'อีแอบ' ทำแสบ
โสภณ องค์การณ์
ม็อบ 'พีทีวี' นำโดย 'เสี่ยวีระ มุสิกพงศ์' เจ้าของฉายา 'ไข่มุกดำ' และถูกปรับเปลี่ยนโดยพวกสื่อว่าเป็น 'ไข่แม้วดำ' คงรู้สึกฮึกเหิม หลังจากได้สร้างความปั่นปวนชวนให้ปวดหัวสำหรับชาวคณะมนตรีความมั่นคง และผู้บริหารรัฐบาลได้เกินคาด
ทั้งๆ ที่มีคนมาชุมนุมที่สนามหลวงไม่ถึง 2 พันคน แต่สไตล์การพูดที่โฉ่งฉ่าง กร่างแบบคนไม่มีอะไรจะสูญเสียนั้น ทำให้ 'เสี่ยวีระ' และพันธมิตร มั่นใจว่าได้เริ่มสร้างบรรยากาศต้าน คมช. และรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ ได้สำเร็จแล้ว
กล้าคุยโม้ว่าจะปลุกระดมมวลชนกลุ่ม 'คนเอาทักษิณ' มาให้ได้ถึง 3 หมื่นคนในวันที่ 30 มีนาคมนั่นเชียว ดูแล้วก็มีความเป็นไปได้ เพียงแต่ต้องใช้เงินจูงใจแบบไม่อั้น
ถ้ากล้าทุ่มมากถึงหัวละ 300-500 บาทต่อวัน ก็น่าจะระดมคนได้มาก!
กลุ่มนี้ไม่สนใจว่านักการเมืองจะโกงกินจนชาติเกือบล่มจมอย่างไร ดังที่ถูกสอบสวนทุกวันนี้ เพียงขอให้มีเศษเงินตกมาถึงมือตัวเองบ้างก็พอใจ
เหมือนกับการขายประชาธิปไตย ยกบ้านเมืองในนักการเมืองกังฉิน แลกกับเงินซื้อเสียงเพียงไม่กี่ร้อยบาท ทำให้นักการเมืองมองว่าสุดคุ้ม ถ้าลงทุนเพียงไม่กี่พันล้าน แลกกับโอกาสจะได้เอาสมบัติของชาติไปขาย เอาเงินเข้ากระเป๋า
คราวนี้ย่อมไม่อั้น เพราะการส่งท่อน้ำเลี้ยงเป็นการซื้ออิสรภาพ ให้หลุดจากบ่วงกฎหมาย หวังรอดพ้นจากคุกตะราง เพราะคดีอาญาบ้านเมือง
มาถึงจุดนี้กลุ่มผู้สูญเสียอำนาจ และผู้ลี้ภัยในลอนดอน น่าจะรู้ซึ้งแล้วว่าความขี้เหนียว มัวแต่รอใช้เงินของคนอื่นก่อนนั้น ได้ทำให้ห่างเหินจากผู้สมควรเป็นพันธมิตร
เข้าตำรา 'เสียน้อย เสียมาก เสียยาก เสียง่าย' นั่นเอง!
เมื่อการเร่งสร้างราคาทุกรูปแบบ แม้กระทั่งการเสี่ยงพูดจาบจ้วง 'ป๋าเปรม' เริ่มส่อเค้าว่าจะได้ผล คนใน คมช. และรัฐบาลเกิดอาการปั่นป่วน พวก 'เสี่ยวีระ' ย่อมได้รับผลตอบแทนแบบได้ผล
นั่นคือท่อน้ำเลี้ยงเปิดโล่งสะดวก สำหรับการผ่องถ่ายเบี้ยขยันจากต้นตอเข้าสู่กระเป๋าแกนนำต้าน คมช. และรัฐบาล
จนมีเสียงบ่นพึมพำจากปากของผู้น่าเกรงขาม ชี้ให้เห็นว่าความปั่นป่วนวุ่นวายในบ้านเมืองโดยม็อบพีทีวีสารพัดกลุ่มนั้น ล้วนเป็นฝีมือและการชี้แนะของ 'เจ๊ดำ อำมหิต'
เธอเป็นใคร ต้องใช้จินตนาการสังเกต เฝ้าวิเคราะห์เอง!
ฝ่าย คมช. และรัฐบาลนั้น มั่นใจว่าม็อบพีทีวี กลุ่มพันธมิตรนั้น รับบท 'อีแอบ' การเมือง โดยสวมคราบนักต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพ ทั้งๆ ที่พวกนี้คือนักการเมืองจาก 'พรรคเคยใหญ่' นั่นเอง
การลาออกจากความเป็นนักการเมือง ผันตัวเองเข้าสู่วงการสื่อสารมวลชน สวมคราบคนทำพีทีวีนั้น เป็นเพียงกลอุบายตื้นๆ หรือปาหี่ไร้ปัญญา เอาไว้หลอกพวกงี่เง่าหลังเขา ไกลปืนเที่ยง ห่างจากแหล่งข้อมูลข่าวสาร
ดังนั้น กลุ่มทหารจึงกล้าประกาศให้ขบวนการ 'ไข่แม้วดำ' เลิกทำตัวเป็น 'อีแอบ'
ดูความพยายามดิ้นรนของพวก 'อีแอบ' ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองแล้ว ไม่สามารถมองไปยังประเด็นอื่นใด นอกจากอยากให้ คมช. และรัฐบาลพ้นจากอำนาจ
ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง นายใหญ่ นายหญิง และเครือญาติ บริวาร จะได้หลุดรอดพ้นจากกระบวนการยุติธรรม ซึ่งกำลังหาช่องทางเอาผิดขบวนการซุกหุ้นมูลค่าหลายร้อยล้านบาท
หลังจากตำรวจทำอะไรไม่ได้ ในการชุมนุมรอบแรกวันที่ 23 มีนาคม 'ไข่แม้วดำ' และพรรคพวก จึงคิดแผนใหญ่กว่าเดิม เร่งวันแห่งความยุ่งยากให้เกิด หวังป่วนรัฐบาลขิงแก่
เมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเกียร์ว่างและปอดลอยในรัฐบาลจึงไม่ยอมทำงาน อยู่ไปวันๆ แบบไม่ยอมเสี่ยงทำอะไรให้เปลืองตัว กะว่าอีกไม่นานรัฐบาลก็อยู่ครบวาระแล้ว
จึงเป็นการปล่อยเวลา และโอกาสให้ผ่านไป โดยบ้านเมืองไม่ได้สาระอะไร!
แต่ คมช. จะนิ่งนอนใจ ปล่อยให้เกียร์ว่างในรัฐบาลลากตัวเองเข้ารกเข้าพง เปิดช่องให้กลุ่มอำนาจเก่ากลับมาคิดบัญชีแค้นไม่ได้เด็ดขาด
ต้องคิดหามาตรการเด็ดขาดเข้าจัดการให้สะเด็ดน้ำ หลังจากทำเป็น 'ม้าอารีย์' มานานกว่า 6 เดือน แม้ว่าการทำเช่นนั้นส่อให้เห็นความเสี่ยงสูงในบ้านเมืองก็ตาม
ถ้าจะจัดการกับม็อบป่วน พวกนี้วางแผนจะเข้าไปซึมแทรกในภาครากหญ้าชนบท โดย 'ผู้ลี้ภัย' ในลอนดอนปูทางไว้แล้ว ด้วยข้ออ้างว่าห่วงคนยาก คนจนภาคเกษตรชนบท
ไม่ยอมพูดถึงความผิดของสมาชิกครอบครัวและตัวเอง ซึ่งกำลังโดนสอบสวน ตกเป็นจำเลยในคดีอาญาในข้อหาคิดไม่ซื่อต่อบ้านเมือง ไม่ยอมจ่ายภาษีด้วยกลวิธีลวดลายล้ำลึก
จากนี้ไปต้องรอดูว่าจะมีมาตรการสำหรับจัดการม็อบอีแอบหรือไม่ หวังว่าทุกฝ่ายคงประเมินผลดี ผลเสียได้รอบคอบแล้ว ก่อนลงมือลุย
ถ้าจะทำ อย่าให้ซ้ำรอยความผิดพลาดแบบเดิม ด้วยการทำอะไรครึ่งๆ กลางๆ!
ระวังพวก 'อีแอบ' ตัวจริง จะชิงจังหวะลงมือเสียก่อนเท่านั้นนิ! อิอิอิ!!!
http://www.nationweekend.com/2007/03/30/NO10_104_news.php?newsid=954