ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
23-04-2024, 19:42
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  คตส.จ้องอายัด ทรัพย์หุ้นชินคอร์ป หลังหลักฐานชี้ชัดเลี่ยงภาษี 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
คตส.จ้องอายัด ทรัพย์หุ้นชินคอร์ป หลังหลักฐานชี้ชัดเลี่ยงภาษี  (อ่าน 1152 ครั้ง)
An.mkII
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,984


Out of kontrol....!!!!!


เว็บไซต์
« เมื่อ: 23-04-2007, 09:53 »

 


        คตส.จ้องอายัด ทรัพย์หุ้นชินคอร์ป หลังหลักฐานชี้ชัดเลี่ยงภาษี 23 เมษายน 2550 00:05 น.
       

คตส.จ้องอายัด ทรัพย์หุ้นชินคอร์ป หลังพบหลักฐานชัดเลี่ยงภาษี ด้าน "นาม" ลั่น พร้อม สรุปสำนวนคดีที่ดินฉาว –กล้ายาง ส่งอัยการสั่งฟ้อง ภายใน พ.ค.นี้
       
        รายงานข่าวจาก คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.)เปิดเผยว่า ในการประชุม 23 เม.ย.นี้ จะมี คตส.บางคนเสนอให้ใช้อำนาจ ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) อายัดทรัพย์ของผู้เกี่ยวข้องกับกรณีการซื้อขายหุ้นชินคอร์ปไว้ทั้งหมดเนื่อง จาก คตส.ตรวจสอบพบเบื้องต้นผู้เกี่ยวข้องมีพฤติการชัดเจนในการหลบเลี่ยงภาษี จาการซื้อขายหุ้น โดยมีการกระจายหุ้นชินคอร์ให้ผู้เกี่ยวข้องสัดส่วนไม่ถึง 25 % หลายคนเพื่อหลีกเลี่ยงการเทรนเดอร์ออฟเฟอร์ หรือ การเปิดโต๊ะซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นรายย่อย โดยมีเจตนาเลี่ยงภาษีอย่างชัดเจน
       
        ข่าวแจ้งว่า นับตั้งแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อ 2543 เป็นต้นมา การกระจายหุ้นชินคอร์ปในครอบครัวชินวัตร 49% จนรวมหุ้นทั้งหมดขายให้กลุ่มทุนสิงค์โปร์ ในต้นปี 2549 ด้วยราคากว่า 73,000 ล้านบาท โดยทั้งหมดต้องอยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายสามกรอบด้วยกันคือ
       
        1. กฎหมายปราบคอรัปชั่น ที่ห้ามซุกหุ้น และห้ามนักการเมือง ถือประโยชน์ทับซ้อนทางธุรกิจ กฎหมายนี้ทำให้นักการเมืองที่ไม่โปร่งใสพยายามซุกหุ้นในชื่อของญาติสนิทหรือบริวาร หรือบริษัทนอมินี
       
        2.กฎหมายตลาดหลักทรัพย์  ที่ระบุหน้าที่แจ้งการโอนหุ้นเกิน 5% หรือถือครองเกิน 25% เมื่อใด ต้องเปิดรับซื้อหุ้นรายย่อยด้วย หรือห้ามใช้ข้อมูลภายในเล่นหุ้นในตลาด เป็นต้น กฎหมายนี้ทำให้ต้องพยายามซุกหุ้นโดยกระจายให้ถือครองแทนหลายคน แต่ละคนต้องไม่เกิน 20 %
       
        3. กฎหมายภาษีเงินได้ กำหนดเก็บเงินได้จากการโอนหุ้น เว้นแต่จะเป็นการขายในตลาดหลักทรัพย์ โดยบุคคลธรรมดา กฎหมายนี้ทำให้การกระจายหุ้นต้องทำเป็นขายหุ้น และต้องขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วยบุคคลธรรมดา ซึ่ง คตส.พบว่า นับแต่ ปี 2543 เป็นต้นมา การโอนหุ้นชินคอร์ปฯ ของครอบครัวชินวัตร กระทำขึ้นหลายครั้งด้วยกัน และทุกครั้งก็ยังไม่มีการแจ้งชำระภาษีเงินได้เลย เพราะอ้างว่าได้รับยกเว้นตามประมวลรัษฎากร
       
       
        นายนาม ยิ้มแย้ม ประธาน คตส กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบโครงการเซ็ลทรัลแล็บ ของกรมวิชาการเกษตรว่า ไม่แน่ในว่าในการประชุมวันที่ 23 เม.ย.นี้จะสามารถตั้งอนุกรรมการไต่สวนได้หรือไม่เพราะว่าจาการรายงานของอนุตรวจสอบโครงการดังกล่าว จะต้องเรียกพยานบางปากมาให้ข้อมูลอีกครั้ง ซึ่งเป็นข้อมูลที่อนุตรวจสอบได้ติดตามาตลอดคือเส้นทางการเดินของเงิน ว่ามีการโอนเงินให้กับใคบ้าง ซึ่งได้ขอความร่วมมือไปยังธนาคารแห่งประเทศไทยแล้ว ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี
       
        นายนาม กล่าวถึงกรณีพาษีสรรพสามิตกิจการโทรคมนาคม ว่า คตส.ต้องหาหลักฐานเพิ่มเติมก่อนที่จะตั้งอนุกรรมการตรวจสอบ โดยเฉพาะหลักฐานในเรื่องของนโยบายที่มีการออกมติครม.เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับบางบริษัทหรือมีพฤติการผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ ซึ่งการในการออกมติครม.ว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยและมีใครโต้แย้งหรือไม่ในการออกนโยบาย หากไม่มีใครโต้แย้งก็ถือว่ามีความผิดยกเข่ง
       
       
        นายนาม ยังกล่าวถึงความคืบหน้าคดีจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับ คดีการจัดซื้อพันธุ์กล้ายางพาราของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า อนุกรรมการไต่สวนทั้งสองชุด จะสามารถสรุปคดีและส่งให้อัยการสั่งฟ้องได้ภายในเดือนพ.ค.นี้อย่างแน่นอน
       
        ด้านนาย สัก กอแสงเรือง โฆษก คตส. กล่าววา ในการประชุมใหญ่ คตส. วันที่ 23 เม.ย.นี้ คณะอนุกรรมการตรวจสอบการซื้อขายหุ้นของบริษัทชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในส่วนของบริษัทแอมเพิลริช อินเวสต์เม้นต์ จำกัด ที่มีนายวิโรจน์ เลาหะพันธ์ กรรมการคตส.เป็นประธาน จะมีการสุรปตัวเลขภาษีเงินได้นิติบุคคลของบริษัทแอมเพิลริช มูลค่หลายพันล้านบาท นอกจากนี้จะมีการพิจารณาของตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนโครงการออกสลากเลขท้าย 2-3 ตัว ชุดของ นายอดม เฟื้องฟุ้ง เป็นประธานตรวจสอบเนื่องจากกระทรวงกาคลัง เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษ ชัดเจนแล้ว


--------

http://www.tracecorrupt.tv/
บันทึกการเข้า
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #1 เมื่อ: 23-04-2007, 10:16 »

มิน่า เมื่อวานก่อนมีคนอกมาโวยวายว่าโดนรังแก
ที่แท้กำลังจะอดตายนี่เอง 555
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #2 เมื่อ: 23-04-2007, 10:28 »

อยากทำอะไรก็ทำไปเถิดครับ....แต่คนทำต้องรับผิดชอบผลของการกระทำด้วยล่ะกัน ฮ่าๆๆๆ
บันทึกการเข้า
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 23-04-2007, 10:33 »




หลักฐานชัด อายัดได้สักคดี บ้านเมืองคงสงบเรียบร้อยได้ในเร็ววัน...

ขอบคุณและให้กำลังใจ คตส.ครับ

                                                                     
บันทึกการเข้า

ดอกฟ้ากับหมาวัด
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,042



« ตอบ #4 เมื่อ: 11-05-2007, 21:37 »

ต่ออายุคตส.-ช่วยแก้วงจรอุบาทว์


ต้องยอมรับว่าหน่วยงานที่ได้รับการยอมรับว่ามีผลงานมากที่สุดหน่วยงานหนึ่ง

ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์ปฏิวัติเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 49 ที่ผ่านมา

คงหนีไม่พ้นคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.)

 เพราะภารกิจที่ได้รับคือการตรวจสอบความไม่ชอบมาพากลของโครงการต่าง ๆ ในสมัยของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

 เพราะการบริหารงานที่ส่อว่าจะมีการทุจริตคอร์รัปชัน เป็นหนึ่งในเงื่อน ไขที่ทางคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.)

ใช้ในการล้มล้างรัฐบาลชุดที่ผ่านมา ดังนั้นภาระหน้าที่ของหน่วยงานจึงได้ถูกจับตามองเป็นพิเศษว่าจะทำงานได้สัมฤทธิผลมากแค่ไหน
 
จะเห็นได้ว่าช่วงที่ผ่านมามีความเคลื่อนไหวของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จำนวนหนึ่ง

 พยายามเคลื่อนไหวเพื่อขยายระยะเวลาในการทำงานของคตส. เนื่องจากประกาศของคปค.ฉบับที่ 30 ที่ระบุว่า

การทำงานของหน่วยงานนี้จะสิ้นสุดในวันที่ 30 ก.ย. 50  จึงมีความห่วงใยของคนในสังคมที่มีจำนวนไม่ใช่น้อย

เกรงว่า ด้วยภารกิจและข้อจำกัดของเวลา อาจจะทำให้คตส.ไม่สามารถดำเนินภารกิจให้ลุล่วงไปตามเป้าหมายที่วางไว้

โดยเฉพาะการตรวจสอบโครงการต่าง ๆ ของรัฐบาลที่เพิ่งหมดวาระไป

เพราะมีทั้งความสลับซับซ้อนและข้อสำคัญคือการไม่ได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่รัฐ
 
น่ายินดีที่ในที่สุดรัฐบาลภายใต้การนำของพล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ ได้ให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ. แก้ไขประกาศของ คปค. ฉบับที่ 30

 โดยให้ขยายระยะเวลาการทำงานของ คตส. ออกไปให้เหมาะสมกับภารกิจที่ได้รับ และสิ้นสุดการทำงานพร้อมไปกับคณะรัฐมนตรี

 ซึ่งถือเป็นท่าทีที่สำคัญของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ที่ต้องการแสดงให้เห็นว่าพร้อมจะให้ความร่วมมือกับหน่วยงาน

ที่มีหน้าที่ในการตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งที่ผ่านมาผู้นำรัฐบาลคนปัจจุบันก็ถูกวิจารณ์มาตลอด

ไม่ค่อยมีท่าทีสนองตอบต่อเงื่อนที่ คมช. ใช้ในการล้มล้างรัฐบาลชุดที่ผ่านมา
 
ต่อจากนี้เมื่อ คตส. ได้รับทราบช่วงเวลาในการ ปฏิบัติภารกิจที่ชัดเจน คงจะเร่งรัดการทำงานให้ปรากฏเป็นผลงานโดยเร็ว

แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาจะมีบางคดีที่ คตส. ได้นำสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว

หรือล่าสุดที่ได้ชี้มูลความผิดต่อผู้ที่เกี่ยวข้องในโครงการบ้านเอื้ออาทร

หรือกรณีการบริหารงานโดยเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทในเครือชินคอร์ปฯแล้วก็ตาม

เพราะการตรวจสอบปัญหาการทุจริตจนสามารถนำผิดมาลงโทษได้

จะมีส่วนสำคัญในการป้องกันไม่ให้ใครก็ตามที่เข้ามาเป็นกล้ากระทำในสิ่งที่ผิดกฎหมาย

 และจะเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดวงจรอุบาทว์กับการเมืองไทยในอนาคตด้วย.


http://www.dailynews.co.th


ขอเป็นกำลังใจให้กับ คตส. ค่ะ เชือดไก่ทั้งเล้า ให้พวกลิงขี้หงุดหงิดดูซะที

จะได้เลิกบ่น


บันทึกการเข้า

***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ

      น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #5 เมื่อ: 12-05-2007, 09:55 »

อยากทำอะไรก็ทำไปเถิดครับ....แต่คนทำต้องรับผิดชอบผลของการกระทำด้วยล่ะกัน ฮ่าๆๆๆ

ค่ะ ไอ้เหลี่ยมกำลังจะต้องรับผิดชอบสิ่งที่มันทำไว้เร็วๆนี้แหละค่ะ จ๊ะ อย่าพึ่งใจร้อน 
บันทึกการเข้า
ล้างโคตรทักษิณ
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 903



« ตอบ #6 เมื่อ: 12-05-2007, 19:28 »

คนทำต้องรับผิดชอบผลของการกระทำด้วยล่ะกัน ฮ่าๆๆๆ

เออ เลี่ยงภาษี ตอนนี้ก็กำลังจะรับกรรมสามานย์ไปละไง  ก๊ากๆๆๆ

ทำมาหายัดกับแผ่นดิน รายได้เป้นหมื่นล้าน ยังคิดเลี่ยงภาษี อายหมามันเถอะ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: