สมัคร-ดุสิต ติดคุก 24 เดือน! ไม่รอลงอาญา โดย
ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 12 เมษายน 2550 10:37 น.
สมัคร-ดุสิต อดีตคู่หูพิธีกร เช้าวันนี้...ที่เมืองไทย ถึงครารับผลกรรม ศาลพิพากษาจำคุก 24 เดือน โดยไม่รอลงอาญา กรณีกล่าวหาอดีตรองผู้ว่าฯ กทม. สามารถ ราชพลสิทธิ์ รับสินบน บีเอ็ม ซีรีส์ 7 - แบ่งเค้ก 3 พันล้าน ประมูลงานเมกะโปรเจกต์
วันนี้(12 เม.ย.)ที่ห้องพิจารณาคดี 34 ศาลอาญากรุงเทพใต้ สนามหลวง ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีหมิ่นประมาทที่นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสมัคร สุนทรเวช อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายดุสิต ศิริวรรณ ร่วมกันเป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา
ตามฟ้องโจทก์ระบุความผิดจำเลยสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 12 19 ม.ค. 49 จำเลยทั้งสองซึ่งเป็นผู้ดำเนินรายการเช้าวันนี้ที่ช่อง 5 และรายการสมัคร ดุสิต คิดตามวัน ทางช่องโมเดิร์นไนน์ทีวี โดยวันที่ 12 ม.ค. 49 จำเลยทั้งสองได้กล่าวถ้อยคำกล่าวหาว่า มีผู้บริหารกรุงเทพมหานครบางคนออกรถบีเอ็มฯ ซีรีส์ โดยใช้ชื่อภรรยาเป็นเจ้าของ ที่แท้มีผู้รับเหมาซื้อให้ ผ่านทั้งสองรายการในวันเดียวกัน ต่อมาวันที่ 13 ม.ค. 50 นายดุสิต จำเลยที่ 2 ได้กล่าวผ่านรายการสมัคร ดุสิต คิดตามวัน ว่า โครงการประมูลของกรุงเทพมหานคร 10 โครงการมันกินกัน 12 13 % เกือบ 3,000 ล้านบาท โดยมีจำเลยที่ 1 กล่าวสนับสนุน นอกจากนี้ในวันที่ 17 ม.ค. 49 จำเลยที่ 2 ได้กล่าวผ่านรายการเช้าวันนี้ที่ช่อง 5 ว่า ขออ่านจากข่าวนะ นายสามารถชี้แจงว่า ไม่เคยสั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาล็อกสเป็ก ขอถามคุณสมัครหน่อยว่า ใครจะกล้ารับว่าตัวเองเป็นคนสั่ง และข้อความอื่น ๆ ซึ่งล้วนเป็นเท็จทั้งสิ้น เหตุเกิดที่แขวง เขตห้วยขวาง และที่อื่นเกี่ยวพันกัน การกระทำของจำเลยทั้งสอง ทำให้ประชาชนที่ชมรายการดังกล่าวเข้าใจผิดคิดว่า โจทก์เป็นคนไม่ดี เรียกรับทรัพย์สินเพื่อประโยชน์ของตัวเอง ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง จึงนำคดีมาฟ้องขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิดด้วย
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ ทำนองเดียวกันว่า ไม่มีเจตนาหมิ่นประมาทใส่ความโจทก์ให้ได้รับความเสียหาย เพียงแต่กล่าวไปตามข้อเท็จจริงที่ทราบข้อมูลมา แต่ไม่ได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมทั้งการดำเนินรายการก็เป็นการระดมความคิดเห็นร่วมกับประชาชนให้ได้รับทราบ
ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายแล้วเห็นว่า ถ้อยคำที่บ่งบอกว่า ผู้บริหารระดับสูงของกรุงเทพมหานครมีพฤติกรรมไม่ชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นความผิดทางอาญา โดยมีจำเลยที่ 1 กล่าวสนับสนุนว่าเป็นความจริง เมื่อฟังประกอบกันแล้วทำให้เห็นได้ชัดว่า เป็นผู้บริหารกรุงเทพมหานครคือโจทก์นั่นเอง เพราะขณะนั้นภรรยาโจทก์ขับรถยนต์ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ป้ายแดงได้ 2 เดือน ทั้งยังมีการกล่าวย้ำว่ามีการใช้ตำแหน่งแสวงหาผลประโยชน์แม้ไม่ได้ระบุชื่อก็ตาม ทั้งที่ความจริงแล้วโจทก์มีหน้าที่รับผิดชอบงานด้านโยธา ดูแลเรื่องการก่อสร้างถนน สะพานข้ามแยก อุโมงค์ทางลอดต่าง ๆ นอกจากนี้โจทก์ยังมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เบิกความเกี่ยวกับการตรวจสอบการทุจริตของโจทก์นั้น ชุดสืบสวนไม่ได้ตรวจสอบเรื่องการซื้อรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูคันดังกล่าว เพราะเป็นทรัพย์สินที่โจทก์ซื้อด้วยเงินตัวเองโดยมีการนำสำเนาบัญชีของธนาคารกรุงเทพ ฯ สำเนาเช็คเงินสด มาแสดงเป็นหลักฐานการชำระเงิน
การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นการเสนอข่าวให้ประชาชนเชื่อว่า การก่อสร้างของกรุงเทพมหานครมีเงื่อนงำ ทุจริต ซึ่งเป็นการหมิ่นประมาทใส่ความโจทก์ให้ได้รับความเสียหาย ถูกดูหมิ่นเกลียดชังจริง ข้อต่อสู้ของจำเลยทั้งสองฟังไม่ขึ้น ทั้งนี้จำเลยที่ 1 ได้เคยกระทำผิดฐานหมิ่นประมาทมาแล้วหลายครั้ง โดยศาลปรานีให้รอการลงโทษไว้เพื่อให้ปรับตัวเป็นคนดี แต่จำเลยที่ 1 กลับกระทำผิดซ้ำในความผิดเดิมอีก พิพากษาให้จำคุกจำเลยทั้งสองรวม 4 กระทง ๆ ละ 6 เดือน รวมจำคุกคนละ 24 เดือน โดยไม่รอลงอาญา และให้โฆษณาคำพิพากษาย่อในหนังสือพิมพ์ติดต่อกันเป็นเวลา 3 วัน โดยจำเลยเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย ภายหลังฟังคำพิพากษาเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้นำตัวทั้งสองไปควบคุมไว้ในห้องพิจารณาคดีที่ 15 ระหว่างนี้นายสมัคร กล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า ต้องยื่นอุทธรณ์แน่นอน ต่อมาทนายความได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอประกันตัวเป็นเงินสดคนละ 2 แสนบาท ระหว่างอุทธรณ์คดีโดยศาลพิเคราะห์แล้วอนุญาตให้ทั้งสองประกันตัวไปโดยตีราคาประกันคนละ 2 แสนบาท
ด้านนายสามารถ ราชพลสิทธิ์ โจทก์คดีนี้กล่าวว่า รู้สึกดีใจ ที่ได้พิสูจน์ให้สังคมทราบว่าตนไม่ได้กระทำผิดตามที่ถูกทั้งสองกล่าวหา นอกจากนี้ตนยังได้ยื่นฟ้องทั้งสองต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ เรียกค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 100 ล้านบาทด้วย คาดอีกไม่นานศาลจะมีคำพิพากษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ต่อไป
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9500000042241 ทั้งนี้จำเลยที่ 1 ได้เคยกระทำผิดฐานหมิ่นประมาทมาแล้วหลายครั้ง โดยศาลปรานีให้รอการลงโทษไว้เพื่อให้ปรับตัวเป็นคนดี แต่จำเลยที่ 1 กลับกระทำผิดซ้ำในความผิดเดิมอีก พิพากษาให้จำคุกจำเลยทั้งสองรวม 4 กระทง ๆ ละ 6 เดือน รวมจำคุกคนละ 24 เดือน โดยไม่รอลงอาญา