โห "พรุ่งนี้(กุ)ต้องดีกว่า(เก่า)" ขอค่าทำตั้งสองล้านกว่า ค่าเผยแพร่ต่างหาก

[อยากประหยัดให้ติดแก๊ส]

[login not found]

อ่า แล้วมันแปลกตรงไหนครับ ก็เขาทำตาม 4ข้อที่เขารัฐประหาร
คุณแถไม่เคยเห็นรายการของกองทัพ ของกระทรวง ฯลฯ ที่ไว้ใช้ประชาสัมพันธ์เหรอครับ
รายการคุยวันเสาร์ กะเดินสายแจกตังของเหลี่ยม ทั้งไม่ได้ประโยขน์ ทั้งเสียตังมากกว่าตั้งไม่รู้กี่เท่า

คุณแถนี่พอเขาไม่ทำก็บ่นว่าทำรัฐประหารทำไม ไม่เห็นเหลี่ยมผิดตรงไหน
พอทำก็บอกว่าเขาจะทุจริตบ้างละ เอางบมาใช้ไม่บอกบ้างละ

ขีบ่นจริงๆ 

[อยากประหยัดให้ติดแก๊ส]

ประเทศชาติไทยมันรวยนักหนา หลังปฏิวัติอยากได้งบอะไรก็ขอเองเซ็นต์เองง่ายๆ
ก็เลยจะบอกเป็นนัยๆ ว่าพรุ่งนี้(พวกกรู)ต้องดีกว่าเก่าให้ประชาชนชาวไทยได้รู้ไว้ไง
พวกทุจริตผลประโยชน์ทับซ้อนอะไรนั่น รอศาลดีกว่า ออกมาอย่างงี้เสียเวลา ถ้า
ศาลตัดสินว่าไม่ทุจริตก็หน้าแหกกันหมด แต่เงินที่ทำนี่เอาคืนไม่ได้ ผลที่ได้เห็นๆ
คงมีแค่ยกหางตัวเอง หาความชอบธรรมในการยึดอำนาจ ด้วยการด่าคนอื่นไว้ก่อน
แล้วก็เลยตั้งชื่อรายการว่า พรุ่งนี้ต้องดีกว่า ให้กำลังใจพวกเดียวกันเองไง แต่ทั้งหมด
นี่ก็เงินภาษีเราๆ ท่านๆ ทั้งนั้น มันไม่ได้ควักเงินมาทำเองซักบาท

[login not found]

ประเทศชาติไทยมันรวยนักหนา หลังปฏิวัติอยากได้งบอะไรก็ขอเองเซ็นต์เองง่ายๆ
ก็เลยจะบอกเป็นนัยๆ ว่าพรุ่งนี้(พวกกรู)ต้องดีกว่าเก่าให้ประชาชนชาวไทยได้รู้ไว้ไง
พวกทุจริตผลประโยชน์ทับซ้อนอะไรนั่น รอศาลดีกว่า ออกมาอย่างงี้เสียเวลา ถ้า
ศาลตัดสินว่าไม่ทุจริตก็หน้าแหกกันหมด แต่เงินที่ทำนี่เอาคืนไม่ได้ ผลที่ได้เห็นๆ
คงมีแค่ยกหางตัวเอง หาความชอบธรรมในการยึดอำนาจ ด้วยการด่าคนอื่นไว้ก่อน
แล้วก็เลยตั้งชื่อรายการว่า พรุ่งนี้ต้องดีกว่า ให้กำลังใจพวกเดียวกันเองไง แต่ทั้งหมด
นี่ก็เงินภาษีเราๆ ท่านๆ ทั้งนั้น มันไม่ได้ควักเงินมาทำเองซักบาท

พูดถึงเหลี่ยม หรือถูกถึงรบ.ชุดนี้กันแน่ครับ
ยิ่งคุณแถพูด ผมว่ามันยิ่งตรงกะ รบ.ชุดที่แล้วนะ
หน่วยงาน กระทรวง หรือแม้แต่โปรเจคโปรโมทแม้ว
บอกว่าไม่เคยโกงคนอื่น กล่าวหาคนอื่น พอศาลตัดสินออกมาก็หน้าแหก
มันตรงกะแม้วทั้งนั้น

[Go_oK]

รัฐบาลนี้ไม่ค่อยมีตังต์หรอกครับ เงินหวยก็ไม่มีให้ใช้ (ผลาญ) สู้รัฐบาลเก่าก็ไม่ได้มีเงินเยอะ งานนี้ใช้แค่สองล้านกว่าๆ เอง สู้งานบางกอกเมืองแฟชั่นก็ไม่ได้ ใช้ไปไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ แต่ไม่รู้จะมีหลักฐานมาให้ดูเหมือนเรื่องอย่างนี้หรือเปล่า

ปล. แน่จริงเอามาให้ดูหน่อยสิ

[หน้าเหลี่ยมด้าน ณ ประชาไท]

แล้ว ออก พรบ ให้ บริษัท ชินแซท ไม่ต้องเสียภาษี 6 ปีเป็นเงิน 1.6 หมื่นล้านบาทละจ๊ะ พ่อลิ้วล้อ

[อยากประหยัดให้ติดแก๊ส]

แล้ว ออก พรบ ให้ บริษัท ชินแซท ไม่ต้องเสียภาษี 6 ปีเป็นเงิน 1.6 หมื่นล้านบาทละจ๊ะ พ่อลิ้วล้อ

ดำรง เกษมเศรษฐ์ ความแตกต่างเดียวของบุญคลี
ดร.ดำรงได้สร้างระบบการจัดการขึ้นภายในชิน แซทเทลไลท์ ให้อยู่ภายใต้รูปแบบมาตรฐานของมืออาชีพ ที่ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เริ่มแรก การคัดเลือกคนที่จะมาร่วมงาน ประสบการณ์ที่ต้องมาร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งดร.ดำรงก็เชื่อในการบริหารแบบกระจายอำนาจ

"เด็กทำงานที่นี่จะมีความเชื่อมั่นในตัวเอง ไม่ใช่ทุกครั้งที่เจอลูกค้าที่เป็น Vice President แล้วเราต้องเอา Vice President ไปชน ตอนไปตกลงกับรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมของลาว เขมร ก็เป็นระดับผู้จัดการฝ่าย ไปตกลงได้เลย ยกเว้นแต่ต้องการเชิญไปเป็นหน้าตา เราไม่มีการแบ่งขั้นตอนการทำงาน แต่เราทำให้ทุกคนรู้สึกเป็นเจ้า ของ"

นับตั้งแต่ วันที่ 11 กันยายน 2542 เป็นวันที่อายุคุ้มครองดาวเทียมไทยคมหมดลง และจะเป็นวันที่ดาวเทียมไทยคมจะต้องลงสนามแข่งขันอย่างแท้จริง

ดร.ดำรงใช้ไทยคม 3 ในการสร้างประสบการณ์ และการเรียนรู้ในการแข่งขันระดับภูมิภาค เป็นบทแรก ตัวเลขยอดรายได้ 35% ในปี 2541 ที่ได้มาจากลูกค้าต่างประเทศเป็นการันตีแรกของความพร้อมในการแข่งขันบนน่านฟ้า

นอกเหนือจากการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจ ด้วยการขายแบบครบวงจร Turnkey Project แล้วนั้น มาตรฐานไอเอสโอ มาใช้เป็นเครื่องมือเพื่อช่วยสร้างความมั่นใจการรับมือกับตลาดเสรี "ชินแซท" ฝากอนาคตไว้กับดาวเทียม "ไอพีสตาร์" ด้าน "ดำรง เกษมเศรษฐ์" มั่นใจภายใน 2 ปีมีรายได้ตุงกระเป๋า เผยก้าวแรกขอบุกตลาดเอเชีย-แปซิฟิกผงาดเบอร์ 1 ก่อนก้าวสู่สนาม ยุโรป/อเมริกา หวังเป็น "โกบัล แซตเทลไลต์" ฟุ้งไอพีสตาร์ ศักยภาพเหนือกว่าไทยคม 1-3 กว่า 3 เท่าตัว

ชินแซทเทลไลท์ได้รับส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอยกเว้นภาษีไอพีสตาร์ 8 ปี
นนทบุรี - บริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินโครงการดาวเทียมสื่อสารแห่งชาติไทยคมและโครงการดาวเทียมบรอดแบนด์ "ไอพีสตาร์" ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ ในการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเฉพาะรายรับที่ได้รับจากต่างประเทศเป็นเวลา 8 ปี

บริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการประชุมบอร์ดของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ เมื่อวันที่ 19 พ.ย.46 ที่ประชุมได้มีมติอนุมัติให้โครงการขยายกิจการให้บริการวงจรดาวเทียมของบริษัทฯ คือ โครงการดาวเทียมบรอดแบนด์ไอพีสตาร์ ซึ่งเป็นการให้บริการดาวเทียมบรอดแบนด์ ที่ให้บริการข้อมูลความเร็วสูง โดยเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างดาวเทียมไอพีสตาร์และสถานีภาคพื้นดินทั้งในส่วนสถานีควบคุมและสถานีลูกข่าย ซึ่งเตรียมที่จะเปิดให้บริการในช่วงกลางปี 2547 ซึ่งโครงการไอพีสตาร์นี้มีเงินลงทุนประมาณ 16,543 ล้านบาท เกิดการจ้างงานคนไทยกว่า 100 คน และมีสถานีดาวเทียมภาคพื้นดินอยู่ที่ จ.นนทบุรี และยังมีสถานีลูกข่ายอีก 18 แห่งใน 14 ประเทศ โดยที่ประชุมเห็นชอบให้โครงการไอพีสตาร์ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเฉพาะรายได้ ที่ได้รับจากต่างประเทศเป็นเวลา 8 ปี

ได้บีโอไอเฉพาะรายรับที่ได้รับจากต่างประเทศ แสดงว่ารัฐช่วยให้สามารถแข่งขันกับชาวบ้านชาวช่องได้ เพราะ
คู่แข่งคือต่างชาติที่มีขนาดใหญ่และมีความเป็นมืออาชีพ ถ้ารัฐยังงกภาษีเล็กๆ น้อยๆ ทำให้ราคาที่เสนอแพงกว่า
คู่แข่งต่างชาติรายได้ก็ไม่เข้าบริษัทฯ แล้วรัฐก็ไม่ได้ด้วย ต้องมองให้ออกว่า บริษัทนี้ไม่ได้ใหญ่ไปกว่าคู่แข่งต่าง
ชาติที่มีต้นทุนที่ถูกกว่าจากขนาดที่ใหญ่กว่า ไม่ใช่ได้บีโอไอมาแย่งลูกค้าในประเทศซะที่ไหน เอารายละเอียดมา
ลงด้วยนะ วันหลังจะกล่าวหาใครอย่ายกมาลอยๆ มั่วๆ นะ คุณลิ่วล้อของอะโลห้า

[อยากประหยัดให้ติดแก๊ส]

รัฐบาลนี้ไม่ค่อยมีตังต์หรอกครับ เงินหวยก็ไม่มีให้ใช้ (ผลาญ) สู้รัฐบาลเก่าก็ไม่ได้มีเงินเยอะ งานนี้ใช้แค่สองล้านกว่าๆ เอง สู้งานบางกอกเมืองแฟชั่นก็ไม่ได้ ใช้ไปไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ แต่ไม่รู้จะมีหลักฐานมาให้ดูเหมือนเรื่องอย่างนี้หรือเปล่า

ปล. แน่จริงเอามาให้ดูหน่อยสิ

แสดงความเห็นสมเป็นน้องใหม่จริง สองล้านมันแค่ค่าทำ ค่าออกทีวีมันจะมากมายมหาศาลแค่ไหนก็ลองคิดเอง
แล้วไอ้ที่จะไปกล่าวหาโครงการเก่าๆ ลอยๆ แบบนี้ เลิกเหอะ จะด่าใครกล่าวหาใครก็เอาหลักฐานมา แบบนี้ ไร้
สาระ สมองไม่พัฒนา

[อยากประหยัดให้ติดแก๊ส]

ท่านผู้อ่านท่านหนึ่ง ส่งเอกสารจำนวน 4 แผ่นมาให้ผม ด้วยวิธีการที่ไม่แตกต่างจาก "ท่านพันเอก" คือ ไม่ต้องรู้ว่าเธอเป็นใคร ฉันเป็นใคร ขอเพียงเรามีเป้าหมายตรงกัน เป็นอันใช้ได้

          พร้อมกับเอกสาร 4 แผ่นที่ได้มาใหม่ มีจดหมายน้อยเขียนด้วยลายมือตัวบรรจง แสดงถึงความมีระเบียบวินัยของเจ้าของลายมือ ว่า

          "เอกสารชุดนี้ ผมตรวจสอบแล้ว เป็นของจริง อยากให้ช่วยนำเสนอ เพื่อปกป้องงบประ มาณของกองทัพ ขอแสดงความนับถือ"

          ผมขอเสียมารยาทที่จะไม่นำลายมือของท่านผู้หวังดี แสดง ณ ที่นี้ ด้วยเกรงว่าอาจจะเป็นร่องรอยหลักฐานปรากฎ  เป็นแผนที่ทางเดินของผู้คิดร้ายให้ไปพบตัวท่าน อันจะนำอันตรายไปถึงท่านได้

          แม้จะเป็นเอกสารการอนุมัติงบประมาณแบบไม่เข้าท่า ของกองทัพบก แต่ผมไม่กล้ายืนยันว่า ท่านผู้หวังดีท่านนี้เป็นทหารหรือไม่ เพราะท่านขออนุญาตไม่เปิดเผยตัวและอาชีพ  ด้วยเหตุที่ตั้งใจมาเปิดเอกสารเพียงอย่างเดียว   

          เมื่อท่านแสดงเจตจำนงชัดเจนว่าไม่ต้องการเปิดเผยตัว ผมก็ต้องรักษาความลับของท่านเป็นสุดยอด

          จึงขอว่ากันเฉพาะเรื่องเอกสาร 4 หน้า เป็นวาระหลักก็แล้วกันครับ

          เอกสารชุดนี้ เป็นบันทึกข้อความของส่วนราชการ สกร.ศปศ.คมช. เลขที่ คมช.0003.6/022 ลงวันที่ 31 มกราคม 2550 เรื่องขออนุมัติจัดทำรายการ "พรุ่งนี้ต้องดีกว่า" และขอรับการสนับสนุนงบประมาณ  เสนอโดย พล.ท.จริยะ ทองพับ หน.สกร.ศปศ.คมช. และ ผู้อนุมัติ คือ พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก และ รองผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ

          หากจะเปรียบเทียบกับเอกสารแผนประชาสัมพันธ์เชิงลึกของ นายเชียรช่วง กัลยาณมิตร เอกสารชุดใหม่นี้ ดูจะด้อยค่าในเชิงตัวเลขมูลค่า แต่แอบแฝง หรือหมกเม็ดไว้ไม่น้อยกว่ากัน เท่าใดนัก

          หาจะเปรียบเทียบความมีเหตุมีผล ความเหมาะสมของการใช้เงินแผ่นดิน เอกสารชุดใหม่ ก็ดูจะด้อยกว่า  เพราะยังอยู่ในขั้นเตรียมการ เท่านั้น   แต่ก็พอจะบ่งชี้ได้ถึงความไม่ชอบมาพากลได้ไม่แตกต่างกัน

          หากจะเปรียบเทียบความสมบูรณ์ของเอกสาร ต้องยอมรับว่าเอกสารชุดใหม่ ดูจะด้อยกว่าเนื่องจากคนทำงานมีความระมัดระวังมากกว่า

          เอกสารชุดใหม่ ผมตั้งชื่อว่า "เพื่อชีวิตพรุ่งนี้ที่ดีกว่าของคมช." เป็นการเปิดเผยถึงช่องทางหาประโยชน์จากงบประชาสัมพันธ์ของคมช.  เป็นรูปรอยเดียวกับงบประชาสัมพันธ์เชิงลึก ของนายเชียรช่วง กัลยาณมิตร มีสาระสำคัญคือ

          สกร.ศปศ.คมช. ร่วมกับศูนย์ราชการใสสะอาด กรมประชาสัมพันธ์ จัดทำรายการสารคดีสั้นทางโทรทัศน์รายการ "พรุ่งนี้ต้องดีกว่า" โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้สื่อโทรทัศน์ของรัฐ / ภาคเอกชน สนับสนุนแผนงานประชาสัมพันธ์การดำเนินงานของคมช. เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องของสังคม ด้วยการนำเอาแนวทางในการบอกเล่าถึงข้อเท็จจริง ที่มีเหตุมีผลอันประกอบด้วย คุณธรรม จริยธรรม และหลักธรรมาภิบาล เกี่ยวกับการปฏิรูปการปกครองของไทยได้อย่างถูกต้อง 

          อ่านถึงตรงนี้ ก็ต้องหยุดพักสักนิด แล้วคิดให้มากสักหน่อยว่า การจัดทำสารคดีสั้นทางโทรทัศน์ชุด "พรุ่งนี้ต้องดีกว่า" ต้องเป็นงานที่ท้าทายผู้จัดทำอย่างมาก เนื่องจากจะต้องทำให้ประชาชนทั้งประเทศที่ได้ชม เชื่อและยอมรับว่า การรัฐประหาร การปล้นอำนาจ การใช้อาวุธและความรุนแรง เป็นการกระทำที่มีคุณธรรม จริยธรรม และถูกต้องตามหลักธรรมาภิบาล โดยมี การประพฤติ ปฏิบัติตัวของ คณะรัฐประหาร และ คมช. เป็นต้นแบบ

          ต่อครับ .... รูปแบบรายการที่จะนำเสนอ จัดทำเป็นสารคดีสั้นทางโทรทัศน์ ความยาวตอนละ 2 นาที จำนวน 75 ตอน เป็นการนำเนื้อหา จากสมุดปกขาว ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการปฏิรูปการปกครอง เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง จัดแบ่งย่อยออกเป็น 5 ชุด ชุดละ 15 ตอน ประกอบด้วย รักเธอประเทศไทย เมกกะโปรเจ็ค ผลประโยชน์ทับซ้อน มรดกของลูกหลาน และ แผ่นดินเดียวกัน  สำหรับงบประมาณค่าผลิตรายการตอนละ 30,000 บาท รวม 75 ตอน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,250,000 บาท (สองล้านสองแสนห้าหมื่นบาทถ้วน) รายละเอียดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย

          สกร.ศปศ.คมช. พิจารณาแล้วเห็นว่าการจัดทำรายการสารคดีโทรทัศน์รายการ "พรุ่งนี้ต้องดีกว่า" เป็นรายการที่ให้ความรู้ความเข้าใจแก่สังคม โดยนำเอาสาระสำคัญของสมุดปกขาวของคมช. มาขยายผล รวมทั้งการเสริมสร้างทัศนคติที่ดีเกี่ยวกับการปกครองของไทย และรายงานความคืบหน้าการทำงานของรัฐบาลและคมช. ซึ่งจะส่งผลดีต่อการปฏิรูปการปกครองและการบริหารประเทศ แต่เนื่องจาก ศปศ.คมช. ไม่มีงบประมาณสำหรับดำเนินการดังกล่าว จึงเห็นสมควรขอรับการสนับสนุนงบประมาณจาก สลธ.คมช. จำนวน 2,250,000 บาท เพื่อดำเนินการต่อไป

          สาระสำคัญของบันทึกข้อความ เพื่อจะใช้เงิน 2,250,000 บาท มีเพียงเท่านี้  และได้รับความเห็นชอบจาก พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก  ซึ่งสวมหมวก ผู้ช่วยเลขาธิการคมช. อีกหนึ่งใบ  จึงไม่ต้องลังเลสงสัยว่า สำนักงานเลขาธิการคมช. จะอนุมัติงบจำนวน 2,250,000 บาท นี้หรือไม่

          หากอ่านเพียงเท่านี้ ก็จะเห็นว่าไม่มีอะไรผิดปกติ แล้วอะไรเป็นข้อชวนสงสัยที่ "ประดาบ" จะต้องเอามาเล่าเป็นเรื่องเป็นราวให้ดูน่าสนใจและตื่นเต้น

          มันต้องมีเหตุผลสิครับ

          1. บันทึกขออนุมัติฉบับนี้ เป็นการขออนุมัติจัดทำสารคดีสั้นทางโทรทัศน์ ความยาว 2 นาที จำนวน 75 ตอน รวมเป็นเงิน 2,250,000 บาท

          คำถามคือ มีความสมเหตุสมผลหรือไม่ที่ กองทัพบก ซึ่งเป็นต้นสังกัดของสถานี โทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 จะต้องจ่ายเงินจ้างผู้อื่นมาจัดทำสารคดีสั้นทางโทรทัศน์ ในเมื่อ ททบ.5 มีความสามารถที่จะจัดทำได้อยู่แล้ว

          การเสนอตั้งงบประมาณจำนวนนี้ จึงมองเป็นอื่นไม่ได้ นอกจากว่ามีเจตนาที่จะใช้งบประมาณ  หรือจัดสรรงบประมาณจำนวนนี้ให้แก่บริษัทเอกชน ที่ได้ติดต่อประสานงานกันไว้แล้ว

          หากไม่ใช้ ททบ.5 จัดทำ  คมช. ก็สามารถสั่งการให้กรมประชาสัมพันธ์ จัดทำสารคดีสั้นทางโทรทัศน์ชุดนี้ได้อยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการนี้ เป็นการทำงานร่วมกันของ ศปศ.คมช. กับ กรมประชาสัมพันธ์

          ในเมื่อมีหน่วยงานที่มีศักยภาพ มีความสามารถรองรับถึง 2 หน่วยงานแล้ว จึงไม่น่าจะต้องหาเหตุผลหรือความจำเป็นในการจ้างผู้อื่นมาจัดทำสารคดีสั้นทางโทรทัศน์  75 ตอนนี้ แทน เว้นเสียแต่จะได้ตกลงกันไว้เรียบร้อยแล้ว

          2.  เอกสารฉบับนี้ ขออนุมัติงบประมาณจัดทำสารคดีสั้นทางโทรทัศน์ 2,250,000 บาท ซึ่งดูเหมือนจะเป็นเงินไม่มากนัก เมื่อเทียบกับการใช้จ่ายหรือผลาญเงินกับภารกิจอื่นๆ ของ คมช. แต่ เมื่อตรวจสอบในรายละเอียดของสิ่งที่ส่งมาด้วย (เอกสารแผ่นที่ 3) จะพบว่ามีการหมกเม็ดไว้อย่างแนบเนียนมาก และสันนิษฐานได้ว่า ผู้จัดทำเอกสารชุดนี้ ต้องเป็นมืออาชีพ ที่ทำมาหากินกับการผลิตรายการโทรทัศน์มาเป็นเวลานาน จึงทิ้งรอย "เขี้ยว" ไว้น่ากลัวยิ่งนัก

          เอกสารแนบการขออนุมัติงบประมาณจัดทำสารคดีสั้นทางโทรทัศน์ แผ่นที่ 1 จาก  2 แผ่น หัวข้องบประมาณ เขียนไว้ว่า "ขอรับการสนับสนุนจากคมช. เป็นค่าผลิตรายการ ตอนละ 30,000 บาท รวม 75 ตอน รวมเป็นเงินทิ้งสิ้น 2,250,000 บาท (ส่วนค่าเผยแพร่ขึ้นอยู่กับการซื้อเวลาเผยแพร่ของแต่ละช่วงสถานี)"

          ที่ผมบอกว่าหมกเม็ด ก็คือข้อความที่อยู่ในวงเล็บ นั่นล่ะครับ

          ย้อนกลับมาที่การขออนุมัติงบประมาณ 2,250,000 บาท อีกครั้ง  งบประมาณจำนวนนี้ เป็นงบจัดทำ หรืองบผลิตสารคดีสั้นทางโทรทัศน์ จำนวน 75 ตอน ตอนละ 30,000 บาท 

          หมายความว่า เมื่อจ่ายเงินไปแล้ว 2,250,000 บาท คมช.จะได้เทปสารคดีสั้นทางโทรทัศน์ กลับมา 75 ตอน  แต่ไม่สามารถไปออกอากาศ หรือ ฉายให้ประชาชมทางโทรทัศน์ ตามเจตนารมณ์ได้  เนื่องจากยังไม่มีงบประมาณสำหรับการซื้อเวลาเผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์

          ผู้จัดทำโครงการ จึงเขียน "สาระสำคัญ" ของการหาประโยชน์จากโครงการนี้ ไว้ในวงเล็บว่า ค่าเผยแพร่ขึ้นอยู่กับการซื้อเวลาเผยแพร่ของแต่ละช่วงสถานี

          แนบเนียนมากๆ แนบเนียนจริงๆ สำหรับการตั้งงบหัวเชื้อไว้เพียง 2,250,000 บาท เพื่อที่จะไปหากินอย่างเป็นกอบเป็นกำกับงบประมาณซื้อเวลาเผยแพร่ของสถานีโทรทัศน์

          ขณะนี้ คมช. อนุมัติงบประมาณ 2,250,000 บาท ไปแล้ว การผลิตสารคดีสั้น 75 ตอน ก็เดินหน้าไปแล้ว หากคมช. ไม่เตรียมงบประมาณสำหรับการซื้อเวลาเผยแพร่ทางโทรทัศน์ ให้อีก ก้เท่ากับว่าการผลิตสารคดีสั้น 75 ตอน เป็นการสูญเปล่า เนื่องจากผลิตแล้ว ไม่ได้ออกอากาศเผยแพร่ให้ประชาชนได้ชม

          แต่หากต้องการให้ประชาชนได้ชม เพื่อบรรลุเป้าหมายตามที่คมช.ต้องการ ก็ต้องหาเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายเผยแพร่ทางโทรทัศน์ เพิ่มขึ้น ซึ่งจากการประมาณการของผู้รู้ในแวดวงโทรทัศน์ เชื่อว่า หากคมช. ต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อเวลาเผยแพร่สารคดี ทุกสถานีโทรทัศน์  จะต้องใช้งบประมาณสูงกว่างบจัดทำสารคดีสั้น ประมาณ 10 เท่า หรือไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท

          เนื่องจาก การเผยแพร่สารคดีสั้น 2 นาที ในสถานีโทรทัศน์ มีราคาค่าเวลาตั้งแต่ 100,000 - 300,000 บาท / 1 ตอน  ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาเผยแพร่ และ สถานีโทรทัศน์ที่เผยแพร่

          หากออกอากาศ ช่อง TITV จะต้องเสียค่าใช้จ่าย 100,000 บาท  / 1 ตอน จำนวน 75 ตอน คิดเป็นเงิน 7,500,000 บาท

          หากออกอากาศ ช่อง 9 จะต้องเสียค่าใช้จ่าย 100,000 บาท / 1 ตอน จำนวน 75 ตอน คิดเป็นเงิน 7,500,000 บาท

          หากออกอากาศ ช่อง 3 จะต้องเสียค่าใช้จ่าย 200,000 บาท / 1 ตอน จำนวน 75 ตอน คิดเป็นเงิน 15,000,000 บาท

          ผมหาข้อมูลมาเสนอให้เห็นค่าใช้จ่ายของการออกอากาศเพียง 3 สถานี ก็จะเห็นว่าต้องใช้งบประมาณ มากถึง 30,000,000 บาท

          ส่วน ช่อง 11  ช่อง 5 และ ช่อง 7 นั้น เนื่องจากเป็นสถานีของรัฐ และ ของกองทัพบก โดยตรง จึงมองโลกในแง่ดีว่าไม่ควรจะต้องเสียเงินซื้อเวลาเผยแพร่ เนื่องจากเป็นสถานีของตัวเอง

          การซื้อเวลาเผยแพร่ทางโทรทัศน์ เป็นธุรกิจที่ทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำ มีค่าคอม มิชชั่นตอบแทนผู้จัดซื้อ อยู่ที่ระดับ 15-30 % 

          ต้องไปคำนวณคาดการณ์กันเองว่ารายการนี้ จะมีเศษเงินตกหล่นอยู่เท่าไร และไปตกหล่นอยู่ในกระเป๋าของใคร

          สำหรับค่าใช้จ่ายซื้อเวลาเผยแพร่สารคดีสั้นทางโทรทัศน์นี้ ผู้อ่านที่ไม่ได้อยู่ในวงการสื่อ วงการโทรทัศน์ อาจจะยังมองเห็นไม่ชัดเจนนัก ว่าเป็นช่องทางหาประโยชน์ได้อย่างไร

          จากการสอบถามผู้รู้ที่คร่ำหวอดในวงการโทรทัศน์ ได้ความว่า ค่าจัดซื้อเวลาเผยแพร่ทางโทรทัศน์ หรือที่คนในวงการเรียกกันว่า ค่า Airtime นั้น เป็นช่องทางหารายได้ที่สำคัญที่สุดของผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ และสถานีโทรทัศน์  ซึ่งมีรายได้จาก 2 ทาง คือ

          1. ขายเวลาโฆษณาประชาสัมพันธ์ หรือที่คนในวงการเรียกว่า สปอตโฆษณา ซึ่งมีข้อกำหนดไว้ให้ขายเวลาเผยแพร่สปอตโฆษณาได้  10 นาที ต่อ 1 ชั่วโมง

          2. ขายเวลาในรายการ หรือที่เรียกว่า "In program" ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการเผยแพร่สารคดีสั้น ซึ่งการเผยแพร่สารคดีสั้นทางโทรทัศน์ เป็นเหมือน ขนมหวาน หรือรายได้เสริม ที่ได้กินฟรี  เพราะไม่เบียดบังเวลาโฆษณาประชาสัมพันธ์ ด้วย ถือว่าเป็นของฟรีที่มีราคา เพราะฉะนั้นผู้ผลิตรายการ จึงสามารถลดราคาได้เต็มที่ ถึง 50% และอาจจะมากกว่า 50% ก็ได้ หากว่ามี "สัญญาใจ" ฉบับพิเศษต่อกันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ในการใช้จ่ายเงินงวดถัดไป

          โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สารคดีสั้นที่เป็นนโยบายของรัฐบาล นั้น โดยปกติแล้ว เป็นหน้าที่ของสถานีโทรทัศน์ ที่จะต้องให้ความร่วมมือเผยแพร่ต่อประชาชนอยู่แล้ว  เพียงแต่รัฐบาล หรือ คมช. มีหนังสือขอความร่วมมือไปถึงสถานีโทรทัศน์ ก็ไม่มีโทรทัศน์ช่องไหน กล้าปฏิเสธ และต้องยินดีให้ความร่วมมือด้วยความเต็มใจ

          แต่ คมช.ก็ยังอุตส่าห์เลือกช่องทางนี้มาเป็นช่องทางในการทำมาหากินกันจนได้

          เรื่องค่าเผยแพร่สารคดี 75 ตอนนี้ หากคมช. สุจริตใจ และปกป้องงบประมาณแผ่นดิน ไม่ให้รั่วไหล และหากผู้จัดทำโครงการไม่คิดหาประโยชน์อย่าง "ต่อเนื่อง"  เราก็คงจะไม่ได้เห็น ข้อความ "ส่วนค่าเผยแพร่ขึ้นอยู่กับการซื้อเวลาเผยแพร่ของแต่ละช่วงสถานี" เป็นแน่แท้

          "กรรม" คือเครื่องชี้เจตนา จริงๆ

          การอนุมัติงบประมาณรายการนี้ มีเจตนาเช่นไร ก็คงได้เห็นกันแล้ว

          ทั้งๆ ที่มีสถานีโทรทัศน์อยู่ในมือตัวเองแท้ๆ  ก็ยังคิดจะหาเรื่องใช้เงินแผ่นดิน ด้วยการจ้างผู้อื่นจัดทำรายการโทรทัศน์ และ ซื้อเวลาเผยแพร่อีก

          มีของฟรีแต่ไม่คิดใช้  อยากใช้เงินให้สิ้นเปลือง  เรื่องแบบนี้ที่คิดได้ทำได้ เพราะไม่ใช่เงินตัวเอง 

          ง่ายที่สุดที่จะปกป้องเงินแผ่นดิน สำหรับรายการนี้ก็คือ พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา เรียก ผอ.ททบ. 5 หรือผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ช่อง 5 มาสอบถาม และสั่งการให้ทำ รัฐก็ไม่ต้องเสียเงิน 2,250,000 บาท และ ที่จะติดตามต่อเนื่องมาอีก ซึ่งยังไม่รู้จบว่าเป็นเงินเท่าไร

          การอนุมัติจ่ายเงินของ พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา ในครั้งนี้ จึงหนีไม่พ้นที่ท่านจะต้องตกเป็นผู้ต้องสงสัยที่ร่วมกันผลาญเงินแผ่นดิน สนองความต้องการของตนเอง และพวกพ้อง

          นี่ยังไม่นับรวมถึงเจตนาในการผลิตสารคดีสั้นทางโทรทัศน์ โดยมีเป้าหมายเพื่อการโฆษณาชวนเชื่อ  ไม่ใช่การประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารตามที่อ้างกัน

          แน่นอนว่าสารคดี 75 ตอนนี้ คงหนีไม่พ้น การยกย่อง สรรเสริญ คณะรัฐประหาร และคมช. ในฐานะวีรบุรุษของชาติ  และให้ร้ายป้ายสี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร  เป็นสาระหลัก  เพื่อให้ประชาชนซึ่งตามข้อมูลข่าวสารไม่ทัน เพราะถูกปิดหูปิดตา หลงเชื่อ  ซึ่งเป็นการสอดคล้องกับแผนการประชาสัมพันธ์เชิงลึกของคมช. ที่มีเป้าหมาย ลดทอนความน่าเชื่อถือของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และ ทำลายฝ่ายตรงข้าม ด้วยบุคคลที่สาม ทั้งทางลับ และเปิดเผย

          น่าเสียดายที่วันนี้ ประชาชนกว่าครึ่งค่อนประเทศ รู้เช่นเห็นชาติ คมช.หมดแล้ว ไส้กี่ขด กี่ขด ถูกสาวออกมาให้เห็นกันหมดแล้วว่า เป็นบุคคลเช่นไร และองค์กรเช่นไร  คำนึงผลประโยชน์ส่วนตนมากกว่าส่วนรวม

          การจัดทำโฆษณาชวนเชื่อชุด "พรุ่งนี้ต้องดีกว่า" จึงน่าจะเป็นการสูญงบประมาณเปล่า

          เอกสารชุดนี้ ถือเสียว่าเป็น ของหวานตบท้าย แผนการประชาสัมพันธ์เชิงลึก ของคมช. ฉบับนายเชียรช่วง กัลยาณมิตร ก็ว่าได้ 

          ท่านทั้งหลาย อ่านกันแล้ว เห็นกันแล้ว คิดกันอย่างไร ขอเชิญแสดงความคิดเห็นได้เลยครับ
ที่มา:เก็บได้แถวเสาไฟฟ้าหน้าบ้านมั้ง

เหมือนห้องส่วนตัวเลยนะห้องนี้ จะ post อะไรก็ได้ ไม่ค่อยมีใครมายุ่ง

[หน้าเหลี่ยมด้าน ณ ประชาไท]

เง่อ...........
เจอคุณชอบแถ เทพจริงๆ
เราขอเวลา 2 วันหาข้อมูลเพิ่มนะ
ถ้าหาไม่ได้ เรายอมรับ

[snowflake]

งานการไม่ต้องทำ เพราะทำไม่เป็น?
ผลงานเป็นรูปธรรมที่ดีๆ ไม่มีจะแข่ง ไม่มีจะแถลง
ก็ต้องแย่งพื้นที่สื่อ มาโฆษณาชวนเชื่อ
หลอกชาวบ้านไปวันๆ
บางคนก็ยังอุตส่าห์เชื่อตาม
แถมเต็มใจให้เอาเงินภาษีไปผลาญ
ทำเรื่องแบบนี้

ยุคสื่อครองเมือง หากินกับการสร้างภาพ
หลอกลวงประชาชน
ได้ผลก็แค่ลวงตา จับต้องอะไรไม่ได้
เมื่อตาสว่าง ค่อยนึกเสียดายงบประมาณก็สาย
กลายเป็น อ้อยเข้าปากช้าง
จนถ่ายออกมาแล้ว บางคนยังไม่รู้ก็มี

[snowflake]

แล้วคุณ จขกท. จะทำตัวหนังสือเล็กจิ๋วไปทำไมไม่ทราบ
อยากจะให้ชาวบ้านอ่านหรือเปล่าเนี่ย
หรือคิดว่าทำลับๆ ล่อๆ แล้วดูน่าสนใจ?

ส่วนเรื่องตั้งกระทู้ไม่ตรงห้อง
ประชดที่โดนย้ายเมื่อวาน อีกหรือไง

หมู่นี้ขยันประชดจังนะ
ตั้งแต่เรื่องชือล็อคอินที่โดนลอกเลียน
เรื่องนินทากาเล มาจนเรื่องห้อง
สมาชิก "ชั้นสอง" ต้องทำไจ
โปรดทราบไว้ด้วย

[คนในวงการ]

555


สงสัยคราวก่อนยังไม่เข็ดเนอะ แต่ก็ถือว่ามีพัฒนาการที่ดีนะ มีการพิมพ์เอา ไม่เอาลายมือห่วย ๆ แบบคราวก่อนมาลง พอดีไม่ค่อยมีเวลาไม่งั้นจะมาเล่นด้วย ชอบแถฝีมือตกไปเยอะ อีกไม่นานก็คงไม่แคล้วกลายเป็นสวะแบบเดียวกับคนอื่น

IP Star

คุณชอบแถไม่เล่าให้เพื่อน ๆ ฟังเหรอครับ ว่าการอนุมัติ BOI ครั้งนี้ เป็นการอนุมัติย้อนหลังที่แสนจะสะดวกดาย ย้อนหลังให้ถึงสองปี โดยที่ไม่ได้ลงทุนอะไรเพิ่มขึ้นอีก รายได้หลักของ IP Star มาจากต่างประเทศถึง 80% การส่งเสริมฯ เพื่อให้แข่งขันได้ นั้นก็พอฟังได้อยู่ แต่คุณชอบแถคงลืมเล่าไปว่า ส่งเสริมกันน่าเกลียดขนาดใหน เล่นส่งเสริมกัน Maximum เลยชนเพดานตามกฏหมาย 16,459 ล้านบาท ไอ้หมื่นหกพันล้านนี่ ชนเพดานสูงสุดนะครับ ไม่ใช่ส่งเสริมกันขี้ ๆ และส่งเสริมกันนาน 8 ปี ทั้งที่ดาวเทียมมีอายุการใช้งาน 12 ปี เหลือเวลาให้รัฐเก็บภาษีแค่ 4 ปี ในขณะที่ดาวเทียมต่างประเทศ ต้นทุนอ่วมเพราะต้องจ่ายภาษีให้กับรัฐบาลของตนเอง แบบนี้เค้าเรียกว่าส่งเสริมให้ทุ่มตลาดแล้วครับ ไม่ต้องใช้นักการตลาดมือเงินมือทอง ก็แข่งขันได้ ตัดราคาเค้าซะ***น ทราบมาว่าตอนนี้ (2550) IP Star คืนทุนเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ ช่างเป็นการปูพรมให้เดินเสียจริง ที่เหลือหนะกำไรล้วน ๆ ครับ ภาษีกลายเป็นเรื่องเล็กไป เพราะไม่มีต้นทุนแล้ว ขายอากาศมันดีอย่างนี้นี่เองครับ

อ้อ!!

คุณชอบแถ ผมฝากเช็คข้อมูล งบประมาณที่ใช้จ่ายใน เลียริตี้โชว์ ที่อำเภออาจสามารถ หน่อยสิครับ ว่าหมดเงินจ้าง UBC ไปเท่าไหร่ เห็นว่าคนของฝ่าย PT มีความสามารถ หาเอกสารกันได้เก่ง จนคุณชอบแถ ภูมิใจนำเสนอ ช่วยหาให้หน่อยสิครับ เพราะว่ามันลับเสียยิ่งกว่าเอกสารลับของทหารเสียอีก กี่ร้อยล้านกันนะ ถึงได้ปกปิดกันขนาดนั้น วานรีบหาหน่อยนะครับ เพราะเดี๋ยวถ้าเค้าถลกหนังกองสลากเสร็จ จะไม่มีอะไรเอามาอวด


สำหรับความคิดเห็นของคุณ snowflake ผมไม่มีความคิดเห็นครับ ผมคิดว่าเป็นอาการกระเง้ากระงอด แสนงอน ของหญิงสาวที่มีต่อเว็บมาสเตอร์ และบรรดาม็อต เลยขอละไว้ไม่วิจารณ์ เพราะไม่อยากเข้าไปยุ่งกับสงครามอารมณ์แบบผู้ยิ๊งผู้หญิงครับ

[Cherub Rock]

ไฮทักษิณดอทเนตมาอีกแล้ว เว็บไซต์ที่เสร่อที่สุดเท่าที่เคยอ่านมา

ต.ย.

นายกที่ชื่อทักษิณ มีสิ่ง ดี ๆ ให้คนไทยและประเทศไทยเยอะมาก **คนที่ทำไม่ได้ และถูกเปรียบเทียบมันเลยแค้น และ อิจฉา
ratana_01@hotmail.com

ติดตามผลงานของนายกทักษิณมาตลอดชอบการบริหารงานแบบท่านนายกทักษิณมากอยากให้กลับมาทำงานต่อ
สาวท่าพระจันทร์

คนเจียงใหม่กึดเติงหาตึงวัน ขอหื้อโจดดี มีชัย ชนะหมู่มารทั้งปวงในเร็ววัน เน้อครับ
คนเมือง

เราคนจนไม่มีลูกหลานเจ็บป่วยไปหาหมอเราใช้บัตร 30 บาทถึงไม่ดี100% แต่ก็ยังดี ไม่ใช่เพราะโครงการของนายกที่ชื่อทักษิณหรือ
ratana_01@hotmail.com

เรารักท่าน
เบิร์ด
 
งานฉลองครบรอบ 60ปี ของพ่อหลวงก็เพราะนายกที่ชื่อทักษิณจัดใหญ่โตจนคนทั่วโลกรู้จักประเทศไทยน่าชื่นใจขนาดไหน
ratana_01@hotmail.com
 
รอท่านมาจุดแสงสว่างให้ประเทศไทยครับ ตอนนี้ประเทศไทยมืดมิดหมดแล้ว
คนไทยอีกคนหนึ่ง



ป.ล. สงสัยจะไม่เคยดูโฆษณา

ผักคึ่งนึง ..อย่างอื่นคึ่งนึง..
ผักคึ่งนึง ..อย่างอื่นคึ่งนึง..
ผักคึ่งนึง ..อย่างอื่นคึ่งนึง..
ผักคึ่งนึง ..อย่างอื่นคึ่งนึง..

หลอนแหลกราญ 

[อยากประหยัดให้ติดแก๊ส]

ฝีมือตกต้องลด profile มาเจอ กะพวก สวะ แถวๆ นี้นั่นเอง

ส่วนเรื่อง BOI แล้วแต่จะคิด เหมือนน้ำครึ่งแก้ว 4 ปี มันก็ 1 ใน 3
แถมเป็น 1 ใน 3 ที่มีลูกค้าอยู่แล้ว ไม่ใช่ช่วงที่ต้องลำบากตรากตรำ
หาลูกค้าในปีแรกๆ ส่งเสริมน่าเกลียดหรือไม่ ถ้าไม่ผิดกฎหมายจะ
บอกเต็มปากเต็มคำคงไม่ถูก แล้วคิดว่าถ้าไม่ส่งเสริมจะได้ลูกค้าต่าง
ชาติมากหรือน้อยหรือไม่ได้เลย เงินก็ไม่เข้าประเทศ ภาษีทั้ง 12 ปี
อาจได้น้อยกว่าแค่ 4 ปีหลังด้วยซ้ำถ้าไม่มีลูกค้า ส่วนดาวเทียมต่าง
ประเทศต้นทุนการบริหารจะเป็นอย่างไร คงเป็นแค่ความรู้สึก ไม่มีข้อ
มูลชัดๆ มาเปรียบเทียบ แต่ก็ไม่คิดว่าเค้าจะทำได้แพงกว่าไทยนะ
นอกจากว่าฝีมือการบริหารของกลุ่มชินเยี่ยมยอดจนต้นทุนถูกกว่าต่าง
ชาติ ในขณะที่ว่าดาวเทียมหรืออุปกรณ์ที่ใช้ยังต้องพึ่งพาต่างชาติเป็น
หลัก ซึ่งก็ไม่น่าเป็นไปได้ ส่วนที่ว่า IP Star คืนทุนแล้วขอหลักฐาน
ด้วยนะจ๊ะหรือว่าเดาเอาเอง

สำหรับเรื่องข้อมูลอื่นคงต้องให้ไปหาเอาเองแล้วกัน เพราะนี่มันห้อง
ชายคาพักใจ คร้าบ ไม่ได้คุยการเมืองซักนิดเรยย เรื่อง พรุ่งนี้ต้องดี
กว่า ยังคิดว่าคุยเรื่องรายการทีวีซะอีก แต่ดันมีคนอยากคุยเรื่อง ดาว
เทียม เลยต้องคุยด้วยซะหน่อย รักษามารยาทอ่ะครับ

[คนในวงการ]

555



เอา เอา เอา


 

[Cherub Rock]

ด่า คมช ไม่ด่า ทักษิณ ระวังเป็นดับเบิ้ลสแตนดาร์ดนะ

[อยากประหยัดให้ติดแก๊ส]

แล้วคุณ จขกท. จะทำตัวหนังสือเล็กจิ๋วไปทำไมไม่ทราบ
อยากจะให้ชาวบ้านอ่านหรือเปล่าเนี่ย
หรือคิดว่าทำลับๆ ล่อๆ แล้วดูน่าสนใจ?

ส่วนเรื่องตั้งกระทู้ไม่ตรงห้อง
ประชดที่โดนย้ายเมื่อวาน อีกหรือไง

หมู่นี้ขยันประชดจังนะ
ตั้งแต่เรื่องชือล็อคอินที่โดนลอกเลียน
เรื่องนินทากาเล มาจนเรื่องห้อง
สมาชิก "ชั้นสอง" ต้องทำไจ
โปรดทราบไว้ด้วย

พอดีเป็นคนตาดี แม้จะทำเลสิคไปหลายปีแล้ว ก็ยังแจ๋วอยู่ ตัวหนังสือขนาดนี้
คงเป็นปัญหาอย่างมากสำหรับผู้สูงอายุหลายๆ คน ก็ดีที่มี feedback ไม่งั้น
เอามาตรฐานตาดีของ "แถ" ก็จะทำให้ผู้สูงอายุลำบาก

กระทู้นี้ก็ตรงห้องนี่ พูดถึงรายการทีวี พรุ่งนี้ต้องดีกว่า ไง ไหงไปๆ มาๆ เป็น
การเมืองไปด้ายนี่ ไม่ได้ตั้งใจเล้ย  

[อยากประหยัดให้ติดแก๊ส]

ด่า คมช ไม่ด่า ทักษิณ ระวังเป็นดับเบิ้ลสแตนดาร์ดนะ

มาตรฐานใหม่ ด่าเฉพาะคนที่ปกครองอยู่ เรียกทักษิณกลับมาสิ จะด่าให้

[Cherub Rock]

ด่า คมช ไม่ด่า ทักษิณ ระวังเป็นดับเบิ้ลสแตนดาร์ดนะ

มาตรฐานใหม่ ด่าเฉพาะคนที่ปกครองอยู่ เรียกทักษิณกลับมาสิ จะด่าให้

อยากให้มาเหมือนกัน
แต่ทำไมมันไม่ยอมมา

สงสัยเป็นโรคบ้านหมุนอีกคน 

อันนี้แถมให้จากไฮทะสิน เผื่อใครท้องผูกจะได้ถ่ายคล่อง

ขอบคุณในความเสียสละที่ท่านและครอบครัวมีต่อบ้านเมือง ขอบคุณจากใจ...และพร้อมจะรับใช้ท่านเสมอค่ะ บอกมาคำเดียวให้บุกน้ำลุยไฟก็จะไปกับท่านค่ะ
น้องมิน
 
ขอรูป นายก ทักษิณ และ ครอบครัวตัวอย่างด้วยครับ คิดถึง คิดถึง คิดถึง คิดถึงมากกกกกกกกกกกกก
สามสิบล้านเสียง
 
ท่านครับ ! มวลชนในชนบทส่วนใหญ่ ยังเรียกร้องหาท่านอยู่นะครับ.
Akom Suwanno

[อยากประหยัดให้ติดแก๊ส]

สาเหตุที่ไม่มา ไม่ใช่บ้านหมุนหรอก สงสัยเห่อเครื่องบินใหม่ตะหาก












สวยเนอะ อิจฉาอ่ะดิ

[Cherub Rock]

ไม่เห็นใจเหล่าบริวารที่พร่ำเพรีกเรียกร้องอยู่แถวนี้เลย

(ดูตัวอย่างที่เว็บไฮทะสิน)

เข้าขั้นเจียนใจขาดรอนๆ เลยนะ

[อยากประหยัดให้ติดแก๊ส]

อ้าว บอกว่า เก็บได้แถวเสาไฟฟ้าหน้าบ้าน ดันไม่เชื่อ
แอบเข้าไปดูเว็บ ไฮ ทะสิน อะดิ แฟนคลับนี่หว่า
ต้องให้สอนเทคนิคมั้ย ทำไง ผ่านสองด่านง่ายๆ
แต่แฟนพันธุ์แท้ระดับนี้คงรู้อยู่แล้วมั้ง

[อยากประหยัดให้ติดแก๊ส]

ผู้ช่วยเลขาธิการคมช. "พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา แจงกรณีขออนุมัติงบประมาณ 2 ล้านบาทจากคมช.ผลิตรายการสารดี เป็นเรื่องโปร่งใสตรวจสอบได้

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้ช่วยเลขาธิการคมช. กล่าวว่าไม่รู้สึกหวั่นไหวต่อการถูกโจมตีผ่านเว็บไซต์ไฮทักษิณดอทเน็ต กรณีมีการนำเอกสารที่ตนลงนามขออนุมัติงบประมาณกว่า 2 ล้านบาท เพื่อผลิตสารคดี "พรุ่งนี้ต้องดีกว่า" โดยเชื่อว่าเป็นเรื่องของการถูกโจมตี แล้วมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ซึ่งยืนยันว่าการขออนุมัติงบประมาณดังกล่าวโปร่งใสสามารถตรวจสอบได้อีกทั้งคมช.ก็ยังไม่ได้อนุมัติลงมา
http://www.innnews.co.th/Breaknews.php?nid=31658

[irq5]

ฝีมือตกต้องลด profile มาเจอ กะพวก สวะ แถวๆ นี้นั่นเอง

ส่วนเรื่อง BOI แล้วแต่จะคิด เหมือนน้ำครึ่งแก้ว 4 ปี มันก็ 1 ใน 3
แถมเป็น 1 ใน 3 ที่มีลูกค้าอยู่แล้ว ไม่ใช่ช่วงที่ต้องลำบากตรากตรำ
หาลูกค้าในปีแรกๆ ส่งเสริมน่าเกลียดหรือไม่ ถ้าไม่ผิดกฎหมายจะ
บอกเต็มปากเต็มคำคงไม่ถูก แล้วคิดว่าถ้าไม่ส่งเสริมจะได้ลูกค้าต่าง
ชาติมากหรือน้อยหรือไม่ได้เลย เงินก็ไม่เข้าประเทศ ภาษีทั้ง 12 ปี
อาจได้น้อยกว่าแค่ 4 ปีหลังด้วยซ้ำถ้าไม่มีลูกค้า ส่วนดาวเทียมต่าง
ประเทศต้นทุนการบริหารจะเป็นอย่างไร คงเป็นแค่ความรู้สึก ไม่มีข้อ
มูลชัดๆ มาเปรียบเทียบ แต่ก็ไม่คิดว่าเค้าจะทำได้แพงกว่าไทยนะ
นอกจากว่าฝีมือการบริหารของกลุ่มชินเยี่ยมยอดจนต้นทุนถูกกว่าต่าง
ชาติ ในขณะที่ว่าดาวเทียมหรืออุปกรณ์ที่ใช้ยังต้องพึ่งพาต่างชาติเป็น
หลัก ซึ่งก็ไม่น่าเป็นไปได้ ส่วนที่ว่า IP Star คืนทุนแล้วขอหลักฐาน
ด้วยนะจ๊ะหรือว่าเดาเอาเอง

สำหรับเรื่องข้อมูลอื่นคงต้องให้ไปหาเอาเองแล้วกัน เพราะนี่มันห้อง
ชายคาพักใจ คร้าบ ไม่ได้คุยการเมืองซักนิดเรยย เรื่อง พรุ่งนี้ต้องดี
กว่า ยังคิดว่าคุยเรื่องรายการทีวีซะอีก แต่ดันมีคนอยากคุยเรื่อง ดาว
เทียม เลยต้องคุยด้วยซะหน่อย รักษามารยาทอ่ะครับ

ฮิฮิ  ถ้าไม่มี BOI เพื่อส่งเสริม ให้กิจการ ไทย แข่งขันกับภายนอกได้แล้ว

สิงคโปร มันคงไม่ยอมซื้อถึง เจ็ดหมื่นกว่าล้านหรอกมั๊ง

[snowflake]

ด่า คมช ไม่ด่า ทักษิณ ระวังเป็นดับเบิ้ลสแตนดาร์ดนะ

มาตรฐานใหม่ ด่าเฉพาะคนที่ปกครองอยู่ เรียกทักษิณกลับมาสิ จะด่าให้

พูดแล้วต้องทำนะ ห้ามเบี้ยวด้วย
ด.ช. รักเหลี่ยมไม่ยอมเปลี่ยนแปลง

 

[snowflake]

สาเหตุที่ไม่มา ไม่ใช่บ้านหมุนหรอก สงสัยเห่อเครื่องบินใหม่ตะหาก












สวยเนอะ อิจฉาอ่ะดิ

เครื่องบินสวย แต่คนไม่
แล้วก็ไม่เคยอิจฉาเลย ... จริงๆ
มีบางครั้งยังคิดสงสาร
คนที่ยิ่งรวย ยิ่งไม่รู้จักพอ

[qazwsx]

ภาพ หลอดยาสีพระทนต์
ซึ่่งพระราชทานลงมาให้เป็นอนุุสติ

[อยากประหยัดให้ติดแก๊ส]

ด่า คมช ไม่ด่า ทักษิณ ระวังเป็นดับเบิ้ลสแตนดาร์ดนะ

มาตรฐานใหม่ ด่าเฉพาะคนที่ปกครองอยู่ เรียกทักษิณกลับมาสิ จะด่าให้

พูดแล้วต้องทำนะ ห้ามเบี้ยวด้วย
ด.ช. รักเหลี่ยมไม่ยอมเปลี่ยนแปลง

 

อนาคตข้างหน้าบอกยากครับ โดยเฉพาะอนาคตอันไกล เหมือนคำฝรั่งว่า
"Only God knows" อาจมีมาตรฐานใหม่กว่าเกิดขึ้นอีกก็ได้

[อยากประหยัดให้ติดแก๊ส]

ฮิฮิ  ถ้าไม่มี BOI เพื่อส่งเสริม ให้กิจการ ไทย แข่งขันกับภายนอกได้แล้ว

สิงคโปร มันคงไม่ยอมซื้อถึง เจ็ดหมื่นกว่าล้านหรอกมั๊ง

ขอพูดเรื่องเก่าๆ ซะหน่อยก็ได้ ไหนๆ ขุดกันขึ้นมาขนาดนี้แล้ว บริษัท ชินแซทฯ เป็นบริษัทไทย
ถึงแม้ว่าจะมีต่างชาติมาถือหุ้นไว้ส่วนหนึ่งก็เหอะ การบริหารก็โดยคนไทย คนดำเนินงานก็คนไทย
คนเหล่านี้ก็ต้องกินเงินเดือนและเงินเดือนเหล่านี้ก็ต้องหักภาษีด้วยตามกฎหมายประเทศไทย ถ้า
บริษัทมียอดขายต่างประเทศดีมากแต่กำไรปริ่มๆ ประเทศก็จะได้ประโยชน์มากสุด เพราะเงินไหล
เข้ามากระจายไปสู่ที่ต่างๆ นอกเหนือจากผู้ถือหุ้น ยกเว้นแต่ว่าจะมีต้นทุนที่ต้องจ่ายให้ต่างประเทศ
อีกทอดเท่านั้น ซึ่งเงินปันผลก็ไม่นับเป็นต้นทุนนี้ แต่ไปดูงบปี 2549 จาก
www.set.or.th/set/companyinfo.do?type=finance&symbol=SATTEL&language=th&country=TH
จะเห็นว่าบริษัทนี้ขาดทุน แสดงว่าผู้ถือหุ้นใหม่ก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรจากการดำเนินงานของบริษัท

การที่ขายทั้งเครือได้เจ็ดหมื่นกว่าล้านจากเงินต่างประเทศ มีผลดีเนื่องจาก ทั่วโลกเค้ามองศักยภาพ
แต่ละประเทศเบื้องต้นจาก GDP ซึ่งในความเป็นจริงอาจไม่ได้บอกความจริงก็ได้ แต่เค้าเชื่อกันอย่าง
งั้น เหมือนอันดับนักเทนนิสโลกคนเจ็บไม่ได้ทำผลงานอาจมีฝีมือเก่งกว่าก็ได้ ถ้าหายเจ็บก็ต้องมาไต่
อันดับใหม่อีกครั้ง ถ้าเจ็บนานอันดับหล่นไปไกลก็จะไม่ได้สิทธิพิเศษ เมื่อทั่วไปในโลกมอง GDP เป็น
ศักยภาพประเทศ การได้เงินมาในประเทศมากขนาดนี้ ไม่ว่าจะเอามาลงทุนเองหรือใส่ในธนาคารเพื่อ
ให้คนอื่นลงทุนก็ตาม จะเพิ่ม GDP ได้ไม่รู้เท่าไหร่เลย เมื่อนั้นคงเป็นอันดับ 1 ในอาเซียนมากกว่าที่
กินบ๊วยในอาเซียนอย่างตอนนี้ แต่มันก็เป็นอดีตที่ไม่เคยเกิดขึ้นไปแล้วเพราะน้ำมือของทหารโง่ๆ กลุ่ม
หนึ่งซึ่งคิดเอาว่ากลุ่มคนโง่ๆ เล็กๆ ที่บ้องตื้นเป็นคนกลุ่มหลัก แล้วใช้กำลังยึดอำนาจ ตอนนี้ยังโง่ไม่
เลิก เอามือล้วงกระเป๋าตัวเองเห็นมีตังค์งอกขึ้นมา(ได้ไงไม่รู้) มาออกข่าวเป็นตุเป็นตะว่าเศรษฐกิจ
ไทยดี อ่านข่าวแล้วจะบ้า มันพูดของมันเองคนเดียวจากการที่มันมองตัวมันแล้วบอกว่าทั้งประเทศดี
เหมือนมัน ทั้งที่ทุกสื่อทั้งในและต่างประเทศออกข่าวเหมือนกันว่าเศรษฐกิจไทยเน่าแล้วและจะเน่า
ต่อเนื่องไปเรื่อยอีกนานตราบเท่าที่ยังมีปัญหาการเมือง เวร