ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
19-04-2024, 15:53
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  5-6 ปีที่เหลี่ยม ลี สิงกะโปโตกมีอำนาจ ได้ทำร้ายประเทศไทยอย่างไรบ้าง...... 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
5-6 ปีที่เหลี่ยม ลี สิงกะโปโตกมีอำนาจ ได้ทำร้ายประเทศไทยอย่างไรบ้าง......  (อ่าน 2162 ครั้ง)
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« เมื่อ: 17-05-2007, 03:19 »

ในขณะที่เหลี่ยม ลี สิงกะโปโตกและครอบครัว พยายามบอกเล่าให้คนรักเหลี่ยมฯว่า กรรมการ คตส. ปปช. ดีเอสไอ ที่กำลังตรวจสอบ สอบสวนย้อนหลังพฤติกรรมฉ้อราษฎร์บังหลวง ทุจริตทางนโยบาย เอาผลประโยชน์ทับซ้อน และการใช้อำนาจเป็นธรรม ให้เกิด"การฆ่าตัดตอน" เป็น"ปรปักษ์ส่วนตัว" ไม่ถูกกับเขาและครอบครัว จึงไม่สามารถให้เป็น"ธรรม"กับครอบครัวของเขาได้....

คนใน'เสรีไทยเว็บบอร์ด'ที่ไม่ได้เป็น"ปรปักษ์ส่วนตัว" กับเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตกและครอบครัวของเขา สามารถพรรณาพฤติกรรม การกระทำผิด ทำร้ายประเทศไทยที่ผ่านมา 5-6 ปีให้คนที่อ่านแต่"ใบบอก" ได้รับรู้ความชั่วช้า เลวทรามของเขาได้หรือไม่ Question


คนที่เป็น"ปรปักษ์ส่วนตัว" หรือ "คนรักเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก"
กรุณาอย่าแสดงความคิดเห็น เพราะพวกคุณจะไม่สามารถให้ความเป็น"ธรรม"กับเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #1 เมื่อ: 17-05-2007, 09:27 »

รัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ที่กำลังร่างอยู่นี้
เป็นผลพวงจากคณะกรรมการร่าง มีความหวาดกลัว หวั่นเกรงว่า
นักธุรกิจการเมืองอย่างเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก
หรือ คนใหม่ จะกลับมามีอำนาจอีก
เหมือน "งูกลัวเชือกกล้วย"......



บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #2 เมื่อ: 17-05-2007, 09:39 »

เกือบจะไม่คลิ๊กมาดูแระ........นึกว่า ท่าน ปุ ฯ จะเอารายละเอียดมาลงทั้งหมด...ฮ่า ๆ ........ถ้าเอามาลงทั้งหมด ผมอ่านม่าย หวาย..........

 
บันทึกการเข้า
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 17-05-2007, 09:56 »

เกือบจะไม่คลิ๊กมาดูแระ........นึกว่า ท่าน ปุ ฯ จะเอารายละเอียดมาลงทั้งหมด...ฮ่า ๆ ........ถ้าเอามาลงทั้งหมด ผมอ่านม่าย หวาย..........

 

งั้นขอ Link ก็ยังดีครับ เดี๋ยวตามไปอ่านเอง 
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #4 เมื่อ: 17-05-2007, 10:31 »

เข้ามาอ่านข้อความแบบบ่นๆของคนแก่หน่อยครับ....
บันทึกการเข้า
Nai_puan
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 231


« ตอบ #5 เมื่อ: 17-05-2007, 11:27 »

5-6 ปีที่เหลี่ยม ลี สิงกะโปโตกมีอำนาจ ได้ทำร้ายประเทศไทยอย่างไรบ้าง......


อยากฟังข้อมูลครับ  ลองว่ามาทีละประเด็น
บันทึกการเข้า
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #6 เมื่อ: 20-05-2007, 18:43 »

จี้สอบ7พันล.ซื้อ"แมนซิตี้""จารุวรรณ"ชี้ช่องยึดนพดลโวสิ้นพ.ค.รู้ผล
20 พฤษภาคม 2550 11:13 น.
ปชป.จี้ คตส.ตรวจสอบที่มาที่ไปเงิน 7,000 ล้าน "ทักษิณ" ซื้อแมนฯ ซิตี้ ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ขณะที่ "คุณหญิงจารุวรรณ” ชี้ช่องให้ ปชป.ทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรให้ คตส.-สตง.ตรวจสอบเงินเทคโอเวอร์สโมสรดัง

 ด้าน "นพดล" ยันการเจรจาซื้อขายใกล้ยุติ คาดรู้ผลภายในเดือน พ.ค. พร้อมเตรียมประสานแบงก์ชาติขอนำเงินออกไปซื้อ

  หลังมีข่าวคราวออกมาเป็นระยะเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในการซื้อสโมสรฟุตบอลชื่อดังของอังกฤษ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรือ "เรือใบสีฟ้า" ในราคา 7,000 ล้านบาท ล่าสุด นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมายืนยันว่า การซื้อสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีความชัดเจนมากขึ้น คาดว่าภายในสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้จะได้ข้อยุติ ทั้งนี้ ทันทีที่ข่าวดังกล่าวออกมา ทางพรรคประชาธิปัตย์ก็ออกมาเรียกร้องให้คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ตรวจสอบเงิน 7,000 ล้านว่า มีที่มาที่ไปอย่างไร

ปชป.สงสัย"ทักษิณ"ขนเงินซื้อ"แมนฯซิตี้"

 เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวแสดงความคิดเห็นในเรื่องการใช้เงิน 7,000 ล้านบาท ซื้อสโมสรฟุตบอลแมนเซสเตอร์ ซิตี้ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ไม่ทราบว่าเงินที่จะซื้อจะต้องเอาออกจากประเทศหรือเปล่า ซึ่งหาก พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการเอาออกไปก็ต้องขออนุญาต แต่หากมีที่มาที่ไปชัดเจน และเข้าหลักเกณฑ์ก็คงต้องไปว่ากันที่ธนาคารแห่งประเทศไทย   

   "แต่ถ้าไม่ได้เอาเงินออกไป ก็ต้องไปตรวจสอบว่า เงินนั้นมาจากไหน และต้องไปดูว่า เงินอยู่ในบัญชีแสดงทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ก่อนหน้านี้หรือไม่ นอกจากจะเป็นเงินกู้ ก็ต้องไปดูว่าหลักประกันอย่างไร ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องตรวจสอบกันตามปกติ โดยส่วนตัวผมไม่ทราบว่ามีข้อตกลงหรือยัง ซึ่งผมเคยพูดไว้แล้วว่า ถ้าเอาเงินออกนอกประเทศไทยก็เป็นที่น่าสงสัยว่า จริงๆ แล้ววัตถุประสงค์คืออะไร" นายอภิสิทธิ์ กล่าว

จี้คตส.ตรวจสอบเงิน7พันล้าน

 ขณะที่ นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวแสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวว่า นับว่าเป็นโชค 2 ชั้นของคนไทย เพราะจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาวงการฟุตบอล และจะเป็นช่องทางตรวจสอบทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่อาจซุกไว้ในต่างประเทศ ซึ่งเห็นว่า กรณีนี้เป็นหน้าที่ของ คตส.ที่ต้องตรวจสอบต่อไป ส่วนเหตุผลที่คนไทยจะได้เป็นเจ้าของสโมสรนั้น โดยส่วนตัวเห็นว่า หาก คตส.ตรวจได้ว่า ทรัพย์สินที่นำไปซื้อสโมสรฟุตบอลดังกล่าว เป็นทรัพย์สินที่ได้มาโดยมิชอบ ก็จะทำให้สถานะของสโมสรไม่ใช่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่จะกลายเป็นของคนไทยทุกคน

  “เป็นหน้าที่ของ คตส.ต้องประสานสโมสร และตรวจสอบว่าเงินที่นำมามัดจำใครเป็นเจ้าของ และเอาเงินที่ไหนมาถึง 7,000 ล้านบาท เนื่องจากตามบัญชีที่แสดงต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่อยู่ในฐานะที่จะมีเงิน 7,000 ล้านบาท และที่ผมว่าเป็นโชค เพราะอาจเป็นลายแทงนำไปสู่ทรัพย์สินที่ซุกซ่อนในต่างประเทศ ยังอาจเป็นช่องให้ คตส.ยึดทรัพย์สิน เนื่องจากขณะนี้แสดงให้เห็นว่า มีการโยกย้ายที่ผิดปกติเกิดขึ้น แต่หากจะอ้างว่าเป็นการหยิบยืม ก็ต้องชี้แจงให้ได้ และนำบุคคลที่อ้างว่าหยิบยืมมาชี้แจงด้วย  ซึ่งหากตรวจได้ว่าทรัพย์สินที่นำไปซื้อสโมสรดังกล่าวเป็นทรัพย์สินที่ได้มาโดยมิชอบ ก็จะทำให้สถานะของสโมสรไม่ใช่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่จะกลายเป็นของคนไทยทุกคน” นายอลงกรณ์ กล่าว

"จารุวรรณ"แนะปชป.ยื่นเรื่องได้

 ขณะที่ คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และ คตส. กล่าวถึงกรณีที่นายอลงกรณ์ออกมาเรียกร้องให้ สตง.และ คตส. ตรวจสอบการเข้าซื้อทีมฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในราคา 7,000 ล้านบาทว่า ไม่รู้ข่าวที่ออกมาจริงหรือเท็จ แต่ทราบข่าวมาเช่นกันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ซื้อทีมฟุตบอลดังกล่าวไปแล้ว ซึ่งหากเป็นเรื่องจริงก็ไม่ทราบว่า เป็นเงินของ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ หรืออาจเป็นเงินของคนอื่นหรือไม่

"ไม่ทราบว่าเขาเอาเงินมาจากไหน ซึ่งหากเรื่องนี้คุณอลงกรณ์มายื่นกับ คตส.และ สตง. แบบมีลายลักษณ์อักษร คตส.ก็จะนำเรื่องนี้มาพิจารณาในที่ประชุมว่าจะรับเรื่องหรือไม่ แต่ที่ผ่านมา คตส.เองมีหลายคนระบุแล้วว่า จะไม่รับเรื่องอื่นมาตรวจสอบ เพราะเหลือเวลาในการตรวจสอบไม่มาก เกรงว่าจะทำงานไม่ทัน แต่หากยื่นเข้ามาที่ สตง.เราก็จะต้องพิจารณาดูว่าจะรับหรือไม่ ทั้งนี้ ต้องดูคำร้องก่อน" คุณหญิงจารุวรรณ กล่าว

ทนาย"ทักษิณ"ชี้ซื้อเรือใบสีฟ้าฉลุย

 ด้านนายนพดล ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์เรื่องซื้อสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของอดีตนายกรัฐมนตรีว่า ขณะนี้มีความชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ โดยขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยื่นข้อเสนอซื้อสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้ อย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว และคาดว่าภายในสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้จะได้ข้อยุติ

 นายนพดล กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ที่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดอะไรได้นั้น เนื่องจากต้องทำตามกฎหมายตลาดหลักทรัพย์ของประเทศอังกฤษ แต่ยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้มีเจตนาที่จะสร้างประเด็นขึ้นมาปั่นป่วนการเมืองในประเทศไทย พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ย้ำมาตลอดว่า มีความตั้งใจที่จะไปสร้างประโยชน์ให้แก่วงการกีฬา และด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

  ส่วนการยื่นข้อเสนอขอซื้อสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในครั้งนี้นั้น นายนพดล กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ยืนยันกับทางสโมสรว่าจะนำเงินมาซื้อได้อย่างแน่นอน โดยจะประสานขออนุญาตกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อนำเงินออกนอกประเทศ และเชื่อว่าจะได้รับการอนุมัติให้ดำเนินการในกรณีนี้ เพราะการนำเงินมาใช้ในเรื่องดังกล่าวชัดเจนว่า ไม่ได้นำไปใช้ในทางการเมือง หรือทำอะไรในทางมิชอบ


 
 
http://www.komchadluek.net/2007/05/20/a001_117928.php?news_id=117928
 
   
 
น่าจะเป็นแผน"ฟอกเงิน" และ "สร้างข่าว" ทางการเมือง มากกว่า......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #7 เมื่อ: 20-05-2007, 19:13 »

จับตา'ซุก'ไตรภาค-แฉทุ่ม7พันล้านเกมย้ายเงินออกนอกประเทศแม้วซื้อแมนฯซิตีขี่คมช.


20 พฤษภาคม 2550    กองบรรณาธิการ

ทนายแม้วเผยเจ้านายใกล้ได้เป็นเจ้าของ "แมนฯ ซิตี" เตรียมประสานแบงก์ชาติขอขนเงินออก จับตาซุกไตรภาค 7 พันล้าน "ทักษิณ" เอามาจากไหน เปิดบัญชีทรัพย์สินเงินสดไม่พอ


อีกก้อนเงินขายหุ้นชินฯ ที่ "โอ๊ค-เอม"  7.3  หมื่นล้านยังไม่ใส บิ๊กบอสส์แบงก์พาณิชย์อ่านเกม "แม้ว" มาเหนือเมฆ  ยิงนัดเดียวได้นกหลายตัว ถ้าแบงก์ชาติอนุญาตจะขนเงินไปฟอกสำเร็จ  หากถูกอายัดจะเป็นประเด็นระดับโลก   ภาพรัฐบาล-คมช.ติดลบ  "อลงกรณ์" จี้ คตส.สอบแหล่งเงิน  อาจเจอตอปกปิดบัญชีทรัพย์สิน ซุกเงินต่างประเทศ

การเข้าเทกโอเวอร์สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์   ซิตี  ในอังกฤษของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร  อดีตนายกรัฐมนตรี ตกเป็นข่าวเกรียวกราวมาตลอดสัปดาห์  มีความคืบหน้าถึงขั้นใกล้บรรลุข้อตกลงและเตรียมจ่ายเงินก้อนมหึมาถึง  100  ล้านปอนด์ หรือ 7,000 ล้านบาท

รวมทั้งมีการจัดเตรียมให้คนไทย  4  คนเข้าไปนั่งเป็นกรรมการบริหารของสโมสร ประกอบด้วย นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายถิรชัย วุฒิธรรม หรือบิ๊กแปะ นายไพโรจน์  เปี่ยมพงศ์สานต์  ที่เคยอื้อฉาวกรณีหุ้นบ้านฉางกรุ๊ปเมื่อหลายปีก่อน และนายวิกรม คุ้มไพโรจน์ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศอังกฤษ

นายนพดล  ปัทมะ  ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ  ให้สัมภาษณ์ว่า  ขณะนี้มีความชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ   แต่ยังคงไม่สามารถสรุปได้ โดย พ.ต.ท.ทักษิณได้ยื่นข้อเสนอซื้อสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์  ซิตี อย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว  และจะทราบผลเป็นมติในเร็วๆ นี้  ก่อนหน้านี้ที่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดอะไรได้นั้น เนื่องจากต้องทำตามกฎหมายตลาดหลักทรัพย์ของประเทศอังกฤษ  ยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้มีเจตนาที่จะสร้างประเด็นขึ้นมาปั่นป่วนการเมืองในประเทศไทย

"ท่านได้ย้ำมาตลอดว่ามีความตั้งใจที่จะไปสร้างประโยชน์ให้กับวงการกีฬา  และด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์"

สำหรับการยื่นข้อเสนอขอซื้อสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์  ซิตี ในครั้งนี้นั้น ที่ปรึกษาผู้นี้กล่าวว่า  พ.ต.ท.ทักษิณได้ยืนยันกับทางสโมสรว่าจะนำเงินมาซื้อได้อย่างแน่นอน  โดยจะประสานขออนุญาตกับธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อนำเงินออกนอกประเทศ  และเชื่อว่าจะได้รับการอนุมัติให้ดำเนินการในกรณีนี้  เพราะการนำเงินมาใช้ในเรื่องดังกล่าวก็ชัดเจนว่าไม่ได้นำไปใช้ในทางการเมือง  หรือทำอะไรในทางมิชอบ

ที่พรรคประชาธิปัตย์   นายอลงกรณ์  พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นับเป็นโชค 2 ชั้นของคนไทย  เพราะจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาวงการฟุตบอล   และจะเป็นช่องทางตรวจสอบทรัพย์สินของ  พ.ต.ท.ทักษิณ  ที่อาจซุกไว้ในต่างประเทศ   ซึ่งเห็นว่ากรณีนี้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ที่ต้องตรวจสอบต่อไป

"เป็นหน้าที่ของ  คตส.ต้องประสานสโมสร  และตรวจสอบว่าเงินที่นำมามัดจำใครเป็นเจ้าของ และเอาเงินที่ไหนมาถึง  7,000 ล้านบาท เพราะตามบัญชีที่แสดงต่อ ป.ป.ช.นั้น พ.ต.ท.ทักษิณไม่อยู่ในฐานะที่จะมีเงิน 7,000 ล้านบาท"

นายอลงกรณ์กล่าวว่า   ที่บอกว่าเป็นโชค  เพราะอาจเป็นลายแทงนำไปสู่ทรัพย์สินที่ซุกซ่อนในต่างประเทศ  ยังอาจเป็นช่องให้ คตส.ยึดทรัพย์สิน เพราะขณะนี้แสดงให้เห็นว่ามีการโยกย้ายที่ผิดปกติเกิดขึ้น แต่หากจะอ้างว่าเป็นการหยิบยืม  ก็ต้องชี้แจงให้ได้ และนำบุคคลที่อ้างว่าหยิบยืมมาชี้แจงด้วย   และหากตรวจได้ว่าทรัพย์สินที่นำไปซื้อสโมสรดังกล่าวเป็นทรัพย์สินที่ได้มาโดยมิชอบ   ก็จะทำให้สถานะของสโมสรไม่ใช่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่จะกลายเป็นของคนไทยทุกคน

นายสัก   กอแสงเรือง   กรรมการ คตส.และประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบการซื้อขายหุ้นชินคอร์ป ให้สัมภาษณ์ว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดที่แน่นอนว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะนำเงินส่วนใดไปซื้อ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า   หาก  พ.ต.ท.ทักษิณนำเงินที่ได้จากการขายหุ้นชินคอร์ปส่วนของนายพานทองแท้   ชินวัตร ไปซื้อ จะมีความเป็นไปได้หรือไม่  นายสักตอบว่า  อย่าพึ่งคาดเดาล่วงหน้า  เพราะยังไม่ทราบว่าครอบครัว พ.ต.ท.ทักษิณจะทำอะไรกันแน่  ซึ่งก็แล้วแต่ว่าจะนำเงินส่วนไหนไปซื้อ  ตนเชื่อว่าการคาดการณ์ล่วงหน้าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง จึงไม่ขอให้ความคิดเห็น

ด้านคุณหญิงจารุวรรณ  เมณฑกา  ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินและกรรมการ คตส. กล่าวว่า ไม่รู้ข่าวที่ออกมาจริงหรือเท็จ  แต่ทราบข่าวมาเช่นกันว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้เทกโอเวอร์ทีมฟุตบอลดังกล่าวไปแล้ว  ซึ่งหากเป็นเรื่องจริง ก็ไม่ทราบว่าเป็นเงินของ พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ หรืออาจเป็นเงินของคนอื่นหรือไม่

"ไม่ทราบว่าเขาเอาเงินมาจากไหน   หากคุณอลงกรณ์มายื่นกับ คตส.และ สตง. แบบมีลายลักษณ์อักษร  ทาง คตส.ก็จะนำเรื่องนี้มาพิจารณาในที่ประชุมว่าจะรับเรื่องดังกล่าวหรือไม่  แต่ที่ผ่านมา คตส.เองมีหลายคนระบุแล้วว่าจะไม่รับเรื่องอื่นมาตรวจสอบ เพราะเหลือเวลาในการตรวจสอบไม่มาก เกรงว่าจะทำงานไม่ทัน แต่หากยื่นเข้ามาที่ สตง.เราก็จะต้องพิจารณาดูว่าจะรับหรือไม่  ทั้งนี้ต้องดูคำร้องก่อน" คุณหญิงจารุวรรณกล่าว

ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องเม็ดเงินที่สูงถึง  7,000  ล้านบาท  ว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะนำมาจากไหนนั้น  เมื่อตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ  ที่แจ้งกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ   (ป.ป.ช.)   หลังพ้นจากตำแหน่งในวันที่  19  กันยายน  2549  พบว่ามีทั้งสิ้น 557,363,123.33 บาท  ขณะที่บัญชีทรัพย์สินของคุณหญิงพจมานที่แจ้งกับ ป.ป.ช.มีทั้งสิ้น 8,842,085,955.21 บาท

อย่างไรก็ตาม แม้นำทรัพย์สินของทั้ง  2  มารวมกัน มูลค่าจะเกิน 7,000 ล้านบาท  แต่ความเป็นไปได้ที่จะนำทรัพย์สินจำนวนนี้ไปซื้อสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซีตี นั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลย เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นทรัพย์สินในรูปของที่ดิน  เครื่องประดับ  อสังหาริมทรัพย์  โดยทั้งคู่มีเงินฝากในบัญชีธนาคาร ตั๋วสัญญาใช้เงิน ที่สามารถระดมเงินได้ทันทีประมาณ 4,000 ล้านบาท

มีเงินอีกก้อนที่ พ.ต.ท.ทักษิณสามารถนำไปซื้อได้คือเงินขายหุ้นชินฯ   7.3   หมื่นล้าน ซึ่งอยู่ในชื่อนายพานทองแท้และ  น.ส.พิณทองทา  ชินวัตร บุตรชายและบุตรสาว แต่ติดปัญหาว่าเงินก้อนดังกล่าวสามารถนำไปใช้ได้หรือไม่  เพราะเงินที่ได้จากการขายหุ้นก้อนนี้ยังมีปัญหาการเสียภาษี ซึ่งอยู่ระหว่างเป็นคดีความ คตส.กำลังจะนำขึ้นสู่ศาลในเร็วๆ นี้

สำหรับกระแสข่าวว่า  พ.ต.ท.ทักษิณจะนำเงินที่ฝากไว้ในต่างประเทศไปซื้อนั้น เป็นประเด็นที่ต้องจับตามอง เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้แจ้งเงินก้อนดังกล่าวไว้ในรายการแสดงบัญชีทรัพย์สินกับ ป.ป.ช. หากปรากฏว่ามีการนำเงินที่ฝากต่างประเทศไปซื้อจริง เท่ากับว่าที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณปกปิดบัญชีทรัพย์สิน

ผู้บริหารระดับสูงของธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งเปิดเผยว่า   การนำเงินจำนวน   7,000 ล้านบาทออกนอกประเทศตามขั้นตอน  จะต้องขออนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย  ตาม พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย ที่กำหนดว่า  ผู้ประกอบการโอนเงินเกินกว่า  5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ต้องขออนุญาตจากแบงก์ชาติ  และจะต้องมีธุรกรรมตลอดจนสัญญาทางธุรกิจที่ชัดเจนว่าจะนำเงินนี้เพื่อไปทำการใดการหนึ่งอย่างเปิดเผย  ดังนั้นถ้า พ.ต.ท.ทักษิณจะใช้เงินที่มีอยู่ในบัญชีทรัพย์สินภายในประเทศไทย ก็ต้องดำเนินการตามนี้

อย่างไรก็ตาม  แหล่งข่าวกล่าวว่า  ถ้าพิจารณาตามตัวบทกฎหมาย  พ.ต.ท.ทักษิณมีสิทธิ์ที่จะขอ  นอกจากนั้นในกรณียังมีธุรกรรมที่ชัดเจนเปิดเผยต่อสาธารณชนในประเทศอังกฤษ เจ้าของสโมสรเป็นระยะๆ แล้ว  โดยปกติทั่วไปแบงก์ชาติต้องอนุญาต  แต่ปัญหานี้แบงก์ชาติอาจจะไม่อนุญาต เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณมีปัญหาที่ถูกสอบสวนและกล่าวหาเกี่ยวกับการทุจริตคอรัปชั่นหลายคดี   ซึ่งยังไม่แน่ว่าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ  (คมช.)  รวมทั้งรัฐบาลอาจจะทำการอายัดทรัพย์สินก็ได้  เพราะถ้าอนุมัติให้นำเงินออกไปแล้ว  กระบวนการที่จะดำเนินการอายัดทรัพย์สิน ภายหลังศาลพิพากษาระบุความผิดแล้ว ก็จะกระทำไม่ได้ เพราะเงินอยู่ในต่างประเทศเสียแล้ว

"ตรงนี้คือความเสี่ยงของ  พ.ต.ท.ทักษิณ  ที่จะถูกอายัดเงินตั้งแต่ตอนนี้  อย่างไรก็ตาม   เกมนี้สามารถมองได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้เปรียบไม่ว่าแบงก์ชาติจะอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้นำเงินออกไป เพราะถ้าอนุญาต  เงินนี้ก็จะปลอดภัยอยู่ในต่างประเทศ  แต่ถ้าไม่อนุญาต พ.ต.ท.ทักษิณก็จะใช้เป็นประเด็นได้อีกว่าถูกกลั่นแกล้ง  และจะกลายเป็นประเด็นใหญ่ทั่วโลก ตามเป้าหมาย นอกจากนั้นแล้วยังอาจจะใช้เป็นจุดโจมตี คมช.และรัฐบาล  ว่าเป็นตัวขวางการพัฒนากีฬาฟุตบอลของไทย ซึ่งต้องการจะไปสู่อินเตอร์ด้วย" แหล่งข่าวกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า  มองเกมนี้แล้วอดีตนายกรัฐมนตรีต้องการซื้อสโมสรแมนฯ ซิตีนี้ด้วยความจริงใจหรือไม่  ผู้บริหารแบงก์พาณิชย์คนเดิมกล่าวว่า  ถ้าเขามีความบริสุทธิ์ใจจริง  และต้องการพัฒนากีฬาฟุตบอลไทยอย่างแท้จริง   ไม่เกี่ยวกับการเมืองแล้ว ก็สามารถใช้เงินที่มีอยู่ในต่างประเทศที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก และพอซื้อได้อย่างแน่นอน   แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า  ถ้าเขาใช้เงินดังกล่าว  ก็จะย้อนศรกลับมาเล่นงานในประเด็นซุกทรัพย์สินมิได้แจ้งให้ ป.ป.ช.รับรู้ตั้งแต่แรก

"ปัญหานี้จะไม่เป็นปัญหา  ถ้าต้องการซื้อจริง เพราะสามารถอ้างได้ว่าเงิน 7,000 ล้านบาทยืมมาจากเพื่อนอย่างนายอัล  ฟาเอ็ด เจ้าของห้างแฮร์รอดส์ในลอนดอนได้ แต่ดูแล้วประเด็นนี้น่าจะเป็นประเด็นการเมืองมากกว่า"  แหล่งข่าวกล่าว และวิเคราะห์ว่า พ.ต.ท.ทักษิณน่าจะเลือกทางที่จะกดดันเอาเงินจากประเทศไทยไปซื้อสโมสรดังกล่าวมากกว่า   เพราะได้เปรียบในด้านการเมือง  และถ้าเกิด คมช.หรือรัฐบาลกลัวภาพพจน์เสียหายในสายตาชาวโลก    เขาก็สามารถนำเงินก้อนใหญ่ออกไปได้   และพ้นจากภาวะความหวาดหวั่นที่จะถูกอายัดทรัพย์โดยปริยาย

"ซื้อไว้ก่อน   แล้วภายหลังขายเอาเงินสดเก็บเข้ากระเป๋าแค่นี้ก็ชนะแล้ว  คมช.ตามไปอายัดไม่ได้อีก" แหล่งข่าวระบุ

ทั้งนี้ เมื่อ  3 ปีก่อน พ.ต.ท.ทักษิณสร้างความฮือฮาด้วยการประกาศว่าจะซื้อสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล  ในราคา   65  ล้านปอนด์ ถึงขั้นออกเป็นมติ ครม. สุดท้ายล้มเหลว ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นแค่แท็กติกทางการเมือง  เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของประชาชนไปจากปัญหาของรัฐบาลที่เขาเป็นนายกรัฐมนตรี.

http://www.thaipost.net/index.asp?bk=sunday&post_date=20/May/2550&news_id=142536&cat_id=110100

บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #8 เมื่อ: 21-05-2007, 21:33 »

คตส.ยื่นอัยการฟ้อง'ทักษิณ-พจมาน'ที่ดินรัชดา24พ.ค.นี้
 
21 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 17:09:00
 
(Update) คตส. เปิดเกมรุกตีแผ่สำนวนฮุบที่ดินรัชดาผ่านสื่อ ไฟเขียว ส่งสำนวน อสส. 24 พ.ค.นี้ พร้อมส่ง “จารุวรรณ-อุดม” จ้อผ่านทีวี ด้านปธ.อนุไต่สวน ไม่หวั่นทนายชินร้องอสส.

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : นายสัก กอแสงเรือง โฆษกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.) แถลงว่า นายอุดม เฟื่องฟุ้ง ประธานอนุกรรมการไต่สวน ได้รายงานที่ประชุมให้ทราบว่าได้นัดหมายอัยการสูงสุดจะนำสำนวนการไต่สวนที่ดินรัชดาในวันพฤหัสที่ 24 พ.ค.นี้ เวลา 10.00 น.โดยจะมีนายอุดม และคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา พร้อมทั้งอนุกรรมการไต่สวนในคดีดังกล่าวร่วมส่งมอบสำนวนและจะร่วมหารือกับอัยการสูงสุดและคณะทำงานของอัยการสูงสุดด้วย ทั้งนี้ที่ประชุมคตส.ได้ให้ความเห็นชอบตามที่นายอุดมเสนอคือให้เปิดเผยสำนวนดังกล่าวต่อสาธารณชนได้รับทราบ

นายสัก กล่าวต่อว่า สำหรับสำนวนที่ส่งถึงอัยการนอกจากจะมี 10 ประเด็นที่อนุไต่สวนฯเคยสรุปเผยแพร่มาตั้งแต่ต้นแล้วยังมีรายละเอียดในเรื่องของข้อกฎหมายเพิ่มเติมที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ประชาชนเข้าใจถึงที่มาและบทบัญญัติของกฎหมายต่างๆอาทิ ข้อห้ามของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ห้ามไม่ให้เป็นคู่สัญญากับรัฐ และต้องการให้

สาธารณชนเข้าใจว่าคตส.ไม่มีอคติในการทำหน้าที่ และพิจารณาโดยเหตุผลข้อกฎหมายที่ควรจะเป็นบรรทัดฐานของรัฐธรรมนูญ และกฎหมายป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น และกฎหมายการทับซ้อนของผลประโยชน์ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถสร้างความกระจ่างให้สังคมได้อีกระดับหนึ่ง ที่ประชุมจึงได้อนุมัติเป็นกรณีพิเศษ

เมื่อถามว่า ถ้าเปิดเผยสำนวนจะทำให้ฝ่ายคุณหญิงพจมาน สามารถนำมาเป็นข้อต่อสู้ทางคดีให้ง่ายขึ้นหรือไม่ นายสัก กล่าวยอมรับว่า จะมองอย่างนั้นก็ได้แต่ในข้อกฎหมายไม่น่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงในการต่อสู้คดี เพราะการไต่สวนของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ผู้ถูกกล่าวหาก็สามารถขอทราบสำนวนได้อยู่แล้ว

ต่อข้อถามว่าการเปิดเผยสำนวนดังกล่าว คตส.หวังผลทางสังคมใช่หรือไม่ นายสัก กล่าวว่า นายอุดมได้รายงานต่อที่ประชุมว่าข้อกล่าวหาในการสอบสวนมีขั้นตอนจำนวนมาก และไม่สามารถชี้แจงต่อสังคมได้ครบถ้วน ขณะที่คำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของคุณหญิงพจมานและพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ถูกนำเสนอผ่านสื่อมวลชนเต็มหน้าอย่างครบถ้วน ดังนั้น

คตส.จึงต้องการอธิบายให้ประชาชนเพื่อไม่ให้รับฟังความข้างเดียวและได้รับข้อมูลอย่างครบถ้วนและรอบด้าน โดยเฉพาะข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของผู้กำกับดูแลหน่วยงานรัฐ และผลประโยชน์ทับซ้อน เพื่อจะได้เป็นบรรทัดฐานต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่คตส.เปิดเผยเฉพาะสำนวนในคดีที่ดินรัชดา ซึ่งเกี่ยวข้องกับพ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน จะเป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่ เพราะคตส.ไม่เคยเปิดเผยสำนวนในคดีอื่นมาก่อน นายสัก กล่าวว่า คณะอนุกรรมการไต่สวนได้เสนอและที่ประชุมคตส.ได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว ซึ่งข้อเท็จจริงได้ข้อยุติแล้วแต่ยังมีความไม่เข้าใจในข้อกฎหมาย จึงต้องเปิดเผยสำนวน

เมื่อถามว่า ในส่วนของการส่งให้ดีเอสไอและป.ป.ช.ดำเนินการกับเจ้าหน้าที่กรมที่ดินและกองทุนฟื้นฟู จะมีการเสนอรายชื่อบุคคลที่น่าจะถูกสอบไปด้วยหรือไม่ นายสัก กล่าวว่า อนุกรรมการฯคงจะมีรายละเอียดส่งแนบไปด้วย แต่การส่งสำนวนให้ดีเอสไอ.และป.ป.ช. ต้องรอให้อนุกรรมการไต่สวนส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดก่อน เพราะถือว่าเป็นเรื่องที่เร่งด่วนกว่า

 
http://www.bangkokbiznews.com/2007/05/21/WW10_WW10_news.php?newsid=72076
บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
stromman
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 526



« ตอบ #9 เมื่อ: 22-05-2007, 20:21 »

ตามมาอ่านครับ ไม่ออกความเห็นแล้วกัน เอามันเข้าว่า 
บันทึกการเข้า
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #10 เมื่อ: 22-05-2007, 22:52 »

ทนาย'ทักษิณ-คุณหญิงพจมาน' ขู่ฟ้องคตส.เปิดสำนวนที่ดินรัชดา
 
22 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 15:47:00
 
ทนาย"ทักษิณ-คุณหญิงพจมาน"ขู่คตส. เปิดสำนวนที่ดินรัชดามั่ว อาจละเมิดรธน.ทำลูกความเสียหาย ด้าน “อุดม” แอ่นอกสู้ ไม่กลัวฟ้อง ลั่นทำด้วยความบริสุทธิใจไม่ได้แกล้งใคร

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : นายพิชิต ชื่นบาน ทนายความผู้ได้รับมอบหมายจากพ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ให้ดูแลคดีการซื้อที่ดินย่านรัชดา กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) จะเปิดสำนวนคดีทิ่ดินรัชดาต่อสาธารณชน ว่า ทีมกฎหมายอยู่ระหว่างการหารือว่าจะดำเนินการทางกฎหมายกับคตส.อย่างไร เพราะถือว่าเป็นการทำนอกกรอบกฎหมาย โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญที่ได้บัญญัติถึงการคุ้มครองสิทธิของประชาชน ฉะนั้นในกรณีที่ยังไม่มีคำพิพากษาให้ถึงที่สุดจะนำข้อมูลมาเปิดเผยต่อสังคมเพื่อหวังผลประโยชน์ไม่ได้ ยกเว้นลูกความของตนให้ความยินยอม

"ถ้าคตส.เปิดเผยออกมาแล้วไม่ถูกต้องทางเราก็คงต้องใช้สิทธิตามกฎหมาย ส่วนตัวมองว่าการเปิดสำนวนดังกล่าว เป็นการแก้เกี้ยวของคตส. ที่ถูกคุณหญิงพจมานฟ้องในคดีหมิ่นประมาท และคดีอาญาฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบมากกว่า เลยทำเหมือนเป็นผู้ใหญ่ใจดีเปิดสำนวนให้ดูเหมือนว่าไม่ได้กลั่นแกล้งลูกความของผม ทั้งที่ความจริงการเปิดสำนวนเป็นการทำนอกหลักการ"

เมื่อถามว่าคตส.อ้างว่าที่ผ่านมาสื่อนำเสนอข้อมูลการแก้ข้อกล่าวหาของพ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน เพียงด้านเดียว จึงต้องการเปิดสำนวนเพื่อให้ประชาชนรับรู้ข้อมูลทั้งสองด้าน นายพิชิต กล่าวว่า อยากถามว่าก่อนที่ตนจะโผล่หัวออกมา ทางคตส.เขาว่าเรามาเป็นเดือนแล้ว อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 24 พ.ค.นี้ตนจะเดินทางไปสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อร่วมตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่ตนได้ยื่นไปกับคตส. ตามคำเชิญของนายอุดม เฟื่องฟุ้ง ประธานอนุกรรมการไต่สวน

ด้านนายอุดม เฟื่องฟุ้ง ประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีการจัดซื้อที่ดินย่านรัชดา กล่าวถึงกรณีที่ทีมทนายพ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ขู่ให้สิทธิตามกฎหมายหากคตส.เปิดสำนวนแล้วทำให้เสียหายว่า หากเขาจะฟ้องก็เป็นเรื่องของเขา แต่ไม่ทราบว่าจะฟ้องในข้อหาอะไร  เพราะการเปิดสำนวนเป็นไปตามมติของคตส. เพื่อให้ประชาชนรับรู้ข้อเท็จจริง โดยสำนวนที่จะเปิดเผยจะไม่มีการกล่าวอ้างชื่อบุคคลที่เกี่ยวข้อง และจะไม่ใช้คำว่าผู้ถูกกล่าวหาด้วย เนื่องจากจะเป็นการละเมิดสิทธิ ดังนั้นข้อมูลที่จะเปิดเผยจะเกี่ยวกับข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับขั้นตอนการซื้อขายที่ดิน จึงไม่ทราบว่าจะไปขัดกับกฎหมายหรือรัฐธรรมนูญมาตราไหน

“เขาจะฟ้องก็ฟ้องไป ผมก็จะไม่ฟ้องกลับด้วย แต่การออกมาขู่ฟ้องอย่างนี้ ผมอยากถามกลับไปว่าเขากลัวอะไร หรือว่ากลัวประชาชนจะรู้ความจริง จึงไม่อยากให้มีการเปิดเผย ไม่ทราบว่ามีเหตุผลอะไรที่จะค้านไม่ให้คตส.เปิดสำนวน เพราะการเปิดเผยข้อมูลก็เป็นการทำให้ประชาชนได้รับทราบข้อเท็จจริง คตส.ทำอย่างบริสุทธิใจไม่ได้ต้องการกลั่นแกล้ง พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน และขอยืนยันว่าจะเดินหน้าเปิดเผยข้อมูลข้อเท็จจริงให้ประชาชนได้รับรู้ว่าเรื่องจริงเป็นอย่างไร คาดว่าจะสามารถเปิดเผยได้ภายในวันพฤหัสที่ 24 พ.ค.นี้” นายอุดม กล่าว

เมื่อถามว่าทางทนายจะทำเอกสารโต้ 10 ประเด็นที่คตส.ชี้ข้อพิรุธในการประมูลซื้อที่ดินรัชดา นายอุดม กล่าวว่า เป็นสิทธิของเขา สามารถทำเปิดเผยต่อสาธารณชนได้ ซึ่งประชาชนจะตัดสินใจเองเมื่อได้รับข้อมูลจากทั้งสองด้าน แต่คตส.จะไม่เอามารวมในสำนวนเพื่อส่งฟ้องอัยการ และรู้สึกยินดีที่ทีมทนายของพ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางไปร่วมตรวจสอบข้อมูลเอกสารหลักฐานที่ได้ยื่นให้คตส.ว่าขาดตกบกพร่องประการใดจะได้ทำให้ครบ และถูกต้องก่อนที่จะยื่นให้อัยการสูงสุด

 http://www.bangkokbiznews.com/2007/05/22/WW10_WW10_news.php?newsid=72437
 



ผมเห็นใจและเข้าใจ คตส. จริงๆ ที่ใช้ไม้นี้.....
คุณอุดม กลัวว่าจะมีการบิดเบือน เบี่ยงเบนข้อมูล สำนวนการสอบสวน
เมื่อพ้น"มือ"ของ คณะกรรมการ คตส........ Exclamation


เมื่อสำนวนถูกเปิดเผยให้สาธารณชนได้รับรู้
พวก"อลัชชีกฎหมาย" ยังจะเล่นลวดลายอย่างไรอีก.....

"มือไม้"ที่ได้สะสมและกระจายไปตามหน่วยงานต่าง ๆของรัฐบาล
ได้เวลาสำนึกบุญคุณ ตอบแทน"ผู้อุปถัมภ์"..............ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #11 เมื่อ: 22-05-2007, 23:15 »

คตส.รุกฆาต! แก๊งชินฯ เจอ “โกงทั้งโคตร” ยึดทรัพย์
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 22 พฤษภาคม 2550 21:17 น.
 
 
คตส.ติดดาบอนุฯไต่สวนภาษีสรรพสามิต สอบทุจริตเอื้อประโยชน์ “ตระกูลแม้ว-ชินคอร์ป” เต็มพิกัด งัดไม้เด็ดหากเข้าข่าย “โกงทั้งโคตร” ได้ทรัพย์สินมาโดยมิชอบตาม กม.ป.ป.ช.มาตรา 100 เสนอศาลอายัดทรัพย์สินล่วงหน้า
       
       วันนี้ (22 พ.ค.) ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) มีการประชุมคณะอนุกรรมการไต่สวนการทุจริตการจัดซื้อจัดจ้างการตรวจจับวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ 9000 ที่มี นายอำนวย ธันธรา เป็นประธาน โดยเชิญ นางนิจพร จรณะจิตต์ กรรมการบริษัท อิตัลไทย และนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานเจ้าหน้าที่บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด มาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา
       
       นอกจากนี้ นายแก้วสรร อติโพธิ เลขานุการคณะกรรมการไต่สวนกรณีการแปลงค่าสัมปทานเป็นภาษีสรรพสามิตในกิจการโทรคมนาคม แถลงถึงกรณีที่ คตส.มีมติยกเลิกคำสั่งเดิม และออกคำสั่งใหม่เกี่ยวกับการกล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กระทำความผิดทางกฎหมายเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ เพื่อเอื้อประโยชน์แก่ธุรกิจของตัวเองและพวกพ้อง พร้อมทั้งมีมติให้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีนี้เพิ่มเติม ว่า ที่ประชุม คตส.มีมติให้คณะอนุกรรมการมีอำนาจหน้าที่เพิ่มขึ้นจากเดิม ที่ให้อนุกรรมการทำการแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐาน เรียกเอกสาร หรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องจากบุคคลมาให้ถ้อยคำ ตลอดจนขอให้ศาล พนักงานสอบสวน หน่วยงานข้าราชการ ต้องดำเนินการเพื่อประโยชน์ในการไต่สวนข้อเท็จจริง จากนั้นให้ทำความเห็นเสนอต่อที่ประชุมใหญ่ คตส.โดยมี นายกล้านรงค์ จันทิก เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน อย่างไรก็ตาม ล่าสุด คตส.ได้มีมติเพิ่มอำนาจและติดดาบให้กับอนุกรรมการชุดนี้มากขึ้น
       
      นายแก้วสรร กล่าวว่า อำนาจที่ คตส.เพิ่มให้กับอนุกรรมการมากขึ้น มีอำนาจหลัก 3 ด้าน คือ 1.การไต่สวนมาตรการของรัฐที่เอื้อประโยชน์กิจการชินคอร์ปทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการลดค่าสัมปทาน มาตรการการส่งเสริมการลงทุน กรณีเอ็กซิมแบงก์ปล่อยกู้ และกรณีไอทีวี โดย คตส.สามารถตรวจสอบได้ทุกเรื่องที่มีผลทางกฎหมายที่มีการใช้อำนาจรัฐเอื้อประโยชน์ หรือการได้ทรัพย์มาโดยมิชอบ 2.ตรวจสอบความผิดทางอาญาและความเสียหายที่เกี่ยวข้องด้วย 3.หากพบว่าอดีตนายกรัฐมนตรี ถือหุ้นบริษัท ชินคอร์ป ก็จะเข้าข่ายการกระทำความผิดตามกฎหมาย ป.ป.ช.มาตรา 100 ในเรื่องความผิดเรื่องประโยชน์ส่วนบุคคลขัดกับประโยชน์ส่วนรวม รวมถึงประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และความผิดฐานร่ำรวยผิดปกติ อันถือว่าเป็นการได้มาซึ่งทรัพย์สินโดยมิสมควร และเข้าข่ายร่ำรวยผิดปกติ ที่สามารถทำความเห็นในคดีขอให้ศาลยึดทรัพย์ได้
       
       “จะมีการตรวจสอบว่าในเวลานั้นครอบครัวนายกฯ หรืออดีตนายกฯถือหุ้นไว้หรือไม่ เพื่อดูว่าใช้อำนาจหน้าที่ของตัวเองเอื้อประโยชน์ให้ครอบครัวหรือไม่ อันมีบทลงโทษจำคุก 3 ปี ตามมาตรา 157 แต่โทษของคดีจะแยกออกเป็นตามกระทงความผิด การตรวจสอบจะดูหลายอย่าง ซึ่งหากตรวจสอบพบว่ามีความผิดทางอาญาก็สามารถตั้งข้อกล่าวหาได้ และพบว่าถ้าคนในครอบครัว หรือตัวอดีตนายกฯได้มาโดยทรัพย์อันมิควร อันเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่เพื่อเอื้อชินคอร์ป ถ้าพบว่ามีการถือหุ้นอยู่ จนทำให้ได้ประโยชน์จากมูลค่าหุ้นที่เพิ่มขึ้นหรือได้เงินปันผลจากกรณีดังกล่าว ก็จะถือว่าเข้าข่ายร่ำรวยผิดปกติ สามารถเสนอศาลริบทรัพย์เพื่อให้ทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดิน” นายแก้วสรร กล่าว
       
        เลขานุการ คตส.กล่าวว่า การขยายคำสั่งนี้ทำให้อนุกรรมการได้อาวุธมากขึ้น การจะพบความผิด 3 ข้อนี้ ทั้งเรื่องมาตรา 100 มาตรา 157 ประมวลกฎหมายอาญาหรือร่ำรวยผิดปกติ เราก็ต้องแจ้งข้อกล่าวหาเขาจากนั้นเมื่อเข้าสู่การสอบสวนก็ต้องสอบว่ามันเข้าข่ายความผิด และจะเอาผิดได้หรือไม่ มันอยู่ที่ฝีมือ แม้จะมีกฎหมายบางอย่างปิดช่องไว้ไม่ให้ไปตรวจสอบ แต่ทีมสอบชุดต่างๆ ของ คตส.เช่น ทีมสอบเรื่องหุ้นชินคอร์ป ก็สอบไปมากแล้ว หรือเรื่องเอ็กซิมแบงก์ ตอนนี้ทุกอย่างมารวมเป็นกองทัพแล้ว อนุกรรมการก็ต้องรีบทำงานเพื่อแจ้งข้อกล่าวหา

 
 http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9500000058865
 
 
 
 
บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #12 เมื่อ: 22-05-2007, 23:28 »

ปีหน้า ปี 2551 สัญญาเช่าที่ดิน รฟท.ของกลุ่มห้างเซ็นทรัลจะสิ้นสุดลง
ทรัพย์สินที่เป็นอาคาร สิ่งก่อสร้าง ฯลฯ จะต้องเป็นสมบัติของการ รฟท........
เมื่อกลุ่มเซ็นทรัลต้องการเช่าต่อ ต้องเสนอค่าเช่า คำนวณจากมูลค่าการเช่าที่ดิน+สิ่งก่อสร้าง
และอุปกรณ์พ่วงด้วย....


เมื่อรัฐบาลกลุ่มอำนาจเก่าแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ปตท.
เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
ทำให้"เอกชน" มีหุ้นใน"ปตท" มากกว่า 30 %....

ทรัพย์สินที่เคยเป็นสาธารณสมบัติของรัฐ
การลงทุนของรัฐบาล จากภาษีของประชาชน
กลายเป็นสมบัติของบริษัทจดทะเบียนเอกชน... Exclamation



ถ้าสืบถึงเบื้องหลังผู้ถือหุ้นภาคเอกชนกว่า 30 % นั้น
เป็นกลุ่มนักธุรกิจการเมืองของรัฐบาลกลุ่มอำนาจเก่าเกือบทั้งหมด


ทรัพย์สินมีมูลค่ามากกว่า 400,000 ล้านบาท
ถูกตีราคาเพียง 200,000 ล้านบาท......

ทำให้หุ้นขายวันแรก 34 บาททะยานเป็น 100-200 บาท
และกำลังจะเป็น 300 บาทเร็ว ๆ..



รัฐบาลเก่ามีความชำนาญ เชี่ยวชาญการแปรรูปรัฐวิสาหกิจของประเทศ
เป็นของเอกชน ซึ่งมีนักธุรกิจการเมืองของกลุ่มอำนาจเก่าอยู่เบื้องหลัง.........



บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #13 เมื่อ: 23-05-2007, 08:40 »

ที่แน่ๆ...เลือกตั้งครั้งต่อไป(ถ้ามี)


พรรคไหนกล้าประกาศจะสานต่อ Thaksinomics ได้เป็นรัฐบาลเสียงข้างมากแน่ๆ....หลายคนในเว๊บนี้อาจหน้าแหกซ้ำซากที่เคยกล่าวหาระบอบดังกล่าว แต่ท้ายสุดคนส่วนใหญ่ของประเทศเค้า say yes to Thaksinomics


คิดแล้วก็สะจายยยยยยยย
บันทึกการเข้า
aiwen^mei
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,732



« ตอบ #14 เมื่อ: 23-05-2007, 08:58 »

ที่แน่ๆ...เลือกตั้งครั้งต่อไป(ถ้ามี)


พรรคไหนกล้าประกาศจะสานต่อ Thaksinomics ได้เป็นรัฐบาลเสียงข้างมากแน่ๆ....หลายคนในเว๊บนี้อาจหน้าแหกซ้ำซากที่เคยกล่าวหาระบอบดังกล่าว แต่ท้ายสุดคนส่วนใหญ่ของประเทศเค้า say yes to Thaksinomics


คิดแล้วก็สะจายยยยยยยย

  แหม่...ช่างแสนรู้ หูตกจริงจริ๊งงงงงง...
บันทึกการเข้า

有缘千里来相会,无缘对面不相逢。
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #15 เมื่อ: 23-05-2007, 09:42 »

ที่แน่ๆ...เลือกตั้งครั้งต่อไป(ถ้ามี)


พรรคไหนกล้าประกาศจะสานต่อ Thaksinomics ได้เป็นรัฐบาลเสียงข้างมากแน่ๆ....หลายคนในเว๊บนี้อาจหน้าแหกซ้ำซากที่เคยกล่าวหาระบอบดังกล่าว แต่ท้ายสุดคนส่วนใหญ่ของประเทศเค้า say yes to Thaksinomics


คิดแล้วก็สะจายยยยยยยย

Thaksinomics ให้เจ้าของทฤษฏีเอาตัวให้รอดจากคุกให้ได้ก่อนเถอะ
ทำแบบมั่วๆ โกงแบบหน้าด้านที่สุด ทฤษฎีก็แค่เอามาใช้บังหน้าเท่านั้นแหละ
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #16 เมื่อ: 23-05-2007, 10:20 »

ใครๆก็รักแม้วววววววววววววววววววววว


"จับตา"แม้ว"รับปริญญาหมีขาว หวั่นซ่อนเล่ห์เคลื่อนไหวการเมือง
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 22 พฤษภาคม 2550 21:57 น.
 
 
 
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
 
ร.อ. นพ.ยงยุทธ มัยลาภ

 
 
 
  โฆษกรัฐฯ เชื่อฝ่ายความมั่นคงจับตา“ทักษิณ” รับปริญญาที่รัสเซียใกล้ชิด หวั่นเคลื่อนไหวทางการเมืองสร้างความสับสน วอน"แม้ว"รับสภาพ โพลคนไทยส่วนใหญ่ อยากให้ยุติบทบาทแล้ว
       
       วันนี้ (22 พ.ค.) ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงข่าวที่คณะผู้บริหารสถาบันเศรษฐศาสตร์แห่งรัสเซีย (Plekhanov Russian Academy of Economics) มอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ด้านเศรษฐศาสตร์ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่ายังไม่ได้รับทราบข่าวนี้ เพิ่งได้ยินจากสื่อมวลชน และถือว่าเป็นสิทธิของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่จะไปรับปริญญา และเข้าใจว่าในส่วนของสถาบันที่ต้องการจะมอบให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งได้มีการกำหนดวันกันไว้ และแน่นอนว่าหน่วยงานด้านความมั่นคงจะจับตาดูความเคลื่อนไหว เนื่องจากในช่วงเวลาที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ มีความเคลื่อนไหวในทางการเมืองค่อนข้างมาก และบางครั้งก่อให้เกิดความสับสนค่อนข้างมาก จึงต้องดูรายละเอียดต่อไป
       
       ต่อข้อถามว่า รัฐบาลประเมินว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จงใจที่จะเคลื่อนไหวในช่วงนี้ ซึ่งใกล้วันที่จะมีการตัดสินคดียุบพรรคหรือไม่ ร.อ.นพ.ยงยุทธ กล่าวว่า อาจมองในทัศนะนั้นได้ และคงต้องติดตามว่าการไปรับปริญญาครั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ มีการแสดงทัศนะอะไรหรือไม่ รวมทั้งจะส่งผลกระทบกับฝ่ายต่าง ๆ ของไทยหรือไม่ เพราะวันนี้เสียงของประชาชนในประเทศไทยชัดเจน โดยมีการทำโพลออกมาแล้วว่าต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยุติบทบาททางการเมือง จึงเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และคนใกล้ชิด มีข้อมูลในส่วนนี้ และรู้ว่าประชาชนส่วนใหญ่ต้องการอย่างไร"
บันทึกการเข้า
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #17 เมื่อ: 23-05-2007, 10:35 »

อิอิ จะยกตัวอย่างก็ยกตัวอย่าง ม.ใหญ่ๆซิครับ
ม.เล็กๆ โปรแกรมเรียนราคาถูกแบบนี้ไม่สมศักดิ์ศรีเหลี่ยมนะ 
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #18 เมื่อ: 23-05-2007, 10:39 »

อิอิ จะยกตัวอย่างก็ยกตัวอย่าง ม.ใหญ่ๆซิครับ
ม.เล็กๆ โปรแกรมเรียนราคาถูกแบบนี้ไม่สมศักดิ์ศรีเหลี่ยมนะ 


พวกบ้าสถาบันนี่ยังไม่หมดไปจากสังคมที่ด้อยพัฒนาจริงๆ....เต็มคางเลยป่ะดอกนี้!?!
บันทึกการเข้า
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #19 เมื่อ: 23-05-2007, 11:09 »

55 ไม่ได้บ้าสถาบันหรอกครับ
แต่ดูที่คุณภาพ และวัตถุประะสงค์ของการมอบให้มากกว่า
บันทึกการเข้า
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #20 เมื่อ: 23-05-2007, 16:47 »


พวกบ้าสถาบันนี่ยังไม่หมดไปจากสังคมที่ด้อยพัฒนาจริงๆ....เต็มคางเลยป่ะดอกนี้!?!


ตอบตะแบงดีจัง.........  ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #21 เมื่อ: 27-05-2007, 21:45 »

คตส.จ่อฟันอาญา"แม้ว"ปล่อยกู้พม่า เล็งเอาผิด ครม.พ่วงยกชุดอีกด้วย 
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 27 พฤษภาคม 2550 21:12 น.
 
 
        “ทักษิณ”อ่วมอีก!..คตส.จ่อฟันอาญาฐานมีผลประโยชน์ทับซ้อนจากการปล่อยวงเงินกู้ให้พม่าจาก 3 พันล้านบาท เป็น 4 พันล้านบาท จับตา อดีต ครม.ทั้งคณะอาจโดนยกพวง ฐานสมรู้ร่วมคิดออกมติ ครม.เอื้อบริษัทใน เครือชินคอร์ป
       
       รายงานข่าวจากคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการตรวจสอบกรณีธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือ เอ็กซิมแบงค์ ปล่อยเงินกู้แก่ประเทศพม่า จำนวน 4 พันล้านบาท ที่มีนายวิโรจน์ เลาหะพันธ์ กรรมการคตส.เป็นประธาน จะเสนอให้ที่ประชุมใหญ่ คตส.ในวันที่ 28 พฤษภาคม พิจารณาผลการตรวจสอบใน 2 ประเด็นหลัก คือ 1.การเพิ่มวงเงินปล่อยกู้จาก 3 พันล้านบาท เป็น 4พันล้านบาท ซึ่งวงเงินที่เพิ่มขึ้นมีลักษณะการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชน และ 2.การดำเนินงานที่ประเทศไทยไม่ได้รับประโยชน์เท่าที่ควร เนื่องจากพม่าสั่งสินค้าจากต่างประเทศแทนที่จะเป็นสินค้าจากไทย เพื่อตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในขณะนั้นตามความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาหลายมาตราเช่น 152,157 เป็นต้น ฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใด เข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น เนื่องด้วยกิจการนั้น และละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
       
       รายงานข่าวเปิดเผยอีกว่า การตรวจสอบในชั้นนี้ยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดว่ารัฐมนตรีคนอื่นๆที่ร่วมประชุมเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2547 ซึ่งเป็นวันที่คณะรัฐมนตรี (ครม.)มีมติให้ดำเนินการโครงการดังกล่าวจะทราบชัดเจนหรือไม่ว่าบริษัทในเครือชินคอร์ปจะได้รับประโยชน์จากเงินจำนวนนั้น เพราะก่อนที่จะมีการนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของครม.ในตอนนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เดินทางไปเยือนประเทศพม่าด้วยตัวเองอย่างเป็นทางการเพื่อเจรจาให้พม่ากู้เงิน โดยหลังจากนั้นพม่าก็นำเงินไปใช้ประโยชน์ในดาวเทียมไอพีสตาร์ที่มีบริษัท ชิน แซทเทลไลท์ ในเครือครือชินคอร์ปเป็นเจ้าของทำให้ธุรกิจครอบครัวของอดีตนายกฯได้รับประโยชน์ จึงทำให้อดีตนายกฯเข้าข่ายความผิดตามมาตรา152, 157
       
       รายงานข่าวเปิดเผยต่อว่า อย่างไรก็ตามที่ประชุมใหญ่ คตส.สามารถมีความที่เห็นแย้งได้ในกรณีเพื่อให้มีการชี้มูลความผิดครม.ทั้งคณะได้ รวมไปถึงผู้บริหาร ธสน.นำโดยนายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา อดีตประธานกรรมการธนาคารเอ็กซ์ซิมแบ็งค์ในขณะนั้นด้วย โดยใช้บรรทัดฐานจาการชี้มูลความผิดในโครงการออกสลากเลขท้าย3-2ตัว และการจัดซื้อพันธุ์กล้ายางจำนวน90ล้านต้น
       
       รายงานข่าวเปิดเผยด้วยว่า คณะอนุกรรมการไต่สวนการจัดซื้อจัดจ้างเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ 9000 ที่มีนายอำนวย ธันธรา เป็นประธาน เตรียมหารือกับที่ประชุมคตส.ถึงข้อกฎหมาย เนื่องจากบริษัทโอบายาซิ หนึ่งในบริษัทร่วมทุนกลุ่มไอทีโอ ซึ่งถูก คตส.ชี้มูความผิดก่อนหน้านี้ อนุกรรมการไต่สวนฯไม่สามารถติดต่อได้ รวมทั้งบริษัทดังกล่าวยังได้อ้างกฎหมายประเทศญี่ปุ่นที่บัญญัติถึงการคุ้มครองความลับของบริษัท จึงมีความจำเป็นที่ต้องนำเรื่องนี้ขอความเห็นจากที่ประชุม เพื่อให้สามารถทำงานต่อไปได้
 
 
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9500000061013



เมื่อคณะกรรมการ คตส.ขยายผลการสอบสวน ลงลึกไปในคดีต่าง ๆ
ผู้ให้ความร่วมมือ ผู้ให้ความช่วยเหลือ ผู้เปิดโอกาสให้ทักษิณ ชินวัตรและครอบครัว
กระทำผิด ทุจริตทางนโยบาย ฯลฯ ก็มีมากขึ้น......

เพราะทักษิณ ได้เปิดโอกาสให้คนอื่นได้รับผลประโยชน์ด้วย.....


บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
สี่หามสามแห่
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,460



« ตอบ #22 เมื่อ: 28-05-2007, 04:34 »

มหาลัย ห้องแถว แถวๆ ลอนดอน ออกจะเยอะ

เสียตังนิดหน่อย ก็ได้ ปริญญา มาเป็นลัง แล้ว

อิอิ
บันทึกการเข้า
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #23 เมื่อ: 29-05-2007, 09:54 »

แจ้งจับนายกฯ ติดสินบนศาล รธน. คดีซุกหุ้นภาคแรก


วันนี้ (๒๓ ก.พ.) ที่กองบังคับการกองปราบปราม นายวีระ สมความคิด ประธานกลุ่มพิทักษ์สิทธิเสรีภาพของประชาชน เดินทางเข้าร่องทุกข์ต่อ พล.ต.ต.วินัย ทองสอง ผบก.ป. เพื่อให้ดำเนินคดีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ส.ส.พรรคไทยรักไทย ในความผิดฐานให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงานในตำแหน่งตุลาการตามประมวลอาญา มาตรา ๑๖๗ โดยนำอาเอกสารคำให้การของพยานจำเลยทั้งห้า เมื่อวันที่ ๑๑ ส.ค.๒๕๔๗ คดีอาญาหมายเลขดำที่ ๒๖๕๘/๒๕๔๕ จำนวน ๙ แผ่น และสำเนาภาพถ่ายเอกสารหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ฉบับวันพฤหัสบดีที่ ๑๔ ต.ค.๔๗ จำนวน ๓ แผ่นมาเป็นหลักฐานมอบให้กับพนักงานสอบสวน
       
       นายวีระ กล่าวว่า จากคดีซุกหุ้นของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อปี 2544 ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมากมีมติ ๘ ต่อ ๗ ว่า ผู้ถูกร้องไม่มีความผิดและให้ยกคำร้องนั้น ต่อมาปรากฏว่ามีคอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์บางฉบับเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการขึ้นเบิกความของนายบัณฑิต ศิริพันธ์ พยานในคดีนี้ว่า ระหว่างการพิจารณาคดีได้มีผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีเข้ามาวิ่งเต้นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญบางคนให้ช่วยเหลือเพื่อแลกเปลี่ยนกับตำแหน่งหน้าที่การงานของบุตรชายของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคนนั้น ในการเป็นเลขาฯ ทูต ตามประเทศต่างๆ ตามความพอใจ หรือหากต้องการเข้ามาเป็น ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ในพรรคไทยรักไทย ก็ยินดี นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังพยายามติดสินบนตุลาการศาลรัฐธรรรมนูญอีกหลายคนด้วย
       
       นายวีระ กล่าวต่อว่า การเข้าแจ้งความในครั้งนี้เนื่องจากหากเรื่องที่มีการกล่าวหากันในคำเบิกความไม่เป็นความจริงแล้วเหตุใดผู้ที่ถูกกล่าวอ้างถึง คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ รวมทั้งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะเกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงเกียรติยศอย่างมาก แต่ที่ผ่านมาไม่เห็นมีผู้ใดจะออกมาฟ้องร้องฐานเบิกความเท็จกับนายบัณฑิตหรือหนังสือพิมพ์ที่ได้นำเอาคำเบิกความเรื่องนี้ออกมาเผยแพร่ จึงเชื่อว่าคำเบิกความดังกล่าวเป็นความจริงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และน้องสาวมีส่วนในการกระทำความผิดฐานให้สินบนกับเจ้าพนักงานจึงร้องทุกข์ให้กองปราบปรามสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
       
       ประธานกลุ่มพิทักษ์สิทธิเสรีภาพของประชาชน กล่าวด้วยว่า หากผู้บังคับการกองปราบปรามไม่ดำเนินการเรื่องคดีก็จะมีการฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้บังคับการกองปราบปราม กับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ด้วย
       
       ด้าน พล.ต.ต.วินัย ทองสอง ผบก.ป.กล่าวว่า จะให้พนักงานสอบปากคำเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานในการดำเนินคดีต่อไป

ที่มาจากหนังสือพิมพ์ผู้จัดการออนไลน์  ๒๒ กุมภาพันธ์  ๒๕๔๙
 

http://www.pnac-2001.net/index.php?lay=show&ac=article&Id=296633&Ntype=1

บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
หน้า: [1]
    กระโดดไป: