ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
28-04-2024, 02:20
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  ห้องสาธารณะ  |  กำหนดให้ศาสนาพุทธ เป็นศาสนาประจำชาติ อย่าชงเอง ตำหนิกันเองในห้องเฉพาะเลย 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
กำหนดให้ศาสนาพุทธ เป็นศาสนาประจำชาติ อย่าชงเอง ตำหนิกันเองในห้องเฉพาะเลย  (อ่าน 1761 ครั้ง)
กร
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: 19-04-2007, 23:46 »

กำหนดให้ศาสนาพุทธ เป็นศาสนาประจำชาติ อย่าชงเอง ตำหนิกันเองในห้องเฉพาะเลยครับ

ดูเหตุผลของหลายคนแล้วบอกตามตรงว่าเอาแต่ด่าว่าอย่างเดียวครับ  , บอกว่ามีผลประโยชน์การเมืองแอบแฝง  หรือไม่ก็เรียกร้องสารพัดอย่างโดยบอกว่าถ้าทำแล้วไม่ดีขึ้นตามนี้แสดงว่าไม่มีประโยชน์

ถ้าทำตามแนวนี้ไม่ค่อยเปิดกว้างเท่าไร  มาตั้งห้องสาธารณะให้คนทั่วไปตอบบ้างก็ดีในประเด็นสาธารณะ 
บันทึกการเข้า
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #1 เมื่อ: 20-04-2007, 01:16 »

ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่คำว่า "ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ" หรอกครับ
ปัญหามัันอยู่ที่ ทำไมถึงคิดเขียนคำๆนี้ลงไปต่างหาก
ซึ่งหลังจากฟังเหตุผลของเล่าผู้เรียกร้อง
ผมเห็นว่า ความไม่เข้าใจบทบาทของรัฐธรรมนูญ
่อาจจะไม่เข้าใจสิ่งที่ตัวเองเรียร้อง
และไม่มีอะไรมากไปกว่าความต้องการของตัวเองถูกเสมอ
จะว่านินทาพระก็ได้ แต่ผมอยากต่อว่าคนที่ยุพระให้ข้อมูลผิดๆกะพระมากกว่า
บันทึกการเข้า
montasavi
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8


« ตอบ #2 เมื่อ: 24-04-2007, 21:23 »

ขอแสดงความคิดเห็นเรื่องศาสนาประจำชาติ

ข้าพเจ้าเคยได้ยินหลักสูตรภาษาไทยของพี่น้องมุสลิมในจังหวัดภายได้ เขาเริ่มสอนว่า " กอ ไก่ พระเจ้าสร้างมา" แทนที่จะสอนว่า กอ เอ๋ย กอ ไก่ นั่นแสดงว่าเป็นเรื่องดีที่เขาสนใจปลูกฝังหลักศาสนาให้แก่ลูกหลานตั้งแต่เยาว์วัย โดยที่พ่อ-แม่ ครูบาอาจารย์เป็นผู้สอนเอง ไม่ต้องรอให้นักการศาสนามาสอน  แต่พอหันมาดูพี่น้องชาวพุทธด้วยกัน จะมีสักกี่คนที่เคยสอนศาสนาให้กับลูกหลานด้วยตนเอง  เพราะแม้แต่พ่อ-แม่เองก็ทำตัวเหินห่างจากศาสนามาโดยตลอด

ขอถามหน่อยนะครับ
1. ท่านคิดว่า พุทธศาสนิกชนทั่วโลก ในปัจจุบันนี้มีมากขึ้นหรือน้อยลงครับ? ลองเข้าไป
ที่นี่ดู http://www.newmana.com/yabb/index.php?board=1.0 และ http://www.muslimthai.com/forum/index.php?board=9.0 ก็จะทราบว่าเยาวชนของเราเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหน ที่กล่าวกันว่า ประเทศไทยมีประชากรนับถือศาสนาพุทธ กว่า 90 % คงไม่เป็นความจริงอีกต่อไปแล้ว

2. เป็นคำถามเชิงเปรียบเทียบนะครับ
เด็กเล็กๆที่ป่วย ไม่ยอมรับประทานยาขม แต่เพราะกลัวคำสั่งของพ่อ-แม่จึงยอมทานยา สุดท้ายท่านคิดว่าเขาจะหายป่วยมั๊ยครับ..   การบัญญัติพุทธศาสนาก็เช่นกัน  เมื่อบัญญัติแล้ว ก็จะสามารถออกกฎหมายมาบังคับไม่ให้มีการฆ่าสัตว์และดื่มสุราในวันพระ   นักเรียนนักศึกษาต้องปฏิบัติธรรมเจริญวิปัสสนาภาวนา ปีละ 10 วัน เป็นต้นได้...
(...ศาสนาอิสลามห้ามดื่มสุรา และเล่นการพนันโดยเด็ดขาด..)

3. เมื่อก่อนนี้   ข้าพเจ้าไม่ค่อยเห็นด้วยสักเท่าไหร่กับการให้บัญญัติศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ   แต่เนื่องด้วย ขณะนี้เยาวชนคนรุ่นใหม่ทำตัวห่างเหินจากศาสนาที่พ่อแม่นับถือมากขึ้นทุกวัน   พ่อ-แม่ก็ไม่สามารถชักจูงลูกหลานให้เข้าหาศาสนาได้ เพราะตนเองก็เคยถูกคนรุ่นปู่-ย่า ละเลยในเรื่องนี้เช่นกัน   เมื่อความจริงเป็นเช่นนี้ อีก ๕๐ ปีข้างหน้าพระพุทธศาสนาจะเป็นเช่นไรละครับ   มันน่าจะถึงเวลาแล้วนะครับ ก่อนที่จะปล่อยให้ศาสนิกของศาสนาอื่นมีมากขึ้นกว่านี้  จนแก้ไขอะไรไม่ทัน ..

...ศาสนาอิสลามไม่เหมือนศาสนาอื่นนะครับ   อย่าได้หวังว่า เมื่อเขาขึ้นเป็นใหญ่แล้วเราจะขอร้องอะไรเขาได้ ประเทศอินโดเนเซีย มาเลเซีย เคยเป็นประเทศพุทธศาสนา 100 % มาก่อน แต่เดี่ยวนี้ ชาวพุทธจะขอเช่าสถานีวิทยุออกอากาศรายการธรรมสอนชาวพุทธด้วยกันก็ยังไม่ได้เลยครับ.. ประเทศมุสลิมแถบอาหรับจะเอาเทปธรรมเข้าประเทศเขาก็ยังไม่ได้เลยนะครับ...
...จะทำกันประการใด  ก็โปรดพิจารณากันให้ถี่ถ้วน   ส่วนตัวข้าพเจ้าเองอีกไม่เกิน 50 ปี ก็คงไม่อยู่แล้ว ลูกหลานก็ไม่มี จึงไม่เดือนร้อนในประเด็นนี้เท่าไหร่นัก แต่พวกท่านทั้งหลายยังมีลูกหลานสืบสกุลกันอยู่มิใช่หรือ

... ขอให้เป็นชะตากรรมของสัตว์ก็แล้วกัน     ถ้าจะให้อาตมาไปร่วมประท้วงด้วย..คงจะไม่ไป?


ประเด็นหลัก
ประเด็นที่แท้จริงในเรื่องนี้ ก็คือ สถานการณ์ที่เป็นไปในปัจจุบันนี้ จะต้องมีกฎเกณฑ์ หรือมาตรการข้อบังคับอย่างใดอย่างหนึ่งมาแก้ไขโดยด่วน ได้แก่
1. จะต้องมีกฎหมายที่แน่นอน ที่จะมาบีบบังคับให้ผู้ที่ประพฤติเสื่อมเสียออกไปเสียจากศาสนาให้เร็วที่สุด และมากที่สุด เท่าที่จะทำได้
2. จะต้องมีกฎข้อบังคับให้ชาวพุทธทุกคนต้องปฏิบัติวิปัสสนาอย่างน้อย ๑๐ วัน ในชาตินี้ หลังจากนั้นทุก ๆ อย่างก็จะเข้าสู่ระบบของมันเอง
เมื่อถึงตรงนี้ ขอถามว่า จะมีสิ่งใดที่จะช่วยผลักดันให้สองข้อข้างต้นเป็นไปได้จริง ยิ่งไปกว่ากันบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ หรือท่านมีข้อคิดเห็นที่เป็นไปได้ และน่าสนใจยิ่งไปกว่านี้..?

ศาสนาพุทธ มีจุดอ่อนตรงที่ให้อิสรเสรีแก่ทุกๆคนที่จะปฏิบัติตาม  แต่ในเมื่อพวกเราซึ่งเป็นผู้ใหญ่รู้แจ้งแก่ใจว่า หากใครปฏิบัติตามคำสอนของพุทธศาสนาจะต้องได้ดีทุกคน  แล้วพวกเราจะมัวมาลังเลอะไรกัน กับการช่วยกันออกกฎข้อบังคับ เพื่อบีบบังคับให้ลูกหลานได้ปฏิบัติตาม

ขอถามย้ำอีกครั้งว่า ในสถานการณ์ที่สื่อโหมโฆษณาชวนชื่อดึงจิตคนรุ่นใหม่ให้ห่างไกลศาสนาออกไปทุกนาที ทุกชั่วโมง และยั่วยุ-เย้ายวนจิตใจให้พระหนุ่ม เณรน้อยมีพฤติกรรมที่เสื่อมเสีย มากขึ้น ๆๆ อย่างที่เป็นอยู่นี้    จะมีวิธีการใดที่เป็นไปได้จริงมิใช่แค่บ่น ที่จะทำให้พระไม่ดีออกไปจากศาสนา และส่งเสริมให้ชาวพุทธทุกคนได้ลิ้มรสชาติแห่งพระสัทธรรมอย่างน้อย ๑๐ วันในชาตินี้ ได้ดีและเป็นไปได้จริงยิ่งไปกว่าการบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ และออกกฎหมายลูกมาบีบบังคับ

ถ้าหากมีวิธีการอื่นที่ทำได้ และเป็นไปได้จริงด้วยนะ ก็โปรดนำมาเสนอด้วย

.. ที่ว่าประเทศภูฐาน ไม่ได้บัญญัติในรัฐธรรมนูญนั้น   ก็เพราะเขายังไม่มีสิ่งยั่วยุมากมายเหมือนบ้านเรา คนในชาติและพระสงฆ์ยังยึดมั่นในศาสนากันดีอยู่ 
...ที่ว่า ถึงบัญญัติไว้ก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้   แต่ที่เกิดขึ้นจริงคืออะไร ปัจจุบันนี้มิได้บัญญัติไว้มิใช่หรือ จึงไม่สามารถออกกฎหมายลูกมาบีบบังคับพระสงฆ์และข้าราชารได้ สิ่งเลวร้ายต่างๆจึงเกิดขึ้นทั้งแก่พระศาสนาและสังคม จนแทบจะหาทางแก้ไม่ได้แล้ว   รัฐธรรมนูญฉบับนี้ อาจจะเป็นรถด่วนขบวนสุดท้าย ที่จะมาช่วยให้พุทธศาสนาอยู่รอดในสังคมไทยก็ได้นะ..โปรดพิจารณาดู
..สิ่งที่ต้องการจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้คือ การออกกฎหมายลูกมาบีบบังคับพระอลัชชีและข้าราชการในเรื่องเกี่ยวกับศาสนาโดยเฉพาะ   ..ท่านก็รู้ดีนี่หน่า ว่า..แค่พระธรรมวินัยเอาแทบไม่อยู่แล้ว   

ปฏิบัติวิปัสสนาปีละ ๑๐ วัน
ที่อาตมากล้าพูดเรื่องวิปัสสนา ๑๐ วันนั้น เนื่องจาก เมื่อ ๗ เดือนที่ผ่านมา อาตมาได้ไปปฏิบัติวิปัสสนา ๗ เดือนเต็ม  เป็นการปฏิบัติแบบวิปัสสนาล้วน ๆ ซึ่งถูกต้องตามหลักคัมภีร์พระไตรปิฎก อรรถกถาและฎีกาทุกประการจึงกล้าที่จะยืนยันว่า หากใครปฏิบัติด้วยวิธีการที่ถูกต้อง ผ่าน ๑๐ วันแรกของชีวิตไปได้ หลังจากนั้นเขาจะปฏิบัติต่อเองโดยไม่ต้องบังคับ  แต่มีเงือนไขว่า ต้องเป็นการปฏิบัติแบบวิปัสสนาล้วน ๆ นะครับ จึงจะได้ผลเช่นนี้  แต่ถ้าปฏิบ้ติแบบปุพพังคมนัย ก็จะได้ผลเช่นกัน แต่ต้องใช้เวลานากว่านี้มาก แค่ ๑๐ วันยังไม่ได้อะไรเลย   การปฏิบัติทั้ง ๒ แบบนี้มีข้อแต่ต่างดังนี้
.. วิปัสสนาล้วน(สุทธวิปัสนา) ทำให้กิเลสลดและเข้าใจชีวิตมากขึ้นเท่านั้น แต่สมาธิไม่ดิ่งลึกมาก
..ปุพพังคมนัย(สมถนำหน้า) ช่วงแรกจะฟุ้งซ่านมาก แต่พอผ่านไปสมาธิจะดิ่งลึกมาก สุขสงบมากเกินไป ช่วงแรกๆ ยิ่งปฏิบัติยิ่งยึดติด จนบางคนหลงไปเลยก็มี   

...ที่อาตมาสามารถปฏิบัติวิปัสสนาติดต่อกัน ๗ เดือนเต็มได้ ก็เนื่องมาจาก ตอนเรียนปริญญาตรี ถูกมหาวิทยาลัยบังคับให้ปฏิบัติ ปีละ ๑๐ วันนี้แหละ
บันทึกการเข้า
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 25-04-2007, 00:08 »



เห็นที่เปิดให้เด็กได้เรียนนักธรรม ก็ได้ผลในระดับหนึ่งครับ..

แต่ชนบทไม่ทราบครับว่าเปิดให้เรียนให้สอบกันหรือไม่..

                                                                                         
บันทึกการเข้า

นี่หรือคน
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #4 เมื่อ: 29-04-2007, 13:44 »

ที่บอกว่ามีชาวพุทธมากกว่า ๙๐% นั้นค่อนข้างจริงนะครับ แต่เป็นแค่เพียงในเอกสารเท่านั้น

บางคนเขาเปลี่ยนศาสนาแล้ว แต่ในเอกสารยังเป็นพุทธอยู่

บางคนไม่มีศาสนาแต่ก็ กรอกลงในเอกสารว่าเป็นพุทธ เพราะบ้านเรายังไม่มีให้กรอกว่า "ไม่มีศาสนา"

บางคนนับถือผีสางเทวดา(ความเชื่อชาวบ้าน) แต่ก็กรอกไปว่าเป็นพุทธ

น้อยคนจริงๆที่เปลี่ยนความเชื่อ ไปๆมาๆ แต่ก็ยังเขียนว่าตนเป็นพุทธ (เพื่อนของผม)
บันทึกการเข้า
อังศนา
Moderator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,860


Can't fight the moonlight!


เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 29-04-2007, 17:02 »

..ข้าพเจ้าไม่เคยเชื่อว่ากลุ่มการเมืองที่กำลังเคลื่อนไหวเรื่องนี้จะมีความจริงใจ
ล้วนแล้วแต่เป็นพวกที่หาประโยชน์จากประเด็นศาสนาทั้งนั้น ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม

..ไม่รู้ใครรู้สึกแปลกๆ มั่งไหม ที่เว็บคนวันเสาร์ฯ ใช้กระแสจตุคามระดมพลกันเอิกเกริก 
ในพันทิปก็เห็นตั้งกระทู้ยกย่องความคิดนี้ว่าเป็นถึงระดับภูมิปัญญานั่นเชียว.. กรรมเวร!
น่าเสียดายที่เปิดอ่านไม่ได้เพราะพันทิปปิดปรับปรุง เลยมีแต่ลิงค์ขายพระมาให้ดู
http://saturdayvoice.no-ip.info/jatukarm.php
เกี่ยวกันหรือเปล่าไม่รู้.. รู้แต่ว่ามันชักเพี้ยนกันหนักข้อไปแล้วนะเนี่ย 

บันทึกการเข้า

แม้ผืนฟ้า มืดดับ เดือนลับละลาย 
ดาวยังพราย ศรัทธา เย้ยฟ้าดิน (จิตร ภูมิศักดิ์)
อังศนา
Moderator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,860


Can't fight the moonlight!


เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 29-04-2007, 22:38 »

ห้องราชเปิดแระ.. 
เลยเอาลิงค์ที่พูดถึงข้างบนมาแปะไว้จั๊กน่อย
เผื่อใครสนใจจะอ่าน.. หุ หุ
ภูมิปัญญา…ไทยไล่โจร...เสียงกระซิบจากคนวันเสาร์   
http://pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P5361573/P5361573.html
องกรณ์พุทธศาสนา และพระหลายหมื่นรูปตอบรับจะทำพุทธาภิเษก จตุคามให้กลุ่มคนวันเสาร์แล้ว 
http://pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P5361846/P5361846.html

บันทึกการเข้า

แม้ผืนฟ้า มืดดับ เดือนลับละลาย 
ดาวยังพราย ศรัทธา เย้ยฟ้าดิน (จิตร ภูมิศักดิ์)
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 30-04-2007, 15:07 »

ห้องราชเปิดแระ.. 
เลยเอาลิงค์ที่พูดถึงข้างบนมาแปะไว้จั๊กน่อย
เผื่อใครสนใจจะอ่าน.. หุ หุ
ภูมิปัญญา…ไทยไล่โจร...เสียงกระซิบจากคนวันเสาร์   
http://pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P5361573/P5361573.html
องกรณ์พุทธศาสนา และพระหลายหมื่นรูปตอบรับจะทำพุทธาภิเษก จตุคามให้กลุ่มคนวันเสาร์แล้ว 
http://pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P5361846/P5361846.html



555 นับถือ ผี สาง เทพ เทวดา อยู่ แล้วจะมาบอกว่าเป็นพุทธ โถ่ๆๆๆๆ
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
นายเกตุ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,289



« ตอบ #8 เมื่อ: 30-04-2007, 15:28 »

ก็เล่นงมงายกันซะขนาดนี้ ก็ไม่แปลกใจหรอกว่าทำไมศรัทธาเทพทักกันจัง

เอาคุณไสยมาเล่นก็สุดยอดแล้ว
บันทึกการเข้า
คำอ้าย
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #9 เมื่อ: 05-05-2007, 08:47 »

ถ้ามีทางออกเหลือเพียง 3 ทาง
Thailand really has only three ways to go: Denial until things are destroyed from neglect, corruption, and self-delusion, enlightenment and transformation, or the dark path of nihilism.
1. แสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้จนกระทั่งหลายสิ่งหลายอย่างถูกทำลายไปอย่างราบคาบจากการฉ้อฉลและความหลงเชื่อในสิ่งผิด
2. แสวงหาหนทางแห่งการรู้แจ้งเห็นจริงในปัญหาแล้วปรับปรุงเปลี่ยนแปลงแก้ไข
3. เดินไปตามเส้นทางแห่งการทำลายล้างหรือกระทำการร้ายแรงอันมืดมนจนตรอก
http://thailandjumpedtheshark.blogspot.com/search/label/Thai%20Buddhism
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: