พลเอกพัลลภ เป็นนายทหารที่ชำนาญในการออกรบ มีผลงานมาแล้วมากมาย แต่ท่านไม่ใช่นักสร้างภาพค่ะ
ทหารหน่วยรบนั้น ประชาสัมพันธ์สร้างภาพไม่ค่อยเป็น จึงมักจะเห็นว่าพวกนี้พูดจาแล้วเป็นผลร้ายกับตัวเอง อย่างว่าแหละ นักมวยชกเก่งไม่ขี้คุย ไอ้ที่ขี้คุยชกไม่เก่ง
กรณีกรือเซะ เป็นการปฎิบัติการที่เฉียบขาด เหมือนเรื่องกระเหรียงบุกยึดโรงพยาบาล นักโทษพม่าแหกคุก และอีกหลายกรณีที่เราต้องการยุติปัญหาโดยฉับพลัน ทหารหรือหน่วยติดอาวุธ ฝึกมาให้ใช้อาวุธ มิได้ฝึกมาให้ใช้ปาก ดังนั้น กรณีกรือเซะจะว่าไปแล้ว ยังไม่เฉียบขาดมากนัก เพราะต้องรักษาภาพอย่างอื่นด้วย หากเป็นการรบธรรมดา สงสัยมัสยิดราบไปหมดแล้ว
แต่เรื่องกรือเซะ พลเอกพัลลภเปลืองตัว ถูกตำหนิต่อว่า เพราะได้นายที่ไม่ดี นายสั่งให้จัดการโดยเฉียบขาด แต่เมื่อเรื่องมันเฉียบขาดแล้วมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ นายมันก็เอาตัวรอด โยนเผือกร้อนกลับไปให้ลูกน้อง ทหารเขารู้ดีว่า การทำตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา ไม่ผิด ไม่ว่ากรณีใดๆ เพราะผู้บังคับบัญชาจะรับหน้าไว้ทั้งหมด ผิดก็ผิดที่คนสั่งการ
ดูกรณีนักโทษพม่าแหกคุก คำสั่งให้จัดการโดยเฉียบขาด ปล่อยไปไม่ได้ การปฎิบัติการครั้งนั้น ผู้บัญชาการเรือนจำตายไปด้วย ไม่มีใครถูกตำหนิ ไม่มีชื่อผู้ปฎิบัติการหรือควบคุมออกมาให้คนด่า คนสั่งการสูงสุดคือนายกรัฐมนตรี ต้องออกมารับผิดชอบ
พลเอกพัลลภ ได้นายที่เลว จึงต้องรับปาบเรื่องกรือเซะค่ะ