ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
20-04-2024, 07:33
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ขอขอบคุณทุกท่านชาวเสรีไทย --- รถไฟจะเข้าชานชาลาแล้วค่ะ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ขอขอบคุณทุกท่านชาวเสรีไทย --- รถไฟจะเข้าชานชาลาแล้วค่ะ  (อ่าน 1885 ครั้ง)
รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« เมื่อ: 03-04-2007, 13:31 »

'สุรยุทธ์'เผยใกล้วันชี้ชะตา 'ทักษิณ' หลังสงกรานต์รู้ผล
 
3 เมษายน พ.ศ. 2550 11:39:00
 
"สุรยุทธ์"เผยผลสอบสวนคดีอดีตนายกรัฐมนตรีคาดว่าจะเสร็จภายหลังสงกรานต์ บอกเป็นนัยใกล้บทสุดท้ายอนาคตทักษิณ

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การสอบสวนคดีของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
อดีตนายกรัฐมนตรี อาจเสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้


"ผมสามารถบอกได้ว่าเรากำลังเข้าใกล้บทสุดท้ายเกี่ยวกับอนาคตของพ.ต.ท.ทักษิณ" พล.อ.สุรยุทธ์กล่าวกับผู้สื่อข่าวในกรุงโตเกียว



ขณะที่ ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารเช้า
ของนายกรัฐมนตรีให้กับกลุ่มสมาชิกกลุ่มมิตรภาพ สมาชิกรัฐสภาญี่ปุ่น ว่า นายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงถึงสถานการณ์ทาง
การเมืองของไทย ที่ขณะนี้ยังไม่มีรัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้ง แต่ก็ถือว่าเป็นการชั่วคราวเท่านั้น รวมถึงแนวทางใน
การร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงว่า ที่ผ่านมารัฐธรรมนูญไทยให้อำนาจฝ่ายบริหารมากเกินไป ทำให้
เกิดปัญหาบ้านเมือง ดังนั้นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะต้องเปลี่ยนแปลงจำนวนสมาชิกรัฐสภา เช่น ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ
 และระบบแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เพื่อถ่วงดุลอำนาจของฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถมีร่างแรกให้
พิจารณาได้ในเดือนกรกฎาคมนี้

อย่างไรก็ตาม ในการร่วมรับประทานอาหารเช้า มี ส.ส.อาวุโสญี่ปุ่น ต่างเข้าใจในสถานการณ์ทางการเมืองของไทย
 รวมทั้งสนใจในการร่างรัฐธรรมนูญของไทย เนื่องจากญี่ปุ่นมีแนวคิดที่จะร่างรัฐธรรมนูญใหม่เช่นกัน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาค้นคว้า
 

 
http://www.bangkokbiznews.com/2007/04/03/WW10_WW10_news.php?newsid=62513

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

วันนี้ (3 เม.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวสุนทรพจน์หัวข้อ “ญี่ปุ่นและไทย การเฉลิมฉลองยุคใหม่แห่งความเป็นหุ้นส่วนที่แน่นแฟ้นและยั่งยืน ตอนหนึ่งว่า ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ และพัฒนาการทางการเมืองของประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งทิศทางความก้าวหน้าของการพัฒนาการเมืองในช่วง 1 ปี ที่ประชาชนชาวไทยทั้ง 64 ล้านคนต้องเผชิญ” ในการรับประทานอาหารกลางวันกับผู้บริหารสมาคมสื่อมวลชนแห่งชาติญี่ปุ่น ณ สมาคมผู้สื่อข่าวญี่ปุ่น กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
       
       พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า พัฒนาการทางการเมืองที่ผ่านมาของไทยและผลลัพธ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ซึ่งเป็นหัวข้อที่ทุกคนต่างให้ความสนใจ ทั้งนี้ ก่อนที่จะมีการแทรกแซงทางทหารอย่างสงบเมื่อวันที่ 19 กันยายนในปีที่ผ่านมา นักวิเคราะห์การเมืองอิสระส่วนใหญ่คาดว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการพัฒนาในด้านประชาธิปไตยมากที่สุดในอาเซียน หรือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเชื่อว่าภายในสิ้นปีนี้ภายหลังการเลือกตั้งที่เสรีและยุติธรรม ประเทศไทยจะผงาดขึ้นมาโดยมีความก้าวหน้าในระบอบประชาธิปไตยเพิ่มขึ้น และมีพื้นฐานของสถาบันที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในอันที่จะสร้างอนาคตที่ดีขึ้น และยั่งยืนยิ่งขึ้นให้แก่ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ
       
       พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวอีกว่า ในแง่ของการพัฒนาทางการเมืองสมัยใหม่ของประเทศไทยนั้น มีเหตุการณ์สำคัญสองเหตุการณ์ ได้แก่ เหตุการณ์เดือนตุลาคม พ.ศ.2516 และพฤษภาคม พ.ศ.2535 จากเหตุการณ์ทั้งสองนั้น ทำให้ประเทศไทยสะท้อนความเป็นประชาธิปไตยที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เหตุการณ์ในปี พ.ศ.2534-2535 ได้นำไปสู่การประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ.2540 ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญที่มีเสรี และมีความก้าวหน้าที่สุด หรือเป็นที่รู้จักในนามของรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ซึ่งระบุให้มีการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา ให้การลงคะแนนเสียงเลือกตั้งเป็นหน้าที่ของทุกคน และก่อตั้งองค์กรอิสระเป็นจำนวนมากเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบและคานความสมดุลในการใช้อำนาจรัฐในทางที่ผิดของนักการเมือง
       
       ดังนั้น การประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชนนั้นเกิดขึ้นพร้อมกับเหตุการณ์ที่สร้างความบอบช้ำแก่ประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของไทย นั่นก็คือวิกฤตการณ์ทางการเงินในปี พ.ศ.2540 ซึ่งทำให้ประเทศไทยต้องสูญเสียเวลาเกือบหนึ่งทศวรรษในการพัฒนาสังคม และเศรษฐกิจ เหตุการณ์ทั้งสองรวมด้วยกันเป็นฉากเบื้องหลังแก่พัฒนาทางการเมือง และเศรษฐกิจเป็นเวลา 9 ปี ซึ่งมีบทสรุปในการแทรกแซงทางทหารอย่างสันติเมื่อเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา
       
       “ต้นเหตุที่ก่อให้เกิดการแทรกแซงทางทหาร คือ การรวบอำนาจทางการเมือง และทางการเงินของคุณทักษิณในช่วง 5 ปี ขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ข้อกล่าวหาการใช้อำนาจในทางที่ผิด การคอร์รัปชันอย่างกว้างขวาง การจำกัดเสรีภาพของสื่อมวลชน และประวัติด้านการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นการหายนะ ในช่วง 9 เดือนแรกของปีที่ผ่านมาประเทศไทยไม่มีรัฐบาลที่มีประสิทธิภาพ การเลือกตั้งทั่วไปถูกต่อต้านโดยฝ่ายค้าน และท้ายที่สุดศาลได้ตัดสินให้การเลือกตั้งนั้นโมฆะ มีการเดินขบวนประท้วงเพื่อต่อต้านคุณทักษิณในกรุงเทพฯ เกือบทุกวัน ระบบการตรวจสอบและคานความสมดุลถูกบั่นทอน และดูเสมือนว่าเครื่องมือต่างๆ ภายใต้รัฐธรรมนูญเพื่อผ่าทางตันทางการเมืองได้ใช้ไปหมดแล้ว” พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าว
       
       พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวอีกว่า ดังนั้นทหารจึงได้ประกาศช่วงพักเวลา โดยเป็นระยะเวลาที่จำกัดและมีจุดมุ่งหมายที่แน่ชัด และภายในเวลา 30 วัน ประเทศไทยก็มีรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว มีรัฐบาลชั่วคราวซึ่งมีแนวนโยบายที่ชัดเจน ซึ่งผมเชื่อว่าการแทรกแซงครั้งนี้เกิดขึ้นเพื่อประโยชน์ของสาธารณชน ซึ่งก็เห็นได้ว่าการกระทำดังกล่าวยังได้รับการยอมรับจากสาธารณชนอย่างกว้างขวาง ดังจะเห็นได้จากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนภายหลังการเกิดเหตุการณ์ไม่นานนัก
       
       พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันเป็นเวลาเกือบ 6 เดือนแล้วที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรีมาบริหารประเทศ ซึ่งโอกาสนี้จะรายงานให้ทราบถึงความก้าวหน้าจนถึงปัจจุบัน รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวได้กำหนดกรอบเวลาที่ยากลำบากในการฟื้นฟูประชาธิปไตย และจนถึงบัดนี้ ได้ดำเนินการตามกรอบเวลาที่กำหนด การยกร่างรัฐธรรมนูญเกือบจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ และจะได้นำเสนอให้สาธารณชนได้ตรวจสอบและถกเถียงกัน นอกจากนี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมการสำหรับการลงประชามติ ซึ่งจะมีขึ้นในเดือนกันยายน ทั้งรัฐบาลชั่วคราว และคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ต่างยึดมั่นในการที่จะจัดการเลือกตั้งในเดือนธันวาคม 2550 โดยอาจเป็นวันที่ 16 หรือ 23 ธันวาคม ตามที่ได้ประกาศไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาที่กรุงเทพ ฯ
       
       พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวต่อไปว่า ขณะเดียวกัน รัฐบาลชั่วคราวของไทยก็ได้กำหนดให้การปฏิรูปเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งประกอบไปด้วยแนวหลัก 4 ประการ ซึ่งต่างมีความเกี่ยวเนื่องกันอย่างใกล้ชิด และได้ถูกกำหนดขึ้นมาเพื่อช่วยให้ประเทศไทยมีความโปร่งใสมากยิ่งขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น มีประสิทธิผลมากขึ้น มีความเท่าเทียมกันมากขึ้น และเป็นสังคมที่มีความยั่งยืนยิ่งขึ้น แนวหลัก 4 ประการดังกล่าว ได้แก่ 1.การปฏิรูปทางการเมืองอย่างสัมฤทธิผล 2.การพื้นฟูความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในชาติ 3.การลดช่องว่างทางรายได้ระหว่างประชาชนในชนบทซึ่งเป็นประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ กับชนชั้นกลางในเมือง และ 4.การสร้างความแข็งแกร่งแก่หลักนิติธรรม
       
       พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลชั่วคราวได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีการดำเนินการที่ล่าช้าในการสืบสวนสอบสวนข้อกล่าวหาการคอร์รัปชั่นและการใช้อำนาจรัฐในทางที่ผิดโดยสมาชิกของรัฐบาลชุดที่ผ่านมา มีบางคนได้เรียกร้องให้มีการใช้อำนาจบริหารเพื่อลัดกระบวนการยุติธรรม แต่หากเรานำแนวทางดังกล่าวมาใช้ จะสามารถสร้างความแข็งแกร่งให้แก่หลักนิติธรรมได้อย่างไร ซึ่งการสืบสวนสอบสวนกำลังส่งผลที่เป็นรูปธรรม และเชื่อมั่นในคุณธรรมความเป็นอิสระของกระบวนการยุติธรรมของเรา ขณะเดียวกันเราก็ได้ทำงานอย่างหนักเพื่อยกเครื่องกระบวนการยุติธรรมอันเกี่ยวเนื่องกับความโปร่งใส ธรรมาภิบาล ในภาคราชการ และกำลังริเริ่มการปฏิรูปตำรวจครั้งใหญ่ที่สุดในหลายทศวรรษที่ผ่านมา
       
       นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงภาพของสังคมที่มีพลวัต มีความซับซ้อน ที่กำลังมุ่งเดินทางข้ามจุดเปลี่ยนผ่านที่สำคัญอีกจุดหนึ่งในประวัติศาสตร์สมัยใหม่อย่างสำเร็จ ไม่มีใครประเมินความยุ่งยากต่างๆ ที่เกี่ยวข้องต่ำเกินไป แต่ก็ยังเชื่อมั่นว่า ประชาชนทั้ง 64 ล้านคนของราชอาณาจักรไทยจะไปถึงเป้าหมายของการมีสังคมที่มีความยุติธรรมมากขึ้น ความเท่าเทียมกันมากขึ้น และความยั่งยืนยิ่งขึ้น
       
       นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวถึงการน้อมนำหลักปรัชญา “เศรษฐกิจพอเพียง” ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นหลักพื้นฐานในการพัฒนาประเทศของรัฐบาลว่า หมายความถึงเราจะมุ่งเน้นการเจริญเติบโตอย่างมั่นคง การมีระเบียบวินัยทางเศรษฐกิจมหภาคที่สมเหตุสมผล และการแบ่งผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่เท่าเทียมกันในระหว่างที่กำลังแข่งขันในโลกยุคโลกาภิวัตน์ การเจริญเติบโตอย่างมีคุณภาพหมายความว่าไทยจะให้ความสำคัญเพิ่มขึ้นแก่หลักธรรมาภิบาล และการจัดการความเสี่ยง
       
       แต่เรื่องดังกล่าวจะไม่มีผลต่อกลไกตลาด หรือมีอิทธิพลต่อการเปิดกว้างของเศรษฐกิจไทย ในความเป็นจริง “หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” เป็นแบบจำลองของไทยสำหรับความยั่งยืน ซึ่งความสำคัญของเรื่องนี้เริ่มเป็นที่ประจักษ์ไปทั่วโลก ในฐานะที่เป็นประเทศแรกๆ ที่นำหลักการพัฒนาที่ยั่งยืนมาใช้ นายกรัฐมนตรีเชื่อว่าประเทศไทยควรได้รับการยกย่อง เพราะในที่สุดทุกประเทศก็จะต้องนำหลักดังกล่าวมาใช้ไม่ช้าก็เร็ว
       



  เมื่อรถไฟจะเข้าชานชาลา  อาการเหล่านี้น่าจะเป็นอาการกระวนกระวายก่อนที่รถไฟจะถึง
ท่านเสรีพิสุทธิ์  ท่านก็เป้นคนจริงเหมือนกัน  คงรำคาญ เลยปราบพวกติดยาบ้าด้วยวิธีการนี้




---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


เปิดเว็บล่าชื่อปลดป๋าโดยเสรี “พล.อ.สุรยุทธ์-นายพล 4 ดาว 5 ดาว” สบายใจอยู่หรือ
 
โดย เซี่ยงเส้าหลง 2 เมษายน 2550 13:32 น.
 
 
       •• ถูกต้องแล้วที่ สันติบาล ตัดสินใจที่จะ ดำเนินคดี กับเว็บไซต์ที่เรียกร้องให้ประชาชนเข้ามาลงชื่อถวายฎีกาเพื่อปลดองคมนตรีและรัฐบุรุษ
       
       •• ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน, พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ (และจำเป็นต้องกล่าวถึง สิทธิชัย โภไคยอุดม) รวมตลอดถึง รัฐมนตรีคนอื่นที่เกี่ยวข้อง ท่านสบายใจดีอยู่หรือที่เปิดโอกาสให้สังคมไทยวันนี้ ล่ารายชื่อเพื่อถวายฎีกาปลดประธานองคมนตรีกันได้อย่างเสรี เพียงแต่มีเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ต่ออินเตอร์เน็ตได้แล้วเปิดเข้าไปในเว็บไซต์ www.TMCtoday.com แล้วคลิกเบา ๆ เข้าไปยังหน้า ร่วมลงนามถวายฎีกาปลด พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ออกจากองคมนตรี (ณ ที่อยู่ http://tmctoday.com/vote/vote5450.php) ทั้ง ๆ ที่ประเด็นนี้รัฐธรรมนูญทุกฉบับที่ผ่านมาและฉบับที่กำลังร่างกันอยู่ สงวน ไว้ให้เป็น พระราชอำนาจ – ตามพระราชอัธยาศัย ตัวอย่างจาก รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 ก็มีบัญญัติไว้ใน มาตรา 13 ชัดเจนว่า “...การเลือกและแต่งตั้งองคมนตรี หรือการให้องคมนตรีพ้นจากตำแหน่ง ให้เป็นไปตามพระราชอัธยาศัย.” และถ้าดูลึกเข้าไปถึงหนังสือถวายฎีกาสั้น ๆ ของคนกลุ่มนี้แล้วจะพบว่าไม่ได้เสนอให้ปลดป๋าเปรมออกจากเฉพาะตำแหน่ง องคมนตรี ยังเสนอให้ทรงปลดออกจากความเป็น รัฐบุรุษ ด้วยเหตุผลที่เลื่อนลอยไร้สาระ “...เนื่องจากมีการกระทำไม่เหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่ ไม่สมกับที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ ไม่มีสำนึกในการปกครองระบอบประชาธิปไตย โดยมีหลักฐานอย่างชัดแจ้งและเป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณชนทั่วไป.” และ ฯลฯ เป็นการกระทำที่อุกอาจสุด ๆ แต่รัฐบาลชุดนี้และคณะรัฐประหารชุดนี้ที่พอถึงวันปีใหม่ทีหรือครบรอบวันเกิดทีก็ยกขบวนกันไป อวยพรป๋า, ขอพรป๋า ซึ่งที่สุดแล้วก็แค่ อามิสบูชา น่าสนใจว่านายพล 5 ดาวประดามีเหล่านี้รู้จักหรือไม่กับคำว่า ปฏิบัติบูชา มิพักต้องให้ “เซี่ยงเส้าหลง” เฝ้าสีซอให้ฟังว่าเป้าหมายโจมตีสูงสุดของคนกลุ่มนี้ไม่ใช่แค่ ประธานองคมนตรี, รัฐบุรุษ แต่นี่คือส่วนต่อยอดของ ยุทธการชนฟ้า หรือถ้าพูดให้ถึงที่สุดนี่ก็ไม่ต่างจากส่วนต่อยอดของ ปฏิญญาฟินแลนด์ ที่เกิดขึ้นมาในยุค พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่นายรัฐมนตรีแสนดีคนปัจจุบันนี้ รับฝากดูแลลูกเมีย, หาที่ยืนให้ตามหลักสมานฉันท์ ไม่รู้เหมือนกันว่าผลแห่งความสมานฉันท์ในวันนี้จะนำพาให้สังคมไทยในวันหน้าอันไม่ไกลนักก้าวสู่ จุดเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ แต่ไหนอย่างไร พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน - พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ จะมีชื่อจารึกไว้ในประวัติศาสตร์อย่างไร
       
