ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
29-03-2024, 03:49
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  หากนายกสุรยุทธลาออกไป แล้วจะเลือกใครเป็นนายก? 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
หากนายกสุรยุทธลาออกไป แล้วจะเลือกใครเป็นนายก?  (อ่าน 2437 ครั้ง)
Augustman
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 364


ศิลปะแห่งชีวิต คือ ทำจิตสงบเย็น


« เมื่อ: 09-04-2007, 21:07 »

ตามปกติผมมักจะนำเสนอแนวคำกลอนมากกว่า   วันนี้ "ไม่ปกติ" ล่ะซี เลยมาเป็นความเรียง....อิอิ
ครับ. เสียงเรียกร้องให้"ท่านนายกสุรยุทธ"ลาออก   นับวันยิ่งหนาหูมากขึ้นเรื่อยๆ

โดยเฉพาะจาก"กลุ่มพันธมิตรฯ" ซึ่งดูเหมือนจะเคยเอาใจช่วยและเชียร์ท่านมาก่อน
รัฐบาลของท่าน พล.อ สุรยุทธ  จุลนานนท์เข้ามารับงานบริหารประเทศในยามบ้านเมือง
เกิดภาวะวิกฤติ  เป็นรัฐบาลชั่วคราวโดยกำหนดอายุไว้แค่  1  ปี  แรกๆหลายคนก็ฝากความหวังว่า 
จะเข้ามาแก้ไขปัญหาที่รัฐบาลเก่าทำปู้ยี่ปู้ยำประเทศชาติกองสุมไว้เยอะแยะ  ดูไม่จืด  ว่างั้นเหอะ     

แต่ผ่านมาร่วม 6 เดือน  ก็ยังไม่เดินหน้าไปถึงไหน    เพราะคณะรัฐมนตรีส่วนใหญ่เอาแต่
ใส่"เกียร์ว่าง"กันอยู่    ทำอะไรก็ดูเชื่องช้าอืดอาด  ไม่ทันอกทันใจกองเชียร์เอาเสียเลย
เป็นที่รู้กันว่ารัฐบาลเก่าได้วางเครือข่าย"ระบบทักษิณ"ไว้ทั่วทุกหัวระแหง  ทุกกระทรวง
ทบวงกรม  ข้าราชการประจำจึงทำตนเป็นคนง่อยเปลี้ยเสียขา   ไม่ยอมดำเนินการตามที่
มันควรจะเป็น    ขืนให้ความร่วมมือ  ก็เท่ากับ"ทุบหม้อข้าว"ตัวเอง  เพราะความผิดก็
จะวกกลับมาเล่นงานตนแน่นอน  จึงพลอยใช้เกียร์ว่างไปด้วย

นับแต่การวางเพลิงเผาโรงเรียนทางภาคเหนือและอิสาน    การวางระเบิดในกรุงเทพฯ
ต้อนรับปีใหม่  ก็ยังหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษไม่ได้    การแก้ปัญหาก่อการร้ายใน 3 จังหวัดภาคใต้ 
แม้จะปรับเปลี่ยนยุทธวิธีที่น่าจะถูกทางแต่ก็ดูเหมือนจะยังมิลดความรุนแรงลงไปได้เลย
ความผิดพลาดของรัฐบาลมีหลายอย่าง  นับแต่การแก้ไขปัญหา"ไอทีวี"ที่ถูกใจพนักงาน
แต่ไม่ถูกต้องตามหลักการ   ปัญหาหนี้สินของเกษตรกรคนจน(ซึ่งมีมาก่อน)  ทำการประชด
ด้วยการเดินขบวนอพยพจะไปอยู่ประเทศลาว(เสียให้เข็ด)   อีกทั้งการที่นายกรัฐมนตรีไป
ลงนาม FTA กับรัฐบาลญี่ปุ่นเมื่อเร็วๆนี้

เหตุผล 4 ประการ  ที่ คมช.อ้างในการยึดอำนาจก็ยังมิได้ดำเนินการแก้ไขให้รุดหน้าไปได้เลย   
ที่พอจะมองเห็นอยู่บ้างก็ได้แก่ผลงานของ คตส. ในการสืบสวนสอบสวนหารวบรวมพยานหลักฐาน
ส่งฟ้องศาลในข้อหาคอรับชั่น    แต่ก็ติดขัดเพราะเรียกหาข้อมูลจากกระทรวงเจ้าสังกัดยากเย็นยิ่ง   

ครั้นขอร้องให้รัฐบาลออกมติคณะรัฐมนตรีสั่งการ  ก็ไม่ดำเนินการ  หลายคนที่ทุ่มเทก็มีที
ท่าท้อกันไปตามๆกันแต่ก็น่ายกย่องสรรเสริญไม่น้อย  ก็ขอเป็นกำลังใจ ครับ

แรกๆกลุ่มอำนาจเก่าก็ยังสงวนท่าที  มองทิศทางลม  สงบปากสงบคำ  ไม่กล้าออกมากร่าง
อย่างปัจจุบันนี้   ที่ออกมาชุมนุมร่วมกับกลุ่มต่างๆก่อม็อบขับไล่ คมช.และรัฐบาลอย่างดุเด็ด
เผ็ดมัน  สร้างความวุ่นวายมิหยุดหย่อน  กล้าจาบจ้วงด่าทอและล่ารายชื่อถวายฎีกาให้
ปลดประธานองคมนตรี  นับเป็นการกระทำที่ก้าวล่วงพระราชอำนาจอย่างไม่บังควร   .
....ก็คงทำงานให้คุ้มค่าน้ำเงินนั่นแหละ

ฝ่ายพันธมิตรซึ่งแรกเริ่มเดิมทีก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับรัฐบาลเต็มที่   แต่นานวัน
ศรัทธาที่เคยมีก็เสื่อมถอย    เคยเรียกร้องให้ปรับคณะรัฐมนตรีบางคนออกไป   เมื่อไม่สำเร็จ
หนักเข้าก็ได้ยินเสียงเรียกร้องให้พล.อ สุรยุทธลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี   
ว่าไปแล้วก็เหมือนจะไปเข้าทางของกลุ่มอำนาจเก่า โดยมิเสียแรง

ปัญหามากมายหลายด้านที่เก็บสุมรุมเร้ารัฐบาลอยู่เวลานี้  มองอีกแง่หนึ่งก็น่าเห็นใจ
ท่านนายก สุรยุทธ อยู่ไม่น้อยเพราะท่านเป็นองคมนตรีอยู่ดีๆ  มีคนไปขอร้องเชิญให้
ท่านมาเป็นนายกแก้ปัญหาวิกฤติชาติ   ใหม่ๆหลายฝ่ายต่างชื่นชมยินดีอยู่   แต่เมื่อ
แก้ไม่สำเร็จก็ถูกก่นด่าไม่เว้นแต่ละวัน    ครั้นจะลาออก  บางฝ่ายก็หาว่าถอดใจ
"ไม่รักชาติ" "ไม่สนองคุณแผ่นดิน"   ท่านจึงตกอยู่ในภาวะ"กลืนไม่เข้า คายไม่ออก"
อะไรประมาณนั้น

ผู้ที่เรียกร้องให้ท่านนายกลาออกก็ควรหันกลับมาคิดตอบปัญหาต่อไปนี้ให้ได้เหมือนกันว่า..     

1. ถ้าท่านลาออกแล้ว  เราจะหาใครมาเป็นนายกในช่วงเวลาที่เหลือไม่ถึงปี ?

2. หน้าที่การสรรหานายกใหม่มาแทน เป็นหน้าที่ของใคร ?

3. ถ้าได้นายกคนใหม่มาแล้ว  เราคิดว่าจะสามารถสะสางปัญหาให้หมดไปได้หรือ ?

ถ้ายังตอบปัญหาดังกล่าวไม่ได้  ผมมีความเห็นว่า  ทางเลือกที่ดี(อาจไม่ใช่ที่สุด) 
คือช่วยกันระดมสมอง  เสนอแนะวิธีการแก้ไขปัญหาที่เป็นไปได้ให้ท่านนายกโดย
วิธีการที่นุ่มนวลไม่ก้าวร้าวรุนแรง มีเหตุมีผล  และสอบถามสาเหตุที่ท่านติดขัด
ไม่สามารถทำตามเสียงเรียกร้องต่างๆได้   

อย่าลืมว่าการให้"กำลังใจกัน" เป็นสิ่งสำคัญ  นะครับ

...................................................................................................................................................

 


   
บันทึกการเข้า

Augustman
ดอกฟ้ากับหมาวัด
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,042



« ตอบ #1 เมื่อ: 09-04-2007, 21:37 »

เห็นด้วยกับปู่ออฯค่ะ การเปลี่ยนม้ากลางลำธารในขณะทีไม่มีทางเลือก

เพราะรัฐบาลชุดนี้มาแบบไม่ถูกต้องตามหลักสากล เป็นรัฐบาลที่ได้มาจากการรัฐประหาร

ที่มีประชาชนให้การสนับสนุน ทำให้ให้ไม่เกิดปัญหาวุ่นวายในบ้านเมืองเท่าที่ควร

คงเพียงส่งแค่กำลังใจให้มากกว่า และหากผลสุดท้ายที่ออกมาอย่างไร ก็คงไม่เลวร้ายเหมือนกับห้าปีที่ผ่านมา

ในระบอบทักษิโณมิกส์


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-04-2007, 21:43 โดย ดอกฟ้ากับหมาวัด » บันทึกการเข้า

***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ

      น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
ริวเซย์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,637


Worrior in The Blue Armor


เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 09-04-2007, 21:46 »

สำหรับท่านนายกคนนี้ผมยังสนับสนุนท่านให้เป็นนายกต่อไปจนครบวาระ

แต่อยากให้ท่านแสดงท่าทีให้ชัดเจนในเวทีการเมือง อย่างที่ญี่ปุ่นที่ท่านพูดว่าจะจัดการกับอำนาจเก่าอย่างไร

ขอบอกท่านไว้เลยว่าท่านจะไม่มีทางสมานฉันท์กับพวกอำนาจเก่าได้ ในเมื่อคตส. คมช.จะเอาแกนนำหลายคนของเขาเข้าคุก

และขอให้ท่านให้ความร่วมมือกับคมช.ให้มากกว่านี้ ถ้าท่านตีงูไม่ตาย งูร้ายนั้นจะย้อนมากัดท่านแน่นอน

เรื่องที่ดีท่านก็มีมาก แต่เรื่องที่ยังไม่เข้าท่าในความเห็นของผมก็มีเหมือนกัน ดังนั้นผมจึงถือโอกาสกระทู้นี้ติติงการทำงานของท่านเพื่อก่อนะครับ

เพราะเชื่ออย่างยิ่งว่าท่านนายกสุรยุทธ์เป็นคนที่รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์เช่นเดียวกับประชาชนคนไทยส่วนใหญ่ที่ต้องการเห็นบ้านเมืองสงบสุข ถ้าทานรักก็ขอให้กัดฟันต่อสู้จัดการกับพวกอำนาจเก่าที่ทำชาติบ้านเมืองวุ่นวายอยู่ในขณะนี้

ขอเป็นกำลังใจให้ท่านนายกนะครับ
บันทึกการเข้า

ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^


aiwen^mei
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,732



« ตอบ #3 เมื่อ: 09-04-2007, 21:53 »

เพิ่งจะเป็นแฟนคลับของท่านปู่ออฯ นะคะ ขออนุญาตเรียกตามหัวหน้าแก๊งค์ดอกฟ้าชาร์ลี ค่ะ

ดีใจค่ะที่วันนี้ท่านปู่ออฯ แวะมาจิบกาแฟทีสภากาแฟแห่งนี้ แวะมาบ่อย ๆ นะคะ จะติดตามอ่านค่ะ 

ส่วนตัวเป็นกำลังใจให้นายก ฯ มาตั้งแต่ต้น และจะยังคงเป็นกำลังใจให้ต่อไปค่ะ 
บันทึกการเข้า

有缘千里来相会,无缘对面不相逢。
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 09-04-2007, 21:55 »

นึกว่าคำถามทำนองนี้จะหมดไปแล้วหลังจากปฏิวัติ   หากคำถามแบบนี้คงอยู่ ... แปลว่าเตรียมตัว "ฉิบหาย" ได้แล้วครับ

แปลว่าสิ้นหวังมากจริงๆ
บันทึกการเข้า

นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 09-04-2007, 22:51 »

คิดถึง ไม่เอาทักษิณแล้วจะเอาใคร จริงๆ

คุ้นมากครับ 
บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
Augustman
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 364


ศิลปะแห่งชีวิต คือ ทำจิตสงบเย็น


« ตอบ #6 เมื่อ: 10-04-2007, 10:50 »

สวัสดีทุกท่าน ครับ

- ดอกฟ้าฯ
- ริวเซย์
- aiwen^mei
-  加籍华人
- นนร์


หลายคนอาจอยากให้ท่านนายก"ถอดใจ" จะได้มีคนทีทำงานให้ตรงเป้าประสงค์ของ
การปฎิวัติ 4 ประการ แต่ต้องไม่ลืมว่าผู้ที่จะเข้ามาแทนมองดูตัวแล้วหายากไม่น้อยทีเดียว
บางคนเล็งไปที่ พล.อ.สนธิ อาจจะเหมาะสมในแง่หนึ่ง เพราะเป็นหัวหน้าคณะปฎิวัติ
แต่แรงต้านจากฝ่ายตรงข้ามจะหนักหนาสาหัสแน่นอน  และท่านจะกล้ารับตำแหน่งละหรือ
คิดน่ะคิดได้   แต่จะสมหวังหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

อย่างที่หลายฝ่ายต้องการ   ครือว่า...ถ้าไม่ถอดใจก็ต้องเปลี่ยนวิธีการทำงานให้มันชัดเจน
โดยเฉพาะประเด็นการเอาผิดในเรื่อง"คอรัปชั่น" ที่มีฝ่ายคตส.ทุ่มเททำงานเต็มที่ ถ้างานนี้
สำเร็จสัก 50 เปอร์เซ็นต์  ส่งฟ้องศาลและผลการตัดสินเป็นไปอย่างที่หลายคนหวัง
ผมเชื่อว่าอำนาจเก่าจะฟื้นยากเต็มทน


นานทีจะแวะมาห้องนี้  คิดว่าจะไม่มีใครมาทักทายเสียอีก 
ถือโอกาสฝากบล็อกเสียเลย..อิอิ


http://www.oknation.net/blog/Augustman

....ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาครับ

 
บันทึกการเข้า

Augustman
-3-
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,186


« ตอบ #7 เมื่อ: 10-04-2007, 11:37 »

ประเทศไทยมีคน(ยอม)เป็นนายกได้ไม่กี่คนจริงๆ หรอเนี่ย? 

ปล ยังไม่อยากให้เปลี่ยนตัวตอนนี้ ให้เปลี่ยนสไตล์ทำงานจะดีกว่า พึ่งจะเริ่มครึ่งหลังเอง 
บันทึกการเข้า



ประชาธิปไตยตัดสินความต้องการได้ แต่ตัดสินความถูกต้องไม่ได้!!
buntoshi
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,348



« ตอบ #8 เมื่อ: 10-04-2007, 12:09 »

ผมยังยืนยันครับ ว่าท่านต้องแสดงจุดยืน และ ต้องเปลี่ยนแนวคิดรวมถึงวิธีการทำงานใหม่ ไม่งั้น อยู่ครบปีไป ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

จะรัฐประหารไปทำไม

เอากำลังทหารมารัฐประหาร แล้วก็ให้คนมาเป็นนายก แล้วอยู่ 1 ปี จบ แค่นี้เหรอ

ถ้าท่านอยากสมานฉันท์ คนที่หลงผิด คนที่เข้าใจผิดจริงๆ ท่านต้องทำให้ประชาชนรู้ก่อนครับ ว่าอะไรผิดอะไรถูก

ไปสมานฉันท์เลยไม่ได้ จะปกครองคนได้ยังไง ถ้างั้น นักโทษประหารก็ไม่สมควรถูกฉีดยาแล้ว

ใช้หลักธรรมนำหน้า เมื่อรู้แล้วว่าสิ่งใหนไม่ดี ตอนนั้น จะสมานฉันท์ กับใครค่อยว่ากัน

การให้การศึกษาให้ความรู้แก่คนทั่วไป รวมถึงการปฏิรูปการเมือง ปฏิรูปสื่อ ทำไมไม่คิดที่จะทำครับ

แต่สิ่งที่ทำคือการ ลงนาม FTA เมคโปรเจค การอุ้มพนักงานไอทีวี เกียร์ว่างเรื่องคตส นี่เหรอครับ
บันทึกการเข้า


เราต้องสร้างคนดีมากกว่าคนเก่ง เพราะคนเก่งจะเห็นคนอื่นเก่งกว่าไม่ได้ จะพยายามเก่งกว่าคนอื่น แต่คนดีจะมีความสุขที่ได้ทำให้คนอื่นเก่ง รวมทั้งคนดีทุกคน ล้วนเก่งทั้งนั้น....  ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา
---------------------------
นู๋เจ๋ง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,877



« ตอบ #9 เมื่อ: 10-04-2007, 12:38 »

วางตัวกันไว้แล้วมั้ง! รึเปล่าน๊อ

ไม่ลาออก ก็เชิญออกด้วยความเคารพ... รึเปล่าน๊อ???
อยู่ที่ว่า นายกเราจะโอนเอน หรือ ปักหลัก ปักธง
ถ้าไม่ออกอีก พีนธมิตรก็เคลื่อนไหว ม็อบชนปะทะ ptv ..ตามมาก็ รถถังวิ่ง ชัวร์ป๊าบ....

ที่ต้องทำคงเป็นเพราะ มีการเคลื่อนไหวแบบดิ้นพล่านของเหล่าสาวกเหลี่ยม
มีสัญญานว่ามีการต่อท่อน้ำเลี้ยงมาถึงแล้ว
หลังจาก ลูก เมีย คนในครอบครัว จะต้องโดนคดี
และแนวโน้มต้องเสียเงินหลายร้อย หลายพันล้าน เพราะถูกเปิดโปง กรรมเก่าที่ได้ก่อไว้!

ขณะนี้มีการเตรียมจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ๆ ด้วยคนหน้าเก่าๆ พวก สส สว โดยอาชีพ
สายเลือดสายน้ำเกลือเหลี่ยมจัดตั้งได้เมื่อไหร่ เงินจะถ่ายเทสู่มืออย่างไร ให้ไปถามคนใหญ่ตัวเล็ก
คมช. ไม่ทำอะไรแรงๆ ปล่อยไว้ให้ดำดินผลุดๆโผล่ๆ มาแว้งกัดแบบนี้ ก็คงไม่ได้แร้ววววววววว

เอ้ อดีตประธานสส. กับอดีตประธาน สว.สมัยนู้น เค้าทำอะไร คิดอะไรกันอยู่น๊อ อยากรู้จัง????
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-04-2007, 12:40 โดย นู๋เจ๋ง » บันทึกการเข้า

~จะแน่วแน่...แก้ไข...ในสิ่งผิด~
An.mkII
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,984


Out of kontrol....!!!!!


เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 10-04-2007, 13:01 »

นึกว่าคำถามทำนองนี้จะหมดไปแล้วหลังจากปฏิวัติ   หากคำถามแบบนี้คงอยู่ ... แปลว่าเตรียมตัว "ฉิบหาย" ได้แล้วครับ

แปลว่าสิ้นหวังมากจริงๆ


ผมว่าเรื่องแบบนี้..

มันต้องดูที่มาที่ไปครับ..


ที่มาที่ไปว่าใครเป็นคน ตั้งคำถามนี้ ... และใครเป็นคนสร้างกระเเสไม่เอาสุรยุทธ์..

เพราะเมื่อมีกระเเสไม่เอาสุรยุทธ์จึงได้มีคำถามนี้ขึ้นมา..   ดั่งคำว่าไม่มีเหตุก็ไม่มีผล เพราะผลมันเกิดเพราะเหตุ..


และเหตุ...

ที่ทำให้ก่ิอกำเนิดผลที่ว่า "ไม่เอาสุรยุทธ์แล้วจะเอาใคร.."    มาจากเหตุที่คนบางกลุ่มสร้างกระเเส "ไม่เอาสุรยุทธ์.."



ฉะนั้นเมื่อเรารู้ที่มาที่ไป เราก็จะรู้ว่าใครกันเเน่ที่คิดว่า ต้องถึงคราจิ๊บหาย... และมันควรจะจิ๊บหายกันจริงๆหรือ...!!??


เพราะในหัวสมองผม..ไม่เคยคิดเรื่องแบบนี้ครับ..

ฉะนั้นเวลานี้ผมก็ยังคงจะกินอิ่มนอนหลับและคิดว่ายังไงๆมันก็คงจะยังไม่ถึงคราจิ๊บหายเเน่นอน...
บันทึกการเข้า
katindork
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 369


« ตอบ #11 เมื่อ: 10-04-2007, 19:36 »

อย่าลืมว่าการให้"กำลังใจกัน"  เป็นสิ่งสำคัญ  นะครับ

คำพูดนี้สำคัญก็จริงครับ 
แต่มันคนละประเด็นกับคำว่าจุดยืนครับ Mad Mad

รัฐบาลสุรยุทธควรแสดงจุดยืนให้ชัดครับว่า
เลือกทัศนคติที่ดี ยุติธรรม  สมควรแก่โอกาส
มากกว่า
การประนีประนอมกับทักษิน



ท่านไม่จำเป็นต้องคืนประเทศไทยทักษินนะครับ
บันทึกการเข้า
Limmy
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,346


« ตอบ #12 เมื่อ: 10-04-2007, 20:22 »

หลังสงกรานต์คงมีความชัดเจนขึ้น

สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าสุขภาพไม่ดี ก็มีข้ออ้างให้ท่านไปพักผ่อนที่บ้านได้ครับ ไม่เสียคำพูดที่ไปตกลงอะไรไว้กับใคร

ส่วนเรื่องใครจะมาเป็นนายกเนี่ย......จัดตัวไว้พร้อมแล้วมั๊งครับ เห็นว่าจะมาดูแลในช่วงเลือกตั้งและติดตามผลงาน คตส. ถ้าเป็นท่านจริง ๆ นี้ผมว่าทำได้แบบสบาย ๆ เพราะประสบการณ์สูงอยู่แล้ว 

เสียอย่างเดียว ทักษิณแอนด์เดอะแก๊งค์ ต้องหาซื้อฮีตเตอร์กับผ้าห่มไว้กันหนาว...อิอิอิ   
บันทึกการเข้า
aiwen^mei
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,732



« ตอบ #13 เมื่อ: 13-04-2007, 10:15 »

คนเดียวที่ยังขี่ 'ทักษิณ'

อย่างน้อยจากนี้ไปอีก 5 วันเต็มๆ ที่พี่น้องประชาชนคนไทยจะได้หยุดพักหายใจหายคอ ฉลองเทศกาลปีใหม่ไทยให้จุใจ

ราดน้ำเย็นให้ชุ่มฉ่ำ

ก่อนจะกลับมาตั้งรับกับสถานการณ์ร้อนๆ ที่ตอกย้ำซ้ำแล้วซ้ำอีกโดย พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม

หลังสงกรานต์ม็อบเต็มเมืองแน่

“ในช่วงนี้ไม่น่าจะมีอะไรเกิดขึ้น แต่จะมีอะไรมันควรจะเป็นหลังจากช่วงที่ประชาชนมีความสุขในช่วงพิเศษนี้แล้ว”

“เป็นธรรมดาว่า พอหลังสงกรานต์ก็ต้องออกมา เพราะเขามีการนัดหมายกันเอาไว้แล้ว รวมทั้งม็อบอื่นที่เขาจะรอดู แล้ววันที่ 16-20 เมษายน ก็จะออกมาเป็นลำดับจากน้อยไปมาก เป็นธรรมชาติอยู่แล้ว ไม่ต้องถามก็รู้ว่าเขาจะออกมา”

คนระดับรัฐมนตรีกลาโหมออกโรงฟันธงเอง

พลาดยาก

อย่างไรก็ดี แม้จะอยู่ในสถานการณ์ลูกผีลูกคน แรงเสียดทานพุ่งเข้าใส่ทุกทิศทุกทางสำหรับคนชื่อ “สุรยุทธ์ จุลานนท์” ก็ยังถือแต้มต่อ

ต้นทุนทางสังคมยังแน่นปึ๊ก

กับผลสำรวจของกรุงเทพโพล มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ล่าสุดในหัวข้อบุคคลการเมืองที่วัยรุ่นต้องการรดน้ำดำหัวในเทศกาลสงกรานต์มากที่สุด

อันดับหนึ่ง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ร้อยละ 39.4 อันดับสอง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร้อยละ 17.1 อันดับสาม พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ร้อยละ 8.1 อันดับสี่ นายชวน หลีกภัย ร้อยละ 6.2 อันดับห้า “บิ๊กบัง” พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ร้อยละ 5.8

“ฤาษีขี่เต่า” นำโด่งเลย

และถ้าอ่านกันให้ดี ตัวเลขที่ออกมาบ่งบอกอะไรเป็นนัย

ไม่ใช่แค่ “ขิงแก่” ที่โดนใจวัยรุ่น แต่มันตอกย้ำกับผลของสารพัดโพลสำรวจคะแนนนิยมที่ออกมาก่อนหน้านี้ ตัวเลขตรงกันในส่วนอันดับหนึ่งของนายกฯสุรยุทธ์ และอันดับสองของอดีตนายกฯทักษิณ

เกาะกลุ่มผู้นำร่วมตลอด

และความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือ “สุรยุทธ์” แค่คนเดียวที่อันดับเหนือกว่า “ทักษิณ”

กวาดคะแนนจากคนกลางได้มากสุด


นี่แหละที่น่าสนใจ ในขณะที่ฝ่ายรักปักใจกับ “ทักษิณ” จำนวนนิ่งแน่นอนแล้ว แม้จะอยู่ในสถานการณ์เลวร้าย ระเหเร่ร่อนอยู่ต่างบ้านต่างเมือง

คะแนนนิยมอดีตนายกรัฐมนตรียังไต่มารั้งอยู่อันดับสอง

ตัวเลขสูงขึ้นสวนทางกับยุทธการขุดรากถอนโคนเครือข่ายอำนาจเก่า

“ทักษิณ” ฆ่าไม่ตาย

ในสถานการณ์ที่เครือข่ายพันธมิตรต้านอดีตนายกฯทักษิณก็ยังไม่ทะลุถึงเป้าหมาย ในการขุดรากถอนโคนเครือข่ายอำนาจเก่าให้สิ้นซาก

แต่แนวร่วมกลับแตกคอ หันทางปืนมาจ่อหัวกันเอง

พันธมิตรม็อบไล่อดีตนายกฯทักษิณหงุดหงิดที่รัฐบาลเล่นบทโหดไม่สะใจโก๋ พาลตั้งแง่ “สุรยุทธ์” แอบซูเอี๋ยกับเครือข่ายอำนาจเก่า

รวมพลคณาธิปไตยขู่ระดมม็อบไล่ เชียร์ คมช.ปฏิวัติซ้ำ

ตั้งท่าจะอัปเปหิฤาษีกลับอาศรมในป่าให้ได้

ฝ่ายเกลียด “ทักษิณ” เสียงแตก ตรงกันข้าม คนรัก “ทักษิณ” รวมตัวติดเป็นกลุ่มก้อน ม็อบพีทีวีประสานเครือข่ายคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ ทำผลงานได้เข้าเป้าตามแผน

แนวร่วมพรึบสนามหลวง

สำแดงพลังส่งเสียงกู่เรียกหาอดีตนายกฯทักษิณโดยไม่สนถูกมองว่า ท้าทาย

คนไทยแบ่งข้าง ต่างคนต่างตะโกนในเรื่องที่สวนทางกันอย่างสิ้นเชิง

สองขั้วเผชิญหน้าไม่มีใครกลัวใคร

ในยามที่คนไทยแตกคอมากสุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย ก็น่าสงสัย ถ้าไม่ใช่คนชื่อ “สุรยุทธ์” ซึ่งเป็นคนเดียวที่คะแนนยังเหนือกว่าทักษิณ กวาดเสียงคนกลางๆไว้ได้

ใครจะประคองเกมสองขั้วสุดโต่งอยู่.


“ทีมการเมือง”

http://www.thairath.co.th/news.php?section=politics&content=43440

บันทึกการเข้า

有缘千里来相会,无缘对面不相逢。
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #14 เมื่อ: 13-04-2007, 10:40 »

^
^
นึกว่า"ใหม่"ซะอีก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-04-2007, 10:52 โดย login not found » บันทึกการเข้า
aiwen^mei
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,732



« ตอบ #15 เมื่อ: 13-04-2007, 11:24 »

แฉเหตุ “สุรยุทธ์”ถอดใจ!เกาเหลา“บิ๊กบัง”ทาบ“อานันท์ ปันยารชุน”นั่งนายกฯ
 
โดย ผู้จัดการรายสัปดาห์ 13 เมษายน 2550 09:16 น.


เบื้องหลังข่าวลือ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ถอดใจ วงในชี้ประเด็นหลักเกิดการงัดข้อกับ “บิ๊กบัง” เพราะต่างฝ่ายต่างปักธงการบริหารของตัวเองไว้แล้ว ขณะที่ การเสนอพ.ร.ก.ฉุกเฉินคุมพื้นที่กทม.เป็นชนวนเหตุที่ยอมไม่ได้ พร้อมข่าวลือ “บิ๊กบัง”เข้าพบป๋าเปรม ทาบ อานันท์ ปันยารชุน นั่งเก้าอี้นายกฯ พร้อมตั้งครม.ใหม่แทน รัฐบาลขิงแก่ที่ปล่อยเกียร์ว่าง จนอาจเป็นเหตุให้หลังเลือกตั้ง อำนาจเก่าฟ้องกลับคมช.ได้!
       
       กระแสข่าวร้อนในเรื่องของการสละเก้าอี้นายกรัฐมนตรีของพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ กำลังกลายเป็นประเด็นดึงดูดความสนใจของสังคมอีกครั้ง ในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา การออกมาเคลียร์ พร้อมกับย้ำอย่างมั่นใจว่า “นายกฯคนนี้ไม่มีทางท้อ” ทั้งของประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน และเหล่า บิ๊กๆคมช.ทั้งหลาย ประสานเป็นเสียงเดียวกันว่า ถึงอย่างไรพล.อ.สุรยุทธ์ก็จะไม่สละเก้าอี้ ก่อนครบวาระอย่างแน่นอน
       
        ทันทีที่มีข่าวว่านายกฯสุรยุทธ์ จะถอดใจทิ้งตำแหน่งผู้นำรัฐบาลในแต่ละครั้งที่ผ่านมา นั้นหลายฝ่ายยอมรับว่ามีผลกระทบติดตามมาแทบทุกด้านทั้งในแง่ความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน ผลกระทบต่อนานาชาติที่กำลังจับตาดูการบริหารงานของรัฐบาลท่ามกลางสถานการณ์บ้านเมืองที่ไม่ปกติ และรวมทั้งผลกระทบทางการเมืองที่จากเดิมทั้งรัฐบาลและคมช.ต่างตกอยู่ในสภาพที่เป็นรอง เป็นฝ่ายรับมือกับเกมใต้ดินบนดินที่มาจากฝ่ายขั้วอำนาจเก่า ดังนั้นเมื่อมีข่าวว่าผู้นำรัฐบาลส่ออาการหวั่นไหว จึงยิ่งกลายเป็นจุดอ่อนให้ฝ่ายตรงข้ามไปโดยปริยาย
       
       “สุรยุทธ์”เบื่อบท“ฤาษีเลี้ยงเต่า”-ขัดแย้ง “บิ๊กบัง”
       
        อย่างไรก็ตามต้องยอมรับเมื่อเกิดข่าวลือกรณีนายกฯสุรยุทธ์ อาจตัดสินใจลาออกครั้งล่าสุดรอบนี้ หลังจากที่เดินทางกลับจากลงนามทำข้อตกลงเขตการค้าเสรีระหว่างไทย-ญี่ปุ่น ได้เกิดคำถามติดตามมาว่าอะไรที่ทำให้ นายทหารอาชีพอย่างพล.อ.สุรยุทธ์ เกิดอาการท้อแท้จนถึงขั้นที่จะสละเรือทั้งปัญหาไว้เบื้องหลังอย่างนั้นหรือ ? ในข้อเท็จจริงแล้วกว่าที่ข่าวลือการลาออกครั้งนี้จะปะทุขึ้นมาตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย.ที่ผ่านมานั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่าได้เกิดสารพัดปัญหาที่รุมเร้าพล.อ.สุรยุทธ์ มาอย่างหนัก โดยที่ปัญหาส่วนใหญ่ถูกมองว่าผู้นำรัฐบาลและรัฐมนตรีในครม.เป็นฝ่ายก่อปัญหาขึ้นมาเอง ไม่ว่าจะเป็นการกรณีการแก้ไขปัญหาทางการเมือง ที่จนวันนี้ยังไม่สามารถใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นเครื่องมือกำหลาบม็อบพีทีวีลงได้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้คมช.ได้พยายามเสนอแนะให้รัฐบาลใช้อำนาจออกพ.ร.ก.ดังกล่าวแล้ว แต่กลับไม่เป็นผล
       
        นอกจากนี้ปัจจัยที่เกิดจากการเข้าเกียร์ว่างของพล.อ.สุรยุทธ์ และรัฐมนตรีในครม.จนสร้างความไม่พอใจให้กับคมช.มากที่สุดคือการไม่ให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือคตส. เพื่อให้กระทรวงต่างๆที่เกี่ยวข้องกับคดีทุจริต มาทำการร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อให้ขั้นตอนการทำงานของคตส.เดินหน้าไปได้ แต่ท้ายที่สุดกลับไม่มีสัญญาณใดส่งออกมาจากคนในรัฐบาล ทั้งที่ความจริงแล้วทุกคนย่อมรู้ดีว่าหากนาทีนี้คตส.ยังไม่สามารถจัดการเอาผิดกับอดีตรัฐมนตรีและโดยเฉพาะพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้อย่างจริงจังแล้วเมื่อใดที่อำนาจเก่าย้อนกลับมา ทั้งคมช. รัฐบาลตลอดจนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องย่อมต้องโดนเช็คบิลอย่างแน่นอนก็ตาม ดังนั้นถึงแม้นาทีนี้พล.อ.สุรยุทธ์ อาจจะไม่ได้คิดที่จะถอดใจสละเรือตามข่าวลือก็ตาม แต่ท้ายที่สุดแล้วย่อมปฏิเสธไม่ได้ว่ากระบวนการ “ขับไล่”กำลังเปิดฉากขึ้นแล้ว
       
       “ขณะนี้พล.อ.สุรยุทธ์อยู่ในสภาวะที่ต้องแบกรับซึ่งความรับผิดชอบทั้งหมด เปรียบได้ดังเช่น การขับรถที่ถูกชนมาอย่างยับเยิน พังทั้งคัน แอร์แบ็กก็ไม่มีคนขับต้องรับแรงกระแทบแบบเต็มๆเช่นเดียวกับขณะนี้ที่พล.อ.สุรยุทธ์ต้องทนรับแรงกดดันและแรงปะทะจากทุกฝ่ายแบบเต็มๆ”
       
       อรรคพล สรสุชาติ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)ระบุกับผู้จัดการรายสัปดาห์ และกล่าวว่าหากจะมองไปถึงสาเหตุที่จะทำให้อาการถอดใจเป็นผลถึงขั้นทำให้พล.อ.สุรยุทธ์ตัดสินใจลาออกได้นั้น ก็จะมาจากการที่บรรดารัฐมนตรีต่างๆยังคงลอยตัวอยู่เหนือปัญหาที่ควรเร่งแก้ไข พล.อ.สุรยุทธ์ในฐานะผู้นำก็จะอยู่สภาวะที่อึดอัด แบกรับปัญหาทุกอย่างอยู่เพียงผู้เดียวและนำไปสู่การถอดใจสละเก้าอี้ในที่สุด
       
       แนะล้างไพ่ขจัดเกียร์ว่าง
       
       นอกจากนี้ เมื่อมองไปถึงจุดอ่อนอีกประการที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ การทำงานที่ไม่เกิดประสิทธิภาพดังที่ควรจะเป็น รัฐบาลยังไม่มีผลงานใดที่เป็นรูปธรรมและเมื่อดูตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นมาการบริหารงานทุกอย่างก็หยุดนิ่ง โดยเฉพาะภายหลังการผ่านพ.ร.บ.งบประมาณปี 50ก็ยังไม่มีอะไรที่ดีขึ้นทั้งที่ความจริงรัฐบาลสามารถที่จะทำอะไรได้มากกว่านี้
       
       ประกอบกับการที่ภายหลังกฎหมายที่ออกมาจากรัฐบาลบางฉบับถูกคว่ำในสภาฯ ก็ไม่มีการผลักดันต่อหรือออกมาแก้ไข รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ก็ยังวางเฉยทั้งที่ความจริงจะต้องรู้สึกเดือดร้อนและเร่งเข้ามาแก้ไขอย่าง
       
       “ถึงแม้ว่าวันนี้จะมีคนมาบอกว่า รัฐมนตรีบางท่านเป็นที่รู้จัก ตัวอย่างเช่น คุณหญิงไขศรี แต่ก็ต้องถามกลับว่ารู้จักกันในด้านใด ระหว่างการเป็นข่าวมากหรือจากการทำงานซึ่งการเป็นที่รู้จักนั้นไม่ได้ชี้ให้เห็นถึงคุณภาพในการทำงานอย่างแท้จริงได้
       
       อรรคพล วิเคราะห์ต่อว่าหากยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงแบบถึงขั้น “ล้างไพ่” ครม.ชุดนี้จะอยู่ได้อย่างนานไม่เกิน 3เดือน
       
       สนช.สายทหารเชื่อ “สุรยุทธ์”เดินตามเป้าหมาย
       
       อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวจากคณะกรรมการประสานงานระหว่างสมาชิกสภานิติบัญญัติและรัฐบาล (วิปรัฐบาล)ระบุกับผู้จัดการรายสัปดาห์ ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลานี้ว่า บรรดาสนช.ทั้งหมดก็มีอันแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันเป็น 2 กลุ่มโดยกลุ่มที่หนึ่งซึ่งมีความใกล้ชิดพล.อ.สุรยุทธ์ นั้นยืนยันอย่างหนักแน่นมาตลอดว่าพล.อ.สุรยุทธ์จะไม่ถอดใจลาออก เนื่องจากพล.อ.สุรยุทธ์ ได้ปักธงไว้เรียบร้อย ด้วยการประกาศขีดเส้นวันเลือกตั้งไว้อย่างแน่นอนภายในสิ้นปีนี้ และหากนำภาพการกล่าวถ้อยแถลงเมื่อครั้งที่เดินทางไปเยือนประเทศญี่ปุ่นที่ผ่านมา ที่เปิดฉากวิพากษ์อดีตนายกฯทักษิณ อย่างดุเดือดด้วยแล้ว ยิ่งทำให้สนช.สายทหาร มั่นใจว่าจะไม่มีการถอดใจตามมาอย่างแน่นอน
       
       เมื่อสอดส่ายสายตาไปอีกกลุ่มหนึ่งของสนช.ที่มีเป้าหมายหลักอยู่ที่การต่อต้านพ.ต.ท.ทักษิณชนิดสุดลิ่มนั้นก็มองว่า ประเด็นการลาออกของพล.อ.สุรยุทธ์จะจริงหรือไม่นั้น ไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่ได้มีการมองข้ามช็อตไปแล้ว โดยมองไปว่าเวลานี้นายกฯไม่ควรที่จะทำหน้าที่บริหารราชการต่อไปเนื่องจากจะยิ่งทำให้เกิดปัญหาและเสียเวลามากขึ้น
       
       นาทีนี้ การตั้งคำถามถึงการหาผู้นำคนใหม่มาทำหน้าที่แทนพล.อ.สุรยุทธ์นั้นสำคัญกว่า ซึ่งชื่อของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ก็เป็นชื่อร้อนที่ถูกยกขึ้นมาพูดถึงกันอย่างหนาหู แล้วก็ยังมีชื่อของ “ผู้ดีรัตนโกสินทร์” อดีตนายกรัฐมนตรี 2 สมัยอย่าง อานันท์ ปันยารชุน ติดโผเข้ามาด้วยเช่นกัน
       
       แนะดึง “อานันท์” นั่งเก้าอี้นายกฯคนใหม่
       
        อัษฏา ชัยนาม อดีตเอกอัครราชทูตประจำองค์การสหประชาชาติ มองว่า หากมีการเปลี่ยนตัวนายกฯคนใหม่ ในขณะนี้จะเป็นการสร้างผลกระทบด้านความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนต่างชาติแต่เชื่อว่า ชาวต่างชาติจะเข้าใจความเป็นไปของสังคมไทย ซึ่งสิ่งที่นักลงทุนสนใจก็คือไม่จำเป็นว่าผู้นำจะเป็นใครแต่สำคัญที่ความมีเสถียรภาพนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
       
       “ ธรรมชาติของนักธุรกิจไม่ชอบความเปลี่ยนแปลง ว่าใครจะเป็นนายกนั้นไม่สำคัญแต่ว่า ความมีเสถียรภาพนั้นสำคัญที่สุด ซึ่งหากมองจริงๆแล้วนั้นก็ยังเชื่อว่าพล.อ.สุรยุทธ์จะยังคงไม่ลาออกในขณะนี้”
       
       ทั้งนี้ การหาตัวตายตัวแทนของพล.อ.สุรยุทธ์ นั้น อัษฎา วิเคราะห์ต่อว่า รายชื่อที่ตกอยู่วงสนทนาในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หรือ อานันท์ ปันยารชุน ล้วนแล้วแต่มีความเป็นไปได้ทั้งสิ้น ซึ่งหากเป็นพล.อ.สนธิรับตำแหน่งนายกฯคนต่อไปก็จะช่วยให้การทำงานเด็ดขาด รวดเร็วมากยิ่งขึ้นเพราะปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นส่วนหนึ่งเกิดมาจากความเกรงใจกันระหว่างพล.อ.สุรยุทธ์และพล.อ.สนธิ แต่ปัญหาใหญ่ก็คือการยอมรับจากสังคม ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการซ้ำรอยของเหตุการณ์พฤษภาทมิฬในปี 35 ก็มีความเป็นไปได้สูง
       
       แต่ในทางกลับกันหากเป็นชื่อของ อานันท์ แล้วอาจทำให้ภาพสะท้อนที่เกิดขึ้นดีกว่าพล.อ.สนธิ เนื่องจากต้นทุนทางสังคมของอานันท์ นั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าพล.อ.สุรยุทธ์ ไม่ว่าจะเคยเป็น “อดีตนายกรัฐมนตรี” และได้รับความไว้วางใจมาแล้ว รวมทั้งในแง่การบริหารนั้นน่าจะมีความเด็ดขาดและรวดเร็วมากกว่าพล.อ.สุรยุทธ์ ด้วยซ้ำ
       
       อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าชื่อของอานันท์ กับการรับบท “ว่าที่นายกฯคนใหม่”นั้นได้เคยปรากฏขึ้นมาแล้ว และยิ่งถูกตอกย้ำมากขึ้นเมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมานั้น โดยอานันท์ ได้เดินทางเข้าพบกับพล.อ.สุรยุทธ์ ที่ทำเนียบรัฐบาลถึงแม้ในการเข้าหารือกันในวันนั้นจะไม่มีการเปิดเผยออกมาอย่างเป็นทางการก็ตาม แต่กระแสที่เกิดขึ้นคือข่าวลือว่าอานันท์ กำลังจะกลายเป็นแคนดิเดท ว่าที่นายกฯคนใหม่ หากพล.อ.สุรยุทธ์ ถอดใจ...!
       
       ทั้งนี้ มีรายงานจากแหล่งข่าวระดับสูงในคมช.แจ้งว่าแนวคิดที่จะเสนอให้มีการดึงอานันท์ ปันยารชุน เข้ามารับตำแหน่งนายกฯคนใหม่แทนพล.อ.สุรยุทธ์ นั้น เนื่องจากประธานคมช.มองว่าการบริหารงานของรัฐบาลที่ผ่านมาไม่สามารถตอบสนองเหตุผลในการทำรัฐประหารทั้ง 4 ข้อได้แล้ว ยังปรากฏว่าตัวนายกฯกลับมีท่าทีนิ่งเฉย ไม่ให้ความร่วมมือในการจัดการกับอำนาจเก่าอย่างจริงจัง ทั้งที่หากในวันข้างหน้าเมื่อพ.ต.ท.ทักษิณ สามารถกลับคืนสู่อำนาจได้แล้วคนที่จะลำบากและมีแนวโน้มถูกเช็คบิลคืนคือนายทหารที่ยังอยู่ในกองทัพ รวมทั้งตัวพล.อ.สนธิ นั่นเอง ดังนั้นมีรายงานว่าพล.อ.สนธิ ได้เข้าพบกับพล.อ.เปรม เพื่อขอที่จะดึงอานันท์ เข้ามาทำหน้าที่นายกฯคนใหม่
       
       ณ วันนี้ ก็ยังไม่มีใครที่จะสามารถให้คำตอบได้ว่า พล.อ.สุรยุทธ์จะลาออกจากการเป็นนายกฯหรือไม่ แต่ความจริงที่ดำรงอยู่ในขณะนี้ก็คือพล.อ.สุรยุทธ์ยังคงเป็นนายกฯและสิ่งที่สามารถทำได้ดีที่สุดคือการปรับเปลี่ยนท่าทีในการปฎิบัติงานในรวดเร็วและเอาจริงเอาจังมากยิ่งขึ้นซึ่งหากยังไม่เป็นเช่นนั้น และผลที่ออกมายังไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น เมื่อนั้นการพิจารณาตนเองเพื่อเปิดทางให้คนที่ยังมีไฟและมีความเด็ดขาดมารับไม้ต่อก็จะเป็นการดีที่สุด...

http://manager.co.th/mgrWeekly/ViewNews.aspx?NewsID=9500000042164
บันทึกการเข้า

有缘千里来相会,无缘对面不相逢。
หน้าเหลี่ยมด้าน ณ ประชาไท
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 219


กูขอสู้พวกมึง ถึงเวลา กูจะออกไป แน่นอนขอให้เรียก


« ตอบ #16 เมื่อ: 13-04-2007, 11:49 »

ดูโพลให้ดีๆ เราชนะนะครับพี่น้องทุกท่าน
1 คนในระบบ ทักษิณ เหลือแต่หัวหน้าโจรตัวเดียว
2 คนในกลุ่มต่อต้านทักษิณติดโผหมดทุกคน ....รวมคะแนนแล้วแซง ระบบทักษิณขาดลอย
3 มันไม่แปลกหรอกครับ ในเสรีไทยทุกคนไม่เอาทักษิณ แต่อาจชอบ คุณสรยุทธ์ เป็นการส่วนตัว ชอบสนธิ ส่วนตัว ชอบท่านเปรมส่วนตัว แต่รววมแล้วพวกเราก็คือ "ระบอบที่เกิดขึ้นเพื่อทำลายระบอบทักษิณ"
*******************เราชนะแล้วครับ คนฝั่งพวกเราอยู่ในความชอบของคนส่วนใหญ่เราชนะแล้วครับ ยินดีด้วย ****************
บันทึกการเข้า

ผมไม่ใช่แฟน ประชาธิปัตย์ 
ไม่ใช่แฟน พลังประชาชน

แต่


สนับสนุน การกวาดล้างไอ้พวก นักการเมือง ชั่วๆ แบบเดิม

ไอ้เสนาะ ไอ้เตี้ยหมาตื่น ไอ้หนั่น ไอ้พวก***นี้ไม่ต้องไปเรียก ป๋านำหน้าหรอก



ScaRECroW
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,000


สุสูสัง ลภเต ปัญญัง - ผู้ฟังดี ย่อมเกิดปัญญา


เว็บไซต์
« ตอบ #17 เมื่อ: 13-04-2007, 13:12 »

คิดถึง ไม่เอาทักษิณแล้วจะเอาใคร จริงๆ

คุ้นมากครับ 


ผมไม่เอาทักษิณ เหตุผลคือเป็นผู้ชาย ถ้าเป็น ใหม่ ผมเอาครับ
บันทึกการเข้า

Politic is nothing but the continuation of [the sin of] 7 by other means.

ท่านคิดว่า นรม. ควรทำอย่างไรเมื่อพบว่ากฏหมายบางฉบับมีช่องโหว่?
ก.ใช้อำนาจ นรม.ที่ได้รับมาจากประชาชนแก้กฏหมายเพื่อปิดช่องโหว่เหล่านั้น เพราะเป็นประโยชน์ของแผ่นดิน
ข.ฉวยโอกาสใช้ช่องโหว่เหล่านั้นเพื่อประโยชน์ของตนเองและคนรอบข้าง แล้วก็อ้างว่าคนอื่นเขาก็ทำกัน
Tam-mic-ra
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 603


« ตอบ #18 เมื่อ: 13-04-2007, 14:53 »

อย่าไปเอาคนเก่งๆใน รบ คุณทักษิณมาใช้งานอีกนะ

มันทุเรศมากๆๆๆครับ ยึดอำนาจเขาเป็น   
แต่ทำให้ดีกว่าเขาไม่เป็น 
แป๊ะลิ้มนักใส่ร้าย(นักล้มละลาย เบี้ยวหนี้ด้วย) และไอ้โม่งนี่เอง
สาเหตุของซากปรักหักพังย่อยยับ ของสยามประเทศในขณะนี้ และอนาคต
บันทึกการเข้า
bgn
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 87


« ตอบ #19 เมื่อ: 14-04-2007, 09:24 »

ผลงานชิ้นโบแดงล่าสุดของเหล่าฤาษี
http://www.kaohoon.com/pg.newspaper/general_detail.aspx?cid=1465
คลังเล่นบทโหดหารายได้- เก็บภาษีวัด-โรงเรียน-มูลนิธิ อัตรา 0.5%
สศค.ดันร่างกฎหมายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเข้าครม.เดือนนี้ รีดดะวัด โรงเรียน มูลนิธิ สูงสุด 0.5% ไม่มียกเว้น ส่วนที่อยู่อาศัยเก็บ 0.1% เกษตรเก็บ 0.05% บีบนายทุนคลายที่ดินคืนรัฐถ้าไม่ใช้ประโยชน์เจอภาษี  2 เท่าทุก 3 ปี ขณะที่เตรียมออกภาษีสิ่งแวดล้อมขูดเลือดคนก่อมูลพิษทางน้ำ อากาศ และขยะ ตามโครงสร้างภาษีใหม่

ดร.สมชัย สัจจพงษ์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. เปิดเผยว่าเตรียมจะเสนอร่างพรบ.ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่จะถูกนำออกมาบังคับใช้แทนการจัดเก็บภาษีโรงเรือนและที่ดิน  พ.ศ.2475 และพระราชบัญญัติภาษีบำรุงท้องที่ พ.ศ.2508 ให้นายฉลองภพ  สุสังกร์กาญจน์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพิจารณาภายในเร็วๆนี้ ซึ่งอัตราการจัดเก็บจะมีด้วยกันหลายอัตราตามประเภทของการใช้ประโยชน์ในที่ดิน

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง   เปิดเผยว่าสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) กล่าวว่าตามร่างพรบ.ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ได้กำหนดอัตราการจัดเก็บภาษีสูงสุดไว้ 3 อัตราเพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ประกอบด้วย 1.อัตราเพดานภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ 0.1% จัดเก็บสำหรับที่ดินประเภทที่อยู่อาศัย อาทิ บ้านพักอาศัยทั่วไป

2. อัตราเพดานภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ 0.05% จัดเก็บสำหรับที่ดินเกษตรกรรมทั่วไป  และ 3.อัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเพดานที่ 0.5% ที่นอกเหนือจาก 2 ข้อแรก อาทิ ที่ดินเชิงพาณิชย์ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม โรงแรม คอนโดมิเนียม หอพัก รวมทั้งวัด

โรงเรียน และมูลนิธิ เป็นต้น ต้องเสียภาษีในอัตรานี้

"ตอนนี้กฎหมายยังไม่ได้ยกเว้นภาษีให้แก่วัด โรงเรียน และมูลนิธิ เนื่องจากกำหนดไว้ชัดเจน เฉพาะที่อยู่อาศัย และที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเท่านั้น ดังนั้นหากไม่มีการออกประกาศเพื่อยกเว้นก็จะต้องเสียภาษีในอัตรา 0.5%"แหล่งข่าว กล่าว

ทั้งนี้คาดว่าจะเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีได้ภายในเดือนเมษายนนี้ เพื่อให้เข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ให้ทันในสมัยรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งหากปล่อยเลยไปถึงรัฐบาลใหม่กฎหมายดังกล่าวอาจมีปัญหาถูกต่อต้านจากสมาชิกสภาฯได้ เนื่องจากมีข้อกฎหมายบางข้อที่กระทบต่อการครอบครองที่ดินที่ไม่ใช้ประโยชน์

แหล่งข่าว  กล่าวว่า สำหรับผู้ที่มีที่ดินเก็บไว้แต่ไม่ยอมนำไปใช้ประโยชน์นั้นจะถูกจัดเก็บในอัตราเดียวกับภาษีที่อยู่อาศัย แต่จะถูกเพิ่มอัตราการจัดเก็บอีก 1 เท่าตัวในทุกๆ 3 ปี

หากยังไม่ยอมนำที่ดินไปใช้ประโยชน์   ซึ่งคาดว่ากระทรวงการคลังจะสามารถผลักดันให้กฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้ให้ได้ภายในรัฐบาลชุดปัจจุบัน   และประกาศใช้ได้ภายในต้นปีหน้า ซึ่งจะส่งผลให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีรายได้เพิ่มขึ้นมาอีกปีละไม่ต่ำกว่า 6 หมื่นล้านบาท

อย่างไรก็ตามสศค.ไม่เห็นด้วยที่จะปรับลดภาษีธุรกิจเฉพาะให้แก่ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์  จากอัตรา  3.3% เหลือ 0.11% ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ของกรมภาษี ที่ปัจจุบันมีแนวโน้มต่ำอยู่แล้ว

นอกจากนี้กระทรวงการคลังยังอยู่ระหว่างการร่างพรบ.ภาษีสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะให้อปท.เป็นผู้จัดเก็บ คล้ายกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่อปท.เก็บเช่นกันไม่ใช่รัฐบาลกลาง โดยจะแบ่งจัดเก็บจากผู้ก่อมลพิษ  อาทิ  น้ำเสีย อากาศเสีย และขยะ โดยในส่วนของผู้ก่อมลพิษทางอากาศ ได้แก่ โรงงานอุตสาหกรรม ผู้ใช้รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ เป็นต้น กลุ่มผู้สร้างมลพิษทางน้ำ ได้แก่ โรงงานอุตสาหกรรม บ้านพักอาศัย และร้านค้า

แหล่งข่าว กล่าวเพิ่มเติมว่าสศค.ยังเตรียมที่จะเสนอโครงสร้างภาษีใหม่ทั้งระบบ ให้รัฐมนตรีคลังพิจารณาภายในเดือนหน้า  อาทิ  ภาษีนิติบุคคล  ภาษีบุคคลธรรมดา  ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีสรรพสามิต โดยในส่วนของภาษีนิติบุคคลมีแนวโน้มที่จะปรับลดลงจากปัจจุบันจัดเก็บที่อัตรา 30% ส่วนภาษีมูลค่าเพิ่มมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่เก็บ 7% นอกจากนี้ยังมีภาษีตัวใหม่ อาทิ ภาษีสิ่งแวดล้อม และภาษีสรรพสามิตตัวใหม่บางตัวที่จะมาชดเชยรายได้ที่ขาดหายไปของกรมศุลกากร จากการเปิดเขตการค้าเสรีกับหลายประเทศ

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ก่อนหน้านี้ก็ ม. ออกนอกระบบ เอย, พืช GMO เอย, ฯลฯ

ผมชักลังเลแล้วตอนนี้ พวกขิงเน่าทั้งหลายเข้ามาทำอะไรกันแน่ รู้สึกจะมาสานฝันที่ตัวเองทำไม่ได้ตอนเป็นข้าราชการมากกว่า

บันทึกการเข้า
หน้าเหลี่ยมด้าน ณ ประชาไท
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 219


กูขอสู้พวกมึง ถึงเวลา กูจะออกไป แน่นอนขอให้เรียก


« ตอบ #20 เมื่อ: 14-04-2007, 11:51 »

คนดีและเก่งเด็ดขาด ยังมีในแผ่นดินแน่นอน ............
ทักษิณก็ใช่จะเก๋ง นโยบายหลายอย่างออกมาจาก หัวคุณ"สมคิด"  และทักษิณกลับนำนโยบายไปใช้"เพื่อมุ่งหวังทางการเมือง" ---มันเลย"เละ"
ไม่ต้องห่วง.....ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไม่นิ่งนอนใจอยู่แล้วครับ
บันทึกการเข้า

ผมไม่ใช่แฟน ประชาธิปัตย์ 
ไม่ใช่แฟน พลังประชาชน

แต่


สนับสนุน การกวาดล้างไอ้พวก นักการเมือง ชั่วๆ แบบเดิม

ไอ้เสนาะ ไอ้เตี้ยหมาตื่น ไอ้หนั่น ไอ้พวก***นี้ไม่ต้องไปเรียก ป๋านำหน้าหรอก



ชัย คุรุ เทวา โอม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,846


สมัครรักแมว แต่ผมรัก Cat


« ตอบ #21 เมื่อ: 14-04-2007, 11:57 »

ทนมาเกือบ6ปี ทนแค่ปีเดียวผมทนได้ครับ
บันทึกการเข้า

"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..."

คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน

(How the Steel Was Tempered)

นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933


*******************************

เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ
http://www.oknation.net/blog/amalit1990
kman
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 102


« ตอบ #22 เมื่อ: 14-04-2007, 12:24 »

ทนมาเกือบ6ปี ทนแค่ปีเดียวผมทนได้ครับ
ที่อ้างว่าทนมา 6 ปี นั่นทนเรื่องไหนครับ หรือว่าเป็นสส ปชป สอบตก????

คุณ Augustman   ครับ ผมว่า ถ้าจะเอาคนใหม่ตอนนี้อาจต้องถามว่าจะต้องให้คนที่เลือกสุรยุทธรับผิดชอบไหมครับ
คนที่ คนเกือบยี่สิบล้านเลือกมา มันยังกล่าวหาว่าเลวร้าย แล้วนี่คนๆเดียวเลือกสุรยุทธมา มันควรจะรับผิดชอบไหม
ใจจริงผมอยากให้ ทำประชามติ ของคนทั้งชาติเลยแบบไม่จำกัดอายุเลยดีไหม ว่าเห็นด้วยกับการยึดอำนาจหรือไม่
เพราะมันทำได้พร้อมกับ การลงประชามติรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว อีกอย่างฝ่ายที่เกลียดทักษิณน่าจะมีมากขึ้น
เพราะพวกเด็กๆโดนผลกระทบจากมาตรการควบคุมเกมส์ออนไลน์ และร้านอินเตอร์เน็ต ซึ่งน่าจะมีวัยรุ่นและเด็กเป็นจำนวนมากที่ไม่ชอบ
บันทึกการเข้า
ชัย คุรุ เทวา โอม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,846


สมัครรักแมว แต่ผมรัก Cat


« ตอบ #23 เมื่อ: 14-04-2007, 16:11 »

ทนมาเกือบ6ปี ทนแค่ปีเดียวผมทนได้ครับ
ที่อ้างว่าทนมา 6 ปี นั่นทนเรื่องไหนครับ หรือว่าเป็นสส ปชป สอบตก????

คุณ Augustman   ครับ ผมว่า ถ้าจะเอาคนใหม่ตอนนี้อาจต้องถามว่าจะต้องให้คนที่เลือกสุรยุทธรับผิดชอบไหมครับ
คนที่ คนเกือบยี่สิบล้านเลือกมา มันยังกล่าวหาว่าเลวร้าย แล้วนี่คนๆเดียวเลือกสุรยุทธมา มันควรจะรับผิดชอบไหม
ใจจริงผมอยากให้ ทำประชามติ ของคนทั้งชาติเลยแบบไม่จำกัดอายุเลยดีไหม ว่าเห็นด้วยกับการยึดอำนาจหรือไม่
เพราะมันทำได้พร้อมกับ การลงประชามติรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว อีกอย่างฝ่ายที่เกลียดทักษิณน่าจะมีมากขึ้น
เพราะพวกเด็กๆโดนผลกระทบจากมาตรการควบคุมเกมส์ออนไลน์ และร้านอินเตอร์เน็ต ซึ่งน่าจะมีวัยรุ่นและเด็กเป็นจำนวนมากที่ไม่ชอบ
ทนอะไรมาเกือบ6ปีนะเหรอครับ
ทนพระเจ้าทักษิณของคุณไง
ที่โกงกินมาซะเกือบ6ปี ดีนะสนธิทั้งสองออกมาซะก่อน
แล้วเด็กๆ เรื่องควบคุมเกมร์ออนไล ถามจริงเถอะ
ใช้สมองส่วนไหนคิดครับ
คนเกลียดเหลี่ยมนะกลุ่มไหนกันบ้างครับ
อย่าเอาแต่สมองตัวเองคิด ตามืดบอด
คิดว่าไอ้16ล้านเสียงอะไรนั่นเป็นเสียงบริสุทธิ์
ถ้าไม่มีกองทุนหนี้เน่า จะมีใครเลือก
ถาไม่แจกเงินจะมีใครเลือก
ถ้าไม่ให้แต่ความหวังจะมีใครเลือก
บันทึกการเข้า

"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..."

คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน

(How the Steel Was Tempered)

นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933


*******************************

เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ
http://www.oknation.net/blog/amalit1990
นู๋เจ๋ง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,877



« ตอบ #24 เมื่อ: 14-04-2007, 16:18 »

รู้แต่ว่า คนนั้นไม่ใช่ชื่อสนธิ แน่ๆ 
บันทึกการเข้า

~จะแน่วแน่...แก้ไข...ในสิ่งผิด~
aiwen^mei
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,732



« ตอบ #25 เมื่อ: 15-04-2007, 13:20 »

• หลังได้ฟังแนวทางของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ที่บอกว่า คำเปรียบเทียบเรื่อง พระกับโจรอยู่ด้วยกันไม่ได้ ถือว่าไม่ถูกต้องในหลักพุทธศาสนา เพราะหลักพุทธศาสนาคือ พระจะเป็นผู้ที่อภัยให้โจร พยายามพูดให้โจรกลับใจ นั่นเป็นสิ่งที่สอนอย่างดีว่า พระพุทธเจ้า สอนให้เราเป็นคนมีเมตตากรุณา คนที่นับถือศาสนาพุทธควรนำไปใช้ในการดำเนินชีวิตและแก้ไขปัญหา!!!

• คำพูดเหล่านี้ ทำให้ “เห่าไฟ” เข้าใจในตัวตนของ พล.อ.สุรยุทธ์ มากขึ้น และมองเห็นหนทางแก้ไข ความแตกแยก ให้กับชาติบ้านเมืองได้ชัดเจนขึ้น ที่ผ่านมา คนไทยใจร้อนเกินไป ที่อยากเห็นรัฐบาลแก้ปัญหาให้ได้ไวๆ ทั้งที่ วิกฤตการณ์ เป็นเรื่องใหญ่ ต้องใช้ เวลา และ วิธีการ ที่เหมาะสมเข้ามาแก้ไขจึงสำเร็จ หากผิดพลาดเพียงนิดเดียว แผ่นดินก็จะลุกเป็นไฟทันที!!!

• แต่จากคำพูดของ พล.อ.สุรยุทธ์ ทำให้ “เห่าไฟ” มีความหวังที่จะเห็นการ ผนึกหัวใจคนไทย ให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้แล้ว โดยจะต้องรู้จัก ให้อภัยซึ่งกันและกัน เลิกแบ่งเขาแบ่งเราแล้วมาเริ่มต้นกันใหม่ เพราะสถานการณ์เผชิญหน้าของทั้ง สองฝ่ายที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลานาน ได้พิสูจน์แล้วว่า ขืนดึงดันกัน ต่อไป ก็จะไม่มีใครแพ้ไม่มีใครชนะ มีแต่ ความหายนะ ของชาติบ้านเมืองเท่านั้น!!!

• ฉะนั้น วิธีที่ดีที่สุดก็คือ หันหน้ามาเจรจา เพื่อบรรลุข้อตกลงในการอยู่ร่วมกันอย่าง สงบสุขตาม กฎกติกา ของบ้านเมือง “เห่าไฟ” จึงเห็นด้วยกับ พล.อ.สุรยุทธ์ ที่พูดคุยกับ อดีตนายกฯทักษิณ เพื่อร่วมกันสร้าง สมานฉันท์ ให้เกิดขึ้นบนผืนแผ่นดินไทย!!!

• แม้ฝ่ายตรงข้ามกับ อดีตนายกฯทักษิณ จะกล่าวหาว่า เป็นข้อตกลงลับระหว่าง พล.อ.สุรยุทธ์ กับ อดีตนายกฯทักษิณ แต่ “เห่าไฟ” กลับไม่คิดเช่นนั้น เพราะภารกิจของ พล.อ.สุรยุทธ์ ไม่ใช่แค่การเข้ามาเป็น หัวโจก ของคนฝ่ายหนึ่งทะเลาะกับคนอีกฝ่ายหนึ่ง พล.อ.สุรยุทธ์ ไม่ใช่คนที่มีความคิดตื้นเขินเช่นนั้นแน่ แต่เข้าใจดีว่า ภารกิจที่แท้จริง ก็คือ การสร้าง ความสมานฉันท์ ให้ เกิดขึ้นเพื่อนำพา สังคมส่วนรวม ไปสู่ความสุขสงบต่างหาก!!!

• ที่ผ่านมา แม้สังคมจะไม่พอใจผลงานของ รัฐบาลสุรยุทธ์ โดยพยายามนำไปเปรียบเทียบกับ ผลงานของรัฐบาลทักษิณ ทำให้เกิดแรงกดดันมากขึ้น แต่แท้จริงแล้ว ต้องดูด้วยว่า สถานการณ์ขณะบริหารงานของรัฐบาลทั้งสองนั้นแตกต่างกันหรือไม่ รัฐบาลทักษิณ สามารถผลิตผลงานพรวดๆออกมาได้ ก็เฉพาะช่วงที่ บ้านเมืองสงบ เท่านั้น แต่ช่วงที่บ้านเมืองเต็มไปด้วยความขัดแย้งในปี 49 รัฐบาลทักษิณที่ว่าเก่งๆ ก็ทำงานไม่ออกเช่นกัน!!!

• แล้วนับประสาอะไรกับ รัฐบาลสุรยุทธ์ ที่ต้องบริหารงานท่ามกลางความขัดแย้งรุนแรง “เห่าไฟ” ยังถือว่า รัฐบาลชุดนี้ ทำได้ดีด้วยซ้ำไป เพราะ ไม่ดื้อรั้น และไม่นิ่งนอนใจต่อ กระแสวิพากษ์วิจารณ์ของสังคม ยกตัวอย่าง ถูกวิจารณ์เรื่องความล่าช้า ในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ก็รีบกุลีกุจอตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจส่วนรวม โดยมอบให้ โฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกฯ และ รมว.อุตสาหกรรม เป็นหัวหน้าทีม!!!

• จนถึงวันนี้ ทีมเศรษฐกิจของ รองนายกฯโฆสิต ได้ออกมาตรการเร่งด่วนมาแล้ว หลายเรื่องเพื่อพยุงเศรษฐกิจ แต่จะให้ดีกว่านี้ คงทำลำบาก ถ้าตราบใด ปัญหาการเมืองเฮงซวย ยังฉุดกระชากลากถูเศรษฐกิจให้อับเฉาอยู่เช่นนี้ โดยเฉพาะหลังผ่านเทศกาลสงกรานต์ไปแล้ว จะยิ่งสาหัสสากรรจ์ เพราะ บรรดาม็อบ จะถูกปลุกระดมให้ออกมาป่วนเมืองหนักมือขึ้น!!!

• จริงๆแล้ว การทำงานของ รัฐบาลสุรยุทธ์ มีเหตุผลที่สามารถอธิบายได้อย่างมีน้ำหนักน่า รับฟัง แต่น่าเสียดายที่ ไม่สื่อสาร ให้ถูกที่ถูกทาง กลับไปตั้ง วอร์รูม ผสมโรงทะเลาะ เบาะแว้งสร้างความแตกแยกในบ้านเมืองให้มากยิ่งขึ้น โชคดีที่ นายกฯสุรยุทธ์ ไม่หลงทางไปกับเขาด้วย ไม่งั้น ป่านนี้ รัฐบาลคงล้มทั้งยืนไปตั้งนานแล้ว!!!

• ส่วน คมช. ที่กำลังเดือดเนื้อร้อนใจอยู่ในขณะนี้ “เห่าไฟ” แว่วข่าวว่า ถึงขั้นไปทาบทาม นายกฯคนใหม่ เอาไว้แล้ว ไม่รู้จริงหรือเท็จ ถ้าเท็จก็แล้วไป แต่ถ้าจริง ก็ขอให้คิดให้ดี เพราะ ต้นตอของปัญหา ไม่ได้อยู่ที่ตัวนายกฯ และไม่ได้อยู่ที่การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว เพราะทุกอย่างถูกโยงเข้าหา ความวุ่นวายทางการเมือง เป็นหลัก!!!

• “เห่าไฟ” เชื่อว่า ต่อให้ได้ คนที่เก่งเศรษฐกิจมาเป็นนายกฯ ก็แก้ไขปัญหาไม่ได้ เพราะความขัดแย้งในบ้านเมืองยังเป็น อุปสรรคสำคัญ ที่ทำให้ความเชื่อมั่นไม่เกิดขึ้น เมื่อไม่มีความเชื่อมั่นก็ไม่มีการลงทุน และไม่มีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น ระบบเศรษฐกิจก็จะ สะดุดหยุดชะงัก ตลอดไป!!!

• ข้อสำคัญ แม้ คมช. อยากจะให้รัฐบาลอัดฉีดเม็ดเงินลงไปที่ รากหญ้า ให้เหมือนที่ รัฐบาลทักษิณ เคยทำไว้ หรืออัดฉีดให้มากกว่าอีกเป็นสิบเท่า ก็จะไร้ผลอยู่ดี เพราะเงินอาจไร้ค่าอย่างรุนแรง หากภาคการลงทุนหรือภาคการผลิตยังไม่เชื่อมั่น ต่อเสถียรภาพทางการเมือง ก็จะไม่กล้าลงทุน ไม่กล้าผลิตเช่นเดิม ส่งผลให้ เม็ดเงิน ที่อยู่ในมือรากหญ้าล้นระบบ จนเกิดวิกฤติอีกรูปแบบหนึ่งขึ้นมา!!!

• สิ่งเหล่านี้ คือ ความเป็นจริง ในการบริหารราชการแผ่นดิน โชคดีที่ พล.อ.สุรยุทธ์ คิดหนทางที่ดีที่สุดในการแก้ไขวิกฤติขึ้นมาได้ และวิธีนี้ก็อยู่ใน ตำนานเล่าขานทาง พุทธศาสนา นั่นเอง แต่ทุกคนกลับถูก กิเลส ครอบงำจนมองข้ามไป สุดท้าย แนวทางของ พระพุทธเจ้าเท่านั้นที่จะช่วย แก้วิกฤติ ให้ชาติบ้านเมืองได้ แต่หากยังใช้ไม่ได้ผล อยู่อีก ก็ถึงเวลาเลือดต้องนองแผ่นดินกันแล้ว!!!


http://thairath.co.th/society.php?content=43627
บันทึกการเข้า

有缘千里来相会,无缘对面不相逢。
หน้าเหลี่ยมด้าน ณ ประชาไท
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 219


กูขอสู้พวกมึง ถึงเวลา กูจะออกไป แน่นอนขอให้เรียก


« ตอบ #26 เมื่อ: 15-04-2007, 18:24 »

ไอ้คนเก่ง ก็เก่งจนหน้ามืดตามัว
ไอ้คนดี ก็ดีอย่างเดียว
เฮ้อ........
บันทึกการเข้า

ผมไม่ใช่แฟน ประชาธิปัตย์ 
ไม่ใช่แฟน พลังประชาชน

แต่


สนับสนุน การกวาดล้างไอ้พวก นักการเมือง ชั่วๆ แบบเดิม

ไอ้เสนาะ ไอ้เตี้ยหมาตื่น ไอ้หนั่น ไอ้พวก***นี้ไม่ต้องไปเรียก ป๋านำหน้าหรอก



ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #27 เมื่อ: 17-04-2007, 21:36 »

คมช.สั่งคนทาบ'องค์จตุคามฯ' เผื่อสุรยุทธ์ถอดใจ
 
โดย   ผู้จัดกวน 17 เมษายน 2550 08:55 น.

 http://img145.imageshack.us/my.php?image=550000004829301wl8.jpg]
 
   บก.ทบ. - พล.อ.สนธิ สั่งคนทาบทามองค์ท่านจตุคามรามเทพ เชิญมานั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เผื่อท่านสุรยุทธ์ ถอดใจกลางเวหากลับไปเลี้ยงหลานที่บ้าน เพราะเห็นอาการของท่านหลายๆ อย่างแล้ว มีความหวั่นวิตก ยิ่งมาป่วยถึงขั้นต้องเข้าโรงหมอ นอกจากองค์ท่านจตุคามแล้วไม่รู้จะไปพึ่งใคร เนื่องจากเป็นที่เคารพและศรัทธาของหมู่มวลประชา คาดว่าถ้าท่านตกลง ประเทศชาติเราอาจจะอยู่รอด ไม่แตกแยก เนื่องจากมีสิ่งที่ยึดเหนี่ยวทางใจเป็นที่มั่น
       
       หลังจากที่ท่านนายกรัฐมนตรีสุรยุทธ์ ป่วยออดๆ แอดๆ ต้องเข้าโรงหมอ ตรวจเช็กร่างกาย ทำเอาทางคณะ คมช.ปั่นป่วนกระวนกระวาย จึงได้เรียกประชุมกันอย่างเร่งด่วนครบองค์ประชุม ทั้ง พล.อ.สรั่ง หรือใครต่อใคร มองหน้ากันเลิ่กลั่ก ต่างวิตกกังวลในเรื่องเดียวกัน คือเกรงว่าท่าน พล.อ.สุรยุทธ์จะด่วนลาออกจากตำแหน่งเสียก่อน คงต้องคลานต้วมเตี้ยมไม่ไปถึงเส้นชัย
       
        ครั้นเดินทางกลับจากการเซ็นสัญญาเอฟทีเอที่ประเทศญี่ปุ่น ก็ปรี่เข้าโรงหมอตรวจร่างกายโดยด่วน ผลการตรวจสภาพร่างกายไม่น่าเป็นห่วง แต่ในเรื่องหัวใจนั้น ทาง คมช.ยอมรับว่าสี่ห้องหัวใจยังไม่เต็มร้อย เกรงจะถอดใจเอาดื้อๆ จึงพากันกุลีกุจอ เตรียมการตั้งแต่เนิ่นๆ เท่าที่จับตามอง ผู้ที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีแทนท่านสุรยุทธ์ช่วงนี้นั้นหายากมาก อีกทางหนึ่งก็กลัวว่าจะไม่ถูกใจประชาชน
       
        เห็นที่ต้องพึ่งองค์ท่านจตุคามรามเทพ เนื่องจากเป็นที่เคารพและเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางใจของคนไทยทุกหมู่เหล่า ทางคณะ คมช.จึงลงมติให้ ไปทาบทามองค์ท่านเตรียมไว้แต่เนิ่นๆ ถ้าท่านนายกฯ สละเรือก็จะแก้ไขได้ทันท่วงที
       
        พลันมีข้อสรุปฟ’นธงตรงเผงเป็นเสียงเดียวกัน จึงให้คนไปดำเนินการทาบทามท่านพอจตุคามฯ เตรียมรับตำแหน่ง เป็นนายกรัฐมนตรีท่านต่อไปจากท่านสุรยุทธ์
       
        ทางคณะ คมช.พากันถอนหายใจได้หนึ่งเปลาะ อย่างน้อยก็ได้เตรียมการไว้แต่เนิ่นๆ
       
        ด้านทางชาวบ้านได้พากันเฮโลดีอกดีใจยิ้มแก้มปริ พร้อมให้ความเห็นตรงกันหลายรายว่า "น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดในตอนนี้ เผื่อท่านสุรยุทธ์ถอดใจเหมือนอย่าง ที่ทาง คมช.คาดคะเน ได้องค์จตุคามรามเทพมานั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็นับว่าเป็นบุญของพวกเรา" ชาวบ้านกล่าวพร้อมชูเหรียญจตุคามฯ เหนือศีรษะ

 
http://www.manager.co.th/Pjkkuan/ViewNews.aspx?NewsID=9500000043590
 


นี่เป็นหนทางเลือก ทางหนึ่ง หรือป่าว...........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-04-2007, 21:38 โดย ปุถุชน » บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
หน้า: [1]
    กระโดดไป: