Trech2499
|
|
« เมื่อ: 09-04-2007, 22:46 » |
|
อืมๆ คุณคิดว่า ยังไงที่ นาย นพดล ออก มาพูด ทักษิน ได้ทุกๆเรื่อง อะครับ ขอความเห็นด้วย คิด ว่า นพดล เป็น ยังไง อะครับ ขอขอบคุณ สำหรับทุกความเห็น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไทมุง
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 09-04-2007, 22:49 » |
|
ตามประสาทนายประจำครอบครัว แต่ทำหน้าที่เกินทนายไปหน่อย ควบสองตำแหน่ง
ทนายประจำครอบครัว + โฆษกประจำครอบครัว =
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นทร์
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 09-04-2007, 22:53 » |
|
ทำงานเต็มความสามารถ จนบางทีเกินไปหน่อย
แต่ผมว่าใครจ้างไว้คุ้มเงินจริงๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
|
|
|
ริวเซย์
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 09-04-2007, 23:03 » |
|
ทำตัวเกินไปยิ่งกว่าเป็นตัวความอีก
น่าจะผิดมรรยาททนายความครับ เหมือนที่อ.เดชอุดม นายกสภาทนายความเคยพูดไว้
เพิกถอนใบอนุญาตเมื่อไหร่จะหัวเราะให้ฟันหักเลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^
|
|
|
ไทมุง
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 09-04-2007, 23:06 » |
|
ความจริงแล้วในชีวิตนี้มาหลายหนทางที่ทำประโยชน์ให้ประเทศชาติได้ ในฐานะอดีตนักเรียนทุน King
แต่น่าเสียดาย ที่ใครบางคนเลือกทำในทางตรงกันข้าม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
aiwen^mei
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 09-04-2007, 23:18 » |
|
เหมือนทั่นเหลี่ยมสิคะ เค้าว่าเราเป็นคนยังไงก็ให้ดูจากเพื่อนที่เราคบด้วยค่ะ ดั่งคำโบราณว่าไว้ คบคนพาลพาลไปหาผิด ถ้าคนดี ๆ เลิกคบกับเรา เราคงต้องพิจารณาตัวเอง แต่ถ้าคนไม่ดีเดินออกไปจากชีวิตเรา ก็ร้องไชโยได้เลยค่ะ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-04-2007, 23:21 โดย aiwen^mei »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชัย คุรุ เทวา โอม
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 10-04-2007, 00:22 » |
|
สงสัยจะมีอะไรลับๆกับลูกทักกี้ป่าว55
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..." คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน (How the Steel Was Tempered) นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933 ******************************* เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ http://www.oknation.net/blog/amalit1990
|
|
|
nick
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 10-04-2007, 00:26 » |
|
ไม่น่าสงสัยให้มาก ก็รับเงินเขามาเยอะแล้ว ต้องทำหน้าที่ให้เกินๆเอาไว้บ้าง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ดอกฟ้ากับหมาวัด
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 10-04-2007, 00:31 » |
|
ไม่แปลกใจเลยค่ะ มีเงินซะอย่างจ้างผีมาโม่แป้งให้ได้ตลอดเวลา
คนที่เห็นเงินเป็นพระเจ้ามีออกถมเถไป
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ
น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
|
|
|
Can ไทเมือง
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 10-04-2007, 00:41 » |
|
จะไปเอานิยายอะไรกับ "ทนายโจร"
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
katindork
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 10-04-2007, 20:01 » |
|
ไม่เห็นต้องคิดอะไรเลยนี่ครับ
ตอกในเรื่องเนื้อหาของนพดล ดีกว่า เพราะมันก็เหมือน พีทีวีนี่ครับ
ไม่เคยคิดว่าเป็นทนายเลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Trech2499
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 11-04-2007, 20:35 » |
|
ผม นำข้อมูล มาให้ เพิ่มเติม + ความ เห็น เล็กน้อยตรงใจผมที่สุด
นายนพดล ปัทมะ จากเด็กต่างจังหวัดเข้ามาเรียนในกรุงเทพมหานคร และนพดลก็ได้รับเลือกให้เป็นนักเรียนอานันทมหิดล ไปศึกษาต่อด้านกฎหมายทางธุรกิจ ที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด อังกฤษ กระทั่งจบปริญญาตรี นิติศาสตรบัณฑิต และปริญญาโท นิติศาสตรมหาบัณฑิต ในปี 2533 จากนั้นได้เรียนต่อเนติบัณฑิตอังกฤษ ลินคอร์น อินน์ (Lincoln s inn) จบออกมาจนเป็น นายนพดล ในวันนี้
นายนพดล ปัทมะ พอจบการศึกษามาด้วยทุนอานันทมหิดล กลับมาก็ทำงานในภาคเอกชนหาเงิน!!! โดยยังมีคำถามอยู่ว่านายนพดลได้มีโอกาสสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณสำรวจวัตถุประสงค์ของทุนนี้หรือไม่
เพราะแม้ว่าทุนอานันทมหิดลจะไม่มีข้อผูกมัดในสัญญาใดๆ แต่มูลนิธิอานันทมหิดลมีวัตถุประสงค์ของทุนการศึกษานี้ระบุเอาไว้อย่างชัดเจน 4 ข้อ คือ หนึ่ง เพื่อประโยชน์ต่อผู้ที่ได้รับทุนจนนำวิชาความรู้กลับมาถ่ายทอดแก่ชนรุ่นหลัง ช่วยพัฒนาประเทศ สอง เพื่อการประกอบอาชีพหรือเพื่อค้นคว้าสำหรับผู้ที่ได้รับพระราชทานทุนที่มีความสามารถดีเยี่ยม มีคุณธรรม สาม เพื่อจัดตั้งสถาบันวิชาการเพื่อให้ผู้ที่ได้รับพระราชทานทุนทำการค้นคว้าทางวิชาการ สี่ ร่วมมือกับสถาบันอื่นที่มีวัตถุประสงค์คล้ายคลึงกัน เพื่อให้การสนับสนุนทางวิชาการกว้างขวางทั่วถึงขึ้น
นายนพดลได้เคยให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2549 ถึงความภาคภูมิใจของตัวเองต่อการก้าวหน้าของชีวิตตัวเองว่า: ผมเป็นคนไม่มีมรดก ผมสร้างชีวิตของผมเอง เริ่มจากศูนย์ตลอด จากเด็กเลี้ยงวัว มาเป็นเด็กวัด พ่อแม่ไม่มีมรดกให้ผม ผมเป็นคนโคราช ผมเกิดปีฉลู แปลว่าวัว โคราชก็เกี่ยวกับวัว แล้วก็จบออกซ์ฟอร์ด ก็เกี่ยวกับวัวอีก (หัวเราะ) ทีนี้ผมก็เลยต้องมาทำมาหากินโดยการตั้งสำนักงานกฎหมาย นายนพดล ปัทมะ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและทำตามวัตถุประสงค์ของทุนพระราชทานแล้วหรือไม่ โปรดพิจารณา!!!!
ในขณะที่นายนพดล ปัทมะ วันนี้ออกมาทำหน้าที่เป็นทั้ง ทนายความ และ โฆษกทางการเมือง ที่แถลงข่าวรายวันเพื่อเอาชนะทางการเมืองให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยนายนพดล ปัทมะ อ้างว่าเพราะคนยังไม่มีความผิดจึงมีสิทธิ์ที่จะพิสูจน์และใช้ทนายความต่อสู้
สำคัญตรงที่นายนพดล ปัทมะนั้นมีการศึกษาที่ดีได้โดยอาศัยทุนอานันทมหิดล ลำพังปล่อยให้บ้านเมืองมีการคอร์รัปชันกันอย่างมโหฬาร หรือปล่อยให้มีการโกงการเลือกตั้งกันอย่างกว้างขวาง โดยไม่แสดงสติปัญญาในการต่อสู้ในเรื่องเหล่านี้ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ก็ถือได้ว่าบกพร่องต่อหน้าที่อย่างใหญ่หลวงแล้ว
วันนี้กำลังรับใช้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อย่างไม่ลืมหูลืมตา โดยไม่สนใจเสียด้วยซ้ำไปว่าหนึ่งในเหตุผลของการรัฐประหารที่ผ่านมาก็คือ การมีพฤติกรรมหมิ่นเหม่ต่อการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
นายนพดล ปัทมะ มีหรือที่จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมาอันเป็นเหตุทำให้เกิดการรัฐประหาร ทบทวนกันอีกครั้งให้ก็ได้ ถึงคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ว่า ถ้าผมไม่จงรักภักดี ผีที่ไหนจะจงรักภักดี หรือที่พูดว่า พร้อมจะลาออกหากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมา กระซิบ หรือในกรณีการโยกย้ายข้าราชการก่อนมีพระบรมราชโองการแต่งตั้ง แม้กระทั่งกรณีการใช้เงิน 1,000 ล้านบาทที่ตั้งเงื่อนไขว่าจะทูลเกล้าฯ ถวายต่อเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จมางานสโมสรสันนิบาตของรัฐบาลชุดที่แล้ว ตลอดจนการของบประมาณเพื่อซื้อเครื่องบินไทยคู่ฟ้าที่ใช้เหตุผลว่าจะมาใช้เป็นพระราชพาหนะสำรอง แต่สุดท้ายเจ้านายเอามาใช้เสียเอง หรือแม้กระทั่งการตัดตราครุฑออกจากบัตรประชาชนชาวไทย ฯลฯ
แต่อันที่จริงแล้ว จริยธรรม และ ความกตัญญู นั้นมีระดับสูงกว่าตัวบทกฎหมาย แต่สำหรับนายนพดล ปัทมะแล้ว อาจจะไม่ได้เข้าใจเช่นนี้ก็ได้ เพราะนายนพดลได้ให้สัมภาษณ์เอาไว้เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2549 ถึงกรณีการหลบเลี่ยงภาษีของตระกูลชินวัตรว่า ผมคิดว่าในเมื่อไม่ผิดกฎหมาย มันก็ไม่ผิดจริยธรรม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ดอกฟ้ากับหมาวัด
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: 11-04-2007, 20:45 » |
|
จะรอดูอนาคตของพวกที่ มีจริยธรรมแบบเอากำปั้นทุบดิน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ
น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
|
|
|
พรรณชมพู
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 11-04-2007, 21:03 » |
|
กรรมกร ถูกจ้างมาให้โกยอุจจาระ ก็ต้องก้มหน้าก้มตาทำไป ให้คุ้มค่าจ้างค่ะ เงินดี งานเดิน เงินเกิน งานวิ่ง เงินนิ่ง งานหยุด เงินสะดุด งานชะงัก น้ำเลี้ยงดี ทำงานขยันขันแข็ง น้ำเลี้ยงหมด ต้องขอทานเลี้ยงม็อบค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สมชายสายชม
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: 11-04-2007, 21:16 » |
|
ผม นำข้อมูล มาให้ เพิ่มเติม + ความ เห็น เล็กน้อยตรงใจผมที่สุด
นายนพดล ปัทมะ จากเด็กต่างจังหวัดเข้ามาเรียนในกรุงเทพมหานคร และนพดลก็ได้รับเลือกให้เป็นนักเรียนอานันทมหิดล ไปศึกษาต่อด้านกฎหมายทางธุรกิจ ที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด อังกฤษ กระทั่งจบปริญญาตรี นิติศาสตรบัณฑิต และปริญญาโท นิติศาสตรมหาบัณฑิต ในปี 2533 จากนั้นได้เรียนต่อเนติบัณฑิตอังกฤษ ลินคอร์น อินน์ (Lincoln’ s inn) จบออกมาจนเป็น “นายนพดล” ในวันนี้
นายนพดล ปัทมะ พอจบการศึกษามาด้วยทุนอานันทมหิดล กลับมาก็ทำงานในภาคเอกชนหาเงิน!!! โดยยังมีคำถามอยู่ว่านายนพดลได้มีโอกาสสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณสำรวจวัตถุประสงค์ของทุนนี้หรือไม่
เพราะแม้ว่าทุนอานันทมหิดลจะไม่มีข้อผูกมัดในสัญญาใดๆ แต่มูลนิธิอานันทมหิดลมีวัตถุประสงค์ของทุนการศึกษานี้ระบุเอาไว้อย่างชัดเจน 4 ข้อ คือ หนึ่ง เพื่อประโยชน์ต่อผู้ที่ได้รับทุนจนนำวิชาความรู้กลับมาถ่ายทอดแก่ชนรุ่นหลัง ช่วยพัฒนาประเทศ สอง เพื่อการประกอบอาชีพหรือเพื่อค้นคว้าสำหรับผู้ที่ได้รับพระราชทานทุนที่มีความสามารถดีเยี่ยม มีคุณธรรม สาม เพื่อจัดตั้งสถาบันวิชาการเพื่อให้ผู้ที่ได้รับพระราชทานทุนทำการค้นคว้าทางวิชาการ สี่ ร่วมมือกับสถาบันอื่นที่มีวัตถุประสงค์คล้ายคลึงกัน เพื่อให้การสนับสนุนทางวิชาการกว้างขวางทั่วถึงขึ้น
นายนพดลได้เคยให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2549 ถึงความภาคภูมิใจของตัวเองต่อการก้าวหน้าของชีวิตตัวเองว่า: “ผมเป็นคนไม่มีมรดก ผมสร้างชีวิตของผมเอง เริ่มจากศูนย์ตลอด จากเด็กเลี้ยงวัว มาเป็นเด็กวัด พ่อแม่ไม่มีมรดกให้ผม ผมเป็นคนโคราช ผมเกิดปีฉลู แปลว่าวัว โคราชก็เกี่ยวกับวัว แล้วก็จบออกซ์ฟอร์ด ก็เกี่ยวกับวัวอีก (หัวเราะ) ทีนี้ผมก็เลยต้องมาทำมาหากินโดยการตั้งสำนักงานกฎหมาย” นายนพดล ปัทมะ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและทำตามวัตถุประสงค์ของทุนพระราชทานแล้วหรือไม่ โปรดพิจารณา!!!!
ในขณะที่นายนพดล ปัทมะ วันนี้ออกมาทำหน้าที่เป็นทั้ง “ทนายความ” และ “โฆษกทางการเมือง” ที่แถลงข่าวรายวันเพื่อเอาชนะทางการเมืองให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยนายนพดล ปัทมะ อ้างว่าเพราะคนยังไม่มีความผิดจึงมีสิทธิ์ที่จะพิสูจน์และใช้ทนายความต่อสู้
สำคัญตรงที่นายนพดล ปัทมะนั้นมีการศึกษาที่ดีได้โดยอาศัยทุนอานันทมหิดล ลำพังปล่อยให้บ้านเมืองมีการคอร์รัปชันกันอย่างมโหฬาร หรือปล่อยให้มีการโกงการเลือกตั้งกันอย่างกว้างขวาง โดยไม่แสดงสติปัญญาในการต่อสู้ในเรื่องเหล่านี้ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ก็ถือได้ว่าบกพร่องต่อหน้าที่อย่างใหญ่หลวงแล้ว
วันนี้กำลังรับใช้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อย่างไม่ลืมหูลืมตา โดยไม่สนใจเสียด้วยซ้ำไปว่าหนึ่งในเหตุผลของการรัฐประหารที่ผ่านมาก็คือ “การมีพฤติกรรมหมิ่นเหม่ต่อการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ”
นายนพดล ปัทมะ มีหรือที่จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมาอันเป็นเหตุทำให้เกิดการรัฐประหาร ทบทวนกันอีกครั้งให้ก็ได้ ถึงคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ว่า “ถ้าผมไม่จงรักภักดี ผีที่ไหนจะจงรักภักดี” หรือที่พูดว่า พร้อมจะลาออกหากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมา “กระซิบ” หรือในกรณีการโยกย้ายข้าราชการก่อนมีพระบรมราชโองการแต่งตั้ง แม้กระทั่งกรณีการใช้เงิน 1,000 ล้านบาทที่ตั้งเงื่อนไขว่าจะทูลเกล้าฯ ถวายต่อเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จมางานสโมสรสันนิบาตของรัฐบาลชุดที่แล้ว ตลอดจนการของบประมาณเพื่อซื้อเครื่องบินไทยคู่ฟ้าที่ใช้เหตุผลว่าจะมาใช้เป็นพระราชพาหนะสำรอง แต่สุดท้ายเจ้านายเอามาใช้เสียเอง หรือแม้กระทั่งการตัดตราครุฑออกจากบัตรประชาชนชาวไทย ฯลฯ
แต่อันที่จริงแล้ว “จริยธรรม” และ “ความกตัญญู” นั้นมีระดับสูงกว่าตัวบทกฎหมาย แต่สำหรับนายนพดล ปัทมะแล้ว อาจจะไม่ได้เข้าใจเช่นนี้ก็ได้ เพราะนายนพดลได้ให้สัมภาษณ์เอาไว้เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2549 ถึงกรณีการหลบเลี่ยงภาษีของตระกูลชินวัตรว่า “ผมคิดว่าในเมื่อไม่ผิดกฎหมาย มันก็ไม่ผิดจริยธรรม”
น่าจะบอกด้วยว่า "ตอนนี้ หน้าผมก็เหมือนวัว" ...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ดอกฟ้ากับหมาวัด
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: 11-04-2007, 21:31 » |
|
น่าจะบอกด้วยว่า "ตอนนี้ หน้าผมก็เหมือนวัว" อิ อิ วัวพันธุ์ใหม่น่าจับเอาไปทำเนื้อแดดเดียวแจก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ
น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
|
|
|
สมชายสายชม
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: 11-04-2007, 21:36 » |
|
น่าจะบอกด้วยว่า "ตอนนี้ หน้าผมก็เหมือนวัว" อิ อิ วัวพันธุ์ใหม่น่าจับเอาไปทำเนื้อแดดเดียวแจก ระวังโรควัวบ้า นะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ดอกฟ้ากับหมาวัด
|
|
« ตอบ #17 เมื่อ: 11-04-2007, 21:40 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ
น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
|
|
|
TwinDragon
|
|
« ตอบ #18 เมื่อ: 12-04-2007, 03:59 » |
|
นายนพดลได้เคยให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2549 ถึงความภาคภูมิใจของตัวเองต่อการก้าวหน้าของชีวิตตัวเองว่า: “ผมเป็นคนไม่มีมรดก ผมสร้างชีวิตของผมเอง เริ่มจากศูนย์ตลอด จากเด็กเลี้ยงวัว มาเป็นเด็กวัด พ่อแม่ไม่มีมรดกให้ผม ผมเป็นคนโคราช ผมเกิดปีฉลู แปลว่าวัว โคราชก็เกี่ยวกับวัว แล้วก็จบออกซ์ฟอร์ด ก็เกี่ยวกับวัวอีก (หัวเราะ) ทีนี้ผมก็เลยต้องมาทำมาหากินโดยการตั้งสำนักงานกฎหมาย” นายนพดล ปัทมะ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและทำตามวัตถุประสงค์ของทุนพระราชทานแล้วหรือไม่ โปรดพิจารณา!!!! น่าจะบอกด้วยว่า "ตอนนี้ หน้าผมก็เหมือนวัว" ... คนเนรคุณคนไม่เจริญหรอกครับ คุณนพดล
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ผู้คนพยายามกักขังตัวเองอยู่ในกะลาที่เรียกว่า ประชาธิปไตย จริงฤา ??
|
|
|
Şiłąncē Mőbiuş
|
|
« ตอบ #19 เมื่อ: 03-05-2007, 17:49 » |
|
ไม่มีอะไรหรอกครับ ดันมาให้อ่านกันเฉยๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.” . “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
|
|
|
ppppp
|
|
« ตอบ #20 เมื่อ: 03-05-2007, 18:24 » |
|
น่าจะบอกด้วยว่า "ตอนนี้ หน้าผมก็เหมือนวัว" ... 55555 แหม... ผมว่าเขาเค้าออกจะยาวโง้ง โง่พล่ามออกมาแบบไม่สำนึก แถมโดนใช้เงินสนตะพายจูงจมูกอีก น่าจะเป็นควายมากกว่านะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Cherub Rock
|
|
« ตอบ #21 เมื่อ: 03-05-2007, 18:34 » |
|
เขายาวเพราะอกตัญญู ทรพีกลับชาติมาเกิด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
|
|
|
Scorpio6
|
|
« ตอบ #22 เมื่อ: 03-05-2007, 20:39 » |
|
ไม่สำนึกบุญคุณของแผ่นดิน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
คิดจะล้มระบอบทักษิณ ต้องอ่านใจเนวินและเพื่อนบล็อกเสี่ยวไทบ้าน*แวะเยี่ยมRepublican Collage ของคุณสุธา ชันแสง* http://www.oknation.net/blog/thaibaan/2008/03/26/entry-1"ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนและในฐานะอย่างไร จงตรองหาว่า จะมีทางใช้ชีวิต ให้เป็นประโยชน์ในทางใดบ้าง เมื่อตั้งใจคิดถึงมันแล้วก็จะพบเสมอ ไม่ว่าอยู่ที่ใด เมื่อพบทางแล้วจงลงมือทำสิ่งที่เป็นประโยชน์"
|
|
|
|