แกนนำ ทรท.รับแผนสำรองต่อลมหายใจตั้ง "มงคล"นอมินี ลั่นหลังยุบพรรค กก.บริหาร แห่อุทธรณ์รอวันคืนบัลลังก์
แหล่งจากอดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงกรณีที่จะมีการตั้ง นายมงคล สิมะโรจน์ อดีตที่ปรึกษาพรรคไทยรักไทยเป็นหัวหน้าพรรคไทยรักไทยภายหลังที่ตุลาการรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคไทยรักไทยว่า ถือว่ามีความเป็นไปได้สูง เพราะช่วงนี้ไม่มีใครทราบว่าผลของการตัดสินคดีจากศาลจะเป็นอย่างไร หากศาลพิจารณาให้ยุบพรรคแล้วกรรมการบริหารพรรคกว่า 100 คนถูกตัดสินทางการเมืองก็จะทำให้พรรคไทยรักก็ไม่มีใครบริหารงานต่อ ดังนั้นการมีแผนรองรับแบบนี้ก็ถือเป็นทางออกหนึ่ง ซึ่งตอนนี้พรรคไทยรักไทยก็มีคนที่เป็นหลักอยู่หลายคน พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ หรือนายมงคล ก็ถือเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่คนไทยรักไทยให้การยอมรับ
"การเตรียมแผนรับรับแบบนี้ถือเป็นทางออกหนึ่งที่ต่ออายุของพรรคไทยรักไทย ซึ่งคิดว่าถ้าตั้ง พล.อ.ชวลิตหรือทั่นมงคล แล้วตั้ง ส.ส.ในพรรคขึ้นมาเป็นกรรมการบริหารพรรค แล้วให้คนที่ถูกตัดสิทธิ์เป็นผู้บริหารอยู่ข้างหลังก็ไม่น่าจะมีปัญหา เพราะคนไทยรักไทยรู้ว่าสถานภาพจริงเป็นอย่างไร ทางออกนี้จึงมีความเป็นไปได้สูง"แหล่งข่าวระดับสูง กล่าว
แหล่งข่าวรายนี้ กล่าวอีกว่า เชื่อมั่นว่าภายหลังที่ตุลาการรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคและเพิกถอนสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปีกับกรรมการบริหารหรืออดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย จะมีผู้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาเป็นจำนวนมากเพราะการกระทำที่ส่อไปทางไม่ชอบในการเลือกตั้ง 2 เมษายน ไม่ใช่ความผิดของพรรค และกระบวนการอุทธรณ์ก็ต้องใช้เวลานาน กว่าจะรู้ผลการอุทธรณ์สถานการณ์ทางการเมืองก็น่าจะนิ่งและศาลอาจจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่นได้ หลังจากนั้นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยที่เคยถูกตัดสิทธิ์ก็จะกลับเข้ามาเล่นการเมืองได้อีก
ทั้งนี้ยังมีรายงานว่า ขณะนี้อดีตแกนนำพรรคไทยรักไทยที่แยกตัวไปตั้งกลุ่มต่าง ๆ ได้ติดต่อหารือกันอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยหัวหน้ากลุ่มทุกกลุ่มได้รับคำสั่งจาก "คุณหญิงพ."ให้ระดมคนมาจากทุกพื้นที่มากดดันรัฐบาลและ คมช.ให้ถึงที่สุด โดยมีการสั่งน้ำเลี้ยงให้กับ ส.ส.แต่ละกลุ่มเป็นรายเดือนๆ ละ 1.5 แสนบาท ซึ่งจ่ายผ่านหัวหน้ามุ้งต่าง ๆ ยกเว้นกลุ่มวังพญานาคของนายพินิจ จารุสมบัติ ที่มารวมตัวกับนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เป็นกลุ่มธรรมาธิปไตย ส่วนอดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทยกลุ่มอี่น ๆ ได้รับเงินสนับสนุนทุกคน แต่ถ้าใครมีผลงานระดมพลมาได้มากก็จะจ่ายเงินไปตามผลงาน ซึ่งสามารถเบิกเงินได้จากหัวหน้ากลุ่ม
โดยมีรายงานอีกว่า หน้าที่ความรับผิดชอบในการจ่ายเงินนั้น ภาคเหนือก็สามารถเบิกเงินได้กับเจ๊เล็ก โดยคนที่มีศักยภาพระดมมวลชนจะได้รายละ 3 ล้านบาท ซึ่งมีกว่า 10 ราย ส่วนภาคอีสานนั้นได้มีการแบ่งความรับผิดชอบออกเป็นหลายสาย ซึ่งสายอีสานเหนือนั้นมีผู้ได้รับเงินอุดหนุนรายละ 3 ล้านประมาณ 15 คน โดยเป็นอดีต ส.ส.อุดรธานี 4 คน อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด 3 คน อดีต ส.ส.ขอนแก่น 4 คน อดีต ส.ส.กาฬสินธุ์ 2 คน และอดีต ส.ส.มหาสารคามอีก 2 คน ส่วน ส.ส.คนอื่นๆ ที่ไม่มีศักยภาพในการระดมคนก็จะได้รับคนละ 1.5 แสน
"การจ่ายเงินครั้งนี้เพื่อให้อดีตส.ส.ระดมมวลชนออกมากดดันการพิจารณาของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งทุกกลุ่มจะต้องเคลื่อนไหวกดดันให้ถึงที่สุด"
วันที่ 28/4/2007
http://www.naewna.com/news.asp?ID=57926