จตุคามรามเทพ เส้นแบ่ง บารมี-ฟีเวอร์
จตุคามรามเทพ เส้นแบ่ง 'บารมี-ฟีเวอร์'
บอกบุญหรือโฆษณา
ปีกว่าๆ มานี้ คนเมืองนครคุ้นชินหูกับเสียงรถสองแถวแห่ป้ายผ้าโฆษณาวันละหลายรอบ ประกาศข่าว บอกเล่า เชิญชวน เหมือนรถหนังเร่ขายยาแล่นไปมาบนถนนวันละหลายครั้ง ถ้อยคำคล้ายๆ ทำนองนี้
วันที่ 29 เมษายน 2550 ท้าวจตุคามรามเทพ รุ่น บูรณะเจดีย์ราย 50 จัดสร้างโดย วัดพระธาตุวรมหาวิหาร นครศรีธรรมราช เพื่อสร้างอาคาร พระราชธรรมสุธี วิทยาเขตศรีธรรมโศกราช วัดพระธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช กำหนดเททองนำฤกษ์ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ เวลา 13.39 - 16.29 น. พุทธาภิเษกและเทวาภิเษก 29 เมษายน เวลา 13.39 - 16.29 น. ณ วัดพระธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช
หลายรุ่นลงประกาศโฆษณาผ่านสื่อหนังสือพิมพ์ คมชัดลึก บางฉบับ เช่น
"ขอเชิญพ่อแม่พี่น้อง จองวัตถุมงคล รุ่น จตุคามรามเทพ รุ่น 12 นักษัตร สร้างตำนาน 19 พิธีมหามงคล ใน 19 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ผสานพลังพุทธาจักร พลังอาณาจักร และพลังดาราจักร ยิ่งใหญ่เป็นประวัติการณ์ การสร้างองค์จตุคามรามเทพ ที่แห่งพิธีกรและมวลสารศักดิ์สิทธิ์จากเมือง 12 นักษัตร ในยุคเกรียงไกรของเมืองนครศรีธรรมราช ภายใต้พระบรมโพธิสมภารของราชวงศ์พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช พุทธศตวรรษที่ 18"
เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือ ฟังดูขรึมขลัง ต้องมีประกาศสถานที่ที่จะทำพิธีกรรม
"พิธีบวงสรวง ณ เมืองนครศรีธรรมราช พิธีเททองหล่อนำฤกษ์และกดพิมพ์นำฤกษ์ พิธีมหามงคลจักรวาล อัญเชิญเทพยดาแห่งท้องสมุทรและเทพยดาแห่งท้องฟ้า พิธีมหาพุทธาภิเษกและเทวาภิเษก โดยกำหนดวันจอง 1 ธันวาคม 2549 และกำหนัดวันนัดรับพระวันที่ 29 มีนาคม 2549 โดยมีฝ่ายประชาสัมพันธ์ คือ มูลนิธิพัฒนาเยาวชนคนหนุ่มสาว"
เห็นได้ว่า มิเพียงแต่คนแก่หรือผู้สูงอายุเท่านั้นที่หันมานิยมในวัตถุมงคล แม้แต่คนหนุ่มสาวและลูกเด็กเล็กแดงก็รู้จักองค์จตุคามรามเทพ
และเพื่อจะทำโฆษณาอย่างไรให้คนเชื่อ ชวนจอง ก็ต้องมีถ้อยคำบอก รูปแบบเหรียญ ด้านหน้าด้านหลัง ของทุกเนื้อ ทุกแบบ และตอกโค้ด
ทำไมจึง ทุกวัด
การสร้างพระ หรือวัตถุมงคลไม่ใช่กิจหลักของสงฆ์ แต่พระสงฆ์ผู้ทรงศีลและมีอภิญญาขั้นสูงมักเป็นผู้เกี่ยวข้องกับการสร้างพระโดยเลี่ยงไม่ได้ เมื่อมีฆราวาสไปขอให้ร่วมในพิธีปลุกเสก ซึ่งคนธรรมดาไม่อาจทำได้
ก่อนจะมีการทำพิธีเททองปฐมฤกษ์ สร้างองค์จตุคามรามเทพ รุ่น จอมจักรพรรดิ และพิธีพุทธาภิเษก ในวันที่ 11 มีนาคม ที่จะถึงนี้ พระปลัดเกษม เขมจิตโต รองเจ้าอาวาสวัดเขาชะเมา ตำบลท่าวัง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช เล่าว่าท่านสร้างวัตถุมงคลของวัดเขาชะเมามาตั้งแต่ปี 2528 เพราะต้องการทำเมรุเผาศพไร้ควัน เนื่องจากวัดเขาชะเมาเป็นที่เผาศพนักโทษประหาร ซึ่งมาจากเรือนจำ ในยุคที่เรือนจำยังอยู่ที่ประตูหน้าเมือง โดยมีนายทุนเป็นผู้ออกเงิน เกี่ยวข้องหลายคน พระที่สร้างรุ่นนั้นคือพระสิหิงค์ เนื่องจากพระสิหิงค์เป็นพระคู่เมืองนครมานาน พระสิหิงค์เป็นศิลปะขนมต้ม เป็นสกุลช่างนคร โดยพระเจ้ากรุงลงกานำมาถวายเข้าเมืองนครในยุคโบราณ สร้างพระให้คนเช่าเสร็จได้เงินมาสร้างเมรุราคา 4 ล้านบาทเรียบร้อยสวยงาม
หรือการเปิดจอง พระพุทธสิหิงค์ ท้าวจตุคามรามเทพ พระปิดตาพังพกาฬ รุ่นประทานพร ของวัดเทพกุญชรในตำบลช้างกลาง ก็เพื่อสร้างศาลาพ่อท่านคล้าย พระเกจิดังอีกรูปหนึ่งที่ได้ชื่อว่าท่านมีวาจาสิทธิ์ ก็จะทำพิธีพุทธาภิเษกวันที่ 25 กุมภาพันธ์นี้
วัดแต่ละวัดมักมีวัตถุประสงค์ในการสร้างวัตถุมงคลในแนวทางเช่นนี้ ไม่สร้างสิ่งใดสิ่งหนึ่ง มองในแง่โลกทุนนิยมกล่าวได้ว่า เพราะวัดต้องพัฒนาและหารายได้จากความนิยมให้มีผู้คนมาร่วมสังฆกรรม หาเงินบริจาคเพื่อทำนุบำรุงทั้งวัดและสงฆ์
การสร้างพระจึงมีวัตถุประสงค์เหมือนเป็นการประกันยอดขายกับการสั่งจอง และมีชาวบ้านผู้จองเป็นผู้ถือหุ้น กระบวนการผลิตตั้งแต่หาวัด หาสถานที่ขลังๆ หาพระเกจิที่แก่กล้าวิชาความรู้และพุทธาคม มาร่วมพิธีกรรม เป็นหน้าที่ของนายทุน ซึ่งปัจจัยตัวนี้คือ คนที่มีรายได้จากการเช่าพระอย่างไม่มีใครคำนวณได้แน่นอน รู้แต่ว่าเป็นมูลค่าเงินจำนวนหลายพันล้าน ถึงตอนท้าย ไม่มีใครกล้าพูดอย่างเต็มปากว่า ตนออกเงินสร้างเพราะศรัทธาแก่กล้าในสัญลักษณ์ที่เป็นพุทธบูชา
นี่น่าเป็นเหตุผลที่ทำให้รัฐบาลเกิดแนวคิด "เก็บภาษีจตุคามรามเทพเข้ารัฐ"
จึงอาจสรุปไม่ได้ว่าคนโหนเทวดาหรือเทวดาโหนคน ระหว่าง 'ขุนพันธ์' นายตำรวจมือปราบกับท้าวจตุคามรามเทพซึ่งเป็นเทวดา เพราะที่มาของเหรียญจตุคามรามเทพ เริ่มดังมาจากรุ่น หลักเมือง ปี 2530 โดยขุนพันธ์เป็นผู้สร้างรุ่นแรก
อย่างไรใช่ 'ของแท้'
จตุคามรามเทพฟีเวอร์ เกิดขึ้นอย่างเป็นกิจจะลักษณะ ภายหลังการเสียชีวิตของพล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ซึ่งไม่นับว่าเป็นเรื่องแปลกสำหรับคนเมืองนคร เพราะรู้จัก พระเครื่อง ตระกูลนี้มาก่อนหน้านั้น แต่เซียนและผู้อยู่ในวงการ ยอมรับว่า กระแสความนิยมที่ไหลลามไปทั่วทุกภาคแล้วในขณะนี้เป็นความดังที่คาดไม่ถึงกันเลยในวงการวัตถุมงคลตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา ภายหลังมรณกรรมของขุนพันธ์ ทำให้วัตถุมงคลชื่อนี้มีนักล่า เซียนพระ ตั้งแต่มืออาชีพและมือสมัครเล่น
ปัจจัยที่ร่วมกันก่อนามจตุคามรามเทพให้กระฉ่อนประเทศไทย น่าจะเกี่ยวกับการให้ความสำคัญของพิธีกรรม พระสงฆ์ระดับ เกจิอาจารย์ มาทำพิธี พุทธา-เทวาภิเษก รมวลสารที่ใช้สร้างวัตถุมงคลแต่ละชนิด มีความเกี่ยวข้องกับสถานที่ได้มาและสถานที่ที่ใช้ประกอบพิธีกรรม ทั้งนี้และทั้งนั้น วัตถุมงคลที่แท้ เชื่อกันว่า ต้องผ่านการปลุกเสกโดยพระสงฆ์ผู้เจริญธรรมและมีอภิญญาขั้นสูง ส่วนวัตถุมงคลที่ไม่ได้ผ่านพิธีกรรมการปลุกเสกถือว่าจะไม่มีคุณค่าใดๆ
สำหรับคนปักษ์ใต้ผู้เติบโตในจังหวัดนครศรีธรรมราช อย่าง ปรีชา สุขสงวน ครูวัย 50 ปีเศษ ผู้อำนวยการโรงเรียนร่อนพิบูลย์เกียรติวสุนทราภิวัฒน์ ซึ่งสนใจเรื่องศิลปวัฒนธรรม ให้คำอธิบายว่า การจัดสร้างวัตถุมงคล ที่ว่าจะมีคุณค่าควรแก่การบูชาหรือไม่นั้น สำคัญที่สุดคือการหามวลสารและพิธีกรรม ส่วนวัตถุประสงค์และการตั้งชื่อจะช่วยทำให้เกิดแรงจูงใจให้ผู้คนตระหนักในเป้าหมายของการสร้างวัตถุมงคลนั้นๆ ส่วนการออกแบบ บล็อกพิมพ์และการพิมพ์เป็นสิ่งสำคัญลำดับต่อมา
"ของแท้ต้องมีคุณค่าทางพุทธาคม ไม่ใช่แค่เพียงเอาแบบพิมพ์ของต้นแบบแล้วไปปั๊มกันเอง" ครูปรีชาย้ำ
ผู้สร้าง ผู้สะสม
ต่างทิศทาง จุดหมายเดียว
คนที่มีสถานภาพอยู่ในระดับหนึ่ง หรือมีฐานะทางเศรษฐกิจดีในระดับหนึ่ง จำนวนไม่น้อยที่ให้ความสนใจการสะสมพระและวัตถุมงคล จนถึงขั้นหลงใหล อย่าง ตี๋ หูฉลาม ซึ่งทำมาหากินในย่านเยาวราชและเป็นที่รู้จัก เห็นว่าแม้แต่ชาวจีนในเยาวราชนิยมจตุคามรามเทพกันมาก เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา เขาพกเงินสด 150,000 บาทไปจองรุ่นดังอีกรุ่นที่ พล.ต.อ.สุนทร ซ้ายขวัญ อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานสร้าง เพื่อหาเงินสมทบกองทุนสงเคราะห์เยาวชน โรงเรียนมังคะทวีศิลป์ และวัดศิลาชลเขต อำเภอสิชล รุ่นนี้คือพระพุทธสิหิงค์ จตุคามรามเทพ รุ่นทวีโภคทรัพย์ ซึ่งทำพิธีบวงสรวงไปแล้วเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2549 ณ วิหารพระทรงม้า ภายในวัดพระมหาธาตุ และจะทำพิธีมหาพุทธาภิเษก เทวาภิเษก ในวันที่ 11 มีนาคม 2550 นี้ ตี๋ หูฉลาม เป็นคนมีฐานะคนดังที่ถือสิทธิการจองรุ่นดังๆ ไว้มากที่สุด เขายอมรับว่าเขาสะสมองค์จตุคามรามเทพ และจะพยายามหาให้ได้มากที่สุด
สำหรับนักการเมืองลูกหลานเมืองนครแท้ๆ อย่างนักการเมือง วิทยา แก้วภารดัย ซึ่งเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนเบญจมราชูทิศ จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นผู้ที่มีส่วนร่วมในการสร้างรุ่น 108 ปี เบญจมฯ 20 ปี ย้อนยุคหลักเมือง ไปนครยามนี้ ไม่ว่าใครจะเคยบูชาหรือแขวนพระห้อยคอรุ่นไหนมาก่อน ตอนนี้แลไปทางไหน จะเห็นผู้คนหลากหลาย ห้อยกรอบทองคำ หรือทองชุบ หรือไม่ก็เป็นกรอบสเตนเลส ห้อยสายสร้อยคอลูกปัดหรือนิลร้อยเม็ดเขื่องๆ พวกเขาภูมิใจอวดองค์พ่อจตุคามรามเทพ
แม้แต่ผู้หญิง อย่าง อุบล ชีพขาว วัย 50 ปีเศษ แม่ค้าขายเสื้อผ้ามือสองในตลาดนัดวันอาทิตย์ คูขวาง กับสามีซึ่งเป็นคนเมืองคอนแท้ๆ ก็ห้อยคอองค์จตุคามรามเทพ คนละรุ่น เป็นแบบกลมรุ่นไหลมา กับ แบบสี่เหลี่ยมรุ่นแสตมป์
เธอบอกว่า "ที่ป้านับถือเพราะท่านช่วยเจิมชีวิต ให้ทำมาค้าขึ้น ขออะไรท่านก็ให้เราตามขอ ชีวิตป้าดีขึ้นเพราะมีศรัทธาในพ่อจตุคามรามเทพ"
ร้านขายเสื้อผ้ามือสองของเธอมีลูกค้าเดินแวะเวียนเข้าออกไม่ขาด ลูกค้าเองก็บอกว่าเหตุผลที่ชอบซื้อร้านป้าบล "เพราะแม่ค้าอัธยาศัยดีและไม่เค็ม"
ความนิยมยังแผ่ไปถึงคนบ้านอื่นเมืองอื่น ประสบการณ์ของ ภูเบศร์ มงคลไชย วัย 49 ปี ผู้อำนวยการ สถานีวิทยุชุมชนคลื่นคนรักชาติ ในเขตบางกะปิ กรุงเทพฯ เล่าถึงเหตุการณ์เมื่อสี่ปีก่อน เขาเปิดร้านขายอาหารริมถนน แถวรามอินทรา กม.8 มีพ่อครัวเป็นคนนคร มีองค์จตุคามรามเทพรุ่นสุริยันจันทราอยู่กับตัว แต่เจ้าตัวไม่เคยเชื่อถืออะไรมาก่อน จนผู้อำนวยการแนะนำให้ลองขอพรในวันเปิดร้าน โดยอธิษฐานขอให้มีลูกค้าเดินมาเข้าร้าน เพียง 10 นาทีต่อมา ก็มีลูกค้าเดินเข้ามานั่งในร้านจนรับมือไม่ไหว จนถึงเรื่องการเปิดคลื่นวิทยุและหาชื่อ ที่ถูกใจไม่ได้
"ด้วยความสำนึกว่า ท้าวจตุคามรามเทพมีชื่อเสียงของผู้รักชาติบ้านเมือง ผมจึงขอตั้งชื่อว่า 'คลื่นคนรักชาติ' ขอพรให้กิจการบริหารสถานีวิทยุรุ่งเรือง ซึ่งผมก็เชื่อว่า ท่านศักดิ์สิทธิ์ เพราะขออะไรเป็นร้อยครั้ง ก็ได้ทุกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับเรื่องขอให้ช่วยบันดาลฝนฟ้าไม่ให้ตกในที่ที่จัดงาน" เคยเทศนาเรื่องวัตถุมงคล ปรากฏในหนังสือ สถานการณ์พระพุทธศาสนา พระแสไสยศาสตร์ ไว้ตอนหนึ่งว่า
พระธรรมปิฎก
"หลวงพ่อวัดบ้านกร่าง เป็นพระที่เคยมีชื่อเรื่องของขลังนั้น ในชีวิตประจำวันท่านไม่เคยพูดเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือของขลัง เลย ท่านสอนแต่ธรรมะ....พระสมัยก่อนสอนเรื่องของขลัง วัตถุมงคล มีไว้เพื่อปิดช่องความหวั่นใจ เพราะมนุษย์ส่วนใหญ่ มีจุดอ่อนเรื่องความไม่มั่นใจในการดำเนินชีวิต สมัยก่อนวัตถุมงคลหายาก จะได้แต่ละทีแสนยาก ครูอาจารย์ต้องเห็นว่า เราต้องประพฤติดีสมควรจะได้รับ พร้อมกับพ่วงคุณค่าอย่างสูงทางจิตใจไว้ด้วย"
ร้อยรุ่นพันแบบ ล้วนแผ่บารมี จตุคาม รามเทพ
ถึงวันนี้ คนส่วนใหญ่อาจจะยังไม่เข้าใจว่า ทำไมชื่อจตุคามรามเทพ จึงโด่งดังสะท้านเมืองเช่นนี้
มีอะไรดี ดีจริงหรือ ทำไมถึงมีคนเห่อกัน เช่าในราคาแพงๆ บางรุ่น เซียนคุยโม้ว่า ตนเช่ามาในราคาเรือนแสน และปล่อยไปได้เป็นเรือนล้าน
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ส่วนหนึ่งเป็นมายาภาพแห่งวงการนักเล่นพระสร้างราคาและปั่นราคากันเอง
แต่คนที่เคยมีจตุคามรามเทพมานานหลายปีแล้ว บอกว่าที่นับถือเพราะเชื่อว่า องค์ท้าวจตุคาม-รามเทพ เป็นเทวดาผู้ช่วยรักษาเมืองนครให้พ้นภัย
นัยยะอีกอย่าง ความโด่งดังของเทวดาคู่นี้ คงเป็นเพราะคนใต้บางส่วนกำลังเผชิญหน้ากับการก่อการร้ายเพื่อแบ่งแยกดินแดน โดยอ้างพระเจ้าคนละองค์เป็นสรณะ ซึ่งเมื่อคนนครสามารถสร้างกำลังใจให้พวกเขาเพื่อเป็นแนวต้านภัยคุกคามได้ ก็เหมือนติดอาวุธประจำตัวให้ เข้มแข็งและกล้าหาญ จิตใจที่เข้มแข็งคืออาวุธชั้นเยี่ยมและเป็นยาวิเศษ
เอกวิทย์ ยอดระบำ อดีตปลัด อบจ.นครศรีธรรมราช เป็นผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการนักแสวงหาจตุคามรามเทพ อย่างไม่ได้ตั้งใจ เป็นเพราะคุ้นเคยเข้าออกรับใช้ ขุนพันธ์ มาตั้งแต่เด็ก จึงมีความเลื่อมใสศรัทธาในคุณงามความดีและความเป็นคนพิเศษของขุนพันธ์ สิ่งที่เรียนรู้จากท่านขุนพันธ์ ทำให้เวลานี้เขาได้กลายเป็นผู้อยู่ในฝ่ายงานประกอบพิธีกรรมพุทธาภิเษก-เทวาภิเษกสำคัญๆ หลายครั้ง
ในฐานะที่อยู่ วงใน เอกวิทย์ปรารภอย่างหนักใจกับกระแสจตุคามรามเทพฟีเวอร์ว่า ตามบัญญัติสงฆ์ พระสงฆ์จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการทำวัตถุมงคลไม่ได้ ต้องมีฆราวาสเข้าไปร่วม ในกรณีนี้ เนื่องจากฐานะขององค์จตุคามรามเทพเป็นเทวดา มีฐานะเหนือกว่ามนุษย์ แต่ต่ำกว่าพระสงฆ์ จึงต้องให้ฆราวาสจัดทำ เอกวิทย์อธิบายว่า รุ่นดังที่สุดอย่างหลักเมือง ปี 2530 นี้ ที่ดังมาก และเช่ากันในราคาเป็นแสนๆ นั้น เป็นเพราะยุคก่อน สร้างจำนวนไม่มาก เมื่อคนอยากได้ของที่มีไม่กี่ชิ้น กลไกการตลาดก็ทำงานของมันเอง เอกวิทย์ยกตัวอย่างว่า ในเวลา 17 ปี รุ่นบูชา 7 เศียรที่เขาเคยมี เช่ามาราคา 3,900 บาท ทุกวันนี้ไปอยู่ที่ 1.2 ล้านบาท
สำหรับการตั้งชื่อรุ่นต่างๆ เป็นเรื่องของการออกแบบสร้างเพื่อความเป็นมงคลแก่ชีวิต น่าสนใจเหตุผลของการตั้งชื่อ ไม่ว่าจะเป็น ชื่อเรียกง่ายๆ ตั้งแต่รุ่นแรกๆ เช่น หลักเมือง จอมจักรพรรดิ เทวราชันย์ สุริยะ จันทรา ประทานพร ทวีโภคทรัพย์ จนมาถึงอริยทรัพย์ ไหว้ครู 50 ซึ่งกำลังเปิดจองอีกรุ่น ของวัดถ้ำพระพุทธโกษศีย์ ตำบลในเตา อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ก็เพื่อหาทุนสร้างอุโบสถที่ยังค้าง โดยสร้างพระศรีวิชัยสุดยอดแห่งอักขระ สุริยัน จันทรา ที่ได้จากพระผงเนื้อดินเผา
เขาวิเคราะห์สถานการณ์ 'จตุคามรามเทพฟีเวอร์' ว่า
"ในฐานะลูกหลานเมืองคอน ผมย่อมดีใจกับความมีชื่อเสียงขององค์จตุคามรามเทพ และไปจากเมืองนคร แต่ในเดือนเมษายนนี้ จะมีองค์จตุคามรามเทพรุ่นต่างๆ ออกพร้อมกัน 25 สำนัก คิดดูแล้วน่ากลัว ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้น นายทุนทั้งหลายจะเจออะไร"
ล้อมกรอบ 1
ความเป็นมาองค์พ่อจตุคามรามเทพ
จริงๆ แล้ว องค์พ่อจตุคามรามเทพ คือ เทวดารักษาพระบรมธาตุ มีชื่อสลักฐานองค์ด้านซ้ายว่า ขัตตุคาม และองค์ทางขวาชื่อ รามเทพ สถิตอยู่ที่บานประตูทางขึ้นพระบรมธาตุ
ในปี พ.ศ. 2530 เมื่อมีการตั้งดวงเมืองนครศรีธรรมราชขึ้นใหม่ และสร้างศาลหลักเมืองของจังหวัด จึงมีการทำพิธีอัญเชิญองค์องค์พ่อจตุคามรามเทพไปก่อนจะมาเป็นเทวดารักษาพระบรมธาตุนั้น องค์พ่อจตุคามรามเทพเป็นพระมหากษัตริย์ในสมัยศรีวิชัย ซึ่งมีชื่อเป็นทางการว่า พระเจ้าจันทรภาณุ และในอีกชาติภพหนึ่ง องค์พ่อจตุคามรามเทพเป็นกษัตริย์ที่มีนามว่า พญาศรีธรรมโศกราช การที่องค์พ่อจตุคามรามเทพถูกขนานนามว่า ราชันดำแห่งทะเลใต้ เพราะอาณาจักรศรีวิชัยอยู่ติดทะเลชวา และพระวรกายของพระองค์มีสีเข้ม นอกจากจะเป็นกษัตริย์แล้ว ในอีกชาติภพหนึ่งขององค์พ่อจตุคามรามเทพ ยังเป็นนักรบที่แกร่งกล้าสามารถ รบไม่เคยแพ้ผู้ใดนามว่า พังพกาฬ องค์พ่อจตุคามรามเทพทรงบำเพ็ญตน สร้างบารมี เป็นพระโพธิสัตว์ เพื่อบรรเทาทุกข์แก่มวลมนุษย์ สุริยัน จันทรา นั้นเป็นตัวแทนขององค์พ่อจตุคามรามเทพ ส่วนดวงตราพญาราหู ดวงตราสองแผ่นดินศรีวิชัย สุวรรณภูมิ และ 12 นักษัตร เป็นรูปแบบของดวงตราอันศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของจตุคามศาสตร์ ซึ่งทรงฤทธานุภาพในทุกๆ ด้าน
ล้อมกรอบ 2
ทำไมต้อง หลักเมือง และ วัดพระธาตุ
ความเกี่ยวข้องของสถานที่ต่างๆ ในเมืองโบราณ ย่อมมีความหมาย ตำนานเมืองนครศรีธรรมราชเป็นอาณาจักรเก่าแก่ เมื่อมีการสร้างวัตถุมงคลรุ่นต่างๆ ภายใต้ชื่อ จตุคามรามเทพ และกลายเป็นที่นิยมอย่างสูง ทำให้กระแสสร้างองค์จตุคามรามเทพเกิดขึ้นในแทบทุกวัด และวัดที่นิยมทำพิธีมหาพุทธา-เทวาภิเษก คือภายในวัดพระธาตุวรมหาวิหาร ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานองค์ท้าวจตุคามรามเทพผู้มีรูปปั้นหินสถิตอยู่เชิงบันไดสองข้าง ทางขึ้นไปยอดเจดีย์พระธาตุ
ตัวอย่างการจัดสร้าง จตุคามรามเทพ รุ่นพระผงราชันย์ดำ ซึ่งสร้างในนามของวัดใหญ่ชัยมงคล และประกาศวัตถุประสงค์เพื่อบริจาคเงินให้โรงเรียนในเขตเทศบาล 9 โรง ก็ใช้ทำพิธีพุทธาภิเษก เทวาภิเษก ส่วนมากใช้มณฑลพิธีศาลหลักเมือง ส่วนพิธีมหาพุทธา-เทวาภิเษก ก็มักเลือกทำภายในวัดพระธาตุวรมหาวิหาร
นอกจากนี้ปัจจัยมวลสารที่นำมาใช้ในการสร้างวัตถุมงคลก็เป็นเรื่องของการช่างเลือก ช่างสรรหา สิ่งที่ดีที่สุดในความเชื่อของผู้สร้าง เช่น มวลสารรัตนชาติ โลหะ เงิน ทอง ทองแดง หิน ดิน ทราย กระเบื้อง เมล็ดธัญพืช ซึ่งเรียกเนื้อต่างๆ เช่น เนื้อว่าน เนื้อโลหะ สำหรับแบบพิมพ์ต่างๆ เช่น เนื้อดำ เนื้อเทา เนื้อชมพู เนื้อขาว เนื้อเงิน เนื้อสนิมขาว เนื้อก้นครก และมีการออกแบบเนื้อและสีใหม่ๆ ออกมา เช่น รุ่นเจดีย์ราย ย้อนยุค ของวัดพระธาตุวรมหาวิหาร ที่เพิ่งปิดรับจองไปเมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีสีสันเปลี่ยนจากเดิมหลากหลาย เช่น สีเขียว สีเหลือง สีแดง สีน้ำตาล สีน้ำเงิน
ล้อมกรอบ 3
ตำนานพระธาตุและหลักเมืองนครศรีธรรมราช
พระเจ้าอยู่หัวแห่งกรุงศรีอยุธยาโปรดให้มีตรามาเกณฑ์ผู้คนสร้างเมืองนครศรีธรรมราชและพระธาตุจนสำเร็จเสร็จสิ้นในสมัยขุนอินทราเป็นเจ้าเมือง ต่อมาได้เลื่อนขึ้นเป็นพระศรีมหาราชา จนกระทั่งชาวเมืองนครศรีธรรมราชผู้หนึ่งสนใจศึกษาวิชาโหราศาสตร์ ได้ค้นคว้าพบดวงชะตาเมืองนครศรีธรรมราชเก่า จดบันทึกไว้ในสมุดข่อยในหอสมุดแห่งชาติ จึงนำมาตีพิมพ์เผยแพร่ว่า เมืองนครศรีธรรมราชเก่าสถาปนาขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดี แรม 12 ค่ำ เดือน 3 ปี เถาะ จุลศักราช 649 ตรงกับ พ.ศ. 1830
เมื่อพลตำรวจตรีขุนพันธรักษ์ราชเดช และ พลตำรวจโทสรรเพชญ ธรรมาธิกุล ตรวจสอบรูปดวงชะตาเห็นว่ากรุงศรีธรรมโศกและดินแดนภาคใต้ถูกสาป จึงร่วมกันหาทางแก้ไข รายงานให้คณะกรรมการจัดสร้างสิ่งมีค่าทางประวัติศาสตร์เมืองนครศรีธรรมราชทราบ ต่างเห็นพ้องต้องกันว่าควรสร้างหลักเมืองนครศรีธรรมราชขึ้น เพื่อล้างมนตราอาถรรพณ์แห่งคำสาปใน พ.ศ. 2530
http://www.bangkokbiznews.com/2007/02/21/WW06_WW06_news.php?newsid=55446 http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2007/04/10/entry-4