และแล้วก็ฟ้องทักษิณ 1 คดีนับเป็นสิ่งเริ่มต้นที่ดีซักที 1 คดีเอาให้ติดคุกนานๆ

[RONALDO]

นายอุดม เฟื่องฟุ้ง กรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีการซื้อขายที่ดินย่านรัชดาภิเษกของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าววันนี้ (9 พ.ค.) ว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการไต่สวนฯ ได้สรุปสำนวนผลการไต่สวนเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยมีมติให้ส่งสำนวนฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน มีความผิดตามกฎหมาย ป.ป.ช.มาตรา 100 (1) ต่อที่ประชุม คตส.ชุดใหญ่ในวันจันทร์ที่ 14 พฤษภาคม พร้อมทั้งเสนอให้ใช้มาตรา 33 ของกฎหมายอาญา เพื่อให้ศาลสั่งริบทรัพย์สินที่ได้มาโดยมิชอบ รวมถึงเงินที่ใช้ในการซื้อที่ดินดังกล่าวจำนวน 772 ล้านบาท เนื่องจากคำแก้ข้อกล่าวหาของผู้ถูกกล่าวหาไม่สามารถหักล้างเหตุผลและข้อกฎหมายที่ คตส. ยกมากล่าวอ้างได้ ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาได้ยอมรับแล้วว่า มีการซื้อที่ดินแปลงดังกล่าวจริง



นายอุดม กล่าวว่า ส่วนที่ประชุม คตส.ชุดใหญ่จะเห็นด้วยกับอนุกรรมการฯ หรือไม่ ต้องรอดูในการประชุมวันดังกล่าว หากเห็นชอบด้วยก็สามารถส่งสำนวนให้อัยการได้ภายใน 1 สัปดาห์ เพราะต้องจัดทำเอกสารสรุปสำนวนประมาณ 66 แผ่น และมีเอกสารประกอบ 7-8 แฟ้ม หนาประมาณ 1,000 หน้า ซึ่งต้องถ่ายสำเนาถึง 10 ชุด เพื่อส่งให้กับอัยการ โดยอัยการจะต้องส่งให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองดำเนินคดี โดยศาลฎีกาจะต้องตั้งองค์คณะขึ้นมาพิจารณาว่า จะรับสำนวนของอัยการไว้ไต่สวนหรือไม่ ซึ่งในวันที่ศาลฎีการับไว้ไต่สวน พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ไม่จำเป็นต้องมาปรากฏตัวต่อศาลก็สามารถดำเนินการฟ้องได้ จนกว่าศาลจะพิจารณาเห็นว่ามี มูลจึงต้องเรียกตัวบุคคลทั้งสองมา

++++++++++++++++++++++++++++++++

อยากให้ศาลไต่สวนและตัดสินแบบฉุกเฉินจังเลยครับ จะได้รวดเร็วทันใจ ไมต้องรอนาน ผิดไม่ผิด คุกไม่คุกจะได้รู้กันไป เพราะความผิดมันเห็นๆกันอยู่

[(ก้อนหิน) ละเมอ]

ใจเย็นๆ ก็แค่คดีแรก

[Scorpio6]

อย่างน้อยก็เริ่มนับ หนึ่ง...ครับ
หวังว่าคงเดินต่อเนื่องแบบไม่สะดุดตอหรือขาตัวเองก่อน
จะได้มี  คนทำงานเต็มเวลา  จริงๆจังๆซะที
คนผิดก็จะได้รับโทษกันตามกรรม

[login not found]

555 อัยการเมืองไทยเก่งอยู่แล้วครับ
อย่างคดียุบพรรค อ่านคืนเดียวก็สั่งฟ้องได้แล้ว
นี่แค่1000หน้าแค่จิบกาแฟซํกแก้วก็อ่านจบได้ฟ้องทันใจแน่

[Scorpio6]

555 อัยการเมืองไทยเก่งอยู่แล้วครับ
อย่างคดียุบพรรค อ่านคืนเดียวก็สั่งฟ้องได้แล้ว
นี่แค่1000หน้าแค่จิบกาแฟซํกแก้วก็อ่านจบได้ฟ้องทันใจแน่

       

[พรรณชมพู]

ช้าช้า ได้พร้าเล่มงาม ค่ะ

ระยะเวลาเจ็ดเดือนกว่าๆ กับคดีโกงชาติบ้านเมือง ที่ต้องอาศัยการตรวจหาหลักฐาน ที่ถูกอำนาจมืดทำลายไปมากมาย นับว่าใช้เวลาได้คุ้มค่าแล้วค่ะ ทุกคดีจะทยอยขึ้นสู่ศาล และลิ่วล้อที่คอยร้องตะโกนว่าป่านนี้ยังเอาผิดไม่ได้  มันจะต้องเปลี่ยนใหม่ไปร้องคำว่า ถูกรังแกๆๆๆๆ

คดีที่ดินรัชดา ผิดแน่นอนโดยไม่ต้องไปดูถึงมูลค่าการซื้อขาย มันผิดตั้งแต่คู่สมรสของนายกรัฐมนตรีที่ยังอยู่ในตำแหน่ง เข้าเป็นคู่สัญญากับรัฐแล้วค่ะ ส่วนจุดที่เหลือว่าใช้อำนาจเบียดบังเงินที่ต้องเข้ารีฐไปเท่าไหร่ ไปว่ากันในศาล

ยังมีอีกหลายคดีค่ะ อย่างเช่นกล้ายาง โดนทั้ง ครม.ทักษิณ เลย  

[ปุถุชน]

ใจเย็นๆ ก็แค่คดีแรก

ใจเย็น ๆ.........
รถด่วนสายเหนือนี้มีชื่อว่า "เหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก" เป็นที่ระลึก
คนไทยกลุ่มหนึ่งเห็น"น้ำมิตร"ของพวกสิงกะโปโตกมากกว่าคนไทย
มี'โบกี้'เป็นพรวน..................ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


คนรักเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตกใจเย็นกว่าอีก
พวกเขาตกลงกันว่า 'รอ'ให้ศาลพิพากษาแล้ว
ค่อย"ตื่นเต้นตกใจ"..........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

[โฟร์]

ต้องเเถว่า  เมียก็ส่วนเมีย  ผัวก็ส่วนผัว ไม่เกี่ยวกัน

อ่านมาจากคำเเถยอดฮิต

[มด 5.11]

 
ที่ผ่านมาตั้งครึ่งค่อนปี ไม่ใช่ไม่มีปัญญาเอาผิดทักษิณนะ
ยังไม่ได้ฟ้องต่างหาก มิน่าล่ะ มีแต่ รอก่อนสิครับ รอก่อนสิคะ รอ ร๊อ รอ... อิอิ
ที่สุดของการแถของพวกไร้น้ำยา 55555

ก็รู้ๆอยู่ ว่าเต็มที่ก็ได้แค่ ปรับเงิน
แต่ตั้งหัวข้อกระทู้ให้มี  ติดคุก ให้พวกขี้แพ้ได้แถเชียร์ ซักวันสองวันก็ยังดี

[Nai_puan]

หลักการตามขั้นตอน และเหตุผลง่ายๆ  อนุฯคตส.แกล้งทำเป็นไม่เข้าใจ?

ขั้นตอนแรก ผู้ที่เข้าร่วมเสนอราคา  จะต้องยื่นเอกสารประกอบ ให้คณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูฯพิจารณาตรวจสอบ

ว่ามีคุณสมบัติครบถ้วนตามข้อกำหนด และถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่?

ถ้าคณะกรรมการกองทุนฯ ตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว และยินยอมให้มีการพิจารณาราคาที่เสนอ ซึ่งเป็นขั้นตอนถัดไป

ก็เท่ากับว่า คณะกรรมการกองทุนฯ ได้รับรองความถูกต้อง ว่าเป็นผู้มีสิทธิที่จะเสนอราคา

แม้กระทั่งก่อนการลงนามในสัญญาซื้อขาย  ก็ต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติและสิทธิการเป็นคู่สัญญากับภาครัฐฯ โดยละเอียดอีกครั้ง


ผู้เสนอราคา และลงนามสัญญากับภาครัฐฯ  ย่อมจะมีความผิดก็ต่อเมื่อ

1. เจตนายื่นเอกสารอันเป็นเท็จให้กับ คณะกรรมการกองทุนฯ  ทำให้การพิจารณารับรองสิทธินั้น ผิดพลาดคลาดเคลื่อน

2. สมรู้ร่วมคิดหรือให้อามิสสินจ้าง กับบุคคลใดๆในคณะกรรมการกองทุนฯ  จนทำให้การพิจารณารับรองสิทธินั้น เป็นไปโดยไม่ชอบธรรม


ในกรณีที่ดินรัชดานี้  ผู้เสนอราคา/คู่สัญญากับภาครัฐฯ ไม่ได้มีความผิดตามข้อ 1

และการตรวจสอบความผิดในข้อ 2  ก็ไม่พบความผิดปรกติใดๆ

เท่ากับว่า คณะกรรมการกองทุนฯซึ่งเป็นตัวแทนภาครัฐฯ ได้รับรองสิทธิและความถูกต้องของคู่สัญญาโดยชอบธรรม

และทางคณะกรรมการฯ ก็ได้ยืนยันความถูกต้องนี้มาโดยตลอด ทั้งการให้ปากคำต่ออนุฯคตส. และต่อสาธารณชน


ถ้า คตส.จะมีมุมมองทางกฎหมายที่แตกต่างจากคณะกรรมการกองทุนฯ

ตามขั้นตอนที่ถูกต้อง  ก็ต้องตั้งข้อกล่าวหากับคณะกรรมการกองทุนฯก่อน  ว่าเป็นการรับรองสิทธิของคู่สัญญาอย่างไม่ถูกต้อง

แต่จนถึงปัจจุบัน คตส. ก็ยังไม่สามารถตั้งข้อกล่าวหาใดๆ ต่อคณะกรรมการกองทุนฯ


คตส.เองก็น่าจะรู้ตัว ว่ามีโอกาสแพ้คดีมีสูง   ก็คงต้องรอดูกันต่อไป

[ล้างโคตรทักษิณ]

พอแพ้ ก็จะมาร้องแรกแห.กกระเชอด่าศาล ว่า ไม่ยุติธรรม ไม่เป้นกลาง ที่ตัดสินให้ โคตรพ่อ นายป่วน ผิด

[RONALDO]

คุญ ปุถุชนพูดมีเหตุผล ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาครับ รู้ตัวอีกที ไปนอนคุกแล้วนั่นแหละ ร้องไห้โฮ

ความรู้สึกช้านะครับลิ่วล้อเหลี่ยมเนี่ย

[พรรณชมพู]

หลักการตามขั้นตอน และเหตุผลง่ายๆ  อนุฯคตส.แกล้งทำเป็นไม่เข้าใจ?

ขั้นตอนแรก ผู้ที่เข้าร่วมเสนอราคา  จะต้องยื่นเอกสารประกอบ ให้คณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูฯพิจารณาตรวจสอบ

ว่ามีคุณสมบัติครบถ้วนตามข้อกำหนด และถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่?

ถ้าคณะกรรมการกองทุนฯ ตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว และยินยอมให้มีการพิจารณาราคาที่เสนอ ซึ่งเป็นขั้นตอนถัดไป

ก็เท่ากับว่า คณะกรรมการกองทุนฯ ได้รับรองความถูกต้อง ว่าเป็นผู้มีสิทธิที่จะเสนอราคา

แม้กระทั่งก่อนการลงนามในสัญญาซื้อขาย  ก็ต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติและสิทธิการเป็นคู่สัญญากับภาครัฐฯ โดยละเอียดอีกครั้ง


ผู้เสนอราคา และลงนามสัญญากับภาครัฐฯ  ย่อมจะมีความผิดก็ต่อเมื่อ

1. เจตนายื่นเอกสารอันเป็นเท็จให้กับ คณะกรรมการกองทุนฯ  ทำให้การพิจารณารับรองสิทธินั้น ผิดพลาดคลาดเคลื่อน

2. สมรู้ร่วมคิดหรือให้อามิสสินจ้าง กับบุคคลใดๆในคณะกรรมการกองทุนฯ  จนทำให้การพิจารณารับรองสิทธินั้น เป็นไปโดยไม่ชอบธรรม


ในกรณีที่ดินรัชดานี้  ผู้เสนอราคา/คู่สัญญากับภาครัฐฯ ไม่ได้มีความผิดตามข้อ 1

และการตรวจสอบความผิดในข้อ 2  ก็ไม่พบความผิดปรกติใดๆ

เท่ากับว่า คณะกรรมการกองทุนฯซึ่งเป็นตัวแทนภาครัฐฯ ได้รับรองสิทธิและความถูกต้องของคู่สัญญาโดยชอบธรรม

และทางคณะกรรมการฯ ก็ได้ยืนยันความถูกต้องนี้มาโดยตลอด ทั้งการให้ปากคำต่ออนุฯคตส. และต่อสาธารณชน


ถ้า คตส.จะมีมุมมองทางกฎหมายที่แตกต่างจากคณะกรรมการกองทุนฯ

ตามขั้นตอนที่ถูกต้อง  ก็ต้องตั้งข้อกล่าวหากับคณะกรรมการกองทุนฯก่อน  ว่าเป็นการรับรองสิทธิของคู่สัญญาอย่างไม่ถูกต้อง

แต่จนถึงปัจจุบัน คตส. ก็ยังไม่สามารถตั้งข้อกล่าวหาใดๆ ต่อคณะกรรมการกองทุนฯ


คตส.เองก็น่าจะรู้ตัว ว่ามีโอกาสแพ้คดีมีสูง   ก็คงต้องรอดูกันต่อไป

โถๆๆๆ ปลอบใจตัวเองด้วยเหตุผลโมเมได้น่าประทับใจค่ะ

คดีนี้มองๆไปก็คล้ายๆกับคดีที่ดินพระพยอม ที่กรมที่ดินซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ยินยอมให้ทำนิติกรรมในการโอนที่ดิน และในภายหลังศาลตัดสินให้คืนที่ดินแก่เจ้าของเดิมไป โดยที่กรมที่ดินก็ไม่ผิดอะไร เพราะการทำตามหน้าที่ ไม่ได้หมายความว่าจะต้องถูกต้องไปเสียทุกเรื่อง กฎย่อมีข้อยกเว้น

เรื่องที่ดินรัชดาก็แบบนี้แหละค่ะ กรรมการเขาพิจารณาในแง่มุมหนึ่ง แต่ไม่ได้หมายความว่าคณะกรรมการทำอะไรแล้ว จะต้องถูกกฎหมายไปเสียทั้งหมด

ดังนั้น คณะกรรมการก็คงจะรอดไปเหมือนกรมที่ดิน เอาผิดไม่ได้หรอกค่ะ

โจรมันใช้วิธีพลิกแพลงหลอกเจ้าหน้าที่ เมื่อจับได้ไล่ทัน ก็เอาโจรไปติดคุก และอบรมเจ้าหน้าที่ใหม่ ว่าคราวหลังอย่าเสียรู้โจร

แต่ยังไง นังโจร ก็ติดคุกอยู่ดีนั่นแหละค่าาาาา   

[Nai_puan]

คุณพรรณชมพู  ยกคดีมาเปรียบเทียบ ไม่ได้ใกล้เคียงเลยครับ


คดีที่ดินพระพยอม เป็นปัญหาเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดินทับซ้อน  จึงยื่นให้ศาลพิจารณาตัดสินชี้ขาดในกรรมสิทธิ์

ไม่ใช่กรณีจะฟ้องเอาผิดพระพยอม หรือคู่กรณี

หลังจากตัดสินแล้ว จะมีการฟ้องร้องต่อกรมที่ดินหรือไม่?  ก็อยู่ที่ผู้เสียหายคือพระพยอม


กรณีที่ดินรัชดา ถ้าจะเปรียบเทียบ  ผมขอยกตัวอย่างดังนี้

สมมุตว่า สามีเพื่อนสนิทคุณ เป็นข้าราชการระดับสูงผู้หนึ่ง

และเพื่อนคุณ สนใจที่จะเข้าประมูลทรัพย์สินของหน่วยงานรัฐฯ หน่วยงานหนึ่ง แต่ไม่แน่ใจในเรื่องข้อกฎหมาย

เมื่อเพื่อนคุณได้สอบถาม กับทางคณะกรรมการฯที่ดูแลหน่วยงานนั้น ถึงสิทธิในการเข้าประมูล

ทางคณะกรรมการฯ ได้ยืนยันกับเพื่อนคุณว่า  สามารถเข้าประมูลได้โดยไม่ผิดกฎหมาย

เนื่องจากสามีเพื่อนคุณ ที่เป็นข้าราชการระดับระดับสูง  ไม่มีอำนาจกำกับดูแลฯหน่วยงานนี้  จึงไม่ผิดข้อห้ามตามกฎหมาย ปปช.

เพื่อนคุณจึงได้เข้าประมูล และทำสัญญาซื้อขายกันโดยเรียบร้อย

ต่อมาเมื่อมีการร้องเรียน และมีหน่วยงานอื่นเข้ามาตรวจสอบ  และมีมุมมองทางกฎหมายที่แตกต่าง

ที่เห็นว่าเพื่อนคุณไม่มีสิทธิยื่นประมูลและทำสัญญา  เพราะสามีเป็นข้าราชการระดับสูงในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกัน

อย่างมากก็คงตัดสินให้ การทำสัญญาที่ผ่านมาถือเป็นโมฆะ  และอาจต้องชดใช้ความเสียหายอย่างเป็นธรรม

คงไม่สามารถเอาผิดทางอาญา กับเพื่อนคุณหรือสามีได้  เพราะเพื่อนคุณได้เข้าประมูลตามคำรับรองของเจ้าที่รัฐฯ ซึ่งดูแลรับผิดชอบการประมูลนั้น


ยกเว้นแต่ เพื่อนคุณจะสมรู้ร่วมคิดหรือเอื้อประโยชน์กัน กับคณะกรรมการฯของหน่วยงานนั้น เพื่อบิดเบือนสิทธิตามข้อกฎหมาย

เมื่อหาพยานหลักฐานได้ชัดแจ้ง  จึงสามารถฟ้องร้องคดีอาญากับเพื่อนคุณ สามี และคณะกรรมการฯดังกล่าวได้


แต่ถ้าไม่ใช่กรณีที่มาร์คสีข้างบน  ก็คงไม่สามารถเอาผิดทางอาญากับเพื่อนคุณ และสามีได้



กรณีคุณหญิงพจมาน ก็นเช่นกัน

จนถึงขณะนี้  ทางคณะกรรมการกองทุนฯ ก็ยังยืนยันหนักแน่น 

ว่าตำแหน่งนายกรัฐมนตรี  ไม่มีอำนาจกำกับดูแลฯ ในกองทุนฟื้นฟูฯ  โดยอ้างตามระเบียบและกฎหมายของกองทุนฟื้นฟูฯ

และยังยืนยันสิทธิในการเป็นคู่สัญญาซื้อขาย  ซึ่งไม่ผิดตามข้อห้ามของกฎหมาย ปปช.


ถ้า คตส.จะเอาผิดทางอาญา กับคุณหญิงฯ   ก็ต้องหาพยานหลักฐานให้ได้

ว่าคุณหญิงฯหรือนายกทักษิณฯ  สมรู้ร่วมคิดหรือเอื้อประโยชน์ต่อคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟู

[The Last Emperor]

(ดิล)โด้ครับ....ใจเย็นๆและกรุณาอย่าออกอาการสั่นแบบนั้นให้พวกป้าๆ ณ โอลด์เล้งหื่นเพราะแรงสั่นหน่อยเลยฮ่ะ แค่ส่งฟ้องจัดให้โดย ควาบเต่าเสือ นี่มันจิ๊บๆครับ พฤติกรรมชงเอง เสริฟเอง กินกันเองดังกล่าว.....วงการตุลาการท่านกร๊ากมากกว่าครับท่าน(ดิล)โด้

[Şiłąncē Mőbiuş]

คุณพรรณชมพู  ยกคดีมาเปรียบเทียบ ไม่ได้ใกล้เคียงเลยครับ


คดีที่ดินพระพยอม เป็นปัญหาเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดินทับซ้อน  จึงยื่นให้ศาลพิจารณาตัดสินชี้ขาดในกรรมสิทธิ์

ไม่ใช่กรณีจะฟ้องเอาผิดพระพยอม หรือคู่กรณี

หลังจากตัดสินแล้ว จะมีการฟ้องร้องต่อกรมที่ดินหรือไม่?  ก็อยู่ที่ผู้เสียหายคือพระพยอม


กรณีที่ดินรัชดา ถ้าจะเปรียบเทียบ  ผมขอยกตัวอย่างดังนี้

สมมุตว่า สามีเพื่อนสนิทคุณ เป็นข้าราชการระดับสูงผู้หนึ่ง

และเพื่อนคุณ สนใจที่จะเข้าประมูลทรัพย์สินของหน่วยงานรัฐฯ หน่วยงานหนึ่ง แต่ไม่แน่ใจในเรื่องข้อกฎหมาย

เมื่อเพื่อนคุณได้สอบถาม กับทางคณะกรรมการฯที่ดูแลหน่วยงานนั้น ถึงสิทธิในการเข้าประมูล

ทางคณะกรรมการฯ ได้ยืนยันกับเพื่อนคุณว่า  สามารถเข้าประมูลได้โดยไม่ผิดกฎหมาย

เนื่องจากสามีเพื่อนคุณ ที่เป็นข้าราชการระดับระดับสูง  ไม่มีอำนาจกำกับดูแลฯหน่วยงานนี้  จึงไม่ผิดข้อห้ามตามกฎหมาย ปปช.

เพื่อนคุณจึงได้เข้าประมูล และทำสัญญาซื้อขายกันโดยเรียบร้อย

ต่อมาเมื่อมีการร้องเรียน และมีหน่วยงานอื่นเข้ามาตรวจสอบ  และมีมุมมองทางกฎหมายที่แตกต่าง

ที่เห็นว่าเพื่อนคุณไม่มีสิทธิยื่นประมูลและทำสัญญา  เพราะสามีเป็นข้าราชการระดับสูงในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกัน

อย่างมากก็คงตัดสินให้ การทำสัญญาที่ผ่านมาถือเป็นโมฆะ  และอาจต้องชดใช้ความเสียหายอย่างเป็นธรรม

คงไม่สามารถเอาผิดทางอาญา กับเพื่อนคุณหรือสามีได้  เพราะเพื่อนคุณได้เข้าประมูลตามคำรับรองของเจ้าที่รัฐฯ ซึ่งดูแลรับผิดชอบการประมูลนั้น


ยกเว้นแต่ เพื่อนคุณจะสมรู้ร่วมคิดหรือเอื้อประโยชน์กัน กับคณะกรรมการฯของหน่วยงานนั้น เพื่อบิดเบือนสิทธิตามข้อกฎหมาย

เมื่อหาพยานหลักฐานได้ชัดแจ้ง  จึงสามารถฟ้องร้องคดีอาญากับเพื่อนคุณ สามี และคณะกรรมการฯดังกล่าวได้


แต่ถ้าไม่ใช่กรณีที่มาร์คสีข้างบน  ก็คงไม่สามารถเอาผิดทางอาญากับเพื่อนคุณ และสามีได้



กรณีคุณหญิงพจมาน ก็นเช่นกัน

จนถึงขณะนี้  ทางคณะกรรมการกองทุนฯ ก็ยังยืนยันหนักแน่น 

ว่าตำแหน่งนายกรัฐมนตรี  ไม่มีอำนาจกำกับดูแลฯ ในกองทุนฟื้นฟูฯ  โดยอ้างตามระเบียบและกฎหมายของกองทุนฟื้นฟูฯ

และยังยืนยันสิทธิในการเป็นคู่สัญญาซื้อขาย  ซึ่งไม่ผิดตามข้อห้ามของกฎหมาย ปปช.


ถ้า คตส.จะเอาผิดทางอาญา กับคุณหญิงฯ   ก็ต้องหาพยานหลักฐานให้ได้

ว่าคุณหญิงฯหรือนายกทักษิณฯ  สมรู้ร่วมคิดหรือเอื้อประโยชน์ต่อคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟู

เหอๆๆ ถ้าเค้าไม่มั่นใจว่าจะเอาผิดได้เนี่ย เค้าไม่ส่งเรื่องให้เสียชื่อหรอกน่า

งานนี้ต้องดูตอนต่อไป 

[login not found]

ผิดตั้งแต่เป็นผู้มีอำนาจ ตำแหน่งสูง
แล้ววางตัวไม่เหมาะสม ไปแข่งกับผู้น้อยแล้วละครับ
ถึงไม่มีกฎหมายห้าม ก็ไม่ควรทำ
มันจะเข้าทำนองพระยาเหยียบเมือง
เอาเถอะ จะเถียงว่าไม่ผิดก็รอศาลก็แล้วกัน

[พรรณชมพู]

ถ้า คตส.จะมีมุมมองทางกฎหมายที่แตกต่างจากคณะกรรมการกองทุนฯ

ตามขั้นตอนที่ถูกต้อง  ก็ต้องตั้งข้อกล่าวหากับคณะกรรมการกองทุนฯก่อน  ว่าเป็นการรับรองสิทธิของคู่สัญญาอย่างไม่ถูกต้อง

แต่จนถึงปัจจุบัน คตส. ก็ยังไม่สามารถตั้งข้อกล่าวหาใดๆ ต่อคณะกรรมการกองทุนฯ

คุณสับสนและเขียนกฎเอาเองตามใจชอบแล้วค่ะ  คตส.จะมีมุมมองเหมือนหรือไม่เหมือนคณะกรรมการกองทุนฯ ก็เป็นเรื่องของ คตส. และที่บอกว่าจะต้องรตั้งข้อกล่าวหากับคณะกรรมการกองทุนก่อน ก็เป็นมติส่วนตัวของคุณ

ในประเทศไทย คนที่จะตัดสินได้ คือศาลค่ะ คตส.เห็นว่านี่คือผิดกฎหมาย ก็ส่งฟ้อง กรรมการกองทุนเป็นอีกประเด็น เอามาโยงกันไปโยงกันมาตามใจคุณไม่ได้หรอกค่ะ อย่างนั้นเขาเรียก มั่ว 

คดีที่ดินพระพยอม เป็นปัญหาเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดินทับซ้อน  จึงยื่นให้ศาลพิจารณาตัดสินชี้ขาดในกรรมสิทธิ์

ไม่ใช่กรณีจะฟ้องเอาผิดพระพยอม หรือคู่กรณี

หลังจากตัดสินแล้ว จะมีการฟ้องร้องต่อกรมที่ดินหรือไม่?  ก็อยู่ที่ผู้เสียหายคือพระพยอม

จะเขียนให้อ่านใหม่นะคะ

คดีที่ดินรัชดา เป็นปัญหาเรื่องคู่สมรสของนายรัฐมนตรีเข้าเป็นคู่สัญญากับรัฐ  จึงยื่นให้ศาลพิจารณาตัดสินชี้ขาดในความผิด

ไม่ใช่กรณีจะฟ้องเอาผิดคณะกรรมการกองทุนฯ  หรือคู่กรณี

หลังจากตัดสินแล้ว จะมีการฟ้องร้องต่อคณะกรรมการกองทุนฯ ไม่?  ก็อยู่ที่ผู้เสียหายคือคู่สมรสของนายรัฐมนตรี

[กาลามชน]

ผิดตั้งแต่เป็นผู้มีอำนาจ ตำแหน่งสูง
แล้ววางตัวไม่เหมาะสม ไปแข่งกับผู้น้อยแล้วละครับ
ถึงไม่มีกฎหมายห้าม ก็ไม่ควรทำ
มันจะเข้าทำนองพระยาเหยียบเมือง
เอาเถอะ จะเถียงว่าไม่ผิดก็รอศาลก็แล้วกัน

ผมรู้จักกับผู้ตรวจสอบฯท่านหนึ่ง เขาเล่าว่ากรณีที่ดินรัชดา
ว่ากันว่าทักษิณนั้นไม่ได้คิดสนใจมาตั้งแต่แรก แต่ฝ่ายรัฐมีคนไปชวนทักษิณให้มาประมูล

สาเหตุที่ไปชักชวนให้ทักษิณให้มาประมูล ก็เพราะการประมูลครั้งแรกนั้น
เหมารวมกับที่แปลงเล็กๆอีกสองแปลง ตั้งราคาประมาณ 850 ล้าน แล้วขายไม่ออก
ไม่มีคนสนใจมาประมูลแม้แต่รายเดียว
เพราะที่ตรงนั้นห้ามสร้างอาคารสูง ไม่เป็นที่สนใจของนักลงทุน
รวมทั้งในช่วงนั้น มีที่ดินที่ถูกยึด ถูกประมูลขายเลหลังมากมายให้เลือกซื้อ
ค่อนข้างจะขายที่ดินได้ยาก จึงต้องไปทาบทามหาคนมาช่วยซื้อ
เรื่องนี้ผิดหรือถูก ผมไม่สามารถรับรอง
แต่มันโยงเข้ากับประเด็นที่ว่าทักษิณไปแข่งกับผู้น้อย ก็อาจจะไม่ถูกนัก

[กาลามชน]

ในมุมมองของกฎหมาย

ผมคิดว่าที่คุณ Nai_Puan กล่าวนั้นมีเหตุผลใช้ได้

[RiDKuN]

พูดเหมือนจะถูกนะครับนายป่วน แต่ว่าคณะกรรมการไม่ได้มีอำนาจอะไรตามกฎหมายเลยที่จะชี้ว่าใครสามารถทำสัญญาได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
และการพิจารณาของคณะกรรมการ ก็ไม่สามารถเป็นเกราะป้องกันความผิดให้ใครได้เลย

คุณพรรณชมพูเปรียบเทียบได้ถูกต้องแล้ว ว่าคนที่ทำสัญญาก็ตรวจสอบตามหน้าที่ แต่ก็เป็นการตรวจสอบเพื่อป้องกันความผิดพลาดเท่านั้น
ไม่ใช่การ "รับรองว่าถูกกฎหมาย" เพราะการรับรองเช่นนั้นมีศาลเท่านั้นที่จะสามารถทำได้

สมมติง่ายๆ ว่าผมถามตำรวจว่าวางระเบิดโรงพักได้ไหม ตำรวจพิจารณาข้อกฎหมายละเอียดถี่ถ้วนแล้วบอกว่าได้ ผมก็วางระเบิดโรงพัก
แบบนี้ได้หรือไม่ แล้วผมจะมีความผิดหรือไม่ ผมจะอ้างกับศาลได้ไหมว่าตำรวจบอกว่าทำได้ ดังนั้นผมไม่ผิด อ้างแบบนั้นได้หรือไม่
ลองตรองดูแล้วกันครับ

[(ก้อนหิน) ละเมอ]

พูดเหมือนจะถูกนะครับนายป่วน แต่ว่าคณะกรรมการไม่ได้มีอำนาจอะไรตามกฎหมายเลยที่จะชี้ว่าใครสามารถทำสัญญาได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
และการพิจารณาของคณะกรรมการ ก็ไม่สามารถเป็นเกราะป้องกันความผิดให้ใครได้เลย

คุณพรรณชมพูเปรียบเทียบได้ถูกต้องแล้ว ว่าคนที่ทำสัญญาก็ตรวจสอบตามหน้าที่ แต่ก็เป็นการตรวจสอบเพื่อป้องกันความผิดพลาดเท่านั้น
ไม่ใช่การ "รับรองว่าถูกกฎหมาย" เพราะการรับรองเช่นนั้นมีศาลเท่านั้นที่จะสามารถทำได้

สมมติง่ายๆ ว่าผมถามตำรวจว่าวางระเบิดโรงพักได้ไหม ตำรวจพิจารณาข้อกฎหมายละเอียดถี่ถ้วนแล้วบอกว่าได้ ผมก็วางระเบิดโรงพัก
แบบนี้ได้หรือไม่ แล้วผมจะมีความผิดหรือไม่ ผมจะอ้างกับศาลได้ไหมว่าตำรวจบอกว่าทำได้ ดังนั้นผมไม่ผิด อ้างแบบนั้นได้หรือไม่
ลองตรองดูแล้วกันครับ

เปรียบเทียบได้ดีมากครับ

[truly]

โอ๊ยย...รอนานจนตะคริวจะกินแล้ว...ทำอะไรกันเร็วๆหน่อยเหอะ....พ่อเจ้าประคู้ณณณ...

[jerasak]

ผมรู้จักกับผู้ตรวจสอบฯท่านหนึ่ง เขาเล่าว่ากรณีที่ดินรัชดา
ว่ากันว่าทักษิณนั้นไม่ได้คิดสนใจมาตั้งแต่แรก แต่ฝ่ายรัฐมีคนไปชวนทักษิณให้มาประมูล

สาเหตุที่ไปชักชวนให้ทักษิณให้มาประมูล ก็เพราะการประมูลครั้งแรกนั้น
เหมารวมกับที่แปลงเล็กๆอีกสองแปลง ตั้งราคาประมาณ 850 ล้าน แล้วขายไม่ออก
ไม่มีคนสนใจมาประมูลแม้แต่รายเดียว
เพราะที่ตรงนั้นห้ามสร้างอาคารสูง ไม่เป็นที่สนใจของนักลงทุน
รวมทั้งในช่วงนั้น มีที่ดินที่ถูกยึด ถูกประมูลขายเลหลังมากมายให้เลือกซื้อ
ค่อนข้างจะขายที่ดินได้ยาก จึงต้องไปทาบทามหาคนมาช่วยซื้อ
เรื่องนี้ผิดหรือถูก ผมไม่สามารถรับรอง
แต่มันโยงเข้ากับประเด็นที่ว่าทักษิณไปแข่งกับผู้น้อย ก็อาจจะไม่ถูกนัก

งานนี้ถึงทักษิณไม่มาประมูล ก็มีอีก 2 รายมาประมูลไม่ใช่หรือครับคุณกาลามชน
หรือจะสารภาพว่าทั้ง 3 รายน่ะนัดกันมา ... ไม่มี "คนอื่น" เลยจริงๆ ?

และถ้าจะบอกว่าที่ดินขายยาก ทำไมผ่านไปไม่กี่วันหลังการประมูลเรียบร้อย
ราคาประเมินที่ดินแถวนั้น มันถึงได้เพิ่มขึ้นมาตั้งมากมาย

อีกอย่างหนึ่ง คุณกาลามชนจะบอกว่าการประมูลซื้อที่ดินครั้งนั้น
คุณหญิงพจมานไม่ใช่คนประมูลซื้อหรือครับ กลายเป็นว่าฝ่ายรัฐ
ชวนคุณทักษิณ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นให้มาประมูลซื้อที่ดินรัฐ!!!!

ผมว่าถ้าเป็นอย่างนั้นมันจะยิ่งพัวพันเข้าตัวทักษิณไปใหญ่นะครับ 

[ปุถุชน]

ที่ผ่านมาตั้งครึ่งค่อนปี ไม่ใช่ไม่มีปัญญาเอาผิดทักษิณนะ
ยังไม่ได้ฟ้องต่างหาก มิน่าล่ะ มีแต่ รอก่อนสิครับ รอก่อนสิคะ รอ ร๊อ รอ... อิอิ
ที่สุดของการแถของพวกไร้น้ำยา 55555

ก็รู้ๆอยู่ ว่าเต็มที่ก็ได้แค่ ปรับเงิน
แต่ตั้งหัวข้อกระทู้ให้มี  ติดคุก ให้พวกขี้แพ้ได้แถเชียร์ ซักวันสองวันก็ยังดี

ถ้าจะพูดภาษาเดียวกับคุณ 'มด 5.11' ว่าแค่" ปรับเงิน".....
การ"ปรับเงิน" ไม่มีความผิดหรือ.................ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

[ปุถุชน]

ผมรู้จักกับผู้ตรวจสอบฯท่านหนึ่ง เขาเล่าว่ากรณีที่ดินรัชดา
ว่ากันว่าทักษิณนั้นไม่ได้คิดสนใจมาตั้งแต่แรก แต่ฝ่ายรัฐมีคนไปชวนทักษิณให้มาประมูล

สาเหตุที่ไปชักชวนให้ทักษิณให้มาประมูล ก็เพราะการประมูลครั้งแรกนั้น
เหมารวมกับที่แปลงเล็กๆอีกสองแปลง ตั้งราคาประมาณ 850 ล้าน แล้วขายไม่ออก
ไม่มีคนสนใจมาประมูลแม้แต่รายเดียว
เพราะที่ตรงนั้นห้ามสร้างอาคารสูง ไม่เป็นที่สนใจของนักลงทุน
รวมทั้งในช่วงนั้น มีที่ดินที่ถูกยึด ถูกประมูลขายเลหลังมากมายให้เลือกซื้อ
ค่อนข้างจะขายที่ดินได้ยาก จึงต้องไปทาบทามหาคนมาช่วยซื้อ
เรื่องนี้ผิดหรือถูก ผมไม่สามารถรับรอง
แต่มันโยงเข้ากับประเด็นที่ว่าทักษิณไปแข่งกับผู้น้อย ก็อาจจะไม่ถูกนัก

คุณ'กาลามชน'เคยได้ยินเรื่องนี้หรือไม่...................
การประมูลคราวนั้น มีผู้เข้าประมูล 3 ราย....
1. แลนด์แอนด์เฮ้าส์ ของคุณอนันต์....
2. .......ของคุณชายนิด....
3. ภรรยาเหลี่ยมฯ......

ที่ดินผืนงามเหมาะสำหรับธุรกิจจัดสรร ถึงแม้จะมี'ราคาสูง'
แต่ก็'คุ้มค่า'การลงทุน..............

สองผู้ประกอบการธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ สนใจอย่างยิ่ง
แต่ถูก'ขอร้องแกมบังคับ'ให้ถอนตัว จึงมี'ข่าว'หลุดมาให้รับรู้.......


ข้อเท็จจริงนี้ คุณ'กาลามชน'ไม่มีโอกาส"รู้" หรือรู้แต่ไม่กล้าพูดหรอก......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

[ปุถุชน]

งานนี้ถึงทักษิณไม่มาประมูล ก็มีอีก 2 รายมาประมูลไม่ใช่หรือครับคุณกาลามชน
หรือจะสารภาพว่าทั้ง 3 รายน่ะนัดกันมา ... ไม่มี "คนอื่น" เลยจริงๆ ?

และถ้าจะบอกว่าที่ดินขายยาก ทำไมผ่านไปไม่กี่วันหลังการประมูลเรียบร้อย
ราคาประเมินที่ดินแถวนั้น มันถึงได้เพิ่มขึ้นมาตั้งมากมาย

 อีกอย่างหนึ่ง คุณกาลามชนจะบอกว่าการประมูลซื้อที่ดินครั้งนั้น
คุณหญิงพจมานไม่ใช่คนประมูลซื้อหรือครับ กลายเป็นว่าฝ่ายรัฐ
ชวนคุณทักษิณ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นให้มาประมูลซื้อที่ดินรัฐ!!!!

ผมว่าถ้าเป็นอย่างนั้นมันจะยิ่งพัวพันเข้าตัวทักษิณไปใหญ่นะครับ 

1. ก็มีอีก 2 รายมาประมูลไม่ใช่หรือครับคุณกาลามชน
ข้อเท็จจริงนี้ คุณ'กาลามชน'ไม่มีโอกาส"รู้" หรือรู้แต่ไม่กล้าพูดหรอก......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

2. อีกอย่างหนึ่ง คุณกาลามชนจะบอกว่าการประมูลซื้อที่ดินครั้งนั้น
คุณหญิงพจมานไม่ใช่คนประมูลซื้อหรือครับ กลายเป็นว่าฝ่ายรัฐ
ชวนคุณทักษิณ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นให้มาประมูลซื้อที่ดินรัฐ!!!!
ถ้าฝ่ายรัฐชวนคุณทักษิณ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น
คุณทักษิณจะไม่ต้องรับผิดตามกฎหมายที่ไม่ให้'นายกรัฐมนตรี'เป็นคู่กรณีกับหน่วยงานของรัฐ.....


ในฐานะที่มีชื่อเลียน 'กาลามสูตร' อย่าแสดงความคิดเห็น
หรือให้"ข้อมูล" ตกหล่น....................ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

[กาลามชน]

คุณไม่ทราบหรือว่าการประมูลที่คุณหญิงอ้อเข้าร่วม เป็นการประมูลครั้งที่สอง

การประมูลครั้งแรก ตั้งราคากลาง 850 ล้าน ไม่มีใครสน ต้องล้มไป
การประมูลครั้งที่สอง ตั้งราคา 699 ล้าน มีผู้สนใจสามราย คุณหญิงอ้อให้สุงสุด 750 ล้าน สุงกว่ารายที่สองห้าสิบล้าน

ที่มีข่าวเล่าลือว่าฝ่ายรัฐไปบอกข่าวชวนทักษิณ ถึงจะบอกจริง ก็ไม่เห็นจะผิดตรงไหน จะขายของก็ต้องรู้จักโฆษณาสินค้า
ทักษิณอาจจะเอาข่าวไปบอกเมียว่า วันนี้มีคนมาบอกข่าวว่ามีเลหลังขายทีทำเลดี แต่ไม่มีใครเอา เธอสนใจหรือเปล่า
แล้วทักษิณก็ขึ้นรถไปทำงาน ส่วนคุณหญิงอ้ออาจจะสนใจ ก็ไปเช็คข่าวว่า ฉันมีสิทธิ์ซื้อหรือเปล่า
พอถามไป ฝ่ายรัฐตรวจสอบกฎษฎีกาแล้ว ก็ตอบกลับมาว่ามีสิทธิซื้อได้

ส่วนคนอื่นอีกสองราย คุณคิดว่าหน่วยงานที่ต้องการขายที่ดิน จะบอกข่าวทักษิณคนเดียวหรือ
ที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ติดจำนอง ยังเหลือคาอยู่อีกไม่รู้กี่ร้อยแปลง เขาก็คงต้องวิ่งบอกขายไปทั่วๆ
จะหวังให้ทักษิณ มาเหมาซื้อทั้งหมดคนเดียวคงไม่ได้

คนรู้ข่าวเขาก็มาประมูล แต่คนอื่นกดราคาซะต่ำ บอกให้รู้ว่าตลาดที่ดินตอนนั้นยังไม่ค่อยดีเท่าไร
มีคุณหญิงอ้อที่ให้สูงกว่าคนอื่น ไม่ใช่น้อยๆตั้งห้าสิบล้าน
บอกให้รู้ว่าไม่มีเส้น ไม่มีการฮั้ว เพราะถ้ามีการทุจริตจริง ก็คงเฉือนกันแค่ล้านสองล้านเท่านั้น
แล้วผ่านไปปีกว่า ที่ดินขึ้นราคา ก็เพราะเศรษฐกิจดีขึ้น อสังหาริมทรัพย์ มันก็ขึ้นราคาเป็นธรรมดา
แต่ในวันที่ประมูล มีใครที่ไหนจะรู้อนาคตอีกหนึ่งปีข้างหน้าบ้าง

ถ้าใครรู้ก็รวยยิ่งกว่าบิลเกต

[พรรณชมพู]

ผมรู้จักกับผู้ตรวจสอบฯท่านหนึ่ง เขาเล่าว่ากรณีที่ดินรัชดา
ว่ากันว่าทักษิณนั้นไม่ได้คิดสนใจมาตั้งแต่แรก แต่ฝ่ายรัฐมีคนไปชวนทักษิณให้มาประมูล

สาเหตุที่ไปชักชวนให้ทักษิณให้มาประมูล ก็เพราะการประมูลครั้งแรกนั้น
เหมารวมกับที่แปลงเล็กๆอีกสองแปลง ตั้งราคาประมาณ 850 ล้าน แล้วขายไม่ออก
ไม่มีคนสนใจมาประมูลแม้แต่รายเดียว
เพราะที่ตรงนั้นห้ามสร้างอาคารสูง ไม่เป็นที่สนใจของนักลงทุน
รวมทั้งในช่วงนั้น มีที่ดินที่ถูกยึด ถูกประมูลขายเลหลังมากมายให้เลือกซื้อ
ค่อนข้างจะขายที่ดินได้ยาก จึงต้องไปทาบทามหาคนมาช่วยซื้อ
เรื่องนี้ผิดหรือถูก ผมไม่สามารถรับรอง
แต่มันโยงเข้ากับประเด็นที่ว่าทักษิณไปแข่งกับผู้น้อย ก็อาจจะไม่ถูกนัก

คุณไม่ทราบหรือว่าการประมูลที่คุณหญิงอ้อเข้าร่วม เป็นการประมูลครั้งที่สอง

การประมูลครั้งแรก ตั้งราคากลาง 850 ล้าน ไม่มีใครสน ต้องล้มไป
การประมูลครั้งที่สอง ตั้งราคา 699 ล้าน มีผู้สนใจสามราย คุณหญิงอ้อให้สุงสุด 750 ล้าน สุงกว่ารายที่สองห้าสิบล้าน

ที่มีข่าวเล่าลือว่าฝ่ายรัฐไปบอกข่าวชวนทักษิณ ถึงจะบอกจริง ก็ไม่เห็นจะผิดตรงไหน จะขายของก็ต้องรู้จักโฆษณาสินค้า
ทักษิณอาจจะเอาข่าวไปบอกเมียว่า วันนี้มีคนมาบอกข่าวว่ามีเลหลังขายทีทำเลดี แต่ไม่มีใครเอา เธอสนใจหรือเปล่า
แล้วทักษิณก็ขึ้นรถไปทำงาน ส่วนคุณหญิงอ้ออาจจะสนใจ ก็ไปเช็คข่าวว่า ฉันมีสิทธิ์ซื้อหรือเปล่า
พอถามไป ฝ่ายรัฐตรวจสอบกฎษฎีกาแล้ว ก็ตอบกลับมาว่ามีสิทธิซื้อได้
ส่วนคนอื่นอีกสองราย คุณคิดว่าหน่วยงานที่ต้องการขายที่ดิน จะบอกข่าวทักษิณคนเดียวหรือ
ที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ติดจำนอง ยังเหลือคาอยู่อีกไม่รู้กี่ร้อยแปลง เขาก็คงต้องวิ่งบอกขายไปทั่วๆ
จะหวังให้ทักษิณ มาเหมาซื้อทั้งหมดคนเดียวคงไม่ได้

คนรู้ข่าวเขาก็มาประมูล แต่คนอื่นกดราคาซะต่ำ บอกให้รู้ว่าตลาดที่ดินตอนนั้นยังไม่ค่อยดีเท่าไร
มีคุณหญิงอ้อที่ให้สูงกว่าคนอื่น ไม่ใช่น้อยๆตั้งห้าสิบล้าน
บอกให้รู้ว่าไม่มีเส้น ไม่มีการฮั้ว เพราะถ้ามีการทุจริตจริง ก็คงเฉือนกันแค่ล้านสองล้านเท่านั้น
แล้วผ่านไปปีกว่า ที่ดินขึ้นราคา ก็เพราะเศรษฐกิจดีขึ้น อสังหาริมทรัพย์ มันก็ขึ้นราคาเป็นธรรมดา
แต่ในวันที่ประมูล มีใครที่ไหนจะรู้อนาคตอีกหนึ่งปีข้างหน้าบ้าง

ถ้าใครรู้ก็รวยยิ่งกว่าบิลเกต

อันแรกคือ  เขาเล่าว่า  นี่เป็นการแสดงถึงวิสัยทัศน์อย่างชัดเจน  เขาเล่าว่า จตุคาม ห้อยแล้วรวย จบแล้ว ไม่มีอะไรจะวิจารณ์ นอกจากจะบอกว่า กาลามสูตรท่านสอนไม่ใช้เลื่อที่เขาเล่าลือกันค่ะ

ต่อไป ฟังนิทานโกหก

ทักษิณอาจจะเอาข่าวไปบอกเมียว่า วันนี้มีคนมาบอกข่าวว่ามีเลหลังขายทีทำเลดี แต่ไม่มีใครเอา เธอสนใจหรือเปล่า
แล้วทักษิณก็ขึ้นรถไปทำงาน ส่วนคุณหญิงอ้ออาจจะสนใจ ก็ไปเช็คข่าวว่า ฉันมีสิทธิ์ซื้อหรือเปล่า
พอถามไป ฝ่ายรัฐตรวจสอบกฎษฎีกาแล้ว ก็ตอบกลับมาว่ามีสิทธิซื้อได้

การนำข่าววงในราชการไปบอกเมีย แล้วถามว่าทำเลดีไม่มีใครสนใจ(เก่งนะ รู้ใจคนอื่นเขาด้วย) เธอสนหรือเปล่า (ส่งซิกให้ด้วย) แล้วก็ขึ้นรถไปทำงาน (รู้ละเอียดขนาดนั้น เก่งจัง  อ้าว ไม่บอกด้วยนี่ว่า ไปทำงานเป็นผู้บริหารสูงสุดของรัฐ)  เมียสนใจ เลยถามไปว่าฉันมีสิทธิ์ไหม รัฐตรวจสอบแล้ว (ผัวไปถึงทำงานพอดีได้ทันตรวจสอบเมีย) ก็ตอบมาว่ามีสิทธิ์ซื้อได้

นิทานเรื่องนี้ หากเปลี่ยนชื่อเป็น จอร์จ บุช กับ เมีย  คือประธานาธิบดีอเมริกันทำอย่างนี้ คนอเมริกันเขาจะเรียกว่า ไอ้บัดซบ


ต่อไป

ถ้าใครรู้ก็รวยยิ่งกว่าบิลเกต

อันนี้เข้าเรียกอินไซด์เดอร์  คือเอาข้อมูลลับที่ไม่มีใครรู้มาเป็นประโยชน์แก่ตน  ไอ้เลวที่ไหนก็ทำได้ ในโลกนี้เขาถือว่าการกระทำเช่นนี้ บัดซบ ถึงจะรวยเท่าหรือกว่าบิลล์เกตส์ เขาเรียก บัดซบ ค่ะ 

[Cherub Rock]

อีกตอนหนึ่งของนิทานเรื่อง
ครอบครัวปลาหมึก

[jerasak]

แล้วผ่านไปปีกว่า ที่ดินขึ้นราคา ก็เพราะเศรษฐกิจดีขึ้น อสังหาริมทรัพย์ มันก็ขึ้นราคาเป็นธรรมดา
แต่ในวันที่ประมูล มีใครที่ไหนจะรู้อนาคตอีกหนึ่งปีข้างหน้าบ้าง

ถ้าใครรู้ก็รวยยิ่งกว่าบิลเกต

ข้อมูลที่ผมทราบมามันไม่ใช่ผ่านไปปีกว่าน่ะสิครับคุณกาลามชน

คือการประมูลทำกันในวันที่ 30 ธันวาคม 2546 นะครับ
และพอถึงวันที่ 1 มกราคม 2547 มีการปรับราคากลาง
ของที่ดินเพิ่มขึ้นอีก 20%

นั่นคือเพิ่มขึ้น 20% ภายใน 2 วันครับ

และก็เพราะในวันที่ประมูลมีคนรู้อนาคตใช่ไหมล่ะครับ
ถึงต้องเร่งรัดจัดประมูลกันให้เสร็จก่อนสิ้นปี?

ถ้าปล่อยเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ไม่แน่นะครับว่าจะมีคนรวยกว่าบิลเกต 

[jerasak]

ยังไม่นับเรื่องโชคดีสุดๆ ของคุณหญิงพจมานที่ต่อมาก็มีหน่วยงานรัฐมาตั้งสำนักงาน
อยู่ติดกันกับที่ดินแปลงที่คุณหญิงพจมานประมูลได้ (โดยบังเอิญ???)

ซึ่งการที่มีหน่วยงานรัฐมาตั้งสำนักงานนั้น เป็นที่รู้กันว่าจะมีผลทำให้ราคาที่ดิน
ในบริเวณแปลงติดกันมีราคาเพิ่มสูงขึ้นไปอีก ขนาดที่ว่าเจ้าของที่ดินบางรายถึงกับ
ลงทุนแบ่งที่ดินบริจาคให้ทางราชการตั้งสำนักงาน แต่งานนี้โชคดีจริงๆ เขามาเอง!!!

อันนี้ก็ไม่ทราบว่ามีใครรู้อนาคต หรือควบคุมอนาคตได้หรือเปล่านะครับ
แต่ถ้ามีแบบนั้นเขาก็คงรวยเอาๆ อย่างที่คุณกาลามชนว่ามา 

[คนในวงการ]

อืมมม เป็นเรื่องบังเอิญอย่างร้ายกาจครับ คุณจีรศักดิ์ 555

[THE THIRD WAY]

ประเด็นคือ
ห้ามไม่ให้ไปทำสัญญากับรัฐ
แล้วก็ไปทำ
ซึ่งผิดกฎหมาย

จะว่าไงล่ะทีนี้

[room5]

กามสูตรที่มันมั่ัวเจงๆ

[55555]

ข้อมูลที่ผมทราบมามันไม่ใช่ผ่านไปปีกว่าน่ะสิครับคุณกาลามชน

คือการประมูลทำกันในวันที่ 30 ธันวาคม 2546 นะครับ
และพอถึงวันที่ 1 มกราคม 2547 มีการปรับราคากลาง
ของที่ดินเพิ่มขึ้นอีก 20%

นั่นคือเพิ่มขึ้น 20% ภายใน 2 วันครับ

และก็เพราะในวันที่ประมูลมีคนรู้อนาคตใช่ไหมล่ะครับ
ถึงต้องเร่งรัดจัดประมูลกันให้เสร็จก่อนสิ้นปี?

อีกประเด็นคือ มีการโอนกันในวันที่ 31 ธันวา....ซึ่งควรจะเป็นวันหยุดสิ้นปี...แต่ปีนั้นรัฐบาลประกาศไม่ให้เป็นวันหยุด เนื่องจาก หลังจากวันที่ 1 มกรา ปีถัดไป การเสียอากร และ ค่าโอน จะเป็นอัตราใหม่ ซึ่งแพงกว่าเดิม ประมาณ 2 % เป็นอย่างน้อย........กรณีนี้ถือว่าน่าเกลียดมาก ๆ เพราะการเตรียมเงินมากขนาดนั้น เป็นเรื่องใหญ่ หากไม่มีการรู้ผลการประมูลล่วงหน้า คงโกลาหลน่าดู

"เก็บทุกเม็ด จริง ๆครับ ท่านเทพฯ "

อ้อ !!!!! อีกประเด็น แลนด์แอนด์เฮ้าส์ กับ ท่านเทพฯ มีความสัมพันธ์ กันพอควรทีเดียวครับ ถ้าใครจำกันได้ ครั้งหนึ่งตอนท่านเทพ ฯ ควาญหาคนมาเป็น รัฐมนตรีคลัง.......มีผู้บริหารคนหนึ่ง มี ชื่ออยู่ในโผด้วยเหมือนกัน ......พวกเราลองไปเช็ค ดูกลุ่มที่ดูแลธรรมกาย กันดูซิครับ อาจพอได้ภาพ

[RONALDO]

ทักษิณเป็นศรีธนญชิน อย่างน่าเอือมระอาที่สุด และเล่นวิธีเอาเปรียบชาวบ้านไม่เลิก โดยการรู้ข้อมูลภายในก่อน มันมาตั้งแต่เป็นคนรู้ว่าจะต้องลอยตัวค่าเงินบาท ปี 40 เพราะตัวเองเก็งดอลลาร์เอาเปรียบชาวบ้านไว้เยอะ และจึงปล่อยขาย และก็รวยมาได้นับจากนั้น ทั้งที่คนอื่นอิ๊บอ๋ายกันหมด

เรื่องราวนี้ก็เช่นกัน อีกจาก มาตรา 100ของกฏหมาย ปปช. ผู้เป็นจนท.รัฐไม่สามารถเข้าไปทำสัญญาได้กับหน่วยงานรัฐ เพราะจะได้เปรียบชาวบ้านเขาที่ไม่ได้มีอำนาจกำหนด แถมพจมารก็ผิดในมาตรา 122 อีกห้ามคู่สมรสไปเกี่ยวข้องและแสวงหาผลประโยชน์ ทำหน้าที่มิชอบ ถือเป็นการทุจริตอีกด้วย

วิธีขี้โกงแบบนี้ทักษิณถนัดเหลือเกิน ไม่รู้ว่าอ้อเผยแพร่เชื้อโรค หรือว่าติดมาจากสามีหน้าเหลี่ยมกันแน่

~~~ไปเถิดทั้งคู่ไปสู่ประตูนรก~~~~~