ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
25-04-2024, 02:20
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สโมสรริมน้ำ  |  ค่าแรงของบุญทา 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ค่าแรงของบุญทา  (อ่าน 2238 ครั้ง)
นายชด(หนุ่ม)
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 88



« เมื่อ: 01-05-2006, 07:34 »

บุญทา เป็นหญิง ไม่ใช่ชาย  แถมเธอเป็นหญิงแกร่งอีกด้วย

นักศึกษาที่รู้จักเธอในเพิงหมาแหงน ขายข้าวแกง แห่งเมืองกรุง นครหลวงของแสงสีและคาวโลกีย์ เคยเรียกเธอว่า สุภาพสตรีจากที่ราบสูง แต่ ไอ้ท่อกจิ๊กโก๋ละแวกนั้น ดันสำรากขยะทางภาษาและหมิ่นเธอว่าเป็น อีเสี่ยว

คนกรุงหารู้ไม่ว่า เสี่ยวไม่ได้หมายถึงความหมายเชิงดูหมิ่นเช่นนั้น ไม่รู้ว่าคนเมืองแห่งนครหลวงคาวโลกีย์นี้ คิดกันอย่างไร รู้แต่ว่า  บางคนชอบเหยียดหยามและหมิ่นคนด้วยคำพูดที่เสมือนการผายลมเน่าๆออกจากโอฐ์แบบนั้น

เสี่ยวนั้น หมายถึง เพื่อน  และต้องเป็นเพื่อนสนิทๆ หรือที่ภาษาโบราณเรียกว่า เพื่อนตายด้วยซ้ำไป
ใครมีเสี่ยวดีๆ มีคนเดียวก็เพียงพอแล้วในชีวิต

จอมพลผ้าขะม้าแดงในอดีต เป็นผู้นำประเทศที่บางคนบอกว่า เขาเป็นเผด็จการ แต่บางคนผู้เฒ่าผู้แก่ บอกว่า ท่านเป็นคนดี  ใจนักเลง แต่ ท่านพิสมัยนารีมากไปนิด ในชีวิตทหารหาญและผู้นำประเทศของท่านในยุคนั้น
............ใครจะไปคิดว่า นักประพันธ์เอกเลื่องชื่อที่เป็นตำนาน ฮิวเมอริสต์ของสยามเรา ท่านนึง จะเป็น "เสี่ยว" ของท่าน  ท่านนั้นก็คือ  ป.อินทรปาลิต เจ้าของหัสนิยายลือลั่นอมตะ  สามเกลอ นั่นเอง


บุญทา เรียนไม่จบ  ป 4 ตามเกณฑ์เหมือนสาวอื่นๆ  แต่เธอก็พอแกะรอยอักษร สะกด และอ่านได้  อย่างน้อยก็อ่านหนังสือพิมพ์ รู้เรื่อง

น่าแปลกที่ชีวิตต้องงอกงาม เติบโต แต่ท้องนา กลับตรงข้าม
เมื่อบุญทาเข้าวัยสาวแตกผลิความงดงามของอิสตรีตามธรรมชาติ  นาข้าวของพ่อและแม่กลับชราลงเพราะไม่มีน้ำจะทำนา ดินที่เคยฉ่ำชุ่มกลับแตกระแหง แห้งกระด้าง  แม้เจ้าเขียดตัวน้อย ยังเขียนป้ายปักไว้ว่าลาก่อน หนีไปหาที่อยู่ที่กินใหม่ๆ

บุญทาตามเพื่อนๆ  พี่ๆในหมู่บ้านมาเมืองหลวง  เมืองที่เขาบอกว่ามีนางฟ้า มีเทพบุตร มีแต่สิ่งสวยงามและ "เงิน" ที่จะนำไปต่อชีวิตของพ่อแม่ได้  ด้วยความหวังอันเต็มปรี่

บุญทามาทำงานกับเพื่อนๆพี่ๆน้องๆในหมู่บ้าน กับ ผู้รับเหมาก่อสร้างใหญ่โต รายหนึ่ง
มาสร้างตึกสูงๆ สูงจนเมฆไม่ต้องก้มลงมามอง  เธอออกจะภูมิใจที่สาวบ้านนอกคนหนึ่งสามารถมีส่วนร่วมในการสร้างตึกสูงๆให้คนเมือง คนแห่งเมืองเทพ ได้อยู่กัน  คงเก็บไว้คุยกะลูกหลานเล่าเป็นตำนานเลยทีเดียว

ที่พักของบุญตาอยู่ใกล้ๆละแวกนั้นเอง มันดีเหลือเกินที่อยู่ใกล้สถานที่ก่อสร้าง เพราะเธอไม่ต้องพะวงว่าจะหลงทางไปไหน  เพื่อนๆบางคนบอกว่า กรุงเทพฯนั้น หากเธอหลงทาง  เธออาจไม่มีทางหาทางกลับบ้านได้อีกเลย มันจะน่ากลัวแบบนั้นเหรอ  ทำไมละครทีวีที่เธอดูที่ร้านเจ๊กลิ้ม กลับดูสวยงามดังสวรรค์ล่ะ

ค่าแรงทุกบาท ทุกสตางค์ บุญทาไม่เคยเลยที่จะนำออกมาใช้ เธอกระเบียดกระเสียนมาก เพื่อส่งเงินกลับไปบ้านให้พ่อแม่  เธอเก็บผักบุ้งแถวนั้นมาทอดกินก็ได้  มันก็อิ่มเหมือนกัน


เช้าวันหนึ่ง วันที่เธอรอคอย เพราะมันเป็นวันค่าแรง ค่างวดที่สมทบมาหลายงวดจะต้องจ่าย เนื่องจากเถ้าแก่ค้างมาหลายงวดแล้ว โดยให้หัวหน้าคนงานมาบอกว่าที่จ่ายช้า เพราะ เบิกไม่ได้ 

มาวันนี้ หัวหน้าคนงานบอกว่า เถ้าแก่จะจ่ายค่าแรงให้  เธอจึงดีใจมากๆ  รอยยิ้มเปื้อนเต็มหน้า ยืนเข้ากลุ่มกะเพื่อนคนงานรอเสมียนมาจ่ายเงิน

เสียงเรียกบุญทา ดังขึ้น   เธอแจ้นไปหาเสมียนสาวที่ทำหน้าที่จ่ายเงินด้วยความลิงโลด

"บุญทา   16 แรง ไม่มีโอ. 1600 บาท  แต่วันนี้รับไป 1100 บาทก่อน  เฉลี่ยๆกันไปนะ"

บุญทารับเงินมาด้วยความดีใจ แม้ได้ไม่ครบก็ตาม  อีกห้าร้อยบาท คงจะได้วีคหน้า เธอคิดแบบนั้น

***********************

เวลาผ่านไปนาน  นานจน ตึกสร้างเสร็จทีเดียว  ค่าจ้างต่างๆก็ผลัดจ่ายสบทบไปเรื่อยๆ จ่ายบ้าง ไม่จ่ายบ้าง แต่ไม่เคยจ่ายครบ เงินค้างทบไปเรื่อยๆ บางคนทบจ่ายเป็นเงินเกือบห้าพันบาท...........ข่าวลือว่า เถ้าแก่ทิ้งงาน สะพัดไปทั่วแคมป์คนงาน
หัวหน้างานบอกว่า เถ้าแก่หักหลังทั้งเจ้าของตึกและพวกคนงาน เพราะรับเงินมาแล้ว แต่หนีหายไป  พวกเราคงต้องย้ายออกไป เพราะตึกเขาก็เสร็จแล้ว เขาไม่รู้ไม่ชี้เรื่องค่าแรง  ต้องไปทวงถามเถ้าแก่กันเอาเอง.........

บุญทาแทบเป็นลม เงินที่ค้างตั้งมากมายทำอย่างไร?
เพื่อนๆ บอกว่าจะไปร้องที่กรมแรงงาน  เธอตามไปด้วย
เจ้าหน้าที่ บอกว่าเธอต้องรอไปก่อนนะ รอให้ทางนี้ทำเรื่อง และเรียกเถ้าแก่เธอมาก่อน.

บุญทา ได้แต่อาศัยเพื่อนบางคนที่ขายส้มตำอยู่ เพื่อรอค่าแรงที่เถ้าแก่ค้าง เพื่อรอการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ ระหว่างนี้ก็อาศัยช่วยงานเพื่อนแลกข้าวกินและที่ซุกหัวนอน

เจ้าหน้าที่เรียกเธอไปอีกครั้ง พร้อมต่อรองว่า เถ้าแก่จะจ่ายเงินให้แต่ไม่ครบนะ เรื่องจะได้จบๆไป ไม่งั้นต้องขึ้นศาลฟ้องร้องต่อ แต่ทางนี้จะทำเรื่องให้  แต่มันก็ใช้เวลานะ   รับๆเงินไปเถอะ  คนอื่นเขาก็รับ

แต่บุญทาคิดว่าเธอไม่เคยโกงเถ้าแก่  ทำไมเถ้าแก่มาโกงเธอ  แล้วทำไมต้องรับๆไปเพื่อให้เรื่องมันจบ เงินของเธอ เหงื่อของเธอ  แรงของเธอ มันโดนโกงไปไม่ใช่เหรอ?

เธอไม่รับและบอกว่าจะขอคุยกะเถ้าแก่เอง  เจ้าหน้าที่นัดมาคุยอีกครั้งพรุ่งนี้

เช้าวันรุ่งขึ้น  เถ้าแก่มาพร้อมทนายความ เธอเห็นเจ้าหน้าที่ยกมือไหว้อย่างนอบน้อมเสียเหลือเกิน
เถ้าแก่ยืนกรานจ่ายเท่านั้นแหละ  เงินที่หายไป อีก 500 บาท เถ้าแก่บอกว่าช่วยๆกันนะ แกก็ไม่มี

พูดแบบนี้เธองง เพราะเถ้าแก่นั่งรถคันโตมา จะไม่มีเงินได้ไง
แต่ท่านเจ้าหน้าที่ กลับตวาดเธอว่าเรื่องมาก  รับๆไป ไม่งั้นก็เอาเรื่องขึ้นศาล  และไม่รู้ว่าจะอีกนานเท่าไร เผลอๆเธออาจจะไม่ได้เงินเอานะ   เหมือนกับว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่เป็นเสมียนของเถ้าแก่ไปแล้ว

บุญทาจำใจเซ๊นรับเงินและเอกสาร ทั้งที่ใจยังไม่สามารถยอมรับได้แต่ก็ต้องยอม เพราะ "ท่านเจ้าหน้าที่" ออกอาการไม่พอใจและเธอกลัวว่าจะไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆอีก  แต่เธอคิดว่าที่เหลือ 500 บาท เธอต้องทวงให้ได้

ออกจากห้องเจ้าหน้าที่  บุญทากึ่งเดินกึ่งวิ่ง เพื่อให้ทันเถ้าแก่เพื่อทวงถามส่วนที่เหลือ 500 บาทของเธอ

" เถ้าแก่   หนูขอ 500 บาทนั้นเถอะ มันค่าเหนื่อยของหนูนะเถ้าแก่"

เถ้าแก่มองหน้าอย่างหัวเสีย เพราะเธอทวงเสียงดังมาก ดังจนเถ้าแก่รู้สึกอายผู้คนที่ผ่านไปมา ที่มาคิดต่อราชการ

"เฮ้ย  แหม ตื๊อจังว้อย  ไม่มีแบงก์ย่อย  มีแต่แบงก์พัน    เอาไป  เอาไป   แล้วไปให้พ้นหน้ากูนะ  รำคาญฉิบหายเลย"


เถ้าแก่ ขยำแบงก์พัน โดยนใส่หน้า บุญทา และตกลงพื้น

บุญทาเก็บเงินดังกล่าวขึ้นมา  คลี่ออกแล้ว ฉีกออกเป็นสองท่อนกึ่งกลางแบงก์

" หนูไม่โกงเถ้าแก่หรอก  หนูเอาส่วนของหนูเท่านั้น  ครึ่งเดียว  ที่เหลือเถ้าแก่เอาไปเถอะ"




แล้วเธอก็กำเศษครึ่งของแบงก์พันใบนั้นเดินออกไป  ท่ามกลางสายตาของคนกรุง  ท่ามกลางบรรยากาศของเมืองสวรรค์ลับหายไปในฝูงชน  ชนเผ่าเมืองสวรรค์
บันทึกการเข้า

ฤทธี  สีหจักร ลักษณ์ซ่อนเงื่อน
เถื่อนกำบัง  พังภูผา ม้ากินสวน
พวนเรือโยง  โพงน้ำบ่อ ล่อช้างป่า
ฟ้างำดิน  อินทร์พิมาน ผลาญศัตรู
ชูพิษแสลง  แข็งให้อ่อน ยอนภูเขา
เย้าให้ผอม  จอมปราสาท ราชปัญญา
ฟ้าสนั่นเสียง  เรียงหลักยืน ปืนพระราม
เสลา
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 514



« ตอบ #1 เมื่อ: 01-05-2006, 08:18 »


Happy Labor Day!!!


บันทึกการเข้า

โลกสวยงาม
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 309



« ตอบ #2 เมื่อ: 01-05-2006, 10:37 »

นี่แหละ ที่เค้าว่า ฆ่าได้แต่หยามศักดิ์ศรีไม่ได้ นับถือคุณบุญทา และแรงงานทุกคนคะ
บันทึกการเข้า

รักและห่วงแผ่นดินไทย 
คนไทยทุกคนต้องตอบแทนคุณและสามัคคี
เก็ดถวา
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 2,753



« ตอบ #3 เมื่อ: 01-05-2006, 11:04 »


ใครหนอเหยียดหยามหมิ่นว่างานแสนทราม
มองเห็นเงิน รุ้งอร่ามเลอเลิศวิไล
...

เสียดายเก็ดถวาจำเนื้อทั้งหมดไม่ได้
เป็นเพลงของวงกรรมาชน แต่งเนื้อร้องโดย จิตร ภูมิศักดิ์
เก็ดถวาอยากนำมาแปะ เพื่อให้เข้ากับเรื่องของบุญทา
เพื่อนๆ ท่านใด พอจะทราบเนื้อเพลงทั้งหมดไหมคะ

บันทึกการเข้า

Avada Kedavra!!!!!!!
ลูกไทย หลานไทย
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,196


วันนี้วันดี วันที่เป็นไท


« ตอบ #4 เมื่อ: 01-05-2006, 18:28 »

เกลียดพวกหักหัวคิวครับ โกงกระทั่งคนไม่มีเงิน ทุกวันนี้ถือเป็นเรื่องธรรมดาที่เวลาผมถามอะไรคนที่ทำมาหากินก็ต้องถามต่อว่า "เสีย"วันละเท่าไหร่

คนรวยก็รวยกันต่อไป คนจนก็จนต่อไป
บันทึกการเข้า

Ŋēmŏ mē ĩmρưŋē ĺдċęşšįҐ
(-O-)Koka
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 562



« ตอบ #5 เมื่อ: 01-05-2006, 22:51 »

อ่านแล้วอึ้ง.. เรื่องเอารัดเอาเปรียบแบบนี้ได้ยินมาตั้งนานนม
ปัจจุบันก็ยังไม่เห็นจะดีขึ้นเลย  Sad

ปล. เดี๋ยวนี้พวกนายหน้ากินหัวคิวไม่ได้มีแค่งานใช้แรงแล้วครับ
งานใช้สมองก็มีพวกเฮดฮันเตอร์นอนกินหัวคิวกันโหดไม่ใช่เล่น
บันทึกการเข้า


อหิงสาคือความเข้มแข็ง ไม่ใช่ความขี้ขลาด
โขงหลง
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 48


« ตอบ #6 เมื่อ: 01-05-2006, 23:03 »

  Sad
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: