ในประวัติศาสตร์ชาติไทย มีนายกคนไหน มาสร้างเวบเพื่อตนเองบ้าง _!!!!

[รวงข้าวล้อลม]

http://www.hi-thaksin.org/home.php


.....ขี้เกียจเปิดอ่าน  เพราะแค่คิดจุดเริ่มต้น  สร้างเวบ
เพื่อตัวเอง  ก็แสดงอัตตา  แสดงว่าเพื่อตน มิได้
เพื่อชาติ  ชัดเจน  แค่จุดเริ่มต้นก็พลาดแบบตกห้วย
ตกเหวแล้ว  ก็ไม่รู้จะเข้าไปอ่านเนื้อหาในเวบทำไม

ยิ่ง  พอรู้ว่า  อดีตนายก
ไม่ได้มีอำนาจบริหารแล้ว  และเรื่องก็กำลังอยู่ชั้นศาล

 การปฏิวัติ ปฏิรูป เค้าก็มีที่มาที่ไปว่าทำด้วยเหตุใด
และทุกอย่างกำลังแก้วิกฤตการเมือง

  แต่อดีตนายกท่านนี้ แทนที่จะยอมรับข้อกล่าวหา
หรือหาทางพิสูจน์ตนเองว่าเป็นตามข้อกล่าวหานั้น
หรือเปล่า  กลับมาสร้างเวบโจมตีทุกคนที่ยืนคนละฝั่ง
กับตนเอง


  ประชาธิปไตย ประเทศไหนเค้าทำกันแบบนี้
  ใครก็ได้ช่วยอธิบายที  ต่อให้สร้างเวบโต้ สร้างเวบกลบขี้ตัวเอง
 อีกร้อยเวบก็สู้ไม่ได้หรอก 

[irq5]

สมุนมือขวา เค้าออกเงินสร้างให้นี่ครับ ไม่ได้สร้างเอง

[ScaRECroW]

ไม่ได้เข้ามาขวางนะครับ  สมัย เปรม เกรียงศักดิ์ ธานินทร์ ถนอม สฤษดิ์ เป็นนายก ยังไม่มีอินเตอร์เน็ทครับ ถ้ามีก็อาจจะมีคนทำเหมือนกันนะ ส่วนสมัย ชวน บรรหาร ชวลิต คงมีแล้วแต่ยังไม่ขยายในวงกว้างเท่านี้ เลยยังไม่ได้ทำ

ขณะเดียวกัน ถึงผมจะเกลียดมันมากแค่ไหน แต่ผมก็เข้าใจเรื่องแบบนี้ครับ เพราะผมยังไม่เห็นมนุษย์เลว ๆ หน้าไหนยอมรับในความผิดที่ตัวเองกระทำสักคน มันบอกว่าไม่ได้ทำทั้งนั้นแหละ แล้วมันก็สู้กับฝ่ายตรงข้ามทั้งนั้นเหมือนกัน

ผมว่ามันเป็นเรื่องสามัญที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลาครับ

[รวงข้าวล้อลม]

การเมืองในวันนี้ โดย อรรถจักร์  สัตยานุรักษ์   
                                                   

    เรากำลังเผชิญหน้ากับความเสี่ยงทางการเมืองอย่างมากในวันนี้ เพราะการขยายตัวของกระบวนการทำให้เป็นประชาธิปไตย (Democratization)
 หลัง พ.ศ.2535 ได้ดึงเอากลุ่มคนจำนวนมากขึ้นเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่ขณะเดียวกัน กระบวนการเคลื่อนไปสู่การ
เป็นประชาธิปไตยนั้นยังไม่ทันที่จะเกิดการสร้าง "ความเป็นสถาบัน" ขึ้นมารองรับอย่างเข้มแข็งเพียงพอ กลุ่มคนกลุ่มต่างๆ ก็ทำให้เกิดการพลิกผัน
ทางการเมืองกลับไปสู่จุดเริ่มต้นใหม่ 

ส่วนจะเรียกปรากฏการณ์นี้ว่าเป็น "การถอยหลังเข้าคลอง" หรือ "การถอยหลังเพื่อตั้งหลักใหม่" ก็แล้วแต่ความคิดทางการเมืองของแต่ละคน

กระบวนการทำให้เป็นประชาธิปไตยนั้น ประเด็นสำคัญก็คือต้องทำให้การต่อรองอำนาจทางการเมืองเพื่อที่จะทำให้เกิดการแบ่งสรรผลประโยชน์เป็น
ไปอย่างกว้างขวางและเป็นธรรม ซึ่งกระบวนการต่อรองทางการเมืองเช่นนี้ จำเป็นที่จะต้องมีลักษณะของความเป็น "สถาบัน" รองรับอยู่ เช่น การเคลื่อน
ไหวเพื่อร่างกฎหมายก็ต้องทำให้เกิดการยอมรับของประชาชนอย่างไม่อาจจะปฏิเสธได้ เพราะเสียงของประชาชนเป็นเสมือน "สถาบัน" ในการกำกับ
ความสัมพันธ์เชิงอำนาจในสังคมไทย

ความเป็น "สถาบัน" ไม่จำเป็นต้องมีตึกที่ทำการหรือตัวแทนที่ชัดเจน หากแต่เป็นการยอมรับอย่างเต็มที่ของสังคมการเมืองนั้นๆ ว่าสิ่งนั้นมีอยู่และทรง
ไว้ซึ่งอำนาจอันชอบธรรมในเรื่องนั้นๆ ส่วนจะผ่านทางด้านสถาบันรูปธรรมใดๆ นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เช่น การที่ชาวบ้านในพื้นที่หนึ่งๆ มีปัญหากับโครงการ
ของรัฐและได้ยื่นข้อเสนอให้แก่รัฐสภา รัฐสภาก็ต้องยอมรับในทันทีว่าจะต้องนำเรื่องนั้นๆ เข้าสู่กระบวนการการเจรจา

การที่กลุ่มคนจำนวนมากขึ้นได้เข้ามามีส่วนร่วมทางการเมือง (แม้ว่ายังอยู่ในขั้นตอนของการต่อสู้หรือต่อรองเพื่อทำให้เกิดการยอมรับอย่างเป็นทางการ หรือ
เป็น "สถาบัน") ไม่ว่าจะเป็นองค์กรของชาวบ้านที่เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยโครงการของรัฐบาลเดิม แต่กลับถูกผลักให้ถอยห่างไปจากอำนาจในการจัดการ
หรือได้รับทรัพยากรกลางจากรัฐ (ไม่ว่าจะได้โดยการต่อสู้หรือได้มาเพราะสยบยอมกับอำนาจพรรคการเมืองก็ตาม) ได้ส่งผลให้เกิดความคับข้องใจมากขึ้นตามลำดับ

กลุ่มคนต่างๆ ที่ก่อนหน้านี้เคยได้รับการจัดสรรผลประโยชน์ส่วนกลางในรูปแบบของนโยบาย "กล่อมพลเมือง" (ผมใช้คำนี้แทนศัพท์ว่า "ประชานิยม")
 เริ่มเกิดความคับข้องใจมากขึ้น เพราะความไม่มั่นใจในการจัดสรรผลประโยชน์ และเริ่มเกิดข้อกังขาในทำนองว่า รัฐบาลชั่วคราวนี้กำลังมุ่งเน้นให้ "คนจน-จนต่อไป"
ใช่หรือไม่

แม้ว่ารัฐบาลชั่วคราวจะรักษาโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคเอาไว้ในนามใหม่ว่า โครงการสุขภาพดีทั่วหน้า แต่เม็ดเงินจากโครงการอื่นๆ ที่เคยไหลไปสู่คนจน
กลับแห้งเหือดไปโดยไม่มีคำอธิบายอะไรที่ดีไปกว่าการอ้างว่า โครงการเก่านั้นไม่ก่อให้เกิดการผลิตและก่อให้เกิดหนี้สินภาครัฐมหาศาลเท่านั้น

คนกลุ่มนี้เคยได้รับการแบ่งสรรทรัพยากรจากรัฐในนามของ "พลเมือง" และอีกด้านหนึ่งผูกติดอยู่กับตัวบุคคลคืออดีตนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อไม่ได้รับการจัดสรร
ให้อีกโดยไม่มีคำอธิบายหรือไม่มีแม้แต่ความพยายามจะแบ่งสรรในนามของความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับสังคม ก็ย่อมทำให้ประชาชนอดที่จะหวนคิดคำนึงถึงอดีตเมื่อ
 "ครั้งบ้านเมืองยังดีอยู่" ไม่ได้ (นี่เป็นสำนวนนะครับ ไม่ใช่ว่า "ดี" จริงๆ ฝ่ายเกลียดอดีตนายกรัฐมนตรีอ่านให้ดีๆ ด้วยนะครับ)
             

ขณะเดียวกัน กลุ่มชาวบ้านที่เคยต่อสู้กับโครงการต่างๆ ของรัฐ ที่พากันฝันถึงการเพิ่มอำนาจประชาชนในการเข้าต่อรองทางการเมือง (เพราะรัฐบาลที่ผ่านมา
 ได้ทำลายการรวมกลุ่มและช่องทางในการต่อรองกับรัฐไปหมดสิ้น) ก็จะพบว่าฝันจะสลายในเร็ววัน เพราะบรรดาขุนนางข้าราชการที่เข้าไปมีตำแหน่งในวงการ
เมืองล้วนแล้วแต่เป็นคนที่ "พูดไม่รู้เรื่อง" มาโดยตลอด และหลายคนคือคนที่ก่อปัญหาให้แก่กลุ่มชาวบ้านบางกลุ่มมาแล้ว

ผมอยากรู้เหมือนกันว่า บรรดานักต่อสู้เพื่อประชาชนคิดอย่างไร เพราะในรัฐบาลชุดนี้มีทั้งผู้ใหญ่ที่ช่วยงานชาวบ้านและผู้ใหญ่ที่เคยรังแกชาวบ้านอยู่ร่วมกัน

ผมลองคิดสร้างภาพของคนทั้งสองกลุ่ม ซึ่งเป็นคนกลุ่มใหญ่ของแผ่นดิน ว่าเขาอยู่ในสถานะอย่างไร ภาพจะเป็นทำนองว่า คนทั้งสองกลุ่มนี้กำลังปีนบันไดขึ้นไป
สู่ความสำเร็จที่เขาวาดหวังไว้ แต่ปรากฏว่ามีคนใจร้ายกระชากเอาบันไดออกจากตีนของเขานะครับ ท่านผู้อ่านคิดอย่างไรครับ เพราะบันไดที่จะเอื้อให้พวกเขาได้
มีส่วนแบ่งในทรัพยากรหายวับไปกับตา

ผมเชื่อว่าคนทุกคนในสังคมไทยวันนี้ อยากจะให้การเมืองในอนาคตมีคุณภาพและมีประสิทธิภาพ ไม่มีการรัฐประหารอีก มีกระบวนการในการตรวจสอบและเอาผิด
นักการเมืองที่โกงกิน รวมไปถึงการทำให้ระบอบประชาธิปไตยเป็นระบอบที่คนทุกหมู่เหล่าสามารถที่จะเข้ามาต่อรองในการจัดสรรผลประโยชน์เพื่อความเป็นธรรมและยั่งยืน

ดังนั้น เราจะต้องสร้างการเมืองในวันนี้ให้ดีที่สุดครับ


แนวทางในการทำการเมืองวันนี้ ที่รัฐบาลชั่วคราวต้องทำ ได้แก่ การทำให้เสียงของประชาชนเป็น "สถาบัน" ไม่ว่าจะด้วยการทำความเข้าใจให้แจ่มชัดว่าหน้าที่
ของรัฐที่พึงมีต่อ "สิทธิพลเมือง" คืออะไร (อย่าคิดเพียงแค่หน้าที่ของระบบราชการ) นั่นก็คือ การทำให้การบริหารทั้งหมดของรัฐมนตรีวางอยู่บนเสียงของประชาชน
 และต้องตระหนักว่าจะต้องคืนสิ่งที่ประชาชนควรจะได้กลับไปให้แก่ประชาชนด้วย แต่โดยการวางแผนและการเตรียมการอย่างรอบรู้และรอบคอบ ไม่ใช่ด้วยวิธีแบบ
สุกเอาเผากิน เพื่อเรียกเสียงสนับสนุนทางการเมืองอย่างที่รัฐบาลชุดที่แล้วได้ทำมา
 

ผมยังไม่เห็นรัฐมนตรีคนไหนในรัฐบาลชั่วคราว แสดงความคิดเห็นว่าอยากจะฟังเสียงประชาชนเลยแม้แต่คนเดียว ควรคิดด้วยนะครับว่ารัฐบาลชั่วคราวควรจะทำอย่างไร
 ที่จะเป็นการสานต่อกระบวนการ "ทำให้เป็นประชาธิปไตย" ที่เข้มแข็งมั่นคง

สำหรับภาคประชาชนทั้งหลายที่ตอนนี้แตกกันเป็นเสี่ยงๆ ก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องจับเข่าคุยกันให้กว้างขวาง ฝ่ายที่ไปสัมพันธ์กับรัฐก็ควรจะรู้ด้วยว่า อนาคตของ
ประชาชนที่ตนเองร่วมสร้างฝันกันมานั้น ไม่ใช่การพึ่งพิงรัฐจนหมดตัว แต่ต้องหาทางทำให้เกิดเงื่อนไขที่ประชาชนจะสามารถพึ่งตนเองได้มากที่สุด ส่วนฝ่ายที่
ต่อต้านการรัฐประหารก็ต้องคิดด้วยว่า ไม่ใช่แค่การต่อต้านรัฐประหาร หากต้องทำหน้าที่อีกด้านหนึ่งร่วมไปด้วย คือการหาทางสร้างกระบวนการ
"ทำให้เป็นประชาธิปไตย"

การเมืองในอนาคตขึ้นอยู่กับการเมืองในวันนี้ คนที่ฝันถึงประชาธิปไตยก็ต้องลดความเกลียดชังไม่ว่าจะเกลียดฝ่ายใด แล้วช่วยกันคิดถึงแนวทางในการสร้าง
"การเมืองของอนาคต" ให้มาก ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
 

 

[รวงข้าวล้อลม]

ไม่ได้เข้ามาขวางนะครับ  สมัย เปรม เกรียงศักดิ์ ธานินทร์ ถนอม สฤษดิ์ เป็นนายก ยังไม่มีอินเตอร์เน็ทครับ ถ้ามีก็อาจจะมีคนทำเหมือนกันนะ ส่วนสมัย ชวน บรรหาร ชวลิต คงมีแล้วแต่ยังไม่ขยายในวงกว้างเท่านี้ เลยยังไม่ได้ทำ

ขณะเดียวกัน ถึงผมจะเกลียดมันมากแค่ไหน แต่ผมก็เข้าใจเรื่องแบบนี้ครับ เพราะผมยังไม่เห็นมนุษย์เลว ๆ หน้าไหนยอมรับในความผิดที่ตัวเองกระทำสักคน มันบอกว่าไม่ได้ทำทั้งนั้นแหละ แล้วมันก็สู้กับฝ่ายตรงข้ามทั้งนั้นเหมือนกัน

ผมว่ามันเป็นเรื่องสามัญที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลาครับ

  ขอมองต่างมุมสักนิดนะคะว่า  การโจมตีว่าเพื่อนเลว  แล้วความเลวของตนเอง
ลดลงบ้างมั๊ย  นี่ประเด็นหนึ่ง

  อีกประเด็นหนึ่ง ทำไมหน้าเวบต้องแสดงออกว่ารักในหลวงขนาดนั้น
กลบอารมณ์ที่แท้จริงหรือเปล่า  น่าคิดนะ

[หน้าเหลี่ยมด้าน ณ ประชาไท]

ไม่ได้เข้ามาขวางนะครับ  สมัย เปรม เกรียงศักดิ์ ธานินทร์ ถนอม สฤษดิ์ เป็นนายก ยังไม่มีอินเตอร์เน็ทครับ ถ้ามีก็อาจจะมีคนทำเหมือนกันนะ ส่วนสมัย ชวน บรรหาร ชวลิต คงมีแล้วแต่ยังไม่ขยายในวงกว้างเท่านี้ เลยยังไม่ได้ทำ

ขณะเดียวกัน ถึงผมจะเกลียดมันมากแค่ไหน แต่ผมก็เข้าใจเรื่องแบบนี้ครับ เพราะผมยังไม่เห็นมนุษย์เลว ๆ หน้าไหนยอมรับในความผิดที่ตัวเองกระทำสักคน มันบอกว่าไม่ได้ทำทั้งนั้นแหละ แล้วมันก็สู้กับฝ่ายตรงข้ามทั้งนั้นเหมือนกัน




ใช่ๆๆ ตรงใจมาก ทำเป็นสร้างภาพ กราบในหรวง แหม ......ไม่อยากพูดต่อ ของมันจะขึ้น


ผมว่ามันเป็นเรื่องสามัญที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลาครับ

  ขอมองต่างมุมสักนิดนะคะว่า  การโจมตีว่าเพื่อนเลว  แล้วความเลวของตนเอง
ลดลงบ้างมั๊ย  นี่ประเด็นหนึ่ง

  อีกประเด็นหนึ่ง ทำไมหน้าเวบต้องแสดงออกว่ารักในหลวงขนาดนั้น
กลบอารมณ์ที่แท้จริงหรือเปล่า  น่าคิดนะ

[TwinDragon]

เห็นหน้าแรกก่อนเข้าเวบก็เอียนแล้ว ทำอย่างไรหนอจะเปลี่ยนใจ เปลี่ยนความคิด ทักษิณและเหล่าบริวาร ได้ซักที
 

[Tam-mic-ra]

ตอบ จขกท ครับ

เท่าที่ทราบมาแต่ไม่แน่ใจนะ
สำหรับ http://www.hi-thaksin.org/home.php  มีประชาชน ผู้ศรัธราทักษิณเปิดเวปให้

แต่ที่แน่ๆ  ตอบตามคำถาม จขกท ตรงๆได้เลย

http://www.abhisit.org/  (คนนี้ยังไม่ได้เป็นนายก แต่คงไม่ต้องบอก ว่าพยายามอยู่)

www.chuan.org  เวปนายชวน


                 

[ScaRECroW]

ไม่ได้เข้ามาขวางนะครับ  สมัย เปรม เกรียงศักดิ์ ธานินทร์ ถนอม สฤษดิ์ เป็นนายก ยังไม่มีอินเตอร์เน็ทครับ ถ้ามีก็อาจจะมีคนทำเหมือนกันนะ ส่วนสมัย ชวน บรรหาร ชวลิต คงมีแล้วแต่ยังไม่ขยายในวงกว้างเท่านี้ เลยยังไม่ได้ทำ

ขณะเดียวกัน ถึงผมจะเกลียดมันมากแค่ไหน แต่ผมก็เข้าใจเรื่องแบบนี้ครับ เพราะผมยังไม่เห็นมนุษย์เลว ๆ หน้าไหนยอมรับในความผิดที่ตัวเองกระทำสักคน มันบอกว่าไม่ได้ทำทั้งนั้นแหละ แล้วมันก็สู้กับฝ่ายตรงข้ามทั้งนั้นเหมือนกัน

ผมว่ามันเป็นเรื่องสามัญที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลาครับ

  ขอมองต่างมุมสักนิดนะคะว่า  การโจมตีว่าเพื่อนเลว  แล้วความเลวของตนเอง
ลดลงบ้างมั๊ย  นี่ประเด็นหนึ่ง

  อีกประเด็นหนึ่ง ทำไมหน้าเวบต้องแสดงออกว่ารักในหลวงขนาดนั้น
กลบอารมณ์ที่แท้จริงหรือเปล่า  น่าคิดนะ

ที่กล่าวมาเพราะผมเห็นว่ามันเป็นเรื่องปกติของคนเลวน่ะครับ ที่จะต้องทำทุกอย่างเพื่อปกปิดความเลวของตนเอง หรือทำให้ตนเองดูเลวน้อยลง คือผมแค่จะบอกว่าผมไม่แปลกใจที่มันทำแบบนั้นน่ะครับ

[รวงข้าวล้อลม]

ไม่ได้เข้ามาขวางนะครับ  สมัย เปรม เกรียงศักดิ์ ธานินทร์ ถนอม สฤษดิ์ เป็นนายก ยังไม่มีอินเตอร์เน็ทครับ ถ้ามีก็อาจจะมีคนทำเหมือนกันนะ ส่วนสมัย ชวน บรรหาร ชวลิต คงมีแล้วแต่ยังไม่ขยายในวงกว้างเท่านี้ เลยยังไม่ได้ทำ

ขณะเดียวกัน ถึงผมจะเกลียดมันมากแค่ไหน แต่ผมก็เข้าใจเรื่องแบบนี้ครับ เพราะผมยังไม่เห็นมนุษย์เลว ๆ หน้าไหนยอมรับในความผิดที่ตัวเองกระทำสักคน มันบอกว่าไม่ได้ทำทั้งนั้นแหละ แล้วมันก็สู้กับฝ่ายตรงข้ามทั้งนั้นเหมือนกัน

ผมว่ามันเป็นเรื่องสามัญที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลาครับ

  ขอมองต่างมุมสักนิดนะคะว่า  การโจมตีว่าเพื่อนเลว  แล้วความเลวของตนเอง
ลดลงบ้างมั๊ย  นี่ประเด็นหนึ่ง

  อีกประเด็นหนึ่ง ทำไมหน้าเวบต้องแสดงออกว่ารักในหลวงขนาดนั้น
กลบอารมณ์ที่แท้จริงหรือเปล่า  น่าคิดนะ

ที่กล่าวมาเพราะผมเห็นว่ามันเป็นเรื่องปกติของคนเลวน่ะครับ ที่จะต้องทำทุกอย่างเพื่อปกปิดความเลวของตนเอง หรือทำให้ตนเองดูเลวน้อยลง คือผมแค่จะบอกว่าผมไม่แปลกใจที่มันทำแบบนั้นน่ะครับ

   ขอบคุณมากค่ะ ที่มาขยายความให้ชัดขึ้น  เข้าใจแล้วค่ะ

[รวงข้าวล้อลม]

ตอบ จขกท ครับ

เท่าที่ทราบมาแต่ไม่แน่ใจนะ
สำหรับ http://www.hi-thaksin.org/home.php  มีประชาชน ผู้ศรัธราทักษิณเปิดเวปให้

แต่ที่แน่ๆ  ตอบตามคำถาม จขกท ตรงๆได้เลย

http://www.abhisit.org/  (คนนี้ยังไม่ได้เป็นนายก แต่คงไม่ต้องบอก ว่าพยายามอยู่)

www.chuan.org  เวปนายชวน


                 

http://www.abhisit.org/ 

www.chuan.org

  อย่าแค่ยกเอามายกตัวอย่างแบบแถๆ เถียง ๆ  พ้นๆไปสิจ๊ะ
เข้าไปดูเนื้อหาในเวบแล้วยังล่ะ  ว่าในเวบของเขา เขาทำแบบ
ประชาชนมีส่วนร่วม  เค้าทำแบบช่วยเหลือคน  หรือเค้าทำ
แบบโฆษณาตัวเอง  ลองพิศดูใหม่สักหน่อยดีไหม

[ScaRECroW]

http://iannnnn.com/?p=142

ผ่อนสมองครับ

[Scorpio6]

เรื่อง(อดีต)นายก กับเว็ปไซต์..เนี่ย

เกิดมาจนเป็นหนุ่ม ...ผมก็เพิ่งเห็น

เพราะอินเทอเน็ทมันก็เพิ่ง...มีอิทธิพลตอนนี้..

ท่านคงต้องการอยากพูดบ้างครับ..ธรรมดาของคน

เคยมีอำนาจแล้วหมดไป...อย่างไม่คาดฝัน

[แอ่นแอ๊น]

ถ้าเทียบกะสมัยก่อนก็ กิโลรายวัน ไงคะ คุณพี่รวงข้าวฯ