ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
28-03-2024, 22:21
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สโมสรริมน้ำ  |  เครื่องหมายจอมทัพไทย 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
เครื่องหมายจอมทัพไทย  (อ่าน 3596 ครั้ง)
narong
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 654



เว็บไซต์
« เมื่อ: 03-05-2006, 20:32 »

คฑา + กระบี่

นับตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จขึ้นครองราชสมบัติ พระองค์ทรงใช้พระคทาจอมพลองค์ที่สาม
ซึ่งนายกรัฐมนตรี และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกระทรวงกลาโหม ได้ทูลเกล้า ฯ ถวาย พร้อมเครื่องยศจอมพล
เมื่อวันที่ 16 มีนาคม พุทธศักราช 2493 ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เนื่องในวโรกาส ที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนินนิวัตสู่ประเทศไทย

ต่อมาในปีพุทธศักราช 2509 ข้าราชการกระทรวงกลาโหมเห็นว่า พระองค์ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจ สำหรับประเทศชาติ
ทั้งภายในและภายนอกประเทศอย่างมากมาย ทำให้กิจการต่าง ๆ บรรลุผลสำเร็จลุล่วงเสมอ พระบารมีของพระองค์แผ่ไพศาล
ก่อให้เกิดความสามัคคีกลมเกลียว และความสงบสุขในหมู่ประชาชน สภากลาโหมจึงได้มีมติเมื่อวันที่ 18 มีนาคม พุทธศักราช 2509
ให้สร้างพระคทาจอมพลขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
โดยเก็บเงินเพื่อสร้างคทานี้จากนายทหารชั้นนายพลประจำการทุกนาย
และในวันที่ 2 ธันวาคม พุทธศักราช 2509 นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมพร้อมด้วยนายทหารชั้นผู้ใหญ่
ได้ทูลเกล้า ฯ ถวายพระคทาจอมพลองค์นี้แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
เนื่องในวโรกาสที่พระองค์ทรงมีพระชนมายุ 40 พรรษา เพื่อเป็นเครื่องหมายแห่งความจงรักภักดีของข้าราชการทหารทุกนาย
และได้ขอพระบรมราชานุญาต ขนานนามพระคทาองค์ใหม่นี้เป็นพิเศษว่า
พระคทาจอมทัพภูมิพล



สายยงยศ จอมทัพ

สายยงยศเป็นเครื่องหมายแสดงฐานะพิเศษเฉพาะบางฐานะของผู้ประดับที่เป็นทหาร ซึ่งไม่เป็นสาธารณแก่ทหารทั่วไป
เช่นสายยงยศของนายทหารฝ่ายเสนาธิการ และสายยงยศของราชองครักษ์ เป็นต้น
สำหรับสายยงยศจอมทัพไทย เป็นสายยงยศเฉพาะองค์พระมหากษัตริย์ซึ่งทรงเป็นองค์ "จอมทัพไทย"
สายยงยศนี้แตกต่างจากสายยงยศราชองครักษ์ด้วยมีสายไหมหรือสายไหมทองถักรวบสายยงยศคู่หน้า
เมื่อประดับบนฉลองพระองค์เครื่องแบบทหาร ถมที่ถักรวบดังกล่าวนี้
จะอยู่ในแนวกระเป๋าของฉลองพระองค์เครื่องแบบทหารระดับพระอุระเบื้องขวา

http://www.radc.go.th/index.php?lay=show&ac=article&Id=154199



พระคทาจอมทัพภูมิพล


คทาจอมพล เริ่มใช้เป็นเครื่องประดับเกียรติในสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ภายหลังที่ทรงปรับปรุงกิจการทหารเป็นแบบสากล  คทาจอมพล แบ่งออกเป็น  ๓ ประเภท

ประเภทที่ ๑ เป็นพระคทาเครื่องต้นของพระมหากษัตริย์
ประเภทที่ ๒ เป็นพระคทาสำหรับพระบรมวงศ์ชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งดำรงพระยศเป็นจอมพล
ประเภทที่ ๓ เป็นคทาสำหรับจอมพลทั่วไปใน  ๓  เหล่าทัพ




ผู้บัญชาการกรมทหาร พร้อมด้วยข้าราชการในกรมยุทธนาธิการเตรียมรับการตรวจแถว
จากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ สนามหญ้า ภายในศาลายุทธนาธิการ ภายหลังที่กรมทหารบก
ทูลเกล้าฯ ถวายพระคทาจอมพล เมื่อวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๔๔๖



คทาจอมพล  ซึ่งเป็นพระคทาเครื่องต้นของพระมหากษัตริย์  มี  ๔ องค์  คือ

องค์แรก  ข้าราชการกรมทหารบกได้สร้างพระคทาจอมพลขึ้นทูลเกล้า ฯ
ถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในฐานะองค์จอมทัพไทย
เนื่องในพระราชพิธีทวีธาภิเษกสมโภช เมื่อวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน  พุทธศักราช ๒๔๔๖  ณ  พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท



พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงถือพระคทาจอมพลองค์แรกของกองทัพไทย
ซึ่งกรมทหารบกทูลเกล้าฯ ถวาย




พระคทาจอมพลองค์แรก
ลักษณะพระคทาจอมพลองค์แรกนี้ เป็นรูปทรงกระบอกยาก ๓๕ เซนติเมตร
ยอมเป็นรูปช้างสามเศียร ลงยาสีขาวเหนือหัวช้างเป็นพระเกี้ยว 
ตอนท้ายเป็นทรงกระบอกตัดองค์พระคทาทำด้วยทองคำหนัก
๔๐ บาท  และใต้หัวช้างลงมาเป็นลายนูนรูปหม้อกลศ 
ซึ่งหมายถึงการทูลเกล้า ฯ ถวายเนื่องในพระราชพิธีทวีธาภิเษก 
พระคทาองค์นี้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

และพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว  ทรงใช้เป็นประจำตลอดรัชกาล




พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงถือพระคทาจอมพลองค์ที่ ๒ ที่มียอดเป็นมงกุฎ

พระคทาจอมพลองค์ที่ ๒
องค์ที่ ๒   ข้าราชการกรมยุทนาธิการ  ได้จัดสร้างพระคทาจอมพลขึ้นทูลเกล้า ฯ
ถวายพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวในฐานะองค์จอมทัพไทย
เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก  เมื่อวันที่ ๒ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๔๕๓ พระคทาจอมพลองค์ที่ ๒  มีลักษณะส่วนใหญ่คล้ายคลึง
กับพระคทาองค์แรกมากต่างกันตรงยอดซึ่งเป็นมงกุฎและมีลายเฟื่องอยู่ที่แถบกลางใต้ฐานของยอดมงกุฎโดยรอบเท่านั้น





พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทรงถือพระคทาจอมพลองค์ที่ ๓
ซึ่งพระองค์ทรงพระราชทานแบบพระคทาขึ้นใหม่


พระคทาจอมพลองค์ที่ ๓

องค์ที่ ๓   ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระองค์ได้ทรงพระราชทานแบบพระคทาจอมพลขึ้นใหม่และโปรดเกล้า ฯ ให้สร้างขึ้นด้วยทองคำเกลี้ยง

พระคทาจอมพลองค์ที่ ๓  นี้   มีลักษณะป่องตรงกลาง
และคอดเรียวไปทางด้านยอดและด้านปลาย  ตรงยอดของพระคทา 
เป็นรูปพระยาครุฑพ่าห์ลงยาตามแบบพระราชลัญจกรประจำแผ่นดิน
และใต้พระยาครุฑ เป็นลูกแก้วรองฐานบัวหงายลงยาราชาวดี 
ส่วนด้านปลายมีลูกแก้ว และยอดบัวกลุ่มสี่ชั้นลงยาราชาวดีเช่นกัน


พระคทาจอมพลองค์นี้ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทรงใช้มาตลอดรัชกาล ต่อมา พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว 
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ภูมิพลอดุลยเดช ทรงใช้พระคทาจอมพลองค์นี้สืบมา




องค์ที่ ๔ นับตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
เสด็จขึ้นครองราชสมบัติพระองค์ทรงใช้พระคทาจอมพลองค์ที่ ๓  ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ซึ่งนายกรัฐมนตรีและนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกระทรวงกลาโหมได้ทูลเกล้า ฯ  ถวายพร้อมเครื่องยศจอมพล
เมื่อวันที่ ๒๖ มีนาคม พุทธศักราช ๒๔๙๓  ณ  พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง

เนื่องในวโรกาสที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนินนิวัติสู่ประเทศไทย  ต่อมาในปีพุทธศักราช ๒๕๐๙  ข้าราชการกระทรวงกลาโหม
ต่างพิจารณาเห็นว่าพระองค์ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจสำหรับประเทศชาติ  ทั้งภายในและภายนอกประเทศอย่างมากมาย
กิจการใดที่เป็นประโยชน์ต่อชาติ และพสกนิกรชาวไทยแล้ว พระองค์จะทรงเข้ารับเป็นพระราชภาระ
และทำให้กิจการต่าง ๆ บรรลุผลสำเร็จเสมอ พระบารมีของพระองค์ก่อให้เกิดความสามัคคี
กลมเกลียวและความสงบสุขในหมู่ประชาชน

ดังนั้นในวันที่ ๑๘ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๐๙  สภากลาโหมได้มีมติให้จัดสร้างพระคทาจอมพลขึ้นเพื่อทูลเกล้า ฯ
ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเก็บเงินเพื่อสร้างพระคทานี้จากนายทหารชั้นนายพลประจำการทุกนาย
และในวันที่ ๒ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๐๙  นายกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมพร้อมด้วยนายทหารชั้นผู้ใหญ่
ได้ทูลเกล้า ฯ ถวายพระคทาจอมพลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ณ  พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต

เนื่องในวโรกาสที่พระองค์ทรงมีพระชนมายุเข้าปีที่  ๔๐  เพื่อเป็นเครื่องหมายของความจงรักภักดีของข้าราชการทหารทุกนาย
และเพื่อให้แปลกแตกต่างไปจากพระคทาจอมพลองค์ก่อน ๆ  จึงได้ขอพระบรมราชานุญาตขนานนามพระคทาองค์ใหม่เป็นพิเศษว่า
"พระคทาจอมทัพภูมิพล"


พระคทาจอมทัพภูมิพล
พระคทาจอมพลองค์ที่ ๔  (พระคทาจอมทัพภูมิพล)  มีลักษณะทั่วไปเหมือนพระคทาจอมพลองค์ที่ ๓  กล่าวคือ
องค์พระคทาทำด้วยทองคำหนัก ๔๓๐ กรัม  แกนกลางป่องเรียวไปทางยอดและปลาย  ประกอบด้วยเครื่องหมายมงคลแปด
ซึ่งถือกันว่าเป็นนิมิตหมายแห่งความเป็นมงคลในศาสนาพราหมณ์  ด้านยอดคงมีพระยาครุฑพ่าห์ลงยา
และลูกแก้วรองฐานบัวหงายลงยาราชาวดี ส่วนด้านปลายมีลูกแก้วและยอดบัวกลุ่มสี่ชั้นลงยาราชาวดี
เช่น  พระคทาองค์ที่ ๓  ส่วนที่ต่างออกไป คือ เหนือพระยาครุฑมีพระปรมาภิไธยย่อ "ภปร"
ฝังเพชรอยู่ในกรอบรูปไข่ และมีรูปพระมหาพิชัยมงกุฎทองฝังเพชรอยู่เบื้องบน
ตอนปลายต่อจากเครื่องหมายมงคลแปด มีเครื่องหมายกระทรวงกลาโหม

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงถือพระคทาจอมทัพภูมิพล

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ทรงมีพระราชดำรัสตอบในการเสด็จพระราชดำเนินออกทรงรับพระคทาจอมทัพภูมิพล  ดังนี้

"ข้าพเจ้าขอขอบใจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ
นายทหารผู้ใหญ่ทุกคน  ที่นำคทาจอมทัพมามอบให้ข้าพเจ้าครั้งนี้   
ข้าพเจ้ายินดีรับไว้ด้วยความเต็มใจ  และจะถือว่าคทาจอมทัพ
เป็นเสมือนเครื่องหมายแห่งความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของกองทัพทั้งสาม


อิสรภาพ ความมั่นคง  ตลอดจนความเจริญรุ่งเรืองของประเทศของเรา
ขึ้นอยู่กับกิจการทหารเป็นสำคัญ  ตลอดมาทุกยุคทุกสมัย เพราะเมืองไทย
ของเรานี้เป็นเมืองทหาร  คนไทยทุกคนมีเลือดทหาร  เป็นนักต่อสู้   
ผู้รักและหวงแหนความเป็นไทยยิ่งด้วยชีวิต  ข้าพเจ้าจึงมีความพอใจอย่างยิ่ง 
ที่ได้เห็นความกลมเกลียวเป็นปึกแผ่นของทหารทั้งสามเหล่าในวันนี้


ทหารมีหน้าที่ป้องกันรักษาประเทศหน้าที่นี้  นอกจากในด้านการรบแล้ว   
ยังมีด้านอื่นซึ่งสำคัญเท่าเทียมกันอยู่อีก คือ การสร้างความสัมพันธ์
อันดีกับประชาชน  ทหารต้องทำตัวเป็นมิตร  ต้องสงเคราะห์อนุเคราะห์ประชาชน
ด้วยการให้ความคุ้มครองป้องกัน  และช่วยเหลือในความเป็นอยู่   
ตลอดถึงการแนะนำสนับสนุนในการครองชีพด้วย  ถ้าทหารปฏิบัติ
หน้าที่ได้อย่างครบถ้วน  ก็จะเป็นที่อุ่นใจ  และเป็นที่เชื่อถือไว้วางใจ
ของประชาชนได้อย่างแท้จริง  ขอท่านทั้งหลายจงร่วมมือร่วมใจกัน
ทำหน้าที่ของทหารให้สมบูรณ์ทุกด้าน  มีความพรักพร้อมเป็นใจเดียวกัน 
ประกอบกรณียกิจเพื่อความมั่นคงความเจริญรุ่งเรืองของประเทศ   
และความร่มเย็นเป็นผาสุกของประชาราษฎรไทยทุกคน

ขอคุณพระศรีรัตนตรัย จงคุ้มครองท่านทั้งหลาย ให้แคล้วคลาด
จากภัยทุกประการ  บันดาลให้เกิดกำลังกาย  กำลังใจ และกำลังปัญญา 
สามารถปฏิบัติหน้าที่ราชการให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติยิ่งขึ้นสืบไป"


http://www.navy.mi.th/nrdo/ArmyDay/Sceptre.htm


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-05-2006, 18:05 โดย narong » บันทึกการเข้า

ผู้ที่ไม่สามารถจะใช้คนดี
ก็ย่อมจะใช้คนไม่ดีหรือคนเลว
ถ้าไม่เชื่อผู้ซื่อสัตย์หวังดีต่อตน
ก็จะต้องไปเชื่อคนประจบสอพลอ
เก็ดถวา
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 2,753



« ตอบ #1 เมื่อ: 03-05-2006, 20:53 »




ขอบพระคุณมากค่ะ


บันทึกการเข้า

Avada Kedavra!!!!!!!
ดอกเข็มขาว
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 534



« ตอบ #2 เมื่อ: 03-05-2006, 21:03 »

ได้ความรู้อีก 1 เรื่อง
ขอบคุณมากคะ
บันทึกการเข้า

GN-001 Exia
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 809


Celestial Being...


« ตอบ #3 เมื่อ: 03-05-2006, 21:24 »

ยอดเลยครับ เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คนไทยภาคภูมิใจ
บันทึกการเข้า


พวกที่เอาคำว่า "เสรีภาพ" มาบังหน้าเพื่อเบียดเบียนคนอื่นนี่มันเลวที่สุด
ลูกไทย หลานไทย
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,196


วันนี้วันดี วันที่เป็นไท


« ตอบ #4 เมื่อ: 04-05-2006, 17:05 »

อ่านกระทู้คุณ narong แล้วเกิดแรงบันดาลใจไปหามาเพิ่มเติมครับจาก http://www.navy.mi.th/nrdo/ArmyDay/Sceptre.htm

มีรูปวาดของพระคทาจอมพลสำหรับพระมหากษัตริย์ทั้ง 4 องค์นะครับ

  พระคทาจอมพลองค์แรก พระคทาจอมพลองค์ที่ 2
พระคทาจอมพลองค์ที่ 3 พระคทาจอมทัพภูมิพล
     

     
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-05-2006, 17:20 โดย ลูกไทย หลานไทย ไชโย » บันทึกการเข้า

Ŋēmŏ mē ĩmρưŋē ĺдċęşšįҐ
narong
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 654



เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 07-05-2006, 16:29 »

midi ringtone เพลงความฝันอันสูงสุด ใช้กับโทรศัพท์ที่เล่นเสียง POLYPHONIC ได้

* kwamfun_rt.mid (20.83 KB - ดาวน์โหลด 162 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-05-2006, 16:32 โดย narong » บันทึกการเข้า

ผู้ที่ไม่สามารถจะใช้คนดี
ก็ย่อมจะใช้คนไม่ดีหรือคนเลว
ถ้าไม่เชื่อผู้ซื่อสัตย์หวังดีต่อตน
ก็จะต้องไปเชื่อคนประจบสอพลอ
narong
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 654



เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 09-05-2006, 12:23 »

บันทึกการเข้า

ผู้ที่ไม่สามารถจะใช้คนดี
ก็ย่อมจะใช้คนไม่ดีหรือคนเลว
ถ้าไม่เชื่อผู้ซื่อสัตย์หวังดีต่อตน
ก็จะต้องไปเชื่อคนประจบสอพลอ
หน้า: [1]
    กระโดดไป: