จงรัก เริ่มบทโปลิศจับตำรวจ! ลุยสางคดีฆ่าตัดตอนยุค ทรราชแม้ว
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 3 เมษายน 2550 18:57
จงรัก ประชุมชุดสอบสวนสางคดีฆ่าตัดตอนยุค แม้ว เปิดสงครามยาเสพติด โดยแจกการบ้านไปรวบรวมคดีที่เกิดขึ้น แต่กลับพูดแปลก หากมีพยานหลักฐานว่าเป็นการกระทำของเจ้าพนักงาน ก็จะหาหลักฐานว่าได้กระทำไปโดยถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ เป็นการกระทำที่สมควรแก่เหตุ คนร้ายต่อสู้หรือไม่
วันนี้ (3 เม.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.จงรัก จุทานนท์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.) ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเร่งรัดตรวจสอบติดตามคดีฆาตกรรมอันเนื่องมาจากนโยบายสงครามปราบปรามยาเสพติด ได้เรียกประชุมคณะทำงานทั้งหมด รวมทั้งคณะกรรมการ ซึ่งประกอบด้วย ผู้แทนจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล และตำรวจภูธร 1-9 กองบัญชาการปราบปรามยาเสติด กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อวางแนวทางในการดำเนินการต่างๆ โดยใช้เวลาในการประชุมกว่า 1 ชั่วโมง
พล.ต.ท.จงรัก กล่าวภายหลังการประชุม ว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นอย่างไม่เป็นทางการ ในการประกาศสงครามยาเสพติด
ช่วงวันที่ 1 ก.พ.- 30 เม.ย.2546 มีคดีเกิดขึ้นจำนวน 1,164 คดี มีผู้เสียชีวิต 1,322 คน และได้สั่งการให้มีการตรวจสอบคดีที่เกิดขึ้นย้อนหลังไปทั้งหมด รวมถึงการประกาศสงครามยาเสพติดในช่วง วันที่ 1 ต.ค.- 30 พ.ย.2546 ด้วยว่าคดีใดมีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นเรื่องฆ่าตัดตอนหรือไม่ โดยจะมีการแยกแยะว่าเป็นคดีฆ่าตัดตอนกี่คดี คดีที่ไม่ทราบคนกระทำกี่คดี และคดีไหนที่งดการสอบสวนยังไม่ได้จับผู้กระทำมาลงโทษ หรือไม่สอบสวนเพราะตำรวจเป็นคนทำ ซึ่งหากเป็นคดีฆ่าตัดตอนก็จะตรวจสอบต่อไปว่า คดีดังกล่าวเป็นการกระทำของใคร ได้มีการดำเนินการไปแล้วเพียงใด
พล.ต.ท.จงรัก กล่าวว่า หากมีพยานหลักฐานว่าเป็นการกระทำของเจ้าพนักงาน ก็จะได้ตรวจสอบหาพยานหลักฐานว่า เจ้าพนักงานได้กระทำไปโดยถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ เป็นการกระทำที่สมควรแก่เหตุ คนร้ายต่อสู้หรือไม่ เพราะการที่เจ้าพนักงานจะใช้อาวุธปืนยิงผู้ใด ผู้ใดนั้น จะต้องเป็นไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68 คือ จะต้องเป็นการป้องกันตนเองหรือผู้อื่นให้พ้นจากภยันอันตราย อันเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย ถ้าหากละเมิดต่อหลักการนี้ ก็ถือว่าไม่ถูกต้อง ก็จะต้องตราจสอบต่อไปว่าการที่ผู้ตายถูกยิงตายนั้นเป็นเพราะการขัดขืนต่อสู้เจ้าพนักงาน หรือถูกเจ้าพนักงานยิงจนถึงแก่ความตาย หรือเป็นการกระทำของเจ้าพนักงานฝ่ายเดียว หรือเป็นการกระทำของบุคคลอื่น
คณะทำงานจะเร่งรัดตรวจสอบ ติดตามผลการดำเนินงานที่ผ่านมาว่าคดีฆ่าตัดตอนแต่ละคดีทำไปได้แค่ไหนเพียงใด และหากยังไม่เสร็จ ก็จะได้เร่งรัดให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม โปร่งใส หากเป็นเรื่องยาเสพติดจริงๆ แล้วคนร้ายต่อสู้เจ้าหน้าที่ แล้วถูกยิงตายก็ไม่เป็นไร
แต่หากไม่ได้ต่อสู้แล้วถูกยิงตายก็จะต้องหาพยานหลักฐานนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้ เท่าที่ผ่านมาก็มีคดี น้องฟลุ๊ค ที่ถูกยิงในพื้นที่ สน.นางเลิ้ง แล้วแม่หายไปในช่วงสงครามยาเสพติด แล้วอ้างว่า มีคนร้ายมายิงเพื่อฆ่าตัดตอน ซึ่งขัดกับความรู้สึกของประชาชนทั่วไป ก็ต้องมีการตรวจสอบว่าคดีไปถึงไหนแล้ว นอกจากนี้ ก็ยังมีคดีที่เกิดขึ้นแล้วมีผู้มาร้องเรียนอีกหลายคดีตนก็จะตรวจสอบให้หมด ส่วนถ้ามีประชาชนคนใหนส่งสัยว่าญาติหรือคนใกล้ชิดถูกฆ่าตัดตอนก็มาร้องที่ตนเองหรือที่กองบัญชาการทั้ง 9 กองบัญชาการได้ ตนจะให้ความเป็นธรรมกับทุกคน ผช.ผบ.ตร.กล่าว
พล.ต.ท.จงรัก กล่าวด้วยว่า สำหรับครั้งนี้เป็นการประชุมครั้งแรก เพื่อให้แนวทางการทำงาน ยังไม่สามารถให้รายละเอียดต่างๆ ได้มาก ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขของคดีของกองบัญชาการต่างๆ ซึ่งในที่ประชุมได้สั่งการให้แต่ละกองบัญชาการไปรวบรวมคดีเกี่ยวกับยาเสพติดทั้งหมดมา รวมถึงการดำเนินการในแต่ละคดี และนำมาชี้แจงต่อที่ประชุมครั้งหน้าปลายเดือนเมษายนนี้
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9500000038553 ถ้าได้หลักฐานสักคดี นำมาเปิดเผยแด่สื่อมวลไทย-เทศ
เพื่อให้"ทรราชแม้ว" ตอบคำถามสื่อฯต่างชาติบ้าง....... 'ทนายหน้าหอ'ของ"ทรราชแม้ว" คงปฎิเสธตามเคย.........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า