จับตา'ซุก'ไตรภาค-แฉทุ่ม7พันล้านเกมย้ายเงินออกนอกประเทศแม้วซื้อแมนฯซิตีขี่คมช.
20 พฤษภาคม 2550 กองบรรณาธิการ
ทนายแม้วเผยเจ้านายใกล้ได้เป็นเจ้าของ "แมนฯ ซิตี" เตรียมประสานแบงก์ชาติขอขนเงินออก จับตาซุกไตรภาค 7 พันล้าน "ทักษิณ" เอามาจากไหน เปิดบัญชีทรัพย์สินเงินสดไม่พอ
อีกก้อนเงินขายหุ้นชินฯ ที่ "โอ๊ค-เอม" 7.3 หมื่นล้านยังไม่ใส
บิ๊กบอสส์แบงก์พาณิชย์อ่านเกม "แม้ว" มาเหนือเมฆ ยิงนัดเดียวได้นกหลายตัว ถ้าแบงก์ชาติอนุญาตจะขนเงินไปฟอกสำเร็จ หากถูกอายัดจะเป็นประเด็นระดับโลก ภาพรัฐบาล-คมช.ติดลบ "อลงกรณ์" จี้ คตส.สอบแหล่งเงิน อาจเจอตอปกปิดบัญชีทรัพย์สิน ซุกเงินต่างประเทศ
การเข้าเทกโอเวอร์สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี ในอังกฤษของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตกเป็นข่าวเกรียวกราวมาตลอดสัปดาห์ มีความคืบหน้าถึงขั้นใกล้บรรลุข้อตกลงและเตรียมจ่ายเงินก้อนมหึมาถึง 100 ล้านปอนด์ หรือ 7,000 ล้านบาท
รวมทั้งมีการจัดเตรียมให้คนไทย 4 คนเข้าไปนั่งเป็นกรรมการบริหารของสโมสร ประกอบด้วย นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายถิรชัย วุฒิธรรม หรือบิ๊กแปะ นายไพโรจน์ เปี่ยมพงศ์สานต์ ที่เคยอื้อฉาวกรณีหุ้นบ้านฉางกรุ๊ปเมื่อหลายปีก่อน และนายวิกรม คุ้มไพโรจน์ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศอังกฤษ
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้มีความชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังคงไม่สามารถสรุปได้ โดย พ.ต.ท.ทักษิณได้ยื่นข้อเสนอซื้อสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี อย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว และจะทราบผลเป็นมติในเร็วๆ นี้ ก่อนหน้านี้ที่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดอะไรได้นั้น เนื่องจากต้องทำตามกฎหมายตลาดหลักทรัพย์ของประเทศอังกฤษ ยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้มีเจตนาที่จะสร้างประเด็นขึ้นมาปั่นป่วนการเมืองในประเทศไทย
"ท่านได้ย้ำมาตลอดว่ามีความตั้งใจที่จะไปสร้างประโยชน์ให้กับวงการกีฬา และด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์"
สำหรับการยื่นข้อเสนอขอซื้อสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี ในครั้งนี้นั้น ที่ปรึกษาผู้นี้กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้ยืนยันกับทางสโมสรว่าจะนำเงินมาซื้อได้อย่างแน่นอน โดยจะประสานขออนุญาตกับธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อนำเงินออกนอกประเทศ และเชื่อว่าจะได้รับการอนุมัติให้ดำเนินการในกรณีนี้ เพราะการนำเงินมาใช้ในเรื่องดังกล่าวก็ชัดเจนว่าไม่ได้นำไปใช้ในทางการเมือง หรือทำอะไรในทางมิชอบ
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นับเป็นโชค 2 ชั้นของคนไทย เพราะจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาวงการฟุตบอล และจะเป็นช่องทางตรวจสอบทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่อาจซุกไว้ในต่างประเทศ ซึ่งเห็นว่ากรณีนี้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ที่ต้องตรวจสอบต่อไป
"เป็นหน้าที่ของ คตส.ต้องประสานสโมสร และตรวจสอบว่าเงินที่นำมามัดจำใครเป็นเจ้าของ และเอาเงินที่ไหนมาถึง 7,000 ล้านบาท เพราะตามบัญชีที่แสดงต่อ ป.ป.ช.นั้น พ.ต.ท.ทักษิณไม่อยู่ในฐานะที่จะมีเงิน 7,000 ล้านบาท"
นายอลงกรณ์กล่าวว่า ที่บอกว่าเป็นโชค เพราะอาจเป็นลายแทงนำไปสู่ทรัพย์สินที่ซุกซ่อนในต่างประเทศ ยังอาจเป็นช่องให้ คตส.ยึดทรัพย์สิน เพราะขณะนี้แสดงให้เห็นว่ามีการโยกย้ายที่ผิดปกติเกิดขึ้น แต่หากจะอ้างว่าเป็นการหยิบยืม ก็ต้องชี้แจงให้ได้ และนำบุคคลที่อ้างว่าหยิบยืมมาชี้แจงด้วย และหากตรวจได้ว่าทรัพย์สินที่นำไปซื้อสโมสรดังกล่าวเป็นทรัพย์สินที่ได้มาโดยมิชอบ ก็จะทำให้สถานะของสโมสรไม่ใช่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่จะกลายเป็นของคนไทยทุกคน
นายสัก กอแสงเรือง กรรมการ คตส.และประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบการซื้อขายหุ้นชินคอร์ป ให้สัมภาษณ์ว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดที่แน่นอนว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะนำเงินส่วนใดไปซื้อ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณนำเงินที่ได้จากการขายหุ้นชินคอร์ปส่วนของนายพานทองแท้ ชินวัตร ไปซื้อ จะมีความเป็นไปได้หรือไม่ นายสักตอบว่า อย่าพึ่งคาดเดาล่วงหน้า เพราะยังไม่ทราบว่าครอบครัว พ.ต.ท.ทักษิณจะทำอะไรกันแน่ ซึ่งก็แล้วแต่ว่าจะนำเงินส่วนไหนไปซื้อ ตนเชื่อว่าการคาดการณ์ล่วงหน้าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง จึงไม่ขอให้ความคิดเห็น
ด้านคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินและกรรมการ คตส. กล่าวว่า ไม่รู้ข่าวที่ออกมาจริงหรือเท็จ แต่ทราบข่าวมาเช่นกันว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้เทกโอเวอร์ทีมฟุตบอลดังกล่าวไปแล้ว ซึ่งหากเป็นเรื่องจริง ก็ไม่ทราบว่าเป็นเงินของ พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ หรืออาจเป็นเงินของคนอื่นหรือไม่
"ไม่ทราบว่าเขาเอาเงินมาจากไหน หากคุณอลงกรณ์มายื่นกับ คตส.และ สตง. แบบมีลายลักษณ์อักษร ทาง คตส.ก็จะนำเรื่องนี้มาพิจารณาในที่ประชุมว่าจะรับเรื่องดังกล่าวหรือไม่ แต่ที่ผ่านมา คตส.เองมีหลายคนระบุแล้วว่าจะไม่รับเรื่องอื่นมาตรวจสอบ เพราะเหลือเวลาในการตรวจสอบไม่มาก เกรงว่าจะทำงานไม่ทัน แต่หากยื่นเข้ามาที่ สตง.เราก็จะต้องพิจารณาดูว่าจะรับหรือไม่ ทั้งนี้ต้องดูคำร้องก่อน" คุณหญิงจารุวรรณกล่าว
ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องเม็ดเงินที่สูงถึง 7,000 ล้านบาท ว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะนำมาจากไหนนั้น เมื่อตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่แจ้งกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หลังพ้นจากตำแหน่งในวันที่ 19 กันยายน 2549 พบว่ามีทั้งสิ้น 557,363,123.33 บาท ขณะที่บัญชีทรัพย์สินของคุณหญิงพจมานที่แจ้งกับ ป.ป.ช.มีทั้งสิ้น 8,842,085,955.21 บาท
อย่างไรก็ตาม แม้นำทรัพย์สินของทั้ง 2 มารวมกัน มูลค่าจะเกิน 7,000 ล้านบาท แต่ความเป็นไปได้ที่จะนำทรัพย์สินจำนวนนี้ไปซื้อสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซีตี นั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลย เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นทรัพย์สินในรูปของที่ดิน เครื่องประดับ อสังหาริมทรัพย์ โดยทั้งคู่มีเงินฝากในบัญชีธนาคาร ตั๋วสัญญาใช้เงิน ที่สามารถระดมเงินได้ทันทีประมาณ 4,000 ล้านบาท
มีเงินอีกก้อนที่ พ.ต.ท.ทักษิณสามารถนำไปซื้อได้คือเงินขายหุ้นชินฯ 7.3 หมื่นล้าน ซึ่งอยู่ในชื่อนายพานทองแท้และ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร บุตรชายและบุตรสาว แต่ติดปัญหาว่าเงินก้อนดังกล่าวสามารถนำไปใช้ได้หรือไม่ เพราะเงินที่ได้จากการขายหุ้นก้อนนี้ยังมีปัญหาการเสียภาษี ซึ่งอยู่ระหว่างเป็นคดีความ คตส.กำลังจะนำขึ้นสู่ศาลในเร็วๆ นี้
สำหรับกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะนำเงินที่ฝากไว้ในต่างประเทศไปซื้อนั้น เป็นประเด็นที่ต้องจับตามอง เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้แจ้งเงินก้อนดังกล่าวไว้ในรายการแสดงบัญชีทรัพย์สินกับ ป.ป.ช. หากปรากฏว่ามีการนำเงินที่ฝากต่างประเทศไปซื้อจริง เท่ากับว่าที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณปกปิดบัญชีทรัพย์สิน ผู้บริหารระดับสูงของธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งเปิดเผยว่า การนำเงินจำนวน 7,000 ล้านบาทออกนอกประเทศตามขั้นตอน จะต้องขออนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย ตาม พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย ที่กำหนดว่า ผู้ประกอบการโอนเงินเกินกว่า 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ต้องขออนุญาตจากแบงก์ชาติ และจะต้องมีธุรกรรมตลอดจนสัญญาทางธุรกิจที่ชัดเจนว่าจะนำเงินนี้เพื่อไปทำการใดการหนึ่งอย่างเปิดเผย ดังนั้นถ้า พ.ต.ท.ทักษิณจะใช้เงินที่มีอยู่ในบัญชีทรัพย์สินภายในประเทศไทย ก็ต้องดำเนินการตามนี้
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวกล่าวว่า ถ้าพิจารณาตามตัวบทกฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณมีสิทธิ์ที่จะขอ นอกจากนั้นในกรณียังมีธุรกรรมที่ชัดเจนเปิดเผยต่อสาธารณชนในประเทศอังกฤษ เจ้าของสโมสรเป็นระยะๆ แล้ว โดยปกติทั่วไปแบงก์ชาติต้องอนุญาต แต่ปัญหานี้แบงก์ชาติอาจจะไม่อนุญาต เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณมีปัญหาที่ถูกสอบสวนและกล่าวหาเกี่ยวกับการทุจริตคอรัปชั่นหลายคดี ซึ่งยังไม่แน่ว่าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) รวมทั้งรัฐบาลอาจจะทำการอายัดทรัพย์สินก็ได้ เพราะถ้าอนุมัติให้นำเงินออกไปแล้ว กระบวนการที่จะดำเนินการอายัดทรัพย์สิน ภายหลังศาลพิพากษาระบุความผิดแล้ว ก็จะกระทำไม่ได้ เพราะเงินอยู่ในต่างประเทศเสียแล้ว
"ตรงนี้คือความเสี่ยงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่จะถูกอายัดเงินตั้งแต่ตอนนี้ อย่างไรก็ตาม เกมนี้สามารถมองได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้เปรียบไม่ว่าแบงก์ชาติจะอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้นำเงินออกไป เพราะถ้าอนุญาต เงินนี้ก็จะปลอดภัยอยู่ในต่างประเทศ แต่ถ้าไม่อนุญาต พ.ต.ท.ทักษิณก็จะใช้เป็นประเด็นได้อีกว่าถูกกลั่นแกล้ง และจะกลายเป็นประเด็นใหญ่ทั่วโลก ตามเป้าหมาย นอกจากนั้นแล้วยังอาจจะใช้เป็นจุดโจมตี คมช.และรัฐบาล ว่าเป็นตัวขวางการพัฒนากีฬาฟุตบอลของไทย ซึ่งต้องการจะไปสู่อินเตอร์ด้วย" แหล่งข่าวกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองเกมนี้แล้วอดีตนายกรัฐมนตรีต้องการซื้อสโมสรแมนฯ ซิตีนี้ด้วยความจริงใจหรือไม่ ผู้บริหารแบงก์พาณิชย์คนเดิมกล่าวว่า ถ้าเขามีความบริสุทธิ์ใจจริง และต้องการพัฒนากีฬาฟุตบอลไทยอย่างแท้จริง ไม่เกี่ยวกับการเมืองแล้ว ก็สามารถใช้เงินที่มีอยู่ในต่างประเทศที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก และพอซื้อได้อย่างแน่นอน
แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า ถ้าเขาใช้เงินดังกล่าว ก็จะย้อนศรกลับมาเล่นงานในประเด็นซุกทรัพย์สินมิได้แจ้งให้ ป.ป.ช.รับรู้ตั้งแต่แรก"ปัญหานี้จะไม่เป็นปัญหา ถ้าต้องการซื้อจริง เพราะสามารถอ้างได้ว่าเงิน 7,000 ล้านบาทยืมมาจากเพื่อนอย่างนายอัล ฟาเอ็ด เจ้าของห้างแฮร์รอดส์ในลอนดอนได้ แต่ดูแล้วประเด็นนี้น่าจะเป็นประเด็นการเมืองมากกว่า" แหล่งข่าวกล่าว และวิเคราะห์ว่า พ.ต.ท.ทักษิณน่าจะเลือกทางที่จะกดดันเอาเงินจากประเทศไทยไปซื้อสโมสรดังกล่าวมากกว่า เพราะได้เปรียบในด้านการเมือง และถ้าเกิด คมช.หรือรัฐบาลกลัวภาพพจน์เสียหายในสายตาชาวโลก เขาก็สามารถนำเงินก้อนใหญ่ออกไปได้ และพ้นจากภาวะความหวาดหวั่นที่จะถูกอายัดทรัพย์โดยปริยาย
"ซื้อไว้ก่อน แล้วภายหลังขายเอาเงินสดเก็บเข้ากระเป๋าแค่นี้ก็ชนะแล้ว คมช.ตามไปอายัดไม่ได้อีก" แหล่งข่าวระบุ
ทั้งนี้ เมื่อ 3 ปีก่อน พ.ต.ท.ทักษิณสร้างความฮือฮาด้วยการประกาศว่าจะซื้อสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล ในราคา 65 ล้านปอนด์ ถึงขั้นออกเป็นมติ ครม. สุดท้ายล้มเหลว ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นแค่แท็กติกทางการเมือง เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของประชาชนไปจากปัญหาของรัฐบาลที่เขาเป็นนายกรัฐมนตรี. http://www.thaipost.net/index.asp?bk=sunday&post_date=20/May/2550&news_id=142536&cat_id=110100