ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
20-04-2024, 02:02
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ศ.ก.ไทยปริ่มวิกฤติ 40 รายได้รัฐหด-อัตราใช้กำลังผลิตรูด (จะเจ๊งก็รีบซะ เบื่อว่ะ) 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ศ.ก.ไทยปริ่มวิกฤติ 40 รายได้รัฐหด-อัตราใช้กำลังผลิตรูด (จะเจ๊งก็รีบซะ เบื่อว่ะ)  (อ่าน 1437 ครั้ง)
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« เมื่อ: 30-03-2007, 10:59 »

เศรษฐกิจไทยปริ่มวิกฤติปี 40 รายได้รัฐหด-อัตรา การใช้กำลังการผลิตรูด 62.3% [30 มี.ค. 50 - 04:34]

นางพรรณี สถาวโรดม ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจการคลังในเดือน ก.พ. ยังคงได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการเบิกจ่ายงบประมาณที่เร่งตัวสูงขึ้น ถึงแม้ว่าการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนยังคงชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ การเบิกจ่ายในเดือน ก.พ. ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนถึง 78.2% โดยรายจ่ายรวมมีจำนวน 200,400 ล้านบาท แบ่งเป็นรายจ่ายประจำ 136,900 ล้านบาท รายจ่ายลงทุน 54,400 ล้านบาท และรายจ่ายเหลื่อมปี 9,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม แม้รายได้จัดเก็บสุทธิของรัฐบาลในเดือนนี้ จะใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ 103,100 ล้านบาท แต่อัตราการขยายตัวของรายได้ ที่ชะลอลงจากเดือนก่อนมาอยู่ที่ 2.8% ต่อปี บ่งชี้ถึง ภาวการณ์การใช้จ่ายภายในประเทศที่ชะลอลง

สำหรับเครื่องชี้ด้านอุปทาน พบว่า ดัชนีผลผลิตการเกษตรขยายตัว 8.7% ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนที่ขยายตัว 5.3% เนื่องจากผลผลิตสินค้าเกษตรสำคัญ ได้แก่ ข้าว และอ้อย ขยายตัวเพิ่มขึ้น จากที่หดตัวถึง -7.1% ในเดือน ม.ค. มาหดตัวลดลงที่ -1.3% ส่วนการผลิตภาคอุตสาหกรรม บ่งชี้ ว่าการขยายตัวชะลอลง โดยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ขยายตัวเพิ่มขึ้น 6.2% ลดลงจากเดือนก่อนที่ขยายตัว 8.2% อุตสาหกรรมที่ชะลอตัวลง ได้แก่ ยานยนต์ ที่ผลิตลดลงตามการใช้จ่ายภายในประเทศที่ลดลง สิ่งทอซึ่งลดลงต่อเนื่องจากปีก่อน และการผลิตในหมวดเคมีภัณฑ์ที่มีการปิดซ่อมบำรุงโรงงานบางแห่ง เป็นต้น

ส่วนอุตสาหกรรมผลิตเพื่อส่งออกบางประเภท เช่น อุตสาหกรรมการผลิต Hard Disk Drive และแผงวงจรไฟฟ้า ยังสามารถขยายตัว ได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิตปรับตัวลดลงไปอยู่ที่ระดับ 62.3% สอดคล้องกับการชะลอตัวลงของดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ในด้านเครื่องชี้ภาคบริการโดยเฉพาะการท่องเที่ยวพบว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทยมีจำนวนประมาณ 1.27 ล้านคน

“สิ่งที่ สศค.เป็นห่วงคือ การใช้จ่ายภายในประเทศยังคงชะลอลงต่อเนื่อง โดยเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนจากภาษีมูลค่าเพิ่มในเดือน ก.พ. ขยายตัวที่ 4.6% ต่อปี ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัว 6.9% ต่อปี ซึ่งสอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อเศรษฐกิจไทยที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่องในช่วง 6 เดือน เนื่องจากราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ความไม่ แน่นอนทางการเมือง และความไม่แน่นอนในทิศทางเศรษฐกิจไทยในอนาคต ส่วนเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชน ยังคงมีแนวโน้มชะลอตัว ดังจะเห็นได้จากภาษีที่จัดเก็บจากธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ยังคงหดตัวอย่างต่อเนื่องที่ -0.6%”

สำหรับการส่งออกในเดือน ม.ค.ที่มีมูลค่า 10,490 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 17.7% ต่อปี เพิ่มขึ้นจากเดือน ธ.ค.2549 ที่ขยายตัว 16.5% ดังนั้นการส่งออกจึงยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ส่วนการนำเข้ามีมูลค่ารวม 9,610 ล้านเหรียญ ขยายตัว 2.4% ลดลงจากเดือนก่อนที่ขยายตัว 5.1% สอดคล้องกับอุปสงค์ในประเทศที่ชะลอลง โดยดุลการค้าเกินดุล 880 ล้านเหรียญติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 (ส.ค.49-ม.ค.50) ทำให้ สศค.ยังคงประมาณการเศรษฐกิจในปีนี้ขยายตัวที่ 4-4.5% เท่าเดิม

ส่วนเสถียรภาพภายในและภายนอกยังอยู่ ในระดับที่แข็งแกร่งมาก โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของเดือน ก.พ.ขยายตัวต่ำ 2.3% ปรับตัวลดลงจาก 3.0% ในเดือนก่อน หนี้สาธารณะในเดือน ม.ค.ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 37.4% ต่ำกว่ากรอบความยั่งยืนทางการคลังที่ตั้งไว้ 50% ค่อนข้างมาก นางพรรณี ยังให้ความเห็นเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ด้วยว่า หากอัตราดอกเบี้ยนโยบายดังกล่าวจะปรับลดลงมาอยู่ในระดับ 3.75-4.25% ก็จะช่วยจูงใจ และกระตุ้นให้เกิดการลงทุน และการบริโภคขยายตัวได้มากขึ้น

ส่วนมาตรการอื่นๆที่จะนำเข้ามาช่วยเสริมทั้งในระยะสั้น และกลาง ขณะนี้ยังไม่มี คงมีแต่เรื่องสิทธิประโยชน์ทางภาษีของบริษัทจดทะเบียนในปัจจุบันเท่านั้นที่กระทรวงการคลังอนุมัติให้ไปก่อนหน้า พร้อมๆกับความพยายามในการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ และรัฐวิสาหกิจ “สศค.เห็นว่า อัตราดอกเบี้ยควรลดลงมากกว่าที่ได้ทำไปแล้ว เพราะเงินเฟ้อลดลงอย่างเห็นได้ชัด ดอกเบี้ยจึงควรลดลงถึงระดับที่จูงใจให้การลงทุนกลับมา และเป็นตัวหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ”.

http://www.thairath.co.th/news.php?section=economic&content=41866


เขาบอกให้ปราบคนชั่ว เผด็จอำนาจสร้างความเชื่อมั่น ก็ไม่ทำ เสือกกระแดะเป็นประชาธิปไตย สมานฉันท์กับตะกวด ไอ้ฤาษีเลี้ยงตะกวด กลับอาศรมไป๊ !!!

อัปรีย์ไป จัญไsมา เจงๆ

จะเจ๊งก็รีบๆเจ๊งเดี๋ยวนี้เลย จะได้มากวาดเก็บซากของถูกลดราคากันใหม่    ใคร diversify ไปจากประเทศสาระขันแล้วก็เตรียมเก็บเกี่ยวดอกผลไปนะคร๊าบบบบ  ใครมัวหลงฟองสบู่ "โจรหน้าเหลี่ยม" กับ "ฤาษีเลี้ยงตะกวด" งานนี้เละกว่า 40 เพราะสถานการณ์การเมืองเละกว่าอีก ตัวใครตัวมันนะคร๊าบบบ
บันทึกการเข้า

The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #1 เมื่อ: 30-03-2007, 11:04 »

เศรษฐกิจไทยดีเยี่ยมเพราะทุกอย่างได้รับการปัดกวาดให้เข้าที่เข้าทางแล้ว เพียงแต่คนไทยเราต้องรู้จักการอยู่อย่างพอเพียงและเลิกนิสัยฟุ้งเฟื้อเสียที ประเทศไทยเราอยู่ได้แน่นอนครับ
บันทึกการเข้า
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 30-03-2007, 11:12 »

เศรษฐกิจไทยดีเยี่ยมเพราะทุกอย่างได้รับการปัดกวาดให้เข้าที่เข้าทางแล้ว เพียงแต่คนไทยเราต้องรู้จักการอยู่อย่างพอเพียงและเลิกนิสัยฟุ้งเฟื้อเสียที ประเทศไทยเราอยู่ได้แน่นอนครับ

555+ อมขี้ปากฤาษีเลี้ยงตะกวดหัวเหลี่ยมมาพูดเหรอจ๊ะ
บันทึกการเข้า

The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #3 เมื่อ: 30-03-2007, 11:16 »

เศรษฐกิจไทยดีเยี่ยมเพราะทุกอย่างได้รับการปัดกวาดให้เข้าที่เข้าทางแล้ว เพียงแต่คนไทยเราต้องรู้จักการอยู่อย่างพอเพียงและเลิกนิสัยฟุ้งเฟื้อเสียที ประเทศไทยเราอยู่ได้แน่นอนครับ

555+ อมขี้ปากฤาษีเลี้ยงตะกวดหัวเหลี่ยมมาพูดเหรอจ๊ะ

ผมเป็นคนไม่โลเลครับ ครั้งหนึ่งผมและครอบครัวออกมาให้ดอกไม้ทหารเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2549   วันนี้ผมและครอบครัวก็ไม่รู้สึกผิดหวังใดๆต่อการรัฐประหารดังกล่าว ผมเชื่อมั่นว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยเห็นด้วยกับผมและพร้อมจะสนับสนุนให้ทหารนำพาประเทศชาติให้พ้นภัยต่อไป กรุณาอย่าทำตัวเป็นกบเลือกนายเลยครับ
บันทึกการเข้า
อมพระมาพูด
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 918


สนิมเกิดแต่เนื้อในตน


« ตอบ #4 เมื่อ: 30-03-2007, 11:40 »

เศรษฐกิจไทยดีเยี่ยมเพราะทุกอย่างได้รับการปัดกวาดให้เข้าที่เข้าทางแล้ว เพียงแต่คนไทยเราต้องรู้จักการอยู่อย่างพอเพียงและเลิกนิสัยฟุ้งเฟื้อเสียที ประเทศไทยเราอยู่ได้แน่นอนครับ

555+ อมขี้ปากฤาษีเลี้ยงตะกวดหัวเหลี่ยมมาพูดเหรอจ๊ะ

ผมเป็นคนไม่โลเลครับ ครั้งหนึ่งผมและครอบครัวออกมาให้ดอกไม้ทหารเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2549   วันนี้ผมและครอบครัวก็ไม่รู้สึกผิดหวังใดๆต่อการรัฐประหารดังกล่าว ผมเชื่อมั่นว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยเห็นด้วยกับผมและพร้อมจะสนับสนุนให้ทหารนำพาประเทศชาติให้พ้นภัยต่อไป กรุณาอย่าทำตัวเป็นกบเลือกนายเลยครับ

เฮ้ย...ม่ายช่ายอะไรจ๊ะหนิหว่า  เราไม่ใช่เด็กๆ นะ "จ๊ะ"  เนี่ย "จ๊ะ" คนเดิมใส่ชุดสีชมพู แขนซ้ายมีชิวาว่า ดูดโออิชิอยู่น่ะ ไปไหน ? ....
บันทึกการเข้า

พึงทำความเพียรในวันนี้ ใครเล่าจะรู้วันตายในวันพรุ่ง
ScaRECroW
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,000


สุสูสัง ลภเต ปัญญัง - ผู้ฟังดี ย่อมเกิดปัญญา


เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 30-03-2007, 12:27 »

เศรษฐกิจไทยปริ่มวิกฤติปี 40 รายได้รัฐหด-อัตรา การใช้กำลังการผลิตรูด 62.3% [30 มี.ค. 50 - 04:34]

นางพรรณี สถาวโรดม ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจการคลังในเดือน ก.พ. ยังคงได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการเบิกจ่ายงบประมาณที่เร่งตัวสูงขึ้น ถึงแม้ว่าการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนยังคงชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ การเบิกจ่ายในเดือน ก.พ. ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนถึง 78.2% โดยรายจ่ายรวมมีจำนวน 200,400 ล้านบาท แบ่งเป็นรายจ่ายประจำ 136,900 ล้านบาท รายจ่ายลงทุน 54,400 ล้านบาท และรายจ่ายเหลื่อมปี 9,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม แม้รายได้จัดเก็บสุทธิของรัฐบาลในเดือนนี้ จะใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ 103,100 ล้านบาท แต่อัตราการขยายตัวของรายได้ ที่ชะลอลงจากเดือนก่อนมาอยู่ที่ 2.8% ต่อปี บ่งชี้ถึง ภาวการณ์การใช้จ่ายภายในประเทศที่ชะลอลง

สำหรับเครื่องชี้ด้านอุปทาน พบว่า ดัชนีผลผลิตการเกษตรขยายตัว 8.7% ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนที่ขยายตัว 5.3% เนื่องจากผลผลิตสินค้าเกษตรสำคัญ ได้แก่ ข้าว และอ้อย ขยายตัวเพิ่มขึ้น จากที่หดตัวถึง -7.1% ในเดือน ม.ค. มาหดตัวลดลงที่ -1.3% ส่วนการผลิตภาคอุตสาหกรรม บ่งชี้ ว่าการขยายตัวชะลอลง โดยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ขยายตัวเพิ่มขึ้น 6.2% ลดลงจากเดือนก่อนที่ขยายตัว 8.2% อุตสาหกรรมที่ชะลอตัวลง ได้แก่ ยานยนต์ ที่ผลิตลดลงตามการใช้จ่ายภายในประเทศที่ลดลง สิ่งทอซึ่งลดลงต่อเนื่องจากปีก่อน และการผลิตในหมวดเคมีภัณฑ์ที่มีการปิดซ่อมบำรุงโรงงานบางแห่ง เป็นต้น

ส่วนอุตสาหกรรมผลิตเพื่อส่งออกบางประเภท เช่น อุตสาหกรรมการผลิต Hard Disk Drive และแผงวงจรไฟฟ้า ยังสามารถขยายตัว ได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิตปรับตัวลดลงไปอยู่ที่ระดับ 62.3% สอดคล้องกับการชะลอตัวลงของดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ในด้านเครื่องชี้ภาคบริการโดยเฉพาะการท่องเที่ยวพบว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทยมีจำนวนประมาณ 1.27 ล้านคน

“สิ่งที่ สศค.เป็นห่วงคือ การใช้จ่ายภายในประเทศยังคงชะลอลงต่อเนื่อง โดยเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนจากภาษีมูลค่าเพิ่มในเดือน ก.พ. ขยายตัวที่ 4.6% ต่อปี ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัว 6.9% ต่อปี ซึ่งสอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อเศรษฐกิจไทยที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่องในช่วง 6 เดือน เนื่องจากราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ความไม่ แน่นอนทางการเมือง และความไม่แน่นอนในทิศทางเศรษฐกิจไทยในอนาคต ส่วนเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชน ยังคงมีแนวโน้มชะลอตัว ดังจะเห็นได้จากภาษีที่จัดเก็บจากธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ยังคงหดตัวอย่างต่อเนื่องที่ -0.6%”

สำหรับการส่งออกในเดือน ม.ค.ที่มีมูลค่า 10,490 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 17.7% ต่อปี เพิ่มขึ้นจากเดือน ธ.ค.2549 ที่ขยายตัว 16.5% ดังนั้นการส่งออกจึงยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ส่วนการนำเข้ามีมูลค่ารวม 9,610 ล้านเหรียญ ขยายตัว 2.4% ลดลงจากเดือนก่อนที่ขยายตัว 5.1% สอดคล้องกับอุปสงค์ในประเทศที่ชะลอลง โดยดุลการค้าเกินดุล 880 ล้านเหรียญติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 (ส.ค.49-ม.ค.50) ทำให้ สศค.ยังคงประมาณการเศรษฐกิจในปีนี้ขยายตัวที่ 4-4.5% เท่าเดิม

ส่วนเสถียรภาพภายในและภายนอกยังอยู่ ในระดับที่แข็งแกร่งมาก โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของเดือน ก.พ.ขยายตัวต่ำ 2.3% ปรับตัวลดลงจาก 3.0% ในเดือนก่อน หนี้สาธารณะในเดือน ม.ค.ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 37.4% ต่ำกว่ากรอบความยั่งยืนทางการคลังที่ตั้งไว้ 50% ค่อนข้างมาก นางพรรณี ยังให้ความเห็นเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ด้วยว่า หากอัตราดอกเบี้ยนโยบายดังกล่าวจะปรับลดลงมาอยู่ในระดับ 3.75-4.25% ก็จะช่วยจูงใจ และกระตุ้นให้เกิดการลงทุน และการบริโภคขยายตัวได้มากขึ้น

ส่วนมาตรการอื่นๆที่จะนำเข้ามาช่วยเสริมทั้งในระยะสั้น และกลาง ขณะนี้ยังไม่มี คงมีแต่เรื่องสิทธิประโยชน์ทางภาษีของบริษัทจดทะเบียนในปัจจุบันเท่านั้นที่กระทรวงการคลังอนุมัติให้ไปก่อนหน้า พร้อมๆกับความพยายามในการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ และรัฐวิสาหกิจ “สศค.เห็นว่า อัตราดอกเบี้ยควรลดลงมากกว่าที่ได้ทำไปแล้ว เพราะเงินเฟ้อลดลงอย่างเห็นได้ชัด ดอกเบี้ยจึงควรลดลงถึงระดับที่จูงใจให้การลงทุนกลับมา และเป็นตัวหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ”.

http://www.thairath.co.th/news.php?section=economic&content=41866


เขาบอกให้ปราบคนชั่ว เผด็จอำนาจสร้างความเชื่อมั่น ก็ไม่ทำ เสือกกระแดะเป็นประชาธิปไตย สมานฉันท์กับตะกวด ไอ้ฤาษีเลี้ยงตะกวด กลับอาศรมไป๊ !!!

อัปรีย์ไป จัญไsมา เจงๆ

จะเจ๊งก็รีบๆเจ๊งเดี๋ยวนี้เลย จะได้มากวาดเก็บซากของถูกลดราคากันใหม่    ใคร diversify ไปจากประเทศสาระขันแล้วก็เตรียมเก็บเกี่ยวดอกผลไปนะคร๊าบบบบ  ใครมัวหลงฟองสบู่ "โจรหน้าเหลี่ยม" กับ "ฤาษีเลี้ยงตะกวด" งานนี้เละกว่า 40 เพราะสถานการณ์การเมืองเละกว่าอีก ตัวใครตัวมันนะคร๊าบบบ



อ่านแต่ตรงที่เป็นสีแดง ไม่ได้อ่านตรงสีฟ้าเหรอครับ หรือว่าอ่านเฉพาะตรงสีแดงที่ขีดเส้นใต้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-03-2007, 12:30 โดย ScaRECroW » บันทึกการเข้า

Politic is nothing but the continuation of [the sin of] 7 by other means.

ท่านคิดว่า นรม. ควรทำอย่างไรเมื่อพบว่ากฏหมายบางฉบับมีช่องโหว่?
ก.ใช้อำนาจ นรม.ที่ได้รับมาจากประชาชนแก้กฏหมายเพื่อปิดช่องโหว่เหล่านั้น เพราะเป็นประโยชน์ของแผ่นดิน
ข.ฉวยโอกาสใช้ช่องโหว่เหล่านั้นเพื่อประโยชน์ของตนเองและคนรอบข้าง แล้วก็อ้างว่าคนอื่นเขาก็ทำกัน
buntoshi
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,348



« ตอบ #6 เมื่อ: 30-03-2007, 14:51 »

เศรษฐกิจไทยดีเยี่ยมเพราะทุกอย่างได้รับการปัดกวาดให้เข้าที่เข้าทางแล้ว เพียงแต่คนไทยเราต้องรู้จักการอยู่อย่างพอเพียงและเลิกนิสัยฟุ้งเฟื้อเสียที ประเทศไทยเราอยู่ได้แน่นอนครับ

555+ อมขี้ปากฤาษีเลี้ยงตะกวดหัวเหลี่ยมมาพูดเหรอจ๊ะ

ผมเป็นคนไม่โลเลครับ ครั้งหนึ่งผมและครอบครัวออกมาให้ดอกไม้ทหารเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2549   วันนี้ผมและครอบครัวก็ไม่รู้สึกผิดหวังใดๆต่อการรัฐประหารดังกล่าว ผมเชื่อมั่นว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยเห็นด้วยกับผมและพร้อมจะสนับสนุนให้ทหารนำพาประเทศชาติให้พ้นภัยต่อไป กรุณาอย่าทำตัวเป็นกบเลือกนายเลยครับ

เฮ้ย...ม่ายช่ายอะไรจ๊ะหนิหว่า  เราไม่ใช่เด็กๆ นะ "จ๊ะ"  เนี่ย "จ๊ะ" คนเดิมใส่ชุดสีชมพู แขนซ้ายมีชิวาว่า ดูดโออิชิอยู่น่ะ ไปไหน ? ....

555 มันไม่ใช่อ่ะจ๊ะ 
บันทึกการเข้า


เราต้องสร้างคนดีมากกว่าคนเก่ง เพราะคนเก่งจะเห็นคนอื่นเก่งกว่าไม่ได้ จะพยายามเก่งกว่าคนอื่น แต่คนดีจะมีความสุขที่ได้ทำให้คนอื่นเก่ง รวมทั้งคนดีทุกคน ล้วนเก่งทั้งนั้น....  ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา
---------------------------
Kittinunn
Aloha007
Global Moderator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,127


ไปได้สวย...ด้วยเกียร์ต่ำ!!!


เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 30-03-2007, 17:38 »

เศรษฐกิจไทยดีเยี่ยมเพราะทุกอย่างได้รับการปัดกวาดให้เข้าที่เข้าทางแล้ว เพียงแต่คนไทยเราต้องรู้จักการอยู่อย่างพอเพียงและเลิกนิสัยฟุ้งเฟื้อเสียที ประเทศไทยเราอยู่ได้แน่นอนครับ

555+ อมขี้ปากฤาษีเลี้ยงตะกวดหัวเหลี่ยมมาพูดเหรอจ๊ะ

ผมเป็นคนไม่โลเลครับ ครั้งหนึ่งผมและครอบครัวออกมาให้ดอกไม้ทหารเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2549   วันนี้ผมและครอบครัวก็ไม่รู้สึกผิดหวังใดๆต่อการรัฐประหารดังกล่าว ผมเชื่อมั่นว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยเห็นด้วยกับผมและพร้อมจะสนับสนุนให้ทหารนำพาประเทศชาติให้พ้นภัยต่อไป กรุณาอย่าทำตัวเป็นกบเลือกนายเลยครับ

เฮ้ย...ม่ายช่ายอะไรจ๊ะหนิหว่า  เราไม่ใช่เด็กๆ นะ "จ๊ะ"  เนี่ย "จ๊ะ" คนเดิมใส่ชุดสีชมพู แขนซ้ายมีชิวาว่า ดูดโออิชิอยู่น่ะ ไปไหน ? ....

555 มันไม่ใช่อ่ะจ๊ะ 

ดูดไอติมวอลล์ คอนเต็ตโต้ ครับ Razz
บันทึกการเข้า

“ผมเขียนไปในบล็อกนั้น แบบข้างบนนี้เหมือนกัน นึกว่า จะโพสต์ ปรากฏว่า เขาบอกว่า ต้อง สมัครสมาชิกก่อน ผมขี้เกียจ เลยมาโพสต์ที่นี่แทน อ้อ ตอนเขียน ผมใส่คำว่า ทุเรศ และ น่าสมเพช ไปด้วย” (อ.สมศักดิ์ เจียมธีระสกุล-เว็บบอร์ดฟ้าเดียวกัน - ข้อความในเสรีไทย โดย Snowflake)

Body&Soul
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 370



« ตอบ #8 เมื่อ: 30-03-2007, 19:18 »

ผมก็จะไปทานไอศกรีมรสมะม่วงกับข้าวเหนียวที่สเวนเซ่นครับเพราะช่วงนี้อากาศมันร้อนจริงๆ
บันทึกการเข้า
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #9 เมื่อ: 30-03-2007, 19:20 »

ลักษณะเศรษฐกิจ ซึม ๆ แบบนี้ผมคาดการณ์เอาไว้แล้ว ว่าเราต้องเจอหลังเหลี่ยมลงจากอำนาจ .....เพราะระบอบทักษิณ มันได้สร้าง Demand เทียม เอาไว้หลายปี เมื่อระบอบทักษิณ สิ้นสุดลง การอัดฉีดเงิน แบบไม่ลืม หูลืมตา มันก็ต้องหยุดลงไปด้วย........ถ้าจะเอาเศรษฐกิจ เทียมแบบช่วงหลายปีที่ผ่านมา ก็ต้องเอาเงินอัดเข้าไปอีก...แล้ววันใดวันหนึ่ง เมื่อไม่มีปัญญาไปหาเงินมาอัดฉีด ทั้งหมดก็ไม่มีอะไรเหลือ .......

ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาปรับตัว มันก็มีซึม ๆ เป็นธรรมดา .........เพียงแต่รัฐมนตรีซื่อบื้อ บางคน มันอยากเป็นรัฐมนตรี แต่มันไม่อยากแก้ปัญหา..มันก็เลยยิ่งรุมเร้า
บันทึกการเข้า
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 30-03-2007, 21:34 »

อ่านแต่ตรงที่เป็นสีแดง ไม่ได้อ่านตรงสีฟ้าเหรอครับ หรือว่าอ่านเฉพาะตรงสีแดงที่ขีดเส้นใต้

ตัวเลขการส่งออกมันเป็นออเดอร์ตั้งแต่เมื่อไรล่ะครับ เป็นสินค้าประเภทไหน และผลิตโดยโรงงานของต่างชาติหรือคนไทย ?  และเมื่อได้เงินกลับมาเกิดการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนกันขนาดไหน  อัตราการใช้กำลังการผลิตสิของจริง มันหยุดผลิตเพราะอะไรกันล่ะครับ ??

เวลานี้เขากำลังรอให้เศรษฐกิจไทยแห้งตายไปเองก่อนครับ และเก็งกันว่าจะเกิดความไร้เสถียรภาพแน่นอนดูจากความหน่อมแน้ม(หรือแกล้งหน่อมแน้มก็ไม่รู้)  แล้วค่อยทุบเงินบาทลงมาแบบกราวรูด  เสร็จแล้วจึงค่อยรอจังหวะเข้ามากว้านซื้อของถูกและได้ลงทุนในราคาถูก  ก็เหมือนคนไทยกันเองที่เขารู้กันทั่วแล้วว่า ดอกเบี้ยจะต้องลงแน่ๆ ก็ชะงักกันเป็นแถว

ทำไมจึงไม่เปิดให้คนไทยออกไปลงทุนในสินทรัพย์คุณภาพในต่างประเทศได้ ??? หรือเอาเงินทุนสำรองบางส่วนไปใช้หนี้ต่างประเทศเสีย?? ทำไมจึงไม่นำเงินนั้นไปซื้อเทคโนโลยีสำคัญๆเพื่อวางรากฐานต่อยอดต่อไป ??? เพื่อให้เงินบาทมันอ่อนลง ลดแรงกดดันจากการโจมตี ????  เมื่อเปรียบเทียบกับโปรดักต์การลงทุนในต่างประเทศ ถือว่าน่าตื่นตาตื่นใจ มีความมั่นคงและมีคุณภาพมากกว่ามาก ไม่ว่าจะเป็นกองทุนเจ๋งๆ อินคัมทรัสต์ที่ลงทุนในท่อก๊าซ ท่อส่งน้ำมัน เหมืองแร่ดีๆ พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ อสังหาดีๆ ฯลฯ เยอะแยะไปหมด ระยะยาวยังได้สร้างผลตอบแทนกลับมาอีกด้วย   จีน โปโตก เวียดนาม มันฉลาดกันหมด    หรือที่ไม่ยอมทำเพราะว่าแกล้งโง่ ต้องการปิดประตูตีแมวต้อนแมงเม่าคนไทยกันเอง ????


ทำไมจึงไม่ใช้อำนาจให้เด็ดขาดเพื่อล้างการเมืองและสังคมให้สะอาด ??? ทำไมจึงสมานฉันท์กับโจร ???
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-03-2007, 22:08 โดย Ex-Thai » บันทึกการเข้า

ScaRECroW
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,000


สุสูสัง ลภเต ปัญญัง - ผู้ฟังดี ย่อมเกิดปัญญา


เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: 31-03-2007, 08:46 »

Point ของผมก็คือ ข่าวที่คุณยกมาน่ะ มันมีทั้งดีและไม่ดี แต่คุณคว้าเอาแค่ด้านไม่ดีมากล่าวถึง

แค่นี้แหละ
บันทึกการเข้า

Politic is nothing but the continuation of [the sin of] 7 by other means.

ท่านคิดว่า นรม. ควรทำอย่างไรเมื่อพบว่ากฏหมายบางฉบับมีช่องโหว่?
ก.ใช้อำนาจ นรม.ที่ได้รับมาจากประชาชนแก้กฏหมายเพื่อปิดช่องโหว่เหล่านั้น เพราะเป็นประโยชน์ของแผ่นดิน
ข.ฉวยโอกาสใช้ช่องโหว่เหล่านั้นเพื่อประโยชน์ของตนเองและคนรอบข้าง แล้วก็อ้างว่าคนอื่นเขาก็ทำกัน
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: 31-03-2007, 11:26 »

Point ของผมก็คือ ข่าวที่คุณยกมาน่ะ มันมีทั้งดีและไม่ดี แต่คุณคว้าเอาแค่ด้านไม่ดีมากล่าวถึง

แค่นี้แหละ

ก็เพราะส่วนที่ดีในข่าวนั้นมันคือภาพลวงตาเอามาปลอบใจไงล่ะครับ  ผมจึงได้ตั้งคำถามไว้ไงว่า มันเป็นผลสืบเนื่องมาตั้งแต่เมื่อไร?  ข้อมูลจะด้านดีและไม่ดีต้องดูครับว่า ตัวเลขนั้นมีความหมายว่ายังไง  GDP ที่ว่าโตๆนั่นหมายความว่าอะไร ทุนสำรองเยอะๆแล้วดีจริงๆหรือเปล่า??  ก็ไม่ใช่สมัยไอ้เหลี่ยมหรอกหรือที่พยายามพูดความจริงแค่บางส่วน จึงมีนักวิชาการบางคนเสนอว่าให้อ่านหนังสือ how to lie with statistics

ไม่สังเกตหรือว่า แม้จะยึดอำนาจวันที่ 19 ก.ย. มันซึมต่อเนื่องมาเป็นปีอยู่แล้ว บรรยากาศยังไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก ยึดอำนาจเสร็จออกจะดีขึ้นด้วยซ้ำ เพราะผู้คนเกิดความหวังว่า อย่างน้อยได้อดีตผบ.ทบ.ภาพลักษณ์ซื่อสัตย์มาเป็นผู้นำ จะได้เกิดการกวาดล้างสิ่งสกปรกออกไป ความยุติธรรมจะได้บังเกิด ผู้คนไม่ได้คาดหวังว่าเศรษฐกิจจะต้องมารุ่งเรือง ขอแค่ใช้ความเด็ดขาดเพื่อความถูกต้อง เสถียรภาพจะได้เกิด ประคองไว้ ให้หนักกลายเป็นเบาก็พอแล้วครับ  แต่เวลาผ่านไปการกระทำแต่ละอย่างที่สร้างความสับสน ไม่เชื่อมั่นขึ้นเรื่อยๆ  ไปสมานฉันท์กับความชั่ว  หรือการเลือกปฏิบัติ double standard ต่างๆ   คงไม่ต้องทบทวนแล้วนะครับว่าอะไรบ้าง

ผมจะบอกให้นะว่า ไม่ว่าจะ ฆ่าโหดเพิ่มขึ้น เด็กถูกคนเลี้ยงฆ่าตาย ฯลฯ เหตุการณ์พวกนี้แม้จะเกิดในระดับชาวบ้านระดับล่าง แต่มันสามารถชี้วัดสถานการณ์เศรษฐกิจที่แท้จริงได้   คนเราจะเกิดเรื่องเกิดราวได้หนีไม่พ้นเรื่องปากท้องครับ   คุณ ScaRECroW ต้องกลับมาสัมผัสบรรยากาศขณะนี้ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-03-2007, 12:01 โดย Ex-Thai » บันทึกการเข้า

ScaRECroW
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,000


สุสูสัง ลภเต ปัญญัง - ผู้ฟังดี ย่อมเกิดปัญญา


เว็บไซต์
« ตอบ #13 เมื่อ: 31-03-2007, 20:27 »

พอดีผมอ่านรายงานของ IMF มาก่อนที่จะได้อ่านที่คุณนำมาแปะ เนื้อหาสาระมันค่อนข้างสอดคล้องกันน่ะครับ
บันทึกการเข้า

Politic is nothing but the continuation of [the sin of] 7 by other means.

ท่านคิดว่า นรม. ควรทำอย่างไรเมื่อพบว่ากฏหมายบางฉบับมีช่องโหว่?
ก.ใช้อำนาจ นรม.ที่ได้รับมาจากประชาชนแก้กฏหมายเพื่อปิดช่องโหว่เหล่านั้น เพราะเป็นประโยชน์ของแผ่นดิน
ข.ฉวยโอกาสใช้ช่องโหว่เหล่านั้นเพื่อประโยชน์ของตนเองและคนรอบข้าง แล้วก็อ้างว่าคนอื่นเขาก็ทำกัน
หน้า: [1]
    กระโดดไป: