โดย หมายเหตุผู้จัดการ 26 มีนาคม 2550 14:26 น.
รัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ กำลังจะจัดงานใหญ่โตขึ้นในบ้านเมืองคือจัดทำพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อล้างทุจริตให้สิ้นแผ่นดินไทย ในวันศุกร์ที่ 6 เมษายน 2550 เวลา 08.00 น. ณ ทำเนียบรัฐบาล
และได้เชิญผู้คนทั้งในวงการรัฐบาล สภานิติบัญญัติแห่งชาติ และวงการที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้าร่วมพิธีกรรมนี้ โดยมีความมุ่งหมายว่าจะเป็นการประกาศเจตนารมณ์ของรัฐบาลในการปราบปรามทุจริตให้เป็นวาระแห่งชาติ
ดูจากห้วงเวลาแล้วพิธีกรรมนี้จัดขึ้นโดยถือเอาวันสำคัญของชาติและสถาบันพระมหากษัตริย์ คือวันที่ 6 เมษายน 2550 อันเป็นวันจักรี
สาธุ! ขอให้พิธีกรรมนี้มีความศักดิ์สิทธิ์ ขอพระแม่ธรณีและเทพยดาอารักษ์ซึ่งรักษาแผ่นดินทั้งหลายได้ดลจิตดลใจให้ใครก็ตามที่เข้าร่วมพิธีกรรมนี้มีน้ำใจสุจริต มีจิตตั้งมั่นที่จะปราบปรามการทุจริต ล้างให้สิ้นแผ่นดินไทย
และถ้าใครใดเข้าพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณนี้แล้วตระบัดสัตย์เสียก็ดี ประพฤติตนแบบมือถือสากปากถือศีลก็ดี ขอพระแม่ธรณีและเทพยดาอารักษ์ทั้งหลายได้ลงทัณฑ์ให้ประสบแต่วิบัติ และอัปมงคลทั้งปวง อย่าได้มีความสุขความเจริญในขอบขัณฑสีมานี้เลย
หากแม้นมีอำนาจ ขออำนาจนั้นจงเสื่อมสูญ และจงทำลายตัวผู้มีอำนาจนั้นให้ย่อยยับดับสูญ หากแม้นมีเกียรติ มีสุข มีสรรเสริญ ขอสิ่งเหล่านี้จงพินาศไปเพราะเหตุตระบัดสัตย์อันเป็นการทรยศต่อชาติบ้านเมืองนั้นเทอญ
พิธีกรรมนี้ได้อ้างอิงความจงรักภักดีของหมู่พสกนิกรเพื่อถวายเป็นราชพลี จึงมีถ้อยคำต่อท้ายพิธีกรรมนี้ว่า ล้างทุจริตให้สิ้นแผ่นดินไทย เพื่อเทิดไท้องค์ราชัน
เป็นการอัญเชิญเอาความศักดิ์สิทธิ์ ความเคารพบูชา ความศรัทธาที่อาณาประชาราษฎรมีต่อสถาบันและองค์พระมหากษัตริย์เป็นที่ตั้งหลักแห่งพิธีกรรมนี้ ดังนั้นหากตั้งการพิธีกรรมเอาแต่เพียงรูปแบบพิธี แต่หากไม่มีการกระทำจริง ๆ ก็เท่ากับเป็นการดึงฟ้าต่ำและบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วย
การทำพิธีกรรมเพื่อแสดงเจตนารมณ์เช่นนี้ย่อมเป็นสิ่งที่ดี แต่จะดีและประเสริฐที่สุดถ้าหากว่ามีการปฏิบัติตามคำสัตย์นั้นอย่างจริงจังให้เป็นมรรคเป็นผล ดังพระพุทธภาษิตที่ว่าจงปฏิบัติบูชายิ่งกว่าอามิสบูชา
ซึ่งหมายความว่าเมื่อจะบูชาจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์จริงแล้ว ก็ต้องใช้การปฏิบัติที่เป็นจริงเป็นการบูชา อย่าอาศัยแต่พิธีกรรมสร้างภาพซึ่งเป็นได้แค่อามิสบูชา
ยิ่งกว่านั้น หากทำพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณไปแล้วแต่ไม่มีการปฏิบัติจริง ๆ ทำกันแบบมือถือสากปากถือศีล ก็จะกลายเป็นหลักฐานที่พิสูจน์ว่าพิธีกรรมนี้ไม่มีความศักดิ์สิทธิ์ ไม่น่าเคารพบูชา หรือเชื่อถือไม่ได้
และเมื่อนั้นความเสียหายก็จะเกิดขึ้นกับสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่เคารพบูชาศรัทธาของประชาชน
ดังนั้นความสำเร็จของเรื่องนี้จึงอยู่ที่การปฏิบัติเป็นสำคัญ คือความมุ่งมั่นกำจัดกวาดล้างการทุจริตให้สิ้นแผ่นดินไทย ไม่ใช่เข้าทำพิธีแล้วก็แล้วกันไป เหมือนกับที่ได้ทำพิธีกันมาแล้วมากต่อมาก
แต่ก็ยังปรากฏเหตุการณ์โกงบ้านกินเมืองให้เห็นกันดาษดื่นแผ่นดิน
และหากจะทำเรื่องนี้กันจริง ๆ จะทำกันอย่างไรเพื่อให้ผู้คนเห็นและเชื่อมั่นว่ามุ่งมั่นจะปฏิบัติบูชา เพื่อเทิดไท้องค์ราชัน มิใช่เป็นแค่พิธีกรรมที่มึนชาชาวบ้านดังที่เขาตั้งข้อสังเกตกันอยู่
เราเห็นว่าทั้งก่อนและหลังพิธีกรรมอันสำคัญนี้ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ รวมทั้งรัฐมนตรีในรัฐบาลของท่าน และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ตลอดจนกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจทั้งหลายจะต้องทำในเรื่องดังต่อไปนี้เป็นอย่างน้อยให้เป็นผลประจักษ์ คือ
เรื่องที่หนึ่ง พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ จะต้องจัดให้มีมติคณะรัฐมนตรีให้ข้าราชการและพนักงานของรัฐทุกคนให้ความร่วมมือในการตรวจสอบการทุจริตของ คตส. ผู้ใดฝ่าฝืนต้องรับโทษทางวินัยและทางอาญาด้วย
เรื่องที่สอง พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ จะต้องจัดให้โทรทัศน์ช่อง 5 อำนวยความสะดวกแก่ คตส. ในการรณรงค์เรื่องการปราบปรามการทุจริต เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่ผู้คนในบ้านเมืองต่อไป
เรื่องที่สาม พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ จะต้องปลดรัฐมนตรีขี้โกงและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ขี้โกงที่ยังแฝงฝังอยู่ในอำนาจออกจากตำแหน่ง โดยเฉพาะพวกที่มีการชี้มูลความผิดหรือมีข้อกล่าวหาและมีการดำเนินการพิจารณาอยู่แล้ว เพื่อมิให้ใช้อำนาจหน้าที่ขัดขวางดำเนินการปราบปรามการทุจริต
เรื่องที่สี่ พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ จะต้องยุติการอุ้มชูลูกจ้างบริษัทต่างชาติไม่ให้เข้ามาใช้ทรัพย์สมบัติของชาติในโครงการที่ไอทีวีนับหมื่นล้านบาทไปแสวงหาประโยชน์ส่วนตัว ดังที่เกิดขึ้นต่อเนื่องมาร่วมเดือนแล้วในทันที
เรื่องที่ห้า พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ จะต้องระงับโครงการโกงชาติ 86,000 ล้านบาท ที่ให้บริษัทในสังกัดกรมธนารักษ์สร้างศูนย์ราชการในทันที และให้กรมธนารักษ์เป็นผู้ดำเนินโครงการนี้เอง
เรื่องที่หก พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ จะต้องหยุดยั้งการโกงชาติในสนามบินสุวรรณภูมิในเรื่องเฉพาะหน้าที่สุด คือการอุ้มผู้รับเหมาที่ต้องรับผิดซ่อมแซมรันเวย์และแท็กซี่เวย์เนื่องจากก่อสร้างไว้ชำรุดบกพร่อง เป็นวงเงินร่วม 30,000 ล้านบาท โดยให้ ทอท. ยุติการซ่อมแซมตามที่ช่วงชิงทำอยู่ เป็นให้บริษัทผู้รับเหมาต้องออกค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมเอง
เรื่องที่เจ็ด พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ จะต้องยุติโครงการรถก๊าซเอ็นจีวีของ ขสมก. ที่จัดหาแบบพิกล คือถ้าหากจะซื้อในราคาตลาดก็ตกราคาเพียงคันละไม่เกิน 4 ล้านบาท แต่ที่ทำกันอยู่คือจะต้องจ่ายเป็นเงินถึงคันละ 12 ล้านบาท โดยใช้เล่ห์กลเป็นการจ่ายค่าก๊าซเอ็นจีวีแก่ ปตท. ถึงกิโลกรัมละ 20 บาท คือบวกราคาเพิ่มไปกิโลกรัมละประมาณ 12 บาท และต้องสอบสวนกรรมวิธีในการโกงชาติด้วยว่าเมื่อ ปตท.ได้รับเงินส่วนเกินจากค่าก๊าซปกติดังกล่าวแล้ว มีวิธีการเอาไปจ่ายใต้โต๊ะให้กับใคร อย่างไร
เรื่องที่แปด พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ จะต้องสอบสวนการปกป้องค่าเงินบาทของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังได้ออกมาระบุว่าได้ใช้เงินบาทไปถึง 1 ล้านล้านบาท ว่าแท้จริงแล้วได้ใช้เงินไปเท่าใด มีผลขาดทุนเท่าใด ใครต้องรับผิดชอบ และใครได้รับประโยชน์จากการโกงชาติ
วันนี้เอากันแค่แปดเรื่องนี้ก่อน และติดตามกันให้ดีว่าจะมีการจัดการกับการโกงชาติทั้งแปดเรื่องนี้หรือไม่ เพราะนี่คือสิ่งที่จะชี้ขาดพิธีกรรมที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ว่าเอากันจริง ๆ หรือว่าเป็นแค่พิธีกรรมแบบมือถือสากปากถือศีล
วันนี้ผลสำรวจความนิยมของรัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ลดต่ำลงเหลือ 12% แล้ว และต้องถือว่าเป็นอัตราความนิยมที่ต่ำที่สุดในโลก ที่รัฐบาลห่วยแตกที่ไหนก็ยังได้รับความนิยมสูงกว่านี้ จึงเป็นเรื่องที่ต้องเร่งคิดพิจารณากันว่าอะไรกำลังเกิดขึ้นในบ้านเมือง
และทำไมนายกรัฐมนตรีผู้ที่ได้ชื่อว่ามาจากฟากฟ้า มีภาพลักษณ์ซื่อสัตย์สุจริต จึงกลับเสื่อมความนิยมอย่างหนักหน่วงรุนแรงและรวดเร็ว จนกระทั่งอาจกระทบกระเทือนสถาบันสำคัญ ๆ ของบ้านเมืองอย่างรุนแรงตามไปด้วย
แม้ว่าผลสำรวจนี้จะไม่อาจยอมรับนับถือได้ทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ได้สะท้อนให้เห็นนัยยะสำคัญว่าทำไมคนส่วนใหญ่ของประเทศหรือเกือบทั้งหมดจึงไม่เอารัฐบาลนี้
ลองจัดการเรื่องทั้งแปดเรื่องนี้ให้ดี ความเชื่อถืออาจกลับคืนมาก็ได้ แต่ถ้ายังต้วมเตี้ยมอยู่เหมือนเดิมก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะอยู่ในอำนาจต่อไป เพราะในเมื่อคนส่วนใหญ่เขาไม่ต้องการแล้ว และไม่คิดจะทำอะไรให้ดีขึ้น ก็ควรจะไปเสียดีกว่า.
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9500000034800 นำมาจากเวบผู้จัดการ มาให้พิจารณาครับ........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า