Wednesday, 18 April 2007
บทพิสูจน์ไร้น้ำยา ไม่อายัดทรัพย์แต่แรก ทำ ทักษิณ ได้ใจ ล่าสุดสั่งซื้อเครื่องบินส่วนตัว ราคา 52 ล้านเหรียญหรือเฉียด 2 พันล้านบาท
บินไปไหนมาไหนฉลุย ในฐานะอดีตผู้นำไทย แถมเร็วๆ นี้จะได้เข้าร่วมงาน Asia Forum และได้ขึ้นพูดบนเวทีอีก เอกยุทธ บี้ผู้มีอำนาจเร่งจัดการคดีแม้ว แนะให้พุ่งเป้าเรื่อง ฟอกเงิน อายัดไว้ก่อนและมาแสดงหลักฐานภายหลัง
นายเอกยุทธ อัญชันบุตร ประธานบริหารเครือโอเรียนเต็ล มาร์ท กรุ๊ป ประเทศอังกฤษ เปิดเผยถึงกระแสปรับครม.ของรัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ว่า เชื่อว่า ปรับแล้วก็คงไม่มีอะไรดีขึ้น เพราะพล.อ.สุรยุทธ์ เป็นผู้นำที่ผลักดันปัญหาไปสู่อนาคตมากกว่า ตนเสียดายแทนคณะทหาร ที่เสี่ยงชีวิต ออกมาไล่รัฐบาลเก่าออกไป แต่เวลานี้กลับมีเพียงคดีเดียวที่จะดำเนินการฟ้อง แต่อำนาจเก่ายังไม่ได้รับการกำจัด
ขณะนี้ทักษิณหลบหนีลี้ภัยทางการเมือง บินไปว่อนหลายประเทศ ความจริงแล้ว ผมเองก็รู้สึกอึดอัดใจมาก เมื่อใดที่กลับไปยังอังกฤษ ผู้ใหญ่หลายคนก็มักถามว่า เจอทักษิณหรือไม่ มีการกล่าวหาว่า ผมกับทักษิณจับมือกันแล้ว ถือว่าอึดอัดมาก แต่อยากบอกว่า จุดยืนแต่ละคนไม่เหมือนกัน ทั้งนี้ความผิดพลาดของรัฐบาลและคมช. (คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ) ที่ไม่สั่งอายัดทรัพย์ของคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลทักษิณ ถือเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่ไม่ควรให้อภัย เพราะวันก่อน ทักษิณออกไปเสนอหน้าในขบวนต้อนรับ บุคคลสำคัญ ที่เดินทางไปลอนดอน คนในสถานทูตเอง ปล่อยให้เข้าไปต้อนรับได้อย่างไรที่บริเวณล็อบบี้โรงแรม เรื่องต้องขอตำหนิรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หรือตัวนายกรัฐมนตรี และหน่วยข่าวกรองด้วย ว่าปล่อยให้เกิดเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร เราเริ่มจะงงว่า เกิดอะไรขึ้น ไหนบอกว่าอดีตนายกรัฐมนตรีผู้นี้ มีคดีความมากมาย แต่ทำไมปล่อยให้มีโอกาสได้พบปะกับบุคคลสำคัญได้ รวมไปถึงนักการเมืองดังๆ หลายคนที่บินไปพบกันที่ลอนดอนและฝรั่งเศสในช่วงสงกรานต์เช่นกันนายเอกยุทธกล่าว
นายเอกยุทธ กล่าวอีกว่า เราคงไม่ได้เห็นอดีตนายกรัฐมนตรีคนนี้ต้องไปขึ้นศาลในคดีคอรัปชั่น เพราะ 7 เดือนที่ผ่านมา เห็นชัดเจนว่า เป็นการผลักปัญหาให้กับรัฐบาลใหม่ในอนาคต การไม่จัดการกับรัฐบาลทักษิณนั้น เวลานี้กลายเป็นว่า ตัวพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีการสั่งซื้อเครื่องบินส่วนตัวจากบริษัท Gulfstream รุ่น G-550 ซึ่งจะได้รับมอบในอีก 5-6 เดือนข้างหน้า เครื่องบินรุ่นนี้ถือเป็นรุ่นที่มหาเศรษฐีทั่วโลกนิยมใช้ นั่งได้ 17 ที่ ราคาประมาณ 52 ล้านเหรียญ มีการสั่งซื้อไปแล้ว โดยบริษัทได้ให้เครื่องบินชั่วคราวมาใช้ล่วงหน้าแล้วด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อคราวไปเมืองจีน พ.ต.ท.ทักษิณก็ได้ใช้เครื่องบินส่วนตัวของเหยียน ปิง และใช้รถโรสรอยซ์ การที่พ.ต.ท.ทักษิณเริ่มสั่งซื้อเครื่องบิน ก็มองให้เห็นว่า เขาอาจคิดว่า คงไม่ได้กลับเมืองไทย
อยากเรียนว่า ทางคณะทหารหรือคตส. (คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ) ควรอายัดทรัพย์สินของทักษิณ ด้วยการใช้ข้อหาการฟอกเงิน สามารถทำได้ทันที เมื่อทรัพย์สินที่เขามีอยู่ ไม่ตรงกับที่แจ้งไว้ เราก็อายัดทรัพย์ได้ โดยให้โอกาสมาพิสูจน์ หากไม่มีแหล่งที่มาก็ยึดได้ แต่เวลานี้ ตัวทักษิณเริ่มใช้เงินอีกแล้ว 52 ล้านเหรียญ ก็ไม่รู้ว่า เป็นเงินของประชาชนหรือไม่นายเอกยุทธกล่าว
นอกจากนี้ในสัปดาห์หน้า พ.ต.ท.ทักษิณก็จะเดินทางไปตะวันออกกลาง ที่บาห์เรน และที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ด้วย ถือเป็นเรื่องที่น่ากลัว เพราะเวลานี้ พ.ต.ท.ทักษิณยังไม่ได้ถูกตั้งข้อหา เป็นเพียงการถูกกล่าวหา สถานะที่เขาไปก็คือ อดีตนายกรัฐมนตรีไทย เดินทางไปไหนก็ได้รับการต้อนรับอย่างมีเกียรติ หากผู้มีอำนาจรัฐมีสติปัญญาที่ดีพอ ต้องดำเนินการเรื่องนี้ การกล่าวหาเรื่องการฟอกเงินนั้น จะทำให้ประเทศต่างๆ ไม่ให้การต้อนรับ เพราะถือเป็นเรื่องใหญ่ระดับโลก รัฐบาลสามารถทำได้ แต่ไม่เข้าใจว่า ทำไมไม่ทำ การที่พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางไปยังประเทศต่างๆ โดยเฉพาะการจัดงาน Forum Asia พ.ต.ท.ทักษิณก็ได้รับเชิญไปปาฐกถา ขึ้นไปพูดบนเวทีด้วย ทำให้งงว่า คนที่ถูกข้อกล่าวหา 4 ข้อ แต่ทำอะไรเขาไม่ได้ ทำให้เขาเดินสายเคลื่อนในเวทีต่างประเทศ ภาพลักษณ์ของประเทศจะเป็นอย่างไรในสายตาชาวโลก เราอาจถูกมองว่า รัฐบาลไม่มีความชอบธรรมก็ได้
สถานะของการเป็นอดีตผู้นำนั้นสำคัญ ไปไหนก็ยังได้รับการต้อนรับ หากไม่ได้รับการดำเนินการในคดีความต่างๆ ก็แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลและคมช.ล้มเหลว เพราะการเข้ามาของรัฐบาลชุดนี้ มาจากการรัฐประหารของทหารที่ต้องการกวาดล้างบ้านเมืองให้สะอาด แต่เวลานี้กลับทำงานกันแบบเช้าชาม-เย็นชาม รัฐมนตรีไม่มีผลงานที่น่าชื่นชม เราเคยเจอประเภท พูดมาก แต่ตอนนี้กลับมีแต่ ไม่กล้าพูด อย่าลืมว่า ความไม่เด็ดขาดในการบริหารงานนั้น ทำให้หลายคนที่จะช่วยเหลือนั้น ตกที่นั่งลำบาก หากต่อมาภายหลังขั้วอำนาจเก่ากลับมาเรืองอำนาจ ก็จะมีการถูกไล่เช็คบิลย้อนหลังนายเอกยุทธกล่าวและว่า หากรัฐบาลไม่รีบเร่งดำเนินการ ก็จะเป็นการผลักมิตรไปเป็นศัตรูได้ เราไม่สามารถจะให้อภัยกับโจรกลับใจได้ เพราะไม่รู้ว่า โจรจะเปลี่ยนพฤติกรรมหรือไม่ โจรควรให้กฎหมายบ้านเมืองจัดการไป แต่สิ่งที่ควรทำคือ ทำให้คนดีเชื่อถือท่านได้จะดีกว่า
http://thaiinsider.info/portal/content/view/3481/12/เห็นข่าวนี้แล้ว เหอๆ ขำดีกว่า