ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
25-04-2024, 21:03
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  เมืองไทยถึงยุคกลียุคหรือยัง 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
เมืองไทยถึงยุคกลียุคหรือยัง  (อ่าน 4533 ครั้ง)
tarnold
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8


« เมื่อ: 11-05-2007, 10:47 »

หวัดดีครับ พี่น้องในเว็บบอร์ดแห่งนี้ ผมเป็นสมาชิกคนหนึ่งถึงแม้ว่าจะไม่ได้ติดตามผลงานในเว็บบอร์ดอะไรมากมายนัก แค่ก็เฝ้ามองดูอยู่ จากจุดที่ตั้งแต่หลายๆคนโดนอัปเปหิ ออกมาจาเว็บพันธ์ทิพย์ และมาตั้งกลุ่มสู้ในนี้ จริงๆแล้วผมเป็นคนหนึ่งที่ก็โดนไล่ออกมาเหมือนกัน

ณ ทุกวันนี้ตอนนี้ประเทศไทย เหมือนจะคล้ายเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนไม่ใช่ที่ภาคใต้อย่างเดียวแล้ว แต่เป็นที่กรุงเทพมหานครด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องระเบิดที่ยังจับมือใครดมไม่ได้ ซึ่งทั่วโลกมันจะคล้ายๆกันคือ ไม่สามารถที่จะหามือใครดมไม่ได้  และที่สำคัญเลย ปากท้องของทุกๆคนในประเทศไทย  เมื่อวานเพื่อนผมที่ทำงานอยู่ใน กรมศุลกากรระดับหัวหน้าแล้ว เรานั่งเจอและคุยกัน เลยทำให้ทราบว่า การเก็บภาษีเข้ารัฐนั้นต่ำกว่าที่เป็นจริง ที่ออกทางหนังสือพิมพ์เป็นอย่างมาก และวันนั้นเพื่อนผมอีกคนที่ทำงานธนาคาร ก็ออกมาพูดเป็นแนวเดียวกันว่า ธนาคารไม่ยอมปล่อยกู้แล้ว เพราะว่าไม่มั่นใจเรื่องเศรษฐกิจแล้ว และไม่มั่นใจว่าจะเกิดอะไรขึน หลังเดือนนี้แล้ว เพราะว่าไม่ว่าจะเป็นการตัดสินการยุบพรรคของพรรคใหญ่ และรวมทั้งการจัดการปัญหาต่างๆ

ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ดีใจทหารเข้ามา แต่ก็หวั่นใจว่าจะทำได้ขนาดไหน หรือว่าเข้ามาเพื่อผลประโยชน์โดยเอาผลประโยชน์ชาตินำหน้ากันแน่ สำหรับคำถามผมในเดือนนี้ ที่เห็นการทำงานของรัฐบาล หรือว่าคุณจะรอให้ทักษิณกลับมา หรือว่าคุณเข้ามาเพื่อคั้นเวลาทักษิณเท่านั้น การทำงานของนายก ณ ตอนนี้ที่บอกว่าใช้หลักนิติธรรมนั้น ผมไม่เถียงหรอกครับ แต่สมควรจะเร่งเครื่องให้มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะว่าคุณไม่มีเวลาแล้ว เศรษฐกิจพังจนไม่เหลือแล้ว การซื้อขายแทบจะไม่เกิดขึ้น และหลายๆคนก็เริ่มไม่อยากจ่ายเงินแล้ว กับหนื้ทั้งหลาย  และไม่น่าเชื่อว่ามันจะหนักกว่าปี 2540 ส่วนหนึ่งเกิดจากรัฐบาลเก่าและรวมทั้งรัฐบาลนี้ที่ต้องรับผิดชอบร่วมกัน  ผมไม่ได้ชอบทักษิณ และไม่เกลียดสุรยุทธ์ หรือ พี่แอ๊ดเลย แต่ว่าทนไม่ไหวแล้วกับเศรษฐกิจแบบนี้ หลายๆคนเริ่มไม่มีตังค์ในการจะไปประกอบธุรกิจแล้ว และธุรกิจก็ปิดตัวลงหลายอย่างแล้ว การเข้ามาของคนหลายๆคนหวังว่าจะทำให้มันทรงตัวได้ ไม่ต้องดี แต่ทรงตัวและเดินไปได้ แต่ตอนนี้คำว่า พอเพียงนั้นไม่สมควรใช้ แต่ต้องใช้คำว่าขยัน อดทน ก่อน แล้วค่อยพอเพียง ถ้าประเทศไทยพอเพียงก็ไม่ต้องมีงาน MONey Expo สิ ปล่อยกู้กันเป็นว่าเล่น เพื่อกระตุ้นการจับจ่าย แต่จริงๆแล้ว จะไปงานนี้สักกี่คนแล้วคนที่ไม่ได้ไปละ กี่คนประเมินไหมครับ ลองประเมินมาหน่อยว่า มีกี่คนเอาตัวเลขจริงๆน่ะ อย่ามานั่งโกหกตัวเลข เพราะว่าผมก็ไปแล้วดูรู้เลยว่า  คนจับจ่ายน้อยลงมากๆ

ที่ผมเขียนมานี้อาจไม่จบ เพราะว่ามีหลายๆเรื่องที่น่าสงสัย แต่คงช่วงนี้ก่อนเพราะว่าขอตัวทำงานก่อน
บันทึกการเข้า
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #1 เมื่อ: 11-05-2007, 11:12 »

ศก.แย่ คงไม่เถียง สาเหตุก็มาจากคนๆเดียว
ทำจนพื้นฐานเศรษฐกิจเละเทะ
การจะฟื้นศก.ก็เหมือนกับการรื้อบ้านทั้งหลักเพื่อซ่อมเสาเข็ม

ขอแย้งในประเด็นพอเพียงของคุณ
เพราะมันคลาดเคลื่อนกับคำว่าพอเพียงในศก.พอเพียงเอามากๆ
ศก.พอเพียง ยิ่งต้องขยันและอดทน ต้องฉลาดและรอบคอบมากขึ้น
ไม่ใช่แค่นี้ก็ดีแล้วอย่างที่คุณเข้าใจ
บันทึกการเข้า
คนในวงการ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,393


FLY WITH NO FEAR !!


เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 11-05-2007, 12:14 »

เศรษฐกิจแย่จริง ๆ ครับ แต่ยังไม่ถึงขึ้นที่เรียกว่า กลียุค น่าจะอยู่ในช่วงวิกฤต ช่วงปล่อยค่าให้เงินบาทลอยตัววิกฤตกว่านี้เยอะครับ ตอนนั้นบริษัทล้มกันระนาว คนตกงานกันเยอะไปหมด การโจมตีค่าเงินก็มีเป็นพัก ๆ แต่ไม่รุนแรงเท่ากับในอดีต อยู่ในลักษณะตีหัวแล้ววิ่งมากกว่าปิดประตูตีแมวแบบคราวก่อน

คนที่มีวินัยการเงิน คนที่มีบทเรียนจากวิกฤตเศรษฐกิจคราวก่อน จะเอาตัวรอดไปได้ครับ การฟื้นของเศรษฐกิจโดยหวังเงินจากต่างประเทศแบบคนรุ่นก่อน ๆ คิดกันผมว่ารอดยาก เศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงเป็นทางรอดทางเดียวครับ พึ่งตนเองให้ได้ จึงจะรอด ที่เป็นเช่นนี้เพราะปัจจุบันประเทศไทยไม่เร้าใจนักลงทุนอีกต่อไป สืบเนื่องมาจากค่าแรงที่สูงขึ้น ฯลฯ เมื่อเทียบกับเวียดนาม หรือจีนแล้ว เราแข่งขันเค้าไม่ได้ครับ คนไทยเราคิดค่าตัวแพงเกินไปสำหรับนักลงทุน

อย่าไปมองตลาดหลักทรัพย์อะไรเลย นั่นมันภาพลวงตาทั้งนั้นครับ ตลาดหลักทรัพย์ไทย และในเอเซีย เกือบทั้งหมด ไม่ใช่ตลาดทุนอย่างที่ควรจะเป็น มันคือบ่อนที่ถูกกฏหมายแค่นั้นเอง ถ้าเราเคยดูรายการพวกวิเคราะห์หุ้น ถ้าดูอย่างมีสตินะครับ จะพบว่าเป็นรายการที่น่าขบขันมาก ปัจจัยเทคนิค ปัจจัยจิตวิทยา แนวรับ แนวเด้ง สารพัดจะสรรหามาอธิบาย ทั้งที่จริงแล้วมันคือการเก็งกำไรกันไปวัน ๆ แค่นั้นเอง รายใหญ่ ขาใหญ่เท่านั้น ที่เป็นคนกำหนดราคา วิเคราะห์กันไปเป็นตุเป็นตะไปโน่น

ประเทศไทยเราเป็นเมืองเกษตร เป็นอู่ข้าวอู่น้ำมาแต่ครั้งโบราณ ตราบใดที่เรายังผลิตข้าวปลาอาหารได้ เรามีทางออกครับ ที่มันแย่ทุกวันนี้ เป็นเพราะภาครัฐไม่จริงใจในการบริหารด้านการเกษตร มัวแต่ไปผลักดันอุตสาหกรรม เพราะเชื่อว่าสามารถทำเงินให้ได้มากกว่า เกษตรกรขายผลิตผลได้ในราคาถูก แต่พ่อค้าสามารถทำกำไรได้จากสินค้าตัวเดียวกันได้สูงอย่างน่าแปลกใจ ถ้ารัฐอุดหนุนภาคเกษตรอย่างเป็นระบบมากกว่านี้ ประเทศไทยเราแข่งขันได้ในตลาดโลกอย่างสบายครับ ยกตัวอย่างง่าย ๆ นะครับ เช่นเรื่องปุ๋ยเคมี ต้นทุนการนำเข้าปุ๋ยเคมีอยู่ที่ประมาณตันละ 2000 - 4000 บาทแล้วแต่สูตรปุ๋ย พวกบริษัทขายอยู่ราว ๆ 6000 - 9000 บาท ส่วนต่างราคาอยู่ที่การทำตลาด กับผลกำไร ถ้ารัฐจริงใจในการบริหารจัดการ เราสามารถนำเข้ามาขายได้ในราคา 3000 - 6000 บาท แค่นี้ต้นทุนการผลิดก็ถูกลงแล้ว แต่ภาครัฐทำอย่างไรรู้มั้ยครับ ตั้งโรงงานปุ๋ยแห่งชาติขึ้นมาเป็นรัฐวิสาหกิจ หวังจะผลิดปุ๋ยเองราคาถูก พอผลิดปุ๋ยออกมา ก็ดันตั้งราคาขายใกล้เคียงกับเอกชน ราคาใกล้เคียงกันเอกชนกินขาดครับเพราะเก่งด้านการตลาดกว่าเยอะ สุดท้ายปุ๋ยแห่งชาติก็กลายเป็นปุ๋ยเจ๊งไป ทั้งที่ถ้าบริหารดี ๆ ก็ไม่มีวันเจ๊ง และที่สำคัญคือ ต่อให้เราไม่ผลิตปุ๋ยเอง เราก็นำเข้ามาขายได้ในราคาถูกกว่าเอกชนอยู่แล้ว ปุ๋ย อตก. ที่เปิดประมูลทุกปี ก็น่าขัน แทนที่ อตก. จะนำเข้าปุ๋ยจากต่างประเทศโดยตรงในราคาถูก อตก. ดันจัดประมูลในประเทศให้เอกชนเสนอขาย แล้วแบบนี้เมื่อไหร่ปุ๋ยมันจะถูกหละครับ

พวกยาฆ่าแมลง ยาโรค หรืออาหารสัตว์ ก็เป็นแบบเดียวกัน คือ รัฐมีความสามารถที่จะทำเองได้ แต่ไม่ทำ ดูสิครับเอกชนรวยเอารวยเอา ชาวไร่ชาวนาชาวสวน จนเหมือนเดิม ถ้าใครบอกว่าทำอาชีพเกษตรไม่รวย ผมขอเถียงครับ ดูซีพี สิครับ รวยขนาดใหน ซีพี ไม่ได้รวยจากธุรกิจปิโตรเคมี (เจ๊งซะด้วยซ้ำไป) หรือเซเว่นอีเลเว่น หรือ TA นะครับ ซีพีรวยจากธุรกิจเกษตรครับ ธุรกิจเกษตรนี่แหละที่เป็นรากฐานค้ำจุนทุกธุรกิจที่ซีพีแตกไลน์ออกไปทำ ใครที่บอกว่าถ้ารัฐมาทำเองก็ไม่มีการแข่งขันที่สมบูรณ์ อันนี้ก็ไม่จริงครับ การที่มีภาครัฐอยู่ทำให้การทำธุรกิจของเอกชนลำบากขึ้น แต่คนที่ได้คือผู้บริโภค เอกชนจะต้องตั้งราคาให้สมเหตุผล ถ้าแพงกว่ามันต้องดีกว่าจริง ไม่ใช่เพราะผู้บริโภคไม่มีทางเลือก โดยเฉพาะในธุรกิจเกษตร ปุ๋ยก็คือปุ๋ย แร่ธาตุครบถ้วนเท่ากัน ยาก็ตัวเดียวกัน บวกค่าดำเนินการ และกำไรเข้ารัฐนิดหน่อย ทำไมเราจะทำไม่ได้ครับ เอกชนต้องลดราคาลงมาสู้ เครื่องไม้เครื่องมือในการทำตลาดเราก็มีครบ เรามีสหกรณ์การเกษตรอยู่แทบทุกอำเภอ เรามีเกษตรตำบลอยู่ทุกตำบล แต่ เราไม่ทำ 555

เงิน คือปัจจัยที่ทำให้ข้าราชการตาบอด เงินคือสายธารหล่อเลี้ยงนักการเมือง ทำให้การบริหารจัดการด้านการเกษตรของไทยเป็นง่อยอยู่ทุกวันนี้ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด ๆ ก็อย่างเช่นเรื่องทุจริตกล้ายาง ที่ซีพีกำลังวิ่งกลบคดีกันขาขวิดอยู่ตอนนี้ คนทำยางเค้ารู้กันดีว่ากล้ายางที่ดีต้องมาจากกิ่งกระโดง แต่ซีพีมักง่ายทำกล้ายางจากกิ่งที่แผ่ในแนวระนาบ เพราะถ้าจะซื้อกล้ายางกิ่งกระโดง มันแพง เลยไปกว้านซื้อกล้าราคาถูก ๆ มาหลอกขาย แถมยังเป็นกล้าที่อายุเกินอีกต่างหาก เพราะว่าผลิตไม่ทัน กรมวิชาการเกษตรรู้มั้ยครับ รู้ครับ แต่ละคนระดับ ดร. ทั้งนั้น ดูด้วยตาเปล่ายังรู้เลยว่ามันผิดสเป็ก แต่ ... แต่อะไรอีกหละ 555 ใครตายครับ ก็ไอ้โง่ตาสีตาสาตามบ้านนอกแถวภาคอิสาน ที่กู้เงินมาลงทุนไงครับ เงินกู้สหกรณ์ เงินกู้โครงการฯ สารพัดเงินกู้ ปลูกไปเถอะกรีดยางได้น้ำยางนิดเดียว สุดท้ายก็ต้องฟันทิ้ง ตอนนั้นเราจะมีเฟอร์นิเจอร์ไม้ยางราคาถูกให้ซื้อหากันอีกเยอะครับ

ถ้าเราบริหารจัดการภาคเกษตรดี ๆ ภาคอื่น ๆ จะฟื้นตัวอย่างรวดเร็วครับ เกษตรกรมีกำไร กำไรนั้นก็จะเปลี่ยนเป็นมอร์เตอร์ไซด์ ปิ๊กอัพ ทีวีสี คอมพิวเตอร์ มือถือ ฯลฯ และแม้กระทั่งเปลี่ยนเป็น รถถัง เครื่องบินรบ เรือดำน้ำ รถไฟฟ้า อะไรต่อมิอะไรที่อยากได้ มันเริ่มต้นจากชาวไร่ชาวนานี่แหละครับ เริ่มต้นจากเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง แล้วจึงต่อยอดไปเรื่อย ๆ อย่าคิดว่าต้องใช้เวลานานนะครับ ผมเคยคำนวนคร่าว ๆ ใช้เวลาเพียง 5 - 10 ปี เท่านั้น ข้าวหอมมะลิไทย คือสุดยอดข้าวของโลก และไม่ต้องกลัวใครเอาไปปลูกขายแข่งด้วย เพราะข้าวหอมมะลิ มันต้องปลูกกันแบบคนไทย และปลูกบนแผ่นดินไทย เท่านั้น มันถึงจะได้ข้าวแบบนั้นครับ ไม่ต้องกลัวฝรั่งเอาไปจดลิขสิทธิด้วย จดได้จดไป จดเสร็จก็ปลูกให้ได้ข้าวที่อร่อยเหมือนอย่างไทยปลูกก็แล้วกัน เรื่องมันจะฟ้องอะไรนั่น ให้มันฟ้องไปครับ เราไม่จ่ายซะอย่าง 555


เอาหละออกทะเลมาไกล ได้เวลากลับฝั่ง


Smile
บันทึกการเข้า

"Be without fear in the face of your enemies. Be brave and upright that God may love thee.
Speak the truth, always, even if it leads to your death. Safeguard the helpless, and do no wrong. That is your oath."
- Balian of Ibelin -
คนในวงการ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,393


FLY WITH NO FEAR !!


เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 11-05-2007, 12:32 »

แถมให้อีกหน่อย ใหน ๆ ก็ออกทะเลไปไกล

ข้าราชการไทย หลายคนนะครับ มีจิตสำนึกรักชาติ มีความเป็นข้าราชการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นักการเมืองก็มีอยู่บ้างแต่ไม่เยอะเท่าไหร่ พวกที่ชั่ว ๆ มีอยู่เยอะกว่าครับ นี่ไม่นับแอบอู้เช้าชามเย็นเฉื่อยนะครับ ส่วนนักการเมืองนี่ที่ชั่ว ๆ นี่นับไม่ถ้วนเลยไม่ว่าพรรคใหน

ผมอยากให้มีการรื้อฟื้นโทษตัดหัวจริง ๆ เอาเฉพาะพวกที่ทำความเสียหายให้บ้านเมือง คอรัปชันโกงกิน ฉ้อราษฏร์บังหลวง ก็พอ ทั้งประชาชน ทั้งข้าราชการ ทั้งนักการเมือง ใครทำแบบนี้ ถ้าจับได้ พิสูจน์แล้วว่าจริง ให้ตัดหัวอย่างเดียวเลย ไม่ต้องมีโทษทางวินัย โทษทางอาญา ผมเชื่อว่า ประชาชน ข้าราชการ นักการเมือง จะมีจิตสำนึกรักชาติกันขึ้นมาอย่างทันทีทันใดเลย ครับ 555

โทษตายสถานเดียว และกุดหัวด้วย ไม่แขวนคอ ไม่ยิงเป้า ไม่รมแกส ไม่วางยาพิษ กุดหัว นี่แหละ ได้ผลสุด
บันทึกการเข้า

"Be without fear in the face of your enemies. Be brave and upright that God may love thee.
Speak the truth, always, even if it leads to your death. Safeguard the helpless, and do no wrong. That is your oath."
- Balian of Ibelin -
อังศนา
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,860


Can't fight the moonlight!


เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 11-05-2007, 12:46 »

..ขอบคุณค่ะ บิ๊กเหยี่ยว สำหรับข้อเขียนข้างบน   
..โปรดหาเวลามาเขียนบ่อยๆ เด้อค่ะ 
คนสติปัญญาทึบอย่างข้าพเจ้า crave for such good writing!

บันทึกการเข้า

แม้ผืนฟ้า มืดดับ เดือนลับละลาย 
ดาวยังพราย ศรัทธา เย้ยฟ้าดิน (จิตร ภูมิศักดิ์)
คนในวงการ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,393


FLY WITH NO FEAR !!


เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 11-05-2007, 13:04 »

..ขอบคุณค่ะ บิ๊กเหยี่ยว สำหรับข้อเขียนข้างบน  
..โปรดหาเวลามาเขียนบ่อยๆ เด้อค่ะ 
คนสติปัญญาทึบอย่างข้าพเจ้า crave for such good writing!



โอยผลยอมาเป็นเข่ง คนเก่ง ๆ ในเสรีไทยมีเยอะครับ แต่ไม่รู้ไปใหนหมด (ฮา) ที่ผมหายไประยะหลัง ๆ นี่ ไม่ใช่ไม่มีเวลาครับ มาทุกวันแหละ แอบอยู่กับพวกบุคคลทั่วไปนั่นแหละ แต่ไม่รู้จะโพสอะไร และไม่อยากโพสตามแห่เออออห่อหม่กไปกับบรรดาผู้นำความคิด (เอ๊ะพูดอย่างนี้จะถูกยึดล็อคอินมั้ยนะ - กร้ากกกกกกกกก) บอกตรง ๆ เบื่อนิด ๆ ครับ (เบื่ออะไรรึ? จ้างก็ไม่บอก)

ยังดีที่คนเก่ง ๆ ในเสรีไทย อย่างคุณอังศนา คุณพรรณชมพู คุณจีรศักดิ์ คุณคิว คุณไทยทรู คุณไทยมุง และหลายท่านที่ผมไม่ได้เอ่ยนาม เพราะนึกไม่ออก ยังแวะเวียนมาเล่น ไม่งั้นมันคงจะน่าเบื่อกว่านี้ อ้อ ผมเว้นคุณ ปุฯ ไป เพราะว่าคุณ ปุฯ ลำเอียง (ลำไม่ตรง) โพสที่เว็บลุงแคนมากกว่าเสรีไทย 555 ไม่รู้เป็นเพราะอะไรเหมือนกัน (สงสัยเพราะน้องโนว์ไปเปิดวิกที่นั่นรึปล่าวนะ?)

อิอิ ไม่มีใครให้จิกเล่น จิกพวกเดียวกันเองนี่แระ 555


ปล. ขออภัย จขกท. ที่พาออกทะเลมาไกลมาก จะข้ามเส้นศูนย์สูตรอยู่แระ อิอิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-05-2007, 13:22 โดย คนในวงการ » บันทึกการเข้า

"Be without fear in the face of your enemies. Be brave and upright that God may love thee.
Speak the truth, always, even if it leads to your death. Safeguard the helpless, and do no wrong. That is your oath."
- Balian of Ibelin -
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 11-05-2007, 13:35 »

โอยผลยอมาเป็นเข่ง คนเก่ง ๆ ในเสรีไทยมีเยอะครับ แต่ไม่รู้ไปใหนหมด (ฮา) ที่ผมหายไประยะหลัง ๆ นี่ ไม่ใช่ไม่มีเวลาครับ มาทุกวันแหละ แอบอยู่กับพวกบุคคลทั่วไปนั่นแหละ แต่ไม่รู้จะโพสอะไร และไม่อยากโพสตามแห่เออออห่อหม่กไปกับบรรดาผู้นำความคิด (เอ๊ะพูดอย่างนี้จะถูกยึดล็อคอินมั้ยนะ - กร้ากกกกกกกกก) บอกตรง ๆ เบื่อนิด ๆ ครับ (เบื่ออะไรรึ? จ้างก็ไม่บอก)

ยังดีที่คนเก่ง ๆ ในเสรีไทย อย่างคุณอังศนา คุณพรรณชมพู คุณจีรศักดิ์ คุณคิว คุณไทยทรู คุณไทยมุง และหลายท่านที่ผมไม่ได้เอ่ยนาม เพราะนึกไม่ออก ยังแวะเวียนมาเล่น ไม่งั้นมันคงจะน่าเบื่อกว่านี้ อ้อ ผมเว้นคุณ ปุฯ ไป เพราะว่าคุณ ปุฯ ลำเอียง (ลำไม่ตรง) โพสที่เว็บลุงแคนมากกว่าเสรีไทย 555 ไม่รู้เป็นเพราะอะไรเหมือนกัน (สงสัยเพราะน้องโนว์ไปเปิดวิกที่นั่นรึปล่าวนะ?)

อิอิ ไม่มีใครให้จิกเล่น จิกพวกเดียวกันเองนี่แระ 555


ปล. ขออภัย จขกท. ที่พาออกทะเลมาไกลมาก จะข้ามเส้นศูนย์สูตรอยู่แระ อิอิ

สวัสดีครับ

ขอบคุณครับที่คิดถึงกันเสมอ ผมก็เช่นกันครับแวะเวียนเข้ามาอ่านเป็นระยะ

ผมได้ความคิดและความรู้ความเข้าใจในสิ่งต่างๆ จากที่เสรีไทยมากมายครับ

ดังนั้น ขอเขียนแบบรวบรัดคือว่า กลียุคคงไม่เกิด  และยังคงไม่ใกล้ เพราะว่ากลียุคเกิดจาก

" คนเป็นบ้าทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว" เสรีไทยช่วยให้คนบ้าได้ยั้งสติคิดได้บ้าง เสรีไทยจึงมีประโยชน์กับทุกคน

และก็เป็นหลักให้สังคม จากจุดเล็กๆไปสู่สังคมวงกว้างได้..

โปรดแวะมาคุยกันเรื่อยๆครับ..มีคนรออยู่ครับ..

                                                                       
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 11-05-2007, 14:03 »



ข่าวล่าสุด  ขณะนี้WOM เกิดปัญหาแบบเดียวกับเสรีไทย

เข้าใจว่าผมและ ตาเลอร์โพสต์เป็นคู่สุดท้าย คนสุดท้ายน่าจะเป็นเลอร์ครับ

แต่ปัญหาน่าจะมาจากฐานข้อมูล และคุณบั๊กก็เป็นได้..

                                                                                   
บันทึกการเข้า

คนในวงการ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,393


FLY WITH NO FEAR !!


เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: 11-05-2007, 14:09 »

ที่เสรีไทยครั้งล่าสุด ผมคิดว่าเกิดจากการลบกระทู้ เพราะมันมีกระทู้นึงผมจำชื่อกระทู้ไม่ได้ เห็นโพสจั่วหัวไว้น่าหยิก คลิกเข้าไปดู ปรากฏว่าถูกลบไปแล้ว ผมกลับมาหน้าหลัก แล้ว refresh ดู เพื่อเช็คว่ามันถูกลบไปจริงหรือปะ ผลก็อย่างที่เห็นคือบอร์ดล่ม ผมคิดว่ากลไกในการลบกระทู้ คงมีปัญหากับการ index ข้อมูล ก็เดาอะนะ


 Smile
บันทึกการเข้า

"Be without fear in the face of your enemies. Be brave and upright that God may love thee.
Speak the truth, always, even if it leads to your death. Safeguard the helpless, and do no wrong. That is your oath."
- Balian of Ibelin -
คนในวงการ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,393


FLY WITH NO FEAR !!


เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 11-05-2007, 14:12 »

เอ๊ะ หรือเพราะว่าผมกล่าวพาดพิงถึงด้านบน ลุงแคนเลยแกล้งทำบอร์ดล่มเพื่อลดกระแส อิอิ
บันทึกการเข้า

"Be without fear in the face of your enemies. Be brave and upright that God may love thee.
Speak the truth, always, even if it leads to your death. Safeguard the helpless, and do no wrong. That is your oath."
- Balian of Ibelin -
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #10 เมื่อ: 11-05-2007, 14:14 »

วันนี้แอบไปโชว์หุ่นที่งานมันนี่เอกซโปมา แต่สงสัยหุ่นจะไม่ค่อยดีหรือหน้าไม่เอาไหน ไม่มีหนุ่มๆมอง  

ได้ยินคนบ่นเรื่องเศรษฐกิจไม่ดีมาหนาหู แต่เมื่อมองไปตามสภาวะเศรษฐกิจที่เขาอยากให้ดี ก็นึกดีใจที่เศรษฐกิจแบบนั้นมันพังไปซะได้ แต่ก็ยังหวั่นๆที่ว่ารัฐจะเอาเงินไปอุ้ม ไปกระตุ้น ไปอีดฉีด เสียดายเงินค่ะ เงินนั้นต้องนำไปช่วยเกษตรกร พัฒนาการเกษตรกรรม ดูและเรื่องน้ำ อันเป็นปัจจัยสำคัญของการอยู่รอด

เห็นตลาดหุ้นซึมเซา ก็ดีใจเป็นอันมาก อยากให้ดัชนีมันรูดลงไปเหลือสัก 200 จุด อยากให้ตลาดหุ้นเป็นตลาดสำหรับการระดมทุนอย่างแท้จริง ไม่ใช่บ่อนวิ่งสำหรับไอ้พวกโลภ แมงเม่าปัญญาอ่อน หรือเป็นที่ต้มกระบือหน้าโง่ ที่อยากทำธุรกิจลงทุน

ใครๆก็บ่นกันว่าเศรษฐกิจไม่ดี แล้วก็ก้มหน้าก้มตาไปซื้อของโลตัส เซเว่น ก็สมน้ำหน้าเพราะขายชาติกันอยู่ทุกวัน แต่อยากให้เศรษฐกิจชาติดี ที่ลำบากกันจนต้องบ่นอู้อยู่ เพราะเลือดรักชาติมันไม่มี ก็สมน้ำหน้าดีแล้ว

เมื่อครั้งฟองสบู่เบ่งบานในเมืองไทย รัฐบาลยุคหนึ่งประกาศจะเป็น NIC มีคนเตือนว่า NIC ย่อมาจาก นรกอีสคัมมิ่ง ก็ไม่มีใครเชื่อ จนนรกมามาจริงๆ ก็โหยหวนกันไปพักหนึ่ง แต่ไม่เข็ด รัฐบาลหลังวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง จาก ฝีมือลุงจิ๋วกับพี่แม้ว ก็รัดเข็มขัดจนพาชาติรอดมาได้ แต่พอพี่แม้วมา แกก็ตีฟองสบู่เล่นใหม่ แถมขายของเก่ากินจนชาติแทบวินาศ แต่คนที่โลภก็ร่ำร้องกันว่า ทำอย่างนั้นดี เศรษฐกิจฟู ทำมาค้าคล่อง ชาติฉิบหา...ไม่เป็นไร ขอให้ค้าขายคล่องไว้ก่อน  วิสัยทัศน์ไอ้พวกนี้ มองไม่ไกลเกินคอห่านจริงๆ

ถามมาว่าเมืองไทยถึงกลียุคหรือยัง ตอบได้ว่า เมืองไทยถึงกลียุคของทุนนิยมแล้ว ทุนนิยมไม่มีทางรอดแล้ว ใครที่ยังบ้างยังโง่อยู่ก็เตรียมตัวตายได้ ใครอมหุ้นไว้ก็หุ้นติดคอตาย แต่ใครที่รู้จักเศรษฐกิจพอเพียง รู้จักอดออม รู้จักประหยัดมัธยัส คนนั้นรอดค่ะ  
บันทึกการเข้า
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: 11-05-2007, 14:18 »

ที่เสรีไทยครั้งล่าสุด ผมคิดว่าเกิดจากการลบกระทู้ เพราะมันมีกระทู้นึงผมจำชื่อกระทู้ไม่ได้ เห็นโพสจั่วหัวไว้น่าหยิก คลิกเข้าไปดู ปรากฏว่าถูกลบไปแล้ว ผมกลับมาหน้าหลัก แล้ว refresh ดู เพื่อเช็คว่ามันถูกลบไปจริงหรือปะ ผลก็อย่างที่เห็นคือบอร์ดล่ม ผมคิดว่ากลไกในการลบกระทู้ คงมีปัญหากับการ index ข้อมูล ก็เดาอะนะ


 Smile


ครับขอบคุณสำหรับข้อมูล คิดว่าคงเป็นประโยชน์กับ WM แลทีม MOD ไม่มากก็น้อยครับ...

ปัญหาสำคัญของระบบคอมฯคือ เมื่อมีปัญหาจุดเล็กๆ แต่มีผลเสียมากๆ  ค้นหายากหากไม่มีกลไกตรวจสอบที่ดีทุกขั้นตอนของผู้ผลิตคิดค้น..รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ



บันทึกการเข้า

AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: 11-05-2007, 14:20 »

นี่แค่เผาหลอกเอง ปลายปีเผาจริง หึ หึ  ทำเป็นมาคุยว่ายังเกินดุลการค้า เคยเห็นไหม เกินดุลการค้าเยอะๆ แต่ไม่มีออร์เดอร์น่ะครับ หนาวขี้สุดๆ

อยากถามบางคนในนี้หน่อย จะดันทุรังหนุนนักบุญจอมปลอมไปถึงไหน หน้ากากมันก็หลุดหมดแล้ว ตัวมันไม่สำนึกซะบ้างว่ากำลังทำหน้าที่อะไร  แล้วที่มันนั่งเป็นที่ปรึกษาในบริษัทบางแห่งที่เคย gang up กับไอ้เหลี่ยมปล้นชาติน่ะ   ไปคุยกับคนมีการศึกษาดูก็ได้ ไม่ว่าจะ DV lottery greencard, PR Canada, PR Aus, PR NZ สมัครกันอุตลุด สำเร็จบ้างล้มเหลวบ้าง เขาไม่มาบอกคุณหรอกครับ เพราะรู้ว่าโดนด่าแหง หาว่าไม่รักชาติ

ส่วนคนจนหมดหนทางก็เสาะหาก้อนหินมากราบไหว้ไปวันๆจริงๆ

สัญญาณอย่างหนึ่งคล้ายก่อนปี 40 ก็คือ ไต้หวันที่มันมาเก็งกำไรที่ดิน มันขายทิ้งทำกำไรไปนานแล้ว

ส่วนไอ้นายกกับทหารโง่ก็เกียร์ว่าง ปล่อยให้ปัญญาชนหัวทึบหัวปั่นมัวแต่เถียงกันเรื่องยกเลิกหวย รัฐธรรมนูญ มาตราโน้น มาตรานี้ ยังคงอยู่ในกะลา นึกว่าประเทศเป็นของคนไม่กี่คน ยังคงคิดว่าไม่มีประชาชนมันก็อยู่ได้ ไดโนเสาร์เอ๊ย

ที่ท่านแม่ทัพสายเหยี่ยว พูดน่ะถูกต้องทุกข้อแค่ยอดภูเขาน้ำแข็งเอง ผมเลิกด่าสิงคโปร์ไปนานแล้วหละ ตอนนี้รู้สึกสำนึกผิด ไปด่ามันทำไม ชื่่นชมสิงคโปร์ด้วยซ้ำ ประเทศเล็กนิดเดียวไม่มีทรัพยากรแต่มางาบประเทศใหญ่กว่าได้ เพราะมันโกงกันเองจนเจ๊ง  สุดยอด !

ใครจะหาว่าผมดูถูกความเป็นไทยก็เชิญนะครับ เอาเหอะ เชิญหลอกตัวเองต่อไป 555+
บันทึกการเข้า

cameronDZ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,827


my memory


« ตอบ #13 เมื่อ: 11-05-2007, 14:26 »

ท่านไทยทรูธ มาแนว death metal เลยนะ

ชอบ ๆ ๆ ๆ ๆ

แบบส่วนตัว ชอบโหด ๆ มัน ๆ สะจายยยยยยยย
ไม่ชอบ พวกเล่นขิม หงิม ๆ ไปวัน ๆ น่ะ

(เอ...หัวข้อกระทู้เขาว่าไร และเราจะไปไหนกันเนี่ย อิ อิ)
บันทึกการเข้า

ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา
จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย
...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ...
แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก
...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #14 เมื่อ: 11-05-2007, 14:33 »

นี่แค่เผาหลอกเอง ปลายปีเผาจริง หึ หึ  ทำเป็นมาคุยว่ายังเกินดุลการค้า เคยเห็นไหม เกินดุลการค้าเยอะๆ แต่ไม่มีออร์เดอร์น่ะครับ หนาวขี้สุดๆ

อยากถามบางคนในนี้หน่อย จะดันทุรังหนุนนักบุญจอมปลอมไปถึงไหน หน้ากากมันก็หลุดหมดแล้ว ตัวมันไม่สำนึกซะบ้างว่ากำลังทำหน้าที่อะไร  แล้วที่มันนั่งเป็นที่ปรึกษาในบริษัทบางแห่งที่เคย gang up กับไอ้เหลี่ยมปล้นชาติน่ะ   ไปคุยกับคนมีการศึกษาดูก็ได้ ไม่ว่าจะ DV lottery greencard, PR Canada, PR Aus, PR NZ สมัครกันอุตลุด สำเร็จบ้างล้มเหลวบ้าง เขาไม่มาบอกคุณหรอกครับ เพราะรู้ว่าโดนด่าแหง หาว่าไม่รักชาติ

ส่วนคนจนหมดหนทางก็เสาะหาก้อนหินมากราบไหว้ไปวันๆจริงๆ

สัญญาณอย่างหนึ่งคล้ายก่อนปี 40 ก็คือ ไต้หวันที่มันมาเก็งกำไรที่ดิน มันขายทิ้งทำกำไรไปนานแล้ว

ส่วนไอ้นายกกับทหารโง่ก็เกียร์ว่าง ปล่อยให้ปัญญาชนหัวทึบหัวปั่นมัวแต่เถียงกันเรื่องยกเลิกหวย รัฐธรรมนูญ มาตราโน้น มาตรานี้ ยังคงอยู่ในกะลา นึกว่าประเทศเป็นของคนไม่กี่คน ยังคงคิดว่าไม่มีประชาชนมันก็อยู่ได้ ไดโนเสาร์เอ๊ย

ที่ท่านแม่ทัพสายเหยี่ยว พูดน่ะถูกต้องทุกข้อแค่ยอดภูเขาน้ำแข็งเอง ผมเลิกด่าสิงคโปร์ไปนานแล้วหละ ตอนนี้รู้สึกสำนึกผิด ไปด่ามันทำไม ชื่่นชมสิงคโปร์ด้วยซ้ำ ประเทศเล็กนิดเดียวไม่มีทรัพยากรแต่มางาบประเทศใหญ่กว่าได้ เพราะมันโกงกันเองจนเจ๊ง  สุดยอด !

ใครจะหาว่าผมดูถูกความเป็นไทยก็เชิญนะครับ เอาเหอะ เชิญหลอกตัวเองต่อไป 555+



เมืองไทยยังดีครับ ไม่มีสงครามกลางเมือง มีแต่ที่จำกัดวงอยู่ภาคใต้

ส่วนคนจนก็ยังมีที่ทำกิน เพราะตึกสูงมีแต่ในกรุงเทพและเมืองใหญ่ๆเท่านั้นเอง..

อืมม...พวกพ่อค้าคงจะกลุ้มใจเป็นพิเศษ ที่ยังไม่ทราบว่าไปหลงสนับสนุนคนผิดและค่านิยมผิดๆในสังคมไทย..

ค่านิยม ศรีธนญชัย นั่นแหละเรื่องใหญ่เพราะมันคือการหลอกลวง.ไม่ซื่อสัตย์ทุกชนิด หลักสำคัญของธุรกิจและการค้าทุกชนิดคือ ความซื่อสัตย์เชื่อถือได้
บันทึกการเข้า

คนในวงการ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,393


FLY WITH NO FEAR !!


เว็บไซต์
« ตอบ #15 เมื่อ: 11-05-2007, 14:34 »

หลังจากจตุคาม ตอนนี้เริ่มมีช้างน้ำแล้วครับ อีกสักระยะคงมีมักนารีผล ออกมาทำตลาด อย่างที่ผมกะคุณไทยทรูเคยพูดกัน ตลาดของขลังบูมเมื่อไหร่ เตรียมตัวฉิบหายกันได้ครับ อสังหาคนเค้าวิ่งหนีกันอุตลุตแล้ว อยากได้ที่ดินถูกบ้านถูก ๆ เตรียมเงินไว้ได้เลยครับ ไม่นานเกินรอมีมาให้ช็อปกันแน่นอน

ทางเดียวที่จะรอด คือเศรษฐกิจพอเพียงครับ ในหลวงไม่เคยโกหกประชาชน พิสูจน์มาแล้วนับหกสิบปีครับ


ปล. คุณพรรณชมพู ไปวัดเรทติ้งเหรอครับ นึกว่าไปทอร์คเรื่องมันนี่ซะอีก 555
บันทึกการเข้า

"Be without fear in the face of your enemies. Be brave and upright that God may love thee.
Speak the truth, always, even if it leads to your death. Safeguard the helpless, and do no wrong. That is your oath."
- Balian of Ibelin -
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #16 เมื่อ: 11-05-2007, 14:42 »


ครับขอบคุณสำหรับข้อมูล คิดว่าคงเป็นประโยชน์กับ WM แลทีม MOD ไม่มากก็น้อยครับ...

ปัญหาสำคัญของระบบคอมฯคือ เมื่อมีปัญหาจุดเล็กๆ แต่มีผลเสียมากๆ  ค้นหายากหากไม่มีกลไกตรวจสอบที่ดีทุกขั้นตอนของผู้ผลิตคิดค้น..รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ






ถือเป็นสัญญาณเตือนที่ WM นี่นั่น ต้องแอบมองให้ดีครับ..
บันทึกการเข้า

AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #17 เมื่อ: 11-05-2007, 14:43 »

เมืองไทยยังดีครับ ไม่มีสงครามกลางเมือง มีแต่ที่จำกัดวงอยู่ภาคใต้
ส่วนคนจนก็ยังมีที่ทำกิน เพราะตึกสูงมีแต่ในกรุงเทพและเมืองใหญ่ๆเท่านั้นเอง..
อืมม...พวกพ่อค้าคงจะกลุ้มใจเป็นพิเศษ ที่ยังไม่ทราบว่าไปหลงสนับสนุนคนผิดและค่านิยมผิดๆในสังคมไทย..
ค่านิยม ศรีธนญชัย นั่นแหละเรื่องใหญ่เพราะมันคือการหลอกลวง.ไม่ซื่อสัตย์ทุกชนิด หลักสำคัญของธุรกิจและการค้าทุกชนิดคือ ความซื่อสัตย์เชื่อถือได้


นอนหลับฝันดีต่อไปนะครับ 555+
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #18 เมื่อ: 11-05-2007, 14:46 »



นอนหลับฝันดีต่อไปนะครับ 555+

ไม่ฝันหรอกครับ ที่ดินที่ใช้ประโยชน์ไม่เต็มที่ยังมีอีกมาก..

ส่วนเงินทุนขึ้นอยู่กับเครดิตครับ

ใครปรับตัวไม่ทัน ทำใจไม่ได้ก็อึดอัดหน่อย...

                                                                           
บันทึกการเข้า

so what?
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,729


« ตอบ #19 เมื่อ: 11-05-2007, 15:14 »

ยังไม่ถึงกลียุคครับ แต่อาจไปถึงได้เร็วๆนี้ ถ้าพวกเราส่วนใหญ่ยังไม่สำเหนียกถึงภัยที่กำลังคืบคลานเข้ามา ที่เห็นชัดๆก็เรื่องปัญหาภาคใต้ แล้วก็ปัญหาการเมืองที่ไอ้เหลี่ยมกับขี้ข้าของมันพยายามตีไข่ใส่สีให้เป็นเรื่องเป็นราวได้ตลอดเวลา แต่สองเรื่องนี้ก็ทำเอารัฐบาลรักษาการณ์ชุดนี้ขี้แตกขี้แตนแล้วครับ   Mr. Green

ส่วนเรื่องเศรษฐกิจ ผมเชื่อมาตลอดว่าปัญหาของเราอยู่ที่คุณภาพของคนหรือทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งผลที่สุดแล้วก็สะท้อนออกมาในรูปความสามารถในการแข่งขัน การพัฒนาและปรับปรุงคณภาพของคนนี่มันใช้เวลาเป็น generation ครับ แล้วคนที่อยู่ในชั้นบนๆของสังคมต้องยอมเสียสละความได้เปรียบของตัวเองที่มีอยู่ด้วย ไม่ใช่แค่แหกปากปาวๆว่ารักชาติ รักในหลวง แต่เผลอเมื่อไหร่ โทรไปรายการวิทยุ ถามนายสุวรรณ วลัยเสถียร ว่าทำยังไงถึงจะเสียภาษีเงินได้ให้น้อยที่สุด อย่างงี้ก็ไม่ต่างกับพฤติกรรมของไอ้เหลี่ยม ที่บอกว่าเสียสละเพื่อชาติ แต่แมร่งหาช่องเลี่ยงภาษีอุตลุด

วนไปวนมาก็หาเรื่องด่าไอ้เหลี่ยมอีกจนได้   
บันทึกการเข้า
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #20 เมื่อ: 11-05-2007, 15:32 »



ไม่อยากให้กลียุค อันดับแรกต้องแก้นิสัยคนไทย

เช่น เรื่องสำนึกต่อสังคมและท้องถิ่น  นิสัยเรื่องการใช้เงิน..

แล้วก็รสนิยมต้องสอดคล้องกับความสามารถในการหารายได้.

ไม่เรียกร้องทางการเมืองเพื่อผลประโยชน์ในวงแคบ โดยเฉพาะของตนหรือกลุ่มตน

ส่งเสริมให้มีการวางแผนครอบครับ มีการอบรมเยาวชน ให้มีระเบียบวินัย การมองโลกในแง่ดี ขยัน มีความคิดสร้างสรรค์และความอดทนครับ...


อีกอย่างครับสังคมไทยเราพูดกันมากแต่ไม่พยายามทำ และชอบโยนความผิด ตรงนี้พวกผู้นำองค์กรต้องคอยคัดเลือกฝึกอบรมคนในความดูแลด้วย..

ยกตัวอย่าง คนใกล้ตัวที่มาอยู่กับผม ชอบพูดมาก ชอบก้าวก่าย สั่งยาก พวกนี้ถึงเขาซื่อสัตย์จงรักภักดีกับเรา เราก็ต้องคอยกำกับ กำชับไปเรื่อยๆ


บันทึกการเข้า

แอบอ่าน ซุ่มเงียบ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 249


stand, fight, live or die for what?


« ตอบ #21 เมื่อ: 11-05-2007, 20:47 »

ผมไม่แน่ใจว่า "กลียุค" ของเจ้าของกระทู้นี่ กินความหมายกว้างขนาดไหน
แต่ถ้าพูดถึงเรื่องเศรษฐกิจนี่ ตอนนี้ต้องบอกว่า แย่จริงๆ
นับตั้งแต่ต้นปี ลูกค้าของผม ทำกิจการส่งออกรายย่อย ต้องหยุดกิจการไปแล้ว 2 ราย
แต่ยังไม่น่าตกใจว่า จะถึงขนาด วิกฤต ปี 40  ตอนนั้นแย่กว่าตอนนี้เยอะ เรียกว่า มองเห็นด้วยตาจะๆเลยทีเดียว
แล้วถึงจะเกิดขึ้นจริง คนในส่วนภาคธุรกิจส่วนใหญ่ ก็จะมีประสบการณ์กันมาแล้ว น่าจะเอาตัวรอดได้ดีกว่าคราวก่อน

ที่น่าเป็นห่วงคือผู้ที่ยังไม่มีประสบการณ์มาก่อน เช่น พวกแรงงานระดับล่าง พวกเกษตรกร  ที่สร้างหนี้สินไว้เยอะแยะในยุคทักษิณ
ปกติ พวกเขาก็มีทางเลือกน้อยอยู่แล้ว รายได้ก็น้อย มาตอนนี้ เม็ดเงินก็กำลังเริ่มหายออกไปจากตลาดเรื่อยๆ 
หากพวกเขาหาทางออกไม่เจอ ก็มีโอกาศที่จะเกิด กลียุค อย่างที่คุณพูดถึงอยู่มาก


บันทึกการเข้า

IF YOU DON'T STAND FOR SOMETHING, YOU MIGHT FALL FOR ANYTHING.
ไม่อยากสมานฉันท์กับคนชั่ว
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 592


เตือนให้นึกถึง Icarus ผู้ไม่ประมาณตน


« ตอบ #22 เมื่อ: 11-05-2007, 20:51 »

บอกตรงๆ  ผมผิดหวังกับนิสัยของคนไทยส่วนใหญ่นะ

ภาพรวมของสังคมทุกวันนี้ มันบ่งชี้ออกมาว่าคนไทยไม่นึกถึงหัวอกของผู้อื่น  
นึกอยากจะทำอะไรก็ทำตามใจ ขอให้กูได้ประโยชน์ ขอให้กูสะดวกสบายไว้ก่อนใครจะเดือดร้อนกูไม่สน
ตัวอย่างเช่น การขับรถย้อนศร การไม่รู้จักว่าต้องเข้าคิว  ในองค์กรต่างๆไม่มีตัวชี้วัดในการทำงาน  ใครตอแหลประจบเก่งเท่านั้น จึงจะได้ดี

คำว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว  เป็นตรรกะที่ไม่จริงในสังคมไทย
คนส่วนมากไม่ให้ความสำคัญ(value) กับความดีความถูกต้องหรอกครับ เขาให้ความสำคัญกับผลประโยชน์กันทั้งนั้น

ถ้ายังเป็นอยู่อย่างนี้  ไม่มีทางเจริญหรอกครับ ยาก  ต่อให้สิบเทวดาทักษิณก็ไม่เจริญ

ใครที่ยังหลงไหลได้ปลื้มกับคำว่าวัฒนธรรมไทย คนไทยน่ารัก บลาๆๆ  ผมเห็นด้วยครับว่าเป็นการมองโลกแง่ดีเกินเหตุ
วิธีคิดแบบไทยๆนี้แหละ  ทำให้อยุธยาถูกเผาพินาศมาแล้ว  ของสูงค่าขนาดนั้นยังรักษาไว้ไม่ได้เลย


ส่วนตัวผมเชื่อว่าผู้นำที่เป็นคนดีจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นได้นะ
เอาคนดีจริงๆนะ คนที่เมื่อมีอำนาจแล้วจะ right the wrongs  สร้าง value ใหม่ให้สังคมไทย
ไม่ใช่ดีแต่ว่าไม่ยอมชกมวย ตั้งการ์ดรักษาตัวเองให้รอดครบยก อย่างนี้ดีไม่จริงนี่

แต่ถ้ายังคงเป็นผู้นำแบบ ใส่ versace  ขี่รถ chopper มาอวดประชาชนในทีวี  ให้ประชาชนปลื้มกับสิ่งฟุ่มเฟือย
หรือไอ้ผู้นำหน้าด้านที่บอกว่า corruption เป็นส่วนหนึ่งของระบบประเทศไทย

แบบนี้  ขอพาสปอร์ดต่างประเทศดีกว่าครับ
บันทึกการเข้า
stromman
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 526



« ตอบ #23 เมื่อ: 11-05-2007, 22:40 »

จะว่ากลียุคคงไม่ถึงขั้นนั้น แต่การที่ท่านนายกฯสุรยทธ ทำงานนี่ต่อให้ใส่เกียร์ 5 ก็วิ่งไม่ออกหรอกครับ ก็มันเป็นรถบรรทุกดินเกินน้ำหนัก วิ่งไงก็วิ่งไม่ออกครับ ขอให้ท่นเปลี่ยนเป็นเฟอรารี่ 400 แรงม้า เหยียบมิดเกตั้งแต่เกียร์ 1-6 แบบ 0-300 ใน 10 วินาทีจะได้มั๊ยครับ จะได้จัดการพวกขายชาติให้ได้ทันเวลา  ที่มีอยู่นี่ก็เหลือน้อยเต็มที

แล้วผมขอแย้งข้อความนี้ครับ  "ดูสิครับเอกชนรวยเอารวยเอา ชาวไร่ชาวนาชาวสวน จนเหมือนเดิม ถ้าใครบอกว่าทำอาชีพเกษตรไม่รวย ผมขอเถียงครับ ดูซีพี สิครับ รวยขนาดใหน ซีพี ไม่ได้รวยจากธุรกิจปิโตรเคมี (เจ๊งซะด้วยซ้ำไป) หรือเซเว่นอีเลเว่น หรือ TA นะครับ ซีพีรวยจากธุรกิจเกษตรครับ ธุรกิจเกษตรนี่แหละที่เป็นรากฐานค้ำจุนทุกธุรกิจที่ซีพีแตกไลน์ออกไปทำ "

ที่มันรวยก็เพราะมันเอาเปรีบยเกษตรกรไงครับ พืชมันก็ตัดต่อ DNA ให้เป็นหมัน เอาเมล็ดมาปลูกก็ไม่ขึ้น ขึ้นมาลูกก็แคระแกรน  ปลานิลก็เอามาแปลงเป็นปลาทับทิม ให้เป็นหมัน ลูกปลาก็ต้องซื้อกะมัน แล้วมันก็ให้ทำสัญญาผูกพัน ว่าต้องซื้ออาหารปลากะมัน จนกว่าจะถึงระยะที่ใกล้จะจับขาย ก็อีกแค่ไม่กี่วัน เลี้ยงไก่ก็เหมือนกัน ต้องไปซื้อลูกไก่กะมันแล้วมันก็ใช้วิธีเดียวกันบังคับซื้ออาหารสัตว์ ยิ่งพอมีไข้หวัดนกนะ มันก็ไปเลีย กิ๊กรุ่นแรกของรัฐบาลชุดที่แล้ว ให้เลี้ยงสัตว์ปีกในโรงเรือนปิด ไอ้บ้า เกษตรกรธรรมดาจะไปหาเงินที่ไหนมาลงทุนทำโรงเรื่อนแบบอีแว๊บ 3 โรงก็เข้าไป 10 ล้านแล้ว ถ้าทำไม่ได้ เดี๋ยวซีพีลงทุนให้ แต่ต้องทำตามกฎเดิมนะ บังคับซื้อทุกอย่าง มันประกันราคาให้แต่ หักแล้วเลี้ยง 3 เดือนยังไม่พอส่งค่าเทอมลูกเลย  กินใช้ในครัวก็หมดแล้ว แล้วมันยังไม่สำนึกคุณแผ่นดินไปร่วมมือกับทรราชหน้าเหลี่ยมโกงแผ่นดินเรื่องกล้ายางอีก ชั่วจิงๆ
บันทึกการเข้า
Body&Soul
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 370



« ตอบ #24 เมื่อ: 11-05-2007, 23:01 »

ขออนุญาตออกความเห็นบ้างนะครับ ในมุมมองของผม มันไม่ใช่การจะไปโทษใคร

ยกเว้นนักการเมืองชั่วๆที่ขาดจิตสำนึกและวิญญาณของความเป็นคน

สิ่งที่เกิดอยู่ในประเทศไทยขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นการเมือง การปกครอง และกฎหมาย

ที่หลายฝ่ายกำลังพยายามปฎิรูปอยู่เพื่อป้องกันไม่ให้มีโจรทางการเมือง มาปล้นประเทศอีก

นับว่าเป็นสิ่งที่ควรจะทำมานานแล้ว นิสัยคนไทย วัวหายแล้วค่อยมาล้อมคอก

ส่วนเรื่องเศรษฐกิจ ที่หลายๆคนมองว่ากำลังเลวร้าย ผมกลับมาว่าตอนที่ลดค่าเงินบาท

ในรัฐบาลบิ๊กจิ๋ว และมีการปิดไฟแนนซ์กว่า 50 แห่ง ตอนนั้นร้ายแรงยิ่งกว่า

ทุกระบบในการเงิน ถูกแช่แข็งหมด ผมอยากถามตัวเองเหมือนกันว่ามองโลกในแง่ดีเกินไปหรืออย่างไร

คำตอบก็คือ หากประชาชนคนไทย ไม่ร่วมใจกันแก้ปัญหา มัวแต่ด่าทอซ้ำเติม กล่าวโทษกันไปมา

เราคงไม่มีแผ่นดินที่จะเหยียบ และคงต้องหัดไปห้อยหัวอยู่บนต้นไม้ แบบนิทานเวตาล

ความเห็นของผมไม่ได้มีเจตนาขัดแย้งกับใคร เป็นแค่ความคิดเห็นจากใจ ของสมาชิกคนหนึ่งเท่านั้นเอง

บันทึกการเข้า
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #25 เมื่อ: 11-05-2007, 23:38 »

จะว่ากลียุคคงไม่ถึงขั้นนั้น แต่การที่ท่านนายกฯสุรยทธ ทำงานนี่ต่อให้ใส่เกียร์ 5 ก็วิ่งไม่ออกหรอกครับ ก็มันเป็นรถบรรทุกดินเกินน้ำหนัก วิ่งไงก็วิ่งไม่ออกครับ ขอให้ท่นเปลี่ยนเป็นเฟอรารี่ 400 แรงม้า เหยียบมิดเกตั้งแต่เกียร์ 1-6 แบบ 0-300 ใน 10 วินาทีจะได้มั๊ยครับ จะได้จัดการพวกขายชาติให้ได้ทันเวลา  ที่มีอยู่นี่ก็เหลือน้อยเต็มที

แล้วผมขอแย้งข้อความนี้ครับ  "ดูสิครับเอกชนรวยเอารวยเอา ชาวไร่ชาวนาชาวสวน จนเหมือนเดิม ถ้าใครบอกว่าทำอาชีพเกษตรไม่รวย ผมขอเถียงครับ ดูซีพี สิครับ รวยขนาดใหน ซีพี ไม่ได้รวยจากธุรกิจปิโตรเคมี (เจ๊งซะด้วยซ้ำไป) หรือเซเว่นอีเลเว่น หรือ TA นะครับ ซีพีรวยจากธุรกิจเกษตรครับ ธุรกิจเกษตรนี่แหละที่เป็นรากฐานค้ำจุนทุกธุรกิจที่ซีพีแตกไลน์ออกไปทำ "

ที่มันรวยก็เพราะมันเอาเปรีบยเกษตรกรไงครับ พืชมันก็ตัดต่อ DNA ให้เป็นหมัน เอาเมล็ดมาปลูกก็ไม่ขึ้น ขึ้นมาลูกก็แคระแกรน  ปลานิลก็เอามาแปลงเป็นปลาทับทิม ให้เป็นหมัน ลูกปลาก็ต้องซื้อกะมัน แล้วมันก็ให้ทำสัญญาผูกพัน ว่าต้องซื้ออาหารปลากะมัน จนกว่าจะถึงระยะที่ใกล้จะจับขาย ก็อีกแค่ไม่กี่วัน เลี้ยงไก่ก็เหมือนกัน ต้องไปซื้อลูกไก่กะมันแล้วมันก็ใช้วิธีเดียวกันบังคับซื้ออาหารสัตว์ ยิ่งพอมีไข้หวัดนกนะ มันก็ไปเลีย กิ๊กรุ่นแรกของรัฐบาลชุดที่แล้ว ให้เลี้ยงสัตว์ปีกในโรงเรือนปิด ไอ้บ้า เกษตรกรธรรมดาจะไปหาเงินที่ไหนมาลงทุนทำโรงเรื่อนแบบอีแว๊บ 3 โรงก็เข้าไป 10 ล้านแล้ว ถ้าทำไม่ได้ เดี๋ยวซีพีลงทุนให้ แต่ต้องทำตามกฎเดิมนะ บังคับซื้อทุกอย่าง มันประกันราคาให้แต่ หักแล้วเลี้ยง 3 เดือนยังไม่พอส่งค่าเทอมลูกเลย  กินใช้ในครัวก็หมดแล้ว แล้วมันยังไม่สำนึกคุณแผ่นดินไปร่วมมือกับทรราชหน้าเหลี่ยมโกงแผ่นดินเรื่องกล้ายางอีก ชั่วจิงๆ


เกษตรกร จะอยู่ได้ดี ต้องเป็นสังคมที่รวมตัวกันครับ จะตัวใครตัวมันไม่ได้ อย่างน้อยต้องพึ่งพาอาศัยกันได้ขั้นพื้นฐาน ในจังหวัดของตนเองก็ยังดีครับ..

ปัญหาสินค้าเกษตรไม่ได้ราคา ก็คงต้องทำไร่นาสวนผสมแทน แต่หากจะให้ท้องถิ่นเจริญ ต้องพยายามทำให้ครบวงจรให้ได้ในท้องถิ่นของตนเอง..ผลผลิตเหลือแล้วจึงนำออกขาย

อย่างน้อยก็ควรแปรรูปในเบื้องต้นได้ ซึ่งหากเป็นหนี้สิน แน่นอนมีผลผลิตเท่าไร รีบขายใช้หนี้หมด มิฉะนั้นก็เอาเงินมาใช้จ่ายโดยไม่เก็บออม..เกษตรกรยากจนจึงไม่ควรเป็นหนี้และไม่ควรมีลูกมากด้วยครับ

รัฐอาจจะต้องออกกฎหมายพิเศษเพื่อปกป้องเกษตรกร เช่น เรื่องหนี้สินเกษตรกร เรื่องสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่จะต้องจัดให้มีทุกครัวเรือน ขณะที่สิทธิพิเศษเหล่านั้นจะต้องมีการวางแผนครอบครับ มีบุตรไม่เกินจำนวนที่กำหนด

รัฐต้องส่งเสริมให้มีธนาคารของท้องถิ่น เพื่อท้องถิ่นโดยเฉพาะ  ฯลฯ


ท่านใดมีความรู้เรื่องการทำนา ทำสวน ทำไร่ เลี้ยงสัตว์ ฯลฯ เล่าให้ฟังบ้างครับ..
บันทึกการเข้า

ดอกฟ้ากับหมาวัด
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,042



« ตอบ #26 เมื่อ: 11-05-2007, 23:52 »

เท่าที่ทราบปัญหาใหญ่ของเกษตกร ในขณะนี้คือ ทำนา ไร่สวน

แบบไม่มีทิศทาง คือ หากผลิตผลใดขายได้ราคาในปีที่แล้วก็แห่กันปลูกจนล้นตลาด

ระบบการขนส่งที่ห่างไกลเมือง ขาดการดูแลเอาใจใส่จากภาครัฐ ถูกเอารัดเอาเปรียบ

จากฝ่ายปกครองส่วนท้องถิ่นทุกระดับ นับว่าสิ่งเหล่านี้ใคร จะมาแก้ไขได้ คงเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร
บันทึกการเข้า

***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ

      น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #27 เมื่อ: 12-05-2007, 00:07 »



เกษตรกรยุคใหม่จะต้องเป็นสังคมฐานความรู้เหมือนกัน หมายถึงว่าจะต้องมีความรู้ในการเพิ่มผลผลิต..

ไม่พึ่งเทคโนโลยีของต่างชาติที่มีราคาแพง โดยไม่หาสิ่งทดแทนในต้นทุนที่ต่ำกว่า คือ บ่อยครั้งไปเน้นความสะดวกสบายมากจนเกินไป

ยกตัวอย่างง่ายๆเช่น เกษตกรควรจะเป็นงานช่างทั่วไปด้วย  เครื่องจักรเครื่องทุ่นแรงเสียก็ต้องซ่อมเอง รู้วิธีบำรุงรักษา และราคาอะไหล่ แหล่งอะไหล่ที่ไม่แพง

มีความรู้ในการเพาะพันธ์ บำรุงพันธ์พืชพันธ์สัตว์เศรษฐกิจของท้องถิ่นเอง ซึ่งก็ต้องเป็นสังคมฐานความรู้  หากผลผลิตยังน้อยก็ไม่จำเป็นต้องส่งขายแก่อุตสหากรรมขนาดใหญ่นอกพื้นที่

ถึงแม้จะมีคนไปรับซื้อก็ตาม ควรแปรรูปเก็บไว้บริโภคเอง หรือขายกันเองในท้องถิ่น..



การสร้างอำนาจต่อรองของเกษตรกรในแต่ละท้องถิ่นอย่างมีเหตุมีผล เป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่ของรัฐประจำท้องถิ่นต้องให้ความสำคัญส่งเสริมในทุกด้านครับ
บันทึกการเข้า

ดอกฟ้ากับหมาวัด
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,042



« ตอบ #28 เมื่อ: 12-05-2007, 00:18 »

เป็นที่น่าเสียดาย ที่พวกเค้าไม่เคยมีอำนาจต่อรองใดๆจากพ่อค้าคนกลางเลย

และยิ่งขณะนี้มีกลุ่มนายทุนที่ผูกขาดมาจ้างให้ปลูกพืชผลิตผลให้แบบรับจ้าง ในที่ดินของตัวเอง

แต่ขณะเดียวกัน คนที่รับจ้างปลูกพืชนั้นๆ ต้องมีเงินทุนส่วนนึงที่มีปริมาณมากพอสมควร

นอกจากที่ดินทำกินที่มีอยู่แล้ว มองดูโดยภาพรวมก็คงนับว่าเป็นเรื่องดี แต่ถ้ามองระยะยาว

เราอาจมองได้ว่าเป็นระบบทุนนิยมแบบผูกขาดค่ะ
บันทึกการเข้า

***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ

      น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #29 เมื่อ: 12-05-2007, 00:29 »

เป็นที่น่าเสียดาย ที่พวกเค้าไม่เคยมีอำนาจต่อรองใดๆจากพ่อค้าคนกลางเลย

และยิ่งขณะนี้มีกลุ่มนายทุนที่ผูกขาดมาจ้างให้ปลูกพืชผลิตผลให้แบบรับจ้าง ในที่ดินของตัวเอง

แต่ขณะเดียวกัน คนที่รับจ้างปลูกพืชนั้นๆ ต้องมีเงินทุนส่วนนึงที่มีปริมาณมากพอสมควร

นอกจากที่ดินทำกินที่มีอยู่แล้ว มองดูโดยภาพรวมก็คงนับว่าเป็นเรื่องดี แต่ถ้ามองระยะยาว

เราอาจมองได้ว่าเป็นระบบทุนนิยมแบบผูกขาดค่ะ


น่าจะถึงเวลาที่จะต้องให้มีการเลือกตั้งผู้ว่า สมาชิกสภาเขตในแต่ละจังหวัด มีตำรวจท้องถิ่น ชาวบ้านจะได้ทราบว่าใครทำเพื่อเขา ใครทำให้เขาไม่เป็นหนี้ มีเงินเก็บออมได้จริง

เพราะสส. เป็นเรื่องระดับประเทศการโฟกัสปัญหาของท้องถิ่นโดยเฉพาะก็ทำได้ไม่ครบถ้วน โดยเฉพาะในด้านการพัฒนาถึงระดับเรียนรู้ ระดับทำมาหาเลี้ยงชีพเฉพาะบุคคล

มันต้องมีความใกล้ชิดประชาชนกว่าที่เป็นอยู่
แม้หน่วยราชการทั่วไปก็มักไปเน้นเรื่องการกำกับดูแลมากกว่าการพัฒนา..ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญ แต่โครงสร้างการบริหารจัดการต้องเอื้อด้วยครับ
บันทึกการเข้า

ดอกฟ้ากับหมาวัด
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,042



« ตอบ #30 เมื่อ: 12-05-2007, 00:41 »

มันต้องมีความใกล้ชิดประชาชนกว่าที่เป็นอยู่ แม้หน่วยราชการทั่วไปก็มักไปเน้นเรื่องการกำกับดูแลมากกว่าการพัฒนา..ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญ แต่โครงสร้างการบริหารจัดการต้องเอื้อด้วยครับ


ปัญหาใหญ่มันอยู่ตรงนี้สิคะ หากคนที่กำกับดูแลขาดจิตสำนึกในหน้าที่ทีพึงกระทำ

เราจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร สงสัยจริงๆ
บันทึกการเข้า

***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ

      น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #31 เมื่อ: 12-05-2007, 00:49 »


มันต้องมีความใกล้ชิดประชาชนกว่าที่เป็นอยู่ แม้หน่วยราชการทั่วไปก็มักไปเน้นเรื่องการกำกับดูแลมากกว่าการพัฒนา..ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญ แต่โครงสร้างการบริหารจัดการต้องเอื้อด้วยครับ


ปัญหาใหญ่มันอยู่ตรงนี้สิคะ หากคนที่กำกับดูแลขาดจิตสำนึกในหน้าที่ทีพึงกระทำ

เราจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร สงสัยจริงๆ




การเลือกตั้งของท้องถิ่น ในระดับจังหวัดน่าจะช่วยได้ แต่ก็ต้องกำหนดคุณสมบัติที่สำคัญของผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งไว้ด้วย

ตรงนี้อาจจะเปิดโอกาสให้สมาชิกสภาจังหวัด กำหนดกันได้ตามกรอบความต้องการของคนในจังหวัดเอง..

ที่สำคัญคนเหล่านั้นที่มาลงสมัครต้องมีทีมงาน ไม่ใช่ว่าชาวบ้านเลือกเพราะเขาไปร่วมงานแต่ง งานบวช งานศพ หรือให้เงินใช่วยเหลือทุกงาน

ต่างจังหวัดภาษีสังคม และไข้โป้งเยอะครับ....หาจังหวัดมีปัญหาแล้วไม่มีการแก้ไขที่ดี ครั้งต่อไปก็อย่าไปเลือกผู้สมัครคนนั้น ส่วนกลางมีหน้าที่อย่าให้มีการทำผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือฆ่ากันเอง

หรือข่มขู่ชาวบ้าน ฯลฯ           

                                                                                                                                                                                                                                
                                                                             
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-05-2007, 00:53 โดย ********Q******** » บันทึกการเข้า

ดอกฟ้ากับหมาวัด
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,042



« ตอบ #32 เมื่อ: 12-05-2007, 01:20 »



การเลือกตั้งของท้องถิ่น ในระดับจังหวัดน่าจะช่วยได้ แต่ก็ต้องกำหนดคุณสมบัติที่สำคัญของผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งไว้ด้วย

ตรงนี้อาจจะเปิดโอกาสให้สมาชิกสภาจังหวัด กำหนดกันได้ตามกรอบความต้องการของคนในจังหวัดเอง..


คนระดับล่าง ตาสีตาสา ทำตัวเป็นผู้ตามที่ดีค่ะ เพราะระบบอุปถัมภ์ ที่ไม่เคยห่างหายจากสังคมไทย



ที่สำคัญคนเหล่านั้นที่มาลงสมัครต้องมีทีมงาน ไม่ใช่ว่าชาวบ้านเลือกเพราะเขาไปร่วมงานแต่ง งานบวช งานศพ หรือให้เงินใช่วยเหลือทุกงาน



ประเพณีนิยมแบบนี้ยังเป็นที่ปฎิบัติ ยึดถือ และยังได้ผลเสมอ ในทางการเมืองระดับท้องถิ่นค่ะ


ต่างจังหวัดภาษีสังคม และไข้โป้งเยอะครับ....หาจังหวัดมีปัญหาแล้วไม่มีการแก้ไขที่ดี ครั้งต่อไปก็อย่าไปเลือกผู้สมัครคนนั้น ส่วนกลางมีหน้าที่อย่าให้มีการทำผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือฆ่ากันเอง

หรือข่มขู่ชาวบ้าน ฯลฯ           

                                                                                                                                                                                                                               



ปัญหาตรงนี้คงเป็นวัฒนธรรม ของการเมืองการปกครองส่วนท้องถิ่น

ที่กฎหมายไม่อยากเอื้อมมือเข้าไปแก้ไข เพราะทุกสิ่งอย่างมันโยงเข้าหากันเสมอ

                                                                             
บันทึกการเข้า

***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ

      น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #33 เมื่อ: 12-05-2007, 01:27 »




ถ้าหากคนในท้องถิ่นไม่พยายามแก้ไขช่วตัวเองเองทั้งที่มีโอกาส

ก็คงเจริญช้ากว่าท้องถิ่นอื่นๆ ที่ปรับตัวได้ดีกว่าครับ  มือกฎหมายถ้าไม่ปรับตัว ในที่สุดก็พังได้เหมือนกันครับ....

ตรงนี้คงไปกังวลแทนชาวบ้าน หรือผู้สมัครไม่ได้ ทำงานไม่ได้ผลก็ออกไป ไม่ออกไปจะเอาไว้ ท้องถิ่นก็ไม่เจริญเมื่อเทียบกับท้องถิ่นอื่นๆ   
บันทึกการเข้า

ดอกฟ้ากับหมาวัด
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,042



« ตอบ #34 เมื่อ: 12-05-2007, 01:34 »

สังคมชนบทเรียนรู้ช้ากว่าสังคมเมืองค่ะ

เพราะข่าวสารและการเรียนรู้ค่อนข้างแตกต่างกันจนน่าตกใจ

จนอดคิดไม่ได้ว่าเป็นเพราะความจงใจของฝ่ายการเมืองหรือไม่

เอ....เราพากระทู้นี้ ออกทะเลรึเปล่าเนี่ย
บันทึกการเข้า

***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ

      น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #35 เมื่อ: 12-05-2007, 01:44 »

สังคมชนบทเรียนรู้ช้ากว่าสังคมเมืองค่ะ

เพราะข่าวสารและการเรียนรู้ค่อนข้างแตกต่างกันจนน่าตกใจ

จนอดคิดไม่ได้ว่าเป็นเพราะความจงใจของฝ่ายการเมืองหรือไม่

เอ....เราพากระทู้นี้ ออกทะเลรึเปล่าเนี่ย


ตอนนี้ทีวีและวิทยุ ยังมีผลมาก แต่ก็มีการเปลี่ยนแปลง

เช่นเคเบิลทีวี นสพ. อินเตอร์เน็ต ได้รับความนิยมมากขึ้น

ท้องถิ่นก็ควรเปิดให้มีการศึกษาเอกชนเก็บค่าเล่าเรียนแพงหน่อย ควบคู่กับโรงเรียนของรัฐหรือท้องถิ่นเองครับ

อีกอันหนึ่ง ควรหันกลับมาปัดฝุ่นสร้างโรงเรียนอาชีวะดีๆ ให้หลักสูตรสอดคล้องกับสภาพแผนงานของแต่ละจังหวัดด้วยครับ

บันทึกการเข้า

ดอกฟ้ากับหมาวัด
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,042



« ตอบ #36 เมื่อ: 12-05-2007, 02:01 »

เอาว่าพรุ่งนี้ หากยังอยากคุยต่อเรื่องนี้ ดอกฟ้าฯ ว่าคุณคิวไปตั้งกระทู้ใหม่

จะเข้าไป ปุจฉา - วิสัชนา กันใหม่ ดีมั้ยคะ กระทู้ของคนอื่น เดี๋ยวเจ้าของกระทู้อาจไม่ชอบใจค่ะ
บันทึกการเข้า

***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ

      น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #37 เมื่อ: 12-05-2007, 02:06 »

เอาว่าพรุ่งนี้ หากยังอยากคุยต่อเรื่องนี้ ดอกฟ้าฯ ว่าคุณคิวไปตั้งกระทู้ใหม่

จะเข้าไป ปุจฉา - วิสัชนา กันใหม่ ดีมั้ยคะ กระทู้ของคนอื่น เดี๋ยวเจ้าของกระทู้อาจไม่ชอบใจค่ะ


ผู้ตั้งกระทู้ก็เข้ามาคุยได้เป็นปกติครับ หัวข้อกว้าง ก็อย่างนี้ ไม่ใช้กระทู้โหวต คงไม่เป็นไรหรอกครับ คุยกันสบายๆสไตล์ดอกฟ้า..
บันทึกการเข้า

ดอกฟ้ากับหมาวัด
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,042



« ตอบ #38 เมื่อ: 12-05-2007, 02:19 »

สิ่งที่อยากจะเชื่อมโยงประเด็น ให้เข้ากับกระทู้นี้ คือความเข้าใจของคนไทย

กับปัญหารากฐาน ชีวิตความเป็นอยู่ของคนในชนบท ที่ขาดการได้รับข่าวสารที่รวดเร็ว

และเท่าทันกับคนในเมือง เพราะดอกฟ้าฯเองได้สัมผัสและรับรู้้ ได้คลุกคลีและมีส่วนช่วยเหลือพวกเค้าบ้างเท่าที่ทำได้

 แต่ก็สุดปัญญาที่จะเป็นคนที่แก้ปัญหาให้พวกเค้าได้ทั้งหมด

เพราะเราไม่ได้มีอำนาจหรือหน้าที่ทางการเมือง ก็ได้แต่ปลงๆค่ะ
บันทึกการเข้า

***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ

      น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #39 เมื่อ: 12-05-2007, 08:34 »

ขออนุญาติ แสดงภูมิปัญญา อันน้อยนิดสักเล็กน้อย.........

ผมว่าตอนนี้คงยังไม่ใช่กลียุค หรอกครับ........ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมือง หรือ เศรษฐกิจ

ในทางการเมือง.......หากรัฐบาลไม่หน่อมแน้ม ไม่ขี้เกียจ ทำงานให้มากขึ้น สนับสนุน คณะผู้ตรวจสอบมากขึ้น บรรดาคลื่นใต้น้ำ ที่ เปลี่ยนมาอยู่บนน้ำ ก็จะเงียบหายไปเอง ..... ตอนนี้ก็เห็นๆ กัน อยู่ ว่าการปลุกปั่นจะล้มเหลว ...ผู้เข้าร่วมชุมนุม ก็จุ๋มจิ๋ม .......เชื่อผมเถอะครับ หากบรรดา คดีความต่าง ๆ ขึ้นสู่ศาล ...ท่อน้ำเลี้ยงก็จะถูกตัดโดยคนจ่ายเงิน เพราะเมื่อเรื่องขึ้นสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร ที่จะไปสร้างความวุ่นวาย สู้เก็บเงินไว้สู้คดี ไม่ดีกว่ารึ.........คนอย่างท่านเทพฯ ที่ได้ชื่อว่า เป็นเศรษฐีขี้เหนียว ถึง ขี้เหนียว มาก ไม่มีทางจ่ายแม้ก็ทั่งเศษเงิน เพียงแค่ให้คนมาเห่าหอนเชียร์ตัวเอง ด่าตรงข้าม โดยไม่มีประโยชน์อะไรหรอก

ในทางเศรษฐกิจ.....อย่ามองกันในแง่ร้ายเกินไปครับ.....ตอนปี 40 เศรษฐกิจ สาหัส ยิ่งกว่านี้หลายเท่า....ขนาดที่มีการพูดกันว่า แบ็งค์ไทย กำลังจะกลายแบ็งค์กงเต๊ก เรายังเอาตัวรอดกันมาได้.........หลังจากที่มีการเลือกตั้ง ทุกอย่างจะค่อย ๆ ดีขึ้นเองครับ

ตอนปี 40 ........มันเป็นวิกฤติ ที่ผมขอเรียกว่า "วิกฤติของผู้ผลิต" ......เพราะมันไปกระทบโดยตรงกับผู้ผลิต..การขอสินเชื่อยากกว่าตอนนี้ครับ....ยังไม่พอ...คนมีสินเชื่อ มีวงเงินอยู่แล้ว ก็ยังโดนลด โดนตัด .....บอกตามตรง ตอนนั้นผมไม่เห็นหนทาง.....หลังปี 40.... 1-2 ปี เริ่มโงหัวขึ้น ก็โดน ท่านเทพฯ มาทุบลงมาจนเป็นอย่างทุกวันนี้อีก ด้วยการหลอกให้คนเชื่อว่า เราจะกลับมารุ่งเรื่องเหมือนยุคฟองสบู่ .....หลอกให้ชาวบ้านไปกู้หนี้ยืมสิน แล้วก็ ไปกู้อีก กู้อีก เอาเงินกู้ก้อนใหม่ที่ใหญ่กว่าเก่า ไปโปะก้อนเก่าที่เล็กกว่า แต่รวมดอกเบี้ยเข้าไปด้วย.....ในขณะที่ ปี 40 เหล่ารากแก้ว แทบไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย

ปัจจุบัน เป็นวิกฤติรากแก้ว ที่ผมขอใช้ คำว่า "วิกฤตของผู้บริโภค" .....เป็นการเกิดขึ้นอีกด้านของเศรษฐกิจ....เป็นลักษณะของการซึม
ผมเคยคิดว่า มันน่าจะแก้ยากกว่า ตอนปี 40 .......ช่วงสงกรานต์ ผมได้มีโอกาสไปเดินเล่น แถว ๆ อีสาน  มีโอกาสไปคุยกับบรรดาชาวบ้าน เป็นชั่วโมง ๆ.......จึงได้เข้าใจ ว่า ที่แท้ โดยวัฒนธรรมความเป็นอยู่และแนวคิดของคนเหล่านั้นแล้ว เศรษฐกิจไม่น่าจะแก้ยากอย่างที่ผมเข้าใจ....ก่อนหน้านี้ผมลืมไป ว่า คนเหล่านี้ส่วนใหญ่ เป็นหนี้มาแล้วตลอดชีวิต .......ครั้งนี้ ก็แค่หนี้เพิ่มขึ้นมา ..ไม่ได้มีความหมายอะไร ช่วงนี้ ก็แค่หยุดใช้เงิน ปรับตัว ปรับใจ ปรับระบบเล็กน้อย ...เด๋วก็ออกมาใช้เงินได้ตามปรกติ....เมื่อคนเหล่านี้ ที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ เริ่มใช้เงิน เศรษฐกิจ ก็จะเคลื่อนต่อ ประกอบกับเมื่อมีรัฐบาลใหม่หลังเลือกตั้ง การจัดสรรงบประมาณ จะเริ่มเข้าที่เข้าทาง มีเม็ดเงินเข้าไปในตลาด.......

ปี 40......" มีออร์เดอร์ ของขายได้ ....ส่งของแล้วเก็บตังไม่ได้ ทุนหายกำไรหด "
ปัจจุบัน   " ของขายไม่ได้ ......ไม่ได้เก็บตัง ....ไม่โดนชักดาบ"(ขณะที่คนยังไม่ลืมวิกฤติปี 40 นั่นหมายถึง มีการเตรียมรับสถานการณ์กันไว้แล้ว)

ถือว่า ช่วงนี้เป็นช่วงปรับตัวก็แล้วกันครับ  เพื่อเข้าสู่ "เศรษฐกิจพอเพียง" หลังจากฟุ้งเฟ้อกันมา 5 ปีกว่า ๆ
แถมอีกนิดครับ........เรื่องการส่งออก หากเดือนนี้และเดือนต่อ ๆ ไป ยังเกินดุลย์อีก ถือเป็นสัญญานที่ดีครับ...เพราะ ถือว่ามีการปรับตัว ปรับราคากันเรียบร้อยแล้ว ไม่ใช่ออเดอร์เก่า......ผมมีประสพการณ์ตรงครับ...ตอนนี้ลูกค้าผมแฮ๊ปปี แล้วหลังจาก เซ็ง ๆ มา 3-4 เดือน เพราะการแข็งค่าของเงินบาท....อีกอย่างหลังจากที่ได้คุยกับชาวบ้าน ผมถึงได้รู้ว่า ราคาข้างเหนียว ปีนี้ 12,000 บาท ในขณะที่ปีที่แล้ว 8,000 บาท ไม่เลวทีเดียวครับ

ผมก็มีสมองเพียงแค่นี้แหละครับ.......เขียนด้วยภาษาง่าย ๆ .....




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-05-2007, 09:13 โดย 55555 » บันทึกการเข้า
ไผ่ตง
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4


« ตอบ #40 เมื่อ: 12-05-2007, 08:52 »

มันเป็นวัฏจักร ตามจักรราศี หมุนเวียนเปลี่ยนกันไป มีขึ้นแล้วก็มีลง ก็เหมือนกับการรับราชการน่ะแหละ เมื่อถึงกำหนดอายุก็ต้องเกษียณฯ
ประเด็นเรื่องเศรษฐกิจคงจุดไม่ติดแล้ว เนื่องจากกู่ไม่กลับแล้วในการรัฐประหารครั้งนี้ คงจะพอหวังได้อย่างริบหรี่ก็ประเด็นสังคม ที่คณะผู้นำต้องการให้เป็นแบบพอเพียงและมีคุณธรรม+จริยธรรม ซึ่งเป็นประเด็นที่ใช้ในการทำรัฐฯครั้งนี้ ตั้งแต่ ปธ.องค์ฯ,คมช.,นายกฯ และพวกลูกหาบฯ  ป่าวร้องตะโกนโฆษณาชวนเชื่อกันน่าดู ว่าเป็นยาขนานวิเศษ จะทำให้ประเทศชาติสงบสุขได้...แล้วเป็นงัยล่ะ???? ทั่นที่ชื่นชมการรัฐฯในตอนแรกคงเข้าใจแล้วสินะ...
โบราณกล่าวไว้ยังใช้ได้ Forever "กัมมุนา วัตตะตี โลโก" (สัตว์โลก ย่อมเป็นไปตามกรรม).....สาธุ...สยามประเทศไทย..

บันทึกการเข้า
buntoshi
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,348



« ตอบ #41 เมื่อ: 12-05-2007, 09:50 »

ผมต้องขอบคุณ คุณ tarnold  ที่เข้ามาเปิดประเด็นดีๆ แบบนี้ ทำให้ ผมได้เปิดหู เปิดตา กับ บทความที่ยอดเยี่ยมของหลายๆ ท่าน 

ส่วนตัวผมยังเห็นว่า ประชาชน คนส่วนใหญ่ของประเทศไทยนั้น เป็นเกษตรกร และ ผู้ใช้แรงงานนะครับ คนเหล่านี้ส่วนใหญ่ จะรายได้ไม่มากครับ แต่ถ้ารัฐบาลทำให้เค้าอยู่ได้ ไม่โดยเอารัดเอาเปรียบ เศรษฐกิจไทย ก็จะไม่เกิด ปัญหาอย่างทุกวันนี้

ในช่วงเศรษฐกิจแย่แบบนี้ แต่ก็มีคนรวยครับ ลองคิดดูแล้วกัน มันเหมือน ต้องทำร้าย หรือ เอารัดเอาเปรียบ คน 10000 คน เพื่อที่จะให้ คนรวย แค่ คนสองคน
แล้วประเทศชาติจะอยู่ได้อย่างไร

แล้วคนพวกนี้ จะถูกเอารัดเอาเปรียบอยู่ตลอดเวลา ถูกหลอกลวง เพื่อผลประโยชน์ของคนบางกลุ่ม

ถ้าเห็นความสำคัญของคนเหล่านี้ มากกว่า ที่เป็นอยู่ แล้ว สร้างมาตรฐาน จริยธรรมทางสังคม ให้รู้จัก ขยัน อดทน ไม่ทำความชั่ว อยู่ในความพอเพียง ประเทศชาติ จะดีขึ้นกว่านี้ อย่างเห็นได้ชัดครับ

ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ว่า ทำไมประเทศนู้นประเทศนี้ ดีกว่า รวยกว่า ต่อไป ประเทศใหน ที่ปลอดภัย สิ่งแวดล้อมดีกว่า ไม่เกิดภัยธรรมชาติ ประเทศนั้น จะเป็นประเทศที่น่าอิจฉาที่สุดในโลกครับ
บันทึกการเข้า


เราต้องสร้างคนดีมากกว่าคนเก่ง เพราะคนเก่งจะเห็นคนอื่นเก่งกว่าไม่ได้ จะพยายามเก่งกว่าคนอื่น แต่คนดีจะมีความสุขที่ได้ทำให้คนอื่นเก่ง รวมทั้งคนดีทุกคน ล้วนเก่งทั้งนั้น....  ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา
---------------------------
visitna
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 209



« ตอบ #42 เมื่อ: 12-05-2007, 10:13 »

ไม่ใช่มาหาเรื่องด่าหน้าเหลี่ยม
ตั้งแต่คนนี้เข้ามาบ้านเมืองยุ่งเหยิง
มากขึ้นตลอด  ปัญหาภาคใต้  ปัญหาจริยธรรม
จิปาถะ  คนเดียวมันก่อได้ตลอด  ชั่วจริงๆ
บันทึกการเข้า
นายเกตุ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,289



« ตอบ #43 เมื่อ: 12-05-2007, 10:52 »

การที่เรามีนักการเมืองเลือดชั่วๆมาก ก็เพราะมันเป็นเพราะนิสัยคนไทยไม่ดีไม่รู้จักเลือกจักคิดชอบให้เขาจูงจมูก... ชอบให้เขามาประเคนให้.....

การที่บ้านเราเศรษฐกิจไม่ดี ก็เพราะมันเป็นที่นิสัยคนไทยไม่รู้จักพอเพียง.... ชอบให้เขามาประเคนให้......

เฮ้อ.....คนไทยนี่นิสัยมันแย่จริงๆเลยเนอะ

ส่วนคำถามที่ว่าเมืองไทยถึงยุคกลียุคหรือยัง

ถ้าหากว่าคนไทยยังมีนิสัยแย่ๆแบบข้างต้นก็ต้องเตรียมใจไว้ได้เลยครับ เพราะคนไทยชอบเป็นจิ้งหรีดให้พวกนักการเมืองปั่นเล่นอยู่แล้ว
บันทึกการเข้า
อังศนา
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,860


Can't fight the moonlight!


เว็บไซต์
« ตอบ #44 เมื่อ: 12-05-2007, 12:06 »

ข้าพเจ้ามีความเห็นคล้ายหลายท่านที่ว่า เมืองไทยยังไม่ถึงกลียุค 
(จากความรู้สึกของคนที่ไม่มีความรู้เรื่องเศรษฐกิจมากมายนัก)

..ปัญหาของรัฐบาลขิงเฒ่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ แบบที่เรียกกันว่าเกียร์ว่าง
ข้าพเจ้าเห็นว่าเป็นเพราะท่านสุรยุทธ์เลือกคนไม่มีฝีมือมาเป็นเสนาบดี
เท่าที่เห็นส่วนใหญ่เป็น ขรก เก่าเกือบทั้งนั้น แถมอายุก็ปูนนั้นอะนะ
ความคล่องตัว ความกล้าตัดสินใจ ความคิดริเริ่ม มีไม่เพียงพอแน่นอน
แถมยังติดท่าทีการทำงานแบบเดิมๆ อีกด้วย

ขอยกตัวอย่างกระทรวงนึง ตะก่อนอยู่ท่าเตียน ตอนนี้ย้ายไปเมืองนนท์
เป็นกระทรวงที่ ขรก ไม่แสวงโอกาสสำแดงวิสัยทัศน์เลยเพราะมัวโอนอ่อน
ผ่อนตามนักการเมืองที่มาเป็น รมว มาทุกยุคทุกสมัย  ยุคใดโชคดีได้ รมว ดี
งานก็จะไปด้วยดี แต่ถ้าได้ รมว เลว ก็อย่าเลยหวังว่าจะมี ขรก หน้าไหนกล้า
สวนกระแส ..ยากสส์!

หรือถ้ามีคนกล้างัดกับ รมว ..ก็จะเกิดกรณีที่ รมว ปัจจุบันเคยเจอมา
แต่ก็นั่นแหละ อดีต ขรก ท่านนั้น พอมายืนในตำแหน่งที่ต้องกำหนดนโยบาย
ท่านกลับไม่ทำหน้าที่ที่ผู้คนคาดหวังว่าท่านจะทำ ท่านยังยึดติดวิธีการทำงาน
แบบเดิมๆ เหมือนตอนที่เป็น ขรก  แถมยังไม่สามารถทำอะไรได้เต็มที่ เพราะคน
ฝักใฝ่เหลี่ยมก็ยังมีอยู่เกลื่อนกระทรวง

..นี่มองแค่กระทรวงเดียวยังสิ้นหวังขนาดนี้ มันก็สมควรอยู่หรอกที่ผู้คนจะพากันก่นด่า 
ครม ท่านสุรยุทธ์  ข้าพเจ้าได้แต่เสียดายว่าถ้าได้ ครม ปิ๊งๆ เมืองไทยคงไปได้สวยกว่านี้
และคงไม่สร้างความกังขาให้ผู้คนว่ามันถึงกลียุคแล้วหรือไรอย่างกระทู้นี้

บันทึกการเข้า

แม้ผืนฟ้า มืดดับ เดือนลับละลาย 
ดาวยังพราย ศรัทธา เย้ยฟ้าดิน (จิตร ภูมิศักดิ์)
ลูกหินฮะ๛
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,099


เสียเข็มขัด อย่าเสียกุงเกง


« ตอบ #45 เมื่อ: 12-05-2007, 14:58 »



ยังม่ายถึง "กลียุค" ดอกฮะ
คิดเหมือน ป๊าอังศนา ฮะ


แต่ถ้า  "กุลียุค" หน่ะ ใช่!
(ช่วงนี้ กำลังจัดจ้าง..กุลี มาเป็นม๊อบ...หุหุ)
 
บันทึกการเข้า

  ... ... ... 
หน้า: [1]
    กระโดดไป: