*** รวมสูตรเครื่องดื่มนานาชนิด พบปะสังสรรค์ แบบสบายๆ***

[aiwen^mei]

สงสัยรวยแล้วเลิก
หรือลูกค้าติดภารกิจกันหมด


 
เปิดต่อเถิดครับ

  ยังนับเงินไม่ครบเลยค่ะ 

สำหรับเย็นนี้มีแมตช์ตัดเชือกสำคัญนะคะ ต้องตามลุ้นว่า เทพเฟดจะยอมให้เอร็อดที่กำลังฟอร์มดีหลังจากได้ยอดซือแป๋จิมมี่ คอนเนอร์ส ถ่ายทอดเคล็ดวิชาให้ จะยิงวินเนอร์กระจุยได้หรือป่าว ถ้าเทพเฟดผ่านเอร็อดไปได้ คงยึดครองบัลลังก์แชมป์ได้อีกครั้ง 

http://www.australianopen.com/en_AU/news/galleries/index.html

[aiwen^mei]

ท่านอาจารย์จิมมี่ คอนเนอร์ส เห็นสถิติเฮดทูเฮด คงเจ็บปวดใจแทนศิษย์รัก 

[aiwen^mei]

http://www.australianopen.com/en_AU/pointtracker/index.html

กะลังดูสดจากกราฟฟิคของ pointtracker ค่ะ โฮ...เฟดกินนิ่มไปแล้ว 2 เซ็ต ด้วยสกอร์ 6-4, 6-0   

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

สงสัยรวยแล้วเลิก
หรือลูกค้าติดภารกิจกันหมด


 
เปิดต่อเถิดครับ

  ยังนับเงินไม่ครบเลยค่ะ 




สำหรับเย็นนี้มีแมตช์ตัดเชือกสำคัญนะคะ ต้องตามลุ้นว่า เทพเฟดจะยอมให้เอร็อดที่กำลังฟอร์มดีหลังจากได้ยอดซือแป๋จิมมี่ คอนเนอร์ส ถ่ายทอดเคล็ดวิชาให้ จะยิงวินเนอร์กระจุยได้หรือป่าว ถ้าเทพเฟดผ่านเอร็อดไปได้ คงยึดครองบัลลังก์แชมป์ได้อีกครั้ง 

http://www.australianopen.com/en_AU/news/galleries/index.html

อิ อิ....เดี๋ยวพี่จะซื้อเครื่องนับเงินอัตโนมัติมาให้เม่ยใช้ดีกว่าค่ะ

เดี๋ยวลุงป๋าสามไม่เชื่อว่าเรารวยจริงๆ ขายดิบขายดีจนลูกค้าหายไปหมด

ตอนนี้ FEDERER ชนะแบบกินรวบไปแล้วสามเซท แทบไม่ต้องลุ้นให้เหนื่อยเลย

[aiwen^mei]

อิ อิ....เดี๋ยวพี่จะซื้อเครื่องนับเงินอัตโนมัติมาให้เม่ยใช้ดีกว่าค่ะ

เดี๋ยวลุงป๋าสามไม่เชื่อว่าเรารวยจริงๆ ขายดิบขายดีจนลูกค้าหายไปหมด

ตอนนี้ FEDERER ชนะแบบกินรวบไปแล้วสามเซท แทบไม่ต้องลุ้นให้เหนื่อยเลย

ขอบคุณหลาย ๆ ค่ะ พี่ดอกฟ้า ฯ แบบนี้จึงจะสมฐานะกับการเป็น ว่าที่เศรษฐินีคนใหม่ 

โฮ....เทพเฟดช่างใจร้าย แฟน ๆ เลยเทคะแนนสงสารให้หนุ่มเอร็อดไปแล้ว   

นึกว่าจะปิดร้านยาว เพื่อปรับโฉมแต่งตัวใหม่ให้เรี่ยมเร้ไฉไลเตรียมต้อนรับตรุษจีนซะอีกแน่ะ 

ไปแอบหาเพลงเพราะ ๆ มาเปิดดีกว่า เพราะดีเจตัวจริงหายเข้ากลีบเมฆไปแล้ว 

[aiwen^mei]

***.... Angels ....***

by Robbie Williams

I sit and wait
does an angel contemplate my fate
and do they know
the places where we go
when we're grey and old
'cos I've been told
that salvation lets their wings unfold
so when I'm lying in my bed
thoughts running through my head
and I feel that love is dead
I'm loving angels instead

CHORUS: And through it all she offers me protection
a lot of love and affection
whether I'm right or wrong
and down the waterfall
wherever it may take me
I know that life won't break me
when I come to call she won't forsake me
I'm loving angels instead

When I'm feeling weak
and my pain walks down a one way street
I look above
and I know I'll always be blessed with love
and as the feeling grows
she breathes flesh to my bones
and when love is dead
I'm loving angels instead

Chorus

[so what?]

เข้ามาแสดงมุทิตาจิตต่อคุณเม่ยและกองเชียร์เฟดครับ   


แต่นายนี่ทำให้เทนนิสชายขาดสีสรรไปเยอะ
เพราะดูเหมือนมือรองๆลงไปจะห่างชั้นมากเกินไปจริงๆ   

[~เด็กบอร์ด~]

มาแอบอ่านกระทู้นี้ตั้ง 31 หน้าค่ะ อ่านซะจน เลยคะ

แต่ว่านู๋ชอบกระทู้ของคุณดอกฟ้าฯมากคะ ทั้งกระทู้ทำอาหาร กับทำค๊อกเทล

มันทำให้รู้สึกว่าบอร์ดนี้ไม่ได้มีแค่เรื่องการเมืองเท่านั้น  กระทู้นี้มีสาระมากคะ

มาฝากเนื้อฝากตัวเป็นลูกศิษย์ด้วยคนคะ

[aiwen^mei]

มาแอบอ่านกระทู้นี้ตั้ง 31 หน้าค่ะ อ่านซะจน เลยคะ

แต่ว่านู๋ชอบกระทู้ของคุณดอกฟ้าฯมากคะ ทั้งกระทู้ทำอาหาร กับทำค๊อกเทล

มันทำให้รู้สึกว่าบอร์ดนี้ไม่ได้มีแค่เรื่องการเมืองเท่านั้น  กระทู้นี้มีสาระมากคะ

มาฝากเนื้อฝากตัวเป็นลูกศิษย์ด้วยคนคะ

ยินดีต้อนรับลูกศิษย์คนใหม่ของคุณพี่ดอกฟ้า ฯ เจ้าของร้านค่ะ แวะมาบ่อย ๆ นะคะ มีอะไรน่ารักน่าสนใจก็ติดไม้ติดมือมาแบ่งปันกันได้เลยค่ะ 

ขอต้อนรับ คุณน้อง ~เด็กบอร์ด~ ด้วยเมนูหรูจานนี้ค่ะ...(กลัวอ้วนป่าวคะ อิอิ)

ปล. ระหว่างหม่ำต้องฟังเพลงไปด้วยสินะคะ เด๋วขอเวลาไปคุ้ยหีบเพลงก่อนค่ะ 

[aiwen^mei]

เข้ามาแสดงมุทิตาจิตต่อคุณเม่ยและกองเชียร์เฟดครับ   


แต่นายนี่ทำให้เทนนิสชายขาดสีสรรไปเยอะ
เพราะดูเหมือนมือรองๆลงไปจะห่างชั้นมากเกินไปจริงๆ   

เอ่อ...ขอบคุณค่ะ รู้สึกงง ๆ กับมุทิตาจิต นะคะ   

รอบชิงของสาว ๆ ก็น่าตื่นเต้นระทึก ระหว่าง สาวล่ำเซเรน่า วิลเลี่ยมส์ ซึ่งเพิ่งจะกลับมาลงเล่น กับ นางฟ้าเสียงสะท้านโลกันตร์ ชาราโปว่า ..สะท้านจนมีคนเอาไปทำเป็นริงโทน ฟังแล้วกลัวววว 

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

มาแอบอ่านกระทู้นี้ตั้ง 31 หน้าค่ะ อ่านซะจน เลยคะ

แต่ว่านู๋ชอบกระทู้ของคุณดอกฟ้าฯมากคะ ทั้งกระทู้ทำอาหาร กับทำค๊อกเทล

มันทำให้รู้สึกว่าบอร์ดนี้ไม่ได้มีแค่เรื่องการเมืองเท่านั้น  กระทู้นี้มีสาระมากคะ

มาฝากเนื้อฝากตัวเป็นลูกศิษย์ด้วยคนคะ

ยินดีต้อนรับลูกศิษย์คนใหม่ของคุณพี่ดอกฟ้า ฯ เจ้าของร้านค่ะ แวะมาบ่อย ๆ นะคะ มีอะไรน่ารักน่าสนใจก็ติดไม้ติดมือมาแบ่งปันกันได้เลยค่ะ 

ขอต้อนรับ คุณน้อง ~เด็กบอร์ด~ ด้วยเมนูหรูจานนี้ค่ะ...(กลัวอ้วนป่าวคะ อิอิ)

ปล. ระหว่างหม่ำต้องฟังเพลงไปด้วยสินะคะ เด๋วขอเวลาไปคุ้ยหีบเพลงก่อนค่ะ 

พี่ดอกฟ้าฯ มายินดีต้อนรับน้องใหม่ คุณเด็กบอร์ดด้วยค่ะ

ขอบคุณมากค่ะที่ติดตาม แอบไปยิ้มอยู่หลังร้านตั้งนาน

วันนี้เอาอาหารมาแข่งกับเม่ยค่ะ กะว่าให้แขกใหม่เราทานจนอ้วนเลยเนอะ

เป็นปลาฮามาจิที่แสนอร่อย  

[~เด็กบอร์ด~]

ขอบคุณมากคะ สำหรับอาหาร

จริง ๆ แล้วเป็นคนที่ทานอะไรแล้วไม่ค่อยอ้วนคะ เลยไม่ซีเรียสเท่าไรกับน้ำหนักตัวเอง

แล้วก็เป็นคนชอยทำอาหารมากคะ พอเปิดเจอกระทู้รู้สึกดีใจมาก ๆ เลยคะ

เพราะนู๋ก็เปิดร้านบาร์เล็ก ๆ ร้านหนึ่งที่อุดรฯ อะคะ

ก็เลยลองทำ cocktail สูตรคุณพี่ดอกฟ้า ค่ะ อร่อยจริง ๆ คะ

แต่ที่ลูกค้าที่ร้านเค้าไม่ค่อยชอบ cocktail เท่าไร เราเลยทำเองชิมเอง เอง คนเดียวคะ

คริ คริ

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

ขอบคุณมากคะ สำหรับอาหาร

จริง ๆ แล้วเป็นคนที่ทานอะไรแล้วไม่ค่อยอ้วนคะ เลยไม่ซีเรียสเท่าไรกับน้ำหนักตัวเอง

แล้วก็เป็นคนชอยทำอาหารมากคะ พอเปิดเจอกระทู้รู้สึกดีใจมาก ๆ เลยคะ

เพราะนู๋ก็เปิดร้านบาร์เล็ก ๆ ร้านหนึ่งที่อุดรฯ อะคะ

ก็เลยลองทำ cocktail สูตรคุณพี่ดอกฟ้า ค่ะ อร่อยจริง ๆ คะ

แต่ที่ลูกค้าที่ร้านเค้าไม่ค่อยชอบ cocktail เท่าไร เราเลยทำเองชิมเอง เอง คนเดียวคะ

คริ คริ

ด้วยความยินดี และดีใจมากๆเช่นกันค่ะ

[aiwen^mei]

มีคลิปวิดีโอเพลงเพราะ ๆ มาฝากน้อง ~เด็กบอร์ด~ ค่ะ 

***... She's The One ...***

by Robbie Williams

I was her she was me
We were one we were free
And if there's somebody calling me on
She's the one
If there's somebody calling me on
She's the one

We were young we were wrong
We were fine all along
If there's somebody calling me on
She's the one

When you get to where you wanna go
And you know the things you wanna know
You're smiling
When you said what you wanna say
And you know the way you wanna play
You'll be so high you'll be flying

Though the sea will be strongI know we'll carry on
´Cause if there's somebody calling me on
She's the one
If there's somebody calling me on
She's the one

When you get to where you wanna go
And you know the things you wanna know
You're smiling
When you said what you wanna say
And you know the way you wanna say it
You'll be so high you'll be flying

I was her she was me
We were one we were free
If there's somebody calling me on
She's the one
If there's somebody calling me on
She's the one

If there's somebody calling me on
She's the oneYeah she's the one

If there's somebody calling me on
She's the one She's the one

    

[aiwen^mei]

แชมป์หญิงเดี่ยวออสเตรเลี่ยนโอเพ่นคนล่าสุด กับการกลับมาคว้าแชมป์รายการนี้เป็นครั้งที่ 3

  <<<... Serena Williams ...>>> 

[aiwen^mei]

เข้ามาแสดงมุทิตาจิตต่อคุณเม่ยและกองเชียร์เฟดครับ   


แต่นายนี่ทำให้เทนนิสชายขาดสีสรรไปเยอะ
เพราะดูเหมือนมือรองๆลงไปจะห่างชั้นมากเกินไปจริงๆ   

เอ่อ...ขอบคุณค่ะ รู้สึกงง ๆ กับมุทิตาจิต นะคะ   

รอบชิงของสาว ๆ ก็น่าตื่นเต้นระทึก ระหว่าง สาวล่ำเซเรน่า วิลเลี่ยมส์ ซึ่งเพิ่งจะกลับมาลงเล่น กับ นางฟ้าเสียงสะท้านโลกันตร์ ชาราโปว่า ..สะท้านจนมีคนเอาไปทำเป็นริงโทน ฟังแล้วกลัวววว 

เมื่อเช้าได้ดูสดรอบชิงหญิงค่ะ เอ...เพิ่งดูสาวหล่อมอเรสโม่ กับสาวแกร่งเอแน็งไปแหม็บ ๆ นี่นา นึกว่าจะตื่นเต้นสูสีเสียอีก เพราะคู่นี้เจอกันทีไร แสบแก้วหูดีแท้  แต่ปรากฏว่า นางฟ้าต้านไม่อยู่ สาวเซเรน่าเล่นได้เฉียบคม ดุดัน ชนะไปอย่างขาดลอย 6-1, 6- 2
แอบเชียร์สาวเซเรน่า เพราะได้ข่าวมาว่าเธอเป็นคนน่ารัก จริงใจไม่จิงโจ้ ยิ้มหรือก็ออกจะหวานปานนั้น  :

พรุ่งนี้ต้องมาลุ้นต่อว่า หนุ่มกองโซ่จะฮึดสู้กับเทพเฟดได้แค่ไหน เพราะเจอกันมา 9 ครั้ง หนุ่มกองโซ่ยังไม่สามารถชนะได้เลยสักครั้ง แง้....

[~เด็กบอร์ด~]

มีเพลงมาฝากคุณเม่ย ด้วยค่ะ เพลงนี้นู๋ชอบมากเลยน้า...

Corinne Bailey Rae

Put Your Records on

Three little birds, sat on my window.
And they told me I don't need to worry.
Summer came like cinnamon
So sweet,
Little girls double-dutch on the concrete.

Maybe sometimes, we got it wrong, but it's alright
The more things seem to change, the more they stay the same
Oh, don't you hesitate.

Go, put your records on, tell me your favourite song
You go ahead, let your hair down
Sapphire and faded jeans, I hope you get your dreams,
Just go ahead, let your hair down.

You're gonna find yourself somewhere, somehow.

Blue as the sky, sombre and lonely,
Sipping tea in the bar by the road side,
(just relax, just relax)
Don't you let those other boys fool you,
Gotta love that afro hairdo.

Maybe sometimes, we feel afraid, but it's alright
The more you stay the same, the more they seem to change.
Don't you think it's strange?

Go, put your records on, tell me your favourite song
You go ahead, let your hair down
Sapphire and faded jeans, I hope you get your dreams,
Just go ahead, let your hair down.

You're gonna find yourself somewhere, somehow.

Just more than I could take, pity for pity's sake
Some nights kept me awake, I thought that I was stronger
When you gonna realise, that you don't even have to try any longer.
Do what you want to.

Go, put your records on, tell me your favourite song
You go ahead, let your hair down
Sapphire and faded jeans, I hope you get your dreams,
Just go ahead, let your hair down.

Go, put your records on, tell me your favourite song
You go ahead, let your hair down
Sapphire and faded jeans, I hope you get your dreams,
Just go ahead, let your hair down.

Oh, You're gonna find yourself somewhere, somehow

[THE THIRD WAY]

นัดชิงเพิ่งจบ
เจ้าเฟดทุบซะสามเซทรวด
ชอบนะ ชอบนิสัยเค้าด้วย

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

นัดชิงเพิ่งจบ
เจ้าเฟดทุบซะสามเซทรวด
ชอบนะ ชอบนิสัยเค้าด้วย

ชอบๆๆๆ ดีใจด้วยก๊าบบ....ยอดเยี่ยม เฟดเดอเรอร์

[aiwen^mei]

นัดชิงเพิ่งจบ
เจ้าเฟดทุบซะสามเซทรวด
ชอบนะ ชอบนิสัยเค้าด้วย

ชอบๆๆๆ ดีใจด้วยก๊าบบ....ยอดเยี่ยม เฟดเดอเรอร์

ต่อไปนี้ขอเรียกเทพเฟดว่า "Prince Roger" ดีกว่า  เพราะเมื่อวานได้ดูเทปไฮไลต์รอบรอง ฯ เห็นราศีเรืองรองเปล่งประกายวูบวาบรอบตัวเชียวล่ะ อารายจะปานน้าน 

ขอโพสต์รูปพรินซ์โรเจอร์หน่อยค่ะ 

[aiwen^mei]

มีเพลงมาฝากคุณเม่ย ด้วยค่ะ เพลงนี้นู๋ชอบมากเลยน้า...

....

ขอบคุณหลาย ๆ ค่ะ เลยไปหาคลิปวิดีโอมาดูต่อ 

http://youtube.com/watch?v=OVNK_VDQY8I

[~เด็กบอร์ด~]

  เพราะไหมคร้า.....

[aiwen^mei]

เพราะไหมคร้า.....

เพราะค่า คิกขุน่ารักซะไม่มี 

ขอเปิดเพลงของรุ่นพี่บ้างค่ะ เผื่อจะเรียกลูกค้าเก่าๆ ได้บ้าง 

...***** Casablanca *****...

by Bertie Higgins


I fell in love with you watching Casablanca
Back row of the drive in show in the flickering light
Popcorn and cokes beneath the stars became champagne and caviar
Making love on a long hot summers night

I thought you fell in love with me watching Casablance
Holding hands 'neath the paddle fans in Rick's Candle lit cafe
Hiding in the shadows from the spies. Moroccan moonlight in your eyes
Making magic at the movies in my old chevrolet

Oh! A kiss is still a kiss in Casablanca
But a kiss is not a kiss without your sigh
Please come back to me in Casablanca
I love you more and more each day as time goes by

I guess there're many broken hearts in Casablanca
You know I've never really been there. so, I don't know
I guess our love story will never be seen on the big wide silver screen
But it hurt just as bad when I had to watch you go

Oh! A kiss is still a kiss in Casablanca
But a kiss is not a kiss without your sigh
Please come back to me in Casablanca
I love you more and more each day as time goes by
Oh! A kiss is still a kiss in Casablanca
But a kiss is not a kiss without your sigh

Please come back to me in Casablanca
I love you more and more each day as time goes by
I love you more and more each day as time goes by

 

[ลับ ลวง พราง]

ขอบคุณครับสำหรับเพลงนี้ ขอบคุณมากๆ ครับ  

[~เด็กบอร์ด~]

' ไม่เคยฟังเลยค่ะ เพลงนี้ อิอิ เดี๋ยวลองฟัง

[aiwen^mei]

มีเรื่องน่ารักๆ มาฝากค่ะ 

************************************************************************************

อยาก"กอด"ขโมย!!!

คอลัมน์ เกร็ดต่างแดน

รับรองว่า "จิตปกติ" ดี!!!

แต่เหตุที่ทำให้คุณยายโจน โรบินสัน วัย 71

ผู้ใช้ชีวิตบั้นปลายอยู่ที่เมืองวิชิตา มลรัฐแคนซัส สหรัฐอเมริกา

ถึงกับลงทุนจัด "งานแถลงข่าว" พร้อมกับประกาศว่า...

อยากมีโอกาสเจอหน้า และอยาก "ขอกอด" ขโมยผู้นี้สักครั้ง!!!

ก็เพราะคุณยายเพิ่งได้รับ "กระเป๋าถือ" ที่ทำหายไปเมื่อ 9 เดือนที่แล้ว "คืน" ทางไปรษณีย์พร้อมทรัพย์สินมีค่าทั้งหมด

แถมคนที่เอาไป ยังมี "จดหมายเขียนขอโทษ" แนบมาด้วย!!!

"ตอนที่ผมเก็บกระเป๋าได้ ผมกำลังเดือดร้อนเงินอย่างมาก"

"ในนั้นมีเงินอยู่ 89.20 ดอลลาร์ (ราว 3,122 บาท)"

"ซึ่งผมก็ได้ส่งคืนมาด้วย และต้องขอโทษด้วย"

"ที่เอาทรัพย์สินของคุณไปชั่วคราว"

"โปรดยกโทษให้ผมด้วย" ข้อความหนึ่งในจดหมายที่ทำเอาคุณยายอ่านปุ๊บ ก็ "ให้อภัย" ปั๊บ

หลังจากได้ของคืนครบทั้งพันธบัตรมูลค่า 12,000 ดอลลาร์ (ราว 420,000 บาท) แล้วยังแหวนแต่งงาน, แหวนเพชร มรดกตกทอดจากคุณยาย

ที่นางโรบินสันเก็บใส่กระเป๋า ตั้งใจจะเอาไปเก็บไว้ที่ "ตู้เซฟธนาคาร" แต่ระหว่างทางได้แวะซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต กับแพตตี้ ลูกสาว

แล้วก็ไม่รู้ว่า ไปเผลอทำ "กระเป๋าหาย" ตอนไหน?

ทั้งนี้ คุณยายยังเล่าด้วยว่า ที่เธอลงทุนจัดงานแถลงข่าว

ก็เพราะอยากให้ "ขโมย" คนนั้นรู้ว่า...

เธอให้อภัยเขาหมดหัวใจเลยล่ะ!!!

หน้า 32

http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01for11030250&day=2007/02/03&sectionid=0104

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

มีเรื่องน่ารักๆ มาฝากค่ะ 

************************************************************************************

อยาก"กอด"ขโมย!!!

คอลัมน์ เกร็ดต่างแดน

รับรองว่า "จิตปกติ" ดี!!!

แต่เหตุที่ทำให้คุณยายโจน โรบินสัน วัย 71

ผู้ใช้ชีวิตบั้นปลายอยู่ที่เมืองวิชิตา มลรัฐแคนซัส สหรัฐอเมริกา

ถึงกับลงทุนจัด "งานแถลงข่าว" พร้อมกับประกาศว่า...

อยากมีโอกาสเจอหน้า และอยาก "ขอกอด" ขโมยผู้นี้สักครั้ง!!!

ก็เพราะคุณยายเพิ่งได้รับ "กระเป๋าถือ" ที่ทำหายไปเมื่อ 9 เดือนที่แล้ว "คืน" ทางไปรษณีย์พร้อมทรัพย์สินมีค่าทั้งหมด

แถมคนที่เอาไป ยังมี "จดหมายเขียนขอโทษ" แนบมาด้วย!!!

"ตอนที่ผมเก็บกระเป๋าได้ ผมกำลังเดือดร้อนเงินอย่างมาก"

"ในนั้นมีเงินอยู่ 89.20 ดอลลาร์ (ราว 3,122 บาท)"

"ซึ่งผมก็ได้ส่งคืนมาด้วย และต้องขอโทษด้วย"

"ที่เอาทรัพย์สินของคุณไปชั่วคราว"

"โปรดยกโทษให้ผมด้วย" ข้อความหนึ่งในจดหมายที่ทำเอาคุณยายอ่านปุ๊บ ก็ "ให้อภัย" ปั๊บ

หลังจากได้ของคืนครบทั้งพันธบัตรมูลค่า 12,000 ดอลลาร์ (ราว 420,000 บาท) แล้วยังแหวนแต่งงาน, แหวนเพชร มรดกตกทอดจากคุณยาย

ที่นางโรบินสันเก็บใส่กระเป๋า ตั้งใจจะเอาไปเก็บไว้ที่ "ตู้เซฟธนาคาร" แต่ระหว่างทางได้แวะซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต กับแพตตี้ ลูกสาว

แล้วก็ไม่รู้ว่า ไปเผลอทำ "กระเป๋าหาย" ตอนไหน?

ทั้งนี้ คุณยายยังเล่าด้วยว่า ที่เธอลงทุนจัดงานแถลงข่าว

ก็เพราะอยากให้ "ขโมย" คนนั้นรู้ว่า...

เธอให้อภัยเขาหมดหัวใจเลยล่ะ!!!

หน้า 32

http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01for11030250&day=2007/02/03&sectionid=0104

อืม....แบบว่าโจรยังกลับใจเพราะเดือดร้อนจริงๆ

แต่ไอ้พวกรวยแล้วยังโลภอยากได้จนต้องโกงทุกสิ่งอย่างอย่างนี้ไม่ควรให้อภัย 

ขอบคุณเม่ยมากค่ะที่เอาฝาก

[aiwen^mei]

.....

อืม....แบบว่าโจรยังกลับใจเพราะเดือดร้อนจริงๆ

แต่ไอ้พวกรวยแล้วยังโลภอยากได้จนต้องโกงทุกสิ่งอย่างอย่างนี้ไม่ควรให้อภัย 

ขอบคุณเม่ยมากค่ะที่เอาฝาก

  น่านจิคะ วันนี้มาเจียะเต๊ยามเย็น สั่งมาจากร้าน Whittard of Chelsea ระหว่างรอดูฟุตบอลแมตช์สำคัญกันค่ะ   

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

ฮ้อ....หอเจี๊ยะ ชากับขนมเค๊กน่าทานมาก เซี๊ยะๆหนี่ค่ะเม่ย วันนี้ทีมบอลไทยต้องชนะอย่างแน่นอน

เพราะครั้งที่แล้วโกงเห็นๆ 

[aiwen^mei]

ฮ้อ....หอเจี๊ยะ ชากับขนมเค๊กน่าทานมาก เซี๊ยะๆหนี่ค่ะเม่ย วันนี้ทีมบอลไทยต้องชนะอย่างแน่นอน

เพราะครั้งที่แล้วโกงเห็นๆ 

ฮ่อๆๆ กากี่นั้ง 

ดีใจจัง ตอนนี้ทีมไทยเรายิงนำสิงคโปร์ไปแล้ว 1-0 มาหม่ำ "ข้าวหน้าไก่" รองท้องระหว่างพักครึ่งก่อนเชียร์ต่อดีกว่าค่ะ 

[aiwen^mei]

ครึ่งหลังคงต้องใช้พลังมาก เลยมีเมนู "ไก่" มาเสริมค่ะ     

ปล. ต้ม ปิ้ง ทอด จนสุกแน่นอน มิต้องกลัวหวัดนก 

[THE THIRD WAY]

บรรยากาศหงอยเหงา
ขอบำรุงกำลังก่อน


ว่าตะว่า
จะหนาวอีกนานไม๊เนี่ย

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

บรรยากาศหงอยเหงา
ขอบำรุงกำลังก่อน


ว่าตะว่า
จะหนาวอีกนานไม๊เนี่ย

อะแฮ่ม......ลุงป๋าสามมาแนวอีโรติคเลย ใครจะบอกได้ว่าจะหนาวนานขนาดไหน

คงต้องลุ้นให้หนาวนานๆเพราะชอบๆๆๆๆๆ

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

http://www.ceted.org/cet_media/detail.php?mode=Knowledge&pid=134
   
    - โรคไข้หวัดนก

       โรคไข้หวัดนกกำลังระบาดในหลาย ๆ ประเทศ รวมทั้งประเทศไทยด้วย ซึ่งทำให้หลาย ๆ คนหวาดวิตกกับโรคนี้บ้างไม่มากก็น้อย เพราะถ้าเป็นแล้วและไม่ได้รับการรักษาที่ทันท่วงทีก็อาจถึงตายได้ ดังนั้น เรามาทำความรู้จักกับโรคนี้กันดีกว่า โรคไข้หวัดนกมีชื่อภาษาอังกฤษว่า Avian influenza, Bird flu เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส Avian influenzavirus type A ในตระกูล Orthomyxoviridae ซึ่งเป็น RNA ไวรัสชนิดมีเปลือกหุ้ม ลักษณะของเชื้อไวรัสในกลุ่มนี้จะถูกทำลายได้ง่ายด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทั่วไป เช่น แอลกอฮอล์ คลอโรฟอร์ม โรคไข้หวัดนกเป็นโรคติดต่อของสัตว์ประเภทนก ไก่หรือสัตว์ปีกติดไข้หวัดนกได้โดยเชื้อไวรัสจะถูกขับถ่ายออกมาทางอุจจาระของนก และติดต่อสู่สัตว์ปีกที่ไวต่อการรับเชื้อทางระบบทางเดินหายใจ และทางเดินอาหาร ระยะฟักตัวของโรคนี้ในสัตว์สั้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง ถึง 3 วัน ในสัตว์จะมีอาการซึม ซูบผอม ไม่กินอาหาร ขนยุ่ง ไอ จาม หายใจลำบาก หน้าบวม หงอน และเหนียงบวม มีสีคล้ำ มีอาการทางประสาท ท้องเสีย อาจตายกะทันหัน โดยไม่แสดงอาการ อัตราการตายอาจสูงถึง 100 % ตามปกติโรคนี้ติดต่อมายังคนได้ไม่ง่ายนัก แต่คนที่สัมผัสใกล้ชิดกับสัตว์ที่เป็นโรคอาจติดเชื้อได้ ดังมีรายงานการเกิดโรคในคนเป็นครั้งแรกในปี 2540 เมื่อเกิดโรคระบาดของสัตว์ปีกในฮ่องกง เชื้อไข้หวัดนกที่ติดมาสู่คนจะเป็นไวรัสชนิด H5N1 ติดต่อได้โดยการกินอาหารหรือน้ำที่มีการปนเปื้อนเชื้อมากับอุจจาระ น้ำมูก น้ำตา น้ำลาย ของสัตว์ป่วย และสามารถติดได้โดยการสัมผัสกับสัตว์ปีกที่ป่วยหรือตาย เชื้อที่อยู่ในน้ำมูก น้ำลาย และมูลของสัตว์ป่วยอาจติดมากับมือ และเข้าสู่ร่างกายทางเยื่อบุของจมูกและตา อาการของไข้หวัดนกในคนจะมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ แต่รุนแรงกว่า ระยะฟักตัวในคนใช้เวลาประมาณ 1- 3 วัน ในคนอาจมีอาการทางระบบทางเดินหายใจแบบเฉียบพลัน มีไข้สูง หนาวสั่น ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย มีน้ำมูก ไอ และเจ็บคอ บางครั้งพบว่ามีอาการตาแดง ซึ่งจะหายเองได้ภายใน 2 - 7 วัน หากมีอาการแทรกซ้อนจะมีอาการรุนแรงถึงปอดบวมและเกิดระบบหายใจล้มเหลวได้ โดยเฉพาะในเด็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว เนื่องจากอาจมีภูมิคุ้มกันไม่ดี ข้อกังวลขององค์การอนามัยโลกขณะนี้คือ Avian influenzavirus type A เป็นไวรัสที่กลายพันธุ์ได้ง่าย ซึ่งส่งผล 2 ประการคือ ประการแรกทำให้การจัดทำวัคซีนเพื่อป้องกันโรคทำได้ยาก ประการถัดมาคือ เกรงว่ามันจะกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ชนิดที่สามารถระบาดจากคนไปสู่คนได้ ซึ่งล่าสุดพบข้อสงสัยว่า อาจมีการแพร่ระบาดจากคนสู่คนเกิดขึ้นแล้วที่ประเทศเวียดนาม ดังนั้น การป้องกันไม่ให้ติดเชื้อไข้หวัดนกในคนจึงเป็นหนทางที่ดีที่สุดที่ทำได้ โดยการรับประทานอาหารสัตว์ปีกที่ปรุงสุกแล้ว เพราะเชื้อไข้หวัดนกไม่ใช่โรคติดต่อทางเดินอาหาร แต่เป็นโรคติดต่อทางเดินหายใจ เชื้อไวรัสไข้หวัดนกไม่สามารถทนต่อความร้อนที่สูงเกิน 70 องศาเซลเซียสได้ การทอด ต้ม นึ่ง อบ หรือย่าง อาหารก่อนรับประทานก็จะสามารถฆ่าเชื้อโรคได้ หากว่าอาหารนั้นมีเชื้อปะปนมาเมื่อถูกความร้อนเชื้อโรคก็จะถูกทำลายไป เราจึงรับประทานได้อย่างปลอดภัย ในกรณีที่ต้องปรุงอาหารที่ต้องสัมผัสกับเนื้อไก่ เป็ด ห่าน ก็ทำได้โดยการล้างมือ และภาชนะให้สะอาด เพราะเชื้อนี้ถูกฆ่าตายได้โดยง่ายด้วยสบู่ หรือน้ำยาซักล้าง และควรแยกเขียงหรือมีดที่ใช้ในการปรุงอาหารสุกจากอาหารที่ยังไม่ปรุง เพื่อมิให้มีการปนเปื้อนเชื้อโรคไปยังอาหารที่สุก ควรล้างเปลือกไข่ก่อนนำไปปรุงอาหาร การประกอบอาหารที่ใช้ไข่แดงและไข่ขาวต้องทำให้สุก ๆ สำหรับอาหารแปรรูป และอาหารพร้อมบริโภคที่มีการจำหน่ายในท้องตลาด ต้องได้รับเครื่องหมาย อย. ที่ถูกต้อง และผ่านเกณฑ์จีเอ็มพีแล้ว จึงจะเป็นอาหารที่มีความปลอดภัย เพราะมีกระบวนการผลิตที่ผ่านความร้อน หรือมีความเป็นกรดด่างที่เชื้อโรคไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ สำหรับน้ำสลัด มายองเนส ที่กระบวนการผลิตมีการฆ่าเชื้อด้วยความร้อน และมีระดับความเป็นกรดที่ทำให้เชื้อโรคต่าง ๆ ไม่สามารถอยู่ได้ ก็สามารถรับประทานได้ เพราะเชื้อไข้หวัดนกจะอยู่ได้ในสภาพที่มีค่าความเป็นกรด- ด่าง 5.5 - 8 เท่านั้น ที่มา : กองบรรณาธิการ ““ หวาด” ไก่ ไข้หวัดนกที่กลายพันธุ์” ฉลาดซื้อ. ปีที่ 10 ฉบับที่ 59 กุมภาพันธ์-มีนาคม 2547.
 


เอามาฝากด้วยทุกท่านค่ะ ด้วยความห่างใยเพราะใกล้เทศกาลตรุษจีนแล้ว

[ลับ ลวง พราง]

 

[aiwen^mei]

...

เอามาฝากด้วยทุกท่านค่ะ ด้วยความห่างใยเพราะใกล้เทศกาลตรุษจีนแล้ว

ขอบคุณมากหลายสำหรับความห่วงใยค่ะ 
แต่ตอนนี้ มีของหวานหน้าตาน่าทานมั่กๆ ต้อนรับวันวาเลนไทน์มาฝากค่ะ 

อ้างอิง: Metro Life - Manager Online

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

เอากุหลาบที่ทำจากช้อคโคแลตมาแลกค่ะเม่ย

[aiwen^mei]

เอากุหลาบที่ทำจากช้อคโคแลตมาแลกค่ะเม่ย

ขอบคุณค่ะ เลือกคลิปวิดีโอเพลงเพราะๆ ของหนุ่มฮ็อต มาฝากค่ะ

***...Eternity...***

by Robbie Williams

Close your eyes so you dont feel them,
They dont need to see you cry
I cant promise I will heal you,
But if you want to I will try.

I sing the summer serenade
The past is done, we've been betrayed, its true.
Someone said the truth will out
I believe without a doubt, in you

You were there for summer dreamin',
And you gave me what I need.
And I hope you'll find your freedom,
For eternity, for eternity.

Yesterday when you were walking,
You talked about your Mom and Dad.
What they did had made you happy,
What they didnt made you sad.

We sat and watched the sun go down,
Picked a star before we lost the moon.
Youth is wasted on the young,
Before you know its come and gone too soon.

You were there for summer dreaming,
And you gave me what I need.
And I hope you'll find your freedom,
For eternity, for eternity.

You were there for summer dreamin',
And you are a friend indeed.
And I hope you'll find your freedom,
For eternity.

You were there for summer dreamin',
And you are a friend indeed.
And I know you'll find your freedom,
Eventually, for eternity, for eternity.

 

[THE THIRD WAY]

http://thanks.exteen.com/20061023/entry

จะอยู่เคียงข้างเธอ       30 B         
 
 
คำร้อง: วีระพงศ์ บุตรากาศ
ทำนอง: วีระพงศ์ บุตรากาศ
เรียบเรียง: มาร์ค ใบเตย

 
 ก็ใจอยากจะถาม เหนื่อยไหมวันนี้เธอ
กับทางแห่งฝันเธอ สวยงามแต่แสนไกล
ที่ต้องเดินตามลำพัง คนเดียวไม่มีใคร
 เธอคงเหงาใช่ไหมคนดี
เธออาจจะล้มลุก ท้อใจแค่กลางทาง
 อาจเหนื่อยและสิ้นหวัง หมดแรงจะก้าวไป
ก็เลยมีคำนี้ ฝากมาให้เธอไป จากหัวใจด้วยรักและหวังดี
* ตะวันไม่สิ้นแสง ขอเธออย่าสิ้นหวัง
 เอาใจเป็นพลัง สร้างฝันกันต่อไป
หากวันใดอ่อนล้า เจ็บมาไม่มีใคร
 อยากบอกให้รู้ไว้ ฉันจะอยู่เคียงข้างเธอ
แค่เพียงเธอเอาฝัน เขียนลงที่หัวใจ
 และบอกตัวเองไว้ จะสู้มันสุดแรง
ต่อให้ภูเขาสูงกั้นความหวังเป็นกำแพง
 แต่ใจไม่สิ้นแรง จะข้ามไปยังฝั่งฝัน
( ซ้ำ *)


 

 
 

[aiwen^mei]

http://thanks.exteen.com/20061023/entry

จะอยู่เคียงข้างเธอ       30 B         
 
 
คำร้อง: วีระพงศ์ บุตรากาศ
ทำนอง: วีระพงศ์ บุตรากาศ
เรียบเรียง: มาร์ค ใบเตย

 
 ก็ใจอยากจะถาม เหนื่อยไหมวันนี้เธอ
กับทางแห่งฝันเธอ สวยงามแต่แสนไกล
ที่ต้องเดินตามลำพัง คนเดียวไม่มีใคร
 เธอคงเหงาใช่ไหมคนดี
เธออาจจะล้มลุก ท้อใจแค่กลางทาง
 อาจเหนื่อยและสิ้นหวัง หมดแรงจะก้าวไป
ก็เลยมีคำนี้ ฝากมาให้เธอไป จากหัวใจด้วยรักและหวังดี
* ตะวันไม่สิ้นแสง ขอเธออย่าสิ้นหวัง
 เอาใจเป็นพลัง สร้างฝันกันต่อไป
หากวันใดอ่อนล้า เจ็บมาไม่มีใคร
 อยากบอกให้รู้ไว้ ฉันจะอยู่เคียงข้างเธอ
แค่เพียงเธอเอาฝัน เขียนลงที่หัวใจ
 และบอกตัวเองไว้ จะสู้มันสุดแรง
ต่อให้ภูเขาสูงกั้นความหวังเป็นกำแพง
 แต่ใจไม่สิ้นแรง จะข้ามไปยังฝั่งฝัน
( ซ้ำ *)


 

 
 

  ขอบคุณมากๆ ค่ะ เพลงก็เพราะ ความหมายก็ซาบซึ้ง เดี๋ยวขอโพสต์เรื่องดีๆ ประกอบดีกว่า 

[aiwen^mei]

นักวิชาการสาวเล่าเรื่องรักปลุกสามีมนุษย์ผักฟื้นขึ้นอีกครั้ง
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 11 กุมภาพันธ์ 2550 16:57 น.
 
 
       ณ เมืองโพโถว ชายหนุ่มผู้หนึ่งต้องนอนเป็นมนุษย์ผักเนื่องจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ส่งผลให้ภรรยาของเขาต้องดูแลอย่างใกล้ชิดขณะที่ต้องเลี้ยงลูกชายอายุ 4 ขวบไปด้วยพร้อมๆ กัน แต่ฝ่ายภรรยาไม่ย่อท้อ พยายามเล่าเรื่องราวความรักรวมทั้งร้องเพลงให้สามีฟัง และผลจากความพยายามและหัวใจรักที่ยิ่งใหญ่ ทำให้วันหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ชายผู้ซึ่งนอนนิ่งไม่ได้สติอยู่บนเตียงมาปีกว่าได้ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง
 
       เหตุการณ์ที่ไม่อยากให้เกิด     
   
       หวังซิ่วฉินและเวินซีหงเป็นชาวเมืองโพโถวทั้งคู่ สองคนพบรักกันในสมัยที่ทั้งคู่เรียนอยู่ที่ชางโจว(沧州)หลังจากจบการศึกษา เวินซีหงทำงานเกี่ยวกับเทคโนโลยีอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่งในเมืองโพโถว ส่วนหวังซิ่วฉินนั้นไปเป็นครูประถมที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง หลังจากที่ทั้งสองแต่งงานกันไม่นานก็มีลูกชายที่ร่าเริงน่ารักหนึ่งคน
       
       หลังจากช่วงชีวิตที่มีความสุขเริ่มต้นขึ้นได้ไม่นาน คืนวันที่ 13 มิถุนายน ในปี 2548 หลังจากที่เวินซีหงรับประทานอาหารมื้อเย็นเสร็จและกำลังจะกลับไปทำงานที่บริษัท ได้ถูกรถยนต์คันหนึ่งพุ่งเข้าชน ซึ่งจากผลการตรวจของโรงพยาบาลเมืองโพโถวพบว่าเขาได้รับความกระทบกระเทือนทางสมอง และเนื่องจากบาดเจ็บสาหัส ทำให้เขาสลบไสลไม่ได้สติ หลังจากนั้นราว 1 เดือนกว่า เวินซีหงถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลเทียนจินหวยหู และในช่วงระยะเวลากว่า 4 เดือน เขาก็อยู่ในภาวะไร้ปฏิกิริยาตอบรับมาโดยตลอด อาการของเขาไม่เพียงไม่ดีขึ้น แต่ยังมีอาการติดเชื้อ ทำให้แพทย์มีใบแจ้งอาการผู้ป่วยว่าอยู่ในขั้นฉุกเฉินเป็นตายเท่ากันออกมาหลายครั้ง และเนื่องจากหมดหนทางรักษา หวังซิ่วฉินจึงพาสามีกลับบ้าน
       
       จากการลงความเห็นของแพทย์ อาการของเวินซีหง อยู่ในหมวดของผู้พิการขึ้นที่หนึ่ง ไร้ปฏิกิริยาตอบสนอง ต้องนอนเป็นมนุษย์ผัก ทำให้ภรรยาผู้ซึ่งแต่งงานกับเขามาได้ไม่กี่ปีนั้นทำใจไม่ได้ว่าเหตุการณ์นี้เป็นความจริง เธอเฝ้ามองหน้าเขา เฝ้าคิดว่าวันพรุ่งนี้เขาจะต้องตื่นขึ้นมากอดคอเธอและกระซิบเบาๆ ที่ข้างหูเพื่อหยอกล้อเธอเหมือนเคย
       
       อย่างไรก็ตาม เวลาผ่านพ้นไป ความหวังของหวังซิ่วฉินค่อยๆ มอดดับลงไปพร้อมกัน เธอเริ่มยอมรับความจริงอย่างสงบ “ถ้าเขาต้องนอนนิ่งแบบนี้ไปทั้งชีวิต ฉันก็พร้อมที่จะดูแลเขาไปชั่วชีวิตเช่นกัน” เธอตัดสินใจ
       
       ทบทวนความรักในอดีตฟื้นความทรงจำ
       
       ผู้ซึ่งนอนไร้สติอยู่นานปีอย่างเวินซีหง ทุกวันทำได้เพียงแค่รับสารอาหารผ่านทางจมูกเพื่อหล่อเลี้ยงชีวิต การขับถ่ายยิ่งไม่ต้องพูดถึง แต่หวังซิ่วฉินไม่เพียงไม่รู้สึกลำบาก ทุกวันเมื่อโรงเรียนเลิก เธอก็จะมาอยู่ที่หน้าเตียงของสามี อาบน้ำ ล้างเท้า และนวดให้เขาเป็นประจำ แม้ว่าสามีจะสูญเสียสติสัมปชัญญะ เธอก็อยากจะให้เขาสะอาด เรียบร้อย เหมือนตั้งแต่ครั้งที่ยังไม่เกิดอุบัติเหตุ
       
       ฤดูใบไม้ผลิของปีนี้ นับเป็นระยะเวลา 2 เดือนที่เวินซีหงจะต้องไปโรงพยาบาลทุกวันเพื่อให้ออกซิเจน ทำให้ทุกวันช่วงบ่ายหลังจากสอนหนังสือเสร็จ หวังซิ่วฉินต้องรีบขี่จักรยานกว่า 10 กิโลเพื่อกลับมาบ้าน พาสามีขึ้นสามล้อไปยังโรงพยาบาล
       
       หวังซิ่วฉินมีคติประจำใจว่า “ฉันจะพยายามทำทุกอย่างให้ตนเองไม่รู้สึกเสียดายในภายหลัง” ขอเพียงมีความหวังเพียงน้อยนิด เธอไม่มีทางที่จะละความพยายาม ขณะที่สามีของเธอยังอยู่ที่โรงพยายาลเทียนจินนั้น เธอไม่เพียงคอยเรียกอยู่ข้างหูสามี ทั้งยังอัดเทปเสียงร้องเพลงของตนเองและลูกชายเอาไว้เพื่อเปิดให้สามีฟัง และสิ่งที่ปลอบประโลมใจของเธอก็คือทุกครั้งที่เปิดเทปเสียงลูกชายของทั้งสอง ความดันของเวินซีหงจะมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเสมอ
       
       หวังซิ่วฉินไม่เคยเชื่อว่าสามีนิทราของเธอจะไม่ได้ยินเสียงเล่าเรื่องราวต่างๆของเธอ ดังนั้นเธอจึงเล่าเรื่องราวต่างๆอยู่ข้างหูสามีเป็นประจำ และเรื่องที่เธอเล่าบ่อยที่สุดก็คือเรื่องราวความรักของเธอกับสามีสมัยที่เรียนอยู่ที่ชางโจว ด้วยกัน เล่าถึงเหตุการณ์ความประทับใจในครั้งที่เธอและเขาไปเที่ยวสวนสาธารณะ เล่าไปเล่าไป จนบางครั้งน้ำตาของเธอก็ไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว

       ก้าวแรกแห่งความหวัง
       
       หวังซิ่วฉินไม่กล้าที่จะรบกวนเวลาเรียนของบรรดาลูกศิษย์ ดังนั้นเธอจึงสอนหนังสือตามปกติและลางานน้อยมาก ใช้เพียงนอกเวลางานในการเฝ้าสามี หยุดเทอมภาคฤดูร้อนของปีนี้ หวังซิ่วฉินพยายามสอนให้สามีนับนิ้วมือ อยู่มาวันหนึ่งเมื่อหวังซิ่วฉินพูดคำว่า “หนึ่ง” เวินซีหงก็ค่อยๆชูนิ้วขึ้นมาหนึ่งนิ้ว ทำให้เธอแทบไม่เชื่อสายตาตนเอง และคิดว่าเป็นแค่ความบังเอิญ จึงทดลองใหม่อีกครั้ง และผลก็เป็นแบบเดิม หลังจาก “หนึ่ง” ในครั้งนั้น พัฒนาการของเวินซีหงก็ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว คนแรกที่เขากลับมาจำได้อีกครั้งคือภรรยาของตนเอง หลังจากนั้นเขาก็เรียกชื่อลูกชายของตัวเองได้ถูกต้อง และเสมือนย้อนกลับไปสมัยที่เริ่มเรียนรู้การพูดในวัยเยาว์อีกครั้ง เมื่อเขาเปล่งเสียงเรียกผู้เฒ่าชราสองคนว่า “พ่อ” “แม่” นอกจากนั้นหลังจากที่เวินซีหงตื่นขึ้นมา เขาก็เรียนรู้ที่จะรับประทานอาหารอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องกินอาหารทางสายยางอีกต่อไป
       
       เมื่อแสงสว่างแห่งความสุขสาดส่อง
       
       วันที่ 21 ธันวาคม เมื่อนักข่าวเข้าไปยังห้องพักของครอบครัวเวิน พบว่าหวังซิ่วฉินกำลังเล่นไพ่เป็นเพื่อนสามี และทุกครั้งที่เวินซีหงจับได้ไพ่ใบดีก็จะมีท่าทางดีใจอย่างเห็นได้ชัด ส่วนใหญ่เวินซีหงจะเป็นผู้ชนะ ซึ่งหวังซิ่วฉินกล่าวว่า “ไม่ใช่ฉันตั้งใจแกล้งแพ้ แต่สามีฉันเค้าเล่นอย่างตั้งใจ พัฒนาการของเขาเร็วมาก”
       
       หลังจากเล่นไพ่แล้ว หวังซิ่วฉินก็จัดที่นอนให้สามีและนำโทรทัศน์มาเปิดให้เขาดู และเล่าว่าสามีของเธอเรียนรู้ที่จะยิ้มจากละครเรื่องหนึ่งในโทรทัศน์นี่เอง
       
       ขณะที่เวินซีหงดูโทรทัศน์ หวังซิ่วฉินก็บอกผลไม้ให้เขา และเมื่อเขาหยิบผลไม้ไปแล้วก็รู้จักที่จะเหลือไว้ให้ภรรยา และเมื่อหวังซิ่วฉินเห็นดังนั้นจึงกล่าวว่า “ให้ฉันกินแค่คนเดียวเองหรือ?” เมื่อได้ยินดังนั้นเวินซีหงก็รีบหยิบผลไม้ส่งให้นักข่าวด้วยทันที
       
       หวังซิ่วฉินยังกล่าวอีกว่า “ซีหงนั้นเป็นคนร่าเริง คุยเก่ง มนุษยสัมพันธ์ดีมาแต่ไหนแต่ไร ผิดกับฉันที่เป็นคนไม่ชอบแสดงออก เงียบๆ แต่หลังจากที่เขาไม่ได้สติมากว่าปี ทำให้ฉันกลายเป็นคนพูดเก่งมากขึ้น”
       
       หวังซิ่วฉินเชื่อมั่นในความพยายามของตน ในช่วงที่เวินซีหงยังไม่ฟื้นนั้น เธอได้เปิดเพลง “หนี่ซื่อหว่อเตอเหมยกุ้ยฮัว(เธอคือดอกกุหลาบของฉัน)” ให้เขาฟัง ซึ่งเวินซีหงเองก่อนหน้านั้นก็ไม่เคยฟังเพลงดังกล่าวมาก่อน แต่หลังจากเวินซีหงฟื้น ครั้งหนึ่งเขาได้ฮัมเพลงดังกล่าวออกมา ทำให้หวังซิ่วฉินเชื่อมั่นว่าการที่สามีอาการดีขึ้นมาได้ขนาดนี้นั้น เนื่องจากมีความรักเป็นสิ่งเยียวยาพื้นฐาน
       
       หวังซิ่วฉินเล่าว่า ลูกชายอายุ 4 ขวบของเธอกับเวินซีหงก็พูดกับพ่อของเขาบ่อยๆ ว่า “พ่อหายไวๆ นะ จะได้พาหนูไปนั่งรถของเล่นที่ห้าง” หลังจากเล่าจบเธอจึงหันไปโอบบ่าสามีและมองเขาด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความรักอีกครั้ง
       
http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9500000005417
 

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆที่เอามาฝากค่ะเม่ย

ความรักเป็นเรื่องมหัศจรรย์เสมอ ใครอาจเคลื่อนภูเขาทั้งลูกได้เพราะความรัก

เชื่อเรื่องนี้ว่าเป็นจริงค่ะ

[aiwen^mei]

ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆที่เอามาฝากค่ะเม่ย

ความรักเป็นเรื่องมหัศจรรย์เสมอ ใครอาจเคลื่อนภูเขาทั้งลูกได้เพราะความรัก

เชื่อเรื่องนี้ว่าเป็นจริงค่ะ

 

ถ้าเจอเพลง "หนี่ซื่อหว่อเตอเหมยกุ้ยฮัว" ที่ฝ่ายภรรยา หวังซิ่วฉิน เปิดให้สามีเวินซีหงฟัง จะเอามาเปิดนะคะ

แต่ตอนนี้ขอเปิดเพลงไพเราะเพลงนี้ดีกว่า "อีเจียนเหมย" 《一剪梅》 โดย เฟ่ยอวี้ชิง 费玉清

http://youtube.com/watch?v=jDJbBcskBsY
พอดีไม่นานมานี้ ได้ดูจาก CCTV 4 ชอบม้ากมาก ขนาดฟังไม่รู้เรื่องนะคะเนี่ยะ 

[THE THIRD WAY]

อานุภาพของความรัก……
 ผู้ชายมาจากดาวอังคาร ผู้หญิงมาจากดาวศุกร์ ยกเว้นเวลาที่พวกเขาตกหลุมรักกัน
ซึ่งช่วงนี้เป็นเวลาที่ผู้ชายและผู้หญิงจะเหมือนกันมากเป็นพิเศษ
เราทราบดีว่า เวลาที่ตกหลุมรักใคร มันก็คล้ายๆกับว่าเรากำลังเป็นบ้า
และ Dr.Marazziti จาก University of Pisa ในอิตาลี ก็ได้แสดงให้เห็นในปี 1999ว่า
ระดับของสารสื่อประสาทที่ชื่อ serotonin ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยให้ใจเย็น และสงบ
 มีปริมาณลดลงในคนที่กำลังตกหลุมรักอยู่ ระดับ serotoninที่ลดลงนี้เหมือนกับที่พบในคนไข้ที่เป็น โรคย้ำคิดย้ำทำ (obsessive compulsive disorder)
คนทั้งสองกลุ่มนี้มีอาการอย่างหนึ่งที่เหมือนกันคือ ใช้เวลาจำนวนมากหมกมุ่นกับบางคน หรือบางเรื่อง (New Scientist print edition, 31 July 1999)
คราวนี้ Dr.Marazziti ได้ทำการตรวจระดับฮอร์โมน ในคนที่กำลังตกหลุมรัก 12 คู่ ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา
 เทียบกับอาสาสมัคร 24 คนที่เป็นโสด หรือ มีคู่มาเป็นเวลานานแล้ว
พบว่า ระดับของฮอร์โมนแรกที่ตรวจคือ cortisol เพิ่มสูงขึ้นอย่างมากทั้งในชายและหญิง
ปกติcortisol จะสูงขึ้นในภาวะเครียด อาจจะอนุมานได้ว่า การจีบกันก็เป็นเรื่องเครียดได้เหมือนกัน
แต่การค้นพบที่น่าสนใจกว่าคือ ระดับของฮอร์โมนเพศชาย testosterone ซึ่งมีหน้าที่เกี่ยวโยงกับความก้าวร้าวและแรงขับทางเพศ
ผู้ชายที่กำลังอยู่ในความรักจะมีระดับ testosterone ต่ำกว่าปกติ ในขณะที่ผู้หญิงที่กำลังมีความรักมีระดับฮอร์โมนตัวนี้สูงขึ้น
พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ ผู้ชายมีความเป็นผู้หญิงมากขึ้น และผู้หญิงก็มีความเป็นผู้ชายมากขึ้นเช่นกัน
คล้ายๆกับว่าธรรมชาติต้องการกำจัดความแตกต่างระหว่างชายและหญิง เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดในขณะนั้นคือการอยู่รอดของเผ่าพันธุ์
อย่างไรก็ดี Dr. Bartels จาก University College London ยังไม่ปักใจเชื่อว่า
 การอยู่ในห้วงแห่งความรักเป็นสาเหตุของการเปลียนแปลงในร่างกายเหล่านี้ โดยมองว่าการที่ระดับฮอรโมนเปลี่ยนไปอาจเป็นผลมาจากการมีเพศสัมพันธ์ที่มากขึ้นด้วย
แต่ Dr.Marazziti แย้งว่าเหตุผลนี้ไม่น่าจะมีส่วนต่อระดับฮอรโมน
เนื่องจากในงานวิจัยของเธอ กลุ่มควบคุม กับกลุ่มที่กำลังมีความรัก มีเพศสัมพันธ์ในระดับความถี่ที่เท่ากัน
นอกจากนี้ ในอีกการศึกษาหนึ่ง (New Scientist, 27 November 1999) พบว่า
ระดับtestosterone ในชายจะสูงขึ้นแปรผันตามกิจกรรมทางเพศ ดังนั้นถ้าระดับฮอร์โมนแปรตามเพศสัมพันธ์จริง
ก็น่าจะพบ testosterone ในชายที่กำลังมีความรักสูงขึ้น ไม่ใช่ลดลงอย่างที่พบนี้
นอกจากระดับ testosterone ที่ถูกปรับให้ชาย-หญิงเหมือนกันมากขึ้นแล้ว ยังอาจมีปัจจัยอื่นที่ช่วยด้วย
 และคำกล่าวที่ว่า ความรักทำให้คนตาบอดก็อาจเป็นจริง เนื่องจากในการศึกษาของทีม Dr. Bartels (Neuroimage, vol 21, p 1155) พบว่า
 เมื่อเวลาที่คนมองคู่รักของตน วงจรประสาทในส่วนที่เกี่ยวกับการประเมินผู้อื่นทางสังคมจะไม่ทำงาน
ซึ่งนี่อาจเป็นสาเหตุที่ช่วยอธิบายได้ว่า ทำไมบางคนถึงมักไม่ค่อยมองเห็นข้อเสียของคนรักตนเอง
อย่างไรก็ตามภาวะเหล่านี้ไม่ได้คงทนถาวร เมื่อ Dr.Marazziti ได้ทำการตรวจอาสาสมัครกลุ่มเดิมซ้ำในเวลา 1-2 ปีต่อมา
 เมื่อทั้งคู่บอกว่า ไม่ได้หลงใหลคลั่งไคล้กันต่อไปแล้ว ก็พบว่า ระดับฮอร์โมนต่างๆ กลับคืนสู่ภาวะปกติ
Professor Leng จาก University of Edinburgh ซึ่งกำลังทำงานวิจัยทางด้านนี้เช่นกัน ให้ความเห็นว่า
การศึกษาเหล่านี้ ช่วยให้ทราบว่า ความรักมีผลทางกายภาพอย่างไรบ้าง
“มันช่วยให้เราเข้าใจตัวเองดีขึ้น” และเสริมว่าในอนาคตอาจมียาที่ใช้รักษาคู่รักที่ความสัมพันธ์มีปัญหาได้


http://www.vcharkarn.com/include/vcafe/showkratoo.php?Pid=19255


 

[~เด็กบอร์ด~]

อ่านเรื่องราวความรักของเรื่องนี้แล้วจะซึ้งคะ

นู๋อ่านเจอแล้วน้ำตาไหลเลย

เรื่อง แม่มดพิสูจน์รักแท้

มีเรื่องเล่าระหว่างสาวสวยและหนุ่มรูปงามผู้ซึ่งรักกันมาก และสาบานว่า แม้ความตายก็มิอาจจะพรากรักอันแสนจะมั่นคงนี้ลงได้ และในครั้งนั้นยังมีแม่มดตนหนึ่งผู้ซึ่ง ไม่เชื่อว่าความรักของทั้ง 2 จะมั่นคง จึงคิดหาทางพิสูจน์ขึ้นมา นางกล่าวว่า .. . . .

"หากพวกเจ้ามั่นใจในรักของอีกฝ่าย ซึ่งยั่งยืนแม้ว่าความตายจะพราก ดังนั้นข้าก็อยากจะลองดูว่ามันจะเป็นอย่างไร...ข้าขอสาปให้นับแต่นี้ เป็นต้นไป ไม่ว่าจะเกิดใหม่อีกสักกี่ชาติ บุรุษนี้จะไม่มีทางจำเจ้าได้ เขาจะไม่สามารถจำได้ ว่าเคยรักเจ้า และตรงกันข้ามกับเจ้า เจ้าจะเป็นคนที่จำทุกอย่างได้ เพราะเจ้า จะยังคงอยู่เช่นนี้ตลอดไป ไม่แก่ไม่เฒ่า ไม่มีวันตาย จะอยู่อย่างนี้นิรันดร... เจ้าจะจำเวลาที่เคยรักเขา เคยเป็นที่รักและต้องเฝ้ารอการกลับมาของเขา ในชาติแล้วชาติ เล่าตลอดกาล...


วันใดก็ตามที่เจ้าทำให้เขารู้ตัวว่ารักเจ้า ทำให้เขาจำเจ้าได้ วันนั้น...คือวันที่ความเป็นนิรันดร์ของเจ้าสิ้นสุดลง.. เจ้าจะแก่และตาย ตามสภาพ ของอายุขัยที่ควรเป็น.. . และคราวนี้ก็จะเป็นทีของเจ้าหนุ่มนั่นแทน... เขาจะต้องเป็นคนที่ค้นหาเจ้าบ้าง..."

หลังจากนั้นมาปีแล้วปีเล่าเวลาผ่านไปศตวรรษทบศตวรรษ ที่หญิงสาวเฝ้าตามหาชายหนุ่มคนรัก และทุกครั้งที่เธอได้พบเขาในสภาพของใครคนหนึ่ง ที่ไม่มีความทรงจำ เกี่ยวกับเธอเลยแม้แต่น้อย... เธอพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เขา จำเธอได้ แต่มันไม่เคยสำเร็จชาติแล้วชาติเล่า...

หลังจากการเกิดและดับของเขาผ่านไปนับสิบครั้ง เขาก็ยังไม่อาจระลึกได้ ถึงความรักของเธอ...ความทุกข์ทรมานของหญิงสาวถูกเฝ้าดูอย่าง เย้ยเยาะ โดยนางแม่มดผู้รอคอยเวลาที่หญิงสาวจะยอมรับว่า... รักแท้ที่แม้ความตาย ก็ไม่อาจพรากไม่มีจริง แล้วนางแม่มดก็ต้องประหลาดใจ เมื่อพบว่า ในช่วงหลัง ๆ มา หญิงสาวไม่ได้พยายามที่จะทำให้ชายหนุ่มระลึกถึงตน ไม่พยายามให้ชายหนุ่มรักตน... แต่กลับทำทุกอย่างที่คิดว่าจะทำให้เขามีความสุข และทำให้เขาเกิดรอยยิ้ม แทน...

แล้ววันหนึ่งนางแม่มดก็เก็บความสงสัยไว้ไม่ไหว จึงปรากฏตัวเพื่อเอ่ยถาม กับตัวหญิงสาวเอง...
"เจ้าได้ละทิ้งความพยายามของเจ้าเสียแล้วหรือ... ความพยายามที่จะพิสูจน์ ให้ข้าเห็นอำนาจและพลังของรักแท้ที่เหนือกว่าอำนาจใด ๆ แม้กระทั่งคำสาปของข้า..."

"จริง ๆ แล้ว ข้าก็มีเหตุผลของข้า..." หญิงสาวตอบนางแม่มดกลับไป

"...ข้าไม่ได้ละทิ้งความพยายาม... เพียงแต่...ข้ากลัวว่าความพยายามของข้า จะสัมฤทธิ์ผล... แล้ว......."

"แล้วเจ้าก็ต้องแก่และตาย..." นางแม่มดต่อให้ด้วยเสียงเย้ยหยัน

"ที่แท้เจ้าก็กลัวที่จะตาย... เจ้ากลัวจะสูญเสียความเป็นอมตะของเจ้า... ....เฮอะ นี่หรือรักแท้ของเจ้า..."

หญิงสาวไม่ปฏิเสธ นางเผชิญหน้ากับนางแม่มดและรับคำกล่าวหานั้น
"อาจใช่...มันเป็นความจริงที่ข้ากลัวว่า หากข้าทำให้เขาจำข้าและรักข้าได้ ข้าจะต้องตายจากเขาไป..."

"และเจ้าก็ไม่เชื่อใจว่า เขาจะทำให้เจ้าจำได้เช่นนั้นหรือ?..."

หญิงสาวจ้องหน้าแม่มดนิ่งอยู่ ก่อนตอบ "สิ่งที่ข้าเกรงไม่ใช่เรื่องนั้น ท่านรู้อะไรไหม... ตลอดเวลาอันยาวนานที่ข้าเฝ้าเดินทางตาม หาเขา เฝ้ารอคอยวันแล้ววันเล่า รอ วันที่เขาจะกลับมาหาข้าอีกครั้ง ตลอดเวลาที่ข้า เฝ้ามองการเกิดและการตายของเขา มันคือความทรมานอันยาวนานที่ดู เหมือนไม่มีที่สิ้นสุด... และสำหรับข้าความทุกข์

อันแสนสาหัส คือการได้เห็น ความทรมานของผู้เป็นที่รัก โดยที่เราไม่อาจเอื้อมมือเข้าไปช่วยเหลือได้...

หลายครั้งที่ข้าอยากให้ตัวข้าเห็นแก่ตัว พอที่จะพยายามทำให้เขารัก ทำให้เขาระลึกถึงข้าได้อีกครั้ง เพื่อที่ข้าจะได้เป็นอิสระต่อการพันธนาการ นี้... แต่ทุกครั้งที่ข้าคิดถึงมัน... ความทุกข์ทรมานที่ข้าได้รับ เนื่องจากการรอคอย ที่ไม่มีวันจบสิ้นก็ทำให้ข้าคิดได้ ข้าไม่อาจให้เขาต้องแบกรับความรู้สึกทรมานเช่นที่ข้าได้รู้สึก... สิ่งเดียวที่ข้าจะทำคือ ข้าจะทำให้เวลาของเขามีแต่ความสุข เท่าที่พลังของข้า จะ ทำได้... ข้าอาจไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเขาก็จริง แต่ข้าก็ยังอยากเห็น รอยยิ้มของเขา... ข้าอาจเป็นคนอ่อนแอในสายตาของท่าน อย่างไรก็ตาม นี่ก็คือความรักของ ข้า คือสิ่งที่ข้าเป็น...
แม้ชีวิตของข้าจะต้องเดียวดายตลอดกาล แต่ข้าก็มั่นใจอยู่อย่างหนึ่งว่า คนที่ข้ารักจะไม่มีวันเดียวดายเช่นตัวข้า... เพราะเขาจะมีข้าข้างกายเขา ชั่วนิรันดร์..."
'นิทานเรื่องนี้ไม่มีตอนจบ เพราะอยากให้คนที่อ่านจินตนาการถึงตอนจบเอาเอง

ในชีวิตของเรา มีหลายช่วงต่อหลายช่วงที่เราคิดว่า เรารักใครสักคนมากมาย เหลือเกิน และหลายต่อหลายครั้งที่ความรักของเรา ก็ต้องการ ความรักตอบกลับมา หลายคนฟูมฟายกับโชคชะตา ว่ารักที่ไม่ได้รักตอบ คือการสูญเวลาเปล่า... แต่มีหลายต่อหลายคน... ที่ดีใจกับโชคชะตาที่เกิดมาสักครั้งแต่ยังได้รัก
ใคร สักคนอย่างเต็มหัวใจ... ทุกอย่างในชีวิตมีทางเลือก... ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเลือก ทางไหนหรือคุณจะเลือกหรือไม่?'
คุณจะเลือกทางไหน... เปิดประตูรับความรักเข้ามาเพื่อเติมความอบอุ่น ให้กับหัวใจแม้เพียงช่วงหนึ่งของชีวิต... หรือจะมัวแต่ฟูมฟายโทษตัว เอง กับความรักที่ให้ไปแต่ไม่ได้รักตอบ...

ทางเลือกเป็นของคุณ

[~เด็กบอร์ด~]

นิทานของดาวคะ

นานมาแล้ว.. สมัยที่โลกยังมีพระจันทร์ 2 ดวง ซึ่งดวงหนึ่งเป็นหญิง และอีกดวงเป็นชาย พระจันทร์สองดวงนี้ รักกันมาก และไม่เคยแยกห่างจากกัน ทุก ๆ คืน.. เมื่อมองไปบนท้องฟ้า ยามนั้นจะได้เห็นพระจันทร์ทั้งคู่ อยู่เคียงข้างกันเสมอ

กระทั่งวันหนึ่ง.. เมื่อพระจันทร์เพศหญิงได้พบกับดวงอาทิตย์ เธอรู้สึกหลงใหลในแสงเจิดจ้านั้น และค่อยๆ เคลื่อนตัวติดตามดวงอาทิตย์ไปทีละน้อย ค่อยแยกห่างจากพระจันทร์คู่รัก จนไม่ได้อยู่เคียงข้างกันอีกต่อไป เมื่อค่ำคืนมาถึง.. จึงปรากฏพระจันทร์เพศชายให้เห็นเพียงลำพัง

นับจากนั้น พระจันทร์เพศชายก็เฝ้าตามหาพระจันทร์คู่รักไปทุกหนแห่ง ทว่า.. คืนแล้วคืนเล่า พระจันทร์หนุ่ม ก็ไม่อาจหาพระจันทร์หญิงได้พบ ด้วยความคิดถึงและอยากพบสุดหัวใจ จนไม่อาจรอคอยได้อีกต่อไป พระจันทร์ชายจึงคิดว่า "หากเรามัวแต่ตามหาอยู่อย่างนี้คงไม่ได้พบเจอกันแน่"
ดังนั้น.. พระจันทร์ชายจึงตัดสินใจระเบิดตัวเองเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เพื่อจะได้กระจายไปทั่วทั้งจักรวาล และสามารถให้ทุกชิ้นส่วนทุกอณูของตนออกติดตามหาพระจันทร์คู่รัก

ฝ่ายพระจันทร์หญิงนั้น ยิ่งนานวันก็ยิ่งได้เรียนรู้และเข้าใจว่า แม้ดวงอาทิตย์จะส่องแสงเจิดจ้าสวยงามเพียงใด อาทิตย์ดวงนั้นก็มิได้ส่องแสงเจิดจ้าเพื่อตนเพียงผู้เดียวเท่านั้น แต่ยังส่องแสงไปยังสิ่งมีชีวิตและดาวดวงอื่น ๆ อีกมากมาย พระจันทร์หญิงจึงกลับมาหาพระจันทร์ผู้ชายอีกครั้ง แต่.. ไม่ว่าจะค้นหาเท่าไรก็มิอาจพบคู่รักดวงจันทร์นั้นได้

กระทั่งได้รู้ว่า พระจันทร์ชายยอมระเบิดตัวเองเป็นเศษเสี้ยวเล็กๆ เพื่อตามหาตน พระจันทร์หญิงจึงรู้ว่า คงไม่มีโอกาสได้พบเจอพระจันทร์คู่รักอีกต่อไป จึงได้แต่โศกเศร้าเสียใจเพียงลำพัง แต่ด้วยความรักอันยิ่งใหญ่ ที่พระจันทร์ชายมีต่อพระจันทร์หญิง... ทุกค่ำคืนจึงพยายามเปล่งประกายแสงที่ยังหลงเหลือเพียงน้อยนิด จากแต่ละเศษเสี้ยวของตน หวังส่งให้ถึงพระจันทร์ซึ่งเป็นที่รัก เกิดเป็นแสงพร่างพรายเต็มท้องฟ้า เคียงข้างดวงจันทร์ จนเกิดเป็นพระจันทร์เคียงคู่กับดวงดาวระยิบระยับให้เราเห็นจนถึงทุกวันนี้

ทว่า.. ความแตกต่างระหว่างพระจันทร์กับดวงดาวก็ทำให้ทั้งคู่มิอาจเคียงข้างกันเสมอไปได้เฉกเช่นเดิม จะเห็นได้ว่า ค่ำคืนที่พระจันทร์เต็มดวงจรัสแสงเจิดจ้า คืนนั้น.. ท้องฟ้ามักไร้ประกายแสงแห่งดวงดาว แต่ในค่ำคืนซึ่งมีเมฆบดบังแสงจากพระจันทร์ไปหมดสิ้น ค่ำคืนนั้นต่างหาก จึงปรากฏลำแสงน้อยๆ จากดวงดาวทอเต็มท้องฟ้า

[THE THIRD WAY]

คลีโอพัตรา ยอมรักเพื่อแผ่นดิน



เรื่องราวของหญิงผู้มีเสน่ห์ สามารถทำให้เลือดในกายของ ผู้ชายเกิด ความกดดันอย่างรุนแรงได้ ชื่อของ พระนาง คลีโอพัตรา ราชินี แห่งอียิปต์ ความเลอโฉมของพระนางสยบชายอันมีนามโด่งดัง 2 คน ซึ่งทั้งสองถือ เป็นผู้พิชิตโลก แต่สุดท้าย กลับต้องถูกพระนางเป็นผู้พิชิต ชาย 2 คนนั้น คือ จูเลียส ซีซาร์ และ มาร์ก อันโตนี



48 ปีก่อนที่พระเยซูเกิด ซีซาร์เดินทางเข้าสู่เมืองอเล็กซานเดีย ขณะนั้น พระนางกำลัง ประสบภัยจากการแย่งชิงบัลลังก์ของพระสวามีซึ่งเป็นน้อง ชายของพระนางเอง พระนางต้องหนีจากกรุงไคโรเพื่อรักษาชีวิตของ พระนางไว้ ซีซาร์ออกคำสั่งให้พระนางมาหาเขา แต่พระนางไม่ทราบจะเข้าหาซีซาร์ได้ อย่างไร เนื่องจากมีสายลับของน้องชายพระองค์อยู่เต็มไปหมด



ในคืน เดือนมืดวันหนึ่ง พระนาง เล็ดลอดจากเมืองนี้โดยพระนางเข้าไปอยู่ในม้วนพรมแล้วให้คนใช้นำพระนางลงเรือหา ปลาลำย่อยๆเข้าไปหาซีซาร์ที่ พระราชวัง

เมื่อคลีโอพัตราลุกขึ้นจากพรม และเริ่มระบำรำฟ้อนไปทั่วๆห้อง เรือนร่าง ของวัยสาว อายุ 21 ปี ทำให้ซีซาร์ ซึ่งมีอายุ 54 ปี และหัวล้าน เข้าสู่ระลอก แห่งความรัก และบุรุษ ผู้เรืองนามแห่งอาณาจักรโรมันต้องตกเป็นทาส ทาสหัวใจแก่สาวน้อยแห่งดินแดนอียิปต์ และด้วยกำลังของซีซาร์ กองทัพโรมันเข้าโรมรันกับกองทัพอียิปต์ของน้อง ชายของ พระนาง ซีซาร์เข้าตี ทำให้กองทัพอียิปต์ต้องถอยร่นไปยังแม่น้ำ ไนล์ และน้องชายของ พระนางได้จมน้ำเสียชีวิตในแม่น้ำสายนี้เอง



แต่นั้นมา คลีโอพัตราเป็นเจ้าแม่อยู่หัวของอียิปต์อย่างราบรื่น ปกครอง ดินแดนอียิปต์ อันไพศาล พระนางมีโอรสกับซีซาร์ ซึ่งพระนางอ้างว่า ซีซาร์คือเทวดา อัมมัน ลูกพระอาทิตย์ได้จุติมาเกิด ดังนั้นโอรสพระนาง มีสิทธิสืบราชบัลลังก์ แต่อนิจจา พระนางต้องตกพุ่มม่าย เมื่อซีซาร์ถูก ลอบทำร้ายจนถึงแก่ความตาย



และแล้วก็ถึงการมาของจอมทัพโรมันคนใหม่ มาร์ค อันโตนี ซึ่งนำทัพหวัง ขยี้อียิปต์ ให้แหลกราญ ทำให้คลีโอพัตราถึงกับสั่นสะท้านด้วยความ ตระหนกตกใจ แต่พระนาง มีทางออกด้วยอาวุธที่ร้ายกาจที่สุดของผู้หญิง นั่นคือ ความรักและออดพลอดคำรักให้ หวานหู พระนางกล้าเผชิญสิงห์ร้าย แห่งโรมด้วยเรือทาทองอร่าม หญิงงามแต่งตัว ยั่วยวน มีร่างคลีโอพัตรา นอนเอนอยู่บนเบาะแพรในท่าวีนัส เทพธิดาแห่งความรัก และพราวเสน่ห์ อันไม่มีผู้ใดต่อต้านได้ แน่นอน มาร์ก อันโตนีย่อมไม่อาจต่อต้านอาวุธร้ายจากอียิปต์ได้ ทำให้ มาร์กอันโตนี ที่ใช้ชีวิตสำมะเล เทเมามาตลอด กลายเป็นแมวเชื่องในอุ้ง มือของพระนาง อันโตนีหลงรักพระนางถึงขนาดหมดสติสัมปะชัญญะทีเดียว เขามอบฝั่ง ทะเลทั้งหมด ของฟีนิเซียให้พระนางเป็นของขวัญ ต่อมามอบแคว้น เยอริโก เกาะไซปรัส และเกาะครีต สุดท้ายก็มอบเอเชียทั้งหมดให้



และนั้นทำให้ชาวโรมันทนไม่ได้ที่ต้องเสียดินแดนที่มาจากหยาดเหงื่อและหยดเลือด จากการทำสงคราม
 แต่กลับเสียมันไปเพราะผู้นำอยู่ในห้วง แห่งความรัก และนั่นคือที่มา ของสงคราม และนั้นคือจุดจบของพระนาง

กองทัพของอันโตนีไม่อาจต่อต้านการทำลายของฝ่ายโรมได้ ทำให้พ่ายแพ้ อย่างหมดท่า อันโตนี
จอมทัพผู้ไม่อาจอยู่ได้หาก ปราศจากศักดิ์ศรีตัดสินใจฆ่าตัวตายภายในอ้อม แขนของคลีโอพัตรา
และคลีโอพัตราก์ตัดสินใจให้งูกัดพระนางที่ทรวงอกฆ่าตัวตายตาม



และนั้นคือจุดสิ้นสุดชีวิตของพระนางในวัย 39 ปี และแม้ชีวิตพระนาง จะแสนสั้น
 แต่ชื่อเสียงความงามของพระนางที่สยบจอมทัพแห่งโรมถึง 2 คน เป็นที่เลื่องลือ กล่าวขานกันสืบต่อมานับพันๆปี


http://www.cityvariety.com/love/index.php?id=1

[~เด็กบอร์ด~]

น่าสงสารความรักของ 2 พระองค์เลยคะ

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

ขอบคุณลุงป๋าสามและน้องเด็กบอร์ดที่เอาเรื่องราวหลากหลาย

ที่น่าสนใจมาเล่าสู่กันฟัง เอาขนมเค็กสวยๆหวานๆน่าทานมาฝากค่ะ

[~เด็กบอร์ด~]

น่าหม่ำจังเลยคะ

คือว่า นู๋ชอบทานหนมเค้กเป็นทุนอยู่แล้ว

ทานแล้วอ้วนดีนักแล

คุณพี่ดอกฟ้าก็อย่าทานเยอะนะคะ

เป็นห่วงสุขภาพนะคะ.....

[/color]