       •• ถ้าสื่อความถึง นายพล 4 ดาว 5 ดาว ผู้มีชื่อเสียงคับบ้านคับเมืองทั้งหลาย ไร้ผล บรรทัดนี้ “เซี่ยงเส้าหลง” ก็อยากจะสื่อถึงบรรดา นายทหารระดับคีย์แมนในแผนปฏิบัติการ ที่แฝงตัวเข้ามาในเมืองหลวงก่อนหน้า วันที่ 19 กันยายน 2549 อย่างน้อย ๆ ก็ 2-3 วัน หลายท่านในจำนวนนี้ไม่ได้มาเพราะเพียง คำสั่ง แต่มาด้วย จิตสำนึก ที่ตระหนักดีกว่า ประเทศชาติและราชบัลลังก์ตกอยู่ในภยันตรายชนิดที่ไม่อาจยับยั้งได้ด้วยมาตรการปกติ ท่านทั้งหลายในกลุ่มนี้เติบโตมาจากหน่วยที่รู้จักกันในนาม ทหารเสือพระราชินี ที่มีสีประจำหน่วยเป็น สีม่วง ท่านต้องไม่สบายใจอย่างยิ่งกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
       
       •• นับจาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา – ผช.ผบ.ทบ. ลงมาผ่าน พล.ท.ประยุทธ์ จันทร์โอชา – มทภ. 1 ไปยัง พล.ต.คณิต สาพิทักษ์ – ผบ.พล. 2 รอ. และทหารระดับปฏิบัติการทั้งใน พล. 2 รอ. และ ร. 21 รอ. หรือสูงขึ้นไปถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ – อดีต ผบ.ทบ. ล้วนเติบโตมาจาก สีม่วง มีส่วน เกี่ยวข้องโดยตรงชนิดเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย กับปฏิบัติการเมื่อ 6 เดือนก่อนทั้งสิ้น “เซี่ยงเส้าหลง” ว่าพวกท่าน ไม่สบายใจกับสถานการณ์ปัจจุบัน เช่นกันแต่ก็ ไม่รู้จะทำอะไร นี่คือความจริงที่ต้องยอมรับ
       
       •• คำว่า สีม่วง ที่เป็นสีประจำหน่วยของ ทหารเสือพระราชินี ที่จริงแล้วคือ หัวใจสีม่วง หมายความว่า เป็นผู้ที่จงรักภักดีสูงสุด, ผู้บริสุทธิ์ ผู้มีความซื่อสัตย์ สุจริต และจริงใจเป็นที่ตั้ง ทั้งนี้เพราะเหตุผล “...ผู้ที่ใกล้เสียชีวิตหัวใจจะกลายจากสีแดงเป็นสีม่วง และในห้วงเวลานั้น ผู้นั้นจะไม่มีการพูดปดโกหกหรือปิดบังสิ่งใด ๆ.” สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถได้ทรงพระราชทาน หัวใจสีม่วง นี้แก่กำลังพลใน ร. 21 รอ. ทุกนายด้วยทรงมุ่งหวัง “...ให้กำลังพลทหารเสือทุกนายเป็นผู้มีความสื่อสัตย์ สุจริต และจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์.” นี่เป็นเรื่องที่ทหารส่วนใหญ่รู้แต่คนทั่วไปอาจจะไม่รู้

 
 
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9500000037805
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-04-2007, 13:42 โดย รวงข้าวล้อลม » บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
cameronDZ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,827


my memory


« ตอบ #1 เมื่อ: 03-04-2007, 13:45 »

"ผมสามารถบอกได้ว่าเรากำลังเข้าใกล้บทสุดท้ายเกี่ยวกับอนาคตของพ.ต.ท.ทักษิณ" พล.อ.สุรยุทธ์กล่าวกับผู้สื่อข่าวในกรุงโตเกียว


*********


ไม่ต้องบอก คนเขาก็รู้กันทั้งเมืองแล้วละลุง ว่าอนาคตของทักษิณ จะป็นยังไง
กร๊ากกกกกกกกกก


(อย่าไปสนใจอนาคตคนอื่นเลย สนตัวลุงเองเหอะ ว่าอดีต ผบ.ทบ. ผบ.สส. อดีตองคมนตรี จะมีอนาคตเป็นยังไง จะมีแผ่นดินให้อยู่ ในบั้นปลายชีวิตตัวเอง อ๊ะเป่า)
บันทึกการเข้า

ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา
จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย
...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ...
แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก
...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...
visitna
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 209



« ตอบ #2 เมื่อ: 03-04-2007, 13:51 »

ไม่เชื่อ  จนกว่าจะถึงวันนั้น
บันทึกการเข้า
qazwsx
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


นักธุรกิจและตำรวจ ต้องออกไปจากการเมือง


« ตอบ #3 เมื่อ: 03-04-2007, 14:37 »

เข้าแบบวันก่อนที่หัวลำโพงรึเปล่า
ข้อต่อหลุด - โบกี้ไหล
เกือบทับเด็ก 7 ขวบตาย
( ถ้าตาย...คงมีคนซื้อ "74" แล้วโดนกองสลากแด๊กส์เรียบ )
บันทึกการเข้า

skl98
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 227


เป็นเสือในป่า ดีกว่าเป็นหมาในกรุง


« ตอบ #4 เมื่อ: 03-04-2007, 14:38 »

ท่านสุรยุทธ์ มีส่วนร่วมในการตรวจสอบตรงไหนหรือ

ถึงได้ไปกล่าวเยี่ยงนั้น ประหนึ่งว่าเป็นผลงานของตน
บันทึกการเข้า

บรรพบุรุษ ของไทย แต่โบราณ          ปกบ้าน ป้องเมือง คุ้มเหย้า          เสียเลือด เสียเนื้อ มิใช่เบา             หน้าที่เรา รักษา สืบไป         
ลูกหลาน เหลนโหลน ภายหน้า          จะได้มี พสุธา อาศัย                   อนาคต จะต้องมี ประเทศไทย         มิยอมให้ ผู้ใด มาทำลาย         
ถึงขู่ฆ่า ล้างโคตร ก็ไม่หวั่น                จะสู้กัน ไม่หลบ หนีหาย             สู้ตรงนี้ สู้ที่นี่ สู้จนตาย                     ถึงเป็นคน สุดท้าย ก็ลองดู         
บ้านเมืองเรา เราต้อง รักษา               อยากทำลาย เชิญมา เราสู้         เกียรติศักดิ์ ของเรา เราเชิดชู           เราสู้ ไม่ถอย จนก้าวเดียว.....
                                                                     
เซอร์เวย์
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 168



« ตอบ #5 เมื่อ: 03-04-2007, 15:16 »

รอดูฉากสุดท้ายเหมือนกันว่าจะ happy ending หรือจะเป็นมวยล้มต้มคนดู ต้องวัดใจกัน คณะทำงานทั้งหมดที่สอบสวนเอาผิดพวกโกงชาติแล้ว

 
บันทึกการเข้า

หัวใจถูกแทงกี่ขั้ว ตามตัวถูกฟันกี่แผล
ปู่ไทยตายไปกี่คนแน่ ไทยจึงได้แผ่มาถึงแหลมทอง
กระดูกไทยกระเด็นไปกี่ท่อน เชิงตะกอนเผาไปกี่หน
คอขาดกันไปกี่คน ไทยทุกคนจึงได้ไทยครอบครอง
เสียเลือดกันไปเท่าไหร่ เสียใจกันไปกี่ครั้ง
น้ำตาของไทยไหลหลั่ง ทุกๆครั้งที่ถูกเฉือนขวานทอง
เข่นฆ่ากันทำไม เราเป็นคนไทยด้วยกันทั้งผอง
ไทยฆ่าไทย ให้ชาติอื่นครอง
วิญญาณปู่จะร้องไอ้ลูกหลานจั***
ไทยฆ่าไทยให้ชาติอื่นครอง
วิญญาณปู่จะร้องไอ้ลูกหลานจั***
วิญญาณปู่จะร้องไอ้ลูกหลานจั***
justy
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,250



« ตอบ #6 เมื่อ: 03-04-2007, 17:16 »

เรื่องแม้วจะกลับไทย

สุรยุดบอกว่า กลับได้

พอวันถัดไป...

สุรยุดบอกว่า ยังกลับไม่ได้

อยู่ๆท่านก็ต่อสายพูดกับแม้ว แล้วบางอย่างท่านก็เปลี่ยนไป

และก็บอกว่า แม้วจะกลับมาเมื่อไหร่ เป็นสิทธิ์ของแม้ว

เป็นมาแบบนี้ มากี่ครั้งแล้ว อ่านแล้วเซ็ง

เพราะฉะนั้นที่ท่านพูดที่ญี่ปุ่นวันนี้  ....ก็ขอ สาธู๊ ขอให้ท่านพูดด้วยความจริงใจเท๊อะ

บันทึกการเข้า

พรรคไทยรักไทยมิได้ให้ความสำคัญหรือเห็นคุณค่าของสิทธิเลือกตั้งของประชาชน อันเป็นรากฐานสำคัญของการปกครองระบอบประชาธิปไตย นอกจากนี้ยังแสดงถึงการไม่เคารพยำเกรงต่อกฎหมายบ้านเมือง ทั้งที่พรรคไทยรักไทยเป็นพรรคการเมืองที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนสูงสุดในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอันเป็นการเลือกตั้งทั่วไปก่อนหน้านี้ 2 ครั้ง ควรต้องสร้างความยั่งยืนให้แก่การปกครองระบอบประชาธิปไตย โดยมั่นคงกับหลักการที่ว่า กฎหมายต้องอยู่เหนือสิ่งอื่นใด ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นข้อบ่งชี้ด้วยว่า พรรคไทยรักไทย มิได้มีอุดมการณ์ทางการเมืองที่มุ่งพัฒนาประเทศชาติเพื่อให้คนในชาติมีความสุขทั่วหน้าดังที่ได้รณรงค์หาเสียงไว้ต่อประชาชนอย่างแท้จริง หากแต่มุ่งประสงค์เพียงดำเนินการในทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ นอกเหนือจากครรลองที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศตลอดจนบทกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องที่หาอุดมการณ์อันแท้จริงของพรรคให้เกิดความมั่นใจแก่ประชาชนโดยรวมว่า เมื่อเป็นรัฐบาลมีอำนาจบริหารราชการแผ่นดินแล้ว จะดำเนินการปกครองโดยสุจริต ไม่ประพฤติมิชอบหรือบริหารราชการแผ่นดินโดยแอบแฝงไว้ซึ่งผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อ
เซอร์เวย์
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 168



« ตอบ #7 เมื่อ: 03-04-2007, 18:40 »

^^^^^

กลับไม่กลับไม่ได้เกี่ยวกับนายกสุรยุทธ์หรอกครับคนที่จะบอกได้ต้อง ประธาน คมช. เท่านั้น

บันทึกการเข้า

หัวใจถูกแทงกี่ขั้ว ตามตัวถูกฟันกี่แผล
ปู่ไทยตายไปกี่คนแน่ ไทยจึงได้แผ่มาถึงแหลมทอง
กระดูกไทยกระเด็นไปกี่ท่อน เชิงตะกอนเผาไปกี่หน
คอขาดกันไปกี่คน ไทยทุกคนจึงได้ไทยครอบครอง
เสียเลือดกันไปเท่าไหร่ เสียใจกันไปกี่ครั้ง
น้ำตาของไทยไหลหลั่ง ทุกๆครั้งที่ถูกเฉือนขวานทอง
เข่นฆ่ากันทำไม เราเป็นคนไทยด้วยกันทั้งผอง
ไทยฆ่าไทย ให้ชาติอื่นครอง
วิญญาณปู่จะร้องไอ้ลูกหลานจั***
ไทยฆ่าไทยให้ชาติอื่นครอง
วิญญาณปู่จะร้องไอ้ลูกหลานจั***
วิญญาณปู่จะร้องไอ้ลูกหลานจั***
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #8 เมื่อ: 03-04-2007, 19:25 »

รอชมด้วยใจไม่ระทึกค่ะ 

ขิงแก่ ทหารเก่า เค้าทำอะไรกัน วัยรุ่นใจร้อนก็งง  ขัดใจกันก็ร้องดิ้นปั๊ดๆๆ งอแงกันไปเรื่อย

ผลสรุปสุดท้าย ออกมาเมื่อไหร่  ขิงแก่ ทหารเก่า เค้าก็สบายตัว  วัยรุ่นก็คงงง  เค้าทำได้ไงหว่า 
บันทึกการเข้า
Limmy
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,346


« ตอบ #9 เมื่อ: 03-04-2007, 21:29 »

เวลากวนกระยาสารทกันที่วัด คนเฒ่าคนแก่บอกว่า เวลาที่กระยาสารทยิ่งงวด กลิ่นก็จะลอยไปถึงหลังวัด ผีเปรตก็จะยิ่งร้องระงม

ตอนนี้กระยาสารทงวดขึ้นเรื่อย ๆ เติมไฟอีกสักนิด ผีเปรตคงลงไปชักแดดิ้น
บันทึกการเข้า
room5
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 573



« ตอบ #10 เมื่อ: 03-04-2007, 23:50 »

ท่าทางเมษาปีันี้จะมีอะไรเด็ดๆๆๆๆ
บันทึกการเข้า
Body&Soul
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 370



« ตอบ #11 เมื่อ: 03-04-2007, 23:59 »

สงสัยต้องมารอฟังเพลง ฮาวาย ไฟพ์ โอจังหวะครื้นเครงดี
บันทึกการเข้า
ริวเซย์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,637


Worrior in The Blue Armor


เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: 04-04-2007, 12:44 »

ขอให้จริงเถอะครับ สาธุ   
บันทึกการเข้า

ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^


ไฟฉาย
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 24


« ตอบ #13 เมื่อ: 04-04-2007, 14:02 »

  เป็นผลงานของใคร  คตส.   นายก?

                 มติ  ครม. ?



           ที่ท่านรับปากจะดูแลลูก  เมีย  ?


          การต่อสายคุยกับ  ทักษิณ    ทำไม?
บันทึกการเข้า
visitna
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 209



« ตอบ #14 เมื่อ: 06-04-2007, 05:50 »

ไอทีวีก็เหมือนกัน ต้องจัดการให้เด็ดขาด
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9500000039836
บันทึกการเข้า
aoporadio
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 404


« ตอบ #15 เมื่อ: 06-04-2007, 15:22 »

  เป็นผลงานของใคร  คตส.   นายก?

                 มติ  ครม. ?



           ที่ท่านรับปากจะดูแลลูก  เมีย  ?


          การต่อสายคุยกับ  ทักษิณ    ทำไม?



สงกาสัยว่า นาย แอ๊ด จะ แบล๊กเมล์ นายแม้ว
แต่นาย แม้ว แบล๊คเมล์ แบบ แบ๊ค อัฟ(หรือ ฟัก อัพ ก็บ่ฮู้ อิอิอิ  ) นาย แอ็ด คืน

นายแอ็ด กลัวแปดเปื้อน หน้าไม่หนา เท่านายแม้ว

จึงเกิดการ ต้าเอี๋ย ประหนึ่งว่า เป็นเมียผัว กันขึ้น

ประชาจึงซวย ทั้งขึ้น ทั้งล่อง

บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: