ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
15-05-2025, 21:22
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ไม่เห็นผู้ถูกร้องแก้ข้อกล่าวหาได้เลย อันนี้เป็นเรื่องโกหก อยากพูดแรงๆ อย่างนั้น 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ไม่เห็นผู้ถูกร้องแก้ข้อกล่าวหาได้เลย อันนี้เป็นเรื่องโกหก อยากพูดแรงๆ อย่างนั้น  (อ่าน 1303 ครั้ง)
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« เมื่อ: 07-04-2007, 01:29 »

ชวน หลีกภัย" เปิดใจจากเจแปน หลังเลือกตั้ง...เรามีโอกาสกลับมาเป็นรัฐบาล

สัมภาษณ์พิเศษ

วันที่ 31 มีนาคม 2550 นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้รับเชิญจากกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น หนังสือพิมพ์โยมิยูริชิมบุน และเมืองฟูกูโอกะ ให้เข้าร่วมประชุมในหัวข้อ East Asia Senior Forum การสร้างสรรค์เอเชียสำหรับศตวรรษที่ 21 กับอดีตผู้นำในทวีปเอเชียกว่า 6 ประเทศ อาทิ นางเนกาวาตี ซูกาโน บุตรี อดีตประธานาธิบดีอินโดนีเซีย นายยาซูชิโร นากาโซเน อดีตนายกฯญี่ปุ่น นายคิม จอง อิล อดีตนายกฯสาธารณรัฐเกาหลี นายฟิเดล รามอส อดีตประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ มหาธีร์ มูฮัมหมัด อดีตนายกฯมาเลเซีย

กลางดึกวันที่ 30 มีนาคม ณ โรงแรม JAL RESORT SEA HAWK ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" มีโอกาสสัมภาษณ์อดีตนายกฯ โดยนำบางประเด็นมานำเสนอดังนี้

- ในเรื่องรัฐธรรมนูญท่านเป็นห่วงประเด็นไหนบ้างหรือไม่

ผมไม่ค่อยกังวล เพราะคิดว่าประเทศประชาธิปไตยระบบการปกครองในระบบรัฐสภาที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีหลักของมันอยู่ การปกครองระบบนี้มีฝ่ายนิติบัญญัติซึ่งมาจากการเลือกตั้ง มีฝ่ายบริหารซึ่งมาจากสภา มีฝ่ายตุลาการ จะมีองค์กรอิสระหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ถ้ายึดหลักๆ เอาไว้ รายละเอียดค่อยไปว่ากัน รัฐธรรมนูญก็คงไม่กินเนื้อที่มากเกินไป เช่น นายกฯก็ควรมาจากการเลือกตั้ง ผมเรียนว่าประเทศที่เป็นประชาธิปไตยจริงๆ เขาไม่ค่อยสนใจหรอกว่ากฎหมายเขียนว่ามาจากหรือไม่มาจาก เพราะไม่มีนักการเมืองประเทศไหนที่เอาคนนอกมา ก็เอาหัวหน้าพรรคตัวเอง ส่วนในบ้านเราอย่างน้อยในสถานการณ์ปัจจุบันถ้าจำเป็นจริงๆ ก็ต้องเขียนเอาไว้

วาระในการดำรงตำแหน่งมีใครคิดว่าควรเป็น 2 วาระ ผมเห็นว่า ระบบนี้ไม่เหมือนระบบรัฐสภา ไม่เหมือนระบบประธานาธิบดี ระบบรัฐสภานั้นรัฐบาลอาจอยู่เพียงแค่ 6 เดือนก็ยุบสภาแล้ว หรือลาออกไปแล้ว เพราะฉะนั้นเขาจะไม่กำหนดวาระ แต่ทราบว่า ขณะนี้จะไม่กำหนดวาระ แต่ไม่เกิน 8 ปี แต่มีปัญหาว่า ถ้าอยู่ในช่วงครบ 8 ปีไปแล้ว แต่ไม่ครบวาระของสภาชุดนั้นจะทำยังไง ผมว่า อะไรที่ยังเป็นปัญหาอย่างเพิ่งไปวิตกเกินเหตุ แล้วไปเขียนผูกพันสิ่งข้างหน้าเกินไป แล้วไปเขียนสร้างสิ่งที่ไม่มีปัญหาให้มีปัญหาขึ้นมา มันไม่เคยมีปัญหาว่านายกฯในประเทศไทยอยู่นานเกินไป เพราะฉะนั้นปัญหานี้ยังไม่เกิด

วุฒิสมาชิกจะมีหรือไม่ ในส่วนตัวผมรับได้ แต่ว่าถ้ามีก็ต้องไม่มีเหตุผลอื่นนอกจากจะต้องมาจากการเลือกตั้ง ส่วนระบบผู้แทนราษฎรนั้น จะมีระบบบัญชีรายชื่อหรือไม่ก็รับได้ ใจผมเองผมอยากให้นักการเมืองลงพื้นที่กันทุกคน ไม่ควรกำหนดชั้นวรรณะว่า คนนี้เป็นผู้ดีไม่ควรลงพื้นที่ คนนี้เป็นคนมีเงินเหยียบดินไม่ได้ อะไรอย่างนี้ หรือพรรคการเมืองเอาคนอย่างนี้เป็นฐานเป็นทุนก็ไม่ค่อยเหมาะ

ส่วนจำนวน ส.ส.กี่คนนั้น ผมคิดว่าตัวเลขเดิมกำหนดไว้ ประชากร 1.5 แสนคนต่อผู้แทน 1 คน ก็อยู่ในเกณฑ์ที่พอใช้ได้ ถ้าเราไม่มีระบบบัญชีรายชื่ออยู่ในเกณฑ์ 400 คน ถือว่าไม่มากไม่น้อยเกินไป

- ท่านมองการเคลื่อนไหวของคุณทักษิณอย่างไรบ้าง

ท่านทักษิณก็เคยประกาศและผมนำคำพูดของท่านมาพูดว่า อย่าไปประเมินท่านน้อย ท่านเป็นคนมีเงิน ท่านไม่อยู่ในนี้ แต่เงินท่านอยู่ในนี้นะ ท่านใช้เงินมาตลอด ผมเคยพูดว่า "ท่านนายกฯทักษิณท่านเคยพูดว่าตายเสียดีกว่าแพ้" เพราะฉะนั้นยังไม่จบครับ เวลานี้ผมคิดว่าบรรดาผู้ที่มีความเคลื่อนไหวอะไรอยู่นี่ ใช้เงินของคุณทักษิณทั้งนั้น ผมเชื่ออย่างนั้น จริงๆ แล้วภาระของท่าน ท่านจะกลับเมืองไทย หรือไม่กลับเมืองไทยก็เป็นสิทธิของท่าน ท่านนายกฯก็ดี ประธาน คมช.ก็ดีไม่มีสิทธิไปบอกว่า ควรจะกลับก่อนหรือหลัง พรุ่งนี้ท่านนายกฯจะกลับมาท่านก็กลับได้ ใครไปห้ามท่านได้ ฝ่ายไม่อยากให้มาเพราะกลัวจะมีปัญหาให้กลับมาหลังจากเลือกตั้ง ให้มีปัญหาตอนนั้นหรือ เพราะฉะนั้นต้องพร้อมรับตลอดเวลา

- คุณทักษิณจะมีโอกาสกลับมาเป็นนายกฯอีกหรือไม่

ผมตอบแทนไม่ได้

- ถ้าให้คะแนนการทำงานของรัฐบาล พล.อ. สุรยุทธ์เต็ม 10 ท่านให้เท่าไหร่

เป็นนักเรียนที่ไม่ได้สอบเข้าตามปกติ (หัวเราะ) เป็นเด็กฝากเลยตอบไม่ได้ถือว่าเป็นรัฐบาลที่เขาตั้งกันเอง ประชาชนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เราเลยไม่อยากไปวัดคะแนนท่าน

- คดีของพรรคประชาธิปัตย์ที่ค้างในศาลรัฐธรรมนูญคิดว่าจะมีปัญหาอย่างไรหรือไม่

ผมในฐานะหัวหน้าผู้ว่าคดีต้องเรียนว่า จับคดีมาโดยตลอดเมื่อได้รับมอบหมายจากพรรค ในการสืบพยานมาแล้ว 11 ครั้งเหลือครั้งสุดท้ายวันที่ 5 เมษายน เรียนได้ว่า ท่านอัยการ อรรถพล ใหญ่สว่าง ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่เห็นผู้ถูกร้องแก้ข้อกล่าวหาได้เลย อันนี้เป็นเรื่องโกหก อยากพูดแรงๆ อย่างนั้น  ตลอด 11 สัปดาห์ที่ผมนั่งฟัง ผมเรียนได้เลยว่า มองไม่เห็นเลยว่าเขามาฟ้องพรรคประชาธิปัตย์ได้อย่างไร จากพยานหลักฐานก็เข้าใจว่า อัยการทำตามคำสั่งของรัฐบาลในขณะนั้น มันเป็นเงื่อนไขหนึ่งที่ให้ถอนฟ้องคดีวัดพระธรรมกาย สองให้ฟ้องประชาธิปัตย์ร่วมกับพรรคไทยรักไทยด้วย เพราะฉะนั้นเวลาเขาส่งสำนวน 1,500 หน้า มันเป็นไปไม่ได้หรอกครับแค่คืนเดียวก็อ่านเสร็จ เพราะฉะนั้นเวลายื่นสำนวนฟ้องบางเรื่องผิดข้อเท็จจริง

ผมสั่งเอาไว้ว่า ทุกคนอย่าพูดว่าเราชนะแน่ อย่าไปพูดล่วงหน้า ให้เกียรติตุลาการรัฐธรรมนูญ แต่พอเห็นโฆษกอัยการพูดผมก็ต้องบอกว่า จริงๆ แล้วไม่มีข้อกล่าวหาข้อไหนเลยควรจะนำมาฟ้องพรรคประชาธิปัตย์แต่ทั้งหมดฟ้องด้วยเหตุผลของการแกล้งกัน เพราะตอนนั้นท่านทักษิณยังมีอำนาจอยู่

อีกประการหนึ่งต้องเรียนว่า มาตรฐานการว่าความของอัยการระหว่างคดีพรรคไทยรักไทยกับประชาธิปัตย์ต่างกันมาก การว่าความคดีพรรคประชาธิปัตย์น่ะเอาจริงเอาจังมาก ความที่ไม่ควรซักก็ซัก แต่เห็นว่าคดีของพรรคไทยรักไทยที่ควรจะถามก็ไม่ถาม ผมคิดว่าให้ติดตามคดี คตส.เอาไว้ด้วย เพราะจะต้องส่งอัยการให้วันข้างหน้า อย่าลืมว่าระบบทักษิณได้สร้างคนเอาไว้ 5 ปี มากพอสมควรที่จะทำให้คนเหล่านั้นเบี่ยงเบนอะไรได้ง่าย และเงินยังมีความหมายมาก คนที่ขายตัวเพราะเงินก็เยอะเพราะฉะนั้นเราไม่ควรประเมินคุณทักษิณน้อยไป อย่างน้อยเงินของท่านมีความหมายและมากขึ้นทุกวัน ตอนนี้ผมคิดว่าท่านไม่ขี้เหนียวแล้ว เพราะได้บทเรียนแล้ว

- ประชาธิปัตย์จะอยู่ตรงไหนหลังเลือกตั้ง

ตามหลักการก็คือว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้เสียงมากพอในการจัดตั้งรัฐบาล ถ้าเสียงมากพอคุณอภิสิทธิ์ก็จะได้เป็นนายกฯ แต่จะเกิดขึ้นได้

หรือไม่ ขึ้นอยู่กับความจริงเมื่อประชาชนเขาเลือกตั้ง นี่คือสิ่งที่เป็นความหวังของพรรคว่าเราคงมีโอกาสได้กลับมาบริหารบ้านเมืองในโอกาสหน้า อาจจะถึงการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือครั้งไหนผมก็บอกไม่ได้ แต่ว่าเป้าหมายของพรรคก็คงฟังเสียงเหล่านั้น

- กล่าวกันว่าหลังรัฐประหารพรรคประชาธิปัตย์จะกลับมาเป็นรัฐบาลแทบทุกครั้ง

เพราะว่าเรามักจะต้องมาล้างหรือมาสางวิกฤตที่เกิดขึ้น เมื่อเกิดวิกฤตประชาธิปไตยผมเข้ามาเป็นนายกฯครั้งแรก พอหลังเป็นนายกฯได้เกือบ 3 ปี พอยุบสภาก็แพ้ เราก็เข้ามาเมื่อตอนวิกฤตอีกครั้ง พอบ้านเมืองมีวิกฤตประชาธิปัตย์ก็เข้ามา พอเลือกตั้งใหม่ประชาธิปัตย์ก็แพ้อีก วันนี้ผมยังมองว่าเกิดวิกฤตขึ้นในบ้านเมือง บางทีประชาชนอาจจะให้ประชาธิปัตย์มาแก้ปัญหาอีก แต่ว่าสิ่งเหล่านี้ขึ้นอยู่กับปัจจัย องค์ประกอบของการเลือกตั้งด้วย อย่างไรก็ตามพรรคประชาธิปัตย์คงอยู่คู่การเมืองในระบอบประชาธิปไตยคงจะเป็นรัฐบาลเป็นฝ่ายค้าน สลับกันไปเท่าที่เรายังเป็นพรรคอยู่

- ถ้ามีเสียงเรียกร้องให้ท่านกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคหรือกลับมาเป็นนายกฯ

โชคดีที่ระบบมันดีอยู่แล้ว หน้าที่ของเราก็คือหนุนคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผมก็ทำงานหนักเพื่อช่วยคุณอภิสิทธิ์ เพราะเห็นศักยภาพของคนคนนี้ แม้ว่าประชาชนจะมองว่าเขายังเป็นเด็กไป อายุน้อย แต่ว่าถ้ามองวุฒิภาวะความเป็นนักการเมืองเขาอาวุโสมากกว่านักการเมืองไม่น้อยทีเดียว เป็นผู้แทนมาตั้ง 5 สมัย และเป็นรัฐมนตรีมาแล้ว ผมในฐานะอยู่ใกล้ชิดกล้าพูดได้เต็มปากเลยครับว่า เห็นศักยภาพของเขา ผมเป็นคนหนึ่งที่ดันหลังเขาให้มาเป็นหัวหน้าพรรค และภาระหน้าที่ผมก็อันนี้ที่ทำหน้าที่ ผมยังคงเป็นนักการเมืองอยู่ แต่ไม่ได้คิดว่าจะมาเป็นหัวหน้าพรรคอีกครั้ง

- ในเรื่องความมั่นคง คมช.จะเอาอยู่หรือไม่

คมช.ต้องให้รัฐบาลทำหน้าที่ของรัฐบาลโดยสมบูรณ์ รวมทั้งหน้าที่ในการดูแลความมั่นคงด้วย เพราะ คมช.ไม่มีอำนาจในการโยกย้ายข้าราชการอันนี้คือสิ่งที่ผิดปกติในการใช้อำนาจ เวลามีปัญหาเราจะได้ยินท่านนายกฯสุรยุทธ์โยนไป คมช. คมช.ไม่ใช่คนไปตอบกระทู้ในสภา คนที่จะตอบคือนายกฯ ปัญหานี้ให้รัฐบาลเขาดูแลทั้งหมดดีกว่า คมช.มีหน้าที่ตั้งรัฐบาลมีหน้าที่เปลี่ยนนายกฯได้แต่ว่าไม่ใช่ที่จะต้องมาวิ่งไล่โจรด้วยตัวเอง ตัวเองก็ไม่มีกำลัง ผบ.ทบ.กับประธาน คมช.เป็นคนเดียวกันก็จริง แต่คนละฐานะ เวลาไปสั่งราชการก็ต้องสั่งในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุด จะไปสั่งกระทรวงอื่นได้ไหมในฐานะประธาน คมช. ไม่ได้ครับ เพราะเขามีรัฐบาลแล้ว วันนี้ความเป็นเอกภาพในการแก้ปัญหายังสับสนด้วยตัวของรัฐบาลเองกับ คมช.ต้องทำความกระจ่างในภาระหน้าที่ของตัวเองให้ได้

เหลือเวลาอีก 7 เดือนซึ่งนานพอที่สามารถแก้เหตุการณ์ภาคใต้ได้มาก ถ้าหากว่าเข้าใจและทำถูกต้อง มีคนที่มีความสามารถ เข้าใจปัญหาจริงๆ ในการแก้ปัญหาจะทำได้มากทีเดียว

ส่วนใครมาชุมนุมประท้วงผมมองเป็นเรื่องปกติธรรมดา ถ้าใครทำผิดกฎหมายก็ว่ากันไปตามกฎหมาย อย่าไปแกล้งกัน อย่าเลือกปฏิบัติ

- คิดว่า คมช.จะสืบทอดอำนาจหรือไม่

ที่จริงตอบแทนไม่ได้ สิ่งที่เราจะดูได้คือหนึ่งต้องดูรัฐธรรมนูญก่อน เพราะการสืบทอดอำนาจสมัยก่อนทุกฉบับในการปฏิวัติแล้วจะเขียนกฎหมายรัฐธรรมนูญเพื่อให้มีบทเฉพาะกาลไว้นิดหนึ่ง ตรงนั้นแหละครับคือการให้อำนาจของรัฐบาลปฏิวัติสามารถสืบช่วงต่อได้ด้วยกระบวนการวิธีการ แต่เวลานี้เรายังไม่เห็น สองสมมติว่าไม่ใช้รัฐธรรมนูญเป็นตัวกำหนด ก็ต้องดูต่อไปทางความเป็นจริงได้มีการประสานกลุ่มการเมืองใดๆ อย่างไรหรือไม่ ตรงนี้ก็ยังไม่ชัดที่จะตอบ

- ท่านมองบทบาทการทำงานของ คตส.อย่างไรบ้าง

ผมให้ความสนับสนุน ผมว่ามีความพยายาม เสียงวิพากษ์วิจารณ์ก็มีบ้าง แต่ว่าในฐานะคนปฏิบัติผมมีความรู้สึกเหมือนกันคือว่าเวลาปฏิบัติไม่เหมือนเวลาพูด ต้องเข้าใจว่าเวลาไปตรวจสอบมันไม่ใช่ง่ายนัก คนโกงมันพยายามซ่อนทุกอย่าง เพราะฉะนั้น คตส.ที่ทำอยู่ทุกขณะนี้ผมไม่มีอะไรวิจารณ์ และอยากให้กำลังใจและอยากให้ตรวจสอบให้รอบคอบ ให้ความเป็นธรรม เพราะคดีเมื่อส่งอัยการฟ้อง อัยการจะเป็นในระบอบทักษิณหรืออัยการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นเรื่องที่จะต้องดูต่อไป

http://www.matichon.co.th/prachachat/prachachat_detail.php?s_tag=02pol01050450&day=2007/04/05&sectionid=0202



ขอนำความคิดเห็น การให้สัมภาษณ์ของคุณชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ในแง่มุมต่าง ๆ มาให้พิจารณาและใช้วิจารณญาณเอาเองครับ............

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-04-2007, 01:35 โดย ปุถุชน » บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #1 เมื่อ: 07-04-2007, 07:56 »

"ผมในฐานะหัวหน้าผู้ว่าคดีต้องเรียนว่า จับคดีมาโดยตลอดเมื่อได้รับมอบหมายจากพรรค ในการสืบพยานมาแล้ว 11 ครั้งเหลือครั้งสุดท้ายวันที่ 5 เมษายน เรียนได้ว่า ท่านอัยการ อรรถพล ใหญ่สว่าง ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่เห็นผู้ถูกร้องแก้ข้อกล่าวหาได้เลย อันนี้เป็นเรื่องโกหก อยากพูดแรงๆ อย่างนั้น  ตลอด 11 สัปดาห์ที่ผมนั่งฟัง ผมเรียนได้เลยว่า มองไม่เห็นเลยว่าเขามาฟ้องพรรคประชาธิปัตย์ได้อย่างไร จากพยานหลักฐานก็เข้าใจว่า อัยการทำตามคำสั่งของรัฐบาลในขณะนั้น มันเป็นเงื่อนไขหนึ่งที่ให้ถอนฟ้องคดีวัดพระธรรมกาย สองให้ฟ้องประชาธิปัตย์ร่วมกับพรรคไทยรักไทยด้วย เพราะฉะนั้นเวลาเขาส่งสำนวน 1,500 หน้า มันเป็นไปไม่ได้หรอกครับแค่คืนเดียวก็อ่านเสร็จ เพราะฉะนั้นเวลายื่นสำนวนฟ้องบางเรื่องผิดข้อเท็จจริง"

ต้องนับว่า กกต.ในยุคนั้นมีความขยันขันแข็ง จริง ๆ.... สำนวนขนาด 1,500 หน้า ...ใช้เวลาสอบ ไม่กี่วัน .....อภิสิทธิ์ กับ สุเทพ ออกมาให้สัมภาษณ์ กับสือว่า ถามเพียงไม่กี่คำถาม....ผมยังสงสัยอยู่ว่าเอาอะไรมาใส่ไว้ในสำนวน 1,500 หน้ามั่ง..........อัยการท่านก็เก่งเหลือแสน สำนวน 1,500 หน้า อ่านได้ในคืนเดียว.......คงตาถั่วไปหมดแล้ว


"ท่านอัยการ อรรถพล ใหญ่สว่าง ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่เห็นผู้ถูกร้องแก้ข้อกล่าวหาได้เลย อันนี้เป็นเรื่องโกหก อยากพูดแรงๆ อย่างนั้น"

ผิดมารยาทมาก ๆ .........การให้สัมภาษณ์ชี้นำ แบบนี้ เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอันดับต้น ๆ ของระบบตุลาการ 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-04-2007, 10:10 โดย 55555 » บันทึกการเข้า
ScaRECroW
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,000


สุสูสัง ลภเต ปัญญัง - ผู้ฟังดี ย่อมเกิดปัญญา


เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 07-04-2007, 09:39 »

อัยการโกหกอย่างไรเหรอครับ
บันทึกการเข้า

Politic is nothing but the continuation of [the sin of] 7 by other means.

ท่านคิดว่า นรม. ควรทำอย่างไรเมื่อพบว่ากฏหมายบางฉบับมีช่องโหว่?
ก.ใช้อำนาจ นรม.ที่ได้รับมาจากประชาชนแก้กฏหมายเพื่อปิดช่องโหว่เหล่านั้น เพราะเป็นประโยชน์ของแผ่นดิน
ข.ฉวยโอกาสใช้ช่องโหว่เหล่านั้นเพื่อประโยชน์ของตนเองและคนรอบข้าง แล้วก็อ้างว่าคนอื่นเขาก็ทำกัน
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #3 เมื่อ: 07-04-2007, 15:10 »

"ผมในฐานะหัวหน้าผู้ว่าคดีต้องเรียนว่า จับคดีมาโดยตลอดเมื่อได้รับมอบหมายจากพรรค ในการสืบพยานมาแล้ว 11 ครั้งเหลือครั้งสุดท้ายวันที่ 5 เมษายน เรียนได้ว่า ท่านอัยการ อรรถพล ใหญ่สว่าง ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่เห็นผู้ถูกร้องแก้ข้อกล่าวหาได้เลย อันนี้เป็นเรื่องโกหก อยากพูดแรงๆ อย่างนั้น  ตลอด 11 สัปดาห์ที่ผมนั่งฟัง ผมเรียนได้เลยว่า มองไม่เห็นเลยว่าเขามาฟ้องพรรคประชาธิปัตย์ได้อย่างไร จากพยานหลักฐานก็เข้าใจว่า อัยการทำตามคำสั่งของรัฐบาลในขณะนั้น มันเป็นเงื่อนไขหนึ่งที่ให้ถอนฟ้องคดีวัดพระธรรมกาย สองให้ฟ้องประชาธิปัตย์ร่วมกับพรรคไทยรักไทยด้วย เพราะฉะนั้นเวลาเขาส่งสำนวน 1,500 หน้า มันเป็นไปไม่ได้หรอกครับแค่คืนเดียวก็อ่านเสร็จ เพราะฉะนั้นเวลายื่นสำนวนฟ้องบางเรื่องผิดข้อเท็จจริง"

ต้องนับว่า กกต.ในยุคนั้นมีความขยันขันแข็ง จริง ๆ.... สำนวนขนาด 1,500 หน้า ...ใช้เวลาสอบ ไม่กี่วัน .....อภิสิทธิ์ กับ สุเทพ ออกมาให้สัมภาษณ์ กับสือว่า ถามเพียงไม่กี่คำถาม....ผมยังสงสัยอยู่ว่าเอาอะไรมาใส่ไว้ในสำนวน 1,500 หน้ามั่ง..........อัยการท่านก็เก่งเหลือแสน สำนวน 1,500 หน้า อ่านได้ในคืนเดียว.......คงตาถั่วไปหมดแล้ว


"ท่านอัยการ อรรถพล ใหญ่สว่าง ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่เห็นผู้ถูกร้องแก้ข้อกล่าวหาได้เลย อันนี้เป็นเรื่องโกหก อยากพูดแรงๆ อย่างนั้น"

ผิดมารยาทมาก ๆ .........การให้สัมภาษณ์ชี้นำ แบบนี้ เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอันดับต้น ๆ ของระบบตุลาการ 




อัยการสูงสุดเป็น"กามนิต"มากกว่า "สามหนา ห้าห่วง" อีก
ใช้เวลาค่ำคืนเดียว อ่านสำนวนเอกสาร 1500 หน้าเข้าใจถ่องแท้....
ก็พิจารณาสั่งฟ้องได้แล้ว..............ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
สมชายสายชม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,048


« ตอบ #4 เมื่อ: 07-04-2007, 19:04 »

"ผมในฐานะหัวหน้าผู้ว่าคดีต้องเรียนว่า จับคดีมาโดยตลอดเมื่อได้รับมอบหมายจากพรรค ในการสืบพยานมาแล้ว 11 ครั้งเหลือครั้งสุดท้ายวันที่ 5 เมษายน เรียนได้ว่า ท่านอัยการ อรรถพล ใหญ่สว่าง ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่เห็นผู้ถูกร้องแก้ข้อกล่าวหาได้เลย อันนี้เป็นเรื่องโกหก อยากพูดแรงๆ อย่างนั้น  ตลอด 11 สัปดาห์ที่ผมนั่งฟัง ผมเรียนได้เลยว่า มองไม่เห็นเลยว่าเขามาฟ้องพรรคประชาธิปัตย์ได้อย่างไร จากพยานหลักฐานก็เข้าใจว่า อัยการทำตามคำสั่งของรัฐบาลในขณะนั้น มันเป็นเงื่อนไขหนึ่งที่ให้ถอนฟ้องคดีวัดพระธรรมกาย สองให้ฟ้องประชาธิปัตย์ร่วมกับพรรคไทยรักไทยด้วย เพราะฉะนั้นเวลาเขาส่งสำนวน 1,500 หน้า มันเป็นไปไม่ได้หรอกครับแค่คืนเดียวก็อ่านเสร็จ เพราะฉะนั้นเวลายื่นสำนวนฟ้องบางเรื่องผิดข้อเท็จจริง"

ต้องนับว่า กกต.ในยุคนั้นมีความขยันขันแข็ง จริง ๆ.... สำนวนขนาด 1,500 หน้า ...ใช้เวลาสอบ ไม่กี่วัน .....อภิสิทธิ์ กับ สุเทพ ออกมาให้สัมภาษณ์ กับสือว่า ถามเพียงไม่กี่คำถาม....ผมยังสงสัยอยู่ว่าเอาอะไรมาใส่ไว้ในสำนวน 1,500 หน้ามั่ง..........อัยการท่านก็เก่งเหลือแสน สำนวน 1,500 หน้า อ่านได้ในคืนเดียว.......คงตาถั่วไปหมดแล้ว


"ท่านอัยการ อรรถพล ใหญ่สว่าง ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่เห็นผู้ถูกร้องแก้ข้อกล่าวหาได้เลย อันนี้เป็นเรื่องโกหก อยากพูดแรงๆ อย่างนั้น"

ผิดมารยาทมาก ๆ .........การให้สัมภาษณ์ชี้นำ แบบนี้ เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอันดับต้น ๆ ของระบบตุลาการ 




อัยการสูงสุดเป็น"กามนิต"มากกว่า "สามหนา ห้าห่วง" อีก
ใช้เวลาค่ำคืนเดียว อ่านสำนวนเอกสาร 1500 หน้าเข้าใจถ่องแท้....
ก็พิจารณาสั่งฟ้องได้แล้ว..............ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า




พรรค ปชป. น่าจะร้องทุกข์กล่าวโทษเจ้าพนักงานกรมอัยการสูงสุดต่อ ปปช. นะ

คนอะไร อ่านเอกสาร ๑๕๐๐ หน้าได้ภายในคืนเดียว

คนที่มีความสามารถแบบนี้ ถ้าไม่ใช่ซุปเปอร์แมน ..

จะเป็นอื่นไปไม่ได้ นอกจากจะเป็นผู้ที่ร่างเอกสารนั้นเอง
   

...
บันทึกการเข้า
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 07-04-2007, 20:32 »

สื่อหลายกระแส ชี้ตัวนายกคนใหม่ไปที่ ชวน แฮะ
บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #6 เมื่อ: 08-04-2007, 12:38 »

คดีของพรรคประชาธิปัตย์ที่ค้างในศาลรัฐธรรมนูญคิดว่าจะมีปัญหาอย่างไรหรือไม่

ผมในฐานะหัวหน้าผู้ว่าคดีต้องเรียนว่า จับคดีมาโดยตลอดเมื่อได้รับมอบหมายจากพรรค ในการสืบพยานมาแล้ว 11 ครั้งเหลือครั้งสุดท้ายวันที่ 5 เมษายน เรียนได้ว่า ท่านอัยการ อรรถพล ใหญ่สว่าง ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่เห็นผู้ถูกร้องแก้ข้อกล่าวหาได้เลย อันนี้เป็นเรื่องโกหก อยากพูดแรงๆ อย่างนั้น ตลอด 11 สัปดาห์ที่ผมนั่งฟัง ผมเรียนได้เลยว่า มองไม่เห็นเลยว่าเขามาฟ้องพรรคประชาธิปัตย์ได้อย่างไร จากพยานหลักฐานก็เข้าใจว่า อัยการทำตามคำสั่งของรัฐบาลในขณะนั้น มันเป็นเงื่อนไขหนึ่งที่ให้ถอนฟ้องคดีวัดพระธรรมกาย สองให้ฟ้องประชาธิปัตย์ร่วมกับพรรคไทยรักไทยด้วย เพราะฉะนั้นเวลาเขาส่งสำนวน 1,500 หน้า มันเป็นไปไม่ได้หรอกครับแค่คืนเดียวก็อ่านเสร็จ เพราะฉะนั้นเวลายื่นสำนวนฟ้องบางเรื่องผิดข้อเท็จจริง

ผมสั่งเอาไว้ว่า ทุกคนอย่าพูดว่าเราชนะแน่ อย่าไปพูดล่วงหน้า ให้เกียรติตุลาการรัฐธรรมนูญ แต่พอเห็นโฆษกอัยการพูด ผมก็ต้องบอกว่า จริงๆ แล้วไม่มีข้อกล่าวหาข้อไหนเลยควรจะนำมาฟ้องพรรคประชาธิปัตย์แต่ทั้งหมดฟ้องด้วยเหตุผลของการแกล้งกัน เพราะตอนนั้นท่านทักษิณยังมีอำนาจอยู่




ถ้าพิจารณาความคิดเห็นของคุณชวน หลีกภัย ในฐานะหัวหน้าคณะผู้ว่าคดีร้องเรียนฯ และนักกฏหมายระดับ'เนติบัณฑิตไทย' คนหนึ่ง ผมก็เชื่อว่าคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะไม่พิพากษาตามความเห็นฟ้องของอัยการสูงสุดที่มี'เกณฑ์'ในใจก่อนได้อ่านสำนวนคดี 1500 หน้าเสียอีก....

บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
หน้า: [1]
    กระโดดไป: