ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
28-04-2024, 21:15
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  ห้องสาธารณะ  |  ปาฏิหารย์มีจริง วันนี้...กำลังใจอุ้มชีวิตน้องเอ็มเจ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ปาฏิหารย์มีจริง วันนี้...กำลังใจอุ้มชีวิตน้องเอ็มเจ  (อ่าน 1377 ครั้ง)
ไทมุง.
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: 12-05-2007, 17:00 »



ยังเป็นห่วงเป็นใยกันอยู่ตลอดเวลา สำหรับเรื่องราวของหนูน้อย "เอ็มเจ" หรือเด็กชายมิ้ง อาชวุฒิกุลวงศ์ ลูกชายคนแรก
ที่เกิดมาช่วยเติมเต็มชีวิตครอบครัวของนายสุวิทย์ อาชวุฒิกุลวงศ์ อายุ 42 ปี และนางอิสรีย์ อาชวุฒิกุลวงศ์ อายุ 36 ปี แต่โชคร้าย
หนูน้อยกลับถูกพี่เลี้ยงใจโหดทำร้ายจนเลือดออกในสมอง เลือดออกในช่องอก แล้วกระดูกซี่โครงทั้งสองข้างหักอีกด้วย

จากวันนั้นวันที่เราทุกคนรู้จักน้องเอ็มเจ เห็นภาพน้องเอ็มเจที่ระโยงระยางไปด้วยสายน้ำเกลือ สายเลือด หลายคนเฝ้าติดตามข่าวนี้
ด้วยหัวใจที่ห่วงใยโดยเฉพาะหัวอกคนที่เป็นพ่อ แม่

จนถึงวันนี้เวลาผ่านไปเกือบ 2 เดือน น้องเอ็มเจสามารถกลับไปรักษาตัวที่บ้านได้แล้ว แต่กระนั้นยังคงต้องอยู่ในความดูแลอย่างใกล้ชิด

พ่อของน้องเอ็มเจเล่าด้วยใบหน้าที่ดูมีความหวัง และมีความสุขมากกว่าครั้งก่อนๆ ว่าลูกชายนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเกือบ 2 เดือน
ตอนนี้สามารถกลับมารักษาตัวที่บ้านได้แล้ว แต่ต้องดูแลเรื่องสมองอย่างใกล้ชิด และไม่รู้ว่าเมื่อเอ็มเจโตขึ้นจะมีพัฒนาการที่ปกติ
เหมือนเด็กทั่วไปหรือไม่

"ลูกกลับมาอยู่ที่บ้านเมื่อวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา อาการของเขาดีขึ้น แต่เรายังต้องดูแลอย่างใกล้ชิดอยู่ หมอบอกว่าสมองซีกขวาถูกทำลาย
ซึ่งเป็นส่วนที่เกี่ยวกับอารมณ์ ภาษา ที่สำคัญตอนนี้ลูกอายุเพียง 2 เดือน จึงยังไม่รู้ว่าสมองของลูกจะปกติเหมือนเด็กทั่วไปไหม
เพราะดูไม่ออกเลย ลูกยังเล็กอยู่ หมอบอกว่าจะรู้ผลว่าปกติหรือไม่ต้องตอนลูกอายุ 1 ขวบ แต่ถ้าโชคร้ายสมองถูกทำลาย
ผมก็ยังไม่รู้ว่าจะได้รับการพัฒนาได้มากขนาดไหน"


สิ่งที่ครอบครัวของเอ็มเจทำได้คือ รอความหวังอย่างเดียว แต่การรอความหวังครั้งนี้หลายคนก็ยังภาวนาขอให้สมองของเด็กน้อยเอ็มเจ
ต้องไม่ถูกกระทบกระเทือนอะไร

แต่ก่อนจะถึงวันนั้น คุณพ่อเล่าถึงชีวิตทุกวันนี้ของน้องเอ็มเจว่า ทุกคืนลูกชายสุดที่รักยังคงร้องไห้ บางคืนร้องจนหลับไป และลูกชาย
ก็ยังมีอาการผวาอยู่เป็นระยะๆ

"ผมกับภรรยาสงสารลูกมาก อาการของลูกตอนนี้บางคืนเขาจะร้องไห้เยอะมาก ร้องจนแกหลับไปเอง บางทีมีอาการผวา
หรือไม่ก็ละเมอร้องไห้ ลูกต้องกินยากันชักด้วยเพราะออกซิเจนไปเลี้ยงสมองได้น้อย ถ้าลูกชักสมองอาจถูกทำลายเพิ่ม ผมสงสารลูกมาก
ไม่อยากให้แกทรมาน ตอนนี้สิ่งที่ลูกต้องการคือกำลังใจจากพ่อแม่"

พ่อเอ็มเจยังบอกอีกว่า ตอนนี้ถือว่าเป็นปาฏิหาริย์ที่ลูกสามารถกลับมาอยู่กับครอบครัวได้เหมือนเดิม ขอบคุณทุกกำลังใจที่ช่วยกันภาวนา
ให้น้องเอ็มเจอาการดีขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์มาก

"ชีวิตครอบครัวตอนนี้ต้องสร้างกำลังใจต่อไป ต้องเข้มแข็งกว่าเดิม เพื่อช่วยดูแลลูกให้ดีขึ้น เพราะตอนนี้ลูกไม่ใช่เด็กที่ต้องดูแลตามวัยปกติ
มีหน้าที่มีแรงแค่ไหนต้องทำเต็มที่ และจะทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะให้ลูกได้"

ส่วนเรื่องคดีนั้น ทางครอบครัวอาชวุฒิกุลวงศ์บอกว่า อยู่ในคดีอาญา สำนวนเสร็จเรียบร้อยแล้วเตรียมส่งให้อัยการและรอฟ้องศาลอย่างเดียว
แต่ล่าสุดความรับผิดชอบที่ทางพี่เลี้ยงและทางศูนย์จัดส่งพี่เลี้ยงยังไม่ถึงมือ ทำให้ค่าใช้จ่ายในการรักษาเอ็มเจทางครอบครัวต้องออกไปก่อน
ซึ่งเป็นเงินที่สูงมาก

"ผมได้รับแฟ็กซ์จากศูนย์พี่เลี้ยงว่า ไม่ขอแสดงความรับผิดชอบ เพราะพนักงานคนนี้ผ่านการอบรมแล้ว ผมรู้สึกแย่มากๆ ค่าใช้จ่าย
ผมเป็นคนรับผิดชอบหมด ไม่มีใครมาร่วมรับผิดชอบ อยากสะท้อนให้สังคมได้รับรู้ว่าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจริงในสังคม พอเกิดเรื่องก็โยน
ความรับผิดชอบ ผมไม่ใช่คนอนาถา แต่อยากให้แสดงความรับผิดชอบตามหน้าที่ที่ต้องทำ"

สุดท้ายครอบครัวอาชวุฒิกุลวงศ์ ฝากเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ว่า กรณีอย่างนี้เป็นสิ่งที่สังคมต้องตระหนัก และต้องร่วมกันแก้ไข
พี่เลี้ยงเป็นคนใกล้ตัว หากเกิดเรื่องขึ้นก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้แล้ว

"ผมว่าไม่จำเป็นต้องติดวิดีโอที่บ้านคอยจับตาพี่เลี้ยง แต่อยากให้มีมาตรการป้องกันแก้ไข รวมทั้งต้องมีบทลงโทษทั้งศูนย์พี่เลี้ยง
และตัวพี่เลี้ยงเอง ตอนนี้ครอบครัวผมก็หวังให้ลูกเติบโตและมีชีวิตเหมือนเด็กปกติทั่วไปเท่านั้น"

ครอบครัวอาชวุฒิกุลวงศ์เป็นอีกหนึ่งบทเรียนที่สะท้อนให้เห็นถึงครอบครัวยุคใหม่ที่พ่อแม่ต้องทำมาหากิน อาจไม่มีเวลาจึงจำเป็น
ต้องพึ่งศูนย์ให้บริการคนดูแลเด็ก ถ้าก่อนหน้านี้ทั้งคู่เลือกได้ก็คงไม่เลือกที่จะไว้ใจให้คนอื่นมาดูแลแก้วตาดวงใจ แต่เมื่อเลือกไม่ได้
เขาจึงต้องตัดสินใจเช่นนั้น

แต่กระนั้นแล้วเมื่อรัฐเปิดโอกาสให้มีศูนย์ให้บริการคนดูแลเด็ก ศูนย์ให้บริการคนดูแลผู้สูงอายุที่ผุดขึ้นเต็มบ้านเต็มเมือง ก็จำเป็นอย่างยิ่ง
ที่รัฐต้องเข้าไปควบคุมดูแลหามาตรการป้องกันไม่ให้ศูนย์เหล่านี้เป็นศูนย์เถื่อนหรือไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าหน่วยงานทั้งหลาย
ที่เคยตื่นตัวตื่นเต้นเมื่อตอนที่เกิดเรื่องใหม่ๆ จนป่านนี้ได้ดำเนินการกันไปถึงไหนแล้ว แจ้งให้ทราบบ้างก็ดี หรือว่าจนป่านนี้
ยังไม่ได้ทำอะไรเลย


http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01lad01110550&day=2007/05/11&sectionid=0115

ขอส่งกำลังใจให้ ครอบครัวอาชวุฒิกุลวงศ์
บันทึกการเข้า
อธิฏฐาน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,912


รักษาประเทศชาติ เป็นหน้าที่ของชาวไทยทุกคน


« ตอบ #1 เมื่อ: 12-05-2007, 19:18 »


ขอให้น้องเอ็มเจหายเป็นปกติโดยเร็วด้วยค่ะ
บันทึกการเข้า

หยุด...สัมปทานอุทยานแห่งชาติ
http://www.oknation.net/blog/sandstone
ล้างโคตรทักษิณ
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 903



« ตอบ #2 เมื่อ: 13-05-2007, 14:47 »

 
บันทึกการเข้า
อังศนา
Moderator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,860


Can't fight the moonlight!


เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 13-05-2007, 18:13 »

..ดูจากสายตาของน้องเอ็มเจในรูป 
ถ้าเป็นผู้ใหญ่ก็จะบอกว่า สายตาแสดงความรู้ตัว
หวังว่าสมองของน้องเอ็มเจจะไม่มีปัญหาที่น่าวิตก
และหวังว่าวิบากกรรมของน้องเอ็มเจจะหมดเพียงเท่านี้
ขอให้หมดเคราะห์หมดโศก อย่าให้ได้เจอคนใจร้ายอีกเลย

บันทึกการเข้า

แม้ผืนฟ้า มืดดับ เดือนลับละลาย 
ดาวยังพราย ศรัทธา เย้ยฟ้าดิน (จิตร ภูมิศักดิ์)
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #4 เมื่อ: 14-05-2007, 14:26 »

สำหรับคนที่มีลูก คงไม่ต้องบรรยาย ว่า พ่อแม่ น้องเอ็ม เจ จะรู้สึกอย่างไร.......ถึงแม้น้อง เอ็ม เจ จะได้กลับบ้าน แล้ว แต่ผมเชื่อเหลือเกิน พ่อแม่ ของน้อง ฯ ยังคงอยู่ในอารมณ์ วิตก หวาดระแวง ไปอีกซักพัก ใหญ่ .....เห็นใจ จริง ๆ ครับ .........เด็ก รุ่นอายุขนาดนี้ ดูยังไง ก็น่ารัก จริง ๆ

ขออย่าให้น้อง เค้าเป็นอะไรอีกเลยครับ


 
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: