ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
19-04-2024, 23:48
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  จะมีนายกอีกสั๊กหมื่นคน ใจก็ไม่พอขอไล่อยู่นั่นล่ะ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
จะมีนายกอีกสั๊กหมื่นคน ใจก็ไม่พอขอไล่อยู่นั่นล่ะ  (อ่าน 1350 ครั้ง)
รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« เมื่อ: 15-05-2007, 14:06 »

---  อำนาจเก่า  อำนาจใหม่  ก็ไม่ถูกใจสักที  ใจไม่พอเพียง ก็เดินเอียงอยู่นั่นล่ะ

...คนเก่าถูกไล่  เพราะโกงจริง  ดิ้นยังไงๆๆๆก็โกงจริง  แต่อำนาจใหม่ ไม่เห็นร่องรอยการโกง
และไม่ได้โกง  ก็ถูกไล่  แล้วจะเอายังไง  ช่วยบอกที


-----------------------------------------------------------------------------------------------------


“ประสงค์” ชี้ประชาชนผิดหวังรัฐบาล แนะ “สุรยุทธ์” ปรับปรุงการทำงานใหม่ เชื่อกลุ่มอำนาจเก่ายิ่งเคลื่อนไหวป่วนมากขึ้นหลัง
 คตส.เริ่มทยอยสรุปคดีโกง ขณะเดียวกัน ยืนยันร่าง รธน.ฉบับใหม่ทำให้อำนาจประชาชนเข้มแข็ง ลดอำนาจฝ่ายการเมือง
 อัดนักวิชาการ-นักการเมืองมองแค่ทฤษฎีเลือกตั้งว่าเป็นประชาธิปไตยเพียงอย่างเดียว



http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9500000055535
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-05-2007, 14:12 โดย รวงข้าวล้อลม » บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 15-05-2007, 14:08 »

วันนี้ (15 พ.ค.) น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ แสดงความเห็นต่อกระแสกดดันให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ลาออกว่า ไม่ขอวิจารณ์เรื่องดังกล่าวเพราะขึ้นอยู่กับว่านายกรัฐมนตรีจะประสานงานกันอย่างไร
       
       เมื่อถามต่อว่า การที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) มีความชัดเจนในการตรวจสอบมากขึ้นจะช่วยทำให้สถานการณ์ดีขึ้นหรือไม่นั้น น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า ช่วงนี้คนที่จะได้รับผลจากการกระทำของตัวเองในความไม่ถูกต้องจะพยายามดิ้นรนทุกอย่างเพื่อจะต่อสู้หรือขัดขวาง ทำให้เกิดความวุ่นวายปั่นป่วน ดังนั้น เรื่องสร้างความสงบคงไม่มีจากบุคคลพวกนี้
       
       เมื่อถามว่า แม้ คตส.มีความชัดเจนในการดำเนินคดี แต่การเคลื่อนไหวคงจะไม่หยุดใช่หรือไม่ น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า เขาคงไม่หยุด เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับฝ่ายบริหารที่จะทำให้เป็นไปตามกฎหมายได้มากน้อยแค่ไหน ส่วนกรณีที่รัฐบาลจะชี้แจงการบริหารราชการต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จะช่วยคลี่คลายได้แค่ไหน อย่างไร น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า ช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา หากสภานิติบัญญัติฯ ช่วยแนะนำรัฐบาลว่า ควรมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง จะเป็นเรื่องที่ดี
       
       “เราก็รู้อยู่ว่าประชาชนมีความรู้สึกผิดหวัง เพราะหลายสิ่งหลายอย่างยังไม่เป็นไปในแนวทางที่ดีขึ้น ดังนั้น ผมคิดว่าหากมีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจะเกิดประโยชน์ร่วมกัน เพราะต้องทำงานด้วยกัน” น.ต.ประสงค์ กล่าว
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่า ช่วงเวลาที่เหลืออยู่มีความเป็นห่วงรัฐบาลหรือไม่ เพราะความเชื่อมั่นของนายกรัฐมนตรีมีน้อยลง น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า หากจัดการบริหาร ปรับปรุงสิ่งต่างๆ เสียใหม่จะเป็นสิ่งที่ดีกว่าการเดินไปอยู่เรื่อยๆ อย่างนี้แล้วไม่มีผลงานอะไรให้ประชาชนพอใจ เมื่อถามต่อว่าการปรับหมายถึงการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีใช่หรือไม่ น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า ไม่มีความเห็น
       
       น.ต.ประสงค์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษา และส่งเสริมการสร้างคุณธรรม และจริยธรรมแก่นักการเมือง ข้าราชการ และประชาชน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ กล่าวในโอกาสเป็นประธานเปิดการเสวนาเรื่อง “สื่อสร้างสรรค์ ร่วมสร้างสังคมไทย” จัดโดยคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษา และส่งเสริมการสร้างคุณธรรมฯ ตอนหนึ่งว่า เมื่อมองไปในอนาคตข้างหน้า การปฏิรูปการเมืองควรจะเกิดขึ้น โดยสิ่งที่เลวร้ายหรือพฤติกรรมที่ไม่เป็นธรรมจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขและป้องกัน
       
       “ในฐานะที่เป็นประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ผมขอเรียนว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้มีทั้งหมด 299 มาตรา มีเพียงไม่กี่มาตราที่เป็นปัญหาถกเถียงกัน โดยหากพิจารณาอย่างเป็นธรรม จะเห็นว่าข้อวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ รวมทั้งคำติฉินต่างๆ เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นเฉพาะกลุ่ม เฉพาะพวก โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากฝ่ายการเมือง และฝ่ายนักวิชาการบางกลุ่มบางพวกที่ยึดหลักและทฤษฎี โดยไม่ได้มองถึงประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นในบ้านเมือง และไม่ได้มองว่าร่างรัฐธรรมนูญส่วนใหญ่ร่างขึ้นเพื่อให้ภาคประชาชนมีความเข้มแข็ง ได้รับความคุ้มครองมากขึ้น” น.ต.ประสงค์ กล่าว
       
       น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า ในฐานะผู้ที่เคยร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 ขอเรียนว่า หากนำบทบัญญัติในร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไปใช้จะทำให้ภาคประชาชนมีความเข้มแข็งมากขึ้น อำนาจของประชาชนจะเข้มแข็งขึ้น ขณะที่ฝ่ายการเมืองจะถูกลดอำนาจ ไม่ให้ใช้อำนาจเหมือนที่ผ่านมา จะเห็นว่าประเด็นที่ถูกถกเถียงเป็นประเด็นที่กลุ่มการเมือง และนักวิชาการบางคนมุ่งมองเฉพาะทฤษฎีเรื่องการเลือกตั้ง โดยคิดอยู่เพียงอย่างเดียวว่าการเลือกตั้งคือประชาธิปไตย ไม่ได้คิดอย่างอื่นเลย
       
       น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า การเลือกตั้งเป็นเรื่องของระบอบประชาธิปไตยนั้นถูกต้อง แต่การเลือกตั้งต้องมีองค์ประกอบว่าต้องเป็นไปโดยบริสุทธิ์ ยุติธรรม มีคุณธรรมและจริยธรรม ไม่ใช่การเลือกตั้งที่ใช้เงินและอิทธิพล เพื่อให้ได้เข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง ดั้งนั้น คนที่เรียกร้องทั้งการเลือกตั้ง ส.ส. จำนวน ส.ส.และ ส.ว.ต้องมาจากการเลือกตั้งเท่านั้น จึงมักอ้างว่าจะทำให้เป็นประชาธิปไตย
       
       “ในฐานะที่เคยเป็น ส.ส.และ ส.ว.ที่ได้รับการแต่งตั้ง และได้ยืนมองดูการเลือกตั้ง ส.ว.ที่ผ่านมา ผมขอเรียนจากใจจริงว่าหากการเลือกตั้ง ส.ว.ในช่วงที่ยังไม่มีการปฏิรูปจิตใจนักการเมือง และสร้างคุณธรรม จริยธรรมให้เกิดขึ้นกับนักการเมือง เชื่อว่าการเลือกตั้ง ส.ว.คงไม่แตกต่างอะไรกับที่ผ่านมา เมื่อ ส.ส.สังกัดพรรค แต่ ส.ว.ไม่สังกัดพรรค ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้ว” น.ต.ประสงค์ กล่าว
       
       น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า ที่จำเป็นต้องพูดอย่างนี้เพราะมองพฤติกรรมที่ผ่านมาแล้วเห็นว่ามีการขายตัวของผู้ที่เป็น ส.ว.อิสระ จึงต้องร่วมกับกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญเปลี่ยนแปลงรูปแบบใหม่ เพราะหากยังมีพฤติกรรมแบบนี้จะต้องเสียงบประมาณแผ่นดินโดยไม่ได้เกิดประโยชน์แก่บ้านเมืองจากการทำหน้าที่ของ ส.ว. และที่กล้าพูดเช่นนี้โดยไม่หวั่นเกรงอะไร เพราะต้องการชำระสะสางให้ดีขึ้นแล้วค่อยไปว่ากันใหม่เพื่อประโยชน์ต่อส่วนร่วม
บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 15-05-2007, 14:27 »


ประกอบกับเรื่องยุบพรรค  ไม่ยุบพรรคมาเกี่ยวเนื่องด้วย  มีอีกหลายที่ตกเป็นเหยื่อ
เป็นเครื่องมือของคนพวกนี้  ยุบพรรคไม่ยุบพรรค  มันเกี่ยวอะไรกันด้วยกับท่านนายกสุรยุทธิ์
ประเทศไทย  จะปกครองด้วยอะไร  ไม่สำคัญ  ความเป็นไทย  ความมีวัฒนธรรมไทย
เคารพระบบผู้อาวุโส  ต้องยังคงอยู่  เพราะนี่ล่ะคือเอกลักษณ์ของความเป็นไทย
การไล่อดีตท่านนายกทักษิณ  จริงอยู่เป็นวิธีการที่ไม่สุภาพมากนัก  แต่ด้วยผลประโยชน์
ของบ้านเมือง  มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องให้ท่านลงจากตำแหน่งและเลิกเล่นการเมือง
มันเป็นเรื่องของอิทัปปัจจยตา  ว่าด้วยเรื่องของเหตุและผล  เพราะโกงโดยสุจริต แม้บ้านเมือง
จะเจริญรุ่งเรื่องก็จริง  แต่ระยะยาวบ้านเมืองพังได้ง่าย  เพราะการตัดสินใจแบบวูบวาบ
ขายชาติของอดีตนายก  แต่ท่านนายกคนนี้  พอเพิ่งเข้ามาแก้วิกฤต  อาจจะช้า  อาจจะเห็น
ผลช้าไม่ได้ดังใจ  แล้วจะเอาท่านลงได้ยังไงในเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นคนแต่งตั้งท่าน
แล้วท่านก็ไม่ได้ทำลายบ้านเมือง  ขายชาติตรงไหน  แค่ไม่ได้ดั่งใจ

  ตกลงจะเอาไง  คำว่าใจพอเพียง  ไม่ทราบเข้าใจกันหรือไม่  ไม่ต้องใช้หลักการอะไรให้มันมากมาย
หรอก  แค่เป็นคนที่มีใจพอประมาณ  ยึดทางสายกลาง  เข้ามาวิเคราะห์ตัดสิน  ชี้นำสถาณการณ์
ปัจจุบันได้อย่างพอเหมาะพอควร  ไม่หลงเดินคอเอียง  ไปเคียงข้างด้านใด  ก็คงพอแล้วมั้ง
   
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------




ใกล้ 'ดีเดย์ 30 พฤษภาคม' วันตุลาการรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยชี้ขาด 'ยุบ-ไม่ยุบ' พรรคการเมือง 5 พรรค เข้าไปทุกที ยิ่งทำให้ลุ้นระทึกกันเข้าไปใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีสองพรรคการเมืองใหญ่ อย่าง ประชาธิปัตย์ และไทยรักไทย รวมอยู่ด้วย


โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีสองพรรคการเมืองใหญ่ อย่าง ประชาธิปัตย์ และไทยรักไทย รวมอยู่ด้วย

ยิ่งเหตุระเบิดตู้โทรศัพท์สาธารณะ บ้านเลขที่ 239 ถนนราชวิถี ซอยราชวิถี 24 ตรงข้ามพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน แขวงสวนจิตรลดา เขตดุสิต กรุงเทพฯ ใกล้ที่ทำการเก่าของพรรคไทยรักไทย เมื่อไม่นานมานี้ ถูกนำมาผูกโยง กรณีที่ตุลาการรัฐธรรมนูญจะมีการตัดสินยุบพรรคไทยรักไทย และประชาธิปัตย์ เป็นหนึ่งในสาเหตุด้วย ยิ่งทำให้สถานการณ์ร้อนขึ้นมาทันควัน

ทั้งนี้ สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานข่าวจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย อ้างคำให้สัมภาษณ์ของ สวนิต คงสิริ รมช.ต่างประเทศ ซึ่งไปร่วมประชุมว่าด้วยอาหารฮาลาล ที่เชื่อว่าผู้ก่อเหตุมีเป้าหมายที่จะเพิ่มความตึงเครียดทางการเมือง

โดยเห็นว่า ระเบิดที่เพิ่งเกิดขึ้น อาจมีเป้าหมายที่จะสร้างความวุ่นวาย ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งทั่วไปที่กำหนดจะมีขึ้นในวันที่ 16 หรือ 23 ธันวาคมนี้ และอาจต้องการสร้างแรงกดดันต่อศาลรัฐธรรมนูญที่กำหนดจะประกาศคำตัดสินคดียุบพรรคไทยรักไทย และประชาธิปัตย์ ในปลายเดือนนี้

"เรากำลังมุ่งหน้าไปสู่การเลือกตั้ง และกำลังจะมีการประกาศผลการพิจารณาคดีที่เกี่ยวเนื่องกับการยุบพรรคการเมืองใหญ่ถึงสองพรรค ดังนั้น จึงมีความเชื่อที่ว่า คนบางกลุ่มอาจสร้างความตึงเครียด และความวุ่นวายขึ้น เพื่อคว่ำกระบวนการตัดสินใจของศาล เพื่อให้การตัดสินใจถูกเลื่อนออกไป ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับพวกเขาเอง"

กลับมาที่คดียุบพรรค จำเพาะ 'ไทยรักไทย' ดูเหมือนน่าสนใจกว่าใครเพื่อน ไม่ว่าจะถูก 'ยุบ' หรือไม่ก็ตาม

แต่ก่อนอื่น ที่น่าย้อนให้เห็นก็คือ พรรคไทยรักไทย เป็น 1 ใน 5 พรรค ที่ถูกนายทะเบียนพรรคการเมือง หรือประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นเรื่องต่ออัยการสูงสุด เพื่อร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยยุบพรรค เนื่องจากว่าจ้างพรรคการเมืองเล็ก ให้ส่งคนลงสมัครแข่งขันเลือกตั้งทั่วไปสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2549 เพื่อหลีกเลี่ยงเกณฑ์คะแนนเสียงไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ สำหรับเขตเลือกตั้งที่มีผู้สมัครรับเลือกตั้งเพียงคนเดียว

อันเป็นการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.พรรคการเมือง พ.ศ.2541 มาตรา 66 (1) ได้แก่ กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ โดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ และ (3) ได้แก่ กระทำการอันอาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ หรือขัดต่อกฎหมาย หรือความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน

อย่างไรก็ตาม เหตุเกิดก่อนที่จะมีการรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ดังนั้น แม้หลังยึดอำนาจ คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) จะมีคำสั่งยุบศาลรัฐธรรมนูญ แต่ก็ยังคงสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเอาไว้ นั่นหมายรวมถึงคดีความที่อยู่ในศาลด้วย

กระทั่งรัฐธรรมนูญปกครองชั่วคราว 2549 มาตรา 35 ได้บัญญัติให้ ตุลาการรัฐธรรมนูญ เข้ามาทำหน้าที่แทน ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ ประกอบด้วย ประธานศาลฎีกา เป็นประธาน ประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นรองประธาน และมีผู้พิพากษาในศาลฎีกา 5 คน และผู้พิพากษาในศาลปกครองสูงสุด 2 คน ทั้งหมดรวม 9 คน

และในประกาศ คปค. ฉบับที่ 27 ลงวันที่ 30 กันยายน 2549 ยังคงให้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2541 มีผลบังคับใช้ต่อไป และยังระบุด้วยว่า องค์กรอื่นที่ทำหน้าที่แทนศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งก็คือตุลาการรัฐธรรมนูญ ถ้ามีคำสั่งยุบพรรคการเมืองใด ให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้น มีกำหนด 5 ปี นับตั้งแต่วันที่มีคำสั่งให้ยุบพรรค ส่วนประเด็นที่น่าสนใจ และน่าวิเคราะห์ ไม่ว่าพรรคไทยรักไทย จะถูกยุบหรือไม่ก็ตามใกล้ 'ดีเดย์ 30 พฤษภาคม' วันตุลาการรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยชี้ขาด 'ยุบ-ไม่ยุบ' พรรคการเมือง 5พรรค เข้าไปทุกที ยิ่งทำให้ลุ้นระทึกกันเข้าไปใหญ่

 สมมติว่า พรรคไทยรักไทยไม่ถูกยุบ กรรมการบริหารพรรค และกลุ่มการเมือง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกรรมการบริหารพรรค ที่แตกตัวออกมาจากพรรคไทยรักไทย ก็จะไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใดในการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น การยึดแนวทางต่อสู้ตามหลักประชาธิปไตย ของไทยรักไทย ยุค 'เดอะ อ๋อย' จาตุรนต์ ฉายแสง ความพยายามตั้งพรรคการเมืองใหม่ และความพยายามดึง สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกฯ, อดีต รมว.คลัง และอดีต รมว.พาณิชย์ มาเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ ของกลุ่มมัชฌิมา ฯลฯ

อาจรวมถึงโอกาสที่จะประสบความสำเร็จ ทั้งการได้ 'สมคิด' มาเป็นหัวหน้าพรรค และโอกาสที่จะได้รับเลือกตั้งเข้ามามากที่สุด จนได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลก็ได้

สมมติว่า พรรคไทยรักไทย ถูกยุบ และกรรมการบริหารพรรคทั้งหมดนับร้อยคน ถูกเว้นวรรคทางการเมือง 5 ปี แน่นอน, จะเท่ากับเป็นการยุติบทบาทนักการเมืองรุ่นเก่า เก๋าเกมกว่าครึ่งสภาฯไปชั่วคราว อย่าลืมว่า พรรคไทยรักไทย เป็นที่รวมของนักการเมือง ไม่แต่ภายในพรรคเท่านั้น หากแต่ยังมาจาก 3 พรรคการเมืองใหญ่ที่ยุบพรรคมารวมกัน นั่นคือ เสรีธรรม, ความหวังใหม่ และชาติพัฒนา

นี่ยังไม่นับรวม พรรคประชาธิปัตย์ จะถูกยุบหรือไม่?

ทำให้โฉมหน้าทางการเมือง นอกจากจะไม่มีอะไรให้น่าตื่นเต้น และเป็นทางเลือกแล้ว ยังอาจทำให้เห็นนักการเมืองเก่าเก็บ ถูกผลักดันออกมาแสดงบทบาท และยากที่ระบบการเมืองจะทันได้สร้างนักการเมืองรุ่นใหม่ เลือดใหม่ ขึ้นมาทดแทน นี่คือปัญหา

แต่ในทางกลับกัน ก็ไม่แน่วิกฤติครั้งนี้ อาจเป็นโอกาสให้นักการเมืองหน้าใหม่ เลือดใหม่ ได้แจ้งเกิด และเป็นทางเลือกของสังคมก็เป็นได้ ถ้าประเทศไทยโชคดี!?

และสมมติว่า พรรคไทยรักไทยถูกยุบ แต่กรรมการบริหารพรรคไม่โดนลงโทษทั้งหมด มีข้อยกเว้นโทษตามความผิดของคนที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องเท่านั้น กรณีนี้จะทำให้แกนนำพรรคไทยรักไทยหลายคน มีลุ้นกลับสู่บทบาททางการเมืองอีกครั้ง

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มการเมืองที่ 'ตีปีก' มากที่สุด น่าจะเป็น 'กลุ่มมัชฌิมา' นั่นเอง เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า 'สมคิด' ไม่ยอมเปิดตัวนั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรค ภายใต้แรงหนุนของกลุ่มมัชฌิมา ก็เพราะยังติดเงื่อนไข 'ยุบพรรค' อยู่เท่านั้นเอง

แล้วถ้า 'สมคิด' นั่งหัวหน้าพรรคให้กลุ่มมัชฌิมา และสมมติว่า อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่โดนโทษยุบพรรค หรือพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ถูกวินิจฉัยยุบพรรค นี่คือจุด 'โฟกัส' ในฐานะแคนดิเดต 'นายกรัฐมนตรี' ที่จะเบียดแย่งตำแหน่งกัน...

เหนืออื่นใด เงื่อนไข 'ยุบ-ไม่ยุบ' พรรคไทยรักไทย นี่เอง จะเป็น 'เงื่อนไข' ในการเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าทางการเมืองในอนาคต ไม่มากก็น้อย



*แม่ไม้การเมือง / เนชั่นสุดฯ(ฉ.780)
บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #3 เมื่อ: 15-05-2007, 14:41 »

มีเสียงบ่นว่า รัฐบาลเกียรว่าง ไม่จัดการอะไรกับทักษิณ ทั้งๆที่รัฐบาล ไม่ได้มีหน้าที่จัดการกับทักษิณ คตส.ที่มีหน้าที่ ก็ทำไปสิ ผลงานก็ออกมาบ้างแล้วนี่

มีเสียงบ่นว่า รัฐบาลแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ แต่ต้องขยายความว่า แก้ไม่ได้ตามใจของคนที่บ่นโวยวาย เพราะเขาแก้ตามวิธีของเขา ซึ่งมุ่งแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ไม่ใช่เอาเงินไปหว่านเล่น หรือขายสมบัติของชาติ

มีเสียงบ่นว่า รัฐบาลแก้ปัญหาทางภาคใต้ไม่ได้  แต่อย่าไปถามคนบ่น ว่าจะแก้อย่างไร เพราะเท่าที่เห็นความเห็นซึ่งออกมา ก็จะใช้วิธีรุนแรงกันทั้งนั้น ส่วนทางรัฐบาลนั้น เขาแก้ปัญหาคนละแนวทางกับคนใจร้อน เพราะเขาต้องการรักษาแผ่นดินไว้ ไม่ได้ทำเอาสนุกหรือสะใจ

ปัญหาสามอันที่ว่ามาข้างบน จะให้นายกกี่คนมา ถ้าทำตามแบบที่ถูกต้อง ก็ต้องทำแบบนั้นแหละ แต่ถ้าจะเอาใจประชาชนล่ะก็

ปัญหาเรื่องทักษิณ ก็ประกาศยึดทรัพย์มันไปเลย จับลูกจับเมียมากักกันไว้ กวาดล้างซากเดนไทยรักไทยให้หมด ขัดขืนก็ยิงทิ้งไป ทำอย่างนี้มีคนเฮกันเยอะ แล้วก็เตรียมเจ๊งได้ เราโดนบอยยคอตต์จากนานาชาติแน่นอน แล้วไอ้พวกที่เฮ มันก็บ่นอีกนั่นแหละ ว่ารัฐบาลแก้ปัญหาไม่ได้

ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ แก้เอาใจประชาชน ง่ายจะตายไป ก็แค่กู้เงินมาอัดฉีดระบบเศรษฐกิจ ขายสมบัติชาติเอาเงินมาหมุนเวียน มอไซด์ มือถือ ก็จะขายดี เงินก็จะหมุนเวียน หนี้ประชาชนก็จะมากขึ้น สุดท้ายเงินที่อัดฉีดไป ไหลเข้ากระเป๋าไอ้นายทุนชั่ว ที่มันร้องว่าเศรษบกิจไม่ดีนั่นแหละ พอมันรวยกันจนสะดือปลิ้น มันก็นั่งหัวเราะไอ้รากหญ้ารากแก้วโง่งั่ง และรัฐบาลงี่เง่า และก็จะร้องเปลี่ยนนายกใหม่ หาควายที่จะเข้ามาก่อหนี้ให้เศรษฐกิจมันหมุนวน แล้วเงินจะได้ย้อนไปเข้ากระเป๋ามันอีก

ปัญหาทางภาคใต้  ภาคใต้มีประชากรมุสลิมแค่ 2 ล้านคนเอง อย่างนี้ฮิตเลอร์ร้องว่า หวานหมู ก็แค่ส่งกองกำลังลงไปจัดการ ประกาศเคอร์ฟิวส์หลังพระอาทิตย์ตกดิน ออกมายิงให้ดิ้นไป ให้ไฟเขียวกองกำลัง ปล้น ฆ่า ข่มขืน ได้อิสระเสรี แต่ต้องเฉพาะมุสลิม 2 ล้านคนจะกระไรนักหนา ยิงไปยิงมาไม่ถึงหกเดือนก็ตายหมด ทีนี้ก็หมดปัญหา ย้ายเขมร พม่า ลาว ที่หลบหนีเข้าเมืองลงไปอยู่แทน แล้วนานาชาติเขาก็ยกกองทัพเข้ามาช่วยมุสิลมทางใต้ เฉือนแผ่นดินไป ค่อยร้องโวยวายว่า นายกไม่ดีขอเปลี่ยนใหม่ก็ได้

พูดจริงๆนะ ไอ้พวกที่ร้องแรกแหกกระเฌออยู่เนี่ย ส่งไปแก้ปัญหาที่ไหน มันทำบรรลัยหมดแหละค่าาาาา 
บันทึกการเข้า
รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 15-05-2007, 15:18 »

พูดจริงๆนะ ไอ้พวกที่ร้องแรกแหกกระเฌออยู่เนี่ย ส่งไปแก้ปัญหาที่ไหน มันทำบรรลัยหมดแหละค่าาาาา 



-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    บรรลัยอย่างเดียวยังไม่พอสิคะ  แตกร้าว  ร้าวฉาน  แตกแยกตามมาอีกต่างหากนะสิ

ใครทัน  ใครตามข่าวค่อยยังชั่ว  คนที่ตกโลกนี่ล่ะน่าเป็นห่วง  ที่เป็นเหยื่อของเกม
บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
Nai_puan
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 231


« ตอบ #5 เมื่อ: 15-05-2007, 15:44 »

รัฐบาลสุรยุทธ เลิกใช้เกียร์ว่างแล้วครับ

ตั้งแต่โดนขู่ว่าจะปลดออก  เลยรีบใส่เกียร์ 5  อนุมัติรวดเร็วทันใจ


สนธิฯ เพิ่งจะเอ่ยปากของบพิเศษ  2,000 ล้านบาท ในลักษณะงบราชการลับ เมื่อวานนี้เอง

วันนี้ ครม.รีบอนุมัติออกมาก่อนแล้ว  1,000 ล้านบาท


http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=258721&lang=T

14:41 น.
คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบประมาณให้ กอ.รมน.ในการแก้ปัญหาภาคใต้ เป็นวงเงินเพิ่มอีก 1,000 ล้านบาท
บันทึกการเข้า
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 15-05-2007, 16:06 »

รัฐบาลสุรยุทธ เลิกใช้เกียร์ว่างแล้วครับ

ตั้งแต่โดนขู่ว่าจะปลดออก  เลยรีบใส่เกียร์ 5  อนุมัติรวดเร็วทันใจ


สนธิฯ เพิ่งจะเอ่ยปากของบพิเศษ  2,000 ล้านบาท ในลักษณะงบราชการลับ เมื่อวานนี้เอง

วันนี้ ครม.รีบอนุมัติออกมาก่อนแล้ว  1,000 ล้านบาท


http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=258721&lang=T

14:41 น.
คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบประมาณให้ กอ.รมน.ในการแก้ปัญหาภาคใต้ เป็นวงเงินเพิ่มอีก 1,000 ล้านบาท


  ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอครับ เห็นว่าทางนั้น ขาดงบประมาณอยู่ตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอ
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
Nai_puan
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 231


« ตอบ #7 เมื่อ: 15-05-2007, 16:24 »

อ้างถึง
ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอครับ เห็นว่าทางนั้น ขาดงบประมาณอยู่ตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอ

งบประมาณเดิมมีตั้งไว้อยู่แล้วครับ ไม่ได้ขาด  เพียงแต่การเบิกจ่ายล่าช้ามากตามระบบราชการ  ที่ไม่มีใครใส่ใจ เข้าไปเร่งรัด

ที่เพิ่งขอและอนุมัติกันใหม่นี่  เป็นงบเพิ่มเติมพิเศษ 2,000 ล้านบาท ที่ขอไปใช้ในลักษณะราชการลับ

คือจะไม่มีการเปิดเผยว่านำไปใช้ส่วนไหนอย่างไรบ้าง  และไม่สามารถตรวจสอบได้
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #8 เมื่อ: 15-05-2007, 16:48 »

ต้องถามคนที่ไล่ว่า ผิดหวังอะไรในเรื่องที่ขอแล้วไม่ได้มากกว่าครับ


คนก่อนถูกไล่เพราะขอเรื่องทีวีแล้วไม่ได้
คนปัจจุบันถูกขอให้คืน TPI.....แล้วไม่ได้


เห็นภาพชัดเจนไหมครับว่าแป๊ะลิ้มเค้าหลอกคนไทยบางคนได้อย่างง่ายดาย!!


บันทึกการเข้า
รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 15-05-2007, 19:07 »

ต้องถามคนที่ไล่ว่า ผิดหวังอะไรในเรื่องที่ขอแล้วไม่ได้มากกว่าครับ


คนก่อนถูกไล่เพราะขอเรื่องทีวีแล้วไม่ได้
คนปัจจุบันถูกขอให้คืน TPI.....แล้วไม่ได้


เห็นภาพชัดเจนไหมครับว่าแป๊ะลิ้มเค้าหลอกคนไทยบางคนได้อย่างง่ายดาย!!




เห็นภาพไม่ชัดเจนค่ะ  บอกตรงๆเพราะ  คุณสนธิ ลิ้มคือส่วนหนึ่งของ
การขับไล่เท่านั้นเอง  ยังมีอีกหลายคนหลายกลุ่ม  และมีคดีที่จะต้องพิสูจน์ความจริง
มากมาย

 ถ้าอดีตนายก ออกมาพิสูจน์ความจริงให้ชัดเจน  เน้นพิสูจน์ความจริงมกกว่า
ทำอย่างอื่นยังได้ใจ  คนไทยมากกว่านี้มากกมาย
บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #10 เมื่อ: 15-05-2007, 21:44 »

ต้องถามคนที่ไล่ว่า ผิดหวังอะไรในเรื่องที่ขอแล้วไม่ได้มากกว่าครับ


คนก่อนถูกไล่เพราะขอเรื่องทีวีแล้วไม่ได้
คนปัจจุบันถูกขอให้คืน TPI.....แล้วไม่ได้


เห็นภาพชัดเจนไหมครับว่าแป๊ะลิ้มเค้าหลอกคนไทยบางคนได้อย่างง่ายดาย!!

นายจ๊ะ เลิกเล่นมุขแป๊ะลิ้มได้แล้ว จืดแล้ว 
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: 16-05-2007, 02:27 »

กระทู้นี้ผมมองแบบจานจ๊ะ...การเมืองคือเรื่องผลประโยชน์
บันทึกการเข้า

ScaRECroW
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,000


สุสูสัง ลภเต ปัญญัง - ผู้ฟังดี ย่อมเกิดปัญญา


เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: 16-05-2007, 06:22 »

ไอ้ชาติเหี้-ยมเหลี่ยมมันสั่งยุบ ศอบต.ไป ประหยัดงบค่าใช้จ่ายได้ประมาณ 80 ล้าน หลังจากเกิดปัญหา มันก็ถมงบเข้าไปอีกนับพันล้าน ก็แก้ปัญหาไม่ได้ ถึงตอนนี้ ใส่เข้าไปอีกเท่าไรก็ไม่รู้ว่าจะพอไหม

ความคิดชั่ว ๆ ของคนชั่ว ๆ เพียงคนเดียว ทำให้ประเทศบอบช้ำได้ร้ายแรงจริง ๆ
บันทึกการเข้า

Politic is nothing but the continuation of [the sin of] 7 by other means.

ท่านคิดว่า นรม. ควรทำอย่างไรเมื่อพบว่ากฏหมายบางฉบับมีช่องโหว่?
ก.ใช้อำนาจ นรม.ที่ได้รับมาจากประชาชนแก้กฏหมายเพื่อปิดช่องโหว่เหล่านั้น เพราะเป็นประโยชน์ของแผ่นดิน
ข.ฉวยโอกาสใช้ช่องโหว่เหล่านั้นเพื่อประโยชน์ของตนเองและคนรอบข้าง แล้วก็อ้างว่าคนอื่นเขาก็ทำกัน
หน้า: [1]
    กระโดดไป: