้อยละ 39.8 ไม่ต้องการให้กลับไทยอีกเลย
 

[The Last Emperor]

ฮ่าๆๆๆ....มีโคดนาแอบแฝงแบบนี้ถือว่าไม่มีจริยธรรม คุณธรรม และมโนธรรม อ่ะน๊ะ

[aiwen^mei]

ฮ่าๆๆๆ....มีโคดนาแอบแฝงแบบนี้ถือว่าไม่มีจริยธรรม คุณธรรม และมโนธรรม อ่ะน๊ะ

อิอิอิ ครายบอกก๊านนน เค้าเรียกว่า "รับมุก/มุข" ต่างหากเจ้าคะ 

ปล. ว่าแต่จานจ๊ะรอรอกวาดเกลี้ยงแผงใช่หมายยเนี่ยะ ? 

[ไทมุง]

  มารับมุก แต่ขอให้เป็นแค่มุขเถิด เจ้าประคู๊น อยากเห็นน้ำหน้านักการเมืองถูกดองเค็ม 5 ปี

ให้สาสมกับพฤติการณ์เหลี่ยมๆ

[room5]

ฝังมุขอย่างนี้จ๊ะก็เจ็บก้นตายหน่ะสิ

[jrr.]

คงไม่เจ็บหรอก....ป่านนี้ก้นก็คงฝังแล้วเหมือนกัน !!!

[justy]

จะรอดูพวกที่บอกว่าตัวเองเป็นประชาธิปไตยที่สุด

[********Q********]

“คณิต” จี้ตุลาการ รธน.ต้องใช้ภาววิสัย เขียนคำวินิจฉัยคดียุบพรรค  
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 27 พฤษภาคม 2550 15:26 น.
 
 
   
คณิต ณ นคร อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ 
 
 
       “อดีต อสส.” ยอมรับทุกฝ่ายเป็นห่วงสถานการณ์ หลังชี้ขาดคดียุบพรรค เรียกร้องตุลาการ รธน.เรียกคืนศรัทธาโดยใช้พื้นฐานนิติรัฐเป็นสำคัญ ย้ำคำวินิจฉัยต้องมีภววิสัยที่ประชาชนอ่านแล้วต้องเข้าใจ ไม่ใช่ทำให้หลงเชื่อ
       
       วันนี้ (27 พ.ค.) นายคณิต ณ นคร อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ในฐานะอดีตอัยการสูงสุด กล่าวถึงการตัดสินคดียุบพรรคการเมือง ของคณะตุลาการรัฐธรรมนูญว่า ต้องมีความเป็นภววิสัย คือ อ่านแล้วคนเข้าใจ แต่ไม่ใช่อ่านแล้วคนเชื่อ ที่ผ่านมาการตัดสินของเรา (องค์กรศาล) ไม่ค่อยจะให้ความเห็นที่เป็นเหตุผลอย่างละเอียดรอบคอบ ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับสั่งเมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา ต้องทำให้ประชาชนเข้าใจ แต่ของเราไม่ค่อยจะทำกัน การตัดสินคดียุบพรรคในวันที่ 30 พ.ค. ถ้าคนไม่เข้าใจก็จะถูกมองว่าเป็นการทุบโต๊ะ
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมามีการพูดถึงให้ใช้หลักนิติศาสตร์ในการตัดสินคดี นายคณิต กล่าวว่า ต้องตัดสินตามความถูกต้องในพื้นฐานของนิติรัฐ ส่วนเป็นห่วงสถานการณ์ภายหลังคดียุบพรรคหรือไม่นั้น ตนเชื่อว่าทุกคนเป็นห่วง เพราะถือว่าในอดีตเราไม่ค่อยสนใจในเรื่องนี้ ทำให้ความเชื่อถือ ศรัทธาในองค์กรชี้ขาดลดลง ที่ผ่านมาความเชื่อถือในศาสรัฐธรรมนูญในอดีตลดลงเป็น “ศูนย์” แต่ศาลยุติธรรมและศาลปกครองก็ยังอยู่ในสถานะที่ดีก็อยากให้รักษาไว้ อย่างไรก็ตาม ย้ำว่าถ้าให้เหตุผลที่เป็นภาววิสัยแล้วไม่ต้องมาอธิบายใดๆ ทั้งสิ้น ไม่มีศาลหรือผู้พิพากษาประเทศไหน มาอธิบายคำตัดสินของตน แต่ของเราบางครั้งก็มีการออกมาพูด อธิบายไปอธิบายมาก็ไม่ใช่ในสิ่งที่มาอธิบายเหตุผลที่มี มันจะเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือต่างๆ
       
       เมื่อถามว่า มองว่าพรรคการเมืองที่ถูกพิจารณาคดีจะเป็นที่มาของความวุ่นวายต่อไปหรือไม่ นายคณิต กล่าวว่า ไม่มีใครคาดเดาได้ แต่เวลานี้อย่าไปมองว่ายุบหรือไม่ยุบ ซึ่งต้องรอให้ผลการตัดสินออกมาก่อน และต้องดูคำวินิจฉัย ถ้าไม่เป็นเหตุเป็นผลก็ค่อยว่ากัน
       
       “เวลานี้ต้องปล่อยให้เขาทำงาน และเราต้องเชื่อมั่นในตัวองค์กร ไม่เชื่อมั่นในตัวบุคคล เพราะบุคคลสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ทั้งนี้องค์กรก็ต้องอยู่ต่อไป” นายคณิต กล่าว
 

[********Q********]

ก่อน9.00น 30พค.50 ขอเชิญฟันธงคดียุบพรรคการเมืองเป็นครั้งสุดท้าย

ท่านใดเชื่อมั่นว่าจะเป็นอย่างไร ? ลองฟันธงครั้งสุดท้ายกันดูได้  ที่นี่ ครับ

โอกาสสุดท้ายในการวิเคราะห์วิพากษ์วิจารณ์ก่อนจะทราบผลและการวินิจฉัยของศาลครับ...

[aoporadio]

 
ฮาก่อนเลี้ยวกัง


อ้าง เศษฐกิจ อีกแล้ว ข้าพเจ้าละเบี่ย ละเหี่ยใจ 

แม้วไม่อยู่ ประเทศก็มิ เป็นไรไปได้ แถมประหยัดไปหลาย...

แต่ถ้ามันอยู่ต่อเนื่อง ดิ

ประชาชนชั้น 3ครึ่ง เรา ท่าน ก็ไม่แน่ว่าจะได้เป็น

[********Q********]

ฮาก่อนเลี้ยวกัง


อ้าง เศษฐกิจ อีกแล้ว ข้าพเจ้าละเบี่ย ละเหี่ยใจ 

แม้วไม่อยู่ ประเทศก็มิ เป็นไรไปได้ แถมประหยัดไปหลาย...

แต่ถ้ามันอยู่ต่อเนื่อง ดิ

ประชาชนชั้น 3ครึ่ง เรา ท่าน ก็ไม่แน่ว่าจะได้เป็น

ก่อน9.00น 30พค.50 ขอเชิญฟันธงคดียุบพรรคการเมืองเป็นครั้งสุดท้าย

ท่านใดเชื่อมั่นว่าจะเป็นอย่างไร ? ลองฟันธงครั้งสุดท้ายกันดูได้  ที่นี่ ครับ

โอกาสสุดท้ายในการวิเคราะห์วิพากษ์วิจารณ์ก่อนจะทราบผลและการวินิจฉัยของศาลครับ...

สวัสดีครับ

หลังมีคำพิพากษายุบพรรคแล้ว  เราก็คงมาว่ากันต่อเรื่องการเมืองข้างหน้าได้ครับ

ส่วนพวกที่พยามยามสร้างความปั่นป่วน โดยเฉพาะคำสั่งศาลในเรื่องต่างๆที่ยุติไปแล้ว

ผมเสนอให้ลบข้อความเหล่านั้น หรือถอนสมาชิกภาพไปเลยครับ..

สังคมของเราต้องการคนทำงาน ไม่ใช่กบฏในรูปแบบต่างๆ หรือแม้แต่อีแอบที่อ้างเสรีภาพไร้ขีดจำกัดอย่างทุกวันนี้...

[********Q********]

เก็บความเห็นฟันธงของสมาชิก ต่างกระทู้ไว้ด้วยครับ..

http://forum.serithai.net/index.php?topic=13936.msg184567#msg184567

มันอ้างอย่างงั้นเลยเรอะเนี่ย 

[********Q********]

ประเด็นที่ต้องฟันธง

1. ยุบอย่างไร? ไม่ยุบทั้งสอง, ยุบ1พรรค พรรคอะไร?.บุบทั้ง2พรรค

2.กรรมการบริหารถูกห้ามเป็นกรรมการ5ปีหรือไม่ พรรคใดบ้าง? ไม่ว่าจะยุบพรรคหรือไม่ก็ตามแต่

3.กรรมการบริหารถูกตัดสิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมด5ปีหรือไม่ พรรคใดบ้าง?

4.มีผูถูกลงโทษโดยไม่เกี่ยวกับพรรคบ้างหรือไม่?? ใคร??

5.ผลการลงมติของคณะศาลจะเป็นเช่นไร??มีสัดส่วนเท่าไร??

[********Q********]

โทษสำหรับกบฎ คือ ศาลสามารถตัดสินประหารชีวิตได้...

หรือจะขังลืมเป็นบางรายก็เก๋ไปอีกแบบ แต่คงไม่ใช่เหลี่ยม เพราะหากไม่หยุดเคลื่อนไหวทางการเมืองคงต้องมีมากกว่า9ชีวิต
                                                                                                                                                                       

[********Q********]

29 พค.ดึกๆ ถึง30เช้า มารออ่านฟันธง

ทั้งATและ PT ถ้ามีครับ...
                                                       

[ปุถุชน]

ปูดเชียงใหม่จ่ายม็อบหัวละ 5 พันบาท

 อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวจากจ.เชียงใหม่ ว่ามีกระแสข่าวการแจกเงินผ่านทางหัวคะแนนและหัวหน้าชุมชนบางแห่งในเขตตัวเมืองเชียงใหม่ เพื่อจ้างชาวบ้านให้เดินทางไปร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯ โดยจ่ายเงินให้รายละ 5,000 บาทเป็นค่าเดินทางไป-กลับ โดยให้จัดหาที่พักเอาเอง ทั้งนี้จะเลือกเฉพาะกลุ่มคนที่มีญาติพี่น้องหรือลูกหลานเรียนและทำงานอยู่ในกรุงเทพฯเพื่อเป็นข้ออ้างต่อเจ้าหน้าที่ โดยได้ทยอยเดินทางด้วยรถโดยสารไปกันเองจะไม่มีการตีตั๋วเหมารถไปเป็นกลุ่ม เพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัยหรือถูกควบคุม


http://www.bangkokbiznews.com/2007/05/29/WW10_WW10_news.php?newsid=74601


ความเหลื่อมล้ำระหว่างเชียงใหม่และร้อยเอ็ด.....

เชียงใหม่ได้หัวละ 5,000 บาท
ร้อยเอ็ดได้หัวละ      300 บาท

ทำไมการล้างสมองที่ร้อยเอ็ด จึงถูกกว่าที่เชียงใหม่.....

[********Q********]

คดีนี้ตัดสิน ไม่ยากเลย

ถ้าไม่ได้ทำผิดโดยตรงก็ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น..

.....

ลาก่อนเหลี่ยมและคณะ...ฟันธงครับ

03621 05711


                                                                         

[The Last Emperor]

'ชายฯ' มายำ...เอ๊ย...ย้ำอีกครั้งคร้าว่า ไม่ยุบทั้ง 2 พรรค แต่กรรมการบริหารบางคนของทั้ง 2 ค่ายจะโดนสอย


ถ้าผิดจากนี้....ปิดเว๊บเสรีไทยได้เลย!!

[********Q********]

'ชายฯ' มายำ...เอ๊ย...ย้ำอีกครั้งคร้าว่า ไม่ยุบทั้ง 2 พรรค แต่กรรมการบริหารบางคนของทั้ง 2 ค่ายจะโดนสอย


ถ้าผิดจากนี้....ปิดเว๊บเสรีไทยได้เลย!!

ไปให้แพทย์รับรองสุขภาพก่อนเถอะ ชายเอ๋ย...

[********Q********]

เอาข่าวมาแปะให้อ่านกัน

“พัลลภ” ปัดใช้ พ.ร.ก.ยุบพรรค จี้ “วีระ” โบกมือลาจัดชุมนุม 
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 28 พฤษภาคม 2550 17:23 น.
 
 
   
พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ที่ปรึกษาผอ.รมน.
 
 
       “ที่ปรึกษา ผอ.รมน.” ประเมินสถานการณ์ม็อบอีสานอ่อนกำลัง จัดทีมผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยเสริมกองทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่สร้างความเข้าใจประชาชน ย้ำ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่จำเป็นต้องนำมาใช้ในวันชี้ขาดยุบพรรค นัดเจรจา “วีระ" โบกมือลาการชุมนุม 31 พ.ค.นี้
       
       วันนี้ (28 พ.ค.) พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ที่ปรึกษาผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (ที่ปรึกษา ผอ.รมน.) กล่าวว่า ได้รับรายงานจาก กอ.รมน.ภาค 2 และแม่ทัพภาคที่ 2 ถึงข่าวการระดมมวลชนในภาคอีสานเข้าไปร่วมชุมนุมในวันตัดสินคดียุบพรรคการเมืองในกรุงเทพฯ วันที่ 30 พ.ค.นี้ว่า มีการเคลื่อนไหวของมวลชนในพื้นที่น้อยมาก ยอมรับว่ามีบ้างแต่น้อย การจะเข้าไปชุมนุมเป็นกลุ่มเป็นก้อนใหญ่ๆ ไม่น่าจะมี ซึ่งได้สั่งการ ผอ.รมน.ภาค 2 ให้พยายามสร้างความเข้าใจต่อประชาชนในพื้นที่ให้รับฟังผลคำตัดสินที่จะมีการถ่ายทอดทางสถานีโทรทัศน์ ขอให้ฟังข่าวอยู่ที่บ้านไม่ต้องเดินทางเข้าไปกรุงเทพฯ
       
       พล.อ.พัลลภ กล่าวอีกว่า วันนี้ (28 พ.ค.) ตนได้นัดพบกับกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยทั้ง 19 จังหวัดอีสานที่มีความสนิทสนมกันมานานจำนวนกว่า 100 คน โดยขอให้กลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยช่วยไปทำความเข้าใจกับประชาชน ให้อยู่ในพื้นที่ของตัวเองอย่าเข้าไปในกรุงเทพฯ เพราะนอกจากจะเสียเวลาแล้วอาจจะทำให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวายได้ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าสถานการณ์โดยรวมไม่น่าเป็นห่วง และคงไม่จำเป็นต้องประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
       
       พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ในวัน 31 พ.ค.นี้ เวลา 12.00 น.ตนได้นัดเจราจาพูดคุยกับนายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำกลุ่มพีทีวี ซึ่งเป็นกลุ่มที่ประเมินแล้วมีพลังมากที่สุดในขณะนี้ โดยจะขอให้ยุติการชุมนุมเพราะไม่เกิดประโยชน์อะไรแก่ชาติบ้านเมือง
       
       “คดียุบพรรคอยู่ในการพิจารณาของศาล ถ้าไม่เชื่อใจศาลก็ไม่รู้ว่าจะไว้ใจใครได้ เชื่อว่าทุกคนมีแนวคิด มีหัวคิด ไม่ใช่ว่าทางรัฐบาล หรือ คมช.เป็นคนไปตัดสินเอง แต่เป็นเรื่องของศาลสถิตยุติธรรม เราต้องเคารพ ผมคิดว่าไปฉุดให้ประชาชนขึ้นมาชุมนุมอย่างไรก็คงฉุดไม่ขึ้นหรอก” พล.อ.พัลลภ กล่าว
       
       ส่วนจะเกิดการปฏิวัติซ้ำขึ้นหรือไม่นั้น พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า คงไม่มี และเชื่อว่าทาง คมช.ก็ไม่มีแนวคิดเช่นนี้แน่ เพราะจากการพูดคุยกับประธาน คมช.ก็ไม่เคยมีแนวความคิดในเรื่องนี้เลย ตนยืนยันได้ ส่วนกรณีจะมีมือที่ 3 เข้ามาก่อกวนหรือไม่นั้น ส่วนตัวคิดว่าไม่น่าจะมี และหากมีก็เป็นกลุ่มเล็กๆ เท่านั้น คงไม่มีพลังมากพอที่จะสร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้น นอกจากว่าถ้าเขาสามารถรวมได้เป็นแสนคนขึ้นไป อย่างนั้นน่าเป็นห่วง
 
 
............

แกนนำมัชฌิมา ยืนยันหลังตัดสินคดียุบพรรคจะมีสมาชิกเพิ่มขึ้น
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 28 พฤษภาคม 2550 14:34 น.
 
 
       นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ในฐานะแกนนำกลุ่มมัชฌิมา กล่าวว่า ขอให้ทุกฝ่ายรอฟังคำตัดสินของตุลาการรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะเป็นการส่งสัญญาณยกที่ 1 ทางการเมือง แต่ยืนยันว่า หลังการตัดสินคดียุบพรรคแล้ว จะไม่มีกลุ่มมัชฌิมาไหลออกไปอยู่ที่อื่น แต่จะมีสมาชิกเพิ่มมากขึ้น ซึ่งการตัดสินของตุลาการรัฐธรรมนูญหากดูเหตุผลของการรัฐประหารที่ไม่ต้องการให้สังคมเกิดความแตกแยก ก็น่าจะเป็นเรื่องดี แต่หากทำให้การเมืองเหลือเพียง 2 ขั้ว เหมือนเดิม ก็เชื่อว่าความสมานฉันท์จะไม่เกิดขึ้น พร้อมปฏิเสธกรณีมีข่าวว่า พล.อ.สพรั่ง ระบุถึงการพูดคุยกับกลุ่มอำนาจเก่า ที่จะให้รัฐบาลสมัยหน้ามีวาระเพียง 2 ปี โดยยืนยันว่า ไม่เคยมีการพูดคุยเรื่องนี้ และเชื่อว่าอายุของรัฐบาลสมัยหน้า ต้องเป็นไปตามกรอบของรัฐธรรมนูญ พร้อมเรียกร้องให้ฝ่ายความมั่นคงแยกแยะกลุ่มประชาชนที่เดนทางมายังกรุงเทพฯ เพราะอาจเป็นกลุ่มที่มาทำกิจกรรมด้านอื่น เช่น การร่วมงานวันวิสาขบูชา ในวันที่ 31 พฤษภาคม
        ขณะเดียวกัน จากข้อมูลของกลุ่มมัชฌิมา ตรวจสอบพบว่า ระหว่างวันที่ 28 - 30 พฤษภาคม มีการจองโรงแรมระดับ 2 ดาว 3 ดาว ไว้ล่วงหน้า ซึ่งเห็นว่าเป็นพัฒนาการของกลุ่มที่ชุมนุมไม่เหมือนเดิม จึงขอให้หน่วยงานด้านความมั่นคงช่วยตรวจสอบให้เกิดความชัดเจนด้วยว่าโรงแรมที่มีการถูกจองนั้นทำไปเพื่อให้เคลื่อนไหวทางการเมืองหรือไม่
 
...................

ฝ่ายความมั่นคงสนธิกำลังตรวจเข้มที่ทำการ ปชป.
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 29 พฤษภาคม 2550 12:52 น.
 
 
       บรรยากาศที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้มีฝ่ายความมั่นคง ซึ่งมีการสนธิกำลังระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 11 และเจ้าหน้าที่เทศกิจ เข้าตรวจสอบเข้มบริเวณที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ โดยมีการนำเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด ตลอดจนสุนัขตำรวจ เข้ามาตรวจค้นด้วย นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดให้เจ้าหน้าที่ 24 นาย มาสับเปลี่ยนกันในการดูแลพรรค ส่วนในช่วงเวลากลางคืนจะเป็นหน้าที่ของฝ่ายทหาร นอกจากนี้ ยังมีการกวดขันที่เข้าออกพรรคอย่างเข้มงวดด้วย เพื่อป้องกัยบุคคลภายนอกเข้ามาสร้างความปั่นป่วนในช่วงของการยุบพรรค
        ขณะที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ยังคงเชื่อมั่นว่าพรรคไม่ได้กระทำความผิด ทั้งนี้ หากในวันพรุ่งนี้ตุลาการมีคำตัดสินว่าพรรคมีความผิด ก็จะเดินทางไปทำบุญที่วัดสวนโมกข์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี แต่หากว่าไม่มีความผิดก็จะเดินหน้าเตรียมการเลือกตั้งต่อไป

 
 ..................

"ชวน" หวังเห็นวินิจฉัยยุบพรรคยึดหลักกฎหมายโดยเคร่งครัด
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 29 พฤษภาคม 2550 09:11 น.
 
 
       นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า การพิจารณาวินิจฉัยคดียุบพรรคการเมืองวันพรุ่งนี้ (30 พ.ค.) ควรพิจารณาจากข้อเท็จจริงโดยไม่ต้องคำนึงถึงองค์ประกอบอื่นตามที่มีความพยายามนำเสนอก่อนหน้านี้ เพราะหากเข้าองค์ประกอบความผิดตามกฎหมายก็ไม่มีสิทธิ์ได้รับ ยกเว้นเพราะเหตุอื่น เพราะหากกระบวนการพิจารณาไม่เป็นไปตามกฎหมายอย่างจริงจังบ้านเมืองจะเสียมาตรฐาน
        ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ เชื่อมั่นว่า ผลกระทบที่เกิดจากผลการวินิจฉัยคดียุบพรรคอาจจะมีไม่มากอย่างที่คาดการณ์ เพราะพรรคการเมืองสามารถกระทำถูกผิดได้โดยคณะผู้บริหาร
 
 
...................

นายกฯ เชื่อเหตุการณ์วันตัดสินคดียุบพรรคไม่รุนแรงแม้มีสถานการณ์ส่อเค้า
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 29 พฤษภาคม 2550 11:29 น.
 
 
       พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการตัดสินคดียุบพรรคการเมือง ที่จะมีขึ้นในวันที่ 30 พฤษภาคมนี้ ว่า ภาพรวมไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์ความรุนแรง แม้อาจจะมีสถานการณ์ที่ดูแล้วอาจจะมีความรุนแรง แต่จริงๆ ไม่ถึงกับทำให้เป็นปัญหาในการแก้ไขสถานการณ์ของบ้านเมือง
        ต่อข้อถามว่า จำเป็นต้องประกาศใช้ พ.ร.บ.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือไม่ หากสถานการณ์มีความรุนแรงเกินกว่าควบคุม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ต้องดูว่าเข้าอยู่ในเกณฑ์ของการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฯ หรือไม่ เพราะในนั้นจะระบุชัดเจนว่า มีเงื่อนไขอะไรบ้างที่ต้องประกาศใช้ อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเท่าที่ได้รับรายงาน สถานการณ์เรียบร้อยดีไม่มีปัญหาอะไร และในวันที่ 30 พฤษภาคมนี้ จะทำงานอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล
        นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ในระหว่างการหารือกับประธานาธิบดี และนายกรัฐมนตรีของจีน ได้พูดถึงสถานการณ์ในภูมิภาคและในโลกว่าเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งทั้งสองคนเข้าใจความก้าวหน้าสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศไทยเป็นอย่างดี โดยเฉพาะนายเหวิน เจีย เป่า นายกรัฐมนตรีจีน เข้าใจว่า เหตุใดถึงต้องลดเวลาการเยือนลง เพราะรู้ว่าในวันที่ 30 พฤษภาคมนี้ จะมีการตัดสินคดียุบพรรค
        "นายกรัฐมนตรีจีน ได้ถามว่า ตกลงจะมีการยุบพรรคการเมืองหรือไม่ ผมตอบไปว่า ไม่ได้ติดต่อศาล ต้องรอผลวันที่ 30 พฤษภาคมนี้ เหมือนกัน" นายกรัฐมนตรี กล่าว
 

[********Q********]

****** อีกไม่เกิน7วัน พบกับมุขสุดท้ายของชายชื่อเหลี่ยม(ภาคหนังชีวิต)****** ที่เสรีไทยแห่งนี้

 




คงจะไม่มีใครฟันธงอะไรเพิ่มเติมกันแล้ว รอฟังคำพิพากษาด้วยความสงบ ในเคหะสถานที่บ้านและที่ทำงานดีที่สุดครับ  

[tu249cm]

ปูดเชียงใหม่จ่ายม็อบหัวละ 5 พันบาท

 อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวจากจ.เชียงใหม่ ว่ามีกระแสข่าวการแจกเงินผ่านทางหัวคะแนนและหัวหน้าชุมชนบางแห่งในเขตตัวเมืองเชียงใหม่ เพื่อจ้างชาวบ้านให้เดินทางไปร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯ โดยจ่ายเงินให้รายละ 5,000 บาทเป็นค่าเดินทางไป-กลับ โดยให้จัดหาที่พักเอาเอง ทั้งนี้จะเลือกเฉพาะกลุ่มคนที่มีญาติพี่น้องหรือลูกหลานเรียนและทำงานอยู่ในกรุงเทพฯเพื่อเป็นข้ออ้างต่อเจ้าหน้าที่ โดยได้ทยอยเดินทางด้วยรถโดยสารไปกันเองจะไม่มีการตีตั๋วเหมารถไปเป็นกลุ่ม เพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัยหรือถูกควบคุม


http://www.bangkokbiznews.com/2007/05/29/WW10_WW10_news.php?newsid=74601


ความเหลื่อมล้ำระหว่างเชียงใหม่และร้อยเอ็ด.....

เชียงใหม่ได้หัวละ 5,000 บาท
ร้อยเอ็ดได้หัวละ      300 บาท

ทำไมการล้างสมองที่ร้อยเอ็ด จึงถูกกว่าที่เชียงใหม่.....

ในฐานะที่อยู่เชียงใหม่ขอยืนยันด้วยคนว่าจริงค่ะ เห็นด้วยตาและได้ยินกับหูตัวเองทีเดียว

[********Q********]

สั่งคุมเข้ม “คนวันเสาร์ฯ” แจกจตุคามฯ ที่สนามหลวง
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 30 พฤษภาคม 2550 12:15 น.
 
 
       วันนี้ (30 พ.ค.) พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ ที่จะแจกวัตถุมงคลจตุคามรามเทพ รุ่น “บาทเดียวปราบกบฏ” ที่ท้องสนามหลวง ว่า คาดจะมีประชาชนมารับแจกจตุคามฯ เป็นจำนวนมาก จึงได้มอบหมายให้ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (ผบก.น.1) เป็นผู้รับผิดชอบจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 150 นายเข้าไปดูแล และจัดระเบียบการรับจตุคามฯ ไม่ให้เกิดเหตุวุ่นวาย
       
       ก่อนหน้านี้ ทางกลุ่มคนวันเสาร์ได้โฆษณาผ่านคัตเอาต์ขนาดใหญ่ว่าจะแจกประมาณ 2 แสนองค์ ในวันที่ 30 พ.ค.2550 และอ้างว่ามีคนจองทางเว็บไซต์แล้ว 7 หมื่นคน
       
       อย่างไรก็ตาม ประชาชนที่มารอรับองค์จตุคามในวันนี้ ต่างผิดหวังไปตามๆ กัน เมื่อกลุ่มคนวันเสาร์ฯ ไม่สามารถนำมาแจกให้ตามนัดหมายได้ ทั้งที่ได้จองไว้นานแล้ว โดยบางคนได้นำใบจองที่จองไว้ตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค.มาแสดงต่อผู้สื่อข่าว ขณะที่แกนนำกลุ่มคนวันเสาร์ฯ อ้างว่าถูกเจ้านห้าที่ตำรวจสกัดกั้นทำให้ไม่สามารถนำองค์จตุคามมาแจกให้ได้


''''''''''''''''

       
       ลำดับภาพเหตุการณ์วันประศาสตร์ชี้ชะตายุบพรรค"ทรท.-ปชป."  http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9500000062402

'''''''''''''''''

ผอ.ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ ชี้ผลคดียุบพรรควันนี้ชี้ชะตาภาวะ ศก.ไทย
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 30 พฤษภาคม 2550 12:37 น.
 
 
       นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยวิทยาลัยหอการค้าไทย คาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจไทยหลังคำตัดสินคดียุบพรรคการเมืองว่า ปัจจุบันป้จจัยทางการเมืองถือเป็นความเสี่ยงในระดับสูงสุดต่อระบบเศรษฐกิจไทยสังเกตได้จากหากการเมืองอยู่ในภาวะปกตินักธุรกิจจะมีความเชื่อมั่นสูง แต่หากการเมืองมีสัญญาณในเชิงลบนักธุรกิจจะขาดความมั่นใจและไม่กล้าลงทุน ไม่กล้าขยายกิจการและไม่กล้าขอสินเชื่อ ดังนั้นต้องยอมรับว่าหากผลการตัดสินคดียุบพรรคการเมืองในวันนี้ (30 พ.ค.) ถ้ามีผลต่อการเมืองและทำให้การเมืองขาดเสถียรภาพเศรษฐกิจไทยจะอยู่ในสถานการณ์ที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง แต่ต้องขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสถานการณ์ทางการเมืองด้วย เพราะฉะนั้นจุดสำคัญขึ้นอยู่กับเงื่อนไขในการตัดสินว่าหากตัดสินแล้วภาคประชาชนหรือภาคส่วนอื่น ๆ จะมีการตอบสนองไปในทิศทางใด หากไม่มีการชุมนุมหรือไม่รุนแรงและมีการเลือกตั้งช่วงปลายปีอย่างแน่นอน ภาวะเศรษฐกิจก็จะฟื้นตัวช่วงไตรมาสที่ 3 แต่หากสถานการณ์มีความรุนแรงมากจนจบลงด้วยการเปลี่ยนแปลงที่ไม่สามารถเลือกตั้งได้ก็จะกระทบถึงนักลงทุนต่างประเทศจะขาดความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยทันที
        นายธนวรรธน์ กล่าวด้วยว่า จากการสำรวจสถานการณ์ขณะนี้นักลงทุนส่วนใหญ่ยังมองการตัดสินคดียุบพรรคอยู่ในเชิงบวก เมื่อผลการตัดสินออกมาแล้วเชื่อว่าคนไทยจะเคารพในคำตัดสินของศาล และเชื่อว่าการเลือกตั้งต้องเดินหน้าต่อไป
 


 
 

[********Q********]

จิตแพทย์เตือนคนอารมณ์อ่อนไหวลุ้นคดียุบพรรค เสี่ยงช็อก-หัวใจวาย
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 30 พฤษภาคม 2550 13:06 น.
 
 
       นายแพทย์ปริทรรศ ศิลปกิจ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลสวนปรุง จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า กรณีที่ศาลจะมีการตัดสินคดียุบพรรคการเมืองซึ่งเป็นคดีประวัติศาสตร์ที่หลายกลุ่มตั้งความหวังไว้มาก และคำตัดสินดังกล่าวยังจะส่งกระทบต่อคนหลายกลุ่มทั้งนักการเมือง คณะกรรมการและสมาชิกพรรครวมถึงนักธุรกิจหรือผู้ที่อาจจะได้รับผลกระทบตามมาจากคำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในครั้งนี้
        ในทางจิตเวชแล้วมองว่าน่าเป็นห่วงสำหรับผู้ที่มีความคาดหวังสูงโดยไม่ได้เตรียมใจรับกับความผิดหวังตรงนี้จะส่งผลกระทบทางจิตที่รุนแรงได้ ซึ่งหากรู้ว่าคนในครอบครัวคนใดรับกับความผิดหวังได้น้อยญาติที่ใกล้ชิดต้องคอยเฝ้าดูเมื่อผิดหวังต้องช่วยปลอบโยนให้กำลังใจอย่าให้อยู่เพียงลำพัง
        นายแพทย์ปริทรรศ กล่าวอีกว่า ในรายที่มีความแข็งแกร่งในการรับมือและสามารถจัดการกับอารมณ์ความรู้สึกของตนเองได้ เมื่อผลออกมาอย่างไรก็จะสามารถผ่านวิกฤตไปได้ แต่ถ้าคุมสติไม่อยู่ก็อาจเกิดเหตุร้ายได้ ดังนั้น ในสถานการณ์ที่เปราะบางเช่นนี้คนที่ฟังข่าวต้องใจเย็นเตรียมใจรับกับความผิดหวังที่อาจเกิดขึ้นเพื่อจะไม่ให้เกิดเหตุร้ายซ้ำเป็นลักษณะเดียวกันกับคนเชียร์บอลที่ลุ้นมากพอแพ้ก็เกิดหัวใจวาย หรืออาจระบายความผิดหวังออกมาในรูปของการก่อจราจลหรือแสดงออกผ่านการกระทำที่ขาดเหตุผลได้โดยง่าย
 

[********Q********]

แกนนำพรรคการเมืองเข้ารอฟังคำวินิจฉัยคดียุบพรรคที่ศาลฯ แล้ว
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 30 พฤษภาคม 2550 13:12 น.
 
 
       บรรยากาศล่าสุดที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญล่าสุดเป็นไปอย่างคึกคัก หลังจากที่ตัวแทนพรรคการเมืองได้เดินทางมาถึงแล้ว โดยตัวแทนจากพรรคประชาธิปัตย์ นำโดยนายชวน หลีกภัย หัวหน้าคณะทำงานคดียุบพรรค นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน และนายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรค โดยมีแถวเจ้าหน้าที่ตำรวจกั้นกองทัพสื่อมวลชนกว่า 100 คน ที่มาดักรอทำข่าวและสัมภาษณ์ ตลอดแนวหน้าถนนจักรเพชร ก่อนที่ทั้งหมดจะเดินเข้าไปยังห้องออกนั่งพิจารณาคดีภายใน ขณะที่ตัวแทนพรรคไทยรักไทย ซึ่งเดินทางมาถึงแล้วเช่นเดียวกัน นำโดยนายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการหัวหน้าพรรค และนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองหัวหน้าพรรค ส่วนบรรยากาศโดยรอบมีประชาชนประมาณ 50 คน ยืนสังเกตการณ์บนทางเท้าฝั่งตรงข้ามศาลรัฐธรรมนูญ แต่ยังไม่มีเหตุการณ์ปกติใดๆ
 

[********Q********]

“ตุลาการศาล รธน.” ขึ้นบัลลังก์เตรียมอ่านคำวินิจฉัยยุบพรรคแล้ว
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 30 พฤษภาคม 2550 13:10 น.
 
 
       เมื่อเวลา 13.00 น. ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คนขึ้นบัลลังก์เตรียมอ่านคำวินิจฉัยยุบพรรคแล้ว โดยมีตัวแทนพรรคไทยรักไทย และประชาธิปัตย์ ทยอยเข้ารอฟัง
       
       วันนี้ (30 พ.ค.) เมื่อเวลา 13.0 น. ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คน ประกอบไปด้วย นายปัญญา ถนอมรอด ประธานศาลฎีกา เป็นประธานคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ นายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นรองประธานคณะตุลาการฯ ม.ล.ไกรฤกษ์ เกษมสันต์ นายสมชาย พงษธา นายกิติศักดิ์ กิติคุณไพโรจน์ นายธานิศ เกศวพิทักษ์ นายนุรักษ์ มาประณีต นายจรัญ หัตถกรรม และนายวิชัย ชื่นชมพูนุท ขึ้นบัลลังก์เตรียมอ่านคำวินิจฉัยของคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ กรณีอัยการสูงสุดขอให้คณะตุลาการรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคการเมือง 2 กลุ่ม คือ กลุ่มพรรคไทยรักไทย พรรคพัฒนาชาติไทย และพรรคแผ่นดินไทย กลุ่มที่ 2 พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า
       
       ทั้งนี้ ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ นำโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค และนายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรค ด้นำทีมเข้านั่งยังห้องอ่านคำวินิจฉัยแล้ว
 

[********Q********]

เริ่มอ่านคำวินิจฉัย ไม่ต้องยืน และสามารถเดินออกนอกห้องได้เลยโดยไม่ต้องขออนุญาต

เริ่มอ่านคดีแรกก่อน ปชป. และประชาธิปไตยก้าวหน้า..ผู้ถูกร้อง



.................................................................

[achiteer]

สวัสดีค่ะคุณ Q 
กำลังติดตามข่าวทาง TV อยู่เหมือนกันค่ะ 

[********Q********]

สวัสดีค่ะคุณ Q 
กำลังติดตามข่าวทาง TV อยู่เหมือนกันค่ะ 

ครับ สวัสดีครับ  

ใกล้รู้ผลผู้ถูกร้องกลุ่มแรกแล้วครับ.....

[********Q********]

ประธานศาลฎีกาเริ่มการแถลงผลการวินิจฉัยคดียุบพรรค
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 30 พฤษภาคม 2550 13:29 น.
 
 
       เมื่อเวลา 13.30 น. นายปัญญา ถนอมรอด ประธานศาลฎีกา ในฐานะประธานศาลรัฐธรรมนูญ ได้เริ่มอ่านคำแถลงคำวินิจฉัยคดียุบพรรคการเมือง

..........

คำพิพากษาคดียุบพรรค (1)
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 30 พฤษภาคม 2550 13:39 น.
 
 
       เมื่อเวลา 13.35 น. นายจรัญ หัตถกรรม ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้เริ่มอ่านคำพิพากษาคดียุบพรรคการเมือง คดีกลุ่มที่ 1
       
        เรื่องพิจารณาที่ 19/2549 เรื่องพิจารณาที่ 23/2549 คณะตุลาการรัฐธรรมนูญ ระหว่างอัยการสูงสุด ผู้ร้อง พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า ผู้ถูกร้อง เรื่อง อัยการสูงสุดขอให้มีคำสั่งยุบพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า อัยการสูงสุด ผู้ร้อง พรรคประชาธิปัตย์ ผู้ถูกร้อง อัยการสูงสุดขอให้มีคำสั่งยุบพรรคประชาธิปัตย์
        อัยการสูงสุดยื่นคำร้องรวม 2 คำร้อง ในวันที่ 6 กรกฎาคม 2549 ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า และพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากความปรากฏต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง ว่า พรรคการเมืองทั้งสองกระทำการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2541 มาตรา 66 นายทะเบียนพรรคการเมืองจึงแจ้งต่ออัยการสูงสุด พร้อมด้วยหลักฐาน ตามหนังสือสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ลงวันที่ 15 พฤษภาคม 2549 และหนังสือสำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้ง ลงวันที่ 26 มิถุนายนย 2549 ตามลำดับ
        อัยการสูงสุดเห็นสมควรให้ยื่นคำร้องเพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคการเมืองทั้งสองตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2541 มาตรา 67 วรรค 1
 
 
.........


คำพิพากษาคดียุบพรรค (2)
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 30 พฤษภาคม 2550 13:43 น.
 
 
       ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องทั้งสองไว้พิจารณาวินิจฉัย เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2549 พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2549 คดีอยู่ในระหว่างที่พรรคประชาธิปัตย์ทำคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ประกาศให้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 และให้ศาลรัฐธรรมนูญสิ้นสุดลงพร้อมกับรัฐธรรมนูญภายหลังมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับชั่วคราว พุทธศักราช 2549 เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2549 โดยมาตรา 35 บัญญัติให้บรรดาการใดที่มีกฎหมายกำหนด ให้เป็นอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ หรือเมื่อมีปัญหาว่า กฎหมายใดขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ให้เป็นอำนาจของคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ และให้โอนบรรดาอัตถคดีหรือการใดที่อยู่ระหว่างการดำเนินการของศาลรัฐธรรมนูญ ก่อนวันที่ 19 กันยายน 2549 มาอยู่ในอำนาจและความรับผิดชอบของคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ ต่อมาพรรคประชาธิปัตย์ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2549
 
.............

คำพิพากษาคดียุบพรรค (2)
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 30 พฤษภาคม 2550 13:43 น.
 
 
       ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องทั้งสองไว้พิจารณาวินิจฉัย เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2549 พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2549 คดีอยู่ในระหว่างที่พรรคประชาธิปัตย์ทำคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ประกาศให้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 และให้ศาลรัฐธรรมนูญสิ้นสุดลงพร้อมกับรัฐธรรมนูญภายหลังมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับชั่วคราว พุทธศักราช 2549 เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2549 โดยมาตรา 35 บัญญัติให้บรรดาการใดที่มีกฎหมายกำหนด ให้เป็นอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ หรือเมื่อมีปัญหาว่า กฎหมายใดขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ให้เป็นอำนาจของคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ และให้โอนบรรดาอัตถคดีหรือการใดที่อยู่ระหว่างการดำเนินการของศาลรัฐธรรมนูญ ก่อนวันที่ 19 กันยายน 2549 มาอยู่ในอำนาจและความรับผิดชอบของคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ ต่อมาพรรคประชาธิปัตย์ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2549
 
..............

คำพิพากษาคดียุบพรรค (4)
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 30 พฤษภาคม 2550 13:48 น.
 
 
       โดยได้รับมอบหมายให้ไปสมัครเลือกตั้งที่จังหวัดตรัง บุคคลทั้ง 3 เกรงว่า การกระทำดังกล่าวอาจมีความผิดตามกฎหมาย เพราะไม่มีเจตนาที่จะสัมครเป็นสมาชิกพรรคผู้ถูกร้องที่ 2 และลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแต่ประการใด จึงปรึกษานายสุเทพ เพื่อหาทางออกที่จะต้องไม่รับโทษตามกฎหมาย นายสุเทพ แนะนำให้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคผู้ถูกร้องที่ 2 ซึ่งบุคคลทั้ง 3 แสดงเจตนาลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคผู้ถูกร้องที่ 2 แล้ว ตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 2549 นายสุเทพ จึงขอให้นายทะเบียนพรรคการเมืองดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ และสืบสวนสอบสวน เพื่อป้องกันการแก้ไขการทุจริตการเลือกตั้งในครั้งนี้ต่อไป
        ต่อมาประธานกรรมการการเลือกตั้ง นายทะเบียนพรรคการเมืองมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงสืบสวนสอบสวนพยานหลักฐานแล้ว แยกประเด็นการพิจารณาได้ 3 ประเด็น คือ

.............


คำพิพากษาคดียุบพรรค (5)
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 30 พฤษภาคม 2550 13:55 น.
 
 
       1. น.ส.นิภา นางรัชนู นายสุวิทย์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 จ.ตรัง สมัครเป็นสมาชิกพรรคผู้ถูกร้องที่ 2 เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2549 และไปสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 จ.ตรัง เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2549 บุคคลทั้งสามจึงเป็นสมาชิกพรรคผู้ถูกร้องที่ 2 นับถึงวันสมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลา 1 วันเท่านั้น ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2540 มาตรา 107 (4) การกระทำดังกล่าวของบุคคลทั้งสาม ที่สมัครรับเลือกตั้งโดยรู้อยู่ว่าตนไม่มีสิทธิสมัคร เป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2541 มาตรา 100 ประกอบรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2540 มาตรา 107 (4)
        นอกจากนี้ การที่บุคคลทั้งสาม ยื่นหนังสือรับรองของหัวหน้าพรรคการเมือง คือผู้ถูกร้องที่ 2 แบบ ส.ส.18/ข 2 ที่รับรองว่า บุคคลทั้งสามคือสมาชิกผู้ถูกร้องที่ 2 ติดต่อกัน นับถึงวันสมัครรับเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 90 วัน อันเป็นเท็จ เป็นเอกสารประกอบการสมัครรับเลือกตั้ง ต่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งดังกล่าวนั้น ถือว่าเป็นการแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่น หรือประชาชน เสียหาย และเป็นการแจ้งข้อความอันเป็นเท็จให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดบันทึกลงในใบรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง แบบ สส. 18/ข 1 อันเป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137 และมาตรา 267
        2. นายทักษนัย กี่สุ้น เป็นผู้แนะนำให้บุคคลทั้งสามเตรียมหาหลักฐานแล้วให้ตนพาไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคผู้ถูกร้องที่ 2 และเมื่อบุคคลทั้งสามเดินทางกลับพร้อมกับเอกสารประกอบการสมัครแล้ว นายทักษนัยยังได้พาเดินทางไปสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เขตที่ 1 เขตที่ 2 และที่ 4 จ.ตรัง เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2549 อีกด้วย การกระทำดังกล่าวเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่บุคคลทั้งสามไปสมัครรับเลือกตั้งทั้งที่รู้ว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2541 มาตรา 100 ประกอบกับรัฐธรรมนูญแห่งราชาณาจักรไทย พ.ศ.2540 มาตรา 107 (4) การกระทำของนายทักษนัย จึงเป็นการสนับสนุนให้บุคคลทั้งสามกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2541 มาตรา 100 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86
 
.................


คำพิพากษาคดียุบพรรค (6)
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 30 พฤษภาคม 2550 13:57 น.
 
 
       3. นางสาวอิสรา หรือ พรณารินทร์ หัวหน้าพรรคผู้ถูกร้องที่ 2 จัดทำหนังสือรับรองของหัวหน้าพรรคการเมือง (ส.ส.18/ ข2) ส่งบุคคลทั้ง 3 ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 จ.ตรัง เป็นการดำเนินการแทนผู้ถูกร้องที่ 2 ซึ่งมีฐานะเป็นนิติบุคคล ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2541 มาตรา 19 นางสาวอิสรา หรือ พรณารินทร์ เป็นหัวหน้าพรรคผู้ถูกร้องที่ 2 โดยนางสาวอิสราได้รับรองว่า บุคคลทั้ง 3 เป็นสมาชิกพรรคผู้ถูกร้องที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2548 แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่า ปรากฏตามคำให้การของบุคคลทั้ง 3 ว่า ตนได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคผู้ถูกร้องที่ 2 เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2549 การทำหนังสือรับรองของหัวหน้าพรรคการเมือง (ส.ส.18/ข2) ดังกล่าวถึงเป็นเท็จ เนื่องจากบุคคลทั้ง 3 สมัครเป็นสมาชิกผู้ถูกร้องที่ 2 ไม่ครบ 90 วัน อันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2541 มาตรา 66(3) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2541 มาตรา 33 คณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง มีความเห็นว่า ให้ดำเนินคดีอาญาแก่นางสาวนิภา นางรัชนู และนายสุวิทย์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 จ.ตรัง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2541 มาตรา 100 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137 และมาตรา 267


...................

คำพิพากษาคดียุบพรรค (7)
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 30 พฤษภาคม 2550 14:11 น.
 
 
       ให้ดำเนินคดีอาญาแก่นายทักษนัย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2541 มาตรา 100 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86 และเนื่องจากการกระทำของนางสาวอิสรา หรือพรณารินทร์ หัวหน้าพรรคผู้ถูกร้องที่ 2 ได้ออกหนังสือรับรองอันเป็นเท็จให้แก่บุคคลทั้ง 3 เพื่อนำไปเป็นหลักฐานในการสมัครรับเลือกตั้งที่ได้กระทำในฐานะตัวแทนของผู้ถูกร้องที่ 2 เป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2541 มาตรา 66(3) เห็นควรแจ้งต่อผู้ร้องพร้อมด้วยหลักฐานเพื่อดำเนินการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2541 มาตรา 66 67(พูดไม่ชัด) ต่อไป
        ประธานกรรมการการเลือกตั้ง นายทะเบียนพรรคการเมืองเห็นด้วยกับความเห็นของคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงว่าการกระทำของนางสาวอิสรา หรือพรณารินทร์ หัวหน้าพรรคผู้ถูกร้องที่ 2 ที่ออกหนังสือรับรองของหัวหน้าพรรคการเมืองอันเป็นเท็จ เป็นการร่วมกันเป็นตัวการ หรือผู้สนับสนุนให้บุคคลดังกล่าวลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 1 2 และ 4 จังหวัดตรัง ทั้งที่รู้ว่าเป็นสมาชิกของพรรคผู้ถูกร้องที่ 2 นับถึงวันสมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลาติดต่อกันไม่ถึง 90 วัน อันเป็นการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2541 และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2540 มาตรา 107 (4) ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 หรือ 86 และ มาตรา 137 267 การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำอันอาจเป็นการปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ และกระทำการอันอาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ หรือขัดต่อกฎหมาย หรือความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชนอันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2541 มาตรา 66 (2) และ(3)
        จึงส่งหลักฐานพร้อมสำนวนการสอบสวนข้อเท็จจริงให้ผู้ร้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2541 มาตรา 67 ผู้ร้องพิจารณาข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานที่ประธานกรรมการเลือกตั้ง นายทะเบียนพรรคการเมืองส่งมาแล้วเห็นว่า ผู้ถูกร้องที่ 2 โดยนางสาวอิสรา หรือพรณารินทร์ หัวหน้าพรรค เป็นผู้แทนของผู้ถูกร้องที่ 2 ได้อกกหนังสือรับรองของหัวหน้าพรรคการเมืองอันเป็นเท็จ จึงเป็นตัวการร่วมกันสนับสนุนให้นางสาวนิภา นางรัชนู และนายสุวิทย์ ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งเขตเลือกตั้งที่ 1 2 และ 4 จังหวัดตรัง ทั้งที่รู้ว่าบุคคลทั้ง 3 เป็นสมาชิกพรรคผู้ถูกร้องที่ 2 นับถึงวันสมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลาติดต่อกันไม่ถึง 90 วัน อันเป็นการกระทำความผิดตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2540 มาตรา 107 (4) พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2541
 
.....................

คำพิพากษาคดียุบพรรค (
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 30 พฤษภาคม 2550 14:13 น.
 
 
       มาตรา 29 ,30 , 31 ,74 , 100 และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 , 86 ,137 , 267 ย่อมแสดงว่าผู้ถูกร้องที่ 2 กระทำการอันเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ และการประทำอันอุกอาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ หรือขัดต่อกฎหมาย หรือความสงบเรียบร้อย อันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2541 มาตรา 66 (2) และ (3) จึงขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย โดยอาศัยตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ 2540 มาตรา 107 , 136 , 144 , 145 , 327 ,328 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2541 มาตรา 66 (2 ) และ (3) มาตรา 67 และพระราชบัญญติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา พ.ศ.2541 มาตรา 29 , 30 , 31 , 74 มาตรา 100 ขอให้มีคำสั่งยุบพรรคผูถูกร้องที่ 2 เนื่องจากผู้ถูกร้องที่ 2 โดย น.ส.อิศรา หรือ พรณารินทร์ หัวหน้าพรรค ในฐานะเป็นผู้แทนของผูถูกร้องที่ 2 ได้กระทำการอันเป็นอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ และกระทำการอันอาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ หรือขัดต่อกฎหมาย หรือความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ตามพระพราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2541 มาตรา 66 (2) และ (3) มาตรา 67 และขอให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคผู้ถูกร้องที่ 2 มีกำหนด 5 ปี นับแต่วันที่มีคำสั่งให้ยุบพรรคผู้ถูกร้องที่ 2 ตามประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 27 ลงวันที่ 30 กันยายน พ.ศ.2549 ข้อ 3 ผู้ถูกร้องที่ 2 ยื่นคำชี้แจงข้อกล่าวหาสรุปได้ว่า การที่นายทะเบียนพรรคการเมืองกล่าวหาว่าผู้ถูกร้องที่ 2 รับสมัครบุคคลเข้ามาเป็นสมาชิกเพื่อส่งลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบ่งเขตเลือตตั้งไม่ครบ 90 วัน ตามที่กำหนดนั้น ข้อเท็จจริงปรากฏตามหลักฐานในใบสมัครสมาชิกพรรคว่า
 
 
...........

คำพิพากษาคดียุบพรรค (9)
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 30 พฤษภาคม 2550 14:14 น.
 
 
       นางสาวนิภา นางรัชนู และนายสุวิทย์ ซึ่งเป็นผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใน จ.ตรัง เขตเลือกตั้งที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 ตามลำดับ ได้เขียนใบสมัครสมาชิกพรรคการเมืองด้วยลายมือของตนเองโดยปราศจากการข่มขู่ ชี้นำ ข่มขืนใจ หรือบังคับขู่เข็นแต่อย่างใด โดยขั้นตอนการรับสมัครสมาชิกพรรค เป็นไปตามข้อบังคับพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า พ.ศ.2548 คือ เมื่อใบสมัครสมาชิกถึงผู้ร้องที่ 2 เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบจะตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครให้เป็นไปตามข้อบังคับ แล้วส่งใบสมัครต่อไปยังผู้มีอำนาจในการนำเสนอขอรับการอนุมัติ เพื่อนำเสนอให้หัวหน้าพรรคผู้ถูกร้องที่ 2 ลงนามอนุมัติตามข้อบังคับพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า พ.ศ.2548 ข้อ 10 และข้อ 36 (7) กรณีของบุคคลทั้งสาม ได้ดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ อย่างครบถ้วน และหัวหน้าพรรคผู้ถูกร้องที่ 2 ได้อนุมัติให้เป็นสมาชิกพรรคผู้ถูกร้องที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2548 ซึ่งเป็นการใช้อำนาจตามข้อบังคับพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า พ.ศ.2548 และเป็นการใช้อำนาจภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 ทุกประการ มิได้มีการใช้อำนาจนอกเหนือจากที่บทบัญญัติแห่งกฎหมายกำหนดแต่อย่างใด ส่วนที่มีการกล่าวอ้างว่า ได้มีการร้องเรียนต่อประธานกรรมการการเลือกตั้งว่า นางสาวนิภา นางรัชนู และนายสุวิทย์ ถูกชักชวนให้สมัครเป็นสมาชิกพรรคผู้ถูกร้องที่ 2 และรับเงินคนละ 30,000 บาท โดยได้รับมอบหมายให้ไปสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่ จ.ตรัง ในวันรุ่งขึ้น ต่อมาบุคคลทั้ง 3 เกรงว่าการกระทำดังกล่าวอาจมีความผิดตามกฎหมาย เพราะบุคคลทั้ง 3 ไม่มีเจตนาจะสมัครเป็นสมาชิกพรรคผู้ถูกร้องที่ 2 และลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในครั้งนี้แต่ประการใด จึงได้เดินทางไปปรึกษากับเลขาธิการพรรคผู้ถูกร้องที่ 1 เพื่อหาทางออกที่จะไม่ต้องรับโทษตามกฎหมาย เลขาธิการพรรคผู้ถูกร้องที่ 1 จึงแนะนำให้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคผู้ถูกร้องที่ 2 ซึ่งบุคคลทั้ง 3 ได้แสดงเจตนาลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคผู้ถูกร้องที่ 2 แล้ว ตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 2549 เลขาธิการพรรคผู้ถูกร้องที่ 1 ได้ขอให้นายทะเบียนพรรคการเมือง ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ และดำเนินการสืบสวนสอบสวนเพื่อป้องกันการแก้ไขการทุจริตเลือกตั้งครั้งนี้ต่อไป ต่อมาประธานกรรมการการเลือกตั้ง นายทะเบียนพรรคการเมือง ได้มีคำสั่งนายทะเบียนพรรคการเมือง แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีการลาออกจากสมาชิกพรรคผู้ถูกร้องที่ 2 ของผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่ จ.ตรัง โดยในการสืบสวนสอบสวนกรณีดังกล่าวนั้น ทางคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงมิได้แจ้งต่อผู้ถูกร้องที่ 2 ว่า บุคคลทั้ง 3 ได้เขียนใบลาออกจากสมาชิกพรรคผู้ถูกร้องที่ 2 ทั้งๆ ที่นายทะเบียนพรรคการเมืองรู้อยู่แล้วว่า

 
 
...........


คำพิพากษาคดียุบพรรค (10)
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 30 พฤษภาคม 2550 14:15 น.
 
 
       การลาออกจากสมาชิกพรรคผู้ถูกร้องที่ 2 จะต้องปฏิบัติตามข้อบังคับพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า พ.ศ.2548 ข้อ 15 ที่ว่า การลาออกจากสมาชิก ให้ยื่นหนังสือลาออกต่อหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค หรือนายทะเบียนพรรค แล้วแต่กรณี และมีผลต่อเมื่อเจ้าหน้าที่สำนักงานใหญ่พรรคได้ลงเลขรับหนังสือแล้ว แต่ไม่ปรากฏหลักฐานว่าหนังสือลาออกดังกล่าวได้ถูกส่งไปถึงหัวหน้าพรรคผู้ถูกร้องที่ 2 เพื่อแสดงเจตนาว่าบุคคลทั้งสามต้องการจะลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคผู้ถูกร้องที่ 2 แต่ประการใด ซึ่งไม่ตรงตามที่ผู้ร้องอ้างว่าบุคคลทั้งสามได้แสดงเจตนาลาออกจากสมาชิกพรรค จึงถือได้ว่าหนังสือลาออกของบุคคลทั้งสามไม่ชอบด้วยกฎหมาย และการลาออกไม่มีผล ทำให้บุคคลทั้งสามยังคงเป็นสมาชิกพรรคผู้ถูกร้องที่ 2 อยู่จนปัจจุบัน
        คณะกรรมการบริหารพรรคผู้ถูกร้องที่ 2 เป็นผู้รับผิดชอบตัวบุคคลในการลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งในจังหวัดต่างๆ ซึ่งในการนี้ นางสาวนิภา นางรัชนู และนายสุวิทย์ ได้ถูกคัดเลือกให้เป็นผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในเขตเลือกตั้งที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 จ.ตรัง โดยผู้สมัครทั้ง 3 คน มีคุณสมบัติครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2540 มาตรา 107 โดยหากผู้ที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติ และได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในนามของผู้ถูกร้องที่ 2 ผู้ใดไม่สามารถออกค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งครั้งนี้ได้ พรรคจะออกค่าใช้จ่ายให้โดยพิจารณาเป็นกรณีๆ ไป โดยจะช่วยเหลือได้ไม่เกินคนละ 30,000 บาท ถึง 35,000 บาท ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวไม่น่าจะเป็นเหตุจูงใจ หรือสามารถหลอกลวงให้บุคคลเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคผู้ถูกร้องที่ 2 ตามที่ผู้สมัครทั้งสามกล่าวอ้างได้ เพราะบุคคลทั้งสามล้วนแต่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี มีวุฒิภาวะ มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ถือได้ว่าเป็นวิญญูชนอันรู้ผิดชอบชั่วดีได้เองว่า การที่ตนเองยอมรับเงินจากพรรคและนำไปสมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเรียบร้อยแล้ว น่าจะแสดงให้เห็นได้ว่าบุคคลทั้งสามยอมรับแล้วว่า ตนเองมีคุณสมบัติครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2540 มาตรา 107 จึงได้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และได้ไปสมัครตามสถานที่ที่คณะกรรมการเลือกตั้งประจำจังหวัดตรังกำหนด
        นอกจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยที่ 9/2549 เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2549 วินิจฉัยคดีอันเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นการทั่วไปเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2549 จนถึงวันที่มีคำวินิจฉัยว่าเป็นการเลือกตั้งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2540 มาตรา 2 มาตรา 3 มาตรา 104 วรรค 3 และมาตรา 144 มาตั้งแต่เริ่มต้นของกระบวนการจัดการเลือกตั้ง คือตั้งแต่การกำหนดวันรับสมัครเลือกตั้ง การรับสมัครเลือกตั้ง การลงคะแนนเสียง การนับคะแนนเสียง การประกาศผลการเลือกตั้ง และส่งผลถึงการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งของคณะกรรมการการเลือกตั้งทั้งหมดต้องเสียไปด้วย เมื่อเป็นเช่นนี้การกล่าวหาของผู้ร้อง ที่ได้กล่าวหาว่าผู้ถูกร้องที่ 2 โดยนางสาวอิสรา หรือ พรณารินทร์ กระทำความผิดตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2540 มาตรา 107 (4) พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2541
 

 
 

 

 
 

[********Q********]

ฟังถึงตรงนี้

ผู้ถูกร้องที่1 พรรคปชป.

หลุดข้อกล่าวหา ฟังไม่ได้ตามฟ้อง

ข้อ 1,2,3,4,

ข้อ 5 นายทะเบียนพรรคการเมืองกล่าวหา อภิสิทธิ์ปราศรัย เรื่องระบอบทักษิณ วันเดียวกัน สุเทพกล่าวหาระบอบทักษิณ ใบปลิวหาเสียง เรื่องระบอบทักษิณ โกงทั้งโคตร เป็นการใส่ร้ายไทยรักไทย????

รอฟังคำวินิจฉัยอยู่ครับ

[********Q********]

ฟังถึงตรงนี้

ผู้ถูกร้องที่1 พรรคปชป.

หลุดข้อกล่าวหา ฟังไม่ได้ตามฟ้อง

ข้อ 1,2,3,4,

ข้อ 5 นายทะเบียนพรรคการเมืองกล่าวหา อภิสิทธิ์ปราศรัย เรื่องระบอบทักษิณ วันเดียวกัน สุเทพกล่าวหาระบอบทักษิณ ใบปลิวหาเสียง เรื่องระบอบทักษิณ โกงทั้งโคตร เป็นการใส่ร้ายไทยรักไทย????

รอฟังคำวินิจฉัยอยู่ครับ

กำลังอ่านถึงการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาโดยปชป.

จนถึงข้อท้ายๆ ที่มาของระบอบทักษิณ และสิทธิของพลเมืองและของพรรคการเมืองฝ่ายค้าน การวิพากษ์วิจารณ์พฤติการ์ณของพตท.ทักษิณฯตามข้อเท็จจริง....

[พรรณชมพู]

ตอนนี้ ฟังแล้วเหมือนอภิปรายไม่ไว้วางใจเลยค่ะ ลากใส้ทักษิณออกมาพวงเบ้อเริ่ม 

[Cherub Rock]

ตอนนี้ ฟังแล้วเหมือนอภิปรายไม่ไว้วางใจเลยค่ะ ลากใส้ทักษิณออกมาพวงเบ้อเริ่ม 

อันนั้นก็รู้ๆ กันอยู่แล้วอ่ะครับ
อยากรู้คำตัดสินมากกว่า

แต่ก็ดีเหมือนกัน รากหญ้า ทรท. จะได้เห็นไส้เห็นพุงมันบ้าง

[********Q********]

ตอนนี้ ฟังแล้วเหมือนอภิปรายไม่ไว้วางใจเลยค่ะ ลากใส้ทักษิณออกมาพวงเบ้อเริ่ม 

อันนั้นก็รู้ๆ กันอยู่แล้วอ่ะครับ
อยากรู้คำตัดสินมากกว่า

แต่ก็ดีเหมือนกัน รากหญ้า ทรท. จะได้เห็นไส้เห็นพุงมันบ้าง

กำลังอ่านถึงการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาโดยปชป.

จนถึงข้อท้ายๆ ที่มาของระบอบทักษิณ และสิทธิของพลเมืองและของพรรคการเมืองฝ่ายค้าน การวิพากษ์วิจารณ์พฤติการ์ณของพตท.ทักษิณฯตามข้อเท็จจริง....

คำวินิจฉัยโดยสังเขป

ประเด็นที่ 1 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญยังมีผลใช้บังคับ
ประเด็นที่ 2 แม้ไม่มีการประชุมของกกต. วาสนาฯ นายทะเบียนพรรคการเมือง ใช้อำนาจโดยพละการ และอสส.มีเวลา10วัน สามารถยื่นคำร้องยุบพรรคได้โดยชอบ
ประเด็นที่ 3 เหตุเพียง4ประการจากทั้งหมด อสส. สามารถใช้ดุลยพินิจ ให้ยุยพรรคการเมืองได้ ไม่ขัดต่อพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญ
ประเด็นที่ 4 ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจวินิจฉัยคดียุบพรรค แม้การเลือกตั้งจะเป็นโมฆะไปจากการพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญขุดก่อน เนื่องจากสาเหตุอื่นๆ

ประเด็นความผิดที่ถูกร้อง

ประเด็นที่ 1 ระบอบทักษิณที่ถูกใช้ปราศรัย มีรายะละเอียดที่มามากเป็นพิเศษ สรุปว่าเป็นไปตามคลองธรรมทางการเมือง.. ไม่มีความผิด ไม่ประสงค์ลงคะแนนได้ตามสิทธิของประชาชน

การกระทำ ของนายสุเทพ นายอภิสิทธิ์ และสมาชิกปชป. ฟังไม่ได้ว่าเป็นการใส่ร้าย คำชี้แจงข้อที่1ฟังขึ้น

[********Q********]

ประเด็นที่ 2 เรื่องนายทัศนัยและพรรคผู้ถูกร้องที่2 ไม่ปรากฎมีพยานว่านายสาธิต เข้าไปเกี่ยวข้อง พยานที่โทรศัพท์ไป เรื่องหนังสือเชิญพยานไปให้ปากคำเป็นเรื่องปกติ

การเบิกความ ไม่ได้แสดงว่า นายสาธิตเข้าไปเกี่ยวข้อง ผู้สมัครทั้ง3ของพรรคผู้ถูกร้องที่2 ได้รับเงิน30000บาท ฟังไม่ได้ว่านายทัศนัยจ่ายเงินให้ นายสาธิตจึงไม่เกี่ยวข้อง


เรื่องนายสุเทพ จัดแถลงข่าวเพื่อช่วยเหลือผู้สมัครพรรคผู้ถูกร้องที่2เท่านั้น และเพื่อไม่ให้ ผู้สมัครจังหวัดอื่นๆหลงผิด นายสุเทพไม่ได้ใส่ร้ายทรท. พูดถึงแต่เพียงสถานที่โรงแรมลิเบอร์ตีเท่านั้น

จึงฟังไม่ได้ว่าเป็นการใส่ร้าย , ประเด็นนายสุวัจน์ พรรคชีวิตที่ดีกว่า และนายไทกรกับพวก รายละเอียดเกี่ยวกับพยาน.. การเอ่ยชื่อนายสุวัจน์ ไม่ได้เชื่อว่านายสุวัจน์จ่าย แต่เชื่อว่ามีคนจ่าย

ให้เก็บหลักฐาน เจตนาของนายไทกรต้องการหาข้อเท็จจริงจากนายวันทวฤทธิ์ คือต้องการหาหลักฐาน...

กรณีพรรคคนขอปลดหนี้ รายละเอียด ปัญหาเบื้องต้น มีการขัดขวางการเลือกตั้งหรือไม่?.......

นายสุเทพหลุดพ้นข้อกล่าวหา...ในแต่ละกรณี ทุกกรณีข้างต้น ขณะนี้การอ่านคำวินิจฉัยและคำตัดสินยังคงดำเนินต่อไป

[********Q********]

กรณี การชุมนุมของประชาชนที่สงขลา เป็นการกระทำของนายชาลี กลุ่มประชาชนคนรักสงขลา ตามคำร้องของผู้ร้องบอกว่านายชาลีเป็นลูกน้องและคนสนิทของนายไตรรงค์

มีรูปถ่ายนายไตรรงค์ที่ห้องทำงาน นายไตรรงค์เบิกความว่า ไม่ได้ติดต่อกับนายชาลีมานานแล้ว และไม่มีส่วนรู้เห็นการกระทำของนายชาลี จึงยังรับฟังไม่ได้ว่า เกี่ยวข้องกับนายไตรงค์

รับฟังไม่ได้ว่าเกี่ยวข้องกับผู้ถูกร้องที่1

[********Q********]

การกระทำของผู้ถูกร้องที่2 ออกหนังสือรับรองการเป็นสมาชิกพรรคอันเป็นเท็จ ทั้งที่หัวหน้าพรรครู้อยู่แล้ว รายละเอียดข้อเท็จจริงฟังได้ว่า

 เป็นการกระทำที่ขาดจิตสสำนึกมีความผิดครับ สมควรถูกยุบพรรค

การเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งตามประกาศคปค.ฉบับที่27 ประกาศภายหลัง แต่หลักการดังกล่าวใช้เฉพาะความผิดทางอาญาเท่านั้น

ไม่ได้บังคับกับกรณีทางการเมือง... ดังนั้นบทบัญญัติเรื่องจำกัดสิทธิทางการเมืองในรัฐะรรมนูญชัวคราว จึงมีผลใช้บังคับย้อนหลังได้

เมื่อถูกยุบพรรค หากมีการชิงลาออก เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย

จึงพิพากษาให้ยุบพรรคและเพิกถอนสิทธิ์การเลือกตั้ง5ปีนับแต่วันมีคำสังให้ยุบพรรค

[qazwsx]

แง้ซซซซซซซซซ.....
ไอ้แมงสาบ
..."รอด"